ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

20131009els120.jpg

we analyzed the import data tracked by the Hong Kong Census & Statistics Department and found that 375 tonnes of gold has been imported from Switzerland over the first 6 months of this year.

We also discovered that the UK has sent another 59 tonnes directly to Hong Kong over the same period. If we combine these two amounts, the total gold outflow arriving from the UK is 434 tonnes.

Intrigued, we kept digging and found that Hong Kong, again in the first 6 months of this year, has imported another 238 tonnes from 3 of the world’s largest gold producers, Australia (#2), the U.S. (#3), and South Africa (#5). These countries exported 81, 84, and 73 tonnes of gold to Hong Kong respectively.

Let’s put this into perspective. If you were to annualize these figures and then compare them to each countries annual production, their combined exports to Hong Kong are equivalent to a whopping 73% of their cumulative annual production!

Concluding our investigation, we found that 22 other countries have exported an aggregate 135 tonnes to Hong Kong.

A tally of the above exports shows that a staggering 807 tonnes of gold has been imported into Hong Kong in the first 6 months of this year. This is an extraordinary number and when annualized, represents roughly 65% of global annual mine supply.

 

http://www.24hgold.com/english/news-gold-silver-a-giant-sucking-sound-from-the-east--gold-miners-weekly.aspx?article=4508494726G10020&redirect=false&contributor=RJ+Wilcox&mk=1

 

 

จีนก็น่าจะเป็นคนร่วมทุบทองด้วย(แบบที่ฮาร์วี่ย์ ออร์แกน พูดถึง) แต่ทุบเอาของ ไม่ใช่ทุบให้ดอลล์ดูดีแบบเมกา

ตอนจบของเรื่องจีนใช้ทองหนุนหยวนแบบที่คาดกันอย่างแน่นอน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทุกรัฐบาลทั่วโลก มีการทำตัวเลขโกหกหมด

ชอบตรงจริงๆ :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

2015 ไม่นานเลยครับ แผล็บเดียวแหละ เชื่อสิ

แต่รอสตาร์ท อาจจะใช้เวลา 2 ปี พอๆ กัน

 

จีนเล่นหมากล้อมเก่งที่สุด เกาหลีเหนือเงียบไปโดยไม่มีเอฟเฟค น่าจะเพราะเบื้องหลังดี

แต่พอหาเรื่องซีเรียยาก ตอนนี้เริ่มแพลมๆ ออกมาอีกแล้ว

 

จริงๆ แล้วตีความคำพูดท่านนายกอาจหมายถึง หลุด 1200 ก็ได้ อิอิ แปลแบบคนรอซื้อ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenalการลงทุนด้วยระบบ

38 วินาทีที่แล้ว

 

ทองคำ 1307$ อยู่ขาลงเต็มตัว

1238819_604387816274469_1452887941_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นราคาแล้วอยากเอามือซุกหีบจริงๆ ให้ดิ้นตายเถอะโรบิ้น 5555 :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยามทองลง เอาเรื่องขำขันมาคลายเครียดหน่อยครับ :17

 

 

post-23-0-46105600-1379056182_thumb.jpg

 

 

post-23-0-36027500-1379056292_thumb.jpg

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Initial Jobless Claims Plunge Due To "Computer Upgrades" And "Faulty Reporting By States"

 

 

it's a bullshit number, it is made up, and now even the BLS admits it.

Next we await for the unemployment rate to hit -100% as the BLS upgrades from Windows 3.11 to Vista.

(ถูกกัดอย่างเจ็บปวดจริงๆ ว่างวดหน้าการจ้างงานคงติดลบ 100% เพราะอัพเกรดจากวินโดว์ 3.11 ไปเป็นวิสต้า 555 แต่คนมีทองเศร้าจัง ประกาศมาทุบโดยเฉพาะเลย)

http://www.zerohedge...eporting-states

 

 

555 มาอีกแล้วครับ ทองที่ถูกทุบเมื่อวานเพราะตัวเลขขอรับสวัสดิการตกงานลดลงอย่างน่าใจหาย

เป็นตัวเลขโกหกทั้งสิ้น อ้างว่าอัพเกรดคอมพ์ ตัวเลขเลยเพี้ยน

(กระทรวงแรงงานออกมายอมรับว่าถึงจะรู้ว่าตัวเลขไม่จริงก็ประกาศส่งเดชออกมา)

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Initial Jobless Claims Plunge Due To "Computer Upgrades" And "Faulty Reporting By States"

 

 

it's a bullshit number, it is made up, and now even the BLS admits it.

