ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงหลังจากถูกกดดันโดยค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ก่อนที่จะทำจุดสูงสุดในรอบ 9 วันได้ และราคากลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 100 จุดได้ โดยปัจจัยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ คือตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ และดีกว่าครั้งก่อน และประธานเฟดสาขาย่อยให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามเดิม แต่ราคาทองก็ปรับลดลงไม่มากเนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงการเมืองฝั่งยุโรปก็ยังคงต้องติดตาม

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 9.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.72% โดยปิดที่ 1,242.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,242.21 – 1,253.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,241 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 วัน โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ 1. ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (GDP) ไตรมาส 1/2560 ประกาศออกมาที่ 2.1% มากกว่าคาดการณ์ที่ 2.0% 2. ประธานเฟดสาขาชิคาโก้ เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ราคาทองปรับลดลงไม่มากเนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องการเมืองฝั่งยุโรป คือ ประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสในเดือนหน้า และวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาของสหรัฐฯ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังจากคูเวตสนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนถ่วงยูโรร่วงลง ยูโรร่วงสู่ระดับ 1.0681 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. และดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.52 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค

• ยูโรร่วงลงหลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีและสเปนชะลอตัวลงรุนแรงเกินคาดในเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซนอาจดำเนินต่อไป ส่วนในสหรัฐนั้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเกินคาดในไตรมาส 4/2016 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง

• ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก โดยนายอีแวนส์กล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ของเขาในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ดัชนีราคาของสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ในระยะกลางรอสะสม long เมื่อปรับลดลงแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงขายทำกำไร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนลบเป็นส่วนมาก ในขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ โดยเรามองว่าการเคลื่อนไหวที่สวนทางกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคพร้อมทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยมากกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับแรงซื้อในหุ้นใหญ่กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่นำตลาด จากคาดการณ์การทำ Window Dressing สิ้นไตรมาส 1/60 โดยดัชนี SET index เมื่อวานนี้ปิดตลาด ในแดนบวกที่ 1,579.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่หนาเเน่นอย่างมีนัยสำคัญถึง 51,767.28 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อหลักจากนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิถึง +10,662.23 ล้านบาท รวมมีสถานะซื้อสุทธิในดัชนี SET index ตลอดเดือน +3,891 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นมีมุมมองสวนทางขายสุทธิรวมกันประมาณ -10,000 ล้านบาท ปัจจัยนี้ให้ความเห็นว่าการปรับขึ้นของดัชนีไม่สอดรับกับมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดดังนั้นอาจมีเเรงขายทำกำไรบางส่วนในวันนี้หรือในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อรอปัจจัยพื้นฐานให้สามารถปรับตัวตามดุลยภาพของตลาดได้ ในส่วนของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 998 จุด ก่อนปิดตลาดบวก +2.3 จุด ที่ 995.20 จุดอย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบางส่วนกดดัน ประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเป็นปกติโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์นี้ซึ่งอาศัยแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติและแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเท่านั้น ในขณะที่ปัจจัยบวกระยะกลางอื่นๆ ยังไม่โดดเด่น

 

• Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 990 จุด ฝั่ง Long ได้เปรียบ, Upside เริ่มจำกัด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่เริ่มฟื้นตัวอาจเป็นปัจจัยบวกกลุ่มพลังงานภายในประเทศ

 

ข่าวในประเทศ

- รายได้รัฐ 5 เดือนแรกเกินเป้า1.6%: คลังเผยเก็บรายได้รัฐบาล 5 เดือนแรก ปีงบ 60 เกินเป้าหมาย 1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6% โดยการจัดเก็บรายได้จาก 3 กรมภาษีต่ำเป้าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการกว่า 3 หมื่นล้านบาท

- ไทยถกรัฐบาลทรัมป์ครั้งแรก 3 เม.ย. : กระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ประจำปี 60 วันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ เป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรก กับสหรัฐ ภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นโอกาสดีในการหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน ในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายสนใจและเป็นประโยชน์ร่วมกัน

- (CBGH17)'คาราบาว'กรุ๊ปปีนี้ รายได้โต20-25% : CBG ลุยลงทุนเพิ่มกำลังผลิตกระป๋องหลังขายดีจนกำลังผลิตไม่พอ หวังปีนี้รายได้โต 20-25% โดยเปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตประมาณ 20-25% ขณะที่กำไรปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตดี โดยธุรกิจในประเทศหลังจากในปี 2559 บริษัททยอยเพิ่มจำนวนหน่วยรถกระจายสินค้า (Cash Van) เป็น 31 คัน จะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายปีนี้เต็มปีเฉลี่ย 3 หมื่นบาท/วัน/คัน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาได้แรงหนุนในคืนวันศุกร์หลังจากตัวเลขภาคการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ออกมาใกล้เคียงเดิม และเริ่มมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง รวมทั้งประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลาย และไม่รีบเร่งคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวได้ท้ายตลาด และในสัปดาห์นี้ติดตาม ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อของสหรัฐฯ (PMI) รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของ FOMC และ ตัวเลขภาคการจ้างงานในปลายสัปดาห์

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.73 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.46% โดยปิดที่ 1,248.63 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,239.55 – 1,250.61 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงคืนวันศุกร์ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาและภาคการใช้จ่ายในสหรัฐฯ ประกาศออกมาใกล้เคียงเดิมและมีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยออกมาพูดว่าเฟดไม่เร่งรีบที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวได้ช่วงท้ายตลาด และกลับมาปิดบวกได้ โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตาม ตัวเลขดัชนี้ผู้จัดการฝ่ายซื้อของสหรัฐฯ (PMI) รายงานประชุมของ FOMC และตัวเลขภาคการจ้างงานในคืนวันศุกร์ โดยภาพรวมราคาทองคำยังมีแรงซื้อกลับเมื่อราคาปรับลง เพราะ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองสหรัฐฯ และการเลือกตั้งฝรั่งเศส ยังคงต้องติดตามต่อเนื่อง

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง หลังจากปรับขึ้นมานานติดต่อกัน 3 วัน ในขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้อุปทานน้ำมันโลกล้นตลาดมากยิ่งขึ้น

• ดอลลาร์ทรงตัวในวันศุกร์ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบาย และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่สดใสมากนักส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในดอลลาร์

• ยูโรดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของวันเมื่อเทียบกับเยน หลังการแสดงความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คซึ่งระบุว่า เฟดไม่เร่งรีบที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ความเห็นของเขาออกมาหลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐอ่อนแอเกินคาด ซึ่งแสดงว่าชาวอเมริกันยังคงชะลอการใช้จ่าย โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือน ก.พ.

