ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยปิดใกล้เคียงจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน บริเวณ 1,235 เหรียญ โดยราคาทองได้รับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากตัวเลขค่าจ้างแรงงานที่เริ่มชะลอตัวลง และท่าทีของเฟดที่ยังจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอันใกล้นี้ รวมทั้งสัปดาห์นี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองฝั่งยุโรป และแรงซื้อต่อเนื่องของกองทุน SPDR ทำให้ราคาทองคำเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.68 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.29% โดยปิดที่ 1,235.48 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,218.90 – 1,235.73 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 เดือน โดยไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,235 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำคือประเด็นที่เฟดยังไม่มีท่าทีที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งมีปัจจัยเรื่องความเสี่ยงทางด้านการเมืองของฝั่งยุโรป ซึ่งในช่วงเดือน เม.ย. จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ซึ่งเรื่องที่กังวลคือ หากการเลือกตั้งนั้นได้ประธานาธิบดีเป็นฝั่งขวาจัด ก็จะมีโอกาสทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีการทำประชามติออกจากยูโรโซน เลียนแบบประเทศอังกฤษได้ ทำให้ปัจจัยนี้ถือว่าเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ต้องติดตามกันตลอดในช่วงครึ่งปีแรก จึงเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องในสินทรัพย์ปลอดภัย โดยสังเกตจากกองทุน SPDR ที่เข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง 4 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ซื้อทองคำอีก 4.14 ตัน รวมถือครอง 818.65 ตัน ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันที่ระดับสูงในสหรัฐ และจากการที่นักเก็งกำไรเคยเข้าซื้อสัญญาน้ำมันไว้มากเกินไปในช่วงก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยลบเหล่านี้บดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน

• ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์จากความวิตกเกี่ยวกับการเมืองของฝรั่งเศสก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในเดือนเม.ย. รวมถึงการเลือกตั้งในประเทศอื่นๆในยุโรปในปีนี้ซึ่งเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้ โดยเป็นผลจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายที่ห้ามประชาชนจากประเทศ 7 ประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่เดินทางเข้าสู่สหรัฐ แต่ผู้พิพากษาคนหนึ่งในสหรัฐได้ออกคำสั่งให้ระงับการปฏิบัติตามคำสั่งของปธน.ทรัมป์ทั่วสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมา

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 15.68 ดอลลาร์ หรือ 1.29 %สู่ 1,235.48ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนที่ 1,235.73 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความกังวลทางการเมืองในสหรัฐและยุโรป และจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส

• ความกังวลนโยบายต่างๆ ของนายทรัมป์

 

• Strategy : ฝั่ง long ทยอยปิดสถานะทำกำไร แล้วรอซื้อใหม่เมื่อย่อตัว หรือถือ long ต่อและ เลื่อนจุด stop เป็นบริเวณ 1,225 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ

สำหรับการซื้อขายเมื่อวานนี้ เป็นอีกหนึ่งวันที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาขึ้น ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของภูมิภาคและดัชนีดาวโจนส์สหรัฐฯ ที่ขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 20,000 จุด โดยสัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 992.50 จุด ปรับตัวขึ้นไปจุดสูงสุดในวันบริเวณ 996.00 จุด และย่อตัวเล็กน้อยปิดตลาดที่ 994.20 จุด (ชำระราคาสิ้นวันที่ 994.30 จุด) ภาพรวมการเคลื่อนไหวคล้ายกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,589.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมในวันระดับปานกลางประมาณ 55,685.89 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อเข้าในกลุ่มพลังงานและธนาคารที่เข้ามาพยุงตลาด โดยแรงซื้อหลักมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิในดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสะสมใน SET index ตั้งเเต่ช่วง 1 - 6 ก.พ. 60 ประมาณ -1,601.84 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยคาดว่าแรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากเเรงซื้อเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 4 ปี 59 ที่จะเริ่มทยอยประกาศ สำหรับการซื้อขายในวันนี้มีแนวโน้มที่ตลาดจะเคลื่อนไหวผันผวนจากความคาดหวังที่ดัชนี SET index จะขึ้นไปทดสอบระดับราคาจิตวิทยาที่มีนัยสำคัญบริเวณ 1,600 จุด ดังนั้นให้พิจาณาเปิดสถานะด้วยความระมัดระวัง

 

• แนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวัน, ระวังแรงขายทำกำไร

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ความผันผวนของ SET index ที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับจิตวิทยา 1,600 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- สนค. ยืนยันนโยบาย “ทรัมป์” มีผลกระทบเชิงลบเล็กน้อย ไทยได้อานิสงส์หลายอย่าง : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่าได้ศึกษานโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังออกคำสั่งพิเศษ 8 ฉบับ พบว่า นโยบายกีดกันการค้า หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเป็นรายสินค้าและบังคับใช้กับทุกประเทศ สินค้าไทยที่จะได้รับผลกระทบ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางรถยนต์ กุ้งสดแช่แข็ง เป็นต้น แต่หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีนและเม็กซิโกสินค้าไทยจะมีโอกาสทดแทนจีนและเม็กซิโกในสหรัฐฯ และแคนาดา เช่น ชิ้นส่วนยางรถยนต์ เครื่องรับโทรทัศน์ฯ

- กระทรวงการคลังชะลอรีดภาษีน้ำหวาน 2 ปี : กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาการจัดเก็บภาษีสรรพาสามิตน้ำหวานเพื่อทำให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น แต่ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ตั้งแต่ผู้ปลูกอ้อย โรงงานผลิตน้ำตาล รวมไปถึงผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลทั้งหมด ซึ่งต้องมีการคุยให้ได้ข้อยุติและให้เกิดความสมดุล

- (BEMH17) BEM จ่อเซ็นงานสายสีน้ำเงิน รับทรัพย์ 918 ล้านบาทเข้ามือ : BEM รอเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสีน้ำเงิน 1 สถานี ช่วงเตาปูน-บางซื่อ มูลค่า 918 ล้านบาท พร้อมรับงานติดตั้งระบบเดินรถ-รับจ้างเดินรถวันที่ 9 ก.พ.นี้ ช่วยหนุนผู้โดยสารจากสายสีม่วงเข้าระบบสายสีน้ำเงิน 6-7 หมื่นคนต่อวัน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ผันผวนในวัน

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,231.90 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบออกข้างเป็นหลัก ก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันในช่วงบ่าย อย่างไรก็ตามทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 28 ม.ค. โดยขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือนเต็ม ที่บริเวณ 1,235.73 USD/toz ได้รับปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ และการเมืองฝั่งยุโรป รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องโดย USD index มีความพยายามที่จะปรับตัวแข็งค่าเหนือระดับ 100 จุด ในวันตั้งเต่ช่วงเช้าตามเวลาไทยและคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะแกว่างตัวบวก/ลบ บริเวณนี้ไประยะหนึ่ง ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ส่งผลให้เงินทุนส่วนหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เริ่มกลับมามีมุมมองบวกต่อทองคำโดยเข้าซื้อทองคำสุทธิเมื่อวานนี้กว่า 4.14 ตัน รวมซื้อสุทธิในทองคำตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ประมาณ + 19.58 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 818.65 ตัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดุลการค้า, จำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตรและดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลง : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นและระยะกลางร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 วันในวันจันทร์ที่ผ่านมาเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้นในยุโรปและการขาดข้อมูลเกี่ยวกับแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์

- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบกับเยน ขณะที่ยูโรร่วงลงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป : ค่าเงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์จากความวิตกเกี่ยวกับการเมืองของฝรั่งเศสก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในเดือนเมษายน รวมถึงการเลือกตั้งในประเทศอื่นๆ ในยุโรปในปีนี้ ซึ่งเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองอย่างเห็นได้ชัด

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 1.5% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวดิ่งลงในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นในสหรัฐฯ และจากการที่นักเก็งกำไรเคยเข้าซื้อสัญญาน้ำมันไว้มากเกินไปในช่วงก่อนหน้านี้ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้ยังคงบดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมีนาคม ดิ่งลง 82 เซนต์ หรือ 1.5 % ปิดตลาดที่ 53.01 USD/bbl

- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังได้แรงหนุนจากความกังวลทางด้านการเมือง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.68 ดอลลาร์ หรือ 1.29 % สู่ระดับ 1,235.48 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนที่ 1,235.73 USD/toz ในระหว่างวัน โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความกังวลทางการเมืองในสหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาทองคำส่งมอบเดือนเมษายนที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 11.30 ดอลลาร์ ที่ 1,232 .10 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- สัญญาณการกลับเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR ตั้งแต่ช่วง 1 ก.พ.

