ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สกุลทองดีที่สุดในโลกครับ

 

ลองลงมาก็บาทไทย

 

ยูโรก็ไม่ไหวหรอกครับ ล้มง่ายกว่าดอลล่าห์อีกครับ :blush:

 

 

หยวนไม่น่ารอดครับถ้าดอลล่าห์ล้ม

 

กลยุทธสามก็ก ตอนบังทองผูกเรือ. จบแล้ว(โยงค่าเงินเข้าด้วยกัน)

 

ตอนต่อไปก็คือโจโฉแตกทัพเรือ :ph34r: (เผาทำลาย) :angry:

ถูกแก้ไข โดย zagio

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลุงจิมโรเจอร์แกว่า สกุลเงินที่ยังดีอยู่ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา และ (ถ้าจำไม่ผิด) ก็สวิสเซอร์แลนด์ ครับ

ดูแล้วก็น่าจะตามนั้น

 

แต่ดีที่สุดก้ต้อง ทอง เงิน น้ำมัน ก่อนหละครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ออสเตรเรียแค่นอนกระดิกเท้าเฉยๆ ขุดแร่ขายอย่างเดียวก็รวยแล้วครับผมว่านะ

 

เผอิญเคยเจอคนออสเตรเรียเค้าเล่าให้ฟังครับ เท็จจริงไม่ทราบว่าจริงแค่ไหนแต่ตอนผมไปก็ดูมีเค้าเหมือนที่เค้าว่าจริงๆ

 

คือที่นู่นงานมีให้ทำน้อยครับ ที่ว่าน้อยนี่คือมีชนิดงานน้อย แค่เป็นนายเหมืองทำงานขุดแร่ แร่เหล็กได้เท่าไหร่ก็ส่งไปเกือบจีนหมด ไม่ก็ทำปศุสัตว์ก็พอกินกันแล้ว คนที่นู่นจบ ม.ปลาย ส่วนใหญ่ก็ทำงานกันเลยไม่ค่อยเรียนมหาลัยกันเท่าไหร่ แต่ค่าครองชีพที่นู่นสูงมาย มาม่าห่อละร้อย ไข่เจียวจานละ 300 แต่ดูเค้าไม่ทุกร้อนกันเลย คงแข็งแกร่งจริงๆครับ

 

ดูพอเพียงด้วย ไอ้ที่ค้าขายตามร้านนี่กระทบไหล่กันก็แทบจะคนเอเซียหมดแล้ว =_=" ไม่มีข่าว ไม่ก่อสงครามไปทั่ว ไม่ปล้นชาวบ้าน แต่มีทุกอย่างขาย ตั้งแต่วัตถุดิบแร่เหล็ก อาหาร การศึกษา อาหารเสริม เทคโนโลยี อาวุธ ขายเรียบเลย ผมสนับสนุนอีกเสียงว่า เฮียเค้าเป็นเสือหลับที่ยังไม่ตื่นอีกประเทศนะครับ

 

ตามความคิดผมนะ

 

เอาละ ไปถือเงินออสเตรเรียกันดีกว่า.....(ฮ่า)ล้อเล่นครับ :D

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนต้องมองว่า ยูโร ยังมีเยอรมันหนุนหลัง ถ้าล้ม ยังไงก็ดีกว่าดอลลาห์ที่ล้มตายเดี่ยว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินออสเตเรียที่แข็งไม่ได้มาจากเศรษฐกิจอย่างเดียวครับ มาจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนจาก ดบ ต่ำไปหา ดบ สูงครับ

 

ดบ ของยูโร ประมาณ 1.25% แต่ออสเตเรีย 4.75% กู้เงินยูโรมาฝากที่ออสเตเรีย ได้ส่วนต่าง 3% ความเสี่ยงต่ำ

 

ถ้า ดบ ออสเตเรียยังเป็นขาขึ้นอยู่ ค่าเงินก็ยังแข็งไม่ลงครับ ยิ่งของ us$ ด้วย ดบ แค่ 0.25% กำไรบานเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาจาก เวบ http://www.tdcgold.com อีกทีครับ

ญี่ปุ่นถดถอย 3 ครั้งซ้อน สิ้นสุด 'ยุครุ่งโรจน์'...ถาวร! ( 25 พฤษภาคม 2554 ))

