ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งแคบ รอดูตัวเลขคืนนี้

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,195.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,190.74 – 1,196.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบลงเล็กน้อย ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในเมื่อวานนี้บริเวณ 1,206.98 เหรียญ ซึ่งในเมื่อคืนนี้การแถลงการณ์ของประธานเฟดสาขาย่อยหลายสาขา ยังให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3 ครั้งเช่นเดิม และนางเจนเนต เยลเลน ประธานเฟด ที่พูดในเมื่อเช้านี้ก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจและนโยบายอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองเริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และในวันนี้ติดตามตัวเลขภาคค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อ จาก ม.มิชิแกน ที่อาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นได้ โดยหากราคากลับมายืนเหนือ 1,200 เหรียญได้อาจจะเห็นการปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ถ้าไม่อาจจะมีการพักฐานในช่วงสั้นได้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ที่มีประกาศออกมาค่อนข้างมาก

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

- สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) ระบุในวันนี้ว่า ข่าวในระยะนี้เรื่องการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริง และข่าวดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อการดำเนินงานตามปกติในตลาด

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า การคาดการณ์ในทางบวกต่อเศรษฐกิจยูโรโซนในระยะนี้กำลังเผชิญกับภาวะไม่แน่นอน และการคาดการณ์ในทางบวกจะดำเนินต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อการเลือกตั้งในบางประเทศสมาชิกยูโรโซนในปีนี้ไม่ประสบกับเหตุปั่นป่วนวุ่นวาย

- นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า ซาอุดิอาระเบียได้ลดการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ซาอุดิอาระเบียนำการผลักดันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อกำจัดภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกและพยุงราคา

- เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนในวันพฤหัสบดีว่า แผนการคลังและแผนภาษีของคณะผู้บริหารชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะช่วยหนุนเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่สิ่งนี้ต้องแลกด้วยปัญหาหนี้สินและภาวะเงินเฟ้อในระยะยาว และเฟดอาจจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งผันผวนหลังจากทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 5 สัปดาห์

- การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในสัปดาห์หน้า

- ความผันผวนในช่วงปลายสัปดาห์หลังจากราคาทองเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบกว้างขึ้น

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบด้านบน 1,190 – 1,200 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 16 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยนักลงทุนเริ่มกังวลถึงนโยบายของนายทรัมป์ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ โดยในเช้านี้มีประเด็นที่น่าสนใจคือการออกจากยูโรโซนของอังกฤษอย่างแข็งกร้าว (hard brexit) ทำให้ค่าเงินปอนอ่อนค่าแรง และส่งผลให้ทองคำได้รับแรงหนุนเล็กน้อยในเช้านี้ และสัปดาห์นี้ติดตามประเด็นอังกฤษต่อ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน อีกทั้งการประชุมของธนาคารกลางยุโรป

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.14% โดยปิดที่ 1,197.26 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,187.53 – 1,200.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,202 เหรียญ ราคาทองปิดบวกได้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าหลังจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และในเช้าวันนี้ค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวผันผวนซึ่งปรับตัวลดลงแรงเนื่องจากความกังวลเรื่องการออกจากยูโรโซนแบบแข็งกร้าว(hard brexit) โดยในก่อนหน้านี้อังกฤษกล่าวว่าจะออกจากยูโรโซนแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนจากประเด็นนี้ในเช้านี้ โดยในสัปดาห์นี้ติดตามประเด็นของทางฝั่งอังกฤษต่อเนื่อง และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีน การประชุมธนาคารกลางยุโรป ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ทางฝั่ง SPDR กลับเข้าซื้อทองครั้งแรกในรอบ 2 เดือนกว่า โดยซื้อทอง 2.96 ตัน รวมถือครองทองคำ 807.96 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลง 3 % จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับสภาพเศรษฐกิจของจีนด้วย หลังจากจีนรายงานว่า ยอดส่งออกดิ่งลงอย่างรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009

• ดอลลาร์ปรับตัวลงในวันศุกร์ และปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ขณะที่เทรดเดอร์มีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

• ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 6.5 % นับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. และพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ในวันพฤหัสบดี หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดในแผนการปรับลดภาษี และแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แต่ นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีภาคเอกชน อาจจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น และดึงดูดเงินลงทุนให้ไหลออกจากทอง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading long หากราคายืนเหนือ 1,200 เหรียญ ถ้าไม่ให้เปลี่ยนมาเป็น trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

แกว่งตัวในกรอบรอปัจจัยหนุน

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index เเละ S50H17 เคลื่อนไหวผันผวนเล็กน้อยตามตลาดอื่นๆในภูมิภาคที่เปิดตลาดเเละเคลื่อนไหวบวกลบสลับกันโดย S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 979.50 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 984.20 จุดเเละปิดตลาดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 983.60 จุด เช่นเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาดบริเวณ 1,575.24 จุด มีปริมาณการซื้อขายไม่มากไม่น้อยแต่ถือว่าเบาบางลงเรื่อยๆ นับตั้งเเต่ต้นปีเพียง 45,151.49 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ (+835.54 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+490.88 ล้านบาท) สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติเที่ขายสุทธิ (-975.30 ล้านบาท) เเละนักลงทุนสถาบันที่ขายออกสุทธิ (-351.13 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยบวกภายในประเทศมีเพียงค่าเงินบาทที่เเข็งค่า (35.465 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) สวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง (USD index = 101.410 จุด) หลังขึ้นไปทำจุดเเข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 ปี ในด้านของปัจจัยลบที่ยังคงรุมเร้าปัจจัยหนึ่งได้แก่ปัญหาน้ำถ่วมภาคใต้ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายภาคเอกชนลดลงเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะสั้นและปัจจัยด้านเงินทุนที่เริ่มกลับมาไหลออกนอกประเทศ คาดการณ์ว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มลดสถานะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในช่วงปลายสัปดาห์นี้

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ, ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวันแต่ Upside ยังจำกัดและขาดปัจจัยบวกหนุน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- สัปดาห์นี้ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงการคลังชูปี 60 แก้หนี้นอกระบบ ดีเดย์กฎหมายคุมอัตราดอกเบี้ย เข็นนาโนไฟแนนซ์เกิด : กระทรวงการคลังเตรียมเปิดตัว "โครงการแก้หนี้นอกระบบ" 6 ก.พ.นี้ เชิญนายกฯเปิดงาน เผยกฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรามีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมไฟเขียวตั้งนาโนไฟแนนซ์ 21 ราย

- นายกฯสั่งทำแผนพัฒนาคนรองรับ10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย – ไทยแลนด์ 4.0 : นายกฯสั่ง ก.พ.เตรียมบุคลากรรับการเติบโตของ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและไทยแลนด์ 4.0 สั่งกระทรวงศึกษาฯผนึกกระทรวงดิจิทัลฯ เร่งปั้นบุคลากรวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรม ขีดเส้นทำโครงการให้เห็นผลในปีนี้

- ปัดฝุ่นรีดภาษี “ชาเขียว-กาแฟ” กระทบสุขภาพ : กรมสรรพสามิตปัดฝุ่นแผนรีดภาษีสินค้าส่งผลกระทบสุขภาพพุ่งเป้า "กาแฟชงสำเร็จ-ชาเขียว" ล็อตแรก

- (PTTH17) PTT กดปุ่มเปิดประมูลท่อก๊าซ 1.1 แสนล้านบาท มั่นใจแล้วเสร็จปี'63 : PTT กดปุ่มเปิดประมูลหาผู้รับเหมาโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 จำนวน 2 สัญญา ระยะทาง 430 กิโลเมตร มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดแล้วเสร็จในปี 2563