Next we await for the unemployment rate to hit -100% as the BLS upgrades from Windows 3.11 to Vista.

(ถูกกัดอย่างเจ็บปวดจริงๆ ว่างวดหน้าการจ้างงานคงติดลบ 100% เพราะอัพเกรดจากวินโดว์ 3.11 ไปเป็นวิสต้า 555 แต่คนมีทองเศร้าจัง ประกาศมาทุบโดยเฉพาะเลย)

http://www.zerohedge...eporting-states

 

 

555 มาอีกแล้วครับ ทองที่ถูกทุบเมื่อวานเพราะตัวเลขขอรับสวัสดิการตกงานลดลงอย่างน่าใจหาย

เป็นตัวเลขโกหกทั้งสิ้น อ้างว่าอัพเกรดคอมพ์ ตัวเลขเลยเพี้ยน

(กระทรวงแรงงานออกมายอมรับว่าถึงจะรู้ว่าตัวเลขไม่จริงก็ประกาศส่งเดชออกมา)

ตรูว่าแล้ว มานต้องเล่นมุขนี้อีก จะเล่นกันถึงเมื่อไหร่หว่า :Dh

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตรูว่าแล้ว มานต้องเล่นมุขนี้อีก จะเล่นกันถึงเมื่อไหร่หว่า :Dh

ดูแบบนี้แล้วนะ ผมว่าเกือบทุกตัวเลขที่ประกาศออกมาต้องผ่านการตกแต่งแล้วทั้งนั้น :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

3 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bangkok

ลุงมาร์ค ฟาเบอร์ ปรับสัดส่วนลงทุนแล้ว

-----------------------------------------

 

วรวรรณ ธาราภูมิ CEO กองทุนบัวหลวง

13 กันยายน 2556

 

จากเดิม ลุงมาร์ค แบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์หลักๆ ทั่วโลกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 25% เท่าๆ กัน ด้วยเหตุผลว่าไม่รู้ว่าอะไรจะดี/ไม่ดี เลยลงเท่าๆ กันใน หุ้น / ทองคำ / อสังหาฯ / พันธบัตร-ตราสารหนี้-เงินสด

 

เหตุที่ลุงมาร์คให้ก็คือ ไม่รู้ว่าอะไรจะดี/ไม่ดี ไม่มีใครทายถูกว่าตัวไหนจะมาวิน เลยกระจายการลงทุนไว้

 

มาวันนี้ ล่าสุด ลุงมาร์ค ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีกรุงเทพธุรกิจ ที่ป๋าทนง ขันทอง สัมภาษณ์ว่า สัดส่วนใหม่คือ ส่วนละ 20% เท่าๆ กัน ใน หุ้น / ทองคำ + แร่เงิน / อสังหาฯ / พันธบัตร-ตราสารหนี้ / เงินสด

 

ข้อสังเกตุมี 2 อย่าง

--------------------

 

1. ลุงมาร์คเริ่มทุนในแร่เงิน/เหรียญเงิน/เงินแท่ง (เหมือนน้อง Ran) และจัดให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกับทองคำ

 

2. ลุงมาร์ค แยกเงินสดออกมาจากกลุ่มตราสารหนี้และพันธบัตร โดยถือเงินสดไว้ 20% ตรงนี้พี่เดาเองว่าเพราะลุงมาร์คต้องการเก็บสำรองไว้หาโอกาสลงทุนระยะสั้นในสินทรัพย์ที่มีราคาน่าลงทุนในที่ต่างๆ ในโลก

 