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD index) ที่มีความพยายามปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 100 จุด

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ยังคงได้เปรียบในแนวโน้มขาขึ้น, ระวังความผันผวนในวัน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยโดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบเมื่อวานนี้ ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะกลับมายืนเหนือ 100 จุดได้ แต่ก็ไม่ได้กดดันราคาทองให้ปรับตัวลดลงแรง โดยทองคำมีปัจจัยหนุนหลักคือทางฝั่งยุโรปที่เริ่มมีความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งเยอรมนีที่ชะลอตัว ผนวกกับแรงซื้อ SPDR ที่เข้าซื้อต่อเนื่องกว่า 5 วันทำการ โดยซื้อทองคำมากกว่า 25 ตัน รวมถือทอง 826.95 ตัน ทำให้ภาพรวมทองคำเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.84 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.15% โดยปิดที่ 1,233.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,227.33 – 1,235.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่เกิน 10 เหรียญ โดยค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมายืนเหนือ 100 จุด แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังถือว่าได้รับแรงหนุนจากความกังวลของฝั่งยุโรป และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวลดลงอัตรารุนแรงในรอบกว่า 8 ปี รวมทั้งกองทุน SPDR ที่สะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ซื้อทองคำอีก 8.30 ตัน รวมถือครอง 826.95 ตัน ทำให้ภาพรวมทองคำเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.6 % ในวันอังคาร โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันจากชั้นหินในสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวอาจสร้างความยุ่งยากให้แก่ความพยายามของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในวันอังคาร โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันจากแรงซื้อทางเทคนิคหลังร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา และดอลลาร์ยังได้แรงซื้อจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปซึ่งจะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศในปีนี้

• นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายเนื่องจากกังวลกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์, เยอรมนีและอิตาลีในปีนี้ รวมถึงความกังวลจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงด้วย

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีดิ่งลงในเดือนธ.ค.ในอัตรารุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี โดยเป็นผลจากการลดลงของผลผลิตในภาคโรงงานและภาคก่อสร้าง

• ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่า นางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครจากฝ่ายขวาจัดในฝรั่งเศสอาจจะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส

• ความกังวลนโยบายต่างๆ ของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading ในกรอบด้านบน 1,225 – 1,235 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout และนักลงทุนระยะกลางสะสม long เมื่อย่อตัว

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มมีแรงขายทำกำไร

สัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเมื่อวานนี้บริเวณ 992.20 จุด แกว่งตัวออกข้างในภาคเช้า ก่อนมีแรงขายทำกำไรค่อนข้างรุนแรงในภาคบ่ายโดยลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 987.00 จุด และปิดตลาดที่ 988.60 จุด (ชำระราคา ณ สิ้นวันที่ 988.90 จุด) มีกรอบการเคลื่อนไหวในวันประมาณ 7 จุด รูปแบบการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งปิดตลาดลบที่ 1,582.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันระดับปานกลางที่ 48,203.38 ล้านบาท เป็นแรงขายจากนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ(-193.29 ล้านบาท), นักลงทุนสถาบันภายในประเทศ(-116.74 ล้านบาท) และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์(-227.97 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่แตกต่างออกไปโดยมีสถานะซื้อสุทธิ +538.00 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่น ด้านค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 35.034 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์มีความพยายามที่จะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 100 จุด สำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจมีความผันผวนและมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ปรับตัวร่วงลงบริเวณ 51.49 USD/bbl ซึ่งอาจเป็นเเรงกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศเเละดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคา, ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, ระวังความผันผวน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ระดับ 51.49 USD/bbl

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ล.ต. ตั้งหน่วยงานกลางเชื่อม "ฟินเทค" : ก.ล.ต. ประสานแบงก์ชาติและคปภ. ตั้งองค์กรกลางประสานกลุ่มฟินเทค คาดได้ข้อสรุป 3 เดือน ชี้อดีตมีปัญหาต้องการประสานงาน แจงมองฟินเทคช่วยหนุนอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น ด้านนายกสมาคม บล. รับระบบฟินเทคกระทบอุตฯ หลักทรัพย์ โดยเฉพาะแผนขยายสาขาในพื้นที่เขตกรุงเทพ

- กกร. คาดเศรษฐกิจโต 3.5% แนะเจรจาทวิภาคีสหรัฐฯ : คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.5-4.0% จากเศรษฐกิจโลกขยายตัวและส่งผลดีต่อการส่งออก แม้จะเผชิญความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยเสนอให้รัฐบาลเร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

- (KBANKH17)KBANK จีดีพีปีนี้พุ่ง 3.3% ชี้ท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ : KBANK ชี้ปี 2560 เงินบาทอ่อนค่าแตะที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์จากนโยบายสหรัฐฯ พร้อมมองเอกชนออกหุ้นกู้ลดลง 20-25% ที่ระดับ 6 แสนล้านบาทหลังผิดนัดชำระหนี้ จับตาปี 2560 เศรษฐกิจไทยโต 3.3% แย้มส่งออกขยายตัว-หนี้ครัวเรือนทรงตัว-ท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อแตะ 1.8% ด้าน "ธิติ ตันติกุลานันท์" ชะลอการออกตั๋ว B/E ที่ไม่มีเรตติ้ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แรงซื้อต่อเนื่อง

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,233.65 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,229.90 – 1,237.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในแดนลบช่วงเช้าก่อนที่จะเริ่มกลับมาแกว่งตัวในแดนบวกช่วงบ่ายวันนี้ จากราคาสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ทำให้เม็ดเงินเริ่มมีทีท่าจะชะลอลงในสินทรัพย์เสี่ยง และเริ่มไหลกลับเขามาในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ โดยจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR กลับเข้ามาสะสมทองต่อเนื่องกว่า 5 วันทำการ โดยซื้อทองรวมกว่า 27.88 ตัน ทำให้ถือทองคำรวมกว่า 826.95 ตัน ปรับขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในรอบปีที่ 799.07 ตัน รวมทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองในสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในฝั่งยุโรปที่เริ่มมีความกังวลมากขึ้น ทำให้ทองคำยังมีแนวโน้มในเชิงบวกต่อเนื่อง

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงเป็นสถิติอันดับสองในปี 2016 ก่อนที่ผู้นำสหรัฐกับญี่ปุ่นจะประชุมกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยประเด็นสำคัญในการประชุมคือเรื่องยอดเกินดุลการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

- การค้าข้ามพรมแดนที่ชำระเงินด้วยสกุลเงินหยวนดิ่งลงในเดือนธ.ค.จนแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ในขณะที่ทั่วโลกลดความต้องการใช้สกุลเงินหยวน โดยเป็นผลจากมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และความกังวลที่ว่าหยวนอาจจะอ่อนค่าลงต่อไป

- นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นต้องการให้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าใจประเด็นการค้าของญี่ปุ่นให้ดีขึ้น และยอมรับว่าการค้าของญี่ปุ่นมีส่วนสนับสนุนต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อผู้นำของทั้งสองประเทศประชุมหารือกันในสัปดาห์นี้

- แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทชาร์ป คอร์ปซึ่งเป็นผู้ผลิตหน้าจอของญี่ปุ่น อาจจะเริ่มต้นสร้างโรงงานมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐก่อนวันที่ 30 มิ.ย. โดยชาร์ปจะเป็นผู้นำในโครงการนี้ หลังจากที่โครงการนี้เคยได้รับการพิจารณาจากบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ของไต้หวันซึ่งเป็นบริษัทแม่ของชาร์ปในช่วงก่อนหน้านี้

- จากการคำนวณของรอยเตอร์โดยอิงตามข้อมูลของทางการจีนบ่งชี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2016 ของจีนเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดในรอบ 3 ปีเป็นอย่างต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า อุปสงค์จากจีนลดลง

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงรายงานรอบครึ่งปีของเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงิน และเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 ก.พ.นี้ โดยนางเยลเลนจะเริ่มแถลงในเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

- ค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 100 จุด

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,235 เหรียญ และปิดสถานะเมื่อปรับตัวขึ้นแรง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักเนื่องจากความกังวลทางด้านการเมืองของฝั่งยุโรป และการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ (Brexit) ที่เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการเมืองในฝั่งสหรัฐฯ หนุนให้แรงซื้อทองคำยังมีเข้ามาต่อเนื่อง โดย SPDR ซื้อทองคำติดต่อกัน 6 วันทำการ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.97 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.65% โดยปิดที่ 1,241.61 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,229.90 – 1,244.67 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,239 เหรียญ ราคาทองคำปรับขึ้นในเมื่อวานนี้หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าเล็กน้อย โดยราคาทองขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 เดือน ที่บริเวณ 1,244 เหรียญ โดยราคาทองได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนของทางฝั่งสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในปีนี้ของทางฝั่งยุโรป ทำให้แรงซื้อทองคำในแง่สินทรัพย์ปลอดภัยมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกองทุน SPDR สะสมซื้อทองคำต่อเป็นวันที่ 6 โดยซื้อทอง 5.63 ตัน หรือคิดเป็น 0.68% ทำให้ปัจจุบันถือทองคำรวม 832.58 ตัน รวมทั้งประเด็นเรื่องการออกจากยูโรโซนของอังกฤษ (Brexit) ได้ผ่านการลงมติของสภาไปอีกขั้น ทำให้การเดินหน้าออกจากยูโรโซนของอังกฤษมีแนวโน้มจะลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงนี้เช่นกัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่เทรดเดอร์เข้าซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในระดับที่ไม่มากเท่ากับที่หลายคนกังวล นอกจากนี้ ราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันเบนซินก็พุ่งขึ้น 4.4 % หลังจากสต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลงอย่างพลิกความคาดหมาย

• ดอลลาร์ร่วงลงในวันพุธหลังปรับตัวขึ้นสองวัน โดยถูกกดดันจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนไม่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากนโยบายกีดกันทางการค้าและผู้อพยพของปธน.ทรัมป์ได้ส่งผลกดดันดอลลาร์ด้วย

• ปธน.ทรัมป์จะพบปะกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ โดยปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะระบุย้ำถึงการคัดค้านของเขาต่อดอลลาร์ที่แข็งค่าและเยนที่อ่อนแอ ซึ่งอาจจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 7.97 ดอลลาร์ สู่ 1,241.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเรื่องปัจจัยทางการเมือง ซึ่งรวมถึงเรื่องการเลือกตั้งในยุโรป และนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส

• ความกังวลนโยบายต่างๆ ของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading long เป็นหลักหากราคายืนเหนือ 1,235 เหรียญได้ แต่ถ้าไม่ให้เปลี่ยนเป็น trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น

สัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเมื่อวานนี้เกิดช่องว่างของราคา (Trading Gap) ในแดนลบก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สัญญาฯ S50H17 สามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอดวัน โดยขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในวันบริเวณ 997.40 จุด และปิดตลาดบวกที่ 994.40 จุด การเคลื่อนไหวผันผวนกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดบวกเช่นกันที่ 1,589.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันหนาแน่นที่ระดับ 59,061.98 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (+915.66 ล้านบาท), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+472.83 ล้านบาท) เเละนักลงทุนต่างชาติ (+541.04 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิสวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ กว่า-1,929.55 ล้านบาท โดยปัจจัยหนึ่งที่เป็นปัจจัยในการพิจารณาการลงทุนเมื่อวานนี้ได้แก่ ผลการประชุมของที่ประชุม กนง. ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5 % รวมทั้งให้ความเห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันดีกว่าที่ได้ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน สำหรับค่าเงินบาทไทยยังคงเเข็งค่าต่อเนื่องโดยปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 35.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวเเข็งค่าขึ้นเคลื่อนไหวเหนือระดับ 100 จุด ดังนั้นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะเริ่มกลับมากดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงโดยเปรียบเทียบในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามการซื้อขายในวันนี้คาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนมากขึ้นและเริ่มแกว่งตัวออกข้างโดยยังปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญและ Upside เริ่มจำกัดแล้ว

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคา, Upside จำกัดในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทยังคงเเข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม

 

ข่าวในประเทศ

- ที่ประชุม กนง. คงอัตราดอกเบี้ย 1.5% ชี้เงินเฟ้อเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ : ที่ประชุม กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ต่อปี โดยในการตัดสินใจด้านนโยบาย กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนเป็นผลจากการส่งออก การท่องเที่ยวและนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องของภาครัฐ

- ฟิวเจอร์ฟันด์ระดมทุนลอตแรก 4-5 หมื่นล้าน : "สมคิด" ย้ำการลงทุนภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ เป็นหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 60 แจงคืบหน้า "กองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์" เตรียมประเดิมระดมทุนลอตแรก 4-5 หมื่นล้าน กทพ.คัด 3 เส้นทาง แปลงเป็นหน่วยลงทุน คาดยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เดือนมีนาคมนี้ตามแผนเดิม ก่อนเปิดขายประชาชนทั่วไปกลางปีนี้

- (EPGH17) EPG การันตีรายได้หมื่นล้าน สยายปีกแพ็กเกจจิ้งอินเดีย : EPG ซุ่มศึกษาขยายตลาดแพ็กเกจจิ้งในประเทศอินเดียเสริมพอร์ตโกยเงินระยะยาว "รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์" มั่นใจทั้งปีรายได้เข้าเป้า 1 หมื่นล้านบาท รับอานิสงส์ลูกค้าใหม่ขยายตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวก

ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,239.40 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแคบประมาณ 4 ดอลลาร์ โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม ได้รับปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐฯ และการเมืองฝั่งยุโรป รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นปัจจัยสนับสนุน โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบสามเดือนที่ 1,244.67 USD/toz เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับนัยสำคัญที่ 1,250 USD/toz ได้อีกครั้ง แต่อาจมีการพักฐานในช่วงหนึ่งท่ามกลางปัจจัยบวกที่เข้ามาจำกัด Downside Risk ด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักอย่าง SPDR ยังคงมีมุมมองบวกต่อทองคำโดยเข้าซื้อสุทธิในทองคำเมื่อวานนี้ 5.63 ตัน เป็นการซื้อต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึงปัจจุบันรวม 33.51 ตัน รวมสถานะถือครองทองคำสุทธิปัจจุบันที่ 832.58 ตัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขการขอสิทธิ์การว่างงานและปริมาณสินค้าคงคลังภาคค้าส่งขึ้นสุดท้าย

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ค่าเงินดอลลาร์ร่วงหลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดลง : ดอลลาร์ร่วงลงในวันพุธหลังปรับตัวขึ้นสองวัน โดยถูกกดดันจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนไม่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.2% สู่ระดับ 100.27

- ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อยหลังสต็อกเบนซินลดลง : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เทรดเดอร์เข้าซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ รายงานว่าตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในระดับที่ไม่มากเท่ากับที่หลายคนกังวล นอกจากนี้ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบนซินก็พุ่งขึ้น 4.4 % หลังจากสต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลงอย่างพลิกความคาดหมาย ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมีนาคมปรับขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.33 % มาปิดตลาดที่ 52.34 USD/bbl หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 51.22-52.67 USD/bbl

- ปัจจัยการเมืองหนุนราคาทองปรับขึ้นต่อเนื่อง : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 7.97 ดอลลาร์ สู่ 1,241.61 USD/ tozในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเรื่องปัจจัยทางการเมือง ซึ่งรวมถึงเรื่องการเลือกตั้งในยุโรปและนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือนเมษายนที่ตลาด COMEX ปิดปรับขึ้น 3.40 ดอลลาร์ สู่ 1,239.50 USD/toz

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้น : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นในวันพุธขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดรอบหลายสัปดาห์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 5 ปี ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดปรับขึ้น 09/32 สู่ 96-29/32 โดยมีผลตอบแทน 2.356 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดพุ่งขึ้น 1-01/32 สู่ 98-07/32 โดยมีผลตอบแทน 2.966 %

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้น 1 ก.พ.

