โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[Winyou 2]

ดอก 2 ต่อเดือน ปีนึงก็ตั้ง 24 แพงไปครับ เสี่ยงไปหน่อย ถ้าได้ดอกแบบธนาคารคือราวๆ 6-8 ต่อปี ถึงน่าสน

อย่างไรก็ตามขอให้โชคดีครับ

 

 

ผมซื้อได้จริง ที่ 26950

 

เดือน ก.พ. 5 เดือน

ดอกเบี้ยจริง ทบต้น 2.0%

 

 

ต.ค. 26950 27489

พ.ย. 27489 28039

ธ.ค. 28039 28600

ม.ค. 28600 29172

ก.พ. 29172 29755

มี.ค. 29755 30350

เม.ย. 30350 30957

 

ทุนผม เดือน ก.พ. 29172

 

ถ้าราคาทอง 2200 US$/oz อย่าง นาย bob

อัตราแลกเปลี่ยน 29 (เอาแข็งๆ หน่อย)

 

 

= 2200*29*0.473

=30177.4

 

=30177.4- 29755 = 422.4 ต่อ ทอง 1 บาท

 

ดูน้อยครับไม่คุ้มกับการเสี่ยง (อย่าทำตามแบบผม) แต่ที่กู้ กู้ในบ้านตัวเอง ครับ (เงินเย็น) ดีกว่าให้เขาฝากกินดอกเบี้ย 3% ต่อปี

เราให้เขา 2 % ต่อเดือน (อาจต่อได้ 1 % อิอิ) (คนอื่นซื้อก็ไม่กล้าเพราะมันแพงแล้ว)

 

ขอบคุณ ทุกท่านที่ห่วงใย

[MOR LEK 2,835]

 

แต่ที่กู้ กู้ในบ้านตัวเอง ครับ (เงินเย็น) ดีกว่าให้เขาฝากกินดอกเบี้ย 3% ต่อปี

เราให้เขา 2 % ต่อเดือน (อาจต่อได้ 1 % อิอิ) (คนอื่นซื้อก็ไม่กล้าเพราะมันแพงแล้ว)

 

ขอบคุณ ทุกท่านที่ห่วงใย

 

ถ้ากู้ในบ้านตัวเอง โอเคเลยครับ เรือล่มในหนอง

[mdaddy 2,443]

.....

ดูน้อยครับไม่คุ้มกับการเสี่ยง (อย่าทำตามแบบผม) แต่ที่กู้ กู้ในบ้านตัวเอง ครับ (เงินเย็น) ดีกว่าให้เขาฝากกินดอกเบี้ย 3% ต่อปี

เราให้เขา 2 % ต่อเดือน (อาจต่อได้ 1 % อิอิ) (คนอื่นซื้อก็ไม่กล้าเพราะมันแพงแล้ว)

 

......

 

มีแหล่งเงินทุนส่วนตัวก็ไม่บอก

 

เยี่ยมครับ แบบที่คุณหมอว่า เรือล่มในหนองฯ

[yuki 0]

สวัสดีค่ะพี่ๆๆและอาจารย์ทุกท่าน น้องใหม่หมาดๆๆขอฝากตัวด้วยนะคะ ตอนนี้หัดเล่นทองแท่งอยู่ค่ะ มีอยู่ดอยที่่ 26650 กะว่าจะปล่อยที่ราคาเท่าไหร่ดีพี่ๆๆช่วยชี้แนะหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ

[yumyum 6]

สวัสดีค่ะพี่ๆๆและอาจารย์ทุกท่าน น้องใหม่หมาดๆๆขอฝากตัวด้วยนะคะ ตอนนี้หัดเล่นทองแท่งอยู่ค่ะ มีอยู่ดอยที่่ 26650 กะว่าจะปล่อยที่ราคาเท่าไหร่ดีพี่ๆๆช่วยชี้แนะหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ

 

 

ตอนนี้ไม่ดอยแล้วครับ

[mdaddy 2,443]

สวัสดีค่ะพี่ๆๆและอาจารย์ทุกท่าน น้องใหม่หมาดๆๆขอฝากตัวด้วยนะคะ ตอนนี้หัดเล่นทองแท่งอยู่ค่ะ มีอยู่ดอยที่่ 26650 กะว่าจะปล่อยที่ราคาเท่าไหร่ดีพี่ๆๆช่วยชี้แนะหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ

 

เรียกดอยไม่ได้แล้วครับ เพราะตอนนี้ถ้าขาย ก็ได้กำไรแล้ว

 