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นแรงซื้อต่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,200.17 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,197.80 – 1,207.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อในเช้าวันนี้ โดยเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญได้ต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และในวันนี้มีประเด็นการออกจากยูโรโซนของอังกฤษที่มีทีท่าจะออกอย่างแข็งกร้าว (hard brexit) ทำให้คาดหวังว่าแรงซื้อทองคำอาจจะมีเข้ามาต่อเนื่องได้ จากความเสี่ยงที่เริ่มเผชิญเข้ามามากขึ้น รวมทั้งในปลายสัปดาห์นี้ที่จะมีการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีน ที่อาจจะหนุนให้แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าแรงซื้อของกองทุน SPDR เริ่มกลับมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้หากราคาทองคำเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญได้ ก็คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดต่อเนื่องได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายฟาทีห์ บิรอล ประธานสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวในวันอาทิตย์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญกับ "ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นมาก" ในปี 2017 ถึงแม้ว่าตลาดน้ำมันอาจจะปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงครึ่งปีแรก ถ้าหากประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันตามที่สัญญาไว้

- ตลาดหุ้นจีนปิดลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในทางลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปี 2017 หลังจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน และตัวเลขคาดการณ์อย่างเป็นทางการของจีนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจในเมืองใหญ่ของจีนจะชะลอการเติบโตลง

- ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นร่วงลงในเดือนพ.ย.ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า บริษัทต่างๆอาจชะลอการใช้จ่ายทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ทั่วโลก

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้ และท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ (Brexit)

- การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในปลายสัปดาห์

- การประชุมธนาคารกลางยุโรป

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,200 เหรียญได้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 17 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยพยายามไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบสั้นๆ บริเวณ 1,208 เหรียญ แต่ภาพรวมเมื่อวานนี้ยังเคลื่อนไหวบวกในกรอบแคบๆ มากกว่า เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ โดยประเด็นที่ต้องติดตามในวันนี้คือ การปราศัยของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งเรื่องที่ต้องติดตามคือการออกจากยูโรโซนของอังกฤษว่าจะออกมาในทีท่าไหน ทำให้ทางเราคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งผันผวนมากกว่าเมื่อวานนี้ได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.54 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.46% โดยปิดที่ 1,202.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,197.80 – 1,207.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,204 เหรียญ ราคาทองคำในเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่กรอบการเคลื่อนไหวนั้นค่อนข้างแคบ เนื่องจากเป็นวันหยุดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และในวันนี้ติดตามการปราศัยของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเกี่ยวกับการออกจากยูโรโซน (Brexit) ที่มีโอกาสทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้มากกว่าเมื่อวานนี้ ซึ่งในเมื่อวานนี้ราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,208 เหรียญอีกครั้งแต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ และราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญ และในช่วงปลายสัปดาห์ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และจีดีพีของฝั่งจีน รวมทั้งการรับตำแหน่งของนายทรัมป์ที่คาดว่าจะมีโอกาสแกว่งผันผวนได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้

 

Exclusive News

• ตลาดเงินนิวยอร์คปิดทำการวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. เนื่องในวันหยุด

• นายบิจาน นามดาร์ ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันของอิหร่านกล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่าสมาชิกในและนอกโอเปกจะปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตที่ทำไว้ในเดือนพ.ย. และราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นอันเป็นผลจากการปรับลดการผลิต

• แหล่งข่าวอุตสาหกรรมพลังงานเปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันนี้ว่า การผลิตน้ำมันและก๊าซของรัสเซียมีปริมาณเฉลี่ยที่ 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงวันที่ 1-15 ม.ค. ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลง

• นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์เรื่อง "เป้าหมายของนโยบายการเงินและวิธีการปฏิบัติตามนโยบาย" ต่อสมาคมคอมมอนเวลธ์ คลับที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียในวันพุธนี้เวลา 2000 GMT หรือตรงกับเวลาประเทศไทยราว 03.00 น.ตามเวลาไทยในวันพฤหัสบดี

• นายโมฮัมเหม็ด เอ. เอล-อีเรียน หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของบริษัทอัลไลอันซ์กล่าวในวันนี้ว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะเติบโตดีเกินคาดในปี 2017 อย่างไรก็ดี ยังคงมีความไม่แน่นอนหลายประการ และปัจจัยนี้อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading long หากราคายืนเหนือ 1,200 เหรียญ ถ้าไม่ให้เปลี่ยนมาเป็น trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

ลดสถานะการลงทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มเคลื่อนไหวไร้ทิศทางและมีความผันผวนสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้าโดย SET index และ S50H17 แกว่งตัวผันผวนมากขึ้นในกรอบราคาเดิมตั้งแต่ช่วงต้นเดือนหลังมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดจนเกิดภาวะ “ซื้อมากเกินไป” และยังไร้ปัจจัยพื้นฐานรองรับ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในแดนลบบริเวณ 981.00 จุด มีแรงขายต่อเนื่องค่อนข้างรุนแรงกดดันสัญญาฯลงไปทำจุดต่ำสุดในวันที่ 975.20 จุด ในภาคเช้าก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดดันดัชนีขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 982.40 จุด และย่อตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 978.90 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างและถือว่าเป็นวันที่มีความผันผวนขึ้นลงในวันรุนแรงพอสมควร ด้าน SET index ปิดตลาด 1,571.80 จุด มีปริมาณการซื้อขายในวัน 49,057.71 ล้านบาทอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยของดัชนี นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิต่อเนื่องแม้ยังไม่มากแต่ถือว่ารินขายออกเรื่อยๆ สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นที่มีสถานะซื้อสุทธิ ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่มีความผันผวนในกรอบและเริ่มมีเงินทุนไหลออก ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าเป็นการลดสถานะการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากการความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากแถลงการณ์ของนายกฯอังกฤษเกี่ยวกับการ Brexit และการเข้าสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงปลายสัปดาห์

 

• แนะนำ : ลดสถานะการลงทุน, ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามแถลงการณ์ของนายกฯอังกฤษเรื่องการ Brexit

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

 

ข่าวในประเทศ

- จับตาเขม็งหวั่น Brexit ออกฤทธิ์ : รมช.พาณิชย์ เผยว่าจะสั่งการให้ สนค. กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ Brexit ซึ่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษจะประกาศแผนเบร็กซิทวันนี้ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าดังนั้นต้องติดตามผลกระทบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยทั้งหมดต้องติดตามว่าจะกระทบต่อการค้าไทยอย่างไร

- ตั้งเป้าปี 60 เป็นปีทองขยายการค้าการลงทุนไทย “กระทรวงพาณิชย์” วางยุทธศาสตร์จับเข่าคุยคู่ค้า : รมว.พาณิชย์เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการเจรจาการค้าตามนโยบายของรองนายกฯที่ตั้งเป้าหมายให้ปี 60 เป็นปีทองแห่งการค้าและการลงทุนของไทย โดยมีแผนจะเจรจาเปิดตลาดการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย โดยการใช้กลยุทธ์การเจรจาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหลังจากที่ปี 59 ประสบความสำเร็จในการขยายความร่วมกับ ญี่ปุ่น อิหร่าน รัสเซีย ศรีลังกา เกาหลีใต้

- (DTACH17)‘DTAC’ลุยลงทุนต่อภายใต้งบเจ็ดหมื่นล้านหวังขยายฐานลูกค้า : DTAC เดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง ภายใต้งบลงทุน 3 ปี (2559-2561) กว่า 7 หมื่นล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 25 ล้านรายมีสถานีฐานคลื่นความถี่ 4G แล้วจำนวน 20,000 สถานีและ 3G จำนวนเกือบ 30,000 สถานี