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.73 ดอลลาร์ สู่ 1,248.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดไตรมาสแรกด้วยการพุ่งขึ้น 8.4 % จากไตรมาส 4/2016 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ปี ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความไม่แน่นอนในแผนภาษีและการลงทุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และกังวลกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศส

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• รายงานการประชุมของ FOMC

• ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI)

 

• Strategy : trading long เป็นหลัก

Smart Stock

Today Strategy:

เผชิญแรงขาย

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนค่อนข้างสวนทางกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอื่นๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์(ก่อนที่จะมีแรงเทขายในวันศุกร์ในขณะที่ตลาดอื่นๆ เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดสัปดาห์) โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญตลอดสัปดาห์ในทุกตลาด ทั้งตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ รวมไปถึงตลาดเงินด้วย สะท้อนความน่าสนใจที่โดดเด่นและดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติมากกว่าดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดที่ 996.60 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันลงไปทำจุดต่ำที่สุดในวันบริเวณ 986.40 จุด และปิดตลาดในแดนลบที่ 990.40 จุด -4.5 จุด ถือว่าเป็นการปรับตัวลงลึกพอสมควร ภาพการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดในแดนลบเช่นกัน บริเวณ 1,575.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันประมาณ 38,033.69 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายหลักมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ขายสุทธิ -601.43 ล้านบาท เเละเเรงขายสุทธิจาก นักลงทุนต่างประเทศ -286.68 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเรามองว่าแม้นักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาขายสุทธิแต่ก็ถือว่ายังไม่มากเท่าใดและยังมีสถานะซื้อสุทธิตลอดเดือนมีนาคม +3,604.32 ล้านบาท ประกอบกับกระแสเงินที่ไหลเข้าในตลาดเงินยังสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม อย่างไรก็ตามการแข็งค่าดังกล่าวก็ส่งผลลบต่อความน่าสนใจในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักแต่เราเชื่อว่าไม่นานตลาดจะปรับตัวเข้าสู่ดุลภาพเนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกส่วนใหญ่ทำการป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงินด้วยอนุพันธ์ทางการเงินไว้แล้ว เพียงแต่นักลงทุนบางส่วนอาจยังไม่ทราบและเทขายหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวออกไปก่อน สำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างและมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลดลงโดยเฉพาะจากปัจจัยด้านการสิ้นสุดการทำ Window Dressing ไตรมาส 1/60

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา Upside จำกัด, ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position (Short Bias)

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 เดือน บริเวณ 34.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- ชงแผนประมูลแหล่งก๊าซ ดันเข้า ครม.ปลายเดือนนี้-ตั้งเป้าจบก่อนสิ้นปี "นักวิชาการ"แนะกรรมการศึกษาบรรษัทฯ น้ำมันต้องไร้คู่ขัดแย้ง: กรมเชื้อเพลิงฯ เร่งทำแผนคำนวณผลประโยชน์ชง ครม.ปลายเดือนนี้ เคาะรูปแบบเปิดประมูล 2 แหล่งก๊าซหมดอายุ เลือก "สัมปทาน" หรือ "แบ่งปันผลผลิต" เพื่อดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นปี "นักวิชาการ" แนะโครงสร้างกรรมการศึกษาตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ต้องไม่มีตัวแทนความขัดแย้งเข้าร่วม

- ดัชนีเชื่อมั่นอสังหาฯ ไทย ปี60 แผ่ว: ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปี 60 ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงสวนกระแสตลาดเพื่อนบ้านเหตุเจอปัจจัยเสี่ยงรุมรอบด้าน

- หนี้ครัวเรือนปรับตัวลดลงจากปีก่อน แนวโน้มปีนี้จะลดลงต่อเนื่อง: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ หนี้ครัวเรือนปี 2559 ลดลงเหลือ 79.9% จากปีก่อน 81.2% เหตุสินเชื่อนอนแบงก์หดตัวและสถาบันการเงินระมัดระวังตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอคาดปีนี้จะปรับลดลงเหลือประมาณ 78.5-80% ต่อจีดีพี

- (BTSM17)BTSพื้นฐานแกร่ง-ธุรกิจฟื้นสวย: BTS ราศีจับ! ลุ้นภาครัฐเซ็นสัญญาสายสีชมพู-เหลืองเร็วๆ นี้ หนุนธุรกิจสดใส ฟันธงปี 2560 ธุรกิจหวนฟื้นตัวแรง รับธุรกิจโฆษณา-คอนโดร่วมทุน-รับรู้ส่วนต่อขยายสายสีเขียว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามตัวเลข PMI

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,244.05 – 1,249.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวจากกรอบการย่อตัวในคืนวันศุกร์ และในวันนี้ราคาทองคำแกว่งในกรอบแคบๆ บวกลบสลับกันประมาณ 5 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคือตัวเลขภาคการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ออกมาใกล้เคียงเดิม รวมทั้งท่าทีของประธานเฟดสาขาย่อยที่กล่าวว่าจะไม่เร่งรีบใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน ทำให้ทองฟื้นตัวได้เล็กน้อย แต่ว่าอย่างไรก็ตามคืนนี้ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ซึ่งถ้าออกมาชะลอตัวอาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้ และในสัปดาห์นี้ต้องติดตามรายงานการประชุมของเฟด และตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ราคาทองได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายเบนัวท์ เคอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันนี้ว่า อีซีบีมองไม่เห็นหลักฐานบ่งชี้ว่า การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแข็งกร้าวสร้างความเสียหายต่อเสถียรภาพทางการเงินในปัจจุบัน ถึงแม้มีความกังวลเรื่องอัตราผลตอบแทนที่ระดับต่ำมากในพันธบัตรบางรายการก็ตาม

- นายปีเตอร์ แพรท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า นโยบายการเงินของอีซีบีในปัจจุบันนี้ยังคงมีความเหมาะสม นายแพรทกล่าวในวันที่ 27 มี.ค.ในการให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Expansion ของสเปนฉบับวันนี้ว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับเข้าใกล้ระดับเป้าหมายซึ่งอยู่ต่ำกว่า 2% เล็กน้อย

- ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงิน 6.1899 แสนล้านหยวน (8.993 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบการเงินโดยผ่านทางเครื่องมือสภาพคล่องระยะสั้นและระยะกลางในเดือนมี.ค. โดยพุ่งขึ้นเกือบ 50% จากเดือนก.พ. ในขณะที่ตลาดการเงินกังวลกับภาวะขาดแคลนเงินสด

- กระทรวงพลังงานของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียอยู่ที่ 11.05 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมี.ค. ลดลง 200,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนต.ค.

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้นสู่ +12 ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังส่งผลบวกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้นสู่ +12 ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังส่งผลบวกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเหนือ 100 จุด

 

คำแนะนำ : trading long เป็นหลักหากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ บริเวณ 1,239 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทองในช่วงนี้เป็นปัจจัยทางด้านการเมืองสหรัฐฯ และความไม่สงบในรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด และตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อๆ ไป และเมื่อคืนนี้กองทุน SPDR กลับเข้าซื้อสะสมทองอีกครั้ง ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่ดีและแกว่งตัวในกรอบขาขึ้นระยะสั้นได้ต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.34% โดยปิดที่ 1,252.85 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,244.05 – 1,253.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,255 เหรียญ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งในปลายสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าพบกับประธานาธิบดีของจีน และนายทรัมป์ระบุถึงความเป็นไปได้ ที่จะใช้ประเด็นเรื่องการค้าชักจูงจีน ให้ร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ รวมทั้งความกังวลถึงความสามารถของนายทรัมป์ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่หาเสียงหรือไม่ ผนวกกับมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้ง 3 ประเด็นจึงเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง แต่อย่างไรก็ตามติดตามรายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุด และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เป็นหลัก ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 4.45 ตัน รวมถือครอง 836.77 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่ลิเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน และปัจจัยลบนี้บดบังปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันได้รับจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเอเชีย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 36 เซนต์ หรือ 0.7 % มาปิดตลาดที่ 50.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 50.12-50.83 ดอลลาร์

• ตัวเลขเศรษฐกิจจากเอเชียบ่งชี้ว่า อุปสงค์พลังงานอาจจะอยู่ในระดับแข็งแกร่งในอนาคต ตัวเลขภาคการผลิตของโรงงานทั่วเอเชียเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนมี.ค. โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนแสดงให้เห็นว่า ภาคโรงงานของจีนขยายตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนและยูโรในวันจันทร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสภาคองเกรสสหรัฐต่อนายนีล กอร์ซุซ ซึ่งปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของปธน.ทรัมป์ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

