ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เอามาฝากให้อ่านขำๆ (หรือขาสั่นดี)

นักเศรษฐศาสตร์ อาจารย์มหาลัย + อดีตผู้จัดการพอร์ตคอมมอดิตี้ เขาบอกว่า ราคากลางทองคำอยู่ที่ ๘๐๐ เหรียญ/ออนซ์

 

http://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2078535

 

รายงานออกมาเมื่อวันเดียวกับที่ทองโดนทุบเลย

:54

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ่านข่าวเหตุที่ทองลงเพราะ

1. เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

2. ความกังวลเศรษฐกิจโลกลดลง

3. ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น เทขายทองคำ เพื่อนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น

4. ดอกเบี้ยจ่อขยับขึ้น

 

เพื่อนๆ เห็นว่าไงบ้างครับ

 

เห็นควรด้วยครับ :17

1 ดูจาก CORE CPI ที่ประกาศเมื่อวาน=0.1%( คาด 0.2%) แสดงว่าเงินไม่เฟ้อ (คงประมาณตัวเลขตกงานลดลงละมั้ง)

2 ถามคนทั่วๆไปสิ มีแต่คนว่าดีขึ้นทั้งนั้น

3 ทองนิ่งกับลงมาตั้ง 2 ปี จนหุ้นเขาไปถึงใหนแล้ว

4 ก็เฟดเขาว่าแบบนั้น แถมวันนึงคนนึงบอกว่าจะเลิก QE เมื่อวานอีกคนมาบอกว่า พิมพ์ขนาดนี้กำลังดี ต้องพิมพ์ต่อไป

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยังไม่เข้าข่าย4ข้อข้างต้นให้ขายทองเลย แต่ทองลงอย่างหนัก ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาฝากให้อ่านขำๆ (หรือขาสั่นดี)

นักเศรษฐศาสตร์ อาจารย์มหาลัย + อดีตผู้จัดการพอร์ตคอมมอดิตี้ เขาบอกว่า ราคากลางทองคำอยู่ที่ ๘๐๐ เหรียญ/ออนซ์

 

http://papers.ssrn.c...ract_id=2078535

 

รายงานออกมาเมื่อวันเดียวกับที่ทองโดนทุบเลย

:54

 

:aa มันเหมือนกับประชาชนทั่วๆไปที่เคยกินแต่ของถูกเพราะผู้ผลิตขาดทุน เช่นเนื้อหมู เป็นต้น

คนเคยกินแต่ของถูกๆ เพราะฟาร์มขาดทุน พอราคาขึ้นมาหน่อยพอที่ฟาร์มจะกำไร คนก็ด่าว่าหมูแพง

ไม่รู้ว่ามันเอาอะไรมาคิด ว่า 800 ในเมื่อเหมืองเขาคิดออกมาที่ 941(อ่านเจอบางที่บางเหมืองก็ว่า 1200-1300โน่น)

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เขาว่าจะขายเดือนหน้า แต่ต้องรอมติของธนาคารกลางก่อน

 

Cyprus Finance Minister Sees Gold Sale Within Next Months

 

http://www.bloomberg.com/news/2013-04-17/cyprus-central-bank-must-approve-gold-sale-finance-chief-says.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"People are actually buying everything, gold bars, gold

coins. People are rushing to get a hand on it. We have a problem

meeting the demand because we are unable to get new supply,"

said Brian Lan, managing director of GoldSilver Central Pte Ltd

in Singapore.

http://www.reuters.c...N0D401X20130417

 

สิงคโปร์ ฮ่องกง กวาดซื้อทุกอย่างจนของขาด

ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน ก็ขายดิบขายดี

 

 

Gold Buying Frenzy Continues: China, Japan, And Australia Scramble For Physical

 

http://www.zerohedge...ramble-physical

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เขาว่าจะขายเดือนหน้า แต่ต้องรอมติของธนาคารกลางก่อน

 

