ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ที่ผมเข้าใจนะครับ (ไม่ได้ขัดแย้งนะครับ) ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นเหมือน input ตัวรับข้อมูล หรือเหตุทีทำให้เกิดการปรุงแต่ง (ไม่รู้จะเปรียบเทียบไงเลยเอาคอมมาคุยละกัน อิอิ ) แต่ผัสสะ คือการมากระทบอย่างที่ว่า อาจบอกว่าเป็นปัจจัย ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ วิญญาณขันธ์ เปรียบเทียบเหมือน น้ำหนึ่งแก้ว ในน้ำมีตะกอนอยู่หากชีวิตจิตใจเราสงบนิ่ง ตะกอนก็ไม่ฟุ้ง แต่เมื่อมีผัสสะขึ้นมา (การกระทบกระเทือนจากภายนอก) ตะกอนก็จะฟุ้งกระจายทำให้ใจเราไม่สงบ ครับ (ผิดยังไงอย่าว่ากันนะครับ มือใหม่ครับ) :32

 

เรื่องจิตเป็นเรื่องละเอียดครับ อาศัยความคิดความเข้าใจไม่ได้

หากปฏิบัติจนจิตสงบ ละเอียดพอ จะแยกเวทนา เห็นการเกิดดับ เวทนาได้ชัด

หากจิตสงบยิ่งขึ้น จะเห็นสัญญา สังขาร การเกิด ดับ ของสัญญา สังขารได้ชัด ว่าเป็นต่างหากจากจิต

ส่วนวิญญาณขันธ์ ครูบาอาจารย์หลวงปู่เทสก์ท่านกล่าวไว้ว่าหากจิตสงบนิ่งจริงๆ จะเห็นการรู้ของวิญญาณขันธ์จากการกระทบได้ชัดที่สุด

 

ผมยังไม่ถึงขั้นที่จะรู้ถึงวิญญาณขันธ์ได้ว่าเป็นอย่างไร เกิดอย่างไร ดับอย่างไร

อาศํยแต่การอนุมานเอาจากเห็นการเกิดดับของเวทนา สัญญา สังขาร เท่านั้น

จึงขอนำคำพูดของครูบาอาจารย์มาอธิบาย

สิ่งใดที่ผมยังไม่เข้าใจก็ต้องยึดคำสอนของครูบาอาจารย์ไว้ก่อน ไม่อาจเอาความรู้สึกของตัวเองซึ่งมีกิเลสเต็มไปหมดเป็นหลักได้ครับ

 

และสิ่งที่อยากจะบอกอีกอย่างก็เพราะเห็นเดียวนี้ หลายๆท่านมักจะใช้ความเห็นตีความเอาตามความเข้าใจเป็นการอนุโลมตามที่คุณหมอเล็กโพส เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง

แต่สำหรับเรื่องบางเรื่อง ผมคิดว่า ความเห็นไม่มีความหมาย เพราะเป็นของจริงแท้ พิสูจน์ได้ด้วยใจ ต้องอาศัยการปฏิบัติใจเท่านั้นครับ

หากอนุโลม มันจะเฉไฉออกนอกทิศนอกทางไปตามความรู้สึก อันจะเป็นโทษภัยแก่ผู้เข้าใจผิดนั้นเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Khanthong

 

ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในDepressionและจะไม่มีวันฟื้นได้

 

Jim Rickards คนวงในผู้แต่งหนังสือCurrency War: The Making of the Next Global Crisis บอกว่าคนส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าสหรัฐฯอเมริกากำลังอยู่ในช่วงวงจรธุรกิจขาลง และคาดการว่าต่อไปเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็ง แรง เมื่อวงจรเข้าสู่ช่วงขาขึ้น แต่ความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องเพราะว่าใช้โมเดลวงจรCyclical Modelเศรษฐศาสตร์ที่ผิด โดยที่ความจริงแล้วสหรัฐฯกำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง เทียบเท่า Depression เป็นDepressionครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1930s

 

Rickards พูดประเด็นสำคัญๆดังนี้

 

1. สหรัฐฯไม่มีวันฟื้นเพราะไม่ปรับโครงสร้าง

 

Rickardsบอกว่าเมื่อมันเป็นDepression มันก็ไม่ใช่วงจรธุรกิจ และมันเป็นสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างจากวงจรธุรกิจที่ในอดีตใช้มาตรการทางการ เงิน ดึงดอกเบี้ยให้อ่อนตัวลงเพื่อแก้ปัญหาได้ พวกนักบริหารเงินกองทุนของโลกตะวันตกเชื่อว่าราคาหุ้นในตลาดหุ้นที่เพิ่ม ขึ้นเป็นตัวชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้น แต่นี้เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่าสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะ Depression เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีวันฟื้นตัวได้ เพราะว่าไม่ได้มีการปรับโครงสร้าง หรือดำเนินมาตรการเข้มๆในการแก้ปัญหาเช่น แก้กฎหมายภาษี แรงงานเคลื่นย้าย กฎระเบียบต่างๆ นโยบายการคลังและอื่นๆ

 

"ผมไม่เห็นปัญหาโครงสร้างได้รับการแก้ไขใดๆเลย เพราะฉะนั้นผมคาดการว่าDepressionจะยังคงดำเนินไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด" Rickards กล่าว

 

 

2. เฟดปั่นทุกตลาดการเงิน

 

ที่ผ่านมาเฟดปั่นตลาดหุ้นผ่านนโยบายดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายในช่วงท้ายของ ปี1990s และปั่นหุ้นให้ขึ้นอีกช่วงกลางของปี2000s ด้วยการพิมพ์เงินและกดดอกเบี้ยต่ำ ไม่ได้มีอะไรเลยยกเว้นการพิมพ์เงิน และมันกลายเป็นฟองสบู่ที่จะจบลงอย่างเลวร้าย แต่ฟองสบู่อาจจะลากไปไกลเกินกว่าที่เราคาดการ คือมันอาจลากยาวไปได้ถึงกลางปีหน้าก่อนที่ฟองสบู่จะแตก

 

3. บริกศ์ ตลาดเกิดใหม่ตุนทอง เตรียมทิ้งเงินดอลล่าร์กระดาษ

 

การพิมพ์เงินของเฟดทำให้ประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่มีปฏิกิริยาโต้กลับ เพราะว่าประเทศพวกนี้ถือดอลล่าร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่เฟดกำลังปั่นดอลล่าร์ ปั่นดอกเบี้ยให้ต่ำติดดิน ปั่นอัตราแลกเปลี่ยน ปั่นทุกๆตลาดในโลกนี้ เพราะฉะนั้นเฟดเหมือนคนเมาที่กำลังขับรถยนต์และชนคนเดินข้ามถนนแล้วโทษคน เดินถนนว่าไม่ดูที่ดูทางให้ดีๆ สถานการณ์ตอนนี้อาจจะเอาไม่อยู่ เพราะว่าเฟดไม่เข้าใจตลาดเกิดใหม่กำลังต้องการมาถือทอง เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อเวลาทุกคนหมดความเชื่อมันในเงินกระดาษ เรากำลังเห็นรัสเซีย จีนกำลังซื้อและตุนทองคำจำนวนมหาศาลผ่านช่องทางที่ไม่ผ่านตลาดทองลอนดอน London Bullion Market Association ประเทศพวกนี้กำลังซื้อเหมือนทองที่ออสเตรเลียตะวันตก เอาทองขึ้นมาร่อนแปรเป็นรูปจากPerth Mint แล้วส่งออกไปเซียง"ทันที วิธีนี้ทำผ่านตลาดลอนดอน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบราคาทอง

 

4. ระบบค่าเงินอิงทองจะมา

 

ในขณะที่ผู้คนกำลังกังขากับเรื่องทองอยู่ Rickardsบอกว่าเมื่อระบบการเงินระหว่างประเทศพังลงมา และถึงเวลาต้องเขียนกฎเกณฑ์ระบบการเงินโลกใหม่ มันจะลงเอยด้วยเหตุผลสำคัญว่าคุณมีทองมากแค่ใหน (ระบบการเงินอิงทองคำ หรือgold standard หรือผูกค่าเงินกับราคาทอง) ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนกำลังตุนเก็บทองกันอยู่ มันเป็นเกมที่เดินในเชิงลึกมาก และมันจะเห็นได้ชัดมากขึ้นในระยะอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