• บรรดานักลงทุนได้ปรับตัวรับโอกาสมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

• ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินว่าจุดยืนในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของปธน.ทรัมป์ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อการประชุมระหว่างปธน.ทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• รายงานการประชุมของ FOMC

• ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI)

 

• Strategy : trading ในกรอบการขึ้นระยะสั้น โดยเน้นฝั่ง long เมื่อราคาย่อตัว

Smart Stock

Today Strategy:

มีทั้งปัจจัยบวก/ปัจจัยลบ

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในกรอบราคาแคบๆ ระหว่าง 990.70 – 994.90 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 993.20 จุด +3.2 จุด ภาพการเคลื่อนไหวไม่ค่อยหวือหวาเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังหมดปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบอารมณ์ตลาดในระยะสั้น ด้านดัชนี SET index ปิดตลาดในแดนบวกที่ 1,580.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียงแค่ 31,184.45 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเป็นเเรงซื้อสุทธิจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ +1,293.40 ล้านบาท กลุ่มเดียวเท่านั้น ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันรวมขายสุทธิทุกกลุ่มประมาณ –1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการที่นักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิสะสมในดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นได้สะท้อนมุมมองบวกที่โดดเด่นของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ดีกว่าภูมิภาคเเละเราคาดว่าเป็นกระเเสเงินทุนที่ไหลเข้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากรายงานการประชุม FED, ECB ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเเรงซื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัวระหว่างวัน ในขณะที่เงินทุนบางส่วนได้ถูกกระจายไปในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการประการงบของไตรมาสล่าสุด อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยบวกภายในประเทศยังพอมีให้ชื่นใจทั้ง ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมีนาคมซึ่งปรับดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.6 สูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่โดดเด่น สำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบที่จำกัดและมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบาง ประกอบการการปรับขึ้นของดัชนียังเป็นการปรับขึ้นที่ไม่ค่อยมีปริมาณการซื้อขายเข้ามารองรับและสวนทางกับนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาด

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากราคาเคลื่อนไหวเหนือ 993 จุด ฝั่ง Long น่าสนใจ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามรายงานการประชุม FED, ECB (6 เม.ย.)

 

ข่าวในประเทศ

- ยอดส่งออกดีขึ้นหนุนสินเชื่อเดือนกุมภาพันธ์โต 3.9%: ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะการเงินในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินทั้งระบบไม่ว่าธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีวงเงินรวม 16.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 3.9% ส่วนเงินฝากรวม ตั๋วแลกเงินทั้งระบบมี 18.1 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.5%

- ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจพุ่งสูงรอบ 2 ปี: ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่า ดัชนีปรับดีขึ้น จากเดือนก่อนที่ระดับ 49.8 มาอยู่ที่ระดับ 52.6 สะท้อนว่าภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และเมื่อขจัดผลของปัจจัยชั่วคราวด้านฤดูกาลออก ดัชนีอยู่ที่ระดับ 51.0 ถือเป็นการปรับดีขึ้นสูงสุดในรอบ 24 เดือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ส่งออกในกลุ่มธุรกิจกระดาษและการพิมพ์ การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการผลิตยานยนต์ตามทิศทางการส่งออกที่ปรับดีขึ้น

- (KBANKM17)บัณฑูรแจง 'ธีรนันท์' ลาออกไม่กระทบแบงก์กสิกรฯ: นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในธนาคาร แต่ไม่กระทบกับการบริหารงานที่เคยดูแลเพราะธนาคารทำงานเป็นทีม ขณะนี้ยังไม่ได้แต่งตั้งใครขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (เคบีทีจี) ขอใช้เวลาพิจารณาระยะหนึ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ยังมีปัจจัยบวก

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่บริเวณ 1,255.57 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,254.51 – 1,260.09 USD/toz ภาพรวมราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศได้แก่ 1.ประเด็นการก่อการร้ายรถไฟใต้ดินที่รัสเซียเมื่อวานนี้ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน สะท้อนความเปราะบางของความมั่นคงระหว่างประเทศและการก่อการร้ายสากล 2.ประเด็นการซ้อมรบทางทะเลระหว่าง เกาหลีใต้ ญีปุ่นและสหรัฐฯ เพื่อป้องปรามการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ 3.คาดการณ์การเลือกตั้งฝั่งยุโรปหลายประเทศซึ่งยังไม่มีความชัดเจนฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าประเด็นทั้งหมดยังเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดทองคำ สำหรับการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนประกาศค่อนข้าง +/- สลับกัน โดย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเเละดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจาก ISM ประกาศค่อนข้างไม่โดดเด่นไม่มีนัยสำคัญเท่าใด ในขณะที่มุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เพิ่มสถานะการลงทุนในทองคำเมื่อคืนนี้ +4.45 ตัน รวมถือครองทองคำ 836.77 ตัน โดยหากนับตั้งเเต่ต้นเดือน มีนาคม SPDR ปรับลดการถือครองทองคำจากระดับ 843.54 ตัน (ปรับลด 6.77 ตัน) สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดุลการค้า, คำสั่งซื้อโรงงานและการสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ความกังวลปัจจัยการเมืองหนุนราคาทองคำปรับขึ้น: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.22 ดอลลาร์ สู่ 1,252.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง อย่างไรก็ดี ราคาทองเคลื่อนตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีสัญญาณใหม่เกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐ และนักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดปรับขึ้น 2.80 ดอลลาร์ สู่ 1,254.00 ดอลลาร์/ออนซ์

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์: ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นในวันจันทร์ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประเภทอายุ 10 ปี ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ต่ำเกินคาดในสหรัฐฯ และนักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงต้นไตรมาส ทั้งนี้ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปิดปรับขึ้นราว 14/32 สู่ 99-04/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.35 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี ปิดปรับขึ้น 21/32 สู่ 100-10/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.984 %

- ค่าเงินดอลลาร์ร่วงเมื่อเทียบค่าเงินเยนและยูโรจากความไม่แน่ใจการเมืองฝั่งสหรัฐฯ: ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและยูโรในวันจันทร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อนายนีล กอร์ซุซ ซึ่ง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของ ปธน.ทรัมป์ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วง 0.4% สู่ 110.90 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ 1.0670 ดอลลาร์

- น้ำมันดิบปรับตัวร่วงลงเพราะข่าวลิเบียเพิ่มปริมาณการผลิต: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่ลิเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและปัจจัยลบนี้บดบังปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันได้รับจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเอเชีย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 36 เซนต์ หรือ 0.7 % มาปิดตลาดที่ 50.24 USD/bbl หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 50.12-50.83 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับลง 41 เซนต์ หรือ 0.8 % สู่ 53.12 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- รายงานการประชุมของ FOMC, ECB (6 เม.ย.)