นอกจากนี้ ลุงมาร์ค ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดๆ ว่า แม้ทองคำจะเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ให้อะไรมากในระยะยาวเพราะไม่ได้ช่วยสร้างธุรกิจใหม่ ไม่ได้ให้ดอกผลหรือเงินปันผล และไม่ได้ให้แม้กระทั่งกระแสเงินสด แต่ลุงมาร์ค แนะนำให้ลงทุนในทองคำเอาไว้บ้างเพื่อทดแทนเงินสด/เงินฝากในธนาคาร เพราะลุงมาร์ค มองเห็นความเสี่ยงของระบบธนาคารกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

อาจจะเป็นเพราะปู่ของลุงมาร์ค เลยเล่าเรื่องในอดีตก็ได้

 

เดี๋ยวจะเอาเรื่อง ปู่มาคิยง ของลุงมาร์ค ลงให้อ่านอีกครั้ง เพราะหลายคนคงลืมไปแล้ว พี่เคยเขียนเมื่อ ธค 2554 ค่ะ

 

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

3 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bangkok

ชีวิตนี้เป็นหนี้ทองคำ

---------------------

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

13 กันยายน 2556 (เคยเขียนไว้เมื่อ 18 ธันวาคม 2554)

 

ลุงมาร์ค ฟาเบอร์ เจ้าของฉายา Dr.Doom เคยเล่าเรื่องของ Marion Szablicki ผู้เป็นปู่ของลุงมาร์ค และเราจะเรียกท่านว่า “ปู่มาคิยง” ซึ่งหากเป็นคนจีนเราก็คงจะเรียกท่านว่า ย้งเล่ากง

 

ลุงมาร์ค เล่าว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของลุงเริ่มตั้งแต่ลุงยังเป็นลูกเจี๊ยบ และครูคนแรกก็คือ ย้งเล่ากง นี่เอง

 

น่าสนใจจริงๆ เพราะปู่มาคิยง หรือ ย้งเล่ากง สอนลุงมาร์ค เรื่อง “คุณค่าของทองคำ” เป็นเรื่องหลักเลยละ

 

ทำให้นึกไปถึงคุณทวดของเราเองที่บ้า นอยุธยา เพราะตอนเรายังเป็นลูกเจี๊ยบ คุณทวดจะจับไปนั่งตัก ปั้นข้าวสุกร้อนๆ เป็นคำเล็กๆ ใส่ปาก แล้วตามด้วยเกลือเม็ดเล็กๆ ให้แทะ ในระหว่างนั้น คุณทวดก็จะเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) เล่าเรื่องชาดกเก่าๆ แบบสุวรรณสาม ยอพระกลิ่น เล่าเรื่องประวัติบรรพบุรุษ และเรื่องการรู้จักหากับวิธีเก็บรักษาเงินโดยสั่งสอนให้สะสมเป็นทองคำไว้เผื่อเกิดสงคราม เพราะค่าเงินจะลดฮวบฮาบ แต่ค่าทองตรงกันข้าม

 

ใครที่เคยเหยียดหยาม ดูหมิ่น ว่าคนโบราณเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี ก็จงคุกเข่า เอาหัวไปโขกพื้นแรงๆ พร้อมกับพูดว่า ผู้น้อยสมควรตายๆๆๆ ได้แล้ว

 

ลุงมาร์ค บอกว่า ในช่วงบั้นปลายชีวิตของปู่มาคิยง ปู่รู้สึกว่าโลกนี้มีหนี้มากไป และเราทุกคนกำลังเดินไปสู่อนาคตที่มืดมนยากลำบากเหมือนกับที่ปู่เคยผ่านมาในยุคที่มีแต่เงินกระดาษอันไร้ค่า มีสงครามทั่วทุกที่ ในขณะที่ทองคำเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

 

ปู่มาคิยง บอก ลุงมาร์ค ว่า “ผู้อยู่รอดมาได้ควรเตือนคนรุ่นหลังว่า “ใครก็ตามที่ละเลยบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ก็เชิญทำไปตามลำบากด้วยความเสี่ยงของเขาเอง”

 

ปู่ของลุงมาร์คเล่าเรื่องรัสเซียบุกเข้ายึดโปแลนด์ในวันที่ 17 กันยายน 1939 และภายใน 1 ปีหลังจากนั้น คนโปลิชหากไม่ถูกจับส่งไปทำงานหนักที่แคมป์แรงงาน ก็จะถูกจับส่งไปตายหยังเขียดที่คาซัคสถานกับไซบีเรีย