 

(สรุป ผมเห็นคล้ายๆJim Richards บทวิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทยของผมก่อนหน้านี้สืบสาเหตุมาจากการที่ผู้ บริหารประเทศเชื่อว่าสหรัฐฯอยู่ในBusiness Cycleขาลง เดี่ยวก็เป็นขาขึ้น ทั้งๆที่สหรัฐฯไม่มีวันฟื้นและระบบดอลล่าร์กระดาษรอวันล่มสลาย ด้วยเหตุนี้ทั้งคลัง แบงค์ชาติไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการเงินโลก และการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินระหว่างประเทศที่กำลังจะมาถึง ยังเล่นแผ่นเสียงตกร่องเดิมๆ)

 

thanong

 

28/9/2013

<span style="font-size:18px;"><a class="_6i9" href="

rel="theater">

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Khanthong

 

2 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

เฟดติดกับดักตัวเองและเศรษฐกิจเข้าสู่วงจรอุบาทว์แล้ว

 

Richard Koo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของNomuraบอกว่าสหรัฐฯกำลังอยู่ในวงจรอุบาทว์ ของดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และสถานการณ์ดูจะเลวร้ายลงไป ในขณะที่เฟดอยากจะออกจาก QE

 

เขาบอกว่าเฟดโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวเอง

 

Richard Koo ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ10ปี ที่พุ่งขึ้นจาก1.30% เป็น3% ในช่วงที่เฟดบอกว่าจะลดขนาดQE จะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่อ่อนไหวจากดอกเบี้ยสูงเช่นบ้านและรถยนต์

 

นี้เป็นสาเหตุของวงจรอุบาทว์ ที่สหรัฐฯกำลังเผชิญทำให้เฟดไม่กล้าลดขนาดQEเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าดอกจะลดต่อไป และเศรษฐกิจดีขึ้น แต่พอเฟดบอกว่าจะลดQEอีก ดอกเบี้ยจะกลับขึ้นมาสูงใหม่ทำให้กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป็นวงจรอุบาทว์ไป

 

Richard Koo บอกว่าไม่มีประเทศใหนที่มีการอัดสภาพคล่องมากๆแบบนี้อยู่ได้นานเพื่อจะบอก ให้เรารู้ว่ามันเป็นอย่างไร เพราะว่าในที่สุดจะเจอเงินเฟ้อรุนแรงhyperinflation และค่าเงินจะต้องมีการเปลี่ยนระบบ

 

รูปการกำลังแย่ เนื่องจากเศรษฐกิจจะไม่วันฟื้นตัวจริงๆ เพราะว่าภาคธุรกิจและครัวเรือนอยู่ในภาวะที่กลัวตลอดเวลาว่าดอกเบี้ยระยะ ยาวจะสูงขึ้น

 

thanong

28/9/2013

 

 

 

 

 

http://blogs.marketwatch.com/thetell/2013/09/26/richard-koo-says-vicious-cycle-taking-hold-as-fed-faces-qe-trap/

 

 

 

1374983_10201726241631376_53719360_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรื่องจิตเป็นเรื่องละเอียดครับ อาศัยความคิดความเข้าใจไม่ได้

หากปฏิบัติจนจิตสงบ ละเอียดพอ จะแยกเวทนา เห็นการเกิดดับ เวทนาได้ชัด

หากจิตสงบยิ่งขึ้น จะเห็นสัญญา สังขาร การเกิด ดับ ของสัญญา สังขารได้ชัด ว่าเป็นต่างหากจากจิต

ส่วนวิญญาณขันธ์ ครูบาอาจารย์หลวงปู่เทสก์ท่านกล่าวไว้ว่าหากจิตสงบนิ่งจริงๆ จะเห็นการรู้ของวิญญาณขันธ์จากการกระทบได้ชัดที่สุด

 

ผมยังไม่ถึงขั้นที่จะรู้ถึงวิญญาณขันธ์ได้ว่าเป็นอย่างไร เกิดอย่างไร ดับอย่างไร

อาศํยแต่การอนุมานเอาจากเห็นการเกิดดับของเวทนา สัญญา สังขาร เท่านั้น

จึงขอนำคำพูดของครูบาอาจารย์มาอธิบาย

สิ่งใดที่ผมยังไม่เข้าใจก็ต้องยึดคำสอนของครูบาอาจารย์ไว้ก่อน ไม่อาจเอาความรู้สึกของตัวเองซึ่งมีกิเลสเต็มไปหมดเป็นหลักได้ครับ

 

และสิ่งที่อยากจะบอกอีกอย่างก็เพราะเห็นเดียวนี้ หลายๆท่านมักจะใช้ความเห็นตีความเอาตามความเข้าใจเป็นการอนุโลมตามที่คุณหมอเล็กโพส เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง

แต่สำหรับเรื่องบางเรื่อง ผมคิดว่า ความเห็นไม่มีความหมาย เพราะเป็นของจริงแท้ พิสูจน์ได้ด้วยใจ ต้องอาศัยการปฏิบัติใจเท่านั้นครับ

หากอนุโลม มันจะเฉไฉออกนอกทิศนอกทางไปตามความรู้สึก อันจะเป็นโทษภัยแก่ผู้เข้าใจผิดนั้นเอง

 

แหะๆ เรื่องอะไรครับที่ผมโพสต์ :38

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าจะเป็นคุณหมอเล็กโพสครับ

 

ผมเข้าใจผิดครับ ตอนโพสต์เห็นชื่อคุณส้มโอมือขึ้นมาแว๊บๆเลยสับสนไปหน่อย โพสต์แล้วก็ไม่ได้เข้ามาอ่าน พึ่งเข้ามานี่แหละครับ ขอโทษด้วยครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ

:17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

เมื่อวานนี้ เวลา 18:00 น.

 

 

 

เงินหยวนของจีนมีปริมาณ12%ของการค้าโลกแล้ว

 

เมื่อวานผมไปงานเลี้ยงวันชาติจีนที่โรงแรมแชง กรีล่า บังเอิญเจอนายธนาคารจากกสิกรไทยที่ผมรู้จักดี เพราะเคยไปเมืองจีนด้วยกันหลายปีแล้ว เขาบอกว่าเมื่อ3-4ปีมานี้เงินหยวนมีมูลค่าแค่2%ในการค้าโลก แต่ตอนนี้ตัว เลขเพิ่มเป็น12% เติบโตเร็วมาก ทางธนาคารกำลังแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกิจผ่านหยวนมากขึ้น แต่อาจต้องใช้เวลาบ้าง เพราะลูกค้าบางรายอาจจะไม่คุ้น ยังไม่เข้าใจ แต่นายธนาคารคนนี้บอกว่าระบบการเงินจีนเวลาถึงจุดเปลี่ยนจะไปเร็วมาก เหมือนปืนที่อัดกระสุนเต็มแม็ครอวันเหนี่ยวไกยิง

 

เมื่อใช้หยวนมากขึ้น ก็ต้องใช้ดอลล่าร์น้อยลงเป็นธรรมดา

 

 

thanong

28/9/2013

 

 

 

1016183_162323620630687_1065336320_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมเข้าใจผิดครับ ตอนโพสต์เห็นชื่อคุณส้มโอมือขึ้นมาแว๊บๆเลยสับสนไปหน่อย โพสต์แล้วก็ไม่ได้เข้ามาอ่าน พึ่งเข้ามานี่แหละครับ ขอโทษด้วยครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ

:17

 

ไม่มีอะไรต้องขอโทษครับ เพื่อนกันทั้งนั้น ช่วยกันแชร์ความรู้ครับ ทำงานก็ต้องผิดพลาดเล็กๆน้อยๆครับ เผอิญเนื้อหาที่คุณหมอเล็กโพสน่าสนใจดี สร้างแง่คิดดี ก็เลยต้องคืนความดีให้คุณหมอครับ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธรรมชาติดีๆแบบนี้ ถ้าสูญเสียไปก็น่าเสียดายครับ วันหยุดเอาภาพธรรมชาติแบบผ่อนคลายและเพลงเพราะๆมาฝากครับ

 