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long ยังได้เปรียบ (Long Bias)

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 5 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างวันได้ไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเดือนได้ โดยปัจจัยหนุนในช่วงนี้ยังคงเป็นปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในฝรั่งเศส แต่ว่าอย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มย่อตัวลงหลังจากนายทรัมป์เริ่มเปิดเผยแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฏระเบียบ และในคืนนี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการและรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดเป็นหลัก

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.21% โดยปิดที่ 1,255.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,253.71 – 1,261.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,254 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเมื่อคืนนี้ราคาทองคำได้ไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,261.15 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ได้ที่บริเวณ 1,263.80 เหรียญ โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าพบกับประธานาธิบดีจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งความกังวลถึงการเลือกตั้งฝรั่งเศสในปลายเดือนนี้ ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาทองย่อตัวท้ายตลาด ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยแผนการขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฎระเบียบ และคืนนี้ติดตามรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด และตัวเลข PMI ภาคบริการ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวเหตุขัดข้องทางการผลิตน้ำมันในทะเลเหนือ และจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบกับผลิตภัณฑ์น้ำมันสหรัฐอาจปรับลดลง

• เยนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับยูโรในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้บรรดานักลงทุนในตลาดยังรอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปลายเดือนนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 2.62 ดอลลาร์ สู่ 1,255.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,261.15 ดอลลาร์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคาทองขยับลงจากจุดสูงสุดของวัน ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยแผนการขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฎระเบียบ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• รายงานการประชุมของ FOMC

• ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI)

 

• Strategy : trading long ในกรอบขาขึ้นระยะสั้น แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรบริเวณจุดสูงสุดเดิม

Smart Stock

Today Strategy:

ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก

สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 993 จุด โดยมีแรงขายกดดันสัญญาฯ ให้ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในวันบริเวณ 990.80 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับในการซื้อขายภาคบ่ายและปิดตลาดที่ 996 จุด +2.9 จุด ภาพการเคลื่อนไหวมีความผันผวนชัดเจนกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวระหว่างวันนิ่งกว่าและปิดตลาดที่ 1,583.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังคงเบาบางต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยปกติเพียง 37,273.47 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ +1,194.22 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +598.52 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มซื้อสุทธิลดลงเพียง +83.46 ล้านบาท สะท้อนการชะลอการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ โดยขายสุทธิสวนทาง -1,876.19 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยและสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายังคงซบเซาและยังคงขาดปัจจัยบวก/ลบ ที่โดดเด่นเพียงพอที่จะชี้นำตลาดได้ประกอบกับพรุ่งนี้ (และสัปดาห์หน้า) จะเป็นวันหยุดซึ่งจะส่งผลลบต่อมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน ด้านปัจจัยภายนอกยังคงมีภาพลบกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่พอสมควรทั้งประเด็นความมั่นระหว่างประเทศ, การเลือกตั้งฝั่งยุโรปและเสถียรภาพ/เอกภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึงการซ้อมรบร่วมทางทะเลระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

 

• Strategy : Wait & See, มีแนวโน้มผันผวนและแกว่งตัวไร้ทิศทาง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามรายงานการประชุม FED, ECB (6 เม.ย.) และการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐฯ-จีนช่วงปลายสัปดาห์

 

ข่าวในประเทศ

- คลังฟุ้งเบิกจ่ายงบ 60 พุ่ง: บัญชีกลางฟุ้งเบิกจ่ายภาพรวม 2 ไตรมาส ปีงบ 60 กระฉูดแตะ 1.45 ล้านล้านบาท ด้านเบิกจ่ายลงทุนพุ่ง 41.13%

- ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือนกุมภาพันธ์วูบ: สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เดือน ก.พ. ร่วงจากเดือน ม.ค.เล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 96.2 ชี้ยอดขายและการลงทุนทรงตัว สวนทางคาดการณ์ไตรมาสหน้าเพิ่มขึ้นที่เป็น 101.8 ยืนยันผู้ประกอบการยังมั่นใจ

- ภาคครัวเรือนกังวลปัญหารายได้ กสิกรฯพบถูกเลิกจ้างเพิ่ม-ไม่ได้ปรับเงินเดือน แต่มุมมอง3เดือนข้างหน้าดีขึ้น: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 45.0 ในเดือน มี.ค. 2560 จากเดิมที่ระดับ 45.3 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลต่อประเด็นรายได้และภาวะการมีงานทำ เรื่องเงินออม รวมถึงราคาสินค้า

- ลงทะเบียนคนจนยอดทะลุ 9 แสนราย: ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเปิดเผยว่าเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะให้กลุ่มนักบวชมาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้หรือไม่ หลังจากพบว่ามีพระและแม่ชีมาขอลงทะเบียน

- (BANPUM17) BANPU ยิ้มราคาถ่านหินทะยาน/ลุยซื้อเหมืองอินโด-ออสเตรเลีย: BANPU ลั่นปี 2560 รายได้โตเด่น ขานรับราคาถ่านหินพุ่ง หนุนยอดขายทั้งปีแตะ 47 ล้านตัน ชี้ยอดขายถ่านหินล่วงหน้าทะลัก โชว์กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพ-พัฒนาสินค้า หวังขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศจีนมากขึ้น ซุ่มซื้อกิจการเหมืองอินโดนีเชีย-ออสเตรเลียแห่งใหม่ภายในปีนี้ พร้อมเร่งเครื่องพลังงานเต็มสูบ หวังปั๊มกำลังไฟฟ้าในมือ 4300 เมกะวัตต์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 5 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามรายงานการประชุมเฟด

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,255.23 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,251.76 – 1,257.28 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในช่วงบ่ายวันนี้ในกรอบประมาณ 6 เหรียญ โดยแกว่งในแดนลบส่วนใหญ่ หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,261 เหรียญ แต่ยังเผชิญกับแรงขายทำกำไร ทำให้ราคาทองคำภาพในระยะสั้นมีโอกาสย่อตัวในวันได้ โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคือประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มออกมาพูดถึงประเด็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ ที่จะพยายามปรับลดกระบวนการ เพื่อเร่งการดำเนินการตามที่หาเสียงเมื่อปีก่อน ส่งผลให้ราคาทองเริ่มโดนกดดัน และตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มปิดบวกได้ แต่ทางเราเชื่อว่าภาพราคาทองคำในระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี และต้องติดตามการรายงานการประชุมเฟดซึ่งถ้าหากไม่มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นต่อได้ แต่ถ้าไม่อาจจะได้เห็นราคาทองเริ่มพักฐานได้เช่นกัน

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- เจ.พี.มอร์แกนเปิดเผยผลสำรวจลูกค้าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฉบับล่าสุดในวันอังคาร โดยระบุว่า นักลงทุนปรับเพิ่มการถือครองสถานะขายในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว ในขณะที่การพุ่งขึ้นของราคาพันธบัตรส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐร่วงลง 9.6% สู่ 4.356 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. หลังจากแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 4.817 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลง และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อยอดนำเข้า ทางด้านยอดส่งออกสินค้าสหรัฐได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศในวันอังคารว่า เขาจะปรับลดความยุ่งยากของระบบราชการ เพื่อจะได้เร่งรัดการอนุมัติโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และกล่าวว่ามาตรการปรับปรุงถนน, อุโมงค์ และสะพานของเขาอาจจะมีขนาดสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาเคยให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปี 2016

- ผลสำรวจภาคเอกชนบ่งชี้ในวันนี้ว่า กิจกรรมในภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 19 เดือนในเดือนมี.ค. ขณะที่ภาคธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆสามารถปรับเพิ่มราคาสินค้า

- สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษส่งสัญญาณว่า อาจจะมีการต่อเวลาให้ชาวอังกฤษและประชาชนของสหภาพยุโรป (อียู) สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างเสรีต่อไป ในช่วงที่อังกฤษเริ่มถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งเหนือ 100 จุด

 