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาเคลื่อนไหวแข็งค่าเหนือบริเวณ 100 จุด

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ยังคงได้เปรียบในวัน, ติดตามการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเกือบ 1% หลังจากขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่บริเวณ 1,244 เหรียญในเมื่อคืนนี้ แต่เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัย และเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกทุกตลาด จากการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะมีการปรับแผนภาษีครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสพักฐานได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 11.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.89% โดยปิดที่ 1,230.51 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,229.84 – 1,244.13 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,224 เหรียญ ราคาทองเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกทุกตลาด และทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติการณ์ รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับต่อเนื่องและยืนเหนือบริเวณ 100 จุดได้ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักคือ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แสดงความเห็นว่าเขาจะประกาศแผนภาษีครั้งใหญ่ใน 2 - 3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนักลงทุนคาดว่าจะเป็นการลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่นายทรัมป์ได้หาเสียงไว้ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้เม็ดเงินเริ่มไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง และเม็ดเงินเริ่มไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งกองทุน SPDR ไม่ได้ทำการซื้อขายเพิ่ม หลังจากซื้อติดต่อกัน 6 วันติด ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสพักฐานในช่วงสั้นได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า อุปสงค์ในน้ำมันเบนซินอาจพุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ อย่างไรก็ดี อุปทานน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูงมากบ่งชี้ว่า ตลาดเชื้อเพลิงจะยังคงได้รับแรงกดดันต่อไป

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันพฤหัสบดี โดยพุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อเทียบกับเยนในรอบ 3 สัปดาห์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความเห็นว่า เขาจะประกาศแผนภาษีครั้งใหญ่ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

• ในการประชุมร่วมกับบรรดาผู้บริหารสายการบิน ปธน.ทรัมป์กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลของเขาจะประกาศเรื่องภาษี แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ

• ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 43 ปี ขณะที่สต็อกสินค้าภาคค้าส่งพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค.เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 11.10 ดอลลาร์ สู่ 1,230.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3เดือนที่ 1,244.67 ดอลลาร์ในวันพุธ โดยราคาทองได้รับแรงกดดันในวันพฤหัสบดีจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า มีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส

• ความกังวลนโยบายต่างๆ ของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว 1,215 – 1,235 เหรียญเป็นหลัก โดยฝั่ง short เริ่มน่าสนใจ

Smart Stock

Today Strategy:

เผชิญแรงขายทำกำไร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มเผชิญกับแรงขายทำกำไรชัดเจนหลัง SET index มีความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบระดับราคาที่มีนัยสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,600 จุด แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ส่งผลให้มีแรงขายกดดันดัชนีออกมาโดย SET index ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,582.60 จุด ก่อนปิดตลาดในแดนลบที่ 1,583.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่ค่อนข้างหนาแน่นกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 58,472.75 ล้านบาท เป็นแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีมูลค่าถ่วงน้ำหนักในดัชนีสูง โดยเป็นแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (-585.70 ล้านบาท), นักลงทุนทั่วไปในประเทศ (-997.33 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-585.70 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยซื้อสุทธิโดดเด่นกว่า +1,719.30 ล้านบาท สำหรับในด้านของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 995 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันสัญญาฯ ให้ลงไปปิดตลาดลบที่ 987 จุด โดยภาพรวมการเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้ค่อนข้างแตกต่างจากรูปแบบที่ผ่านมาที่ปกติสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีจะเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าแต่เมื่อวาน SET index กลับมีแรงขายช่วงเปิดตลาด(และช่วงปิดตลาด)ที่รุนแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกข้างในกรอบรวมราคารวมทั้งเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงหนึ่งเพื่อที่จะสร้างฐานราคาให้มั่นคงก่อนที่ SET index จะขึ้นไปทดสอบระดับราคาที่มีนัยสำคัญที่ระดับ 1,600 จุด อีกครั้ง

 

• แนะนำ : Wait & See, Upside เริ่มจำกัดเเละเริ่มมีความเปราะบาง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การปรับน้ำหนัก(Rebalance) ในดัชนี MSCI Thailand

 

ข่าวในประเทศ

- เงินไหลเข้า 3 หมื่นล้านบาทในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ - คาดครึ่งหลังปีนี้ผันผวน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1-27 ม.ค. มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าประเทศไทยทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้แล้วกว่า 29,420 ล้านบาท โดยเข้าในตราสารหนี้ระยะยาว 1.95 หมื่นล้านบาท ตราสารหนี้ระยะสั้น 2,500 ล้านบาท และไหลเข้าตลาดหุ้น 7,420 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งเพราะมีการลงทุนของภาครัฐ แต่สิ่งที่จะต้องพิจารณาคือความเชื่อมั่นที่จะทำให้ภาคเอกชนกล้าลงทุน

- สินเชื่อธนาคารโตต่ำสุดในรอบ 7 ปี - ธนาคารปรับเพิ่มการสำรองหนี้ NPL : ธนาคารแห่งประเทศไทยแจงปี 59 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์เติบโตเพียง 2% ต่ำสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนต้องกันสำรองหนี้ถึง 5.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%

- (BJCH17Y) BJC จ่อขายหุ้นกู้ 4 หมื่นล้าน : ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3.5 หมื่นล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ของบริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ ที่ระดับ “A+ แนวโน้มคงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระหนี้เงินกู้ยืมหรือใช้เป็นเงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มพักฐาน

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,230.68 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,221.02 – 1,230.68 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวันนี้ หลังจากโดนปัจจัยกดดันจากประเด็นเรื่องการปรับแผนอัตราภาษีใหม่ที่นายทรัมป์คาดว่าจะประกาศในอีก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่นายทรัมป์ได้หาเสียงไว้ ผนวกกับการที่ประธานเฟดสาขาย่อยเริ่มออกมากล่าวถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 3 ครั้งตามที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อปีก่อน ทำให้ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากปรับขึ้นมากว่า 8 % นับตั้งแต่ต้นปี 2560 และคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งในกรอบการอ่อนค่าได้ต่อในคืนนี้ และในสัปดาห์หน้าติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงต้นสัปดาห์ที่คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนของราคาทองอีกครั้ง ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำควรระมัดระวังการถือสถานะเนื่องจากในวันจันทร์หน้าตลาดไทยปิดทำการเนื่องในวันมาฆบูชา

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนในวันนี้ โดยพุ่งขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐสัญญาว่าจะประกาศแผนภาษีครั้งใหญ่เพื่อลดภาระภาคธุรกิจ

- สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียร่วงลงในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศว่าจะเปิดเผยแผนภาษี "ครั้งใหญ่" ซึ่งทำให้มีความหวังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ

- นายเจอร์รี ไรซ์ โฆษกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ไอเอ็มเอฟไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจนที่บ่งชี้ว่า กำลังจะเกิดสงครามสกุลเงินในเร็วๆนี้ แต่ไอเอ็มเอฟต้องการจะให้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ยืนยันภาระผูกพันของตนเองที่มีต่อการค้าเสรีและเป็นธรรมในปีนี้