หลายๆคนในห้องนี้ รอขายตอนราคา gold spot วิ่งไปเท่ากับ DJIA ครับ

 

(ถ้ายังไม่ได้อ่าน ลองย้อนกลับไปที่หน้าแรก แล้วค่อยๆอ่านบทความคุณ next นะครับ ความรู้แน่นปึ้ก)

[Winyou 2]

ผมมีข้อมูล "ธนาคารก็มีการเริ่มปล่อยกู้เพื่อมาซื้อทองคำในการลงทุนแล้ว (แต่ธนาคารขอยึดทองไว้เป็นประกันนะ) แสดงว่าแนวคิดนี่ มีความเป็นไปได้"

 

ไม่ทราบว่าจะโพสต์ในนี้จะเป็นการโฆษณาให้เค้าหรือป่าว ของไทยครับ ดอกเบี้ย 0.99% ต่อเดือน หากสนใจข้อมูลคุยกันหลังไมค์น่ะครับ หรือถ้าไม่ผิดกฏข้อห้าม ผมค่อยมาบอกครับ

ที่ไหน ครับ ติดต่อกลับด้วย

[milo 888]

ทักทายกันหน่อยคร้าบ

[nuchaba 987]

สวัสดีค่ะ คุณเน็กซ์ คุณหมอ และเพื่อนๆ ที่คิดถึงทุกๆท่านค่ะ

[zagio 163]

คิดถึงจริงๆเว็บนี้

[yumyum 6]

ใช้ได้แล้วจ้า เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าเข้ามาไม่ได้เหมือนขาดอะไรไป

[ส้มโอมือ 4,910]

เชือด 17 สถาบันการเงินมะกันถึงเวลาคนผิดต้องชดใช้

05 กันยายน 2554 เวลา 07:40 น. | เปิดอ่าน 1,005 | ความคิดเห็น 0

สั่นสะเทือนไปทั้งภาคการเงินและธนาคารของสหรัฐ เมื่อสำนักงานกลางดูแลการเงินอสังหาริมทรัพย์ (เอฟเอชเอฟเอ)

 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

สั่นสะเทือนไปทั้งภาคการเงินและธนาคารของสหรัฐ เมื่อสำนักงานกลางดูแลการเงินอสังหาริมทรัพย์ (เอฟเอชเอฟเอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยื่นฟ้อง 17 ธนาคารใหญ่ ระบุว่า ได้หลอกขายอนุพันธ์ทางการเงินที่อิงกับหนี้อสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือที่รู้จักกันว่า “ซับไพรม์” อันเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ที่ผ่านมา

 

เป็นการเชือดที่เอฟเอชเอฟเอได้ประกาศลั่นว่า คนที่กระทำผิดจะต้องชดใช้และจะต้องถูกลงโทษ และการดำเนินการของเอฟเอชเอฟเอครั้งนี้ถือเป็นการทำงานในนามของประชาชนผู้เสียภาษีชาวอเมริกันทุกคน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐต้องยอมแบกเงินภาษีของประชาชนเข้าไปโอบอุ้มบริษัท แฟนนี เม แอนด์ เฟรดดี แมค บริษัทสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้พ้นจากการล้มละลาย หลังในช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมาจากการถูก “หลอกขาย” อนุพันธ์การเงินด้อยคุณภาพเหล่านั้นจากสถาบันการเงินและธนาคารรายใหญ่ที่ว่า

 

ใหญ่ขนาดไหนก็ถือว่าล้วนแต่เป็น “ขาใหญ่” ชื่อดังของวอลสตรีตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “แบงก์ ออฟ อเมริกา” ซิตี้ กรุ๊ป โกลด์แมน แซคส์ และเจ.พี.มอร์แกน เชส เป็นต้น

 

ย้อนกลับไปช่วงกลางทศวรรษ 2000 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐถึงขั้นบูมสุดๆ จนกลายเป็นฟองสบู่ โดยธนาคารและสถาบันการเงินได้ปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์กันอย่างบ้าคลั่ง ไม่เว้นแม้แต่การปล่อยสินเชื่อให้กับผู้กู้ด้อยคุณภาพที่เรียกว่า “ซับไพรม์”

 

 

 

การปล่อยกู้ดำเนินไปอย่างร้อนแรง และส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยที่กระชากตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นฟองสบู่ในที่สุด

 

