ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ค่อยยังชั่ว นึกว่าเชียร์ซีเรียโดนถล่ม :17

 

คนที่ถือสัญญาออปชัน จะสามารถซื้อหลักทรัพย์/สินค้า ได้ในราคาที่ตกลงกันไว้ (ในกรณีนี้คือ ๑๓๕๐) เมื่อถึงเวลา ...

 

นาย เจ บี เสลียร์ ที่เขียนเรื่องดังกล่าว เหมือนกับจะมองว่า มีคนถือออปชันไว้ในราคานี้เยอะมาก จนในที่สุด ราคาจะขึ้นไปแรงๆ (ขาใหญ่ถือไว้ เลยยอมปล่อยให้ขึ้น?)

 

ถ้าไปตามอ่านในคอมเมนท์ ก็มีคนทักท้วงไว้เหมือนกันว่า สำหรับขาใหญ่นั้น จะทุบสัก ๕๐ ๖๐ เหรียญ ก็เป็นเรื่องขี้เล็บสำหรับเขา เพราะฉะนั้นราคาอาจจะไม่ขึ้นก็ได้ แถมอาจจะโดนทุบ เพื่อให้เจ้ามือ (คนที่ขายสัญญาออปชัน ในกรณีนี้) ได้กำไรไปสบายๆ

 

มีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เขาบอกว่ารอบนี้ทองคำขึ้นเร็วไป ไม่น่าจะอยู่ได้

เนื่องจากผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย อ่านแล้วก็ยังงงครับ ว่าเขาจะทำกำไรกันยังไง แต่ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากๆ :01

(เพราะถ้าจะอธิบายในเรื่องที่ผมไม่มีอะไรในหัวเลยให้ผมเข้าใจนั้นมันโคดยาก)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

....

สงสัยรอบนี้อีตาเดวิด ฟอร์ด จะเดาถูก

 

แล้วบิ๊ก บราเธอร์ นี่ใครล่ะครับ

 

.. ถ้าวิ่งไป ๑๖๐๐ ภายในไม่กี่วันจริงๆนี่มันคงวิ่งเลย ๑๖๐๐ ไปอีกเยอะทีเดียว ..

 

บิ๊ก บราเดอร์ เป็นตัวละครใน ๑๙๘๔ // เขาเป็นผู้นำเผด็จการของรัฐโอเชียเนีย

 

~ สรุปความ จาก วิกิพีเดีย ~

 

ในเรื่อง ๑๙๘๔ รัฐโอเชียเนีย มี "เทเลสกรีน" (ทีวี+กล้องวงจรปิด) ติดเต็มไปทั่วเมือง ไม่เว้นแต่ในห้องพัก

ทุกคนจึงอยู่ภายใต้การสอดส่องโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ตลอดเวลา และ "เทเลสกรีน" ยังมีการเตือนผู้คนอยู่ตลอดเวลาด้วย ว่า บิ๊ก บราเดอร์ กำลังมองคุณอยู่

 

นี่คือที่มาของการในคำว่า "บิ๊ก บราเดอร์" ในภาษาอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันนี้มักจะหมายถึง รัฐที่ใช้อำนาจเกินงาม โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน, และ/หรือ การตรวจตราแบบเหวี่ยงแห ในทุกวันนี้

 

ตัวอย่างเช่น

  • กล้องวงจรปิดเต็มบ้านเต็มเมือง (เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน) --- ว่ากันว่า ลอนดอนเป็นเมืองที่มีกล้องวงจรปิดต่อประชากรเยอะที่สุดในโลก
  • เรื่องฉาวที่นายหิมะเอามาแฉ : หน่วยงานด้านความมั่นคง มีการต่อท่อดักข้อมูลบนเน็ต เพื่อคอยสอดส่องดูแลการสื่อสารเกือบทั้งหมด (เพื่อค้นหาผู้ก่อการร้าย, แบล็กเมลล์ สส., แบล็กเมลล์ ศาล, แบล็กเมลล์คนทั่วไป เพื่อให้กระทำการตามที่บิ๊กบราเดอร์ต้องการ, ล้วงความลับทางธุรกิจ)

https://en.wikipedia..._Eighty-Four%29

 

 

 

 

 

 

 

post-2564-0-30441900-1377610779.png

Credit :