 

 

 

และแล้วสิ่งที่ทุกฝ่ายกังวลกลายเป็นความจริงในที่สุด เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งติดลบถึง 3.7%

 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

และแล้วสิ่งที่ทุกฝ่ายกังวลกลายเป็นความจริงในที่สุด เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งติดลบถึง 3.7% จากที่เคยติดลบมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีที่แล้วในอัตราติดลบ 0.3%

 

ในทางเทคนิคหากตัวเลข GDP ติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน หมายความว่าประเทศนั้นได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาวะเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยเพิ่งเผชิญและผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาระยะหนึ่งแล้ว และมีโอกาสเกิดขึ้นอีก หากมีปัจจัยฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเดินหน้าไม่ได้

 

ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน มีโอกาสที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากเท่าๆ กับประเทศอื่นๆ แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นแตกต่างออกไปคือ ประเทศนี้ต้องจมปลักอยู่ในภาวะถดถอยบ่อยครั้งกว่าประเทศอื่น

 

ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ทศวรรษ กราฟเศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องขึ้นๆ ลงๆ ผ่านช่วงดีและช่วงร้ายมาแล้วหลายครั้ง เฉพาะภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่นแล้วถึง 3 ครั้ง ขณะที่สหรัฐผ่านภาวะเช่นนี้เพียง 2 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

 

width="250"

 

ครั้งแรกคือ ปี 2545 ครั้งต่อมาเริ่มเมื่อปี 2551 และล่าสุดปี 2554

 

แม้การเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งล่าสุดจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ เนื่องจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติและวิกฤตกัมมันตรังสีรั่วไหล แต่โดยเหตุที่ญี่ปุ่นล้มลุกคลุกคลานบ่อยครั้งจนผิดสังเกต จึงอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่า แดนอาทิตย์อุทัยอาจกำลังเข้าสู่ยุคอาทิตย์อับแสงอย่างแท้จริง หลังจากที่เพิ่งเสียตำแหน่งมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 2 ให้กับจีนไปหมาดๆ

 

ในระยะใกล้ ญี่ปุ่นเข้าติดอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยนานถึง 7 ไตรมาส หรือก่อนที่สหรัฐและทั่วโลกจะตกอยู่ในฐานะเดียวกัน อีกทั้งยังรุนแรงยิ่งกว่า เพราะขณะนั้นญี่ปุ่นเพิ่งสลัดตัวหลุดจากภาวะเงินฝืดได้เพียงไม่กี่เดือน หลังจากต้องสูญเสียเวลาไปถึงทศวรรษกว่าไปกับการลงทุนภาคธุรกิจและการใช้จ่ายภาคการบริโภคที่ซบเซาอย่างหนัก หรือที่เรียกว่า ทศวรรษที่สาบสูญ (Lost Decade)

 

วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังสะท้อนระดับความรุนแรงที่คล้ายคลึงกับคราวนี้ ครั้งนั้น GDP ของญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 4 ปี 2551 ทรุดลงถึง -12.7% ติดตามมาด้วยอัตราติดลบ -15.2% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 นับเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในหมู่ประเทศที่ตกที่นั่งเดียวกัน

 

ทั้งยังเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1955 ปีแรกที่ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากการปกครองของชาติพันธมิตรในฐานะผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นกัน กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องระหว่างไตรมาส 4 และไตรมาสแรก คราวนี้เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นพบกับภัยธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 100 ปี

 

การพบกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชั่วเวลาเพียง 3 ปี ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา ญี่ปุ่นจึงต้องการผู้นำที่เข้มแข็งอย่างยิ่ง เพื่อนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนดังที่ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ แห่งสหรัฐ เคยพาประเทศรอดพ้นอภิมหาวิกฤตเศรษฐกิจ (Great Depression) และมหาสงครามโลกครั้งที่ 2

 