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับเพิ่มปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรประเภท "ซูเปอร์ลอง" หรือพันธบัตรที่มีอายุยาวนานมากในวันนี้ และคำสั่งซื้อนี้ก็ช่วยสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี นโยบายของบีโอเจในการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอุปสรรคต่อไปในอนาคต ซึ่งรวมถึงอุปสรรคจากรัฐบาลสหรัฐ

- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีแนวโน้มจะอยู่ในระดับต่ำจนถึงสิ้นปี 2017 เป็นอย่างน้อย เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องที่ว่า นโยบายของคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐให้พุ่งขึ้นหรือไม่

- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่จะคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เพราะว่าทิศทางขั้นต้นของนโยบายการคลังสหรัฐดูเหมือนจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

- ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มกลับมาแข็งค่า

- การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบและหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,235 เหรียญต่อเนื่อง ฝั่ง short เริ่มได้เปรียบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงอีกครั้งหลังจากราคาพยายามดีดกลับ แต่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง รวมทั้งปัจจัยต่างๆ สนับสนุนให้มีแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง 3 วันทำการ ในสัปดาห์นี้ติดตามการแถลงการณ์ของเฟดต่อสภา ที่จะช่วยบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้ แต่กองทุน SPDR ยังสะสมทองต่อเนื่อง โดยภาพรวมสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวเล็กน้อยมากกว่าที่จะปรับขึ้นต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.73% โดยปิดที่ 1,225.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,218.98 – 1,232.27 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,224 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มถูกแรงกดดันต่อเนื่องหลังจากราคาพยายามดีดกลับในเมื่อวานนี้แต่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เนื่องจากความน่าสนใจของสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง จากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณการปรับแผนภาษีครั้งใหญ่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า รวมทั้งการประชุมกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่แสดงท่าทีเป็นมิตร เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่สำคัญกับสหรัฐฯ ผนวกกับนักลงทุนรอผลการแถลงการณ์ของประธานเฟดต่อสภาในสัปดาห์นี้ ที่จะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง 3 วันทำการ แต่อย่างไรก็ตามกองทุน SPDR ซื้อสะสมทองคำต่อเนื่อง โดยมีการซื้อในเมื่อวานนี้ 4.14 ตัน รวมถือครอง 840.87 ตัน แต่ภาพรวมทางเราให้น้ำหนักทองคำแกว่งในกรอบการย่อตัวมากกว่าปรับขึ้นต่อ

 

Exclusive News

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

• สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ให้คำมั่นว่าจะประกาศแผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้ โดยคาดว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การแถลงการณ์ประธานเฟดต่อสภา

 

• Strategy : trading ในกรอบการย่อตัว

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น

สัญญาฯ S50H17 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดภาคเช้าเกิดช่องว่างราคาในแดนบวกที่ 993 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 993.50 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรค่อนข้างรุนแรงกดดันสัญญาฯ ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 987.50 จุด ก่อนปิดตลาดบวกที่ 989.10 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งเคลื่อนไหวในเเดนบวกตามภูมิภาคเเละตลาดโลกจากปัจจัยบวกฝั่งสหรัฐฯ ปิดตลาดบวก +1.99 จุด ที่ 1,585.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวัน 53,437.25 ล้านบาท เป็นเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างประเทศ (-593.19 ล้านบาท), นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ (-1,024.86 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-729.45 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนสถาบันภายในประเทศมีมุมมองที่ต่างออกไปโดยซื้อสุทธิ (+2,347.49 ล้านบาท) กลุ่มพลังงานเเละธนาคารยังคงเป็นกลุ่มที่นำตลาดเช่นเดิม สำหรับการซื้อชายในวันนี้อาจมีปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของน้ำมันดิบ (WTI-NYMEX=53.10 USD/bbl) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มพลังงานภายในประเทศและ SET index ขึ้นไปทดสอบระดับราคาที่มีนัยสำคัญทางจิตวิทยา 1,600 จุด อีกครั้ง ด้านค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าสอดรับกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาเเข็งค่าอีกครั้งที่ระดับ 101.01 จุด โดยสามารถยืนเหนือระดับ 100 จุด ต่อเนื่องตั้งเเต่วันที่ 6 ก.พ.อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มผันผวนขึ้นลงในกรอบและยังคงขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่มีนัยสำคัญต่อการลงทุน มีเพียงประเด็นการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนซึ่งถ้ารายงานดีกว่าตลาดคาดก็จะเป็นผลบวกต่อตลาด ด้านภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนทางตรงในภาค Real Sector (FDI) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเป็นผลจากวามเขื่อมั่นปัจจัยการเมืองภายในประเทศลดลง ในขณะที่ภาครัฐมีความพยายามที่จะส่งเสริมการลงทุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเเละเเรงงานอยู่เรื่อยๆ ด้านปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวนสูงจากการเมืองสหรัฐฯ การปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์เเละการเลือกตั้งฝั่งยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติที่จะกระทบต่อการค้าเเละการลงทุน

 

• ซื้อขายในกรอบราคาที่กว้างขึ้น, ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวันหากราคายังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 990-991 จุด, ความผันผวนสูง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 101.01 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- ททท.ชี้ สหรัฐฯ เที่ยวไทยเกินล้านคน : ททท.จับตาตลาดสหรัฐฯ เชื่อมีโอกาสติดกลุ่ม 10 ประเทศแห่เที่ยวไทยเกินล้านคน เผยสถิติปี 59 มาไทยกว่า 9.7 แสนคน งัดกลยุทธ์เซเลบริตี้นำกระแสเที่ยวไทยบูมต่อเนื่อง ด้าน รมว.ท่องเที่ยว พร้อมนำทีมร่วมงานซีเทรด ครุยส์ โกลบอล เปิดตลาดท่องเที่ยวทางเรือ

- กระทรวงพาณิชย์ปัดฝุ่นกฎหมายควบคุม 'โมเดิร์นเทรด' : กระทรวงพาณิชย์เตรียมชง ครม.ปัดฝุ่นกฎหมายค้าปลีกภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หลังสนช.หนุนให้จัดทำผลศึกษาโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกค้าส่งหวังแก้ไขปัญหาผู้ค้ารายใหญ่เอาเปรียบผู้ค้ารายเล็ก

- ภาษีน้ำหวานไร้ผลกระทบ บจ.เครื่องดื่มพร้อมรับมือ : นักวิเคราะห์ประเมินบจ.กลุ่มเครื่องดื่มปรับตัวรับมือภาษีน้ำหวานได้ ชี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงฉวยเป็นจังหวะเข้าลงทุน

- (PTGH17)'PTG'เบอร์ 1 ปั๊มน้ำมัน-ผนึกพันธมิตรสยายปีกเติบโต : PTG คอนเฟิร์มปี 60 รายได้แตะ 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้าปริมาณขายโต 40% ทุ่มงบ 5 พันล้านบาท ลุยขยายปั๊มน้ำมันเป็น 1,800 สาขา ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของประเทศไทย พร้อมสยายปีกเป็น 4,000 สาขาในอนาคต ส่งสัญญาณเจรจาพันธมิตรต่างชาติรุกธุรกิจออโต้เซอร์วิส มูลค่าลงทุน 1 พันล้านบาท จัดทัพโรดโชว์ฮ่องกง-สิงคโปร์ ไตรมาส 2/2560 นี้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามเฟดอย่างใกล้ชิด