คำแนะนำ : trading long ยังน่าสนใจ แต่เพิ่มน้ำหนักระวังแรงขายทำกำไรมากขึ้น

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงจากเมื่อคืนนี้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวออกมาดีกว่าต่อเนื่อง แต่ในเช้าวันนี้ราคาทองได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่สหรัฐฯ มีการยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรีย หลังจากซีเรียได้มีการใช้อาวุธเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายในสัปดาห์นี้ และคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.28% โดยปิดที่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,249.35 – 1,258.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,265 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเมื่อคืนนี้หลังจากโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องแสดงถึงภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรียที่มีการใช้สารเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีจีน ทำให้ต้องติดตามเหตุความไม่สงบนี้อย่างใกล้ชิด และช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 1% และในคืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.1 % ในวันพฤหัสบดี และปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงกังวลกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่การปรับตัวขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดก่อนการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ และก่อนการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้เพื่อดูว่า ตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือไม่ที่จะปรับตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้

• ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0646 ดอลลาร์ หลังร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์จากความเห็นของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับแนวนโยบายของอีซีบีในขณะนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 3.50 ดอลลาร์ สู่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่ต่ำเกินคาด และนักลงทุนบางรายขายทำกำไรทอง หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย

• ตัวเลขภาคการจ้างงานในคืนนี้

 

• Strategy : trading long ได้เปรียบต่อเนื่อง และหากไม่หลุด 1,261 เหรียญ อาจจะเป็นจังหวะเข้า long แต่ถ้าหลุดให้รอ

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนระหว่างวัน

สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้เราคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบๆ และมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบาง ซึ่งเป็นผลมาจากวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดสัปดาห์หน้า รวมทั้งปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศโดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งสหรัฐฯ เริ่มใช้กำลังทางทหารต่อซีเรียรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเช้าตามเวลาไทยมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในซีเรีย ส่งผลให้สถานการณ์ความมั่นคงดูจะรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพบรรยากาศการลงทุน มีแนวโน้มที่จะกดดันให้มีแรงขายเกิดขึ้นในตลาดโดยเฉพาะช่วงเปิดตลาด ดังนั้นนักลงทุนต้องจับตามองประเด็นนี้เป็นพิเศษระหว่างวัน ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ในวันพุธที่ผ่านมาก่อนที่ตลาดจะปิดทำการเมื่อวานนี้นั้นเริ่มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบระหว่าง 993-998 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 995.90 จุด -0.2 จุด ภาพการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,582.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เริ่มกลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติที่ 43,456.54 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ -279.53 ล้านบาท, นักลงทุนรายย่อยทั่วไปในประเทศ -1,192.64 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศมีมุมมองที่สวนทางออกไปโดยซื้อสุทธิ +370.28 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าเเม้นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเเต่ปริมาณเริ่มเบาบางลง ซึ่งเราคาดว่าเม็ดเงินลงทุนบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและตลาดเงินซึ่งสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 34.58 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้นักลงทุนชะลอหรือลดสถานะการลงทุนไปก่อนเนื่องจากตลาดมีแนวโน้มที่จะผันผวนไร้ทิศทางจากหลายปัจจัยได้แก่ 1.ความมั่นคงระหว่างประเทศ(-) 2.ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่นบริเวณ 52.50 USD/bb(+) และ 3.มูลค่าการซื้อขายในช่วงปลายสัปดาห์ใกล้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้าซึ่งส่งผลลบต่อมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน(-)

 

• Strategy : Wait & See, ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนจากหลายปัจจัย, อัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่คุ้มความเสี่ยง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่น (52.50 USD/bbl)

 

ข่าวในประเทศ

- ธนาคารแห่งประเทศไทย ลงนามเจรจา QABs กับฟิลิปปินส์: ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ได้ร่วมลงนามในเอกสารแสดงความประสงค์เข้าร่วมการเจรจาทวิภาคีเพื่อจัดตั้งการทำกรอบมาตรฐานธนาคารอาเซียน หรือ Qualified ASEAN Banks (QABs) ระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการยกระดับการรวมตัวภาคการธนาคารในอาเซียน โดยจะเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์ของทั้งสองประเทศเข้าสู่ตลาดระหว่างกันได้บนหลักการต่างตอบแทนและมีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น

- ต้นทุนส่งออกพุ่ง 6-7% 'เอ็กซิมแบงก์' แนะเอกชนปรับตัวหาเทรดเดอร์ใหม่แก้ลำสหรัฐฯ กีดกันการค้าไทย: กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปยังสหรัฐฯ จะไม่มากจนน่าตกใจหากสหรัฐฯ สอบสวนการขาดดุลการค้ากับ 16 ประเทศ รวมทั้งไทย เพราะสินค้าที่ส่งออกโดยตรงบางอย่างไม่สามารถหาแหล่งผลิตทดแทนได้และซื้อจากไทยได้ราคาดีที่สุด

- MINT ส่งสัญญาณฟื้นตัว ท่องเที่ยวบูม-บุ๊กพิเศษ: MINT ก้าวผ่านช่วงวิกฤต ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในต่างประเทศหนุน จับตาบุ๊กกำไรพิเศษขายอสังหาในภูเก็ต ดันงบไตรมาสแรกพุ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงจากเมื่อคืนนี้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวออกมาดีกว่าต่อเนื่อง แต่ในเช้าวันนี้ราคาทองได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่สหรัฐฯ มีการยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรีย หลังจากซีเรียได้มีการใช้อาวุธเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายในสัปดาห์นี้ และคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.28% โดยปิดที่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,249.35 – 1,258.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,265 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเมื่อคืนนี้หลังจากโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องแสดงถึงภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรียที่มีการใช้สารเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีจีน ทำให้ต้องติดตามเหตุความไม่สงบนี้อย่างใกล้ชิด และช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 1% และในคืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.1 % ในวันพฤหัสบดี และปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงกังวลกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่การปรับตัวขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดก่อนการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ และก่อนการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้เพื่อดูว่า ตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือไม่ที่จะปรับตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้

• ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0646 ดอลลาร์ หลังร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์จากความเห็นของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับแนวนโยบายของอีซีบีในขณะนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 3.50 ดอลลาร์ สู่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่ต่ำเกินคาด และนักลงทุนบางรายขายทำกำไรทอง หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย

• ตัวเลขภาคการจ้างงานในคืนนี้

 

• Strategy : trading long ได้เปรียบต่อเนื่อง และหากไม่หลุด 1,261 เหรียญ อาจจะเป็นจังหวะเข้า long แต่ถ้าหลุดให้รอ

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนระหว่างวัน

สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้เราคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบๆ และมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบาง ซึ่งเป็นผลมาจากวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดสัปดาห์หน้า รวมทั้งปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศโดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งสหรัฐฯ เริ่มใช้กำลังทางทหารต่อซีเรียรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเช้าตามเวลาไทยมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในซีเรีย ส่งผลให้สถานการณ์ความมั่นคงดูจะรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพบรรยากาศการลงทุน มีแนวโน้มที่จะกดดันให้มีแรงขายเกิดขึ้นในตลาดโดยเฉพาะช่วงเปิดตลาด ดังนั้นนักลงทุนต้องจับตามองประเด็นนี้เป็นพิเศษระหว่างวัน ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ในวันพุธที่ผ่านมาก่อนที่ตลาดจะปิดทำการเมื่อวานนี้นั้นเริ่มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบระหว่าง 993-998 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 995.90 จุด -0.2 จุด ภาพการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,582.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เริ่มกลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติที่ 43,456.54 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ -279.53 ล้านบาท, นักลงทุนรายย่อยทั่วไปในประเทศ -1,192.64 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศมีมุมมองที่สวนทางออกไปโดยซื้อสุทธิ +370.28 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าเเม้นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเเต่ปริมาณเริ่มเบาบางลง ซึ่งเราคาดว่าเม็ดเงินลงทุนบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและตลาดเงินซึ่งสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 34.58 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้นักลงทุนชะลอหรือลดสถานะการลงทุนไปก่อนเนื่องจากตลาดมีแนวโน้มที่จะผันผวนไร้ทิศทางจากหลายปัจจัยได้แก่ 1.ความมั่นคงระหว่างประเทศ(-) 2.ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่นบริเวณ 52.50 USD/bb(+) และ 3.มูลค่าการซื้อขายในช่วงปลายสัปดาห์ใกล้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้าซึ่งส่งผลลบต่อมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน(-)