ข้อเท็จจริงประการหนึ่งเกี่ยวกับการเมืองและนักการเมืองญี่ปุ่น คือ ผู้นำญี่ปุ่นมักอับวาสนาบารมี ไม่มีรัศมีเทียบเท่ากับผู้นำประเทศอื่นๆ เนื่องจากเล่นการเมือง หรือประสานผลประโยชน์เป็นหลักมากกว่าสร้างนวัตกรรมทางนโยบาย อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน (ตัวอย่างที่ชัดเจนคือช่วงปี 2551-2553 เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 4 คน)

 

ด้วยเหตุนี้การแก้ปัญหาส่วนใหญ่จึงขึ้นอยู่กับสติปัญญาของข้าราชการประจำและความสามารถของภาคธุรกิจ โดยมีนักการเมืองคอยประสานงานและผลประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย

 

ข้าราชการประจำและนักการเมืองไม่จำเป็นต้องวางนโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ ก็เพราะญี่ปุ่นมีรากฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้ประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ 60-80 จนครั้งหนึ่งเกือบที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่เบอร์ 1 อย่างสหรัฐอยู่รอมร่อ

 

อย่างไรก็ตาม รากฐานหรือตัวแบบทางเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นวางไว้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 50 ใช้ไม่ได้กับยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประสบกับภาวะฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกระหว่างปี 1986-1991 ซึ่งอาจถือเป็นการเริ่มต้นของยุคญี่ปุ่นเสื่อมถอย

 

โมเดลและวิธีปฏิบัติทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกลายเป็นคมหอกที่ทิ่มแทงตนเอง ส่วนหนึ่งเกิดจากนิสัยการออมที่เคร่งครัด ทำให้ญี่ปุ่นมีอัตราการออมสูงที่สุดในโลก ซึ่งในทางหนึ่งมีส่วนทำให้ธนาคารมีเงินเหลือเฟือที่จะปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ

 

ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่คึกคักสุดขีด ทำให้ภาคธุรกิจไม่อาจทนความยั่วยวนได้ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ปล่อยเงินกู้ขนานใหญ่เพื่อเก็งกำไรในตลาดทุนและอสังหาริมทรัพย์ ทำให้สินทรัพย์ในญี่ปุ่นแพงเกินจริง แต่เมื่อตลาดทุนล้มครืนลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ธนาคารยังไม่เลิกปล่อยเงินกู้เพื่อพยุงภาคธุรกิจที่ลงทุนล้มเหลวจนไม่เหลือสภาพในการบริหารกิจการได้ ซ้ำยังบ่อนทำลายเศรษฐกิจโดยรวม

 

ภาคธุรกิจของญี่ปุ่นจึงเป็นบ่อดูดเงินเพื่อชำระหนี้มหาศาล โดยมิได้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่วนผู้บริโภคไม่ใช้จ่ายเพราะเก็บออมเป็นนิสัย ทั้งยังกังวลกับความไม่แน่นอน ขณะที่รัฐบาลก่อหนี้สาธารณะมหาศาล เพื่อประคองประเทศที่กลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้กำลังการผลิตดิ่งวูบ

 

ญี่ปุ่นสามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เมื่อภาคธุรกิจยุติวิธีการปฏิบัติที่เคยโอบอุ้มพนักงานทั้งชีวิต ภาครัฐเลิกโอบอุ้มภาคธุรกิจในลักษณะองคาพยพที่สูญเสียไม่ได้ และภาครัฐเริ่มรัดเข็มขัดงบประมาณ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้ต่ำสุดขีดมานานนับปี อันเป็นมูลเหตุของภาวะเงินฝืด

 

แม้จะช่วยให้รอด แต่วิธีการเช่นนี้ทำให้ญี่ปุ่นขาดแรงกระตุ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ยังผลให้เสียตำแหน่งมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 3 ให้กับจีน ขณะที่ผู้บริโภคยังไม่ใช้จ่ายทำให้ภาวะเงินฝืดยิ่งรุนแรง ทำให้ความหวังของญี่ปุ่นอับแสงลง เพราะภาคการบริโภคคิดเป็นสัดส่วนของระบบเศรษฐกิจถึง 60%

 

ยิ่งกระหน่ำซ้ำเติมด้วยปัจจัยที่มาอย่างเหนือคาด เมื่อเดือน มี.ค. การลงทุนและการบริโภคยิ่งถดถอย

 

นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า ภาวะถดถอยของญี่ปุ่นจะยิ่งรุนแรงเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 2 ซึ่งอาจเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติยังไม่ได้รับการประเมินอย่างเต็มที่

 

แท้จริงแล้วรากฐานของญี่ปุ่นกำลังสั่นคลอนอย่างหนัก ต่อให้ไม่เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงเข้ามาขัด ภายในเวลาไม่นานก็จะมีโอกาสที่จะกลับมาถดถอยสลับกับปัญหาเงินฝืดอยู่ร่ำไป

 

แหล่งที่มา http://www.posttoday.com/วิเคราะห์/ต่างประเทศ/89786/ญี่ปุ่นถดถอย-3-ครั้งซ้อน-สิ้นสุด-ยุครุ่งโรจน์-ถาวร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวนี้น่าสนใจครับมีอ้างถึงทองและโลหะเงินด้วย

 

 

xBT> USA:กองทุนหุ้นสหรัฐเผชิญเงินทุนไหลออกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

นิวยอร์ค--27 พ.ค.--รอยเตอร์

 

ลิปเปอร์เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า นักลงทุนได้ถอนเงินสดออกจากกองทุนรวมหุ้น

ของสหรัฐเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ทั่วโลก ขณะที่กองทุนพันธบัตรยังคงมีเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

กองทุนหุ้นโดยรวมมีเงินไหลออกสุทธิ 5.6 พันล้านดอลลาร์ทั้งจากกองทุนหุ้น

ในประเทศและต่างประเทศ โดยนักลงทุนได้ถอนเงินทุนออกทั้งจากกองทุนที่มีการจัดการ

และกองทุน exchange traded funds (ETF) ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค.

"เราเห็นการไหลออกของเงินทุน 1.75 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนรวม

ซึ่งอาจจะเป็นการขายทำกำไรในช่วงเวลานี้ของปี ขณะที่ยังคงมีความวิตกในตลาด

เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการสิ้นสุดมาตรการผ่อนคลาย

เชิงปริมาณรอบสองหรือ QE2" นายแมทธิว เลมีซ์ นักวิเคราะห์ของลิปเปอร์กล่าว

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดที่จะยุติแผนการซื้อพันธบัตรเพื่อ

กระตุ้นเศรษฐกิจ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. ขณะที่มีความไม่แน่นอนว่า เศรษฐกิจสหรัฐ

มีเสถียรภาพเพียงพอหรือไม่ที่จะขยายตัวได้เองโดยปราศจากอิทธิพลของเฟด

ปัจจัยที่สองที่อาจมีอิทธิพลต่อการไหลออกของเงินทุนออกจากกองทุนหุ้น

สหรัฐได้แก่ ความแข็งแกร่งของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัว

ขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค.

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ระบุว่า บริษัทในดัชนี S&P 500

สามารถทำกำไรราว 47% จากภายนอกสหรัฐ ซึ่งการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้

บริษัทสหรัฐส่งเงินกลับประเทศได้น้อยลง และส่งผลให้การบันทึกรายได้ในงบดุลบัญชี

ลดน้อยลง

การไหลออกของเงินทุนมากที่สุดจากกองทุน ETF นั้นเป็นการไหลออก

ของเงินทุนจากกองทุน SPDR S&P 500 ซึ่งมีเงินไหลออก 2.8 พันล้านดอลลาร์

ในสัปดาห์ล่าสุดซึ่งเป็นระดับเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.

กองทุนตลาดหุ้นเกิดใหม่มีเงินไหลออก 32 ล้านดอลลาร์อันเป็นผลจาก

เงินทุนไหลออกสุทธิจากกองทุน ETF ขณะที่กองทุนรวมที่มีการจัดการมีเงินไหลเข้า

สุทธิ 180 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นตลาดเกิดใหม่

กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินและธนาคารมีเงินทุนไหลออกสุทธิทั้งจากกองทุน ETF

และกองทุนที่มีการจัดการรวมกันมูลค่า 659 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด

นักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและปลอดภัยยังคงอัดฉีดเม็ดเงินใหม่เข้าสู่

กองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะหุ้นกู้คุณภาพสูงและได้รับการจัดอันดับน่าลงทุน

กองทุนตราสารหนี้ที่เสียภาษีมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 3.8 พันล้านดอลลาร์

โดยมีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 23 สัปดาห์รวมเป็นเงิน 8.37 หมื่นล้านดอลลาร์

กองทุนหุ้นกู้เอกชนคุณภาพสูงซึ่งลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ

A

และสูงกว่านั้น มีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นสู่ 87 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่

5

ติดต่อกัน และมีเงินไหลเข้ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.