Cyprus Finance Minister Sees Gold Sale Within Next Months

 

http://www.bloomberg...chief-says.html

 

กำลังงงว่า เท่าที่อ่านต่อให้ขายที่มีทั้งหมดในประเทศ ก็มีแค่ 14 ตัน

 

แค่ 14 ตันเอง แล้วที่เห็นกองทุนแมงมุมขายที 20 กว่าตันตั้งหลายรอบแล้วไม่เห็นมีใครตื่นตกใจเลยละครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กำลังงงว่า เท่าที่อ่านต่อให้ขายที่มีทั้งหมดในประเทศ ก็มีแค่ 14 ตัน

 

แค่ 14 ตันเอง แล้วที่เห็นกองทุนแมงมุมขายที 20 กว่าตันตั้งหลายรอบแล้วไม่เห็นมีใครตื่นตกใจเลยละครับ

มันเป็นตรรกะของคนทุบ และสื่อกระแสหลักอ่ะครับ เพื่อจะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการทุบ

แล้วการขายทองของพวกนี้ก็ไม่ได้เข้ามาขายในตลาดเสียเมื่อไร ขาย G2G ทั้งนั้น ทองก็น้อยเสียจน ...เฮ้อ :_10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:aa มันเหมือนกับประชาชนทั่วๆไปที่เคยกินแต่ของถูกเพราะผู้ผลิตขาดทุน เช่นเนื้อหมู เป็นต้น

คนเคยกินแต่ของถูกๆ เพราะฟาร์มขาดทุน พอราคาขึ้นมาหน่อยพอที่ฟาร์มจะกำไร คนก็ด่าว่าหมูแพง

ไม่รู้ว่ามันเอาอะไรมาคิด ว่า 800 ในเมื่อเหมืองเขาคิดออกมาที่ 941(อ่านเจอบางที่บางเหมืองก็ว่า 1200-1300โน่น)

 

อันนี้เขามีกราฟ มีหลักฐาน มีหลักวิชาการอ้างอิงอย่างดีเลยครับ ไม่ใช่ความเคยชิน

แต่ส่วนตัวอ่านผ่านๆ ก็รู้สึกขำ เพราะผมมองว่าข้อเท็จจริงที่เขานำมาเสนอนั้นไม่ครบ และบางครั้งก็มองด้านเดียว

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระวังตัวเองไว้ด้วย ว่าเรากำลังมองอยู่ด้านเดียวเหมือนกันหรือเปล่า

 

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในผู้เขียนรายงาน อยู่ในองค์กรเดียวกันกับ "พอล ครุกแมน", รายงานออกมาวันจันทร์ที่โดนทุบ

แถมมีคนเชิญไปสัมภาษณ์ออกสื่อเต็มไปหมด เลยเดาเอาว่าน่าจะเป็น "เอกสารทางวิชาการ" ที่เขียนมาเพื่อถล่มทองคำโดยเฉพาะ

 

 

มันเป็นตรรกะของคนทุบ และสื่อกระแสหลักอ่ะครับ เพื่อจะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการทุบ

แล้วการขายทองของพวกนี้ก็ไม่ได้เข้ามาขายในตลาดเสียเมื่อไร ขาย G2G ทั้งนั้น ทองก็น้อยเสียจน ...เฮ้อ :_10

 

ต้องคอยดูว่าจะเป็นการขายโดยตรงระหว่างรัฐที่ปีเตอร์ชิฟฟ์ว่าไว้หรือเปล่า

ถ้าผมเป็นคนขาย ก็คงไม่อยากเทขายออกมาในตลาดเปิด มันจะทำให้เสียราคาเปล่าๆ

 

แต่ที่น่าเจ็บใจสำหรับไซปรัสคือ ทองที่ว่ามันไม่ได้อยู่ในคลังของเขา

เพราะฉะนั้น ถ้าอีซีบี/ทรอยกา จะหักคอให้ขายเท่าไหร่ เมื่อไหร่ อย่างไร ไซปรัสก็คงได้แต่มองตาปริบๆ