สภาวะดังกล่าวได้ทำให้เกิดการอุบัติขึ้นของการลงทุนในนวัตกรรมการเงินรูปแบบใหม่ในรูปแบบของ “อนุพันธ์” ที่อิงกับลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในภาคการเงินของสหรัฐที่ร้อนแรงและได้รับความนิยมอย่างสุด เมื่อธนาคารและสถาบันรายใหญ่ต่างๆ ได้ออกอนุพันธ์ตราสารหนี้ที่หนุนอยู่กับลูกหนี้ด้อยคุณภาพออกขายกันอย่างเทน้ำเทท่า

 

แน่นอนว่า บริษัท แฟนนี เม แอนด์ เฟรดดี แมค ถือเป็นผู้รับซื้ออนุพันธ์ทางการเงินเหล่านี้เป็น “รายใหญ่” มีมูลค่าการถือครองไว้ถึง 1.96 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้การดำเนินงานส่วนหนึ่งของบริษัท แฟนนี เม แอนด์ เฟรดดี แมค คือการรับซื้อต่อการจำนองบ้านจากผู้ปล่อยกู้ หรือไม่ก็นำไปแปลงสภาพออกเป็นอนุพันธ์เช่นกัน และบริษัทยังรับซื้ออนุพันธ์ต่างๆ ที่อิงกับหนี้ซับไพรม์จากสถาบันการเงินต่างๆ ด้วย

 

ความร้อนแรงของอนุพันธ์ซับไพรม์นั้นร้อนแรงขนาดที่ว่า เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการแมนฮัตตันก็ได้ยื่นฟ้องธนาคารดอยช์แบงก์ โดยระบุว่าฝ่ายจัดการอนุพันธ์ของดอยช์แบงก์เคยหลอกให้เจ้าหน้าที่ของเอฟเอชเอฟเอ รับประกันอนุพันธ์ที่ธนาคารเสนอขายออกมา ซึ่งล้วนแต่อิงอยู่บนหนี้เสียมูลค่ามหาศาล

 

เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ฮิตกับการเปิดขายการลงทุนบนความว่างเปล่าที่แทบจะไม่มีมูลค่าใดๆ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายหนี้มูลค่าของอนุพันธ์เหล่านี้ จึงแทบจะกลายเป็นแค่เศษขยะที่ไม่มีมูลค่าใดๆ

 

ภาวะดังกล่าวส่งผลให้บริษัท แฟนนี เม แอนด์ เฟรดดี แมค ต้องประกาศหั่นมูลค่าสินทรัพย์ลงอย่างมหาศาล จนอยู่ในสภาวะใกล้ล้มละลาย ร้อนถึงรัฐบาลสหรัฐต้องกระโดดเข้ามาช่วยเหลือด้วยเม็ดเงินภาษีของประชาชนชาวอเมริกันทุกคน

 

ในสำนวนยื่นฟ้องของสำนักงานเอฟเอชเอฟเอได้ยืนยันชัดเจนว่า สถาบันการเงินและธนาคารเหล่านี้เข้าข่ายหลอกลวง (Misrepresent) ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของสถาบันเหล่านี้มีความแตกต่างผิดปกติและมีความเสี่ยงมากขึ้น

 

และที่สำคัญอย่างยิ่งการเสนอขายอนุพันธ์ของสถาบันการเงินเหล่านี้ได้กล่าวไว้เกินเลย หรือเรียกได้ว่า “โม้เกินไป” ในข้อเท็จจริงถึงขีดความสามารถของลูกหนี้ที่จะจ่ายหนี้ได้ ตลอดไปจนถึงมูลหนี้ของราคาบ้านที่สูงมากเกินไปเมื่อเทียบกับตัวสินทรัพย์จริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้พยายามโต้แย้งว่า บริษัท แฟนนี เม แอนด์ เฟรดดี แมค เองก็รู้ดี และรับรู้อยู่แล้วถึงความเสี่ยงของอนุพันธ์เหล่านี้ และทางบริษัทเองก็ยังรับซื้ออนุพันธ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคณะกำกับดูแลจะแจ้งแล้วว่าบริษัทเหล่านี้ไม่มีระบบการจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ

 

เข้าทำนองจึงไม่ใช่ความผิดของสถาบันการเงินแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะผู้ซื้อก็โลภพอๆ กัน..!