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แหะๆ เรื่องอะไรครับที่ผมโพสต์ :38

 

คือ ผมอ่านโพสคุณหมอเล็กแล้วนึกถึงเรื่องการตีความตามความเห็นนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับโพสที่คุณหมอเล็กโพสโดยตรง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มะกันงัดแผนรับมือปิดหน่วยงาน

 

รัฐส่องดจ่ายเงิน พักงาน8แสนคน เหตุถกงบยังเหลว

 

 

หน่วยงานรัฐมะกันเผยแผนฉุกเฉินรับมือ “กอฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์” 8 แสนตำแหน่งส่อชวดเงินเดือน

บรรดาหน่วยงานภาครัฐของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยแผนฉุกเฉินรับมือหากเกิดภาวะยุติปฏิบัติงานชั่วคราวของรัฐบาล (กอฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์) หรือภาวะที่รัฐบาลกลางไม่สามารถนำงบประมาณออกมาใช้จ่ายได้ ภายหลังจากมีความเป็นไปได้สูงที่สภาคองเกรสอาจไม่สามารถ หาข้อยุติเกี่ยวกับแผนงบประมาณของรัฐบาลประจำปี 2557 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้

ภายใต้แผนดังกล่าว ส่วนใหญ่ระบุ ให้เจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่ง “สำคัญ” หรือเกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบด้านการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจะได้รับสิทธิทำงานต่อ ทว่าจะได้รับเงินเดือนช้ากว่ากำหนดจนกว่าสภาคองเกรสจะได้ข้อตกลงในแผนงบ ประมาณ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำแหน่ง “ไม่สำคัญ” อย่างน้อย 8 แสนตำแหน่ง จะต้องยุติปฏิบัติงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับ ค่าตอบแทน

กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ระบุว่า ทหารอเมริกันซึ่งประจำการอยู่ตามฐานทัพทั่วโลกเกือบ 1.4 ล้านนาย จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่จะไม่ได้รับการจ่ายค่าตอบแทนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถานและเรือรบทุกลำที่ประจำการอยู่ใกล้น่านน้ำซีเรีย ซึ่งจะยังคงได้รับการจ่ายค่าตอบแทน พร้อมยืนยันจะไม่มีการสั่งปลดประจำการทหารหน่วยใดเป็นพิเศษ

ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะยังดำเนินการขายพันธบัตรรัฐบาลและจ่ายเงินประกันสังคมต่อไป

กระนั้นก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสถิติแห่งชาติอาจต้องยุติปฏิบัติงานทั้งหมด ส่งผลให้การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขว่างงาน ซึ่งสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 4 ต.ค. อาจต้องชะลอออกไป

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินชั่วคราวที่เปิดทางให้รัฐบาลสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ร่างดังกล่าวได้ยกเลิกข้อกำหนดที่สั่งห้ามการจัดสรรเงินในโครงการประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรครีพับลิกันเสนอ จึงอาจส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากไม่เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ดี

http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/249840/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

วันนี้ เวลา 10:00

 

 

 

ปูตินเล่นไพ่บอนด์สหรัฐในวิกฤตซีเรีย

 

 

บทความในThe Daily Bellออกมายืนยันในสิ่งที่ผมได้เขียนมาตลอดเกี่ยวกับวิกฤตซีเรียว่า ถ้าสหรัฐฯตัดสินใจถล่มซีเรีย จะโดนรัสเซียและจีนตอบโต้ทางการเงินด้วยการบอมบ์ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คือเททิ้งพันธบัตรที่ถืออยู่ทั้งกระจาด ทันที อเมริกาจะเจ้งทันทีทางการเงิน ทำให้เวลาเข้าสู่ภาวะสงครามจะเสียเปรียบอย่างมาก เพราะว่าการเงินไม่มั่นคง นายRon Hollandเขียนว่า ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียน่าจะขู่โอบามาว่า ถ้ายูก่อสงครามกับซีเรีย ไอและจีนจะรวมหัวกันถล่มตลาดบอนด์ของยูให้ระส่ำระสายหนัก และพวกธนาคารกลางของแก็งพิมพ์เงินน่าจะส่งข้อความถึงโอบามาว่า ถ้าสหรัฐฯถล่มซีเรีย มีหวังตลาดบอนด์สหรัฐฯกลับบ้านเก่าเลย จุดนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตการซีเรียผ่อนคลายลงอย่างกระทันหัน

 

อังกฤษก็ถอยฉาก เพราะว่าผลประโยชน์ของอังกฤษผูกพันกับดอลล่าร์อย่างลึกซึ้ง

 

จีนถือพันธบัตรสหรัฐฯ$1.275ล้านล้าน ส่วนรัสเซียถือ$138,000ล้าน ถ้าทิ้งทันทีราคาบอนด์ตกแบบรูด ดอกเบี้ยพุ่งเกิดวิกฤตการเงินสหรัฐฯทันที เพราะรัสเซียและจีนจะเล่นย้อนศร คือบอมบ์ตลาดบอนด์ให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกช๊อคและตระหนกกลัวสุดขีด shock & awe นักลงทุนจะขายบอนด์สหรัฐฯ และขายหุ้นหนีตายทันที เพราะว่าใครออกทีหลังจะขาดทุนหนักอาจจะไม่เหลืออะไร ที่สำคัญที่สุด ทุกคนรู้ได้ถึงสัญญาณว่าสงครามโลกกำลังจะตามมา ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานของสงคราม ไม่มีใครอยากจะถือสินทรัพย์ทางการเงินที่อ่อนไหวต่อการถูกขาย หรือไม่ก็ถูกยึด หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย

 

วิกฤตซีเรียที่ได้รับการปลดล๊อคสะท้อนให้เห็นชัยชนะของปูตินเหนือโอบามาทาง ยุทธศาสตร์ เหมือนอย่างที่Niccolo Machiavelli ผู้แต่งหนังสือThe Prince ได้เขียนไว้ว่าในการสงคราม กลลวงอุบายเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง เพราะผู้ที่ได้รับชัยชนะทางสงครามด้วยยุทธศาสตร์ ควรค่าแก่การยกย่องเท่ากับผู้ที่ชนะสงครามผ่านการรบ

 

ปูตินใช้ยุทธศาสตร์เสมอในการรบ คือชนะโดยไม่ต้องรบ ผ่านอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่า และถ้าจะรบจริงๆ ก็จะไม่แพ้

 

คงพอจะเห็นภาพแล้วว่าทำไมจีนถึงถือพันธบัตรสหรัฐฯมากที่สุดในโลกถึง $1.275ล้านล้าน ประมาณ20-25%ของต่างชาติที่ถือบอนด์สหรัฐฯทั้งหมด ที่ถือบอนสหรัฐฯไม่ได้พิสวาทอะไรมาก หรือว่าเพราะไม่มีทางเลือก เพราะจีนก็รู้อยู่ว่าดอลล่าร์รอวันเน่า กลายเป็นกระดาษขยะ แต่ที่ต้องถือมาก เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่สุด ถ้าต้องการทำลายดอลล่าร์ ก็ต้องถือดอลล่าร์ให้มากที่สุด เหมือนตอนที่พวกเฮดจ์พันด์ถล่มเงินบาทปี1997 ต้องมีบาทในมือเป็นกระสุนถึงจะถล่มบาทได้ คือขายบาท ซื้อดอลล่าร์ และต้องมีบาทในการส่งมอบ ทำอย่างนี้จนธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มีดอลล่าร์เหลืออยู่ในมือ และบาทก็ร่วงกลับบ้านเก่า

 

คนทั่วไปไม่เข้าใจยุทธศาสตร์สงครามการเงินมักอ้างเสมอว่าจีนอย่างไรเสียก็ ไม่ทิ้งบอนด์ เพราะว่าถ้าทิ้งไปจะเสียหายเจ็บตัว และอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ของสินค้าของจีน จีนไม่มีวันทุบหม้อข้าวตัวเอง อันนี้เป็นการมองภาพแบบนักเรียนรัฐศาสตร์พื้นฐาน ประเด็นคือเมื่อถึงจุดๆหนึ่งเสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ จีนสะสมดอลล่าร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นเวลาช้านานร่วม30กว่าปี เพื่อว่าวันหนึ่งจะพร้อมทำสงครามการเงิน มีอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่า จะทำลายคู่ต่อสู้ ก็ต้องมีกระสุนดอลล่าร์ แน่นอนจีนจะเจ็บตัวจากการทิ้งบอนด์ แต่ประเด็นคือได้ดีดลูกคิดแล้ว ว่าจะคุ้มมากกว่าเสีย หรือเปล่า ถ้าคุ้มก็ทิ้งเลย ถ้าไม่คุ้ม ก็ยังไม่ทำรอได้