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่ 1,225.21 USD/toz ปรับตัวในแนวโน้มขาขึ้นโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 1,230.21 USD/toz มีกรอบการเคลื่อนไหวในวันประมาณ 5-6 ดอลลาร์ เริ่มแกว่งตัวออกข้างหลังขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบสามเดือนที่ 1,244.67 USD/toz โดยการเคลื่อนไหวยังคงได้รับทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบสลับกัน ด้านปัจจัยลบคงหนีไม่พ้นการปรับโครงสร้างทางภาษีของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนได้รับกำไรสูงขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็เริ่มกลับมามีความน่าสนใจขณะเดียวกันก็ลดทอนความน่าสนใจของสินทัรพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลงโดยปริยาย รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าอีกครั้งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบแก่ตลาดทองคำ ในส่วนปัจจัยบวกที่เข้ามาพยุงราคาทองคำไม่ให้ลดลงมากได้แก่ การเข้าซื้อสุทธิในทองคำของกองทุน SPDR ซึ่งซื้อสุทธิตั้งแต่ช่วง 1 ก.พ. ทั้งสิ้นกว่า 41.80 ตัน อย่างต่อเนื่อง สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดทองคำจะมีความผันผวนค่อนข้างมากจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งอาจจะส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ยและรายงานนโยบายการเงินจากเฟด ซึ่งอาจเป็นการชี้นำตลาดทองคำอย่างมีนัยสำคัญ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ความหวังจากการลดภาษีในสหรัฐฯ หนุนค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าแนวโน้มการปรับลดภาษีในสหรัฐฯ จะกระตุ้นผลกำไรของภาคธุรกิจและการลงทุน รวมทั้งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทั้งนี้ USD index แตะระดับ 101.11 จุด ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม

- ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงสวนทางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น : ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.7 % ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมกราคมโดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และจากสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมีนาคมดิ่งลง 93 เซนต์ หรือ 1.7 % มาปิดตลาดที่ 52.93 USD/bbl

- ราคาทองคำร่วงลงขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 8.95 ดอลลาร์ สู่ 1,225.06 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามเป็นที่คาดกันว่าราคาทองจะยังคงได้รับแรงหนุนในช่วงนี้จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในสหรัฐฯ และยุโรป ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบ เดือนเมษายนที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 10.10 ดอลลาร์ ที่ 1,225.80 USD/toz

- อัตราเงินเฟ้อภาคการผลิตและภาคการบริโภคจีนปรับตัวขึ้น : อัตราเงินเฟ้อของราคาผู้ผลิตจีนพุ่งขึ้นสูงเกินคาดในเดือนมกราคมโดยพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ในขณะที่ราคาเหล็กกล้าและวัตถุดิบอื่นๆ ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องและรายงานตัวเลขเหล่านี้สนับสนุนมุมมองที่ว่ากิจกรรมภาคการผลิตทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทางด้านอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยปรับขึ้นแตะ 2.5% ต่อปีในเดือนมกราคมซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 และถือเป็นระดับที่สูงเกินคาดการณ์ของตลาด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าบริเวณเหนือระดับ 100 จุด

- การปรับลดภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์

 

คำแนะนำ : Wait & See, ไม่รับความเสี่ยง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเมื่อวานนี้ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,235 เหรียญ แต่ถูกแรงขายกดดันในท้ายตลาดจากประธานเฟดที่มีการให้สัญญาณบ่งชี้ ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะมีประมาณ 3 ครั้งตามเดิม แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองของยุโรปก็ช่วยหนุนราคาทองได้เช่นกัน ทำให้ราคาทองแกว่งในกรอบที่ขาดความชัดเจน โดยวันนี้ติดตามตัวดัชนีราคาผู้บริโภค และภาคค้าปลีก ที่อาจช่วยให้ราคาทองแกว่งกว้างขึ้นได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.26% โดยปิดที่ 1,228.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,221.35 – 1,234.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,226 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างวันราคาพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,235 เหรียญ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในท้ายตลาด โดยปัจจัยที่กดดัน คือ นางเจนเนต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมากล่าวต่อสภาฯ ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะเกิดขึ้นตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า คือ ประมาณ 3 ครั้ง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองถูกแรงขายกดดัน และปรับตัวลดลงต่อในเช้านี้ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองยังมีปัจจัยสนับสนุนคือ ความเสี่ยงของการเมืองทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส รวมทั้งประเด็น brexit จากปัจจัยบวกและลบที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ช่วงนี้ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และปัจจัยที่ต้องติดตามต่อในระยะสั้นนี้คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค และการปรับแผนภาษีใหม่ ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์นี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดปรับขึ้นในวันอังคาร แต่ลดช่วงบวกลงหลังจากตลาดปิดทำการ เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินในสหรัฐอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่ได้รับแรงหนุนมากนัก จากมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วขึ้น หลังการแสดงความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

• สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า มีโอกาส 41% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยที่สุด 3 ครั้งในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 33% ในวันจันทร์

• ยูโรยังเผชิญแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และการเจรจาเพื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่กรีซ บรรดานักลงทุนวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการเกิด Brexit ขึ้นกับฝรั่งเศส หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่านางมารีน เลอ แปนซึ่งสัญญาจะจัดการลงประชามติเพื่อให้ฝรั่งเศสถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปนั้น มีคะแนนนำในผลสำรวจการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การแถลงการณ์ประธานเฟดต่อสภา

 

• Strategy : trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

กังวลเงินทุนไหลออก

เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวไม่ค่อยสดใส ปรับตัวลงตามภูมิภาคจากความกังวลผลกระทบการปรับโครงสร้างภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกได้ โดยสัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างราคาในแดนบวกที่ 991.90 จุด แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวและยืนในแดนบวกได้ ได้รับแรงกดดันจากการขายทำกำไรลงไปทำจุดต่ำสุดในวันที่บริเวณ 979 จุด ก่อนขยับขึ้นมาปิดลบที่ 981 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวผันผวนเหมือน SET index ซึ่งปิดตลาดลบที่ 1,572.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวัน 52,842.63 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยด้านบน เป็นแรงขายในกลุ่มพลังงานเป็นหลักซึ่งได้รับเเรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ยังผันผวนกระทบต่อกลุ่มพลังงานในดัชนี ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ(-1,783.49 ล้านบาท) จากคาดการณ์ถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อคืน (เเละคืนนี้) ซึ่งมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปช่วงเดือนมีนาคม รวมทั้งให้ความเห็นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเวลานานเกินไปไม่เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมระยะยาว สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคยังคงขาดปัจจัยบวกภายในและมีความกังวลกับกระแสเงินทุนไหลกลับ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ให้ความสนใจในขณะนี้ ด้านปัจจัยบวกเรื่องการประกาศงบบริษัทจดทะเบียน มองว่าอาจเริ่มไม่มีนัยสำคัญมากแล้วเป็นเพียงความหวังที่เข้ามาพยุงตลาดสั้นๆ เท่านั้น คาดว่าไม่ส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะประกาศบวก/ลบ สลับกันทุกกลุ่มอุตสาหกรรมฯ ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จำกัด Upside gain ของดัชนีตลาดหุ้นไทย รวมทั้งเป็นการเปิด Downside Risk ของตลาดให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม

 

• Strategy : ฝั่ง Short position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 984 จุด, Upside ถูกจำกัดด้วยปัจจัยลบ, ระวังแรงซื้อระหว่างวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ค่ำคืนนี้ (อีกครั้ง)

 

ข่าวในประเทศ

- กลุ่มค้าปลีกไทยติดใจ “ช้อปช่วยชาติ” สมาคมอ้อนรัฐบาลกระตุ้นยาว 3 เดือน หวังตลาดรวมขยับเพิ่มได้ 3-3.2% : สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชี้นโยบายภาครัฐ “มาตรการช้อปช่วยชาติ” ส่งผลให้ภาพรวมค้าปลีกปี'59 ไม่ติดลบ คาดหวังปี'60 รัฐบาลยืดเวลาจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อยาว 3 เดือน ด้านเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดันอุตสาหกรรมเติบโตเพิ่มอีก 3-3.2%ต่อเนื่อง