 

อืม ... ล้างเผ่าพันธุ์ของแท้เลยละ หากจะพูดว่าอาชญากรรมอย่างเดียวในสมัยนั้นคือการเกิดมาเป็นโปลิช ก็ไม่ผิดหรอก ซึ่งเป็นเพราะชาวโปลิช เป็นนักรบที่เกรียงไกร กล้าหาญ จนขึ้นชื่อมาก ทำให้รัสเซีย ต้องการกำจัดให้กำลังอ่อนแอลง จึงได้ประหารชีวิต หรือส่งไปตายนอกประเทศโปแลนด์

 

และเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง รัสเซียก็ไม่เคยคืนบ้าน ที่ดิน ให้คนโปแลนด์เลย แถมในปี 1943 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โปแลนด์ตะวันออกก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอยู่ดี

 

ในช่วงสงคราม ค่าของเงินกระดาษอ่อนแอและเปราะบางมาก ยิ่งประเทศใดแพ้สงคราม ค่าเงินของประเทศนั้นก็ไม่เหลือ ซึ่งลุงมาร์คเล่าว่ามันเกิดขึ้นกับปู่มาคิยงหรือย้งเล่ากงผู้อาศัยอยู่ทางโปแลนด์ตะวันออกในปี 1939

 

ปู่มาคิยง เล่าให้ลุงมาร์คฟังว่า ......

 

“ในวันที่ 18 กันยายน 1939 (1 วันหลังรัสเซียยึดโปแลนด์) ปู่ได้รู้ว่าข่าวลือที่รัสเซียจะเข้ายึดโปแลนด์ตะวันออกเป็นเรื่องจริง ทั้งที่ก่อนหน้านั้น 3 สัปดาห์เราเพิ่งถูกเยอรมันนีเข้าตี ทวดโดนเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปต่อสู้ป้องกันประเทศตั้งแต่เยอรมันนีเข้าบุก แต่เมื่อรัสเซียเข้ายึดได้หลังจากนั้น เขาก็บอกพวกเราทั้งหมดที่โดนเกณฑ์ทหารไปรบกับพวกเยอรมันให้กลับบ้าน ปู่มีเมียกับลูกสาว 3 ขวบที่ต้องไปปกป้อง จึงรีบเดินเท้า 40 กิโลวันเดียวรวด เพื่อกลับหมู่บ้านที่โปแลนด์ตะวันออกทันที ด้วยความเป็นห่วงลูกเมีย”

 

“บ้านเราอยู่ใกล้ชายแดนรัสเซียซึ่งพวกมันจะเข้ามาถึงได้ในเวลาไม่นานเลย แม้ว่าปู่จะเป็นแค่คนใช้แรงงานแต่เมียของปู่มีฐานะดีกว่า เราจึงมีทองคำกับเพชรนิลจินดาของครอบครัวเธอไม่น้อย ปู่รีบขุดหลุมเอามันไปซ่อนไว้ให้ปลอดภัย เพราะปู่รู้ว่าเงินสกุล Zloty ของเราจะพังทลาย และทองคำจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นเงินตราได้ ซึ่งต้องเก็บไว้ใช้เพื่อดำรงชีวิตครอบครัวของเรา

 

นี่ก็เพราะปู่จำได้ไม่ลืมเลยว่าในตอนเด็กๆ โปแลนด์เคยเจอภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมาแล้วในปี 1923 แล้วตามมาติดๆ ด้วยภาวะเงินเฟ้อแบบ Hyperinflation ที่เยอรมัน ซึ่งทำให้พ่อกับพี่น้องของปู่และปู่เองต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับอาหารด้วยสินค้าอื่นหรือทองคำเพราะเงินกระดาษไม่มีค่าเลย คนขายไม่ยอมรับ ทองคำได้รับการยอมรับมากที่สุดเพราะมีค่าสูงและพกพาไปแลกเปลี่ยนสินค้าได้ง่าย

 