 

งานนี้สหรัฐฯตั้งรับ ฟังคำพูดของปูตินเกี่ยวกับดอลล่าร์สหรัฐเมื่อปี2011 พูดชัดเจนไม่เอาดอลล่าร์แล้ว

 

"พวกเขากินอยู่อย่างเกินตัว และผลักดันปัญหาให้กับเศรษฐกิจโลก พวกเขาเหมือนตัวเหลือบที่เกาะกินเศรษฐกิจโลก ผ่านการผูกขาดเงินดอลล่าร์ ถ้าระบบของสหรัฐฯมีปัญหา มันจะกระทบทุกคนหมด ประเทศอย่างรัสเซียและจีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากในรูปพันธบัตร สหรัฐฯ มันจำเป็นจะต้องมีเงินสกุลหลักของโลกหลายๆสกุลแล้ว"

 

"They are living beyond their means and shifting a part of the weight of their problems to the world economy. They are living like parasites off the global economy and their monopoly of the dollar. If [in America] there is a systemic malfunction, this will affect everyone. Countries like Russia and China hold a significant part of their reserves in American securities. There should be other reserve currencies." – Vladimir Putin in 2011

 

ประเทศอื่นๆเขาดำเนินยุทธศาสตร์เป็นเวลาหลายสิบปี หรือเป็นศตวรรษเพื่อปกป้องความมั่นคง และอำนาจอธิปไตยของตัวเอง มีการสืบทอดของหน้าที่และอุดมการณ์ทีต่อเนื่อง แต่ผู้นำไทยไม่เข้าใจถึงแก่นของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือการดำรงอยู่ของความมั่นคงของประเทศว่ามีภัยคุกคามอยู่ตลอดเวลา กว่าจะรู้ตัวก็สายไป โดนยึดหมด ผู้นำไทยเอาแต่อยู่ไปวันๆด้วยการผลาญงบของประเทศ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง หารู้ไม่ว่าการสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศต้องใช้เวลา ความอดทน ความคิดชอบ ความทุ่มเทที่ชาญฉลาด เพื่อว่าไทยจะได้มีอำนาจการต่อรองในเวทีต้างประเทศหรือกับเพื่อนบ้าน ถามคำเดียวตอนนี้เรามีอำนาจต่อรองอะไรกับพม่า กับเวียดนาม กับมาเลย์เซีย กับสิงคโปร์ หรือกับอินโดเนเซียเพราะทุกประเทศจ้องแดกเราทั้งนั้น ถ้าเราไม่ทำตัวเองให้เข้มแข็ง จะโดนเขาแทะโลมเรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกตัว จนวันหนึ่งจะดำเนินนโยบายอะไรก็ไม่ได้ เพราะติดขัดไปหมด คิอหรือว่าAECจะราบเรียบและไทยจะได้เปรียบ รู้หรือเปล่าว่าญี่ปุ่นและสิงคโปร์ไปถึงใหนแล้ว ผู้นำไทยไม่ทำแต่มิหนำซ้ำกลับทำให้ประเทศแตกแยกและอ่อนแอ หลอกลวงประชาชนเรื่องสิทธิประชาธิปไตยไปวันๆให้เสพติด พอเกิดศึกนอก ศึกในประเทศก็ไม่อยู่ในฐานะจะดำรงอยู่รักษาประเทศและประชาชนหมู่มากให้มั่น คงหรือปลอดภัยได้ ถึงตอนนั้นทรัพย์สมบัติที่ตัวเองสะสมมาเป็นพันล้านเป็นหมื่นล้านเป็นแสนล้าน เป็นล้านล้านโดยมิชอบก็มิอาจจะรักษาได้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที

 

thanong

29/9/2013

 

 

 

http://www.thedailybell.com/34636/Ron-Holland-Did-Putin-Quietly-Play-the-Debt-Card-Over-Syria

 

 

 

282877_162517713944611_260978426_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Khanthong

 

48 นาทีที่แล้ว

 

 

 

สหรัฐฯอาจเจอ2เด้งในช่วงตุลาทมิฬ

 

 

ถ้าหากว่าคอนเกรซไม่ผ่านงบประมาณปี2013-2014ได้ภายในวันพรุ่งนี้หน่วยงาน รัฐบาลกลางสหรัฐฯต่างๆจำเป็นต้องปิดให้บริการ เพราะว่าไม่มีเงินเพื่อที่จะดำเนินการต่อไป

 

ขณะนี้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติกำลังขัดแย้งกันอย่างร้าวลึก

 

ปีงบประมาณสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่1 ตุลาคมจนถึง 30กันยายน แต่ปีนี้ค่อนข้างจะพิเศษหน่อยตรงที่ฝ่ายรีพับรีกันเตรียมถล่มประธานาธิบดีโอ บามาเต็มที่ทั้งในเรื่อง1. งบประมาณและ2. เรื่องยกเพดานหนี้

 

เริ่มต้นด้วยเรื่องงบประมาณก่อน เช้าวันอาทิตย์นี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ใต้เสียงข้างมากของฝ่ายรีพับรีกันได้โหวตด้วยคะแนน 231-192เพื่อที่จะประวิงการบังคับใช้โอบามาแคร์Obamacare หรือแผนประกันสุขภาพที่ผูกพันในงบประมาณ โอบามาแคร์ถือได้ว่าเป็นผลงานโอบามาที่ต้องการปฏิรูปการประกันสุขภาพให้คน อเมริกัน เพื่อช่วยให้คนอเมริกันที่ทำงานมีโอกาสเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพได้ เพราะค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลในสหรัฐฯสูงมาก

 

ฝ่ายรีพับรีกันโหวต248/174 เพื่อยกเลิกภาษีอุปกรณ์แพทย์เพื่อช่วยจ่ายโปรแกรมสุขภาพ

 

ฝ่ายรีพับรีกันโหวตกฎหมายอีกฉบับให้มีเงินจ่ายเงินเดือน สวัสดิการให้ทหารในกรณีที่ รัฐบาลไม่มีงบผ่านที่จะจ่ายเงินให้ทหารเหมือนปกติ

 

เรียกได้ว่าบี้กันหนัก ฝ่ายรีพับรีกันเห็นว่านโยบายโอบามาแคร์นี้เป็นการแทรกแซงในธุรกิจของเอกชน เพิ่มภาระการใช้จ่ายของรัฐบาล เลยพยายามที่จะสอยโอบามาแคร์ลงจากกลางอากาศชั่วคราวไปก่อน ส่วนธุรกิจโดยเฉพาะรายเล็กๆเกรงว่าจะไม่มีเงินจ่ายสบทบโอบามาแคร์ให้พนักงาน จึงพยายามจะไม่จ้างพนักงานให้ทำงานเต็มเวลา โดยเลือกที่จะจ้างเป็นพนักงานชั่วคราว

 

ฝ่ายเดโมแครทที่คุมสภาเซเนทบอกว่า เมื่อร่างแปรญัตติของฝ่ายรีพับรีกันมาถึง จะโดนสอย เพราะว่ารับไม่ได้ ทางทำเนียบข่าวออกมาขู่คล้ายๆกันว่าโอบามาจะวีโต้การแปรญัตติงบฝ่า นโอบามาแคร์ของฝ่ายรีพับรีกัน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นงบประมาณสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะแท้ง คลอดไม่ออก หน่วยงานรัฐบาลจะต้องปิดทำการชั่วคราวจนกว่าจะมีเงินให้เบิก

 

คล้ายๆกับงบประมาณปี2556-2557บ้านเราที่มีปัญหา หลังโดนศาลรัฐธรรมนูญเบรค เพราะว่ารัฐบาลปูไปลดงบขององค์กรอิสระ เลยโดนร้องเรียน รัฐบาลเลยต้องเอางบค้างเหลือของงบประมาณปีที่จะหมดวันจันทร์นี้มาใช้จ่าย ก่อน

