ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 24 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มแกว่งตัวออกข้าง

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,216.90 USD/toz แกว่งตัวในแนวโน้มขาลงระหว่างวัน ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในวันบริเวณ 1,211.92 USD/toz อย่างไรก็ตามแม้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในวันแต่ภาพรวมราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่มั่นใจในแนวนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์บริเวณ 99.92 จุด เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นให้ทองคำสามารถทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าทองคำอาจเริ่มแกว่งตัวออกข้างพักฐานหลังปรับตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค.59 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ในตลาดยังคงแกว่งตัวผันผวนไร้ทิศทางและยังไม่มีความชัดเจน ทั้งราคาน้ำมันดิบ,ค่าเงิน รวมทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับเป็นแหล่งพักเงินทุน ดังนั้นต้องติดตามปัจจัยดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาจมีแรงขายทองคำหลังปัจจัยดังกล่าวมีความชัดเจน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมครั้งแรก, ยอดขายบ้านที่สร้างเสร็จแล้วและดัชนีภาคการผลิตเขตริชมอนต์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่จุดต่ำที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ : ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์โดยลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์และแถลงสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายปกป้องการค้า ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินลดลง 0.6% สู่ระดับ 99.92 จุด

- ราคาน้ำมันร่วงหลังการขุดเจาะในสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัว : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงเกือบ 1% ในวันจันทร์ ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ได้บดบังข่าวที่ว่าโอเปกและผู้ผลิตนอกโอเปกจะบรรลุเป้าหมายในการปรับลดการผลิต

- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความวิตกเกี่ยวกับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในรอบสองเดือนในวันจันทร์ โดยความวิตกเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้นักลงทุน พากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยขณะที่ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วงลง

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงในวันจันทร์ โดยผลตอบแทนร่วงลงมากที่สุดในวันเดียวในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ขณะที่ความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับท่าทีที่แข็งกร้าวต่อการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กระตุ้นแรงซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

- ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน : ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนที่ 6.8331 ต่อดอลลาร์ก่อนเปิดตลาดวันนี้ ซึ่งเป็นระดับแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 0.0241 หยวนหรือเกือบ 0.4% จากค่ากลางวานนี้ที่ 6.8572

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- วันนี้ติดตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (16.30 น.ตามเวลาไทย)

- GDP สหรัฐฯ (27 ม.ค.60)

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ, แม้ฝั่ง Short ได้เปรียบในวันแต่ Risk Reward Ratio อาจยังไม่คุ้มค่า

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 25 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรหลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาทดสอบบริเวณ 1,220 เหรียญอีกครั้ง โดยจากปัจจัยหลักคือค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ หลังจากความชัดเจนของนโยบายของนายทรัมป์ได้มีการเริ่มต้นบ้างแล้ว ทำให้แรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มกลับมาได้ต่อ และ SPDR กลับมาขายทองติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ทองขาดปัจจัยช่วงสั้น จึงให้น้ำหนักการแกว่งในกรอบมากขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.71% โดยปิดที่ 1,208.74 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,205.95 – 1,219.59 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,208 เหรียญ ราคาทองทดสอบจุดสูงสุดบริเวณใกล้เคียง 1,220 เหรียญอีกครั้ง แต่เริ่มเผชิญแรงขายทำกำไร หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ได้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเห็นความชัดเจนของนโยบายของนายทรัมป์มากขึ้น หลังจากมีการลงนามคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน และเตรียมสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ภายในประเทศมากขึ้น ผนวกกับทางอังกฤษที่คำสั่งศาลฎีกาไม่สามารถให้อังกฤษเริ่มต้นการออกจากยุโรปได้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีแรงซื้อต่อทั้งฝั่งสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นต่อได้ละฝั่งยุโรปก็ปิดบวกเช่นกัน อีกทั้งกองทุน SPDR มีการขายทองคำออกมาอีก 2.96 ตัน ทำให้รวมถือทอง 804.11 ตัน จึงคาดว่าราคาทองเริ่มมีแรงกดดันมากขึ้นอีกครั้ง และให้น้ำหนักแกว่งในกรอบรอปัจจัยใหม่ๆ ในช่วงนี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวขึ้นในวันอังคารก่อนการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐในวันพุธนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก แต่การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและยูโรในวันอังคาร หลังร่วงลงหลายวันจากการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งยืนยันจะดำเนินนโยบายปกป้องการค้า ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดีกว่าของยุโรปหรือญี่ปุ่น