พ่อของปู่เคยเล่าเรื่องคล้ายๆ กันที่เคยมีประสบการณ์สมัยก่อนปฏิวัติฝรั่งเศสที่เกิดเงินเฟ้อรุนแรง ก็ได้พ่อของปู่นี่หละ ที่สอนว่า ทองคำเป็นเงินตราเพียงสกุลเดียวที่ไม่มีเส้นแบ่งของประเทศ”

 

 

“แล้วกองทัพรัสเซียก็เข้ามาถึงหมู่บ้านเราใน 2 วันหลังจากนั้น มันก็โชคดีจริงๆ ที่ปู่เกิดในไซบีเรียตะวันออก และเคยเป็นนักมวยในรัสเซียมาหลายปี เพราะมันทำให้ปู่พูดภษารัสเซียได้สบายๆ และปู่จำได้ไม่ลืมเลยว่าในช่วงปฏิวัติรัสเซียก่อนหน้านั้น ใครที่ไม่ใช่พวกมันหรือดูมีการศึกษา มีชาติตะกูลที่ดีกว่า (คงจะแบบอำมาตย์บ้านเรา) จะตกอยู่ในอันตรายจากผู้ร่วมปฎิวัติรัสเซียที่โกรธแค้น ชิงชัง ขนาดไหน”

 

“ปู่จึงสื่อสารกับทหารรัสเซียหลายคนเพื่อหาทางออกให้กับชะตากรรมของพวกเรา แล้ว 2 สัปดาห์ถัดมา พ่อตาของปู่ซึ่งเพิ่งเกษียณจากการเป็นทหารโปแลนด์ก็ถูกจับไป เราไม่ได้พบท่านอีกแล้ว และคาดเดาได้ว่าท่านคงถูกพวกรัสเซียประหารชีวิตไปพร้อมๆ กับข้าราชการชาวโปแลนด์อีกหลายพันคน ปู่ต้องรีบให้แม่ยายอพยพออกไปทันที แล้วเราก็ไม่ได้พบท่านอีกเลย”

 

“ฤดูหนาวมาถึงพร้อมกับความหนาวเย็นที่สุดและการขาดแคลนอาหารกับสินค้าต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิต มันมาพร้อมกับข่าวว่าพวกรัสเซียจะจับคนโปลิชไปโยนทิ้งนอกแผ่นดินของ เรา ในเดือนกุมภาพันธุ์ 1940 ชาวโปแลนด์ที่เป็นตำรวจ เจ้าของที่ดิน และผู้มีการศึกษามากมาย พร้อมญาติๆ โดนจับตัวไปทิ้งนอกประเทศในดินแดนที่ยากลำบาก

 

แล้วเรื่องนี้ก็มาถึงบ้านเราในกลางดึกที่มีทหารรัสเซีย 4 นายพร้อมอาวุธสงคราม มาเคาะประตูบ้านปู่ ปู่ต้อนรับพวกเขาอย่างสุภาพด้วยภาษารัสเซีย แต่พวกเขาก็สั่งให้ปู่ใส่เสื้อโค้ทและตามพวกเขาไป ปู่ก็ทำตามโดยดี และโดนซักฟอกด้วยคำถามมากมาย”

 

“โชคดีจริงๆ ที่ 1 ในทหาร 4 คนที่มาเอาตัวปู่ไปนั้น เป็นคนที่ปู่วิสาสะด้วยหลายครั้งใน หลายๆ เดือนที่ผ่านมา ปู่จึงไม่โดนฆ่า และได้รับคำตัดสินว่า เนื่องจากปู่เกิดในไซบีเรีย พูดรัสเซีย และเป็นคนไม่มีการศึกษาเหมือนพวกเรา เขาจึงปล่อยให้กลับไปบ้านก่อน แล้วทหารคนนั้นก็มาจับข้อศอกปู่แล้วกระซิบว่า กลับไปหาครอบครัวซะ มาคิยง เตรียมตัวให้ดีเพราะพวกคุณจะถูกส่งไปไซบีเรียในวันหลัง”

 