 

• Strategy : Wait & See, ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนจากหลายปัจจัย, อัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่คุ้มความเสี่ยง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่น (52.50 USD/bbl)

 

ข่าวในประเทศ

- ธนาคารแห่งประเทศไทย ลงนามเจรจา QABs กับฟิลิปปินส์: ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ได้ร่วมลงนามในเอกสารแสดงความประสงค์เข้าร่วมการเจรจาทวิภาคีเพื่อจัดตั้งการทำกรอบมาตรฐานธนาคารอาเซียน หรือ Qualified ASEAN Banks (QABs) ระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการยกระดับการรวมตัวภาคการธนาคารในอาเซียน โดยจะเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์ของทั้งสองประเทศเข้าสู่ตลาดระหว่างกันได้บนหลักการต่างตอบแทนและมีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น

- ต้นทุนส่งออกพุ่ง 6-7% 'เอ็กซิมแบงก์' แนะเอกชนปรับตัวหาเทรดเดอร์ใหม่แก้ลำสหรัฐฯ กีดกันการค้าไทย: กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปยังสหรัฐฯ จะไม่มากจนน่าตกใจหากสหรัฐฯ สอบสวนการขาดดุลการค้ากับ 16 ประเทศ รวมทั้งไทย เพราะสินค้าที่ส่งออกโดยตรงบางอย่างไม่สามารถหาแหล่งผลิตทดแทนได้และซื้อจากไทยได้ราคาดีที่สุด

- MINT ส่งสัญญาณฟื้นตัว ท่องเที่ยวบูม-บุ๊กพิเศษ: MINT ก้าวผ่านช่วงวิกฤต ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในต่างประเทศหนุน จับตาบุ๊กกำไรพิเศษขายอสังหาในภูเก็ต ดันงบไตรมาสแรกพุ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามประธานเฟด

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,252.30 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,251 – 1,254 USD/toz โดยภาพการเคลื่อนไหวนั้นถือว่ายังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นแม้จะมีแรงขายทำกำไรบ้างระหว่างทางหลังจากที่ทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยภาพรวมตลาดทองคำนั้นยังคงได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งสงครามในซีเรียและบริเวณคาบสมุทรเกาหลีซึ่งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซงอย่างมีนัยสำคัญทั้งสหรัฐฯ และฝั่งรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามตัวแทนอย่างที่เคยเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวค่อนข้างเป็นปัจจัยหลักที่หนุนนำให้ทองคำราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับความไม่มั่นใจในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามสำหรับคืนนี้เราคาดว่าตลาดทองคำมีแนวโน้มที่จะได้รับความผันผวนจากถ้อยแถลงของประธานเฟด(นางเยลเลน) ซึ่งมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ ณ มหาวิทยาลัยมิชิแกนช่วงเวลาประมาณตีสามตามเวลาประเทศไทย รวมทั้งปัจจัยกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวแข็งค่าสูงที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ และให้ติดตามดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในค่ำคืนนี้ได้แก่ ดัชนีสภาวะตลาดแรงงาน อย่างใกล้ชิด

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวร่วงลงในช่วงแรกจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดรายหนึ่งได้เพิ่มการคาดการณ์เรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 99-200/256 โดยมีผลตอบแทน 3.011% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 98-212/256 โดยมีผลตอบแทน 2.384%

- ค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์จากความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด: ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันศุกร์ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด รายหนึ่งระบุว่า แผนการปรับลดพอร์ตพันธบัตรของเฟด ในปีนี้จะไม่ทำให้วงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดล่าช้าออกไป ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.5% สู่ 101.16 จุด หลังพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 101.26 จุด

- น้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) พุ่งขึ้นในวันศุกร์และขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน รวมทั้งปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้น 3 % จากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของรัฐบาลซีเรียและทำให้เกิดความกังวลกันว่าความขัดแย้งอาจลุกลามออก ไปในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 54 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 52.24 USD/bbl

- ราคาทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 2.25 ดอลลาร์ สู่ 1,253.55 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 5 เดือนที่ 1,270.46 USD/toz ในระหว่างวันโดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐฯ เพราะตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ราคาทองลดช่วงบวกลงเกือบหมดในเวลาต่อมา ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและนักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน มิ.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 4.00 ดอลลาร์ ที่ 1,257.30 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงตีสามคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

- ประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี

 

คำแนะนำ : ให้น้ำหนักฝั่ง Long เหมือนเดิมแต่ให้ระวังความผันผวนจากถ้อยแถลงของประธานเฟด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 11 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย โดยระหว่างวันลดลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,247 เหรียญ และสามารถดีดกลับได้ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้คือ ประธานเฟดกล่าวว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะค่อยเป็นค่อยไป และความไม่สงบทางการเมือง รวมทั้งแรงซื้อจาก SPDR ทั้งสามปัจจัยนี้ช่วยหนุนราคาทอง แต่ในสัปดาห์นี้อาจจะมีแรงขายทำกำไร หรือการลดสถานะการซื้อขายเนื่องจากวันศุกร์เป็นวันหยุดของสหรัฐฯ และสัปดาห์นี้ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.68 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.05% โดยปิดที่ 1,254.23 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.00 – 1,257.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,254 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงเย็นเมื่อวานนี้หลังจากนักลงทุนกลัวว่าประธานเฟดจะแสดงท่าทีรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีแรงขายในทองคำ บดบังเรื่องความไม่สงบในซีเรีย และความไม่แน่นอนทางการเมือง ก่อนที่ประธานเฟดจะพูดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามเดิม ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนเข้ามา รวมทั้ง SPDR ซื้อทองในเมื่อคืนนี้อีก 1.77 ตัน รวมถือครอง 838.26 ตัน แต่อย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มถูกกดดันและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 1,261 เหรียญ ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบการย่อตัวสั้นๆ และปริมาณการซื้อขายอาจจะเบาบางลงเนื่องจากใกล้วันหยุดเนื่องในวัน Good Friday ในวันศุกร์นี้ และสัปดาห์นี้ให้ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคเป็นหลัก

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า แหล่งน้ำมันชาราราในลิเบียปิดการดำเนินงานอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากภาวะตึงเครียดทางการเมือง หลังจากสหรัฐยิงขีปนาวุธใส่ซีเรียด้วย ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางมักจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อย่างเช่นอิหร่าน, อิรัก และซาอุดิอาระเบียไม่ได้รับผลกระทบ

• ดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง และเทรดเดอร์ขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังการปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาท่ามกลางการซื้อขายที่ระดับต่ำก่อนวันหยุดของสหรัฐวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส, ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในซีเรีย และความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ

• ราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงท้ายตลาด หลังจากนางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดแสดงความเห็นในเชิงระมัดระวัง โดยนางเยลเลนกล่าวว่า จะเป็นการเหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• เหตุการณ์ความไม่สงบทั่วโลก

• ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค

 

• Strategy : ระยะสั้น trading short หากไม่สามารถอยู่เหนือ 1,261 เหรียญได้ ระยะกลางรอสะสม long เมื่อย่อตัวแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ยิ่งใกล้เทศกาล...Volume ยิ่งเบาบาง