• ปอนด์อ่อนลง 0.2% สู่ 1.2503 ดอลลาร์ หลังศาลสูงของอังกฤษตัดสินว่า รัฐบาลอังกฤษจำเป็นต้องขออนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษก่อนดำเนินการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลงเกือบ 1% ในวันอังคารโดยดิ่งลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในสัปดาห์นี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ลดสถานะฝั่ง long ในระยะสั้น เปลี่ยนมาซื้อขายในกรอบและรอความชัดเจนอีกครั้ง

Smart Stock

Today Strategy:

แกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น

สัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในแดนบวกอีกวันที่ 974.70 จุด เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นตลอดวัน ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 982.70 จุดก่อนปิดตลาดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 982.50 จุด มีแรงซื้อเข้ามาในท้ายตลาดมากกว่า SET index ที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่จำกัดมากกว่า โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,578.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมที่ 62,246.32 ล้านบาท ถือว่ามากกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยอยู่พอสมควร โดยเป็นเเรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ (+876.02 ล้านบาท) เเละนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ (+370.22 ล้านบาท) มีมุมมองที่สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติ (-830.99 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-415.25 ล้านบาท) ประเด็นระยะสั้นเรื่องกรณีศาลสูงอังกฤษตัดสินเรื่องการทำ Brexit ของอังกฤษเมื่อวานนี้ยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดทิศทางการลงทุนของนักลงทุน สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยมองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา ส่งผลให้อาจมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนและยังไร้ทิศทางเป็นหลัก

 

• แนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวัน, เปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว, ระวังแรงขายทำกำไร

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• เงินทุนของนักลงทุนต่างชาติหลังศาลสูงอังกฤษตัดสินกรณี Brexit เมื่อวานนี้

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ล.ต. ล้อมกรอบ 'ตั๋วบีอี' ขายได้เฉพาะการขายแบบเจาะจง (Private Placement) : ก.ล.ต.ตีกรอบคนซื้อตั๋วยีอี เตรียมระดมความเห็นทุกฝ่ายภายใน 2 สัปดาห์ เล็งกำหนดให้ขายกับนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่รู้จักบริษัทดีและต้องออกตราสารหนี้ที่เป็นหุ้นกู้เท่านั้น โดยยังประเมินไม่ไดว่าจะมีบริษัทผิดนัดชำระอีกเท่าไหร่

- ครม. ไฟเขียวตั้งนิติบุคคลคนเดียว กระตุ้น 'เอสเอ็มอี-สตาร์ตอัพ' ตั้งไข่ : ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศ เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.เดิมที่ออกตั้งแต่ปี 2536 ให้มีความทันสมัยมากขึ้นและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยขยายการค้าการลงทุนไปยังต่างประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น

- (AP) APเร่งเครื่องปั๊มรายได้พีค ทุ่มงบ 8 พันล้านซื้อที่ดินใหม่ : ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% “กางแผนยุทธศาสตร์ จับมือพันธมิตรเร่งพัฒนาโครงการใหม่โกยเงิน หวังกวาดยอดขายกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งงบซื้อที่ดินไว้กว่า 8 พันล้านบาท ยอมรับปีนี้หาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในระดับราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ยากขึ้น

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 25 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มลดลง

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,208.67 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,200.64 – 1,209.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาแกว่งในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ หลังจากราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณใกล้เคียง 1,220 เหรียญ ก่อนจะเริ่มเผชิญแรงขายทำกำไร ผนวกกับค่าเงินดอลลาร์ที่รีบาวน์กลับบริเวณ 100 จุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมันของนโยบายของนายทรัมป์มากขึ้น จากการที่นายทรัมป์เริ่มดำเนินการลงนามในการสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL และ Dakota Access เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน รวมทั้งทองคำยังขาดแรงซื้อที่ชัดเจน โดยจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR ได้กลับเข้าซื้อเพียง 2 ครั้งหลังจากเลือกตั้งประธานาธิบดี ก่อนที่เริ่มมีแรงขายเข้ามา 2 วันทำการติดต่อกัน รวมลดลงกว่า 5.04 ตัน รวมถือครอง 804.11 ตัน ทำให้ทองคำมีโอกาสพักฐานได้หากเงินดอลลาร์สามารถดีดกลับได้ แน่อย่างไรก็ตามทางเรายังให้น้ำหนักราคาทองแกว่งในกรอบ 1,200 -1,220 เหรียญไปก่อน เพราะช่วงนี้ราคาทองยังขาดปัจจัยที่จะมาสร้างความผันผวนในช่วงสั้น

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ความพยายามของสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลงภาษีธุรกิจที่ปรับตามพรมแดน (BTA) อาจจะทำให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งจะทำให้เกิดการผลิตในประเทศจำนวนมาก

- เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งที่ทำให้เกิดความราบรื่นสำหรับแนวทางการสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL และ Dakota Access เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และปรับลดการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสมัยของอดีตปธน.โอบามา

- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ ยอดส่งออกเมื่อเทียบรายปีของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนในเดือนธ.ค. นำโดยการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ทั่วโลกและหนุนแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองลดลงเกินคาด 2.8% สู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มดีดกลับได้บริเวณ 100 จุด หลังนายทรัมป์เริ่มมีความชัดเจนทางด้านนโยบายต่างๆ มากขึ้น

- ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบ และ follow เมื่อ breakout

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเม็ดเงินเริ่มไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ และไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดยจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล ทะลุเหนือบริเวณ 20,000 จุด ทำให้ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยหนุนทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ และให้น้ำหนักซึมลงมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.70% โดยปิดที่ 1,200.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,192.74 – 1,209.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,199 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาล ทะลุ 20,000 จุด ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะยังปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่สามารถช่วยหนุนราคาทองได้ในช่วงนี้ รวมทั้งกองทุน SPDR ขายทองคำต่อเนื่อง 3 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ขายทองคำอีก 5.04 ตัน รวมถือทองคำ 799.07 ตัน จึงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะนี้ได้ ในวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ และคงน้ำหนักให้ราคาทองแกว่งตัวในกรอบ และเริ่มมีแนวโน้มซึมลงมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงน้อยกว่า 1% ในวันพุธหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวในช่วงแคบๆ โดยราคาได้แรงหนุนจากการปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก แต่ถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์

• ปอนด์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.26 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์จากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยรวมในวันพุธ แม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 ได้เป็นครั้งแรก

• ราคาทองที่ตลาดสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งในวันพุธขณะที่ความหวังครั้งใหม่ที่ว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์จะดำเนินนโยบายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ได้ช่วยหนุนราคาหุ้น และลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดการ(All time new high)

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบที่กว้างขึ้น ระยะกลางอาจรอสะสมเมื่อปรับลดลงแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงขาย

ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยสัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเมื่อวานนี้บริเวณ 983.70 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวันโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 989.50 จุด และปิดตลาดที่ 988.50 จุด (ชําระราคาประจำวันที่ 988.70 จุด) รูปแบบการเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าและมีแรงขายออกมาช่วงท้ายตลาด ก่อนที่จะปิดตลาดบริเวณ 1,584.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวมหนาแน่นถึง 66,820.55 ล้านบาท แต่ที่น่าสังเกตคือ เป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเป็นหลักซึ่งซื้อสุทธิ +2,324.55 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งขายสุทธิเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ขายสุทธิกว่า -1,553.78 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดมูลค่าการซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างประเทศตั้งเเต่ต้นเดือนมกราคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับซื้อสุทธิ +5,486.99 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่าภาพรวมการลงทุนทั่วโลกและในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเองยังไม่มีความชัดเจนทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย แม้ปรับขึ้นก็ยังถือว่ายังขาดปัจจัยรองรับ เป็นแรงซื้อจากความคาดหวังเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าออกของนักลงทุนต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวผันผวนและเปราะบางได้

 

• แนะนำ : Wait & See ลดความเสี่ยง, ระวังแรงขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ราคาน้ำมันดิบ WTI (NYMEX) ปรับตัวขึ้น 53.04 USD/bbl เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานในประเทศ

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงการคลังจ่อปรับประมาณการณ์จีดีพี, ปัจจัยบวกเพียบ : สศค.เปิดเผยว่า วันที่ 30 ม.ค.นี้ จะปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 60 เพิ่มขึ้นจากที่คาดไว้ 3.4% เนื่องจากมีหลายปัจจัยบวกเพิ่มเข้ามา ได้แก่ การทำงบประมาณเพิ่มกลางปี 60 วงเงิน 190,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 160,000 ล้านบาท คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในปีนี้ 65-70% ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้น

- นักวิชาการจี้รัฐหนุนผู้ส่งออกหน้าใหม่ : นายทศพล อภัยทาน นักวิจัยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ้งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงงานวิจัยเรื่อง “จุลทรรศน์ภาคส่งออกไทย : ส่งออกยุคผลัดใบ เลือดใหม่แรงขับเคลื่อน” ว่าภาคการส่งออกของไทยอยู่ในยุคผลัดใบ โดยผู้ส่งออกหน้าใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น มีการส่งออกในตลาดใหม่และผลิตสินค้าใหม่มากขึ้น ในขณะที่ผู้ส่งออกหน้าเก่าหดตัวไปมากและอาจเผชิญกับการถดถอยของการส่งออกสินค้าเดิมในตลาดเดิม