“ปู่โกยแน่บกลับบ้านทันที แล้วขุดเอาทองคำกับเพชรนิลจินดาออกมาในช่วงค่ำ แล้วเอาเหรียญทองคำอันเล็กวางเรียงบนพื้นในรองเท้าบูธ เอาหนังปูทับอีกทีจะได้เดินไม่เจ็บ แล้วเอาเหรียญทองคำขนาดใหญ่ไปใส่ในส้นรองเท้า เหรีญทองคำกับสร้อยทองหลายเส้นที่เหลือซ่อนไว้หลายๆ ตำแหน่งในเสื้อโค้ทตัวใหญ่อย่างระมัดระวังไม่ให้ตรวจเจอได้”

 

“หลายวันหลังจากนั้น พวกมันมาเคาะประตูบ้านตอนตีสี่ บอกให้เราขนของและรีบอพยพไปไซบีเรียภายใน 15 นาทีเท่านั้น โชคดีที่นายทหารคนนั้นกระซิบบิกไว้ก่อน และตอนนี้บ้านเรา ที่ดินเรา ทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังอยู่ในนั้นก็ยังกลายเป็นทรัพย์สินของพวกรัสเซียจนทุกวันนี้”

 

“เมียและลูกสาว 3 ขวบ กับปู่ ถูกจับใส่รถบรรทุกรวมกับคนอื่นๆ ที่มีชะตากรรมเดียวกัน มันพาเราไปสถานีรถไฟเพื่อส่งไปไซบีเรีย หลังจากวันนั้นพวกเราก็ไม่เคยพบพ่อแม่พี่น้องอีก และไม่เคยกลับไปเหยียบแผ่นดินโปแลนด์อีกเลย ปู่ดีใจที่มันไม่ได้ตรวจเสื้อโค้ทกับรองเท้าของปู่ เพราะทองคำเล็กๆ น้อยๆ ที่ปู่ซ่อนไว้มันจะช่วยให้เรารอดตายได้”

 

“รถไฟมาถึงในหลายชั่วโมงต่อมา พวกเราถูกจับยัดไปในขบวนตู้ขนฝูงสัตว์ ที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปถึงไซบีเรียใน 3 สัปดาห์ และนรกมีจริง ตู้ขนฝูงสัตว์ที่แออัดแน่นเอี้ยด ไม่มีห้องน้ำ พอ 2-3 วันที พวกมันก็มาให้ขนมปังแข็งโป๊กกับน้ำนิดหน่อย หลายคนตายไปแล้ว แต่ก็แค่ถูกโยนศพทิ้งออกไปนอกหน้าต่างไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่ หรือเด็ก ไม่มีสองมาตรฐาน

 

ปู่ร้องไห้ครั้งสุดท้ายในการเดินทางครั้งนั้นเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งคลอดเด็กทารกออกมา ไม่นานเด็กก็ตาย แล้วทหารก็เอาศพเด็กโยนทิ้งเหมือนเศษขยะ”

 

“เราถูกต้อนลงที่คาซัคสถานใกล้ชายแดนไซบีเรีย ที่นี่จะเป็นแหล่งที่อยู่ใหม่ของเรา เพราะชาวโปแลนด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเนื่องจากโดนโทษประหารให้หมด เราหนาวจนจะแข็งตายเพราะอุณหภูมิที่ -20 องศาเซลเซียส คนท้องถิ่น 1 ครอบครัวโดนสั่งให้รับพวกเราเข้าไปอยู่ด้วย 3-4 ครอบครัวต่อ 1 บ้าน ทั้งๆ ที่เขายากจนมาก แต่พวกคนรัสเซียท้องถิ่นเหล่านั้นก็ดีกับพวกเราเท่าที่จะทำได้ภายใต้สถานการณ์ขณะนั้น

 

“ทองคำที่ปู่ซุกซ่อนมานั่นแหละที่ทำให้เรารอดมาได้ ปู่ใช้มันแลกกับที่อยู่ที่ดีขึ้น แลกเป็นเหรียญรูเบิ้ลแล้วใช้มันไปซื้ออาหารมาตุนไว้ตลอดฤดูหนาวอันทารุณ ปู่ซื้อเครื่องมือใช้สอยที่จำเป็น ใช้มันรับจ้างเลื่อยไม้ ซ่อมบันได และทำงานให้คนอื่นๆ เพื่อแลกกับเงินรูเบิ้ล หรืออาหาร

 