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 17 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ระวังปัจจัยกระทบระยะสั้น

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,203.40 USD/toz เคลื่อนไหวต่อเนื่องในแนวโน้มขาขึ้น ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,214.98 USD/toz สูงที่สุดในรอบเกือบสองเดือนที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดทองคำได้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเรื่องการทำ Brexit (Hard Brexit) ซึ่งกดดันค่าเงินปอนด์ลงไปอยู่บริเวณใกล้จุดต่ำที่สุดในรอบสามเดือนที่ทำไว้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมทั้งประเด็นการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” ในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.นี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าทองคำมีปัจจัยที่เข้ามากระทบในช่วงนี้ค่อนข้างมากเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงขึ้นกับมุมมองและประสบการณ์ของนักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสที่ทองคำจะมีการเคลื่อนไหวมากกว่าปกติซึ่งจะเพิ่มทั้งอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงให้นักลงทุนในขณะเดียวกัน สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่พร้อมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้นได้ ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ลดสถานะการลงทุนลงหรือรอให้ปัจจัยต่างๆ มีความชัดเจนก่อนเพื่อปรับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ (Jack Lew), ถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley, Brainard) และดัชนีการสำรวจจากผู้ผลิตในรัฐนิวยอร์ก

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองปรับขึ้นในภาคเช้าขณะตลาดรอนายกฯ อังกฤษแถลงเรื่อง Brexit : ราคาทองคำในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าหลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์เมื่อวานนี้ คาดการณ์เป็นผลมาจากการรอการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเกี่ยวกับแผนการถอนตัวอย่างแข็งกร้าวออกจากสหภาพยุโรป (Hard Brexit) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระดับการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนและหนุนการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

- อดีตประธานเฟดเตือน “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” ถึงความเสี่ยงสงครามการค้า : เบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด กล่าวในวันจันทร์ว่าการที่ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” เรียกจีนว่าเป็นผู้บิดเบือนค่าเงินหยวนหรือเป็นผู้ที่กำหนดให้ค่าเงินถูกกว่าความเป็นจริงเพื่อประโยชน์ทางด้านการส่งออก นั้นดูจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเนื่องจากจีนได้พยายามอย่างมากในการพยุงเงินหยวนไม่ให้อ่อนลงมากกว่านี้ พร้อมกับยังเตือนเรื่องความเสี่ยงของการทำสงครามการค้าด้วย

- ดัชนีตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. : ดัชนีตลาดหุ้นโตเกียวได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเยน ขณะที่นักลงทุนรอการแถลงของนายกฯ อังกฤษในวันนี้เกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปและการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ในวันศุกร์นี้

- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการเมื่อวานขณะน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น : ตลาดน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดปรับขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความมุ่งมั่นของซาอุดิอาระเบียในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยปัจจัยบวกนี้ช่วยชดเชยรายงานที่คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐจะปรับขึ้นอีกครั้งในปีนี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ผลกระทบหลังแถลงการณ์ของนายกฯอังกฤษเรื่องการ Brexit วันนี้

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (19, 20 ม.ค.)

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

- การประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) ตลอดสัปดาห์

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long ได้เปรียบในวัน, พิจารณาจุดเปิดสถานะเพื่อเป็นการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 18 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและปิดบวกเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนในเมื่อวานนี้ โดยปัจัยหลักที่หนุนราคาทองคำคือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลังตลาดเผชิญภาวะความไม่แน่นอนมากขึ้นทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และประเด็น Brexit ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง โดยวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีโอกาสหนุนราคาทองต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.14% โดยปิดที่ 1,216.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,202.30 – 1,218.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,216 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ คือ 1. การที่นายทรัมป์ออกมากล่าวว่าค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าเกินไปทำให้เกิดความเสียเปรียบในการแข็งขันกับบริษัทของจีน 2. การแข็งค่าของเงินปอนด์เกือบ 3% จากการที่นายกอังกฤษออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการให้รัฐสภาโหวตเรื่องการถอนตัวออกจากยูโรโซน (Brexit) ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง และในวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ และรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาในมุมมองลบมากขึ้นอาจจะช่วยหนุนราคาทองให้เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคารในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และซาอุดิอาระเบียระบุว่า ซาอุดิอาระเบียจะปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ในวันอังคาร โดยปรับตัวลงเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงิน ขณะที่ปอนด์พุ่งขึ้นหลังนางเทเรซา เมย์กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ซึ่งหนุนปอนด์พุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่ปี 1998

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทสหรัฐไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทของจีนได้ในขณะนี้ เพราะการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับหยวน"กำลังฆ่าเรา"

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 19.20 ดอลลาร์ หรือ 1.60 %สู่ 1,216.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 8 สัปดาห์ที่ 1,218.64 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ตลาดหุ้นและดอลลาร์ร่วงลง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า ดอลลาร์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเกินไป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาล

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ (Brexit)

 

• Strategy : ถือ long ต่อ หากยังเคลื่อนไหวเหนือ 1,208 เหรียญ หากไม่มีสถานะรอ long เมื่ออ่อนตัว

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดเริ่มอ่อนไหวและผันผวน

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ S50H17 เมื่อวานนี้มีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากการแถลงการณ์ของนายกฯ อังกฤษ เรื่องการทำ Brexit (Hard Brexit) กดดันให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนมาก โดย S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 979 จุด ก่อนลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 973.50 จุด ในช่วงท้ายตลาดและปิดตลาดบริเวณใกล้เคียงกันที่ 974 จุด เช่นเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาด 1,566.84 จุด มีปริมาณการซื้อขายในวัน 50,193.03 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปกติของ SET index นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ -924.13 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นที่เข้าซื้อสุทธิ สำหรับมุมมองของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันแม้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแต่ถือว่าซื้อไม่มาก รวมทั้งสองกลุ่มซื้อสุทธิเพียง +22 ล้านบาท เท่านั้น ในประเด็นนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาเป็นข้อสังเกตถึงมุมมองและการเข้าสถานะลงทุนของนักลงทุนทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการปรับลดสถานะการลงทุนในอนาคต สำหรับการซื้อขายในวันนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติอาจลดสถานะการลงทุนและเริ่มปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงจาก การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” ในวันศุกร์และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (19, 20 ม.ค.) รวมทั้งลดความเสี่ยงจากการประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ซึ่งจะมีการประกาศในหลายดัชนี ดังนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเริ่มมีแรงขายและไม่ได้รับประโยชน์จากเงินทุนต่างชาติเท่าที่ควรเหมือนกับช่วงต้นเดือน ม.ค.