 

ไม่รู้ว่าทองคำบ้านเราอยู่ที่ใดบ้าง ถามคนบางคน เขาก็บอกว่าเป็นความลับ เขาเองยังไม่รู้เลย

 

:023

 

สมัยที่นาซีเริ่มรุกคืบเข้ามาที่อังกฤษ สิ่งที่อังกฤษทำตอนนั้น คือรีบขนทองคำส่งมาฝากเก็บไว้ที่แคนาดาเป็นจำนวนมาก

และได้ใช้ทองคำที่ฝากไว้กับแคนาดา เป็นเงินในการสั่งซื้ออาวุธจากลุงแซม เพื่อไปต่อกรกับเยอรมัน

ตอนที่ขนทองมาทางเรือ ก็มีเรือล่มระหว่างทางด้วย ... จนตอนนี้ มีบริษัทที่ตั้งขึ้นมา เพื่อล่าสมบัติพวกนี้โดยเฉพาะ

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

T

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใครไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อน อ่านข่าวเพราะอยากรู้ก็จะกลายเป็นโดนหลอก เหตุผลบางข้อฟังไม่ขึ้น บางเหตุผลก็ขัดแย้งกันในตัวอย่างมาก เช่นตลาดบอนด์กับการเลิกคิวอี เพราะถ้าเลิกคิวอี“ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” ตลาดบอนด์แตกแน่ครับ เพราะถ้าอนาคตดอกเบี้ยจะแพงขึ้นคนจะรีบขายบอนด์ระยะยาวที่ถืออยู่ออกไป จะถือแต่บอนด์ระยะสั้น(เพื่อรอราคาดีๆในอนาคตที่จะสูงขึ้น)

 

คุ้นกับประโยคนี้มั้ย

 

----เวลาดอกเบี้ยในอนาคตมีแนวโน้มจะเป็นขาลง รีบฝากแบบระยะยาวแบบล็อคผลตอบแทนที่อัตรานี้หลายปี(ล็อคดอกไว้ก่อนเพราะอนาคตจะลง)

----เวลาดอกเบี้ยในอนาคตมีแนวโน้มจะขึ้น ต้องฝากแบบระยะสั้นเพราะอนาคตจะได้ดอกที่ดีกว่า(ฝากระยะยาวพอเห็นดอกสูงขึ้น สุดท้ายก็ต้องยอมผิดเงื่อนไขยอมโดนปรับหรือรับดอกออมทรัพย์ เพื่อถอนเงินมาลงอัตราดอกใหม่)

 

สิ้นทองกระทิง!นักลงทุนกลับลำแห่ซบหุ้น-บอนด์

  • 17 เมษายน 2556 เวลา 09:22 น.

BAC675B7943449B886BBBCDC3234D990.jpg

 

 

โดย...นันทิยา วรเพชรายุทธ

กลายเป็นข่าวเขย่าขวัญนักลงทุนทั่วทั้งโลกยิ่งกว่าปัญหานิวเคลียร์เกาหลี เหนือไปแล้ว เมื่อราคาทองคำทำสถิติดิ่งเหวลงติดต่อกัน 2 วันครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 30 ปี โดยราคาทองงวดส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลงแรงถึง 63.5 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และดิ่งลงซ้ำอีก 5140.30 เหรียญสหรัฐ หรือ 9.3% เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เม.ย. รวม 2 วันดำดิ่งลงไปถึง 203.8 เหรียญสหรัฐ ฉุดให้ราคาทองคำโลกลดลงไปแตะ 1,361.10 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

หากนับจากที่ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เมื่อเดือน ส.ค. 2554 ณ วันนี้ ราคาทองคำได้ร่วงลงไปแล้วมากถึงกว่า 500 เหรียญสหรัฐ ในเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปี และยังมีแนวโน้มที่อาจเห็นราคาทิ้งตัวลงอีกอย่างต่อเนื่อง ทลายความเชื่อเดิมๆ ของนักลงทุนทั่วไปว่า “ราคาทองมีแต่ขึ้น” ลงอย่างราบคาบ