- (TPIPLM17) ‘โพลีนเพาเวอร์’คาดเข้าเทรด มี.ค.60 นี้ : ‘ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์’ คาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือน มี.ค.นี้ ระบุเลื่อนซีโอดีโรงไฟฟ้าขยะ 70 เมกะวัตต์ เป็นไตรมาส 4 ไม่กระทบรายได้ เดินหน้ายื่นอีโอเอภายในเดือน มี.ค. ส่งผลจ่ายไฟฟ้า 290 เมกะวัตต์ ปีนี้ตามแผน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

มีแรงขายกดดัน

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าบริเวณ 1,200.13 USD/toz ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีนัยสำคัญต่อจิตวิทยาของนักลงทุน ก่อนที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลงตลอดวัน ซึ่งเป็นแรงขายต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าการปรับตัวลงของทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 20,000 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับแรงกดดันของกองทุน SPDR ซึ่งขายทองคำออกสุทธิ 5.04 ตัน รวมถือครองทองคำสุทธิที่ 799.07 ตัน เป็นสัญญาณที่ไม่เป็นบวกต่อราคาทองคำเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าทองคำยังอาจได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ตามฤดูกาล (วันตรุษจีน) ที่อาจเป็นปัจจัยบวกที่สามารถพยุงราคาทองคำไว้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ระมัดระวังความผันผวนจากการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศหลายดัชนีได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้า, สินค้าคงคลังภาคการค้า, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ, ยอดขายบ้านใหม่ฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในวันพุธโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีหุ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี เท่ากับ 3.1058% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เท่ากับ 2.5209%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ : ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ในขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.26 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์จากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ ดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยรวมในวันพุธแม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 ได้เป็นครั้งแรก

- ราคาน้ำมันดิบปิดลบหลังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงน้อยกว่า 1% ในวันพุธหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวในกรอบแคบ โดยราคาได้รับแรงหนุนจากการปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก แต่ถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดลบ 0.43 ดอลลาร์ สู่ระดับ 52.75 USD/bbl

- ราคาทองคำร่วงสวนทางกับตลาดหุ้นปรับพุ่งรับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ : ราคาทองที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 10 วัน ในวันพุธ ขณะที่ความหวังครั้งใหม่ที่ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์” จะดำเนินนโยบายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ได้ช่วยหนุนราคาหุ้นและลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน ก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดร่วงลง 13.00 ดอลลาร์ ที่ 1,197.80 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- GDP สหรัฐฯ (27 ม.ค.)

- ปฏิกิริยาของนักลงทุนหลังดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 20,000 จุด

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, ระวังความผันผวนจากรายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ภาพรวมราคาทองคำยังคงโดนกดดันจากเงินทุนที่กลับเข้าสู่ดัชนีตลาดหุ้น หลังนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวแข็งค่าเพิ่มขึ้นหลังอ่อนค่าต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคม ฝ่ายวิจัยคาดว่าปัจจัยลบสำหรับทองคำยังคงมีอยู่ แต่ยังไม่มากอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้ราคาทองคำผันผวนรุนแรง รวมทั้งการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงยังเป็นการช่วยให้ตลาดสามารถปรับตัวเข้าสู่จุดดุลยภาพได้หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องราว 1 เดือน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ได้รับแรงกดดันจากเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมทั้งตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 20,000 จุด และสามารถเคลื่อนไหวเหนือระดับ 20,000 จุด ติดต่อกันได้เป็นวันที่สอง รวมทั้งความชัดเจนของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เริ่มลงนามตามแนวนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อย่างเด็ดขาด สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่า โดยปัจจัยเหล่านี้กดดันให้ทองคำปรับตัวลดลงต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในขณะที่มุมมองของนักลงทุนสถาบันอย่าง SPDR ยังคงสถานะถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 799.07 ตัน

 

Exclusive News

• บอนด์ยิลด์ร่วง : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงจากระดับสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์หลังจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 7 ปี มูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนหนาแน่น ซึ่งการประมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการประมูลพันธบัตรวงเงิน 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้

• ดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ : ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์ก็ตาม

• ราคาน้ำมันปิดพุ่ง 2% ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2% ในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้การปรับตัวขึ้นได้ถูกสกัดจากสต็อกน้ำมันปริมาณมากในสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตพยายามปรับลดการผลิตลง

• ทองร่วงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ : ราคาทองที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดีขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้น ทะยานขึ้น แต่การคาดการณ์ที่ว่าการทะยานขึ้นของดอลลาร์อาจจะยุติลงนั้นได้ช่วยพยุงราคาทอง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน

Smart Stock

Today Strategy:

ปรับขึ้นตามดาวโจนส์

สัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดเกิดช่วงว่างของราคา (Gap) บริเวณ 994.70 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกในลักษณะแกว่งตัวออกข้างก่อนปิดตลาดที่ 997.20 จุด ภาพรวมเคลื่อนไหวแข็งแกร่งว่า SET index ซึ่งเปิดตลาดบวกและปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 จุด มีแรงขายกดดันให้ดัชนีย่อตัวลงต่อเนื่องตลอดวัน ก่อนที่จะลงมาปิดบวก +6.71 จุด ที่ 1,591 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 71,571.82 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์หนาแน่นมากสำหรับ SET index โดยเป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน (+765.34 ล้านบาท) และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (+3,203.04 ล้านบาท) ที่เข้าซื้อในกลุ่มพลังงาน, สื่อสารเเละธนาคารตามลำดับ ซึ่งถือว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยไดัรับอานิสงค์จาก Sentiment ที่สดใสหลังดัชนีดาวโจนส์สหรัฐฯ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 20,000 จุด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นตาม สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าอาจมีแรงซื้อเข้ามาใน SET index และอาจขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 จุดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามต้องระวังแรงขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวขึ้นรุนเเรงติดต่อกัน รวมทั้งสัญญาณจากนักลงทุนต่างชาติซึ่งมีสถานะ Short สุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 -2,083 สัญญา

 

• แนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวันแต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรประกอบการตัดสินใจเปิดสถานะ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 53.78 USD/bbl

- Sentiment ตลาดหลังดาวโจนส์ปรับขึ้นเหนือ 20,000 จุด / SET index ทดสอบ 1,600 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- โบรกฯ ตื่นคุม บจ.ออกตั๋วบีอี เรียกที่ดิน-เช็คเงินสดค้ำ : บริษัทหลักทรัพย์และสถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มเข้มงวดการพิจารณาออกตั๋วบีอีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น โดยเรียกหลักทรัพย์ในการค้ำประกันมากกว่ามูลค่าตั๋วบีอีที่ออก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนผู้ที่ถือตั๋วบีอี หลังจากที่ผ่านมาปัญหาการผิดนัดชำระหนี้

- อานิสงส์เมกะโปรเจคท์รัฐ เบี้ยประกันฯ 60 พุ่ง 9 แสนล้าน. : คปภ. เปิดเผยว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมในปี 60 คาดยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในฝั่งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย คาดการณ์ว่าทั้งระบบจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 8-9 เสนล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลมูลค่าหลายแสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าหลายสาย รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะต้องมีการทำประกันสำหรับการก่อสร้าง

- (PTTEPH17) PTTEP รักษาระดับยอดขาย กวาดกำไรทะลุ 1.2 หมื่นล้าน สบช่องเคาะจ่ายปันผลงาม 3.25บาท : PTTEP รับทรัพย์กระเป๋าตุงกวาดกำไรปี 2559 ทะยานกว่า 1.28 หมื่นล้านบาท บอส “สมพร ว่องวุฒิพรชัย” ชี้ทำผลงานเข้าเป้า ตามแผนรักษาระดับปริมาณการขายที่ 319,521 บาร์เรล สบช่องเคาะจ่ายปันผลงามที่ 3.25 บาทต่อหุ้น เผยแผนปี 2560 ตั้งธงรักษาระดับการขายน้ำมันที่ 3.12 แสนบาร์เรล

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ปรับตัวลงต่อเนื่อง

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าบริเวณ 1,186.05 USD/toz เคลื่อนไหวปรับตัวลดลงตามแนวโน้มระยะสั้น โดยลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,180.73 USD/toz ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ โดยลงไปทำจุดต่ำที่สุดในรอบประมาณ 2 สัปดาห์ หลังนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งตั้งแต่ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการทรัมป์ก็ได้เริ่มนำแนวนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนในการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดมา เหนือระดับ 20,000 จุด รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาแข็งค่าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความคาดหวังว่าเทศกาลตรุษจีนจะสามารถพยุงราคาทองคำไว้ได้ในระดับหนึ่งแต่สมมติฐานดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนในต้องติดตามการประกาศคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดเนื่องจากหากประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำให้ลดลงต่ออย่างมีนัยสำคัญได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ทองคำร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ขณะดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า, ดัชนีหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น : ราคาทองคำที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดีขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นทะยานขึ้น แต่การคาดการณ์ที่ว่าการทะยานขึ้นของดอลลาร์อาจจะยุติลงนั้นได้ช่วยพยุงราคาทองไว้ได้ในระดับหนึ่ง