 

ตอนนี้ดูไม่ออกเลยว่าฝ่ายรีพับรีกันและฝ่ายเดโมแครทนำโดยโอบามาจะประนี ประนอมกันอย่างไรเกี่ยวกับงบประมาณประเทศ เพราะมันเป็นเรื่องเจรจาต่อรองผลประโยชน์กัน โอกาสที่จะตกลงกันได้ก่อนเที่ยงคืนวันจันทร์ที่30 กันยายนดูเหมือนจะริบหรี่มาก ถ้าต้องหยุดบริการของหน่วยงานรัฐบาลกลางคาดว่า เจ้าหน้าที่800,000คนจากทั้งหมด 2.1ล้านคน จะต้องอยู่บ้านพักงาน จนกว่างบประมาณจะคลอด

 

ส่วนนักบินอวกาศจะกลับมาโลกได้ตามหมายหรือเปล่า ทางนาซ่ายังไม่ได้แจ้ง เพราะทางนาซ่าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยจะไม่มีเงินจ้างให้เจ้าหน้าที่ดูแลตอนกระสวยอวกาศบินคืนสู่โลก เลยอาจจะต้องบอกให้นักบินอวกาศที่ปฏิบัติการในอวกาศเหนือโลกเราให้คอยลอย กลางอวกาศตุ๊บป่องๆไปก่อน มันไม่ใช่ปัญหาเทคนิค แต่มันเป็นปัญหาการเมืองล้วนๆ เจ้าหน้าที่น่าซ่าภาคพื้นดินคงจะต้องสงสัญญานให้นักบินอวกาศทราบว่า Landing is not permitted. We're not facing any technical problems. The problem is political. Repeat: the problem is political. (อันนี้ใส่ไข่ให้อ่านสนุกเล่นๆ)

 

ครั้งสุดท้ายที่หน่วยงานรัฐบาลกลางปิดทำการคือสมัยประธานาธิบดีคลินตัน คือปิด28วันทำการในปี1995 เพราะมีปัญหาเรื่องงบกับพวกรีพับรีกันคล้ายๆกับตอนนี้ ปี2011 โอบามาก็เกือบจะต้องปิดหน่วยงานรัฐบาลหลังจากรบกับฝ่ายรีพับรีกันยกใหญ่ๆจน เลือดสาด ทำให้S&P ลดเกรดความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ

 

เรื่องที่ 2 ที่จะเสียวพอๆกันคือเรื่องยกเพดานหนี้ เพราะขณะนี้หนี้ภาครัฐชนเพดานแล้วที่$16.7ล้านล้าน ถ้ากฎหมายไม่ออกมา ทางกระทรวงคลังจะผิดนัดชำระหนี้ จะกู้หนี้เพิ่มมาจ่ายเงินเดือนพนักงานรัฐ หรือสวัสดิการ หรือโครงการอื่นๆของรัฐบาลไม่ได้ เส้นตายคือวันที่17ตุลาคม แต่ฝ่ายรีพับรีกันได้กลิ่นเลือด คงจะต้องใช้โอกาสนี้บี้โอบามาเต็มที่ ถ้าจะให้ผ่านต้องเอาหมูมาแลกกับแมว

 

ถ้าต้องปิดหน่วยงานรัฐบาลเพราะงบไม่ผ่าน และถ้าเพดานหนี้ไม่ผ่านเส้นตายวันที่17 คุลา กระทรวงคลังจะผิดนัดชำระหนี้ เจอ2เด้ง เศรษฐกิจการเงินสหัฐฯจะเจอวิกฤตแบบไม่เคยเห็นมาก่อน

 

ด้วยเหตุนี้พ่อมดเบนที่รักของเราถึงได้ไม่กล้าลดขนาดQE เตรียมพิมพ์เงินเต็มที่เพราะว่าคอนเกรซไม่ได้คุมวิหารเฟด อัดสภาพคล่องให้เป็นลูกบัลลูนเท่าพระจันทร์ไปเลย

 

และด้วยเหตุนี้โอบามาถึงไม่อยากจะมีเรื่องในซีเรีย หรือกับอิหร่านในตะวันออกกลางในช่วงตุลาทมิฬนี้ เพราะศึกภายในมันใหญ่หลวงนัก โอบามาถึงได้ทอดสะพานไมตรีให้อิหร่านในวันศุกร์ที่ผ่านมามีการพูดคุยกัน อย่างดี

 

จับตาดูRed October ให้ดีๆ เพราะว่ามันกำลังมา

 

thanong

29/9/2013

 

http://news.yahoo.com/u-house-moves-federal-government-closer-shutdown-002652478--business.html

 

 

 

1383803_10201731804090434_666118839_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ปูตินเล่นไพ่บอนด์สหรัฐในวิกฤตซีเรีย

 

 

บทความในThe Daily Bellออกมายืนยันในสิ่งที่ผมได้เขียนมาตลอดเกี่ยวกับวิกฤตซีเรียว่า ถ้าสหรัฐฯตัดสินใจถล่มซีเรีย จะโดนรัสเซียและจีนตอบโต้ทางการเงินด้วยการบอมบ์ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คือเททิ้งพันธบัตรที่ถืออยู่ทั้งกระจาดทันที อเมริกาจะเจ้งทันทีทางการเงิน ทำให้เวลาเข้าสู่ภาวะสงครามจะเสียเปรียบอย่างมาก เพราะว่าการเงินไม่มั่นคง นายRon Hollandเขียนว่า ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียน่าจะขู่โอบามาว่า ถ้ายูก่อสงครามกับซีเรีย ไอและจีนจะรวมหัวกันถล่มตลาดบอนด์ของยูให้ระส่ำระสายหนัก และพวกธนาคารกลางของแก็งพิมพ์เงินน่าจะส่งข้อความถึงโอบามาว่า ถ้าสหรัฐฯถล่มซีเรีย มีหวังตลาดบอนด์สหรัฐฯกลับบ้านเก่าเลย จุดนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตการซีเรียผ่อนคลายลงอย่างกระทันหัน

 

อังกฤษก็ถอยฉาก เพราะว่าผลประโยชน์ของอังกฤษผูกพันกับดอลล่าร์อย่างลึกซึ้ง

 

จีนถือพันธบัตรสหรัฐฯ $1.275 ล้านล้าน ส่วนรัสเซียถือ $138,000ล้าน ถ้าทิ้งทันทีราคาบอนด์ตกแบบรูด ดอกเบี้ยพุ่งเกิดวิกฤตการเงินสหรัฐฯทันที เพราะรัสเซียและจีนจะเล่นย้อนศร คือบอมบ์ตลาดบอนด์ให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกช๊อคและตระหนกกลัวสุดขีด shock & awe นักลงทุนจะขายบอนด์สหรัฐฯ และขายหุ้นหนีตายทันที เพราะว่าใครออกทีหลังจะขาดทุนหนักอาจจะไม่เหลืออะไร ที่สำคัญที่สุด ทุกคนรู้ได้ถึงสัญญาณว่าสงครามโลกกำลังจะตามมา ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานของสงคราม ไม่มีใครอยากจะถือสินทรัพย์ทางการเงินที่อ่อนไหวต่อการถูกขาย หรือไม่ก็ถูกยึด หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย

 

วิกฤตซีเรียที่ได้รับการปลดล๊อคสะท้อนให้เห็นชัยชนะของปูตินเหนือโอบามาทางยุทธศาสตร์ เหมือนอย่างที่Niccolo Machiavelli ผู้แต่งหนังสือThe Prince ได้เขียนไว้ว่าในการสงคราม กลลวงอุบายเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง เพราะผู้ที่ได้รับชัยชนะทางสงครามด้วยยุทธศาสตร์ ควรค่าแก่การยกย่องเท่ากับผู้ที่ชนะสงครามผ่านการรบ

 

ปูตินใช้ยุทธศาสตร์เสมอในการรบ คือชนะโดยไม่ต้องรบ ผ่านอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่า และถ้าจะรบจริงๆ ก็จะไม่แพ้

 