ที่สำคัญ ภาวะดังกล่าวยังนับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าวัฏจักรตลาดกระทิง ของทองคำที่ทำราคาเพิ่มขึ้นถึง 30% ตลอดช่วง 12 ปีที่ผ่านมา กำลังจะปิดฉากลงแล้ว

แม้การเทขายทองกว่า 200 เหรียญสหรัฐติดต่อกันถึง 2 วัน จะดูเหมือนเป็นเพียงสัญญาณความตื่นตระหนกของนักลงทุน ทว่าหากวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจโลกจะเห็นได้ชัดว่า สิ่งที่ทำให้ราคาทองดิ่งลงพรวดพราดไม่ใช่เรื่องของความตื่นตระหนก แต่เป็นเพราะนักลงทุนตระหนักได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจโลกในวันนี้ที่เปลี่ยนไปจากยุควิกฤตการณ์ แฮมเบอร์เกอร์เมื่อ 5 ปีก่อน กำลังจะทำให้โฉมหน้าของการเก็งกำไรในทองคำเปลี่ยนไป

ปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งนั้น เป็นเพราะความเสี่ยง “ภาวะเงินเฟ้อ” ทั่วโลกนั้นกำลังปรับตัวลดลง และส่งผลให้บทบาทของทองคำในฐานะเครื่องมือลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อเริ่ม จางหายลงตามไปด้วย

การที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินมาตรการทั้งด้านการเงินและการคลัง โดยการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ระดับต่ำสุดที่ 00.25% พร้อมทั้งพิมพ์เงินเข้าซื้อสินทรัพย์เป็นจำนวนมหาศาล

ทว่าปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มทยอยฟื้นตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดันให้เงินเหรียญสหรัฐเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับหลายสกุล เงินสำคัญของโลก และส่งผลให้บทบาทของทองคำเริ่มลดลงตามไปด้วย

ประการสำคัญที่สืบเนื่องต่อมาก็คือ ความหวาดกลัวต่อวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มจางลง เป็นที่ทราบกันดีว่านอกจากหนีความเสี่ยงเงินเฟ้อแล้ว นักลงทุนยังซื้อทองคำตุนไว้ทุกครั้งเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตการณ์ ทางการเงิน หรือวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกขึ้น เช่น ปัญหาในภาคการเงินสหรัฐหลังฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกเมื่อปี 2551

การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถขยายตัวได้ดีเกินคาด 0.4% ในไตรมาส 4 ของปี 2555 ที่ผ่านมา ขณะที่ภูมิภาคยุโรปก็สามารถประคับประคองปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ และทำให้เขตเศรษฐกิจยูโรโซนรอดพ้นจากการล่มสลายมาได้ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปีนี้ หลังการระดมอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกวิถีทาง ส่งผลให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องนำเงินไปพักหนีความเสี่ยงในทองคำเหมือนในช่วง 56 ปีที่ผ่านมาอีกต่อไป

นอกจากนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำโลกปรับตัวลงครั้งล่าสุดยังเป็นเพราะความกังวล กันว่าเฟดอาจตัดสินใจ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” และ “ยกเลิกการใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงินเชิงปริมาณ (คิวอี)” เร็วกว่าที่คาดไว้เดิม หลังจากที่มีการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ เฟด เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ผู้บริหารบางคนเริ่มกังวลเรื่องผลกระทบจากการใช้มาตรการกระตุ้นมากเกินไป และเสนอให้ยกเลิกการกระตุ้นภายในปีนี้