ภาพการซื้อขายของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างแตกต่างกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 (S50M17) โดยในส่วนของ SET index นั้นเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่ไม่กว้างและผันผวนน้อยกว่าในขณะที่สัญญาฯ S50M17 เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างกว่าและมีแรงขายทำกกำไรในช่วงท้ายตลาด สะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนที่คาดการณ์การเคลื่อนไหวในวันถัดไป(วันนี้) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกจำกัดด้วยเทศกาลสงกรานต์ที่ยิ่งใกล้เข้ามา โดย S50M17 เปิดตลาดเมื่อวานนี้บริเวณ 996.80 จุด สร้างกรอบราคาประมาณ 3-4 จุด ก่อนมีแรงเทขายในช่วงท้ายตลาดปิดที่ 997.10 จุด +0.6 จุด ส่วน SET index ปิดตลาดที่ 1,581.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางอย่างต่อเนื่องเพียง 30,639.16 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ +775.73 ล้านบาท เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งซื้อสุทธิ +18.83 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาขายสุทธิในดัชนีตลาดหุ้นไทย -127.91 ล้านบาท หลังเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเรามองว่าการที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมามีสถานะขายสุทธิเนื่องจาก 1.กระแสเงินไหลเข้าเริ่มชะลอตัวหลังมีสถานะซื้อสุทธิสะสมตลอดเดือนเมษายน +2,094.30 ล้านบาท 2.นักลงทุนต่างประเทศเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 3.เป็นการปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงจากการซื้อขายช่วงเทศกาลซึ่งกรอบการลงทุนค่อนข้างถูกจำกัดและอัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ไม่สอดคล้องกันฯ อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าปัจจัยภายนอกยังคงมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนและทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศ ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงไม่โดดเด่นจะมีเพียงแค่การประกาศงบของกลุ่มธนาคารเท่านั้นซึ่งหากประกาศตามคาดการณ์หรือดีกว่าคาดการณ์ก็อาจส่งผลบวก(ในช่วงสั้น)ต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยในระดับหนึ่ง

 

• Strategy : Wait & See ถือเงินสดในช่วงใกล้เทศกาลดีกว่า

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศ (WTI-NYMEX=53.10 USD/bbl)

 

ข่าวในประเทศ

- ความกังวลสงครามป่วนค่าเงิน-น้ำมัน กกร.ถกทีมสมคิดสู้พิษทรัมป์ ด้านคลังยันมาตรการครบมือ-เชื่อมั่นนักลงทุนวูบ: กกร.หวั่นสงครามป่วนค่าเงิน-ราคาน้ำมันผันผวนหนัก ถกทีม “สมคิด” หาทางรับมือนโยบาย "ทรัมป์" แต่ยังคงจีดีพีโต 3.5-4% "คลัง" ย้ำ รัฐบาลมีมาตรการสู้ไหวแน่ FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มแผ่ว

- จำหน่ายสินค้าธงฟ้าสถานีขนส่ง: กระทรวงพาณิชย์ผนึก 5 ผู้ผลิตรายใหญ่ ยึดทำเลสถานีขนส่ง เปิดตัวธงฟ้าประชารัฐ ขายสินค้าถูก 15-20% ให้ประชาชนเลือกซื้อก่อนกลับบ้านสงกรานต์ จ่อขยายไปร้านค้าปลีก 6,056 แห่งปลาย เม.ย.นี้

- ไทยพาณิชย์ลงทุนสตาร์ทอัพด้านสกัดภัยไซเบอร์: บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใต้การดำเนินงานของบริษํท ดิจิทัล เวนเจอร์ส ประกาศแผนลงทุนใน “พัลส์ ไอดี(PulseiD) สตาร์ทอัพ ด้านการบริการข้อมูลเพื่อระบุพิกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อระบุตัวตนสำหรับใช้ในธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธนาคาร โทรคมนาคม

- (APM17)แก้บ้านธนารักษ์ไม่จำกัดแค่หลังแรก "เอพี" ตั้งเป้าปีนี้ยอดขาย 2.6 หมื่นล.: ธนารักษ์ชงปรับเงื่อนไขบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ไม่จำกัดเฉพาะ "บ้านหลังแรก" เท่านั้น แต่เกณฑ์รายได้ยังใช้ไม่เกิน 20,000 บาท ด้าน "เอพี" ตั้งเป้ายอดขายบ้าน-คอนโดปีนี้ 26,000 ล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 11 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างฐานราคา

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,254.10 USD/toz เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อยระหว่าง 1,253– 1,257 USD/toz โดยในภาพกว้างๆ สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางได้เป็นอย่างดี แม้จะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรและอ่อนกำลังลงมาบ้าง อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงมีอยู่มากทั้งจากความมั่นคงระหว่างประเทศและประเด็นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าพอที่จะพยุงราคาทองคำและจำกัด Downside Risk ได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อคืนที่มหาวิทยาลัยมิชิเเกนยังคงออกมาตามคาดการณ์คือ ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ ส่งผลให้ราคาทองคำเองก็ตอบรับในลักษณะเดียวกันคือทรงตัวไม่บวกไม่ลบและเริ่มแกว่งตัวในกรอบ ในส่วนของมุมมองนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่างกองทุน SPDR มีมุมมองบวกต่อทองคำโดยซื้อสุทธิ 1.77 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 838.26 ตัน อย่างไรก็ตามเราถือว่าไม่มากพออย่างมีนัยสำคัญ สำหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kashkari) และจำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ค่าเงินดอลลาร์ร่วงตามบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ: ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงในวันจันทร์ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงและเทรดเดอร์ขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังการปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาท่ามกลางการซื้อขายที่ระดับต่ำก่อนวันหยุดของสหรัฐวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.15% สู่ระดับ 101.04 จุด ขณะที่ดอลลาร์แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 111.01 เยน ส่วนยูโรทรงตัวที่ 1.0590 ดอลลาร์หลังร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.

- ความกังวลในลิเบียหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) พุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับ แรงหนุนจากข่าวที่ว่าแหล่งน้ำมันชาราราในลิเบียปิดการดำเนินงานอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากภาวะความตึงเครียดทางการเมือง หลังจากสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธใส่ซีเรียด้วย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 84 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 53.08 USD/bbl

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันจันทร์ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการ เลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส, ความกังวลเรื่องเกาหลีเหนือและสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และซีเรียหนุนแรงซื้อ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 100-60/256 โดย มีผลตอบแทน 2.988% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 99-4/256 โดยมีผลตอบแทน 2.3625%

- ราคาทองคำเริ่มทรงตัวขณะตลาดกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้นเพียง 0.68 ดอลลาร์ สู่ 1,254.23 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปัจจัยลบนี้บดบังแรงหนุนที่ราคาทองคำได้รับจากความกังวลเรื่องภาวะตึงเครียดทางการ เมืองในเกาหลีเหนือและภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด COMEX ปิด ลดลง 3.40 ดอลลาร์ ที่ 1,253.90 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kashkari) ในค่ำคืนนี้

- ประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี

 

คำแนะนำ : ให้น้ำหนักฝั่ง Long Position เหมือนเดิม

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 12 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมากกว่า 1.5% หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทองคำได้รับแรงหนุนในแง่สินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งปัจจัยความไม่สงบของซีเรีย และการเลือกตั้งรอบแรกในฝรั่งเศสที่ใกล้จะเข้ามาถึง รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน SPDR ช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นแรง และทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนได้ วันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้าและควรระมัดระวังการถือสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการใน 2 วันที่เหลือของสัปดาห์

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.83 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.58% โดยปิดที่ 1,274.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,252.90 – 1,275.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,277 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยราคาทองมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ และขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน บริเวณ 1,275 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองมี 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับซีเรีย รวมทั้งเกาหลีเหนือ และตะวันออกกลาง 2. การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ที่ฝั่งขวาจัดมีโอกาสที่จะเข้าเป็นตัวแทนในการเลือกตั้งรอบสุดท้าย 3.กองทุน SPDR สะสมทองต่อเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อคืนนี้ซื้ออีก 4.15 ตัน ทำให้ถือรวม 842.41 ตัน ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง และในวันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้า และระมัดระวังการถือครองสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ และมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคของสหรัฐฯ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียแจ้งเจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ว่า ซาอุดิอาระเบียต้องการจะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปอีก 6 เดือน เมื่อกลุ่มโอเปกจัดการประชุมในเดือนพ.ค.