- ชูเขตเศรษฐกิจพิเศษ “คันไซ” เป็นต้นแบบ “อีอีซี” : คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับอีอีซี ใช้รูปแบบเขตเศรษฐกิจพิเศษคันไซเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนญี่ปุ่น ด้านรองนายก "สมคิด" เตรียมลงศึกษาพื้นที่

- เศรษฐกิจโลก-นโยบายสหรัฐฯ หนุนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ : ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้นเป็นเดือนที่สอง รับปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นักลงทุนเริ่มสนใจลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย

- (PTGH17) PTG มีเฮต้นทุนทางการเงินลด ด้านทริสขยับเครดิตให้เป็นBBB+ : ทริสเรทติ้ง เพิ่มอันดับเครดิตของ PTG เป็นระดับ “BBB+” จากเดิม “BBB” อันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนผลการดำเนินงานและส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจค้าน้ำมันสำเร็จรูปตลอดจนประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายและการมีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ทั่วประเทศ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามเฟดและตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,228.71 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,223.37 – 1,230.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งในกรอบแคบประมาณ 7 เหรียญ หลังจากปรับตัวลดลงในท้ายตลาดเมื่อคืนนี้ โดยปัจจัยที่กดดันคือประธานเฟดได้แถลงการณ์ต่อสภาในเมื่อคืนนี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการประชุมครั้งต่อๆ ไป รวมทั้งให้มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตปานกลาง ทำให้ราคาทองไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้แรง โดยในคินนี้ติดตามการแถลงการณ์ต่อสภาของเฟดอีกครั้ง และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค และตัวเลขภาคค้าปลีก ที่มีโอกาสส่งผลให้ราคาทองคำมีทิศทางชัดเจนมากขึ้นหลังจากแกว่งตัวในกรอบแคบมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเห็นด้วยกับเขาในการประชุมสุดยอดในวันที่ 10 ก.พ.ว่า นโยบายการเงินของญี่ปุ่นไม่ใช่การปั่นค่าเงิน แต่เป็นการยุติภาวะเงินฝืด

- เอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐระบุว่า บริษัทโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ขายทองในไตรมาส 4/2016 ขณะที่บริษัทพอลสัน แอนด์ โคได้ลดสัดส่วนการถือครองทองในกองทุน SPDR Gold Trust เนื่องจากราคาทองร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่งในไตรมาส 4/2016

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า เฟดมีแนวโน้มที่จำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเกิดขึ้นต่อไป แม้เธอแสดงความไม่แน่ใจอย่างมากเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ซึ่งจะถือเป็นการประชุมครั้งแรกของทั้งสองนับตั้งแต่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และเป็นที่คาดกันว่าการประชุมครั้งนี้อาจจะเป็นการกำหนดรูปแบบของนโยบายตะวันออกกลางสำหรับช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- คำแถลงการณ์ของเฟดในคืนนี้

- ความคืบหน้าแผนการปรับโครงสร้างอัตราภาษีของสหรัฐฯ

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่อง

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในช่วงเปิดตลาดสหรัฐฯ มีแรงขายลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,216 เหรียญ ก่อนที่จะดีดกลับในช่วงท้ายตลาด ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ส่วนใหญ่ แต่แรงซื้อของกองทุน SPDR ช่วยหนุนราคาทองให้ปิดบวกได้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มีความกังวลถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เนื่องจากนางเยลเลนยังไม่ได้ให้กรอบเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.36% โดยปิดที่ 1,232.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,216.41 – 1,233.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,234 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในช่วงแรกปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,216 เหรียญ ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวออกมาดีเกินคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่ แต่ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุน SPDR ที่เข้าซื้อทองต่อเนื่อง รวมทั้งการแถลงการณ์ของเฟดต่อสภา ไม่ได้มีการบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน มีเพียงการบอกว่าจะปรับขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงซื้อกลับปิดบวกได้เล็กน้อย โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคที่อยู่อาศัย รวมทั้งแรงซื้อของ SPDR ว่าจะมีเข้ามาต่อเนื่องและช่วยหนุนราคาทองให้ไปต่อได้หรือไม่

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบและสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุด และทำให้นักลงทุนกังวลกับภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก

• ดอลลาร์ทรงตัวในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในช่วงเช้าเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ขณะที่ข้อมูลของสหรัฐบ่งชี้ว่า ยอดขายปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนม.ค.

• สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% ในเดือนม.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค.ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี

• สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 27% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. และมีโอกาสน้อยกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.36 ดอลลาร์ สู่ 1.232.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงจากจุดสูงสุดของวัน โดยราคาทองสามารถสลัดแรงกดดันที่ได้รับในช่วงเช้าจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยตัวเลขดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การซื้อขายของกองทุน SPDR

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,220 – 1,235 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มปรับสถานะการลงทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบรอบด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เงินทุนไหลออกเข้าสู่กลุ่มสินทรัพย์ลงทุนในประเทศที่อัตราผลตอบแทนมีความดึงดูดมากกว่า สำหรับสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ 982 จุด เกิดช่องว่างของราคาในแดนบวกแต่มีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงตลอดวันลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 975 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อกลับมาหนุนตลาดให้ขึ้นไปปิดบวกได้ที่ 983.40 จุด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่มีความผันผวนรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด ภาพรวมการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,573.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่หนาแน่นถึง 66,079.10 ล้านบาท เป็นแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ (-1,686.47 ล้านบาท) เเละกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (-2,543.32 ล้านบาท) ซึ่งคาดว่าเป็นเเรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่ต่างออกไปโดยเข้าซื้อสุทธิกว่า 3,601.12 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้ คาดว่าตลาดยังคงมีความผันผวนจากการปรับสถานะกลุ่มสินทรัพย์ลงทุนเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังนั้นให้ระวังแรงขายในหุ้นใหญ่กลุ่มที่นำตลาดเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันมีสถานะลงทุนค่อนข้างมาก รวมทั้งดัชนีอาจเริ่มอ่อนตัวในช่วงปลายสัปดาห์เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกภายในที่มีนัยสำคัญ

 

• Strategy : Wait & See, หากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 985 จุด ฝั่ง Short ได้เปรียบ, ผันผวนสูงถือเงินสดไม่รับความเสี่ยง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาขายสุทธิต่อเนื่อง

 

ข่าวในประเทศ

- เศรษฐกิจไทยไร้สมดุลอัตราการออมพุ่งขณะที่การลงทุนลดต่ำสวนทาง : ธนาคารกสิกรไทยมองเศรษฐกิจอยู่ในภาวะไม่สมดุล อัตราการออมมากกว่าลงทุน ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไม่เติบโต ชี้อัตราดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีไม่ควรเกินบวกหรือลบ 3% ธปท.ลดดอกเบี้ยไม่ช่วยกระตุ้นลงทุน แนะดูแลค่าเงินให้เหมาะสมจับตาสารพัดเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ

- ก.ล.ต. เดินหน้าเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน : เลขาฯ ก.ล.ต. กล่าวในระหว่างปาฐกถาพิเศษ Promoting Regional Investment Activities in ASEAN ว่าขณะนี้หน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดทุนของทั้งสามประเทศ คือ ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย อยู่ในระหว่างทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน อำนวยความสะดวกด้านกฎเกณฑ์ให้กับบริษัทที่ต้องการระดมทุน ตัวกลาง เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและนักลงทุนสามารถระดมทุนและลงทุนข้ามตลาดได้ดีขึ้น

- (AOTH17X) ต่อรองค่าเช่าเขย่า AOT, อย่าพึ่งกังวลพื้นฐานยังหรู : ราคาหุ้น AOT เจอมรสุมประเด็นกรมธนารักษ์เรียกเก็บค่าเช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มกว่า 2 หมื่นล้านบาท กดดันหนัก โบรกแนะจับตาความชัดเจนต่อไปมั่นใจผลประกอบการยังเติบโตจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มสร้างกรอบราคา