William Banzai 7

 

 

เพิ่มเติม

http://pantip.com/topic/30899658

มีแฟน มีกิ๊ก อยู่บริษัทโทรคมฯ ระวังไว้นะครับ

:_cd

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เนื่องจากผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย อ่านแล้วก็ยังงงครับ ว่าเขาจะทำกำไรกันยังไง แต่ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากๆ :01

(เพราะถ้าจะอธิบายในเรื่องที่ผมไม่มีอะไรในหัวเลยให้ผมเข้าใจนั้นมันโคดยาก)

 

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องฟิวเจอร์/ออปชันมากครับ เลยอาจจะอธิบายได้ไม่ดี

 

เข้าใจว่าฟิวเจอร์ กับ ออปชัน ใกล้เคียงกันพอสมควร

ลองฟิวเจอร์ = คอลล์ ออปชัน

ชอร์ตฟิวเจอร์ = พุท ออปชัน

 

ประเด็นสำคัญคือ มีคนแทง(~ ๒๒,๐๐๐ สัญญา หรือ ๒,๒๐๐,๐๐๐ ออนซ์) ว่าในเดือน ก.ย. ทองน่าจะขึ้นไปเยอะ เลยซื้อออปชัน สำหรับซื้อทองคำในราคา ๑๓๕๐ ในเดือน ก.ย.

 

~ สมมติสิ้นเดือน ก.ย. ทองไป ๑๖๐๐ เขาก็สามารถซื้อทองคำในราคา ๑๓๕๐ เพื่อกินส่วนต่าง ๒๕๐ เหรียญสบายๆ ... ส่วนคนที่ขายสัญญาออปชันให้ ถ้าไม่มีของในมือ ก็หืดขึ้นคอ ต้องชดใช้ส่วนต่าง หรือไม่ก็ต้องไปซื้อทองมาให้

~ แต่ถ้าสิ้นเดือน ก.ย. ทองเหลือ ๑,๓๕๐ หรือต่ำกว่า คนที่ถือสัญญาคอลล์ออปชัน ก็จะไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อทองคำราคาแพง ปล่อยให้สัญญาหมดอายุไป และเสียเพียงแค่ค่าซื้อสัญญาคอลล์ออปชัน (ตรงนี้ต่างกับฟิวเจอร์ เพราะฟิวเจอร์ ถ้าถือลอง แล้วเกิดราคาทองตก ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ)

 

ในเวบที่คุณหมอเอามาฝาก เขาก็เลยถกกันว่า มันจะขึ้น (ตามที่คนเขียนคาดหวัง) หรือ จะลง

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

August 27, 2013

Posted by KOBSAK (ADMIN)

ปัญหาเศรษฐกิจของอินเดีย

 

คอลัมน์ ไขปัญหาเศรษฐกิจกับดร.กอบ

เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว อินเดียได้กลายเป็นประเทศล่าสุด ที่ทุกคนต้องหันไปจับตามองเป็นพิเศษ โดยแบงก์ชาติอินเดียได้ประกาศมาตรการสกัดเงินไหลออกจากประเทศ หลังต้องเผชิญกับปัญหาค่าเงินรูปีที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วกว่า 13% นับแต่ช่วงต้นปี ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่มีค่าเงินอ่อนลงสูงสุดอันดับสองของโลก รองจากบราซิล

มาตรการสกัดเงินไหลออกดังกล่าว ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินของอินเดีย และนำมาซึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้ลงไปว่า “เกิดอะไรขึ้นกับอินเดีย” อันเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่ม BRIC ซึ่งเป็นเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นประเทศที่หลายคนเคยมองด้วยความอิจฉาตาร้อนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ว่าสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของตนด้วยความรวดเร็ว จนมีการพูดกันว่า วันหนึ่งอินเดียก้าวขึ้นไปทัดเทียมหรือแซงจีนได้ และกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจใหม่ของโลกอีกแห่งหนึ่ง

เกิดอะไรที่อินเดีย

อินเดียมีปัญหาสำคัญอยู่ 4 ด้าน

ด้านแรก – อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียได้ชะลอลงอย่างรวดเร็ว จากเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ที่ขยายตัวได้ถึง 9-10% ตามการลงทุนภายในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นไปถึง 37-38% ของจีดีพี ซึ่งส่วนหนึ่งถูกขับเคลื่อน จากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ที่เทไปยังอินเดียอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียได้ลดลงเหลือเพียง 4.8% หรือประมาณครึ่งหนึ่งของในอดีต