 

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่ง รวมไปถึงนักลงทุนเอกชนที่กำลังหาทางดำเนินการทางกฎหมายต่อสถาบันการเงินทั้งหลายกันอย่างบ้าคลั่งทีเดียว

 

เช่น ในเดือน ก.ค. เอฟเอชเอฟเอก็เพิ่งยื่นฟ้องธนาคารยูบีเอสในข้อหาหลอกลวงขายอนุพันธ์ซับไพรม์

 

ขณะที่ อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) กลุ่มประกันภัยรายใหญ่ของสหรัฐ ก็ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ในกรณีเดียวกัน

 

เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ก็เพิ่งจะยอมจ่ายเงิน 8,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับกลุ่มนักลงทุนกลุ่มหนึ่งไปแล้ว เพื่อยุติคดีการขายอนุพันธ์ด้อยคุณภาพเหล่านี้ไป

 

ส่วนสำนักงานอัยการแมนฮัตตันก็ได้ยื่นฟ้องธนาคารดอยช์แบงก์ ระบุว่า ฝ่ายอนุพันธ์ทางการเงินของธนาคารได้ออกอนุพันธ์ที่อิงอยู่บนหนี้เสียออกขายเป็นจำนวนมาก และได้หลอกลวงให้สำนักงานอสังหาริมทรัพย์กลางให้การรับประกันอนุพันธ์เหล่านี้

 

การดำเนินการทางกฎหมายในครั้งนี้ของเอฟเอชเอฟเอ ภายใต้การดูแลของเฟดนั้น ถือว่าเป็นศึกที่ใหญ่อย่างยิ่งยวด และกำลังจุดประเด็นการฟ้องร้องให้นักลงทุนอื่นๆ เอาคืนสถาบันการเงินเหล่านี้บ้าง

 

เพราะว่าได้เริ่มมีการถามถึงกันมากขึ้นว่า ไม่ใช่เพียงแต่ที่แฟนนี แม แอนด์ เฟรดดี แมค เท่านั้นที่เดือดร้อน แต่ยังมีนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยอื่นๆ อีกหลายรายที่ถูกหลอกขายอนุพันธ์เหล่านี้ในช่วงนั้น ซึ่งอาจจะเข้าข่ายว่าละเมิดกฎหมายการซื้อขายอนุพันธ์และตราสารของสหรัฐเสียด้วย

 

แม้ว่าการฟ้องร้องของเฟดในครั้งนี้ จะขึ้นชื่อว่าเป็นการปกป้องเงินภาษีของประชาชนชาวอเมริกันเป็นเดิมพัน ที่ผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษและต้องชดใช้ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

 

แต่แน่นอนนักวิเคราะห์มองว่า ถ้าถึงที่สุดแล้วศาลได้ตัดสินว่าสถาบันการเงินและธนาคารรายใหญ่เหล่านี้ผิดจริง และจะต้องชดใช้เป็นมูลค่ามหาศาลนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของสถาบันการเงินเหล่านี้อย่างรุนแรงระลอกใหญ่ทีเดียว

 

ถือเป็นศึกครั้งสำคัญระหว่างศักดิ์ศรีแห่ง “เงินของผู้เสียภาษี” และ “สถานภาพแห่งวอลสตรีต” ที่โลกต้องลุ้นว่าจะสั่นสะเทือนระบบการเงินสหรัฐกันอีกกี่ริกเตอร์

[ส้มโอมือ 4,910]

Re: $$$$$$$$$ รวยทองแบบขํา ขํา สไตล์พ่อน้องเอม $$$$$$$$$

« ตอบ #2222 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:16:41 AM »

 

--------------------------------------------------------------------------------

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

 

เมื่อวานน้องทองทะลุไฺฮเดิม ขึ้นไปทำนิวไฮใหม่ที่ $1920 อย่างง่ายดาย จากความกังวลวิกฤตการเงินในยุโรปและเมกา ที่ส่อเค้าว่าอาจจะเกิดภาวะถดถอยรอบใหม่อีกไม่นาน หลังจากฝ่าด่าน $1900 ไปได้ น้องทองก็มีแนวโน้มสดใสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ $2000 แต่น้องทองก็ต้องโดนน้องฟรังก์หักอก เพราะเคยเป็นเพื่อนซี้และอยู่ร่วมแก็งค์ "We're Safe Havens" กันมานาน เมื่อวานตอนประมาณบ่ายสามโมง แบงค์ชาิติสวิสก็ประกาศเข้าแทรกแซงตลาดเงินทั่วโลก เข้าซื้อเงินสกุลใหญ่ทุกสกุลอย่างไม่จำกัดวงเงิน ไม่ว่าเป็นน้องดอลลี่ น้องยู น้องเยน โดยมีเป้าหมายที่ 1.20 CHF/Euro เป็นอย่างน้อย แบงค์ชาติสวิสตัดสินใจประกาศตอนตลาดยุโรปเปิดไปได้ไ่ม่นาน เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะสัปดาห์นี้หากไม่ตัดสินใจทำอะไร น้องฟรังก์ก็จะแข็งค่าขึ้นไปอีก จากความกังวลวิกฤตการเงินในยุโรปและเมกาที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่แบงค์ชาติสวิสตัดสินใจแบบนี้ หลายคนก็เดากันว่า แบงค์ชาติญี่ปุ่นจะเอายังไงต่อ เพราะขานี้ชอบแทรกแซงค่าเงินเป็นประจำอยู่แล้ว ว่าจะออกไม้เด็ดเหมือนแบงค์ชาติสวิสหรือป่าว

