ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อดีตผู้นำสหรัฐคาดหวังว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะได้รับเลือกตั้งให้อยู่ในตำแหน่งต่ออีกสมัยในปีหน้าอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐกล่าวกับเอบีซี นิวส์เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดหวังว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะได้รับเลือกตั้งให้อยู่ในตำแหน่งต่ออีกสมัยในปีหน้า และเขาก็คิดเสมอในเรื่องนี้ แต่จะประหลาดใจอย่างมากหากประธานาธิบดีโอบามาไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ตามความเห็นของนายคลินตัน เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นเพียงพอภายในวันที่ 6 พฤศจิกายนปี 2555 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และจะทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเทคะแนนให้ประธานาธิบดีโอบามา แม้ตัวเลขการว่างงานยังคงสูงอยู่ก็ตามทั้งนี้นายคลินตันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างปี 2536-2544 นับเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตคนล่าสุดที่ได้รับเลือกตั้งให้อยู่ในตำแหน่ง 2 สมัยตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลต์ในทศวรรษที่ 40.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงความพอใจที่รัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟกล่าวว่า การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจะผลักดันให้มีการบังคับใช้มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศ"ไอเอ็มเอฟพอใจกับข่าวการรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดของกรีซ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านการคลังและการเงิน และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับกรีซ นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะหนุนเศรษฐกิจและการจ้างงานของกรีซให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน" แคโรไลน์ แอทคินสัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟกล่าวขณะที่นายเฮอร์แมน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรป และนายโฮเซ มานุเอล บารอสโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า "เรารู้สึกพอใจที่รัฐสภากรีซมีมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 ซึ่งจะนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจ และการรับเงินเบิกจ่ายงวดใหม่จากไอเอ็มเอฟและอียู"รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 136 ให้การรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีฉบับที่ 2 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลังการรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนกรีซที่จะได้รับเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้มูลค่ารวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายระยะเวลาในการทำข้อตกลงสว็อปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)  ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และธนาคารกลางแคนาดา ออกไปอีก 1 ปี โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 1 ส.ค. 2555นอกจากนี้ เฟดระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะพิจารณาการขยายข้อตกลงการทำสว็อปเงินดอลลาร์ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งหน้าสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางรายใหญ่ทั้ง 6 ได้ทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2553 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลก และเพื่อจำกัดความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรปไม่ให้ลุกลามไปยังสหรัฐและภูมิภาคอื่นๆของโลก ซึ่งเดิมนั้นข้อตกลงดังกล่าวถูกกำหนดให้หมดอายุลงในเดือนส.ค. 2554ทั้งนี้ เฟดได้กลับมาจัดตั้งกองทุนสว็อปค่าเงินอีกครั้งหลังจากที่เคยดำเนินการในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกปี 2551-2552 ซึ่งข้อตกลงที่เฟดทำร่วมกับธนาคารกลางทั้ง 5 กำหนดว่า เฟดจะต้องอัดฉีดเงินกู้เข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศเหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเหมือนกับที่เคยดำเนินการเมื่อปี 2551-2552

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 136 ให้การรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีฉบับที่ 2 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลังสำหรับเนื้อหาของกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 นี้ ครอบคลุมถึงการจัดตั้งองค์กรแปรรูปรัฐวิสาหกิจ, การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยกฎระเบียบเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลเพื่อเตรียมการสำหรับการแปรรูปกิจการเป็นของเอกชน, การบังคับใช้กฎหมายด้านภาษี, การบังคับใช้กฎหมายการชะลอการจ้างงานในภาครัฐ และการบังคับใช้กฎระเบียบในตลาดแรงงานและสวัสดิการสังคม

 

การรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กำหนดว่ากรีซจะต้องผ่านร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับซึ่งมีมูลค่ารวม 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะต้องบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนที่จะได้รับเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้มูลค่ารวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว

 

นอกจากนี้ การผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดจะเป็นการเปิดโอกาสให้กรีซสามารถเจรจาเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่สองจากไอเอ็มเอฟและอียู

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 136 ให้การรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี ฉบับที่ 2 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลัง

 

นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เขตชิคาโกที่เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจในเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 61.1 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่าในเดือนพ.ค.ที่ดัชนีหดตัวลงสู่ระดับ 56.6 จุด และยังสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายหู ซินจี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ธนาคารอะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (อัตราเงินเฟ้อ) เดือนกรกฎาคม จะเพิ่มขึ้น 6.4% ขยายตัวสูงสุดในรอบปีนี้ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีขยายตัว 4.8% ดังนั้น ทางการจีนควรยึดมั่นกับนโยบายการคลังในเชิงรุกและนโยบายการเงินที่รัดกุม ซึ่งจะทำให้ จีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 10 วันแรกของเดือนกรกฎาคมนี้ และธนาคารกลางอาจจะปรับขึ้นเพดานสำรองเงินฝากธนาคารอีกหนึ่งหรือสองครั้งในเดือนดังกล่าวที่มา : money channel (วันที่ 1 กรกฎาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โตโยต้าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกประกาศเรียกรถกลับศูนย์ 110,000 คันทั่วโลก เนื่องจากพบปัญหาในระบบแผงไฟฟ้าที่อาจทำให้ฟิวส์ระเบิดและรถหยุดกลางถนนได้ โตโยต้าชี้แจงว่า รถที่เรียกคืนเป็นรถโตโยต้าไฮแลนเดอร์ไฮบริด และเล็กซัสรุ่น "อาร์เอ็กซ์ 400 เอช" โดยรถรุ่นดังกล่าวมีปัญหาในระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุฟิวส์ระเบิดและเครื่องยนต์ดับกลางถนนได้  รถที่ถูกเรียกคืนส่วนใหญ่เป็นรถที่ขายในสหรัฐ ญี่ปุ่น ยุโรป และบางส่วนในแคนาดา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ โตโยต้าชี้แจงว่า ทางบริษัทกำลังจัดหาสิ้นส่วนที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนอะไหล่ และจะติดต่อกับลูกค้าให้นำรถเข้ามาตรวจสอบในอีกไม่นาน  โฆษกโตโยต้า พอล โนลาสโก กล่าวว่า "การเรียกรถกลับศูนย์ครั้งนี้ครอบคลุมถึงทุกสิ้นส่วนที่มีปัญหา เราต้องขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงถึงความไม่สะดวก และเราหวังว่าจะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร็วที่สุด" โตโยต้าได้เรียกรถกลับศูนย์ไปทั้งหมด 12 ล้านคันแล้วในเวลาเพียงแค่ 1 ปีครึ่งเท่านั้น นักวิเคราะห์มองว่า การขยายตลาดอย่างรวดเร็วเกินไปของโตโยต้าทำให้ระบบควบคุมคุณภาพของบริษัทมีปัญหา เนื่องจากยิ่งโตโยต้าขยายแบรนด์ตนเองใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งจำเป็นต้องเพิ่มฐานการผลิตในที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการของตลาดจนไม่สามารถคัดกรองคุณภาพได้อีกต่อไป โตโยต้ายังมีปัญหาจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิซ้ำเติมที่ญี่ปุ่น ที่สร้างความเสียหายแก่โรงงานผลิตชิ้นส่วน จนจำเป็นต้องยุติการผลิตทั้งในญี่ปุ่นและบางส่วนในต่างประเทศ ทำให้รายได้ของโตโยต้าในปีงบประมาณปีนี้อาจลดลง 3 เท่า นักวิเคราะห์ชี้ว่า โตโยต้ากำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถอันดับหนึ่ง วิเวก ไวทยะ แห่งสถาบันวิจัยฟรอสต์แอนด์ซุลลิแวน กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่โตโยต้าอาจสูญเสียตำแหน่งให้แก่เจเนอรัลมอร์เตอร์ (จีอี) ได้ เพราะจีอีกำลังได้รับความนิยมทั้งในสหรัฐ จีน และตลาดใหม่อย่างอินเดีย.ที่มา : ไทยโพสต์ (วันที่ 1 กรกฎาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันบวกเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี(30) หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อปัญหาหนี้สินกรีซ หลังรัฐสภาเอเธนส์ เห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัด ขณะที่ปัจจัยนี้ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจอันสดใสในสหรัฐฯ ก็ส่งให้วอลล์สตรีท ขยับขึ้นแรง             

 สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 95.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 112.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

              ปัจจัยหลักที่ส่งผลทางบวกต่อตลาดน้ำมันมาจากกรณีที่รัฐสภากรีซ เห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหญ่ของรัฐบาล อันเปิดทางสำหรับรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรปเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาพักชำระหนี้ ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินของยุโรป

 