ด้านที่สอง – เงินเฟ้ออินเดียอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ช่วงก่อนปี ค.ศ. 2008 เงินเฟ้ออินเดียขึ้นไปแตะระดับประมาณ 11% ก่อนปรับลดลงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป แต่ครั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกและอินเดียขยายตัวได้อีกครั้งหนึ่ง อัตราเงินเฟ้อก็กลับขึ้นไปที่ 10-11% อีกรอบในระหว่างปี ค.ศ. 2010 จนแบงก์ชาติอินเดียต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยจาก 4.25% ขึ้นไปที่ระดับ 8.5% เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อในช่วงดังกล่าว เงินเฟ้ออินเดียจึงค่อยทยอยลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 5% ในปัจจุบัน

ด้านที่สาม – ผลพวงหนึ่งของเงินเฟ้อที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ก็คือ ต้นทุนการผลิตในอินเดียปรับสูงขึ้นเทียบกับคู่แข่ง ผู้ผลิตของอินเดียจึงแข่งขันในตลาดโลกได้ลำบากยากยิ่งขึ้น นำไปสู่การขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด โดยปัญหานี้เริ่มขึ้นนับแต่ปี ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา ล่าสุด อินเดียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.8% ของจีดีพี สูงที่สุดในรอบหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา หลายคนจึงเริ่มกังวลใจว่า เรื่องนี้จะเป็นจุดเปราะบางของเศรษฐกิจ อินเดียในช่วงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริหารจัดการปัญหาไม่ดี นอกจากนี้ จะเพิ่มแรงกดดันให้ค่าเงินรูปีอ่อนลงต่อเนื่อง กลายเป็นอีกปัญหาอีกด้าน

ด้านที่สี่ – ปัญหาเงินไหลออก ซึ่งเกิดหนักขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซ้ำเติมให้ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว โดยจากปลายเดือนเมษายนเป็นต้นมา ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงจาก 54 เป็น 63 รูปีต่อดอลลาร์ ทำให้ทางการของอินเดียกังวลใจมาก จนต้องออกมาตรการสกัดเงินทุนไหลออกในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว

แล้วมาตรการสกัดเงินทุนไหลออกมีอะไรบ้าง

มาตรการที่ออกมานั้น ยังนับว่าเป็นมาตรการขั้นต้น ที่เน้นเฉพาะคนอินเดียด้วยกันเองเท่านั้น โดยแบงก์ชาติอินเดีย (1) ประกาศลดวงเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของบริษัทอินเดียลงจาก 4 เท่าของมูลค่าสุทธิของบริษัท เหลือเพียง 1 เท่าตัว พร้อมกับ (2) ประกาศลดวงเงินลงทุนในต่างประเทศ ที่บุคคลทั่วไปในอินเดียสามารถส่งออกไปได้ จากคนละ 2 แสนดอลลาร์ เหลือเพียง 7.5 หมื่นดอลลาร์

ทั้งนี้ มีรายงานว่า แม้คนทั่วไปในอินเดีย จะไม่ได้มีการนำเงินออกไปผ่านช่องทางนี้มากนัก แต่ก็มีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์บางแห่งได้เริ่มส่งจดหมายอีเมล ไปหาลูกค้าของตนและแนะนำว่า ให้ทุกคนแลกเงินรูปีออกไปลงทุนนอกประเทศ (ตามที่ทางการอนุญาต) ไปก่อน รอจนกระทั่งเงินรูปีอ่อนไปที่ 70 รูปีต่อดอลลาร์ แล้วจึงค่อยเอาเงินกลับคืนเข้ามาอีกครั้ง

หากทุกคนเชื่อและทำเช่นนั้นจริง ค่าเงินรูปีก็จะถูกกดดันทำให้อ่อนค่าลงไปอีก และกลายเป็นวิกฤติได้ ดังนั้น แบงก์ชาติอินเดียจึงได้ออกมาตรการดังกล่าวมา เพื่อปรามไม่ให้คนทั่วไป อาศัยช่องดังกล่าวในการเก็งกำไรค่าเงินรูปี ส่วนที่บอกว่าเป็นมาตรการขั้นต้นนั้น ก็เพราะยังไม่ได้ประกาศห้ามไปถึงกลุ่มนักลงทุนต่างชาติด้วย