กองทุนหุ้นกู้ที่มีอันดับน่าลงทุนมีเงินไหลเข้าสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับ

สัปดาห์ล่าสุด และยังไม่เคยมีเงินไหลออกสุทธินับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.

แม้โครงการ QE2 ใกล้สิ้นสุดลง แต่นักลงทุนก็ยังคงเข้าลงทุนในกองทุน

พันธบัตรสหรัฐ โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิ 148 ล้านดอลลาร์

ส่วนกองทุนพันธบัตรเทศบาลมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 296 ล้านดอลลาร์

โดยไหลออกเป็นสัปดาห์ที่ 28 รวม 3.47 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.

อย่างไรก็ตาม กองทุน ETF พันธบัตรเทศบาลมีเงินสดล็อตใหม่เข้ามา

19.2 ล้านดอลลาร์ โดยมีเงินทุนไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

นักลงทุนยังคงถอนเงินออกจากกองทุนที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์สินค้าโภคภัณฑ์

หรือโลหะ โดยกองทุนพลังงานเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนด้วย

กองทุนที่ลงทุนในโลหะมีค่ามีเงินทุนไหลออก 260 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาทอง

และโลหะเงินในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ล่าสุด

กองทุน iShares:Silver Trust ETF มีเงินทุนสุทธิไหลออกมากที่สุดจำนวน

313 ล้านดอลลาร์

กองทุนน้ำมัน ETF ของสหรัฐนำกองทุนกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยมีเงินไหลออก

120 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุนน้ำมันมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 159 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด

ซึ่งราคาน้ำมันดิบของสหรัฐทรงตัวหลังจากร่วงลงราว 12% ในเดือนที่ผ่านมา

ความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้นเป็นข้ออ้างสำหรับนักลงทุนในการ

เทขายทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร

--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย กัลยาณี ชีวะพานิช แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จรวดวิ่งซะแล้ว..... silver ถ้าผ่านแถวๆ 39 ได้ สบายเลยค่ะ ไปต่ออีกไกล รับคนบนดอยค่ะ ใครที่ตกขบวน รีบเก็บซะ down side gain $5 (33-34 เป็นแนวรับที่แข็งมากๆๆ) upside gain ยังมองหาเพดานไม่เจอ 55, 70, 90 หรือ ??? ไม่รู้เหมือนกัน ขึ้นกับคนทั่วโลกจะพร้อมใจกันทิ้ง ดอลล่าห์แรงแค่ไหน

 

ทองดอยเก่า 1577 น่าจะผ่านได้สบายๆ ไกลแค่ไหน ค่อยมาว่ากันอีกที น่าจะได้เห็น 1600+/- นะคะ อย่าโดนกระทิงสะบัดออกไปซะก่อนล่ะ ช่วงนี้ เอามือซุกกระเป๋า รัดเข็มขัดให้แน่น และกินยาแก้เมาคลื่นเตรียมไว้ด้วยค่ะ คิคิคิ !Announce

ถูกแก้ไข โดย kunghdy

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่เก่งแต่ผมว่ามันน่า จะมีย่ออีกทีน๊ะ เพราะมันขึ้นไปแบบไม่มีย่อเลยน่ะ ขอดูอีกซักพัก แล้วจะไปซื้อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่เก่งแต่ผมว่ามันน่า จะมีย่ออีกทีน๊ะ เพราะมันขึ้นไปแบบไม่มีย่อเลยน่ะ ขอดูอีกซักพัก แล้วจะไปซื้อ

 