- ญี่ปุ่นเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ลดลงในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี : ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนี CPI พื้นฐานลดลงในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันและต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลง ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะพิจารณาในการประชุมนโยบายในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายการเงินต่อไป ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นได้ช่วยคลายกังวลให้แก่ธนาคารกลางญี่ปุ่นบ้าง แต่นักการธนาคารกลางหลายคนยังคงระมัดระวังว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอก จะช่วยเร่งให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมาย 2% หรือไม่

- ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปิดบวกเหนือระดับ 20,000 จุด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดีขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังตลาดทะยานขึ้นสองวัน โดยหุ้นคอลคอมม์ถ่วงดัชนี S&P 500 และ Nasdaq หลังเปิดเผยรายได้รายไตรมาสต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 32.40 จุดหรือ 0.16% สู่ระดับ 20,100.91, ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.69 จุดหรือ 0.07% สู่ระดับ 2,296.68 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 1.16 จุดหรือ 0.02% สู่ระดับ 5,655.18

- ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวที่บริเวณระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี : ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในวันพฤหัสบดีโดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ โดยบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันทำข้อตกลงสามหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อบริษัทแอคทีเลียนซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพของสวิตเซอร์แลนด์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ประกาศคาดการณ์ตัวเลข GDP ไตรมาสที่สี่ของสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, ติดตัวคาดการณ์จีดีพีและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดบวกได้เล้กน้อยหลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,180 เหรียญ แต่ก็สามารถดีดกลับได้ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ประกาศออกมาแย่กว่าคาดการ์ และตัวเลขในปี 2016 อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 และในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของเฟด โดยประเด็นสำคัญคืออัตราเร่งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะมีการปรับประมาณการหรือไม่ และตัวเลข PMI รวมทั้งภาคการจ้างงานในปลายสัปดาห์นี้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.23% โดยปิดที่ 1,191.21 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,180.65 – 1,191.67 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,195 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,180 เหรียญ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ดีดกลับหลังจากทำจุดต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดมีการประกาศตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 4/2559 ประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ และรวมทั้งปี 2559 ขยายตัวเพียง 1.6% เป็นอัตราที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนต่อเนื่องในเช้าวันนี้ และในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่ง โดยที่สำคัญคือธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยในครั้งนี้ทางเรายังให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องติดตามมุมมองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะเร่งตัวขึ้นหรือไม่ รวมทั้งตัวเลข PMI และตัวเลขการจ้างงานในช่วงปลายสัปดาห์ ที่มีโอกาสทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนได้ในช่วงปลายสัปดาห์

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวลงในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกับประสิทธิภาพของข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตในโอเปกและนอกโอเปกในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อหนุนราคา

• ดอลลาร์อ่อนลงเล็กน้อย หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีขั้นต้นของสหรัฐขยายตัว 1.9% ในไตรมาส 4/2016 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการที่ 2.2% และเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 1.6% ในปี 2016 ซึ่งเป็นอัตราอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011

• ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ โดยลดช่วงติดลบลงหลังตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง แต่ราคาทองปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกหลังเทรดเดอร์ขายทำกำไรจากการทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองเดือน

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ว่าจะให้น้ำหนักการเร่งตัวของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,180 – 1,200 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มเปราะบาง

สัญญาฯ S50H17 ในวันศุกรที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ผันผวนมาก เปิดตลาดลบบริเวณ 996.50 จุด ก่อนเคลื่อนไหวในแดนลบและปิดตลาดบริเวณ 995.30 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวมีลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,590.80 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 41,666.81 ล้านบาท เป็นแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (-1,055.00 ล้านบาท) และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-73.24 ล้านบาท) ภาพรวมดัชนตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณระดับ 1,590-1,600 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนเหรือเข้าเปิดสถานะการลงทุนของนักลงทุน ทั้งนี้ปัจจัยบวกยังคงเป็นเรื่องของ Sentiment เชิงบวกจากการจุดสูงสุดใหม่ของดัชนีดาวโจนส์เหนือ 20,000 จุด เเละการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ในขณะที่ปัจจัยลบหรือปัจจัยเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ ได้เเก่ ปัจจัยพื้นฐานของดัชนี (ทั้งดัชนีหุ้นไทยและดัชนีหุ้นสหรัฐฯ) ยังคงไม่สอดรับกับมูลค่าดัชนี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิด Downside Risk ที่กว้างขึ้น ฝ่ายวิจัยมองว่าแม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะไม่ได้อยู่ในสภาวะแพงเกินไปเมื่อเทียบกับพื้นฐาน (P/E19.24 เท่า P/BV2.03 เท่า) เเต่ก็ถือว่าไม่ใช่ดัชนีที่ "ถูก" เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยแวดล้อมด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ Upside ของดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างถูกจำกัด ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจระดับมหภาคฝั่งสหรัฐฯ ก็ไม่สดใสมากนักหลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาประกาศคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยเเละภูมิภาคเริ่มเเกว่งตัวในกรอบไร้ทิศทางและมีความเปราะบางสูง รวมทั้งยังคงเป็นการรอคอยปัจจัยบวกภายในประเทศของเเต่ละประเทศ หนุนการปรับขึ้นของดัชนีอีกครั้ง