 

เออ.....อ หลายคนถามว่าแล้วมันจะส่งผลต่อน้องทองของพวกเราอย่างไร ฮืม....ม ถ้ามองกันยาวๆ แก็งค์ "We're Safe Havens" มีสมาชิกน้อยอยู่แล้ว แถมเมื่อวานยังลดลงไปอีกหนึ่ง น้องเยนก็น่าจะโดนลดค่าตัวเหมือนกัน มองไปมองมาก็เหลือแต่น้องทองกะน้องบอนด์ ทำให้น้องทองมีแนวโน้มที่สดใสมากยิ่งขึ้น แต่ในระยะสั้นๆนี้ นักลงทุนอาจจะหันกลับไปเป็นกิ๊กกะน้องดอลลี่ชั่วคราว เหมือนในอดีตช่วงที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 ใหม่ๆ นักลงทุนก็เข้าซื้อน้องดอลลี่ในฐานะ safe haven น้องทองร่วงลงไปเลย ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องกังวลเหมือนกัน แต่คราวนี้ผมว่าน้องทองคงไม่ร่วงแรงๆเหมือนครั้งนั้น เพราะวิกฤตครั้งนี้ยากที่จะแก้ไข

 

แนวโน้มระยะสั้นของน้องทอง ณ.นาทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความฟิตของน้องดอลลี่ว่าจะแข็งค่าขึ้นได้มากน้อยขนาดไหน เฮียโอเลี้ยงจะออกแถลงการณ์ Job Package ในคืนวันพฤหัสนี้ เวลาบ้านเราก็หกโมงเช้าวันศุกร์ หากเฮียโอเลี้ยงพูดโดนใจนักลงทุน น้องดอลลี่ก็แข็งค่าได้อีก แต่ผมเดาว่าก็คงได้แต่พูด จะทำจริงๆคงจะติดปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด เพราะฝั่ง Republican คงไม่ยอมให้เฮียโอเลี้ยงได้หน้าแต่ฝ่ายเดียว เพราะการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ใกล้เข้ามาแล้ว เท่านี้อ่านข่าวดู เนื้อหาและรูปแบบก็จะเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ และบางอย่างก็แค่ขยายระยะเวลาออกไปอีก อ่านแล้วผมว่าคงช่วยอะไรได้ไม่มาก จะอัดฉีดเงินเพิ่ม ทางฝั่ง Republican ก็มองแบบเหล่ๆ ไม่พอใจ วิกฤตครั้งนี้เฮียโอเลี้ยงเหนื่อยจริงๆครับ น่าสงสาร

 

หากน้องดอลลี่แข็งค่าได้จริงในระยะสั้นๆนี้ ก็คือเป็นโอกาสเข้าช้อนซื้อตามแนวรับต่างๆไม่ว่าจะเป็น $1850 $1830 และ $1800 ถ้าไม่มีปัจจัยพื้นฐานหลักๆเปลี่ยนแปลงไป น้องทองก็น่าจะไม่หลุดแล้วรับสุดท้ายนี้ และพร้อมที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2000 แต่ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของ QE3 ที่อาจจะออกมาในวันที่ 21 กันยายนที่จะถึงนี้ ว่าจะอัดฉีดมากน้อยขนาดไหน และมีรูปแบบอย่างไร ก็รอลุ้นกันต่อไป

ถูกแก้ไข กันยายน 7, 2011 โดย ส้มโอมือ

[MOR LEK 2,835]

555 ยังไม่โพสต์ครับ กำลังลงแดงอยู่

[ส้มโอมือ 4,910]

ทองคำ โลหะเงิน จะขึ้นจะลงผมเฉยนะ แต่เข้าเวปไม่ได้นี่ซิหนักกว่าเยอะเลย