ถูกค่ะ ย่ออ่ะมีแน่ แต่ย่อลงมาจากจุดไหนและจะลงถึงจุดไหน ไม่มีใครบอกได้ เน้นซื้อสะสมและเก็บยาวๆ ค่ะ ไม่ได้สนับสนุนให้เล่นรอบ หรือรอซื้อราคาต่ำสุดของรอบ ตอนนี้มันวกแล้ว และมีสัญญาณซื้อหลังจากพักลงมาอย่างรุนแรงถึง 30% จากการเพิ่ม margin 5 ครั้งในรอบสัปดาห์ ถ้าตอนที่เค้า onsale หนักๆ ใครไม่ได้ซื้อ ตอนนี้ก็ยังไม่ยอมซื้อ ก็..... !ee ตามสะดวกและกำลัง port ของแต่ละบุคคลค่ะ

 

ถ้าไม่ใช้มาตรการเพิ่ม margin การย่ออาจไม่เยอะหรือถึงเพิ่ม ก็มีคนอีกมากมาย (รวมทั้งตัวเองด้วย)รอ buy the f*** dip ค่ะ คิคิคิ ท่านเป็นผู้ตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อค่ะ ตามสะดวก บอกตาม technical ที่เห็นค่ะ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จรวดวิ่งซะแล้ว..... silver ถ้าผ่านแถวๆ 39 ได้ สบายเลยค่ะ ไปต่ออีกไกล รับคนบนดอยค่ะ ใครที่ตกขบวน รีบเก็บซะ down side gain $5 (33-34 เป็นแนวรับที่แข็งมากๆๆ) upside gain ยังมองหาเพดานไม่เจอ 55, 70, 90 หรือ ??? ไม่รู้เหมือนกัน ขึ้นกับคนทั่วโลกจะพร้อมใจกันทิ้ง ดอลล่าห์แรงแค่ไหน

 

ทองดอยเก่า 1577 น่าจะผ่านได้สบายๆ ไกลแค่ไหน ค่อยมาว่ากันอีกที น่าจะได้เห็น 1600+/- นะคะ อย่าโดนกระทิงสะบัดออกไปซะก่อนล่ะ ช่วงนี้ เอามือซุกกระเป๋า รัดเข็มขัดให้แน่น และกินยาแก้เมาคลื่นเตรียมไว้ด้วยค่ะ คิคิคิ !Announce

 

แล้วที่เคยมีการประเมินว่าทองคำมีโอกาสถูกทุบ ช่วงเดือน มิ.ย.(คล้ายปีที่แล้ว) ตอนนี้ยังต้องระวังจุดนี้ อีกหรือไม่ครับ หรือมีความเห็นอย่างไรบ้าง ?

(ผมกำลังรอจังหวะซื้อ GF หลายๆสัญญายาวๆ เลยไม่รู้ว่าน่าจะซื้อตอนนี้ ตามที่คุณ Kunghdy ประเมินจากกราฟว่าช่วงนี้มีสัญญาณซื้อ

หรือว่าจะรอให้จบ มิ.ย.ดี)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมอ่านเกมจีนไม่ออกครับ

ข่าวบอกว่าจีนจะอุ้ม EU ที่ผ่านมาเข้าไปซื้อพันธบัตรรอบหนึ่งแล้ว เมื่อสองสามวันก่อนก็ประกาศว่าจะเข้าไปช่วยอีก

 

อ่านบทความหนึ่งใน Zero Hedge เขาคาดการณ์ว่าทีผ่านมาเร็วๆ นี้จีนขาย พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไปประมาณ 20000 ล้านเหรียญ

ซึ่งเขาก็คาดการณ์ว่าจีนอาจนำเงินจำนวนนี้ไปช่วย EU

ซึ่งหากเกิดตามคาดการณ์เขาก็บอกว่าน่าจะเห็นการอ่อนค่าของดอลลาร์ในเร็วๆ นี้ (หวังว่าทองจะแข็งสวนดอลลาร์ขึ้นไปนะครับ)

 

 

ดูเหมือนว่าจีนจะเลือก EU มากกว่า US นะครับ

เท่าที่เราดู EU ร่อแร่กว่าเสียอีก

หรือแค่ย้ายไปเพราะดอกเบี้ยที่ EU สูงกว่าที่ US ก็ไม่ทราบได้

ส่วนตัวมองว่าเป็นการคานอำนาจอเมริกา เทคโนโลยีต่างๆยุโรปก็มีดีเหมือนกัน เอาดอลลาร์ไปช่วยยุโรปได้หลายเด้ง ได้พันธมิตรเพิ่มการออกเสียงอะไรต่างๆยุโรปก็ต้องมองจีน ต่อลองเทคโนโลยีจากหลายแหล่งมากขึ้น