บางวันปู่ต้องออกไปทำงานโดยไม่แตะอาหารเลยเพราะต้องเก็บให้ลูกเมียได้มีประทังชีวิต

 

เราผ่านฤดูหนาวจนมาถึงฤดูร้อน ปู่เกือบตายเพราะมาเลเรีย และเมียปู่ก็เกือบตายจากไทฟอยด์ แต่ในเมื่อเรายังมีทองคำ เราก็เลยเข้าถึงยาได้ มันเป็นตามที่ปู่คิด คือเงิน Zloty ของโปแลนด์ไม่มีใครรับ รูเบิ้ลรัสเซียถึงจะใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรดีเท่าทองคำ”

 

“แล้วในปี 1941 พวกเราทั้งหมดก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระโดยไม่รู้เหตุผล (เยอรมันนีโจมตีรัสเซียวันที่ 22 มิถุนายน 1941 แล้วทำข้อตกลงให้ชาวโปแลนด์เป็นอิสระจากพวกรัสเซีย แต่ต้องไปเป็นทหารในเปอร์เซีย”

 

“ปู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทหารรัสเซียบอกปู่ว่า .... มาคิยง รีบพาครอบครัวไปขึ้นรถไฟด่วนที่สุดเลย ก่อนที่พวกนั้นจะเปลี่ยนใจ .... ปู่พาครอบครัวออกจากที่นั่นในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลายๆ คนที่โดนนำมาทิ้งที่นี่ล้วนอ่อนแอเกินกว่าจะเดินทางได้อีกแล้ว เขาเลยตัดสินใจอยู่ต่อ พอมาถึงสถานีรถไฟ ปู่ถึงรู้ว่าเขากำลังจะจัดตั้งกองกำลังโปแลนด์เพื่อส่งไปรบอีก แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายพวกเราบอกว่ารถไฟเต็มหมดแล้ว”

 

“ปู่จึงเดินไปหาเขาอย่างเงียบๆ และเสนอทองคำให้ 3 เหรียญทองเพื่อแลกกับที่ว่างในขบวนรถสำหรับเรา 3 คน เขาตกลง และเมื่อรถไฟมาถึง เขาค่อยๆ พาเราไปที่อีกด้านของขบวนรถ บอกกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟว่ามีคำสั่งพิเศษให้พาพวกนี้ 3 คนขึ้นไป เราจึงรอดพ้นจากคาซัคสถานมาได้ และอยู่ในกลุ่มชาวโปแลนด์หลายพันคนที่ยินดีจะจากคาซัคสถานเพื่อลงใต้อย่างเร่งด่วนแล้วไปเข้าร่วมกับกองทัพโปแลนด์ที่เปอร์เซีย

 

“เราข้ามทะเลแคสเปียนด้วยเรือ มาถึงเปอร์เซีย (อิหร่าน) เป็นพวกแรกๆ ซึ่งเป็นโชคดีจริงๆ เพราะพวกที่มาทีหลังต้องเดินเรือถอยกลับไปรัสเซียมหาโหดอีกครั้ง เนื่องจากโควต้ากองทัพเต็มแล้ว พวกเราได้รับการต้อนรับจากชาวเปอร์เซียอย่างอบอุ่น เขารักษาพยาบาลพวกเราจนฟื้นฟูเป็นปกติ ให้เราไปอยู่ในบ้านเขา ปู่พบว่าชาวเปอร์เซียเป็นคนใจดีมีเมตตาที่สุดในโลก

 

“ปู่เข้าร่วมในกองทัพของนายพล Anders ชีวิตเริ่มมีความหวังบ้างแล้ว ลูกเมียถูกส่งไปอยู่ที่อินเดียเพื่อความปลอดภัย ปู่ไม่ได้พบพวกเขาเลยตลอด 6 ปีในกองทัพ ไม่รู้กันเลยว่าใครจะเป็นอย่างไรกันบ้าง อยู่หรือตายก็ไม่รู้

 