ขณะเดียวกัน การถอนตัวของนักลงทุนยังมาจากความกังวลว่าราคาทองจะตกลงอย่างรวดเร็ว หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางไซปรัสอาจนำทองคำสำรองออกขายเพื่อหาเงินมากอบกู้ภาค การเงินในประเทศ ซึ่งทำให้ธนาคารเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุนรีบเทขายสัญญาทองคำโดยเร็ว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทว่า ปัจจัยที่อาจมีอิทธิพลมากกว่าและทำให้นักลงทุนตัดสินใจถอนตัวจากตลาดทองคำก็ คือ “ผลตอบแทนที่ลดลง” เมื่อเทียบกับ “ตลาดหุ้น” และ “พันธบัตร” ที่กลับมาเติบโตอย่างร้อนแรงอีกครั้ง

ในปี 2556 นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะวอลสตรีต มีปริมาณและมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 11% ในช่วง 4 เดือนมานี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวน์โจนส์ทำสถิติสูงสุดทุบประวัติศาสตร์อีกครั้งไปแตะ 14,865.14 จุด เช่นเดียวกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ทะยานไปสู่สถิติใหม่ในระดับ 1,593.37 จุด

“ในโลกของกระแสเงินร้อนเช่นนี้ หลายคนไม่มีความอดทนกันมากพอ โดยเฉพาะเมื่อเห็นดาวน์โจนส์พุ่งทำสถิติใหม่ ทำให้หลายคนเริ่มคิดกันว่า ไม่ควรพลาดโอกาสในหุ้น และหมกตัวอยู่กับทองคำอีกต่อไป” ปีเตอร์ ชิฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทลงทุน ยูโร แปซิฟิก แคปิตอล ให้ความเห็นกับเอพี

นอกจากตลาดหุ้นแล้ว นักลงทุนยังหวนกลับไปลงทุนในตลาดพันธบัตรกันอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างหนาตา โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 2% ตามความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เฟดก็ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดทุบสถิติที่ 2.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 89 ล้านล้านบาท)

เมื่อประกอบทุกเหตุผลเข้าด้วยกันแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนทั่วโลกจะพร้อมใจกันถอนตัวออกจากตลาดทองคำ กระโจนไปสู่ตลาดใหม่ที่เร้าใจมากกว่า จนส่งผลให้ราคาทองปรับตัวดิ่งลงรวมแล้วเกือบ 7% นับตั้งแต่เริ่มปี 2556 และอาจเป็นการปิดฉากยุครุ่งเรืองของราคาทองคำตลอด 1-2

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

5 ชั่วโมงที่แล้ว

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

18 เมษายน 2556

 

General News

----------------

 

• มูดี้ส์ เตือนให้รัฐบาลสโลเวเนียเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียในภาคสถาบันการเงินและเร่งโอนสิน ทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (แยก Bad Bank กับ Good bank)

 

ทั้งนี้ สโลเวเนียหลีกเลี่ยงการเป็นสมาชิกยูโรโซนประเทศที่ 6 ต่อจากไซปรัส ที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยรัฐบาลสโลเวเนียไปออกตั๋วเงินคลังอายุ 18 เดือน วงเงิน 500 ล้านยูโร (657 ล้านดอลลาร์) เพื่อนำไปเพิ่มทุนให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาทางการเงิน

 

• อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า การที่ IMF เตือนเรื่องเศรษฐกิจเป็นการตอกย้ำว่าสมาชิกยูโรโซนต้องตั้งใจปฏิรูปในด้านต่างๆ และทำให้ยูโรโซนสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

ทั้งนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสู่ 3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.2% จากที่ประเมินไว้เมื่อเดือน ม.ค. โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.3%

 

• อิตาลีสั่งอายัดสินทรัพย์มูลค่า 1.8 พันล้านยูโร หรือราว 70,000 ล้านบาท ของธนาคารโนมูระของญี่ปุ่น ระหว่างสอบสวนคดีฉ้อโกงที่พัวพันกับธนาคาร มอนเต เดอีปาสกี ดิ ซีนา ของอิตาลี ซึ่งอยู่ในรูปของหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เรียกว่า "Alexandria trade"