หลังการประกาศมาตรการ (ซึ่งเป็นการประกาศใช้ในช่วงวันประกาศอิสรภาพของอินเดีย) หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการทั้งสองเป็นการเดินถอยหลังเข้าคลองของประเทศอินเดีย ที่ต้องถอยย้อนกลับไปในส่วนของการเปิดเสรีเงินทุนไหลเข้าไหลออกจากประเทศ โดยบางคนยังกลัวไปต่ออีกว่า หากมาตรการที่ออกมาแล้วไม่ได้ผลพอ ค่าเงินรูปียังอ่อนต่อเนื่อง แบงก์ชาติอินเดียอาจจะต้องประกาศจำกัดการนำเงินทุนออกนอกประเทศของนักลงทุน ต่างชาติ ซึ่งจะมีนัยและผลกระทบต่อไปอย่างกว้างขวาง

แล้วเราต้องกังวลใจหรือเปล่า

ในช่วงนี้ เราคงต้องติดตามดูปัญหาของอินเดียอย่างใกล้ชิด เพราะมาตรการที่เขาประกาศออกมานั้น ได้ส่งผลให้ตลาดการเงินในประเทศอินเดียและในภูมิภาคได้รับผลกระทบ ปั่นป่วนไปด้วย โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มมามองหาโอกาสเก็งกำไรในค่าเงินของประเทศ ต่าง ๆ (ในด้านการอ่อนค่า) รวมไปถึงเริ่มมองถึงความเสี่ยงที่ทางการในภูมิภาคอาจออกมาตรการเพื่อสกัดการ ไหลออกของเงินทุน

สถานการณ์เช่นนี้ จะนำมาซึ่งความผันผวนในระยะสั้น ในระบบการเงินของภูมิภาค ซึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นผลบางส่วนที่ส่งมาถึงอินโดนีเซีย และไทยไปบ้างแล้ว ทั้งด้านค่าเงินและตลาดหุ้น

ที่น่ากังวลใจไปกว่านั้นก็คือ เมื่อมีเวลามาลองนั่งนึกตรึกตรองดู เราจะพบว่า ปัญหาเศรษฐกิจปีนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ครั้งนั้น ปัญหาเกิดในภูมิภาคที่ห่างไกลไปจากเรา (สหรัฐและยุโรป) แต่รอบนี้ ปัญหามาใกล้ตัวเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ปัญหาเงินไหลออกของอินเดีย ปัญหาค่าเงินอ่อนของอินโด กระทั่งไทยเอง เศรษฐกิจเราก็แผ่วลงไปพอสมควรในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ช่วงเช่นนี้ ทุกคนจึงควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เตรียมการไว้อย่างรอบคอบ พยายามรักษาตนให้พ้นจากภัยเหล่านี้ ยิ่งช่วงข้างหน้า เมื่อสหรัฐเริ่มกระบวนการหยุดการอัดฉีดสภาพคล่องตามที่เขาตั้งใจไว้ ตลาดการเงินคงต้องปรับตัวอีกรอบ ก็ขอเอาใจช่วยครับ

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2556

คอลัมน์ ไขปัญหาเศรษฐกิจกับดร.กอบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Russia expanded their gold reserves for a 10th straight month in July. Russian holdings, the seventh-largest by country, gained another 6.3 metric tons to 1,002.8 tons.

Kazakhstan’s reserves also rose for a 10th straight month to 1.1 tons to about 132 tonnes. Azerbaijan added 2.009 tonnes to bring its holdings to 10.023 tonnes in July.

Turkey lifted its gold holdings by 22.5 tonnes, the biggest increase seen among 15 central banks. Turkey now has the world's 11th-largest gold reserves as its holdings rose to 464 tonnes in July from 441.5 tonnes in June.