คนรวยเวลาจะคนเก่งมาช่วยงานก็ใช้เงินซื้อ+ด้วยการซื้อใจด้วย คงไม่ต่างกันในเวทีโลก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แล้วที่เคยมีการประเมินว่าทองคำมีโอกาสถูกทุบ ช่วงเดือน มิ.ย.(คล้ายปีที่แล้ว) ตอนนี้ยังต้องระวังจุดนี้ อีกหรือไม่ครับ หรือมีความเห็นอย่างไรบ้าง ?

(ผมกำลังรอจังหวะซื้อ GF หลายๆสัญญายาวๆ เลยไม่รู้ว่าน่าจะซื้อตอนนี้ ตามที่คุณ Kunghdy ประเมินจากกราฟว่าช่วงนี้มีสัญญาณซื้อ

หรือว่าจะรอให้จบ มิ.ย.ดี)

 

โดย "ปกติ" ที่ผ่านมามันเป็นแบบนั้นค่ะ มิย ถึง กค เป็นช่วงซบเซาของราคาทองคำ แต่ปีนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ปกติ ถ้าตามอ่านใน board นี้มาตลอดจะทราบว่า "ความไม่ปกติ" ที่พูดถึงคืออะไร การเล่น future ช่วงนี้ไม่ว่าตลาดไหน set, gold หรือต่อไปก็ silver future เสี่ยงทั้งนั้นค่ะ เพราะ volatility จะสูงมากๆๆ ต้องยอมรับการเหวี่ยงแบบรุนแรงได้ ต้องระวังตลอดเวลาค่ะ เข้าออกให้ถูกจังหวะ ที่สำคัญไม่ overtrade และต้องมี money management ที่ดี บางคนมาถูกทางแต่โดนสะกัดออกไปเพราะ overtrade หรือ money management ไม่ดี ที่สำคัญมากๆๆๆๆคือ ต้องไม่โลภและไม่กลัว

 

บอกไม่ได้ค่ะว่าโอกาสโดนทุบมีหรือไม่ ตอนนี้จาก teachnical สัญญาณซื้อมา ก็ซื้อ ถ้าสัญญาณขายมาก็ขาย อย่าเสียดาย เพราะถ้าแหกระบบอาการสาหัสค่ะ หรือถ้าคนที่เก็บ physical ซื้อได้ตลอด ลงมาหนักๆ เป็นโอกาสให้ซื้อค่ะ สะสมได้เลย

 

ถ้าจะ trade GF จริง ก็ต้องมีระบบการเข้าออก และต้องทำตามระบบเท่านั้นถึงจะรอด ไปที่การลงทุนด้วยระบบของคุณเสมค่ะ จะแนะนำการเข้าออก ซื้อเมื่อไร ขายเมื่อไร ขอเน้นว่า "ทำตามระบบเท่านั้นถึงจะรอดค่ะ" กำไรอาจน้อยแต่ได้กำไร และต้องไม่ overtrade

 

http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/185-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%9a/

 

คงแนะนำได้เท่านี้นะคะ โชคดีค่ะ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

warning sign ของ perfect storm สำหรับทองคำจากคุณ Jimmy ค่ะ ช่วงนี้ใครขี่จรวดอยู่ก็รัดเข็มขัดให้แน่น และเตรียมพร้อมที่จะกระโดดลงจากจรวดตอนมันโดนไม้หน้าสามสะกัดนะคะ :wub: สำหรับคนที่ตกจรวด รอเวลาซื้อทองที่ comex เอามา mid year sale ค่ะ น่าจะแถวๆ $14** เห็นคุณ jimmy บอกว่าอาจมาแบบเทกระจาดให้เลือกซื้อค่ะ 555+++ เตรียมเงินไว้ shop ของถูกได้เลยค่ะ

 

http://goldscents.blogspot.com/2011/05/warning-sign.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...