 

ทั้งนี้ มอนเต เดอี ปาสกี ดิ ซีนา ระดมเงินจากการทำข้อตกลงซื้อคืนในระยะยาวกับโนมูระ เพื่อเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี 3 พันล้านยูโร ซึ่งเชื่อว่าทำเพื่อปกปิดยอดขาดทุนโดยใช้วิธีกระจายตัวเลขขาดทุนดังกล่าวออกไป 30 ปี

 

• จำนวนผู้ที่ไม่มีงานทำในอังกฤษเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างก็ชะลอตัวลง บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานของอังกฤษกำลังย่ำแย่อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจอ่อนแอ

 

• IMF ชี้ว่า เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นกว่าเมื่อครึ่งปีก่อน แต่อัตราการขยายตัวที่ไม่เท่ากันในระหว่างภูมิภาคต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจโลกมีอัตราการขยายตัวใน 3 ระดับ ตั้งแต่ ปรับตัวน่าพอใจ-อยู่ระหว่างการฟื้นตัว-และย่ำแย่

 

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เชื่อว่าอยู่ในกลุ่มแรก คือ ปรับตัวน่าพอใจ เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นหลังจากชะลอลงเล็กน้อยในปีที่แล้ว การขยายตัวจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการปรับปรุงฐานะการคลังและดำเนินนโยบายควบคุมความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

 

• ธ.ดีบีเอส ฮ่องกง ปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในปีนี้เหลือ 8.5% จากเดิม 9% เนื่องจากปริมาณการบริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งมีเหตุจากรัฐบาลจีนรณรงค์ให้ประหยัด และจากการที่ภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากความพยายามควบคุมมลภาวะของรัฐบาล ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ได้แก่ มาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และการลงทุนด้านสาธารณูปโภคซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้

 

• ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุมร่วมกับภาคการเงินเพื่อหารือเรื่องมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก และปรับปรุงการติดต่อสื่อสารกับนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นของ BOJ

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่น ในเดือน มี.ค. ปรับตัวขึ้น 0.6% จากเดือน ก.พ. มาอยู่ที่ 44.8 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2550 หลังจากนโยบายเศรษฐกิจของ นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ช่วยฉุดเงินเยนให้อ่อนค่าลง และหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว

 

• รมว.คลัง เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากปัจจัยเศรษฐกิจนอกประเทศ ทั้งกรณีจีนที่มี GDP เติบโตลดลงเหลือ 7.7% และกรณีที่ FED อาจจะหยุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นปีนี้ โดยระบุว่า ไทยต้องเน้นเรื่องการบริหารเศรษฐกิจ การจัดเก็บรายได้ให้เหมาะสม และการสร้างบรรยากาศกับเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ดี

 

• สศค. วิเคราะห์ว่า หนี้สาธารณะของไทยในปัจจุบันที่ 44.05% ของ GDPเป็นระดับที่มั่นคง และต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 60% ของ GDP นอกจากนี้ สัดส่วนของหนี้สาธารณะของไทยกว่า 96% ยังเป็นหนี้ระยะยาว และกว่า 93% เป็นหนี้สกุลเงินบาท ทำให้รัฐบาลมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการชำระคืนได้มากขึ้น

 

ทั้งนี้ คาดว่าแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและแผนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น จะกระทบหนี้สาธารณะไทยเป็นไม่เกิน 50% ของ GDP ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี

 

Equity Market

----------------

 

• SET Index ปิดที่ 1,521.53 จุด ลดลง 5.79 จุด หรือ -0.38% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 56,936 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 197.89 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยในภาพรวมน่าจะยังแกว่งตัวผันผวน โดยอาจมีการเทขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังกระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ยังมียอดซื้อสะสมในเกณฑ์ที่สูง รวมทั้งต้องติดตามภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนว่าจะมีมาตรการอะไรออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่