“ปู่รบในอาฟริกาและอิตาลี และทำวีรกรรมไว้ที่ Monte Cassino ไม่เคยเจอเลือดมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แล้วเราก็ตัดสินใจเข้าตีเมือง Abbey ที่เยอรมันยึดไว้ ปู่ภูมิใจเหลือเกินที่เป็นชาวโปลิช ได้เข้าร่วมในกองทัพโปแลนด์ที่กล้าหาญและเก่งกาจที่สุดในวันนั้น”

 

“สงครามสิ้นสุด แล้วปู่ก็ตามไปค้นพบลูกเมียที่อินเดีย ซึ่งด้วยเหตุที่พวกเธออยู่อินเดียจึงทำให้พวกเธอต้องถูกส่งกลับไปอยู่ใกล้ๆ ลอนดอน ปู่จะตามไปเมื่อจบภาระกิจในกองทัพ แล้วปู่ก็ทำได้ใน 2 ปีถัดมา มันมหัศจรรย์ที่สุด และขอบคุณ วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ไม่ยอมให้ใครผลักดันพวกเราชาวโปลิชออกไปไหนโดยไม่เต็มใจอีกแล้ว พี่น้องผู้ชายของปู่ทุกคนตายในสงครามป้องกันโปแลนด์จนหมดสิ้น

 

หากปู่ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากพ่อเรื่องเงินเฟ้อ สงคราม กับคุณค่าของทองคำ เราคงไม่รอด

 

ปู่และลูกเมียเป็นหนี้ชีวิตต่อเหรียญและสร้อยคอทองคำเพียงหนึ่งกำมือ แล้วหลายวันก่อนที่พวกเราจะอพยพจากอังกฤษเพื่อไปอยู่ออสเตรเลียตามความต้องการของเราเอง ปู่ก็ได้รับโทรศัพท์ว่า ... มาคิยง เรามีที่ว่างให้พวกคุณในอเมริกา สนใจป่ะ ...

 

ปู่บอกว่า... เอาสิ .. เขาตอบว่ามาเลย เร็วที่สุด ... ปู่วิ่งเต็มสปีดไปตลอดทางเลย แล้วเราก็เลยได้มีชีวิตที่ดีที่สุดในอเมริกา”

 

หมายเหตุ : Victoria Szablicki ภริยาของ มาคิยง เสียชีวิตในวันที่ 5 มิถุนายน 2011 หลังจากนั้น 11 วัน ปู่มาคิยง ของลุงมาร์ค ฟาเบอร์ ก็เสียชีวิตตามไปในวัย 100 ปี หลังจากได้รับเหรียญกล้าหาญอันสุดท้ายที่ทรงเกียรติยิ่งจากรัฐบาลโปแลนด์ คือ Siberian Cross ไปในวัย 98 ปี เขาทั้งสองคนมีชีวิตสมรสร่วมกันยาวนานถึง 76 ปี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดูแบบนี้แล้วนะ ผมว่าเกือบทุกตัวเลขที่ประกาศออกมาต้องผ่านการตกแต่งแล้วทั้งนั้น :uu

 

บอกแล้ว อาคุงหมอ. เลิกดูข่าวมั่วๆ กับตัวเลขเน่าๆพวกนี้เถอะ ไร้สาระทั้งนั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งแซวกันเองครับ

 

post-23-0-90223100-1379126196_thumb.jpg

 

มีคนเม้นท์แซวว่า "โห ซีเรียมันทำกับประชาชนและบ้านเมืองมันได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไป ไปบุกมัน แต่ เอ๊ะ!! นี่มันดีทรอยท์ นี่หว่า เฮ้ย ! หยุดก่อน ไม่ต้องบุก" :53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอกแล้ว อาคุงหมอ. เลิกดูข่าวมั่วๆ กับตัวเลขเน่าๆพวกนี้เถอะ ไร้สาระทั้งนั้น

 

แหะๆ ผมก็ไม่ได้ดูเอามาเป็นสาระอะไรหร็อกครับ เพราะรู้ๆอยู่ว่ามันโกหก อ่านเอามันเฉยๆ ว่าเจ้ามือมันเล่นแบบนี้

ผมไม่ได้ซื้อขายตามรอบหรือตาม TA ผมซื้อแล้วก็เก็บเอาไว้เฉยๆเท่านั้นเอง รอขายเมื่อต้องการใช้เงินเท่านั้น :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...