คงพอจะเห็นภาพแล้วว่าทำไมจีนถึงถือพันธบัตรสหรัฐฯมากที่สุดในโลกถึง $1.275ล้านล้าน ประมาณ20-25%ของต่างชาติที่ถือบอนด์สหรัฐฯทั้งหมด ที่ถือบอนสหรัฐฯไม่ได้พิสวาทอะไรมาก หรือว่าเพราะไม่มีทางเลือก เพราะจีนก็รู้อยู่ว่าดอลล่าร์รอวันเน่า กลายเป็นกระดาษขยะ แต่ที่ต้องถือมาก เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่สุด ถ้าต้องการทำลายดอลล่าร์ ก็ต้องถือดอลล่าร์ให้มากที่สุด เหมือนตอนที่พวกเฮดจ์พันด์ถล่มเงินบาทปี1997 ต้องมีบาทในมือเป็นกระสุนถึงจะถล่มบาทได้ คือขายบาท ซื้อดอลล่าร์ และต้องมีบาทในการส่งมอบ ทำอย่างนี้จนธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มีดอลล่าร์เหลืออยู่ในมือ และบาทก็ร่วงกลับบ้านเก่า

 

คนทั่วไปไม่เข้าใจยุทธศาสตร์สงครามการเงินมักอ้างเสมอว่าจีนอย่างไรเสียก็ไม่ทิ้งบอนด์ เพราะว่าถ้าทิ้งไปจะเสียหายเจ็บตัว และอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ของสินค้าของจีน จีนไม่มีวันทุบหม้อข้าวตัวเอง อันนี้เป็นการมองภาพแบบนักเรียนรัฐศาสตร์พื้นฐาน ประเด็นคือเมื่อถึงจุดๆหนึ่งเสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ จีนสะสมดอลล่าร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นเวลาช้านานร่วม30กว่าปี เพื่อว่าวันหนึ่งจะพร้อมทำสงครามการเงิน มีอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่า จะทำลายคู่ต่อสู้ ก็ต้องมีกระสุนดอลล่าร์ แน่นอนจีนจะเจ็บตัวจากการทิ้งบอนด์ แต่ประเด็นคือได้ดีดลูกคิดแล้ว ว่าจะคุ้มมากกว่าเสีย หรือเปล่า ถ้าคุ้มก็ทิ้งเลย ถ้าไม่คุ้ม ก็ยังไม่ทำรอได้

 

งานนี้สหรัฐฯตั้งรับ ฟังคำพูดของปูตินเกี่ยวกับดอลล่าร์สหรัฐเมื่อปี2011 พูดชัดเจนไม่เอาดอลล่าร์แล้ว

 

"พวกเขากินอยู่อย่างเกินตัว และผลักดันปัญหาให้กับเศรษฐกิจโลก พวกเขาเหมือนตัวเหลือบที่เกาะกินเศรษฐกิจโลก ผ่านการผูกขาดเงินดอลล่าร์ ถ้าระบบของสหรัฐฯมีปัญหา มันจะกระทบทุกคนหมด ประเทศอย่างรัสเซียและจีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากในรูปพันธบัตรสหรัฐฯ จำเป็นจะต้องมีเงินสกุลหลักของโลกหลายๆสกุลแล้ว"

 

"They are living beyond their means and shifting a part of the weight of their problems to the world economy. They are living like parasites off the global economy and their monopoly of the dollar. If [in America] there is a systemic malfunction, this will affect everyone. Countries like Russia and China hold a significant part of their reserves in American securities. There should be other reserve currencies." – Vladimir Putin in 2011

 

ประเทศอื่นๆเขากำเนินยุทธศาสตร์เป็นเวลาหลายสิบปี หรือเป็นศตวรรษเพื่อปกป้องความมั่นคง และอำนาจอธิปไตยของตัวเอง มีการสืบทอดของหน้าที่และอุดมการณ์ทีต่อเนื่อง แต่ผู้นำไทยไม่เข้าใจถึงแก่นของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือการดำรงอยู่ของประเทศว่ามีภัยคุกคามอยู่ตลอดเวลา กว่าจะรู้ตัวก็สายไป โดนยึดหมด ผู้นำไทยเอาแต่อยู่ไปวันๆด้วยการผลาญงบของประเทศ ทำให้ประเทศแตกแยกและอ่อนแอ พอเกิดศึกนอก ศึกในประเทศก็ไม่อยู่ในฐานะจะดำรงอยู่ได้ ถึงตอนนั้นทรัพย์สมบัติที่ตัวเองสะสมมาโดยมิชอบก็มิอาจจะรักษาได้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที

 

thanong

29/9/2013

 

 

1150359_10201730772264639_1564035013_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

10 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

ได้เวลาสหรัฐฯเบี้ยวหนี้ทั้งของรัฐและเอกชนเพื่อรีเซ็ทระบบการเงินใหม่ได้แล้ว

 

Christopher Monckton ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีMargaret ThatcherของอังกฤษและอดีกบรรณาธิการของThe Telegraph Sunday Magazine ให้สัมภาษณ์ว่า ดอลล่าร์จบไปแล้ว และสหรัฐฯควรที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเงินที่น่าเชื่อถือกว่า เพราะว่าระบบการเงินของสหรัฐฯและของโลกตะวันตกกำลังเข้าสู่ความหายนะ

 

เขาแนะว่า ทางเลือกง่ายๆ อาจจะเอาดอลล่าร์แคนาดามาใช้ก่อน เพราะว่าพวกแคเนเดียนไม่เล่นตราสารการเงินที่พิลึกพิลั่นอย่างcredit default swaps หรือตราสารอนุพันธ์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้แบงค์ล้มได้

 

แต่ถ้าให้ดีที่สุด Moncktonบอกว่า ให้กดปุ่มรีเซ็ท (RESET) ระบบการเงินสหรัฐฯไปเลย ด้วยการเบี้ยวหนี้ทั้งของรัฐฯและของเอกชนทั้งหมด

 

"สูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วก็กดปุ่มรีเซ็ท แล้วก็บุ๊ทเครื่องขึ้นมาใหม่" Moncktonบอก แนะ และมันเป็นวิธีการเดียวกับที่จักรพรรดิAugustus Nicodemus Lopesทำในสมัยอาณาจักรโรมันโบราณ หลังจากรีเซ็ทหนี้ไป โรมกลับมารุ่งเรืองใหม่อีก400ปี

 

Monckton บอกว่าพวกผู้บริหารที่ปักกิ่งรู้ดีว่าเงินกู้ที่จีนให้สหรัฐฯยืมไปไม่มีวัน ได้คืน ในโลกธุรกิจพานิชย์ เมื่อเป็นที่ชัดว่าลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหว เจ้าหนี้จะเรียกร้องหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม หรือมีสิทธิ์ในการเข้าไปควบคุมดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้ เพื่อบังคับการใช้หนี้

 

เขาตั้งคำถามว่า ประธานาธิบดีให้จีนสิทธิพิเศษเหนือทรัพย์สินของสหรัฐอเมริกาหรือยัง?

 

ธนาคารกลางจีนเตรียมตัวแล้ว ด้วยการทำสว็อปค่าเงินหยวนกับค่าเงินของประเทศคู่ค้าต่างๆ ทำให้มีความต้งอการดอลล่าร์น้อยลงอย่างมากในการค้าโลก รัสเซียก็ได้ลดการถือดอลล่าร์ และร่วมคิดกับจีนให้มีค่าเงินใหม่มาแทนดอลล่าร์

 

หนี้ของสหรัฐฯทั้งหมดกับโลกภายนอกอยู่ที่$80ล้านล้านกว่า ในขณะเดียวกันการลงทุนสุทธิของสหรัฐฯในต่างประเทศติดลบ$2ล้านล้านอยู่ในขณะ นี้

 

ตอนนี้จีนเป็นเจ้าของโครงสร้างสาธารณูปโภคของสหรัฐ และได้เรียกร้องเอาที่ดินมาทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับการควบคุมแรงงานตามกฎหมายสหรัฐ หรือปลอดจากหลักทรัพย์ค้ำประกันในอนาคต

 

เกมโอเวอร์จริงๆ

 

 

thanong

30/9/2013

 

Read more at http://www.wnd.com/2013/09/monckton-push-reset-on-dollar/#dzaBT07hYOXa3AXu.99

 

http://www.wnd.com/2013/09/monckton-push-reset-on-dollar/

 

 

 

1376563_162914667238249_313448982_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

วันนี้ เวลา 16:00

 

 

 

หรือว่าโอบามาจะไม่ปกป้องเปโตรดอลล่าร์อีกต่อไป?