              ทั้งนี้ปัจจัยข้างต้นประกอบกับข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจอันสดใสในเขตศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ คือส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้(30) ปิดในแดนบวกอย่างแรง

              ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 148.83 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,410.25 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 32.75 จุด (1.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,773.24 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.84 จุด (0.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,320.25 จุด

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหพันธุ์ลอจิสติคส์และการซื้อของจีนเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนมิ.ย. โดยดัชนี PMI ร่วงลง 1.1% แตะ 50.9% ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่รัฐบาลได้นำมาตรการคุมเข้มมาใช้หลายมาตรการ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีราคาการซื้ออยู่ที่ 56.7% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าสถิติเดือนพ.ค.ที่ 60.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างจะสูง การชะลอตัวลงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในระดับสูงอาจจะทำให้จีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดว่า จีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.เป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่สูงกว่าระดับ 50% บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50% บ่งชี้ถึงภาวการณ์หดตัวของเศรษฐกิจ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร หรือ ยูโรโซน จะกลับมาขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่กรีซได้อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดว่า ปัญหาต่างๆที่กรีซและบางประเทศเผชิญอยู่นั้น ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยที่ไร้เสถียรภาพและผันผวนอยู่เมื่อวานนี้

 

รัฐสภากรีซมีมติรับรองมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 7.8 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 1.10 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่การอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จากยูโรกรุ๊ปนายหงกล่าวต่อไปว่า นานาประเทศควรจะร่วมมือกันด้วยความเชื่อมั่นและจับมือแก้ปัญหาไปด้วยกันที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 30 มิถุนายน 2554)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดียกล่าวว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายแม้ว่าธนาคารกลางจะดำเนินมาตรการการเงินเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 8.5%ในปีนี้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาธนาคารกลางอินเดียเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง Repurchase rate ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางให้ธนาคารพาณิชย์กู้ยืมอีก 0.25% มาอยู่ที่ 7.50% ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 นับจากต้นปี 2553 โดยธนาคารกลางอินเดียแถลงว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อของประเทศยังคงสูงและการทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลงอาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยนั้น การตัดสินใจว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ควรจะต้องพิจารณาจากภาพรวมด้วย

 

ทั้งนี้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันมานานนั้น ยากที่จะเกิดขึ้นจริง โดยเหตุผลหลักที่ธนาคารกลางจีนลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยก็คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น อีกทั้งยังกดดันอุปสงค์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะถือเป็นเรื่องที่ไม่รอบคอบในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่การขยายตัวของเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง

 

หากธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็น่าจะเป็นเพราะธนาคารคาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หากธนาคารกลางคาดว่า CPI จะขยายตัวแตะระดับสูงสุดในไตรมาส 3 ความเป็นไปได้เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยก็จะลดลงอย่างมาก

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นโยบายการเงินไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด โดยจำเป็นต้องใช้ร่วมกับนโยบายการคลัง นโยบายการจัดเก็บภาษี และนโยบายกำหนดราคา เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

 

ทั้งนี้ การใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว กำลังจะปรากฎผลให้เห็นแล้ว ด้วยเหตุที่นโยบายการเงินจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะเห็นผล ดังนั้นจึงคาดว่ามาตรการคุมเข้มน่าจะส่งผลต่างๆได้ใน 1-2 ไตรมาสหน้า เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน

 

การขยายตัวของ CPI มีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในไตรมาส 3 และปรับตัวลงในไตรมาส 4 หลังจากนั้น การใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดก็อาจจะสิ้นสุดลง แม้ว่าธนาคารกลางอาจจะยังคงใช้นโยบายแบบรอบคอบต่อไปก็ตาม

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ BG2514 คุณเด็กขายของครับ เมื่อเช้าผมตืนมา เปิดเวปของร้านทองดอดคอมก่อนเลย เห็นราคาหน้าเวป 21900 21800 ลงเวลาไว้ 9.34 น. หน้าเวปไทยโกล์ก็ราคา 21900 21800 ครับ

ส่วนตัวคิคว่า จะโดดขึ้นรถสาย 1900 ครับ (วันนี้วันศุกร์ ผมกลัวว่า นายท่าจะไม่ยอมปล่อยรถ สาย 1900ลงมาวิ่งครับ แล้วหันไปสวมกั๊ก เป็นหัวหน้าวิน มอเตอร์ไซร์แทน)

ถูกแก้ไข โดย wong53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...