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ในวันอังคาร โดยอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงกระตุ้นให้บรรดาเทรดเดอร์เทขายดอลลาร์ออกมา

• เยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ จากความวิตกเกี่ยวกับซีเรียและเกาหลีเหนือ รวมถึงการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันขณะที่ความวิตกเพิ่มขึ้น

• นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจดำเนินการโจมตีทางการทหารต่อซีเรียและเกาหลีเหนือ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• เหตุการณ์ความไม่สงบทั่วโลก

• ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค

 

• Strategy : trading long ได้เปรียบ หากราคายืนเหนือ 1,275 เหรียญได้ต่อ แต่ถ้าไม่ระวังแรงขายทำกำไร

Smart Stock

Today Strategy:

ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิ

สำหรับวันนี้เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเราคาดว่ามูลค่าการซื้อขายระหว่างวันจะเบาบางลงอย่างชัดเจนรวมทั้งอาจมีแรงขายทำกำไรปรับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวบางส่วน สำหรับภาพรวมการซื้อขายเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นนำไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างโดดเด่นแม้มีแรงขายในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ต่างจากตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดในแดนลบจากความกังวลประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่ดูเหมือนเริ่มจะมีความตึงเครียดมากขึ้นโดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่ประเทศพันธมิตรของซีเรียและรัสเซียเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านและย้ำเตือนสหรัฐฯ ในเรื่องบทบาทระหว่างประเทศ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับแรงกดดันดังกล่าวเช่นกันเพียงแต่รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความกังวลเรื่องอุปทานที่อาจลดลงในช่วงนี้ก็เป็นปัจจัยบวกที่มีต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศซึ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 996.60 จุด มีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,001.90 จุด ซึ่งสามารถทะลุระดับนัยสำคัญที่ 1,000 จุด ได้แต่ก็มีแรงขายกดดันในช่วงท้ายตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,000 จุด ได้อย่างมั่นคงและปิดตลาดที่ 999.80 จุด +2.7 จุด ในขณะที่ดัชนี SET index ปิดตลาดที่ 1,582.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เริ่มกลับมาคึกคักกว่า 44,659.19 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +753.66 ล้านบาท เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ +613.73 จุด ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง -758.93 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิตลอดเดือนเมษายนลดลงเหลือเพียง +1,335.37 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่าตลาดหุ้นไทยและสัญญาฯ มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบและอาจมีแรงขายทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงบางส่วนจากช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นหากนักลงทุนไม่ต้องการรับความเสี่ยงแนะนำให้ถือเงินสดรอไปก่อนเนื่องจากกรอบการเคลื่อนไหวอาจถูกจำกัดด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันและความผันผวนที่เกิดจากทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบกดดันให้ตลาดอาจเคลื่อนไหวอย่างไม่มีแนวโน้ม

 

• Strategy : Wait & See, ไม่ถือสถานะลงทุนข้ามสัปดาห์

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศในตะวันออกกลางที่เริ่มรุนแรงขึ้นอย่างใกล้ชิด

 

ข่าวในประเทศ

- ไอพีโอยังคึกต่อ ตลท.ยันได้ตามเป้า/ ชี้ขัดแย้งต่างประเทศไม่กระทบ: ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้มั่นใจว่า ยังเห็นบริษัทที่จะไอพีโอเข้ามาจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และสามารถถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมี มาร์เก็ตแคป 2.8 แสนล้านบาท เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีมาร์เก็ตแคปหุ้นเข้ามาใหม่รวม 9.39 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมด 9 แห่ง

- ศสค. โต้เวิลด์แบงก์ยันเศรษฐกิจไทยเริ่มเติบโตอย่างยั่งยืน: สศค.โต้รายงานธนาคารโลกที่ระบุว่าไทยยังต้องปรับปรุงนโยบายหลายด้าน ยันขณะนี้ เศรษฐกิจไทยกำลังมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ถือว่า ตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของธนาคารโลกที่ได้จัดทำเมื่อปลายปีก่อนทั้งหมดแล้ว

- ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำ ไตรมาส 2 ปรับลดลง: ศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน เม.ย.2560 ปรับลดลง 5.68 จุด จากเดือน มี.ค. 2560 มาอยู่ที่ระดับ 62.37 จุด หรือ ปรับลดลง 8.35% จากระดับ 68.05 จุด โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำ คือ ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินบาท และแรงขายเก็งกำไรของกองทุน

- (BEMM17)BEM ควักงบ 2.2 หมื่นล้าน ลุยส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน: BEM เดินหน้าทุ่มงบราว 2.2 หมื่นล้านบาท ลุยโครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน รวม 27.7 กิโลเมตร พร้อมปักธงปี 2560 รายได้-กำไรทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์เก็บเกี่ยวสายสีม่วงเต็มปี – ทางด่วนวงแหวนรอบนอกหนุน แถมเดินหน้าลุยชิงเค้กรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่มเสริมแกร่งระยะยาว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 12 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

วันหยุดยาว

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,274.01 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,271.98 – 1,279.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองย่อตัวลงเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในเมื่อคืนนี้ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักยังคงเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลี และซีเรีย และในเย็นนี้ติดตามประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายประกันสุขภาพ และเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ทำให้ต้องระมัดระวังความผันผวนให้มากขึ้น ซึ่งหากเหตุการณ์ความไม่สงบยังคงยืดเยื้อออกไปอาจจะช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่นักลงทุนควรระมัดระวังการถือสถานะข้ามสัปดาห์ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการในวันพรุ่งนี้และวันศุกร์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวต่อกลุ่มซีอีโอในวันอังคารว่า คณะผู้บริหารของเขากำลังหาทางปรับปรุงกฎหมายการปฏิรูปธุรกิจย่านวอลล์สตรีทหรือที่เรียกกันว่ากฎหมายด็อดด์-แฟรงค์ และอาจจะยกเลิกกฎหมายนี้ และออกกฎหมายใหม่มาแทนที่กฎหมายนี้

- ตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้านี้ดิ่งลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นทำให้ราคาหุ้นร่วงลงทุกกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเยนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน

- นายเอ็มมานูเอล มาครงซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจากสายกลาง และนางมารีน เลอ แปน ซึ่งเป็นผู้สมัครฝ่ายขวาจัด ยังคงเป็นตัวเก็งสองคนในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งในครั้งนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก และส่งผลให้บริษัทจัดทำโพลล์บางแห่งคำนวณสถานการณ์ที่หลากหลายสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้

- ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 2% เมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นกรณีความสัมพันธ์ของสหรัฐกับรัสเซีย และเกาหลีเหนือ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเย็นนี้

- เหตุการณ์ความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลี และซีเรีย

 

คำแนะนำ : trading long ยังได้เปรียบแต่ให้ระมัดระวังความผันผวน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...