 

• แนะนำ : ลดสถานะการลงทุนบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม, Short Position ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทแข็งค่า (35.27 บาทต่อดอลลาร์), ดอลลาร์อ่อนค่า (USD index=100.33 จุด)

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

 

ข่าวในประเทศ

- ผลสำรวจซีอีโอมองเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังทรงตัว ห่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า-หวังรัฐฯ อัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง : ซีอีโอส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจไทยปีนี้ทรงตัว ได้แรงขับเคลื่อนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นของรัฐ ห่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า กำลังซื้อในประเทศค่อนข้างฝืด หวังรัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง

- รัฐฯ ทุ่มหนักเพิ่มงบ 190,000 ล้านบาท เน้นอัดฉีดกลุ่มจังหวัด : ครม.เห็นชอบจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 60 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท เน้นอัดงบพัฒนากลุ่มจังหวัด

- คาดแบงก์กำไร 2.1 แสนล้าน คลังจี้ใช้พร้อมเพย์ Q1 ห้ามเลื่อนอีก : โบรกฯ คาดปี 60 แบงก์ฟันกำไร 210,000 ล้านบาท เพิ่ม 6% อานิสงส์โครงการลงทุนรัฐ-กินส่วนต่างดอกเบี้ย แต่ห่วงหนี้ครัวเรือนสูง คลังออกโรงจี้ ธปท.-ธนาคารพาณิชย์ เดินเครื่องพร้อมเพย์ไตรมาสแรกปีนี้

- (TMBH17)แบงก์ ‘ทหารไทย’ กำไรปี’59 วูบ ตั้งสำรองลดเสี่ยง : TMB เปิดเผยว่าธนาคารมีกำไรสุทธิปี 2559 จำนวน 8,226 ล้านบาท ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,333 ล้านบาท เพราะธนาคารตั้งสำรองหนี้ในระดับสูงที่ 8,649 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและตัดหนี้เสียจำนวนทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 18 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและปิดบวกเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนในเมื่อวานนี้ โดยปัจัยหลักที่หนุนราคาทองคำคือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลังตลาดเผชิญภาวะความไม่แน่นอนมากขึ้นทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และประเด็น Brexit ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง โดยวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีโอกาสหนุนราคาทองต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.14% โดยปิดที่ 1,216.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,202.30 – 1,218.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,216 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ คือ 1. การที่นายทรัมป์ออกมากล่าวว่าค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าเกินไปทำให้เกิดความเสียเปรียบในการแข็งขันกับบริษัทของจีน 2. การแข็งค่าของเงินปอนด์เกือบ 3% จากการที่นายกอังกฤษออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการให้รัฐสภาโหวตเรื่องการถอนตัวออกจากยูโรโซน (Brexit) ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง และในวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ และรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาในมุมมองลบมากขึ้นอาจจะช่วยหนุนราคาทองให้เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคารในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และซาอุดิอาระเบียระบุว่า ซาอุดิอาระเบียจะปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ในวันอังคาร โดยปรับตัวลงเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงิน ขณะที่ปอนด์พุ่งขึ้นหลังนางเทเรซา เมย์กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ซึ่งหนุนปอนด์พุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่ปี 1998

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทสหรัฐไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทของจีนได้ในขณะนี้ เพราะการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับหยวน"กำลังฆ่าเรา"

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 19.20 ดอลลาร์ หรือ 1.60 %สู่ 1,216.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 8 สัปดาห์ที่ 1,218.64 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ตลาดหุ้นและดอลลาร์ร่วงลง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า ดอลลาร์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเกินไป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาล

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ (Brexit)

 

• Strategy : ถือ long ต่อ หากยังเคลื่อนไหวเหนือ 1,208 เหรียญ หากไม่มีสถานะรอ long เมื่ออ่อนตัว

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดเริ่มอ่อนไหวและผันผวน

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ S50H17 เมื่อวานนี้มีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากการแถลงการณ์ของนายกฯ อังกฤษ เรื่องการทำ Brexit (Hard Brexit) กดดันให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนมาก โดย S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 979 จุด ก่อนลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 973.50 จุด ในช่วงท้ายตลาดและปิดตลาดบริเวณใกล้เคียงกันที่ 974 จุด เช่นเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาด 1,566.84 จุด มีปริมาณการซื้อขายในวัน 50,193.03 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปกติของ SET index นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ -924.13 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นที่เข้าซื้อสุทธิ สำหรับมุมมองของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันแม้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแต่ถือว่าซื้อไม่มาก รวมทั้งสองกลุ่มซื้อสุทธิเพียง +22 ล้านบาท เท่านั้น ในประเด็นนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาเป็นข้อสังเกตถึงมุมมองและการเข้าสถานะลงทุนของนักลงทุนทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการปรับลดสถานะการลงทุนในอนาคต สำหรับการซื้อขายในวันนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติอาจลดสถานะการลงทุนและเริ่มปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงจาก การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” ในวันศุกร์และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (19, 20 ม.ค.) รวมทั้งลดความเสี่ยงจากการประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ซึ่งจะมีการประกาศในหลายดัชนี ดังนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเริ่มมีแรงขายและไม่ได้รับประโยชน์จากเงินทุนต่างชาติเท่าที่ควรเหมือนกับช่วงต้นเดือน ม.ค.

 

• แนะนำ : ลดสถานะการลงทุนบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม, Short Position ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทแข็งค่า (35.27 บาทต่อดอลลาร์), ดอลลาร์อ่อนค่า (USD index=100.33 จุด)

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

 

ข่าวในประเทศ

- ผลสำรวจซีอีโอมองเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังทรงตัว ห่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า-หวังรัฐฯ อัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง : ซีอีโอส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจไทยปีนี้ทรงตัว ได้แรงขับเคลื่อนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นของรัฐ ห่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า กำลังซื้อในประเทศค่อนข้างฝืด หวังรัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง

- รัฐฯ ทุ่มหนักเพิ่มงบ 190,000 ล้านบาท เน้นอัดฉีดกลุ่มจังหวัด : ครม.เห็นชอบจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 60 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท เน้นอัดงบพัฒนากลุ่มจังหวัด

- คาดแบงก์กำไร 2.1 แสนล้าน คลังจี้ใช้พร้อมเพย์ Q1 ห้ามเลื่อนอีก : โบรกฯ คาดปี 60 แบงก์ฟันกำไร 210,000 ล้านบาท เพิ่ม 6% อานิสงส์โครงการลงทุนรัฐ-กินส่วนต่างดอกเบี้ย แต่ห่วงหนี้ครัวเรือนสูง คลังออกโรงจี้ ธปท.-ธนาคารพาณิชย์ เดินเครื่องพร้อมเพย์ไตรมาสแรกปีนี้

- (TMBH17)แบงก์ ‘ทหารไทย’ กำไรปี’59 วูบ ตั้งสำรองลดเสี่ยง : TMB เปิดเผยว่าธนาคารมีกำไรสุทธิปี 2559 จำนวน 8,226 ล้านบาท ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,333 ล้านบาท เพราะธนาคารตั้งสำรองหนี้ในระดับสูงที่ 8,649 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและตัดหนี้เสียจำนวนทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 18 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เคลื่อนไหวในแดนลบ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,216.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,209.74 – 1,217.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในเมื่อวานนี้ และในวันนี้ราคาทองเริ่มแกว่งอ่อนตัวจากราคาเปิดเล็กน้อย โดยปัจจัยหนุนราคาทองในสัปดาห์นี้คือค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งตัวอ่อนค่า แต่ปัจจัยทางเรื่องการออกจากยูโรโซนของอังกฤษนั้นไม่ได้ออกมาในท่าทีที่แข็งกร้าวเหมือนที่คาดว่ากันก่อนหน้า ทำให้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อ และหนุนทองคำได้ในช่วงนี้ และในวันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รายงานภาวะเศรษฐกิจ และถ้อยแถลงของประธานเฟดนางเจนเนต เยนเลน ว่าจะออกมาทีท่าอย่างไร และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอัตราเร่งมากขึ้นหรือไม่ หากกล่าวออกมาในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อก็จะเป็นประเด็นช่วยกลับมาหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันทองคำในระยะสั้นได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สหประชาชาติหรือยูเอ็นคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้นสู่ 2.7% ในปีนี้และ 2.9% ในปีหน้า โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในปีที่ผ่านมา และระบุว่า การถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit และนโยบายภาษีของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจมีผลกระทบในเชิงลบ

- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานหรือ shale oil ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.หลังจากลดลง 3 เดือน โดยบริษัทด้านพลังงานได้เพิ่มกิจกรรมการขุดเจาะน้ำมัน ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน

- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวปกป้องโลกาภิวัฒน์อย่างจริงจังเมื่อวานนี้ ซึ่งสวนทางกับนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนต้องการจะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในเวทีโลก

- นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวในวันนี้ว่า เขามองเห็น "เหตุผลที่ดี" ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ถึงแม้ไม่มีการดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการคลัง

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 62 คนคาดว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 6.7% ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาล และการปล่อยกู้ของภาคธนาคารที่สูงเป็นประวัติการณ์ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านหนี้สิน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

- การประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) ตลอดสัปดาห์

- เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาบริเวณ 100 จุด

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,208 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 19 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในรอบ 8 วัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับได้จากบริเวณ 100 จุด ทำให้ทองคำปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยถ้อนคำปราศัยของนางเจนเนต เยนเลน ที่ออกมากล่าวถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะเกิดขึ้น 2-3 ครั้งตามที่เคยกล่าวไว้ช่วยหนุนดอลลาร์และกดดันทองคำ วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป และพรุ่งนี้การรับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายทรัมป์

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 12.92 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -1.06% โดยปิดที่ 1,203.54 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,201.81 – 1,217.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,201 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน โดยปัจจัยหลักคือค่าเงินดอลลาร์ที่ดีดกลับในเมื่อวานนี้หลังจากลงมาทดสอบบริเวณ 100 จุด ซึ่งในช่วงค่ำตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเป็นไปตามคาดการณ์ส่วนใหญ่ แต่ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟดได้กล่าวออกมาว่าภาวะการจ้างงานเริ่มตรึงตัว และเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามเป้าหมาย ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะเป็นไปตามคาดการณ์ คือ 2-3 ครั้ง ซึ่งค่าเงินดอลลาร์เริ่มดีดกลับได้และกดดันราคาทองคำให้อ่อนค่าลงมา โดยในวันนี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรปและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม และให้น้ำหนักในเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้มากกว่าที่จะมีการปราศัยของประธานเฟดอีกครั้ง รวมทั้งการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายทรัมป์

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันพุธสู่จุดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และมีการคาดการณ์กันว่า บริษัทน้ำมันในสหรัฐจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดปริมาณการผลิตลงจากสถิติสูงสุด

• EIA คาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันจากแหล่งหินน้ำมันขนาดใหญ่ในสหรัฐอาจเพิ่มขึ้น 40,750 บาร์เรลต่อวัน สู่ 4.748 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ

• กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพุธว่า ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3 % ต่อเดือนในเดือนธ.ค. และพุ่งขึ้น 2.1 % ต่อปีในเดือนธ.ค. โดยอัตรา 2.1 % ต่อปีนี้ถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2014

• ราคาทองร่วงลงไปอีก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานBeige Book ระบุว่า การผลิตพุ่งขึ้นและตลาดแรงงานตึงตัว

• ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน ที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 2-3 ครั้งในการปราศัยเมื่อคืนนี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาล

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,200 – 1,220 เหรียญ และควรระวังการพักฐานหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังปัจจัยผันผวนจากฝั่งสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 975.70 จุด แกว่งตัวผันผวนในกรอบและขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 978.00 จุด ก่อนมีแรงขายออกมาช่วงท้ายตลาดกดดันให้สัญญาฯ S50H17 ลงมาปิดตลาดบริเวณ 971.10 จุด รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปในลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดในแดนลบที่ 1,560.83 จุด มีปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของดัชนีที่ 48,884.31 ล้านบาท เป็นแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ (-3,175.25 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-56.78 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเป็นแรงขายเพื่อลดสถานะการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังอ่อนค่าลงตั้งแต่ต้นเดือน (ปัจจุบัน USD index = 101.33 จุด) กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในวันบริเวณ 35.43 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการซื้อขายในวันนี้ยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยระยะสั้นจากฝั่งสหรัฐฯ และปัจจัยน้ำท่วมภาคใต้ที่ยังปกคลุม Upside ของดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ ส่งผลให้ดัชนีอาจมีความเปราะบางบางอ่อนไหวต่อข่าว

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, ระวังแรงซื้อกลับ, ลดสถานะการลงทุน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)

 

ข่าวในประเทศ

- มาตรการรัฐฯ หนุนดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมสูงที่สุดในรอบ 22 เดือน : ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ธ.ค.2559 อยู่ระดับ 88.5 ปรับตัวเพิ่มจากระดับ 87.8 ในเดือน พ.ย. 59 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันและสูงสุดในรอบ 22 เดือน

- สมคิดเร่ง “ตลาดประชารัฐ, ธงฟ้าประชารัฐ” ให้เป็นรูปธรรมภายใน 3-6 เดือน เร่งเครื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ : “สมคิด” สั่งกระทรวงพาณิชย์ตั้งตลาดประชารัฐตามกลุ่มจังหวัดให้แล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือน หวังใช้ชูของเด่นในพื้นที่ดึงการท่องเที่ยวและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ยอมรับราคาน้ำมันยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หวั่นกระทบสินค้าอุปโภคบริโภค เตรียมเปิด “ร้านธงฟ้าประชารัฐ” จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด 15-20%

- สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแนะนำ “บลจ. - โบรกเกอร์” ลดซื้อตั๋วบีอี : สภาธุรกิจตลาดทุนไทยมองปัญหาตั๋วบีอีจำกัดวงแคบ ชี้หากต้องการสร้างความมั่นใจแนะให้ บลจ.-โบรกเกอร์ ลดสัดส่วนลงทุนตราสารหนี้จากเกณฑ์ 20%

- (ITDH17) ITD รับงานเขื่อนน้ำเทินมูลค่า 1.68 หมื่นล้านบาท : ITD ลงนามรับงานเขื่อนไฟฟ้าน้ำเทิน มูลค่างานทั้งหมด 1.68 หมื่นล้านบาท ITD ฟันไป 5.03 พันล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามเฟด(อีกรอบ) และว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ฯ

ราคาทองคำเปิดตลาดภาคเช้าบริเวณ 1,198.65 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบ 3-4 ดอลลาร์ ภาพรวมระยะสั้นอยู่ในแนวโน้มขาลงโดยราคาทองคำมีแรงขายรุนแรงตั้งแต่ช่วงประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย เป็นแรงขายจากการคาดการณ์ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (นางเยลเลน) ที่จะเกิดขึ้นในช่วงประมาณตีสาม ซึ่งโดยสรุปถ้อยแถลงของนางเยลเลนก็เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดกล่าวคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเวลาอันใกล้นี้หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง รวมทั้งระดับของอัตราเงินเฟ้ออยูใกล้เคียงกับระดับเป้าหมาย ประกอบกับเพื่อให้มีความสอดรับกับแนวนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เน้นการกระตุ้นปัจจัยภายในประเทศเละยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นศูนย์กลาง ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ค่าเงินดอลลาร์และผลักดันดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นหลังอ่อนค่าลงตลอดเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา (ปัจจุบัน USD index = 101.18 จุด) และลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำลง อีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำในระยะสั้นได้แก่ การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากถ้อยแถลงของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางและความผันผวนของราคาทองคำในช่วงสั้นได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำร่วงลงขณะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งขึ้น : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ดิ่งลง 12.92 ดอลลาร์ หรือ 1.06 % สู่ 1,203.54 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธหลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 8 สัปดาห์ที่ 1,218.64 USD/toz ในวันอังคาร ในขณะที่สหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่ง และตัวเลขดังกล่าวหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นและหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ปรับขึ้นด้วย

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดดิ่งลง : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดิ่งลงในวันพุธ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวัน หลังจากนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.413 % และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีอยู่ที่ 2.997 %

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าหลังเยลเลนชี้เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพุธได้แรงหนุนจากความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้

- ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงสวนทางดอลลาร์ที่แข็งค่าแข็ง, สหรัฐฯ อาจเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน : ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันพุธสู่จุดต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีการคาดการณ์ว่า บริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดปริมาณการผลิตลงจากสถิติสูงสุด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (08.00 น.)