 

Central Plannersต้องการให้โอบามาถล่มซีเรีย แล้วตามต่อด้วยอิหร่าน โดยจุดประสงค์หลักสกัดการขยายอิทธิพลของรัสเซียและจีนในตะวันออกกลาง เพื่อปกป้องผลประโยชน์บ่อน้ำมันในตะวันออกกลาง แต่ที่สำคัญที่สุด คือต้องการปกป้องเปโตรดอลล่าร์ เพราะว่าถ้าอิทธิพลของอังกฤษและสหรัฐฯอเมริกาลงดลงในตะวันออกกลางนั้นหมาย ความว่าเปโตรดอลล่าร์จะต้องจบสิ้นไปด้วย การที่ประธานาธิบดีโอบามาอิดเอื้อนที่จะส่งทหารเข้าไปจัดการซีเรียหลังมีข้อ กล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีฆ่าประชาชน และตามมาด้วยความพยายามของโอบามาที่จะฟื้นสัมพันธ์ไมตรีกับอิหร่าน อาจจะมองได้ว่า โอบามากำลังเดินเกมที่สวนทางกับความต้องการของพวกCentral Planners เพราะว่าโอบามาไม่ต้องการปกป้องเปโตรดอลล่าร์อีกต่อไปผ่านการสงคราม เบื้องหลังสงครามทุกสงครามคือผลประโยชน์การเงินพวกพวกนายแบงค์ระดับบิ๊กๆของ โลก

 

1.เบี้ยวทอง สร้างเปโตรดอลล่าร์

เปโตรดอลล่าร์เป็นหนึ่งในเสาหลักที่ค้ำจุนดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก เวลานี้ เปโตรดอลล่าร์เกิดขึ้น1ปีภายหลังจากที่ประธานาธิบดีนิกสันยกเลิกระบบมาตรฐาน ทองคำในปี1972 ด้วยการเบี้ยวหนี้ คือไม่ยอมให้คนถือดอลล่าร์สามารถแลกเป็นทองได้ ทำให้ดอลล่าร์กลายเป็นเงินกระดาษfiat currencyลอยตัวแกว่งบนอากาศเพราะว่าไม่มีทองหรือทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง คนถือดอลล่าร์ต้องจำใจถือต่อไป เพราะเจ้าของไม่รับแลกคืน เหมือนเวลาเราเข้าคาซิโนควักเงินจากกระเป๋ามาแลกชิบเพื่อเล่นการพนัน เล่นเสร็จเอาชิปมาแลกเงินคืนปรากฎว่าเจ้าของบ่อนเบี้ยวไม่ให้แลกคืน บอกว่าเอาชิบนั้นแหละไปซื้อของต่อ แต่เพื่อต่ออายุดอลล่าร์ให้ยาวยืดออกไป รมวต่างประเทศเฮนรี่ คิสซิงเจอร์บินไปซาอุดิ อาราเบียเจรจาให้ซาอุฯขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์อย่างเดียวและให้ประเทศผู้ผลิต น้ำมันอื่นๆในตะวันออกกลาง หรือรู้จักในนามกลุ่มโอเปคขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์อีกด้วย ในทางต่างตอบแทนสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางทหาร ดูแลความมั่นคง และจะปกป้องผู้ปกครองประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้อยู่ในอำนาจต่อไปจนกว่าโลกเราจะ สิ้นสุด เปโตรดอลล่าร์ทำให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยต้องสำรองดอลล่าร์ต่อไป ทั้งๆที่โดนเบี้ยวไม่ให้ขึ้นทอง เพราะว่ามีความจำเป็นต้องซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลาง

 

2. ไม่รบซีเรีย

โอบามาไม่ต้องการทำสงครามซีเรียตามแรงกดดัน เพราะรู้ดีว่ารบไปก็มีแต่จะลากยาว โอกาสที่จะชนะแทบที่จะมองไม่เห็น เพราะว่ารัสเซีย อิหร่าน จีน อินเดียจะเข้าร่วมวงหนุนซีเรียเต็มที่ ทุกประเทสที่เอ่ยถึงต่างก็มีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งนั้น ถึงตอนนี้ไม่มีใครกลัวกันอีกแล้ว ผลก็คือสงครามอาจจะขยายวงเพราะซาอุฯ บ่อน้ำมันอิรัค และอิสราเอลจะเป็นเป้าหมายของการถูกถล่มกลับ กลายเป็นสงครามขยายวง และถ้าจีนและรัสเซียจับมือกันเทขายบอนด์ของสหรัฐ จะเกิดวิกฤตการเงินในสหรัฐฯทันที ราคาบอนด์จะตก ดอกเบี้ยจะพุ่ง ตลาดการเงินจะตกใจหนัก สหรัฐฯตอนนี้ฐานะการเงินยำแย่มาก ไม่อยู่ในฐานะที่จะก่อหนี้เพื่อทำสงครามแบบยืดเยื้อ ถ้าต้องก่อสงคราม กระทรวงคลังต้องออกบอนด์มาระดมเงิน มีหวังมีแต่วิหารเฟดเจ้าเดียวเท่านั้นที่จะรับซื้อ กลายเป็นการmonetizeหนี้รัฐบาล100% คือการพิมพ์เงินซื้อหนี้รัฐบาล ผิดวินัยการเงินอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้ก็กำลังทำอยู่ โดยเฟดจะซื้อหนี้รัฐบาล$1ล้านล้านต่อปี

 

3. อังกฤษซ่อนกล

อังกฤษต้องการทำสงครามซีเรียมาก เพราะมีผลประโยชน์ในเปโตรดอลล่าร์ เพราะระบบการเงินแองโกล อเมริกันอยู่ได้ด้วยเปโตรดอลล่าร์ ถ้าดอลล่าร์ไป ความร่ำรวยหรืออำนาจจะหมดไปทันที แต่พออังกฤษเห็นว่าโอบามายึกๆยื้อๆ อ่านเกมออกเลยถอยฉากก่อนไม่กล้าเข้าไปในซีเรียอย่างวู่วาม รอจังหวะต่อไป อังกฤษจะคอยอยู่ข้างหลังสหรัฐฯตลอดให้ทหารสหรัฐฯตายมากกว่า แต่เวลาแบ่งผลประโยชน์น้ำมันอังกฤษจะได้มากกว่าเสมอ พวกcentral plannersอเมริกา ถึงไม่ค่อยจะถูกกันนักกับcentral plannersอังกฤษ

 

4.จับมืออิหร่าน

นอกจากจะไม่ทำสงครามกับซีเรียแล้ว โอบามายังยื่นมือมาสัมพันธ์กับอิหร่าน ในสุนทรพจน์ของโอบามาที่สหประชาชาติเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โอบามาพูดชัดว่าเขาต้องการมีสัมพันธ์ที่ดีกับอิหร่าน แม้ว่าในอดีตสหรัฐฯและอิหร่านจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด โอบามาบอกว่าไม่ประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอิหร่าน regime change โดยจะเคารพสิทธิของประชาชนอิหร่านที่ได้เลือกตั้งผู้นำตัวเองเข้ามา โอบามาขอแค่เรื่องเดียวคือปัญหานิวเคลียร์ ขอให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์เพื่อพลเรือน ไม่ใช่เพื่อการทหาร ถ้อยแถลงของโอบามาต่างกันโดยสิ้นเชิงจากจุดยืนของCentral Plannersในอดีตที่ต้องการล้มรัฐบาลอิหร่าน เพื่อตั้งรัฐบาลใหม่ที่ยอมยกบ่อน้ำมันให้มหาอำนาจตะวันตก ปรากฎว่าได้มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดี อิหร่านนาย Hassan Rouhaniและโอบามา ในขณะที่ผู้นำอิหร่านอยู่นิวยอร์คเพื่อเข้าประชุมประจำปีขององค์การสหประชา ชาติ ต่างฝ่ายต่างพูดจากันด้วยดี แม้ว่าจะไม่ยาวนักแต่ก็เป็นการพูดคุยตัวต่อตัวครั้งแรกของผู้นำทั้งสอง ประเทศนับตั้งแต่ปี 1979