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,236.21 USD/toz มีแรงขายต่อเนื่องตลอดวันลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,231.65 USD/toz ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วง 15.00 น. ตามเวลาไทย มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 6-7 ดอลลาร์ ภาพรวมการเคลื่อนไหวถือว่ายังคงผันผวนเป็นช่วงๆ ตามประเด็นเศรษฐกิจในตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ 2 คืนติดต่อกันโดยมีเนื้อหาสำคัญที่ว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงการประชุมครั้งหน้า(เดือน มี.ค.) ประกอบกับการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศบวก/ลบสลับกันหลายดัชนีส่งผลให้ตลาดทองคำในช่วงสัปดาห์นี้เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวแกว่งตัวออกข้างในกรอบ และที่สำคัญตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่สุดใหม่ All Time High อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังผ่านการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าเหนือระดับ 100 จุด แม้จะมีแรงขายอ่อนค่าลงมาบางเล็กน้อยในช่วงสองวันที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยบวกที่เป็นความหวังของนักลงทุนในตลาดช่วงสัปดาห์นี้คงเป็นมุมมองจากนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ซึ่งยังคงเข้าซื้อสุทธิในทองคำรวมตั้งแต่ 1 ก.พ. ถึงปัจจุบัน 44.47 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิ 843.54 ตัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ติดตาม ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ เป็นหลัก ประกอบกับดัชนีเศรษฐกิจอื่นๆ ประกอบ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ พุ่งรับข้อมูลเงินเฟ้อ : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งในวันพุธ หลังจากข้อมูลระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือน ม.ค. ซึ่งส่งเสริมการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดลดลง 23 /32 มาที่ 98-03/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 3.099% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดลดลง 11/32 ที่ 97-24/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.508%

- ราคาทองคำปรับขึ้นแม้สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่ง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 4.36 ดอลลาร์ สู่ 1.232.56 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับร่วงลงจากจุดสูงสุดของวัน โดยราคาทองสามารถต้านทานแรงกดดันที่ได้รับในช่วงเช้าจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดและตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยตัวเลขดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ทั้งนี้ราคาทองคำส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ ที่ 1,233 .10 USD/toz

- ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวหลังนักลงทุนขายทำกำไร : ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรหลังแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนในช่วงเช้าเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ขณะที่ข้อมูลของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ายอดขายปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือน ม.ค. ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 101.21 จุด หลังทะยานขึ้นสูงสุดแตะ 101.76 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% ในเดือน ม .ค.

- ราคาน้ำมันดิบขยับลงหลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบปรับพุ่งขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NY MEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนขณะที่สต็อกน้ำมันดิบและสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดและทำให้นักลงทุนกังวลกับภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ขยับลง 9 เซนต์ หรือ 0.2 % มาปิดตลาดที่ 53.11 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ค่ำคืนนี้

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มมีแรงขายอ่อนค่าลงเล็กน้อย

- ความคืบหน้าแผนการปรับโครงสร้างอัตราภาษีของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคา, ระวังความผันผวนจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเมื่อคืนนี้ปิดบวก 0.5% โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,242 เหรียญ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากจุดสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอีกครั้ง รวมทั้งความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองในสหรัฐฯ และทางฝั่งยุโรป ช่วยหนุนให้สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.50% โดยปิดที่ 1,238.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,231.65 – 1,242.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,238 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นต่อโดยราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,242 เหรียญ โดยปัจจัยที่หนุนราคาทองคือค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงจากจุดสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยนักลงทุนให้มุมมองต่อตลาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือน มี.ค. มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาต่อเนื่อง โดยหากราคาเคลื่อนไหวเหนือ 1,235 เหรียญได้ ราคาทองก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับลงเล็กน้อย ในขณะที่ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ แต่ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงหนุนในช่วงนี้จากความพยายามของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดการผลิตน้ำมัน

• ราคาน้ำมันแกว่งตัวในกรอบที่มีความกว้างเพียง 5 ดอลลาร์ นับตั้งแต่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทำข้อตกลงกันในปีที่แล้วในการปรับลดการผลิตน้ำมันลง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยข้อตกลงนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ และมีอายุนาน 6 เดือน

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพฤหัสบดี โดยร่วงลงในหนึ่งวันรุนแรงที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง และมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

• สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้การคาดการณ์ของบรรดาเทรดเดอร์ว่า มีโอกาส 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ลดลงจาก 31%

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 6.20 ดอลลาร์ สู่ 1,238.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากแข็งค่าขึ้นมานาน 10 วันติดต่อกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังฉวยโอกาสเข้าซื้อทองในฐานะเครื่องมือทำประกันความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐและยุโรป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การซื้อขายของกองทุน SPDR

 

• Strategy : trading long หากราคาอยู่เหนือ 1,235 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มเเกว่งตัวออกข้างสร้างกรอบราคา โดยมีเเนวโน้มที่จะผันผวนไร้ทิศทางในกรอบเเละยังคงขาดปัจจัยบวกทั้งภายในเเละภายนอก ประกอบกับได้รับเเรงกดดันจากเงินทุนต่างชาติทีเริ่มกลับมา “ซื้อ/ขาย” สุทธิสลับกันไม่ชัดเจนตามประเด็นเศรษฐกิจประจำวัน ในส่วนของสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดบริเวณ 982.80 จุด เคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงในกรอบราคาระหว่าง 981.20-986.50 จุด ก่อนปิดตลาดและชำระราคาประจำวันที่ 985.90 จุด โดยภาพรวมลักษณะการเคลื่อนไหวมีความผันผวนกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดบวกบริเวณ 1,576.05 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมในวันซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ 49,592.48 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (+1,431.81 ล้านบาท) เเละนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ (+885.67 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองขายสุทธิ (-1,067.59 ล้านบาท) เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-1,431.81 ล้านบาท) สำหรับค่าเงินบาทกลับมาอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าอีกครั้งบริเวณ 34.98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ สวนทางกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าบริเวณ 100.49 จุด สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ติดตามการปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนในตลาดโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันภายซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับสถานะลงทุนเพื่อรับความเสี่ยงและแสวงโอกาสจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านการปรับโครงสร้างภาษีรวมไปถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงช่วงปลายสัปดาห์แนะนำให้ถือเงินสด Wait & See ไปก่อนจะปลอดภัยกว่า

 

• Strategy : Wait & See, ราคาเริ่มแกว่งในกรอบและอาจกลับมาผันผวน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทที่กลับมาอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าบริเวณ 34.98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- 'ตลาดหลักทรัพย์' หวังปีนี้กำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้น : ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเมินผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปีนี้น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง เพราะมีการกระจายความเสี่ยงดีขึ้น แนะจับตาปัจจัยต่างประเทศและการปรับดอกเบี้ยสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้น

- 'ทีวีดิจิทัล' เริ่มเห็นแสงสว่างอานิสงส์จีดีพี-มาตรการยืดจ่ายค่าไลเซนส์ : กสทช.มั่นใจปี'60 ทีวีดิจิทัลสดใสตามจีดีพี เหตุรับอานิสงส์จีดีพีขยายตัวและผลจาก คสช.ใช้ ม.44 ขยายเวลาจ่ายใบอนุญาตทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มเกือบ 5 พันล้าน คนดูเพิ่มสวนทางอนาล็อกลดวูบ

- กองทุนหมู่บ้านเตรียมเปิดโมเดลแก้หนี้ : สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)เตรียมเปิดโมเดลแก้หนี้นอกระบบเล็งใช้วงเงินเก่าที่เหลืออีก 2 หมื่นล้าน ช่วยปลดหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน

- (RATCHM17)RATCH อัดฉีดงบหมื่นล้านเปิดฉากพลังงานต่างแดน : RATCH อัดฉีดงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท เปิดฉากลงทุนโรงไฟฟ้าต่างประเทศ สปป.ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเมียนมา ที่ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 7500 เมกะวัตต์ หนุนพอร์ตรายได้รวมปีนี้เติบโตมากกว่าปีก่อน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...