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.)

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคาทองคำยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,205 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 20 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากราคาเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งวันในเมื่อวานนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวจากบริเวณ 100 จุด รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามราคาทองยังคงมีแรงซื้อกลับบริเวณ 1,200 เหรียญ โดยคาดว่านักลงทุนมีความกังวลถึงการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในคืนนี้ ทำให้คาดว่าหากราคาทองไม่หลุด 1,200 เหรียญ ราคาทองก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.10% โดยปิดที่ 1,204.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,195.47 – 1,206.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,206 เหรียญ ราคาทองเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในเมื่อวานนี้ หลังจากราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนได้ โดยราคาทองคำปรับขึ้นมาจากปลายปีก่อนในช่วงเดือน ธ.ค. กว่า 8 % แล้ว โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มดีดกลับหลังจากลงไปทดสอบบริเวณ 100 จุดเช่นกัน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ก็เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเมื่อคืนนี้ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองสามารถกลับมาปิดบวกได้ในท้ายตลาด จากความกังวลของนักลงทุนที่ยังมีต่อการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการคืนนี้ และเชื่อว่าหากยังมีแรงซื้อบริเวณ 1,200 เหรียญ จะทำให้ราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 50.91 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันพุธ โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันตึงตัวในช่วงปลายปี 2016 ก่อนที่ข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น

• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน แม้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรก็ตาม ขณะที่ข้อมูลด้านแรงงานและการก่อสร้างบ้านสนับสนุนมุมมองเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 1.22 ดอลลาร์ สู่ 1,204.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยราคาทองร่วงลงในช่วงแรก ก่อนจะปรับขึ้นในช่วงต่อมา ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดช่วงบวกลงด้วยเช่นกัน โดยในช่วงแรกนั้นราคาทองได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาล

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading long หากราคาอยู่เหนือ 1,200 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ปัจจัยภายนอกยังคงกำหนดทิศทางการลงทุน

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ SET index และ S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน มีแรงขายลดสถานะการลงทุนค่อนข้างรุนแรง โดย S50H17 เปิดตลาด 969.80 จุด เคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลง ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 964.70 จุด ช่วงท้ายตลาดก่อนปิดตลาดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 967.10 จุด (ราคาที่ใช้ชำระราคาประจำวัน = 967.20 จุด) นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ -17,044 สัญญา รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,554.88 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 53,206.33 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์หนาแน่นแต่ยังไม่มาก ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -154.37 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันนี้ คาดการณ์ว่าอาจมีแรงขายลดสถานการลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้าสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เข้ามาจำกัด Upside ของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวัน ขณะที่ถ้อยแถลงล่าสุดของนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ Stanford Institute for Economic Policy Research นั้น ยังคงมีมุมมองเดิมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่รุนแรงเพื่อที่จะลดความเสี่ยงจากแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงมากเกินไป

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ยังคงได้เปรียบในวัน, อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาแต่ Upside จำกัดและยังคงขาดปัจจัยบวกรองรับ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ภาพรวมค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

 

ข่าวในประเทศ

- แบงค์ชาติจับตา “ทรัมป์” หวั่นประเด็นกีดกันการค้าไทย : “แบงก์ชาติ” เกาะติดพิธีสาบานตนของ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” จับตา 2 ประเด็นสำคัญ “การลงทุน-การค้า” หวั่นกระทบส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว มองตลาดเงินผันผวน แนะผู้ประกอบการประกันเสี่ยง

- กระทรวงพาณิชย์หารือผู้ประกอบการ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ร่วมแผน “ธงฟ้าประชารัฐ” : เร่งเปิดโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ดันสินค้าราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาด 15-20% ถึงมือผู้บริโภคภายในไตรมาสสอง จ่อหารือผู้ผลิตสินค้ายักษ์ใหญ่ภายในสัปดาห์หน้าหวังเคาะรายการสินค้า เน้นหมวดจำเป็นต่อการบริโภค ช่วยลดค่าครองชีพ ใช้แบรนด์เดิมแต่ลดต้นทุนการตลาดเพื่อให้ขายได้ถูก เตรียมส่งคาราวานธงฟ้าเคลื่อนที่ช่วยใต้ เริ่ม ก.พ.นี้

- (PTTH17) ปตท. (PTT) ชง “PTTOR” IPO เม.ย.ระดมทุน ปี 61 : ปตท. เผยว่าแผนการจัดโครงสร้างธุรกิจนำ “บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก. หรือ PTTOR เป็นบริษัทลูกและเป็นบริษัทแกนของกลุ่ม ปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ให้อนุมัติในช่วงเดือน เม.ย. 60

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 20 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากราคาเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งวันในเมื่อวานนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวจากบริเวณ 100 จุด รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามราคาทองยังคงมีแรงซื้อกลับบริเวณ 1,200 เหรียญ โดยคาดว่านักลงทุนมีความกังวลถึงการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในคืนนี้ ทำให้คาดว่าหากราคาทองไม่หลุด 1,200 เหรียญ ราคาทองก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.10% โดยปิดที่ 1,204.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,195.47 – 1,206.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,206 เหรียญ ราคาทองเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในเมื่อวานนี้ หลังจากราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนได้ โดยราคาทองคำปรับขึ้นมาจากปลายปีก่อนในช่วงเดือน ธ.ค. กว่า 8 % แล้ว โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มดีดกลับหลังจากลงไปทดสอบบริเวณ 100 จุดเช่นกัน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ก็เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเมื่อคืนนี้ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองสามารถกลับมาปิดบวกได้ในท้ายตลาด จากความกังวลของนักลงทุนที่ยังมีต่อการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการคืนนี้ และเชื่อว่าหากยังมีแรงซื้อบริเวณ 1,200 เหรียญ จะทำให้ราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 50.91 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันพุธ โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันตึงตัวในช่วงปลายปี 2016 ก่อนที่ข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น

• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน แม้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรก็ตาม ขณะที่ข้อมูลด้านแรงงานและการก่อสร้างบ้านสนับสนุนมุมมองเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 1.22 ดอลลาร์ สู่ 1,204.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยราคาทองร่วงลงในช่วงแรก ก่อนจะปรับขึ้นในช่วงต่อมา ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดช่วงบวกลงด้วยเช่นกัน โดยในช่วงแรกนั้นราคาทองได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาล

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์

 

• Strategy : trading long หากราคาอยู่เหนือ 1,200 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ปัจจัยภายนอกยังคงกำหนดทิศทางการลงทุน

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ SET index และ S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน มีแรงขายลดสถานะการลงทุนค่อนข้างรุนแรง โดย S50H17 เปิดตลาด 969.80 จุด เคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลง ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 964.70 จุด ช่วงท้ายตลาดก่อนปิดตลาดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 967.10 จุด (ราคาที่ใช้ชำระราคาประจำวัน = 967.20 จุด) นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ -17,044 สัญญา รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,554.88 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 53,206.33 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์หนาแน่นแต่ยังไม่มาก ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -154.37 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันนี้ คาดการณ์ว่าอาจมีแรงขายลดสถานการลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้าสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เข้ามาจำกัด Upside ของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวัน ขณะที่ถ้อยแถลงล่าสุดของนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ Stanford Institute for Economic Policy Research นั้น ยังคงมีมุมมองเดิมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่รุนแรงเพื่อที่จะลดความเสี่ยงจากแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงมากเกินไป

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ยังคงได้เปรียบในวัน, อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาแต่ Upside จำกัดและยังคงขาดปัจจัยบวกรองรับ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ภาพรวมค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

- ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

 

ข่าวในประเทศ

- แบงค์ชาติจับตา “ทรัมป์” หวั่นประเด็นกีดกันการค้าไทย : “แบงก์ชาติ” เกาะติดพิธีสาบานตนของ “ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์” จับตา 2 ประเด็นสำคัญ “การลงทุน-การค้า” หวั่นกระทบส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว มองตลาดเงินผันผวน แนะผู้ประกอบการประกันเสี่ยง

- กระทรวงพาณิชย์หารือผู้ประกอบการ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ร่วมแผน “ธงฟ้าประชารัฐ” : เร่งเปิดโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ดันสินค้าราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาด 15-20% ถึงมือผู้บริโภคภายในไตรมาสสอง จ่อหารือผู้ผลิตสินค้ายักษ์ใหญ่ภายในสัปดาห์หน้าหวังเคาะรายการสินค้า เน้นหมวดจำเป็นต่อการบริโภค ช่วยลดค่าครองชีพ ใช้แบรนด์เดิมแต่ลดต้นทุนการตลาดเพื่อให้ขายได้ถูก เตรียมส่งคาราวานธงฟ้าเคลื่อนที่ช่วยใต้ เริ่ม ก.พ.นี้

- (PTTH17) ปตท. (PTT) ชง “PTTOR” IPO เม.ย.ระดมทุน ปี 61 : ปตท. เผยว่าแผนการจัดโครงสร้างธุรกิจนำ “บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก. หรือ PTTOR เป็นบริษัทลูกและเป็นบริษัทแกนของกลุ่ม ปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ให้อนุมัติในช่วงเดือน เม.ย. 60

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 23 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดบวกเล็กน้อย และได้รับแรงหนุนต่อในเช้านี้ หลังจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง จากความกังวลของนักลงทุนต่อความเป็นไปได้ของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้เริ่มเห็นแรงขายในดอลลาร์ต่อ และมีแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ รวมทั้งแรงซื้อหนุนจาก SPDR ทำให้ฝั่ง long ยังน่าสนใจ มีลุ้นไปต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.40% โดยปิดที่ 1,209.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,198.28 – 1,214.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,216 เหรียญ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อในเช้านี้หลังจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง จากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และการแถลงข่าวของนายทรัมป์ ที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มาช่วยหนุน โดยปัจจัยเดิมนั้นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ นักลงทุนก็มีความกังวลว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าต่อเนื่องส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวดีขึ้นรวมทั้งมีแรงซื้อจากกองทุน SPDR เข้ามาอีก 1.19 ตัน รวมถือครองเป็น 809.15 ตัน และในช่วงต้นสัปดาห์ติดตามทางฝั่งยุโรป และอังกฤษ เกี่ยวกับเรื่อง Brexit และในปลายสัปดาห์ติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2 % ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะแสดงให้เห็นว่า ประเทศเหล่านี้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากกิจกรรมการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ

• บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า บริษัทพลังงานสหรัฐปรับเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันขึ้นอีก 29 แท่น สู่ 551 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี และจำนวนแท่นขุดเจาะที่ 551 แท่นนี้ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2015

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์ หลังนักลงทุนผิดหวังกับการกล่าวสุนทรพจน์ในการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากขาดการปฏิรูปนโยบายที่เป็นรูปธรรม ขณะที่ปธน.ทรัมป์กลับให้ความสำคัญกับนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" แต่ก็ขาดข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจง

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.80 ดอลลาร์ สู่ 1,209.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลงจากจุดสูงสุดของวัน หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ทำพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• คำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษ

 

• Strategy : ฝั่ง long ยังได้เปรียบโดยผู้มีสถานะ long แนะนำถือต่อ ถ้าไม่มี long เมื่อย่อตัว หรือ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

รอให้มุมมองนักลงทุนต่างชาติชัดเจน

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดช่วงวันศุกร์ทั้ง SET index และสัญญาฯ S50H17 ซึ่งเปิดตลาดในวันศุกร์บริเวณ 964.00 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 972.90 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 971.90 จุด รูปแบบการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะเดียวกับ SET index ที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,566.34 จุด ก่อนย่อตัวปิดตลาดที่ 1,562.99 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 56,408.56 ล้านบาท อยู่ในระดับหนาแน่นปานกลาง เป็นแรงซื้อเข้าในหุ้นใหญ่กลุ่มธนาคารเเละพลังงานเป็นหลัก ด้วยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ (+3,737.50 ล้านบาท) เเละนักลงทุนสถาบัน (+176.60 ล้านบาท) สวนทางกับแรงขายของนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ (-3,554.56 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-359.54 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าสำหรับการซื้อขายในวันนี้อาจมีความผันผวนสูงรวมทั้งให้พิจารณาสัญญาณของนักลงทุนต่างชาติที่เปิดสถานะขายสุทธิ (Short) ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 (-2,071 สัญญา) ซึ่งมีความขัดแย้งกับการเข้าซื้อสุทธิในดัชนี SET index ที่มีมูลค่าการซื้อขายสะสมของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติตั้งเเต่ 1 ม.ค.60 ทรงตัวอยู่บริเวณ 8,134.63 ล้านบาท (+/- 1,500 ล้านบาท) และอาจมีความผันผวนต่อเนื่องมาจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงสัปดาห์ก่อนพอสมควรแม้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับแนวนโยบายเศรษฐกิจฯ ไม่มากก็ตาม แต่ภาพรวมยังคงตอกย้ำจุดยืนเดิมที่จะดำเนินนโยบายโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศสหรัฐฯ เป็นสำคัญ (America First ), ความเป็นชาตินิยมและการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดฯ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กลุ่มนักการทูตประเทศตต่างๆ ที่ให้ความเห็นว่าเเนวนโยบายดังกล่าวอาจสร้างความไม่สมดุลให้โลกอีกครั้งทั้งในมิติของเศรษฐกิจการค้าเเละความมั่นคงทั้งภายในและระหว่างประเทศฯ รวมทั้งยังปลุกความ “ฝันของอเมริกัน (American dream)” เพื่อสร้างความหวังและหลอมรวมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สะท้อนความเป็นชาตินิยมเหมือนที่เคยทำเมื่อช่วงก่อสร้างประเทศให้เป็นปึกเเผ่นอีกด้วย

 

• แนะนำ : Wait & See, ลดสถานะการลงทุนรอให้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่ชัดเจนต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องตั้งเเต่ต้นเดือน ม.ค. (USD index = 100.74 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงการคลังเล็งสรุปลดภาษีสองเท่าเสนอต่อคณะรัฐมนตรี : กระทรวงกระคลังจะหารือร่วมกับ สศค. เร่งสรุปมาตรการลดหย่อนภาษีสองเท่าเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนก่อนเสนอครม.พิจารณาภายในเดือน ม.ค.นี้ เบื้องต้นจะเสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า เอกชนต้องลงทุนใช้จ่ายจริงในปีนี้มากกว่าการลงทุนปีที่ผ่านมาจึงนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สองเท่าได้

- กรมสรรพสามิตคาด “ก.ม.ใหม่” บังคับใช้ 1 ส.ค. : อธิบดีกรมสรรพสามิตคาดกฎหมายใหม่สรรพสามิตบังคับใช้ 1 ส.ค. ขณะนี้เร่งปรับปรุงกฎระเบียบรองรับ ระบุแม้ฐานคำนวณภาษีเปลี่ยนเป็นราคาขายปลีกไม่กระทบ "ผู้ประกอบการ-ผู้บริโภค" เพราะต้องปรับภาษีจัดเก็บลดลง