France bought 1,000 troy ounces of gold. The Bank of France has made a few such purchases in recent months.(มันซื้อแค่นี้ไปทำไมว๊า) :034

 

http://news.goldseek.com/GoldSeek/1377608400.php

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คืนนี้ consumer confidence สูงกว่างวดก่อนและสูงกว่าที่คาดการ อิอิ สงสัยเพราะคนรู้ว่ามันกำลังจะทำสงคราม เป็นเหตุให้พิมพ์เงินได้ไม่อั้นแบบมีข้ออ้าง :53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

7 ชั่วโมงที่แล้ว

สหรัฐฯเตรียมถล่มซีเรีย เพื่อรีเซ็ทระบบ???

 

ตอนนี้สหรัฐฯกำลังทำสองครามสองด้าน สงครามการเงินผ่านคิวอีชักเงินกลับ เพื่อทำให้บริกส์และประเทศเกิดใหม่อ่อนแอทางการเงินและเศรษฐกิจในขณะเดียว กันสหรัฐฯเตรียมทำสงครามจริงๆเพื่อถล่มซีเรียโดยกล่าวหาว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีฆ่าประชาชน ใครใช้สารเคมีก็ไม่รู้ มั่วดิบหรือเปล่า

 

มีความเป็นไปได้ที่ ทั้งสงครามการเงินและสงครามในตะวันออกกลางจะนำไปสู่ความได้เปรียบของผู้ชนะก่อนการรีเซ็ทระบบการเงินจะเกิดขึ้น

 

การรีเซ็ทระบบการเงินโลกจะเกิดขึ้นเมื่อ

 

1. เฟดเอาดอกเบี้ยไม่อยู่ ดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องกลับไปสู่ระดับปกติจะทำให้ตลาดบอนด์ที่ เป็นฟองสบู่พัง และจะวิกฤติทะลักเข้าไปสู่ระบบการเงินและแบงค์

 

2. เฟด แบงค์ออฟอิงแลนด์ บีไอเอส ทุบทองไม่ได้อีกต่อไป ราคาทองพุ่งเป็นจรวด ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ตกฮวบฮาบ

 

3. จีนลอยค่าหยวน เลิกผูกหยวนกับดอลล่าร์ แต่ผูกหยวนกับราคาทอง หรืออิงกับทองแทน

 

4. เยอรมันออกจากยูโร หันไปพิมพ์มาร์ค

 

5. ระบบเงินกระดาษ fiat currency system เจอภัยเงินเฟ้อ

 

ทุกปัจจัยนี้เป็นภัยหรือขัดผลประโยชน์ของโลกตะวันตกที่กุมอำนาจระบบการเงิน และเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน และมีความเป็นไปได้ที่ปัจจับเหล่านี้จะประดังเข้าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นับตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป

 

แทนที่จะให้ ดอกเบี้ย ราคาทองที่พุ่งขึ้น ดอลล่าร์ตก จีนลอยค่าหยวน และการฟื้นคืนชีพของมาร์ค มารีเซ็ทระบบ โดยที่ฝ่ายตะวันตกเป็นฝ่ายตั้งรับ และอาจคุมเกมไม่ได้ ฝ่ายตะวันตกอาจเลือกที่จะก่อสงครามในตะวันออกกลางเพื่อการเบี่ยงประเด็นเฉไฉ ออกไป เพราะการถล่มซีเรียของจะวันตก อาจทำให้สงครามตะวันออกกลางขยายวงเป็นอภิมหาสงคราม เพราะรัสเซีย จีน และอิหร่านคงไม่ยอมสูญเสียซีเรียง่ายๆ

 

สงครามอาจเป็นตัวรีเซ็ทระบบการเงินก็ได้ ใหนๆจะพังก็ต้องพังพร้อมๆกัน

ไปเลย

 

 

thanong

27/8/2013

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce Putin Orders Massive Strike Against Saudi Arabia If West Attacks Syria

 

 

http://www.eutimes.net/2013/08/putin-orders-massive-strike-against-saudi-arabia-if-west-attacks-syria/

 

เสียงปืนแตกเมื่อไรละก็ WW III แน่ๆ :_cd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาร์ทแสดงความสัมพันธ์ตะวันออกกลางอลเวง

 

ใครติดตามเรื่องซีเรีย จะเห็นว่า มีตัวละครที่เกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ - อังกฤษ - รัสเซีย - อิหร่าน จนหลายคนอาจจะงงว่า ใครเป็นใคร ใครสนับสนุนใคร ใครไม่ชอบใคร .... นี่คือ แผนผังความสัมพันธ์อลเวงของประเทศต่างๆ ที่มีต่อซีเรีย ที่มีการแชร์ต่อๆกัน ในโลกออนไลน์

 

http://www.nationchannel.com/main/programs/One_World/20130827/378382872/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อนๆทุกท่าน ขอบคุณทุกข่าวสารครับ :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความหวัง ...