 

Fixed Income Market

------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.06% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 2 ปี วงเงิน 35,000 ล้านบาท

 

Gold Corner

--------------

 

• จิม โรเจอร์ส เชื่อว่าแนวโน้มราคาทองคำจะยังคงลดลงได้อีก เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานหลังจากที่ราคาปรับขึ้นมาหลายปีติดต่อกัน

 

ดังนั้น จึงยังไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อในขณะนี้ แต่ยังยืนยันคาดการณ์เดิมที่ระบุว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในทศวรรษหน้า

 

• รมต.คลัง ไซปรัส กล่าวว่า การขายทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศจะต้องผ่านความเห็นชอบจากธนาคารกลางไซปรัสตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อน แต่เชื่อว่าจะได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาในภาคการเงินของประเทศ

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาทองคำโลกระบุว่าไซปรัสมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 13.9 ตัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.youtube.com/watch?v=AuFR-MmcFdQ&feature=youtu.be

 

ประโยคสุดท้ายก่อนจบ เศรษฐกิจอเมริกาก็ยังไม่ดีแต่เขาสร้างภาพได้ดี(ภาพที่สร้างจะสร้างได้นานแค่ไหน)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เครี่ ลัทซ์ คุยกับ รอส แฮนเซน -- เจ้าของโรงงานผลิตทองคำ/โลหะเงินเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลุงแซม และเจ้าของเหมืองโลหะมีค่าหลายเหมือง

  • เขาเชื่อว่าที่ทองคำถูกเทขายออกมาเมื่อวันศุกร์ และวันจันทร์ เป็นเพียงแค่การขายของกองทุนทางเทคนิคเท่านั้น
  • เขาบอกว่าใครที่บอกคุณว่าวัตถุดิบโลหะมีค่าขาดตลาดนั้น สตอเบอร์รี่มาก และที่โรงกษาปณ์ลุงแซมผลิตเหรียญเงินไม่ทันนั้น เป็นความไม่ได้เรื่องของการบริหารงานมากกว่า (ไม่สั่งของมาให้เพียงพอต่อการผลิต ไม่ใช่ของไม่มีจะส่งให้โรงกษาปณ์)
  • อย่างไรก็ตาม เขายังเชื่อว่าโลหะมีค่า เป็นเงินที่แท้จริงอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนควรจะบริหารพอร์ตให้เหมาะสม ไม่ใช่ขายบ้าน ขายรถ ไปซื้อทองคำเวลามันตก :blink:
  • ส่วนที่มีกระแสว่าไครม์เม็กซ์จะเจ๊งเพราะไม่มีของส่งนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบ่อนฟิวเจอร์เขามีไว้ให้เหมืองแร่ และผู้ที่เกี่ยวของกับสินค้า เข้ามาป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวน (ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ตอนแรกที่ตั้ง "ตลาด" ฟิวเจอร์ขึ้นมา คงจะเป็นยังงั้นจริงๆ แต่ตอนนี้หน้าที่หลักมันเป็น "คาสิโน" เสียมากกว่า)

http://financialsurv...ehind-the-mint/

 

เครี่ ลัทซ์ คุยกับ ปีเตอร์ แกรนดิช

  • ถ้ากองทุนทั้งหลายจะออกจากตลาดโลหะมีค่า จะเทขายทิ้งมาทำไมให้เสียราคาตั้งสองสามร้อยเหรียญ ค่อยๆขายออกมาเรื่อยๆดูน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่า ... ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงเชื่อว่ามีการพยายามทุบแน่
  • ... นอกจากนั้นเขาก็พูดเรื่องพื้นฐาน และเหตุผลว่าทำไมถึงควรถือทองคำ ตามแบบที่เราเคยฟังกัน ....

http://financialsurvivalnetwork.com/2013/04/peter-grandich-scary-times-for-precious-metals-investors/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...