- “ก.ล.ต.” หนุนใช้ฟินเทคเอื้อลูกค้าได้รับบริการดีขึ้น : "ก.ล.ต." หวังเอื้อประโยชน์ลูกค้า ได้รับ "บริการผลิตภัณฑ์" คุณภาพ พร้อมแก้ปัญหาพนักงานไม่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้

- (BCPH17) BCP ขยายธุรกิจลิเทียม ส่งบริษัทย่อยซื้อหุ้น LAC : BCP เดินหน้าขยายธุรกิจลิเทียมล่าสุดบริษัทย่อย BCPI ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้นใน LAC ที่ดำเนินโครงการเหมืองลิเทียมในอาร์เจนตินาและสหรัฐฯ แจงการลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,209.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,209.33 – 1,219.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยจากสัปดาห์ก่อนนายทรัมป์ยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนต่อนโยบายต่างๆ ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ในปลายสัปดาห์และเช้าวันนี้ราคาทองทำได้ไปทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง และราคาก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรลงมาหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มดีดกลับได้บริเวณ 100 จุด ทำให้ราคามีโอกาสที่จะพักฐานได้หากขาดปัจจัยสนับสนุนในช่วงสั้น โดยในคืนนี้ไม่มัตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ทำให้คาดว่าราคาทองในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบมากกว่าที่จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นจีนปิดเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ แต่ลดช่วงบวกในช่วงเช้าออกไปบ้างท่ามกลางปริมาณซื้อขายเบาบาง ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการถือสถานะการลงทุนใหม่ก่อนวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

- ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์ หลังนักลงทุนผิดหวังกับการกล่าวสุนทรพจน์ในการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากขาดการปฏิรูปนโยบายที่เป็นรูปธรรม ขณะที่ปธน.ทรัมป์กลับให้ความสำคัญกับนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" แต่ก็ขาดข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจง

- แหล่งข่าวกล่าวว่า ธนาคารมอร์แกน สแตนเลย์และซิตี้กรุ๊ปของสหรัฐได้กำหนดตำแหน่งงานหลายตำแหน่งที่จำเป็นต้องโยกย้ายออกจากอังกฤษ หลังจากอังกฤษถอนตัวอออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit

- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า เขาต้องการจะชี้แจงต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรื่องแรงสนับสนุนจากบริษัทญี่ปุ่นที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และต้องการให้ปธน.ทรัมป์เข้าใจในเรื่องนี้

- รัฐมนตรีพลังงานจากหลายประเทศกล่าวเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้เริ่มต้นปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้ข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด และเพื่อพยุงราคาน้ำมัน

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวในวันอาทิตย์ว่า เขาวางแผนจะหารือในเร็วๆนี้กับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโกเพื่อเริ่มต้นการเจรจาต่อรองใหม่ เกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา)

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางยุโรป (มาริโอ้ ดรากี้)

- คำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกสหภาพของอังกฤษในวันที่ 24 ม.ค. นี้

- ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ฝั่ง long ทยอยปิดทำกำไร เปลี่ยนมาเป็น trading ในกรอบ หลังจากค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสดีดกลับบริเวณ 100 จุด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 24 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ที่บริเวณ 99.90 จุด ทำให้ราคาทองขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,220 เหรียญได้อีกครั้ง และในวันนี้ติดตามคำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษในยูโรโซซึ่งคาดว่าตลาดรับรู้ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน ทำให้ทางเราคาดว่าตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ จึงให้น้ำหนักการแกว่งตัวในกรอบมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อแรงๆ ต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.82 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.65% โดยปิดที่ 1,217.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,209.17 – 1,219.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,217 เหรียญ ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 7 สัปดาห์ โดยทำจุดต่ำสุดที่ 99.90 จุด โดยปัจจัยหลักคือความกังวลนโยบายของนายทรัมป์ ว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ และในวันนี้ติดตาม คำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษในยูโรโซน ซึ่งคาดว่าตลาดได้รับรู้ไปแล้วพอสมควรในสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับกาแนวทางการออกจากยูโรโซนของอังกฤษทำให้ภาพรวมราคาทองคำได้ปรับตัวมาทดสอบจุดสูงสุดในระยะสั้นอีกครั้ง บริเวณ 1,220 เหรียญ ซึ่งคาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบหากยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดใหม่ได้ ผนวกกับตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ ในช่วงนี้ ทางเราจึงให้น้ำหนักแกว่งตัวในกรอบมากกว่า

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงเกือบ 1% ในวันจันทร์ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐได้บดบังข่าวที่ว่าโอเปกและผู้ผลิตนอกโอเปกจะบรรลุเป้าหมายในการปรับลดการผลิต

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, การแถลงสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายปกป้องการค้าและการแสดงความเห็นที่ไม่พอใจในทวิตเตอร์

• เยนซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนในวันจันทร์ โดยความวิตกเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• คำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษ

 

• Strategy : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout สำหรับนักลงทุนระยะกลางรอ long เมื่อย่อตัว

Smart Stock

Today Strategy:

แกว่งในกรอบรอปัจจัยหนุน

เมื่อวานนี้ สัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดในแดนบวกที่ 973.40 จุด แกว่งตัวจำกัดในกรอบแคบในทิศทางแนวโน้มขาลงตลอดวันก่อนมีเเรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดเป็นแรงหนุนให้สัญญาฯ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 975.90 จุด ก่อนย่อตัวปิดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 974.60 จุด รูปแบบการเคลื่อนไหวโดยรวมผันผวนมากกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,570.79 จุด เเกว่งตัวในกรอบเเคบเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค มีมูลค่าการซื้อขายเบาบางที่ 44,710.25 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อเข้ามาในกลุ่มสื่อสารเเละกลุ่มธนาคารเป็นหลัก ตามด้วยกลุ่มพลังงานรองลงมาตามลำดับ ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาทที่เเข็งค่าสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง (USD index = 100.16 จุด) หลังถ้อยเเถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในสัปดาห์ก่อนยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้เท่าที่ควร ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นสำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะที่เมื่อวานนี้ยังคงมีเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ -262.88 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะขายสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 -3,458 สัญญา ค่อนข้างตอกย้ำมุมมองลบระยะสั้นต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยพอสมควร

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคา, รอปัจจัยใหม่

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าหลังได้รับประโยชน์จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

 

ข่าวในประเทศ

- กลุ่มธนาคารดันตลาดหุ้นบวกหลังประกาศกำไรไตรมาส 4 ดีเกินคาด : การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นโลกหนุนดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวตั้งแต่เปิดตลาด นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารหลังผลการดำเนินงานกำไรสุทธิรวมของธนาคาร 9 แห่งในไตรมาส 4 ปี 2559 เพิ่มขึ้น 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 1.5% จากไตรมาส 3 ปี 2559

- ธุรกิจตั้งใหม่เพิ่มขึ้นสอดรับเศรษฐกิจฟื้นตัวมองปีหน้าโตเพิ่มอีก 3% : ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ปี 59 ขยับ 7% หรือจำนวน 64,288 ราย ตอกย้ำเศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว ประเมินปีหน้าโต 3% ปัจจัยการลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยวหนุน

- (SCBH17) ไทยพาณิชย์ออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ : ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศอันดับเครดิตที่คาดว่าจะให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน สกุลเงินเหรียญสหรัฐของ SCB ที่ “BBB+(EXP)” (“BBB+”/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดยหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิที่จะออกเสนอขายดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 5.5 ปี และจะมีมูลค่ารวมไม่เกิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐโดยจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคารและเพื่อการระดมเงินทุน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...