ขึ้นอยู่กับปรากฎการณ์ของความหวัง

สิ่งที่ทำให้มนุษย์สิ้นหวังทุกวันนี้

ไม่ใช่ความกดดันของความเป็นจริง

แต่เป็นการสูญสิ้นของความฝันต่างหาก

 

Norman Cousins 1915 – 1990

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮ้อ....ดูลิเวอร์พูล แล้วเหนื่อยใจ....

เข้าเรื่องดีกว่า.....

 

ทองขึ้นมาช่วงนี้...ไม่รู้ว่าจากสาเหตุออปชั่นหรือสงครามกันแน่....

เรื่องของซีเรียช่วงนี้เพื่อนๆจับตาดูกันให้ดีนะครับ...

รัสเซีย จีน ออกหน้าเต็มที่....การที่ เมกาจะใช้ UN นำหน้าเป็นข้ออ้างถ้าจะลำบาก....

เนื่องจาก 2 ชาติสมาชิกถาวร คงจะต้องขอวีโต้แน่ๆ...

 

ดังนั้น..เมกาต้องออกโรงโดยไม่สามารถใส่หัวโขนของ UN

รัสเซีย จีน ก็รู้ว่า...เมกาจะจัดการกับซีเรียเพื่อเป้าหมายอะไร....

 

ทางอังกฤษเองก็แสดงท่าทีว่าจะหนุนเมกาเต็มที่...

แต่ยังไม่กระเหี้ยนกระหือเท่าฝรั่งเศส..

เกมส์นี้มันมีเบื้องหลังแน่นอน....

จีน รัสเซีย คงไม่ยอมเรื่องคงจะไม่สงบสุขเป็นแน่....

จับตาดูกันไว้ให้ดีนะครับ....มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย....

มันมีผลกระทบต่อเรามากกว่ารัฐบาลเรากับฝ่ายค้านอีกนะครับ....( แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับคนไทยทุกคน )

ถูกแก้ไข โดย Phormaew

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นึกถึงเกาหลีเหนือ ลุงแซมฮึ่มๆ แต่ก็ไม่ลงมือ

ผลการตรวจสอบอาวุธเคมียังไม่มี เมกาจะอ้างข้อหาอะไรที่จะโจมตีตอนนี้ก็อ่อนเกินไป

ซีเรียก็รู้ทัน ไม่ยอมให้เข้าไปตรวจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทอง99.99ปลอมที่เอามาขายที่โคราช ไม่กี่วันก่อนที่เจ้าของร้านทองส่งข่าวมาให้ดู นน.ชั่งก่อนเป่าไฟเช็ค 1000 กรัม(ขอบคุณเฮียง้วนร้านไทยหยูล้งมากคร้าบที่ส่งข่าว)

ข่าวว่าข้างในไม่ใช่ทังสเตนแต่เป็นทองที่%ต่ำๆครับ (ถ้ามีรายละเอียดมากกว่านี้ เดี๋ยวผมจะตามเอามาลงให้ครับ)

post-23-0-84654100-1377668204_thumb.jpg

 

post-23-0-72030300-1377668213_thumb.jpg

 

post-23-0-22706600-1377668222_thumb.jpg

 

post-23-0-99440600-1377668229_thumb.jpg

 

post-23-0-77761800-1377668237_thumb.jpg

 

post-23-0-33762900-1377668246_thumb.jpg

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

UN Official, Syrian Rebels Used Sarin Nerve Gas, Not Assad’s Army

 

 

http://www.livetradingnews.com/un-official-syrian-rebels-used-sarin-nerve-gas-assads-army-6636.htm

 

อ้าว แบบนี้แล้วเมกาจะหาเรื่องบุกได้ยังไงว๊ะ หรือว่าใหนๆก็ใหนๆยกพลมาแล้วก็บุกซะเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...