 

ในเมื่อโอบามาไม่ต้องการรบซีเรียและถล่มอิหร่านเพื่อregime changeตามที่Central Plannersต้องการ แสดงว่าโอบามาไม่ต้องการปกป้องผลประโยชน์เปโตรดอลล่าร์ต่อไป เมื่ออำนาจหนึ่งลดลง อำนาจใหม่ก็ต้องเข้ามาแทน คาดการได้เลยว่าอำนาจของรัสเซียและจีนในตะวันออกกลางจะเพิ่มขึ้นแข่งกับมหา อำนาจตะวันตกที่อำนาจจะลดลงตามลำดับ

 

5.กำเนิดเปโตรหยวน

โดยเฉพาะจีนที่เมื่อเดือนที่แล้วได้สร้างเปโตรหยวนขึ้นมา ย้อนศรเปโตรดอลล่าร์ คือซื้อขายน้ำมันเป็นหยวนได้ ล้มการผูกขาดของดอลล่าร์ในธุกิจน้ำมัน จีนซื้อน้ำมันจากอิหร่านเป็นหยวนทั้งนั้น ด้วยนโยบายสว๊อปหยวนกับประเทศคู่ค้าอย่างรัสเซีย จีนก็ซื้อน้ำมันรัสเซียเป็นหยวน และทำการค้ากับบราซิล แอฟริกาใต้และประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกาเป็นหยวนทั้งนั้น โดยไม่ผ่านดอลล่าร์เลย ตอนนี้จีนมีปริมาณการค้าใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว แซงหน้าสหรัฐฯอเมริกาไปเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิการบอกผมวันก่อนว่าเงินหยวนอยู่ในการค้าโลกถึง12%แล้ว แต่ตัวเลขทางตะวันตกยังไม่ได้อับเดท แต่จากอีกแหล่งข่าวหนึ่งบอกผมว่าสัดส่วนเงินหยวนในการค้าโลกน่าจะไป ถึง30%แล้ว เพราะจีนเร่งให้หยวนเกิดเต็มอัตราศึก โดยไม่คุยโม้มาก ทำอย่างเดียว รอจังหวะเหมาะถึงจะประกาศตูมเดียวจบ เมื่อเป็นเช่นนี้ความต้องการดอลล่าร์ในการค้าโลกจะลดลงไปเรื่อยๆ ค่าเงินดอลล่าร์จะอ่อนเพราะจะถูกเทขาย บวกกับปัญหาการเงินสหรัฐฯที่หนักเรื้อรัง อุ้มต่อไปได้ไม่นาน

 

6. หย่าศึกนอก

โอบามาเจอทั้งศึกหนักนอกประเทศและในประเทศ ในเมื่อต้องการแก้ปัญหาภายในเป็นสำคัญ และโอบารู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ถึงได้ไม่ถล่มซีเรีย กลับไปฟื้นคืนดีกับอิหร่าน และมีการพูดคุยกันดีกับฉี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีน โดยอาจจะส่งข้อความทำนองว่า ขอเวลาหน่อย อย่าเพิ่งบอมบ์ตลาดบอนด์ไอนะ ขอให้ไอตั้งหลักหน่อย จะทำอะไรให้แจ้งให้ทราบก่อน ต่อไปยูมีปัญหาอะไรกับรัสเซีย อยากจะให้ไอช่วยอะไรก็ยินดี อย่าลืมอเมริกาอยู่ห่างจากจีนมากทางภูมิศาสตร์ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล แต่รัสเซียอยู่ข้างบนค้ำหัวประเทศยูอยู่นะ ได้ยินอย่างนี้ท่านฉี ก็น่าจะคิดหนัก ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะร่วมมือกันดีกับท่านปูตินผู้นำรัสเซียในการสร้าง ระเบียบการเงินใหม่ เพื่อล้มระบบดอลล่าร์และอำนาจของมหาอำนาจตะวันตก ทั้งหลายทั้งปวงจึงกลายเป็นสามก๊กที่คานกันอยู่

 

ส่วนรัสเซียเอง โอบามาคงจะไม่ไว้ใจปูติน เพราะเล่ห์เหลี่ยมมาก สหรัฐฯและรัสเซียรบกันใต้ดินผ่านสงครามตัวแทนและสงครามเย็นมานาน ไม่น่าจะไปกันได้ดี แต่ปูตินก็คงจะให้โอบามาจัดการปัญหาภายในประเทศสหรัฐฯ ถ้าไม่มายุ่มย่ามกับผลประโยชน์ของรัสเซียในตะวันออกกลาง

 

7.ซื้อเวลา

โอบามาขอซื้อเวลาพักรบศึกภายนอก เพื่อรบกับศึกภายในช่วงเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ยังไม่ทันอะไรก็โดนฝ่ายรีพับรีกันทำท่าคว่ำกฎหมายงบประมาณ2013-2014 ด้วยการแช่แข็งโอบามาแคร์1ปี ถ้าตกลงกันไม่ได้ภายในวันที่30กันยายนนี้ วันที่1ตุลาคมกฎหมายงบประมาณไม่มี หน่วยงานรัฐบาลกลางต้องปิดตัวเอง เจ้าหน้าที่รัฐ800,000คนจาก2.1ล้านคนอาจจะต้องอยู่บ้าน เรื่องยกเพดานหนี้$16.7ล้านล้านก็จะเป็นศึกในที่จะต้องรบกันอีกกลางเดือน ตุลาคมนี้ ถ้ารีพับรีกันไม่ยอม กระทรวงการคลังสหรัฐฯจะผิดชำระหนี้ Central Planners อีกฝ่ายคงจะรู้ว่าโอบามากำลังเล่นอะไร เพราะว่าJP Morganกำลังโดนล่อคดีเป็นโหลๆ จัดการJP Morganก็เหมือนกับจัดการShin Corpที่ทำให้ประเทศไทยมีปัญหาการเมืองรุนแรงหนักจนถึงทุกวันนี้ เพราะJP Morganเป็นแบงค์ใหญ่สุด ทรงอิทธิพลที่สุด และเป็นผู้ถือหุ้นของวิหารเฟดอีกด้วย โอบามาเองมาได้ถึงประธานาธิบดีก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากCentral Plannersเหมือนกัน แต่คงต้องเป็นคนละกลุ่มที่กำลังแตกแยกกันหนัก ต่างคนต่างระแวงกันไม่ใว้ใจกัน ต้องการสร้างอาณาจักรของตัวเอง

 

8. รบกับวอลล์สตรีท

ดูท่าว่าโอบามาต้องการจัดการกับcentral planners หรือกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเฟด และพวกวอลล์สตรีท เพื่อที่จะล้างไพ่ ล้มอิทธิพลการเงินที่มีอยู่เหนือการเมืองสหรัฐฯ ครอบงำสหรัฐฯมาร่วม100ปี โอบามามีอำนาจฝ่ายบริหารสูงสุดในมือ สามารถออกexecutive orderหรือกฎหมายฝ่ายบริหารมาจัดการกับภาวะฉุกเฉินทุกอย่าง รวมทั้งการให้กระทรวงการคลังพิมพ์เงิน ออกมาแข่งกับวิหารเฟดก็ได้ ถ้าเพดานหนี้มีปัญหาเพิ่มไม่ได้ ในอดีตที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีปัญหาเพดานหนี้ คอนเกรซจะยกมือให้กันง่ายๆ เพราะว่าทุกคนอยากเอาใจประชาชนด้วยการใช้จ่ายประชานิยมทั้งนั้น แต่อย่างว่า อะไรก็ตามเมื่อชนเพดานมากๆ ในที่สุดเพดานจะล้มพังครืนลงมาทับหัวคนที่อยู่ข้างล่างตาย

 

จับตาดูว่าโอบามาหย่าศึกภายนอกได้ แล้วจะสู้ศึกภายในได้หรือเปล่า หรือว่ามีการเลี้ยวรถ ไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้น อันนี้ไม่มีใครบอกได้

 

 

thanong

30/9/2013

 

 

 

1383312_163040933892289_1436967278_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...