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ, ระวังความผันผวน, หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงให้ถือเงินสดรอ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ภาพรวมค่าเงินบาทยังคงเเข็งค่าสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.

 

ข่าวในประเทศ

- ธปท.ปัดเข้ม‘สินเชื่อบ้าน’ ดีมานด์นิ่งฉุดยอดปล่อยกู้ : “แบงก์ชาติ” ปฏิเสธธนาคารพาณิชย์ เพิ่มเข้มงวดปล่อยกู้บ้าน ชี้ยอดสินเชื่อลดจากดีมานด์ที่ชะลอตัว ขณะผู้ขอกู้บางส่วนมีหนี้สูงอยู่แล้ว พร้อมประเมินแนวโน้มสินเชื่อแบงก์โตชะลอ เหตุส่วนใหญ่หันมาเน้นลดต้นทุนผ่านเทคโนโลยีการเงิน

- ชงต่อขยายรถไฟฟ้าสีแดง 2.6 หมื่นล้าน การรถไฟฯ ชี้เพิ่ม ความคุ้มค่าเส้นทางเดิม วงเงินลงทุนไม่มาก : การรถไฟฯ เตรียมเสนอส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีแดง “ตลิ่งชัน-ศาลายา” –“รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” วงเงินลงทุน 2.6 หมื่นล้าน คาดเปิดประมูลได้ภายในไตรมาสสี่

- สั่งกรมพัฒนาฯ ปรับบทบาท มุ่งส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ : “สนธิรัตน์” สั่งกรมพัฒนาธุรกิจ ปรับบทบาท มุ่งส่งเสริมภาคบริการหลังพบแนวโน้มขยายตัวสูง 40% ของยอดจดทะเบียน พร้อมวางแผนพัฒนาอีคอมเมิร์ซและขั้นตอนจดทะเบียนเหลือ 4 วัน

- PTT เดินหน้าโครงการใหญ่งานท่อส่งก๊าซ 9.6 หมื่นล้าน เปิดขายซองประกวดราคา ก.พ.นี้ : PTT พร้อมเปิดประมูลงานท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 มูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท ย้ำเปิดประมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 นี้ ยืนยันยังเดินหน้าตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,192.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,188.95 – 1,195.74 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าต่อเนื่องจากคืนวันศุกร์หลังจากตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ปรับตัวออกมาแย่กว่าคาดการณ์ ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลดลงในกรอบแคบๆ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางหลังจากตลาดในฝั่งเอเชียปิดทำการหลายแห่งเนื่องในวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก หากไม่ได้มีตัวเลขออกมาผิดคาดการณ์มาก หรือออกมาใกล้เคียงเดิม ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสแก่วงตัวในกรอบ 1,180 – 1,200 เหรียญต่อ และคาดว่าราคามีโอกาสผันผวนในปลายสัปดาห์นี้เนื่องจากมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์ปรับตัวลงในวันนี้ที่ตลาดเอเชีย โดยร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงจากข้อมูลที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดไว้

- ความวิตกเกี่ยวกับท่าทีต่อนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยุติการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ด้วย ขณะที่การออกคำสั่งห้ามเข้าประเทศชั่วคราวต่อประชาชนที่มาจาก 7 ประเทศมุสลิมได้เพิ่มความไม่แน่ใจอีกชั้น

- สภาพคล่องในเอเชียต่ำกว่าปกติ เนื่องจากตลาดการเงินในฮ่องกง, จีน และสิงคโปร์ปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ในปริมาณที่น้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนม.ค. ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยในหมู่เทรดเดอร์พันธบัตรว่า บีโอเจอาจจะกำลังลดโครงการซื้อพันธบัตรจำนวนมหาศาลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- บริษัทพลังงานของสหรัฐได้เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็นสัปดาห์ที่ 12 ในรอบ 13 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทขุดเจาะน้ำมันฉวยประโยชน์จากข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อลดการผลิตลง ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันยืนเหนือระดับ 50 ดอลลาร์ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น เรื่องนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย

- การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เรื่องอัตราดอกเบี้ย

- การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ เรื่องนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบ และ follow เมื่อ breakout

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 31 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย โดยในช่วงเช้าของเมื่อวานนี้แกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลทางด้านนโยบายของนายทรัมป์ ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ากลับสินทรัพย์ปลอดภัย และค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง และในวันนี้ติดตามการประชุมนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.31% โดยปิดที่ 1,194.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,187.77 – 1,199.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,197 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างวันแกว่งตัวในแดนลบก่อนที่จะได้รับแรงหนุนในช่วงท้ายตลาดหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลของนโยบายของนายทรัมป์ที่ออกคำสั่งห้ามประชาชนจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในท้ายตลาด แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักต้องติดตามคือ การประชุมของเฟดในคืนวันพุธ และในวันนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น เรื่องการใช้นโยบายทางการเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่น ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวลงในวันจันทร์ ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐทำให้ตลาดวิตกว่า ข้อตกลงลดการผลิตของกลุ่มโอเปกอาจจะไม่สามารถลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดโลกได้ตามที่คาดหวัง

• ข้อมูลจาก Baker Hughes บ่งชี้ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2015 โดยผู้ขุดเจาะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่อยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ดอลลาร์ร่วงลงมากกว่า 1% เมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์หลังจากมีข่าวเชิงลบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการอพยพเข้าประเทศ

• ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งห้ามประชาชนจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว และความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งในยุโรป ได้ช่วยหนุนราคาทอง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ว่าจะให้น้ำหนักการเร่งตัวของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading ในกรอบโดยเน้นฝั่ง long หรือ รอ long หากราคาทะลุ 1,200 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนจากปัจจัยภายนอก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยคลายความร้อนเเรงในการปรับขึ้น แกว่งตัวในกรอบราคาที่ไม่กว้างมากนักโดยสัญญาฯ S50H17 เคลื่อนไหวผันผวนในวันเปิดตลาดภาคเช้าเมื่อวานนี้บริเวณ 994.70 จุด ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 989.70 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 993.10 ภาพรวมการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,590.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 41,326.71 ล้านบาท ถือว่าเบาบางตามภูมิภาคซึ่งปิดตลาดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน (ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปภาพรวมปิดลบ) กลุ่มพลังงานโดดเด่นนำตลาด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 11.13 ล้านบาท สะท้อนมุมมองการเริ่มปรับลดน้ำหนักการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นไปอย่างรวดเร็วเเละคาดการณ์ได้ยากลำบาก สร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุนทั่วโลกในการเคลื่อนย้ายเงินทุนพอสมควร ซึ่งการดำเนินนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทุกภาคส่วนทั้ง บริษัทจดทะเบียนที่ต้องปรับกลยุทธ์, นักลงทุนรายย่อย, ผู้ประกอบการที่มีต้นทุนของเงินทุนและภาระอัตราดอกเบี้ย สำหรับการลงทุนในวันนี้ (และสัปดาห์นี้) ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนในกรอบและยังคงมีความเปราะบาง โดยจะต้องติดตามการประชุมและรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่นและอังกฤษ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องระวังแรงขายทำไรบริเวณระดับราคาที่มีนัยสำคัญ SET index 1,590-1,600 จุด

 

• แนะนำ : Wait & See ลดความเสี่ยงจากความไม่ชัดเจนในตลาด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ติดตามการประชุมและรายงานของธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลักตลอดสัปดาห์ (FED, ECB, BOE, BOJ )

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงอุตฯ เดินหน้าช่วย SME ตั้งเป้า 5,000 ราย เม.ย.นี้ : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐได้ผ่านการพิจารณาของ สนช. แล้วและคาดว่าภายในเดือน เม.ย.นี้ จะสามารถเดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ในรูปแบบการปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและรูปแบบการร่วมลงทุน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะพิจารณารายละเอียด ความเหมาะสมของการใช้เงินช่วยเหลือเอสเอ็มอีแต่ละรายอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างน้อย 5,000 ราย กำหนดวงเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 40 ล้านบาท

- คลังชี้งบกลางปีดันจีดีพีโต 3.6% : สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจปี 60 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.4% เป็น 3.6% โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 3.1-4.1% ได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากการทำงบประมาณกลางปี 60 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีเงินลงทุนเพิ่ม 1.6 แสนล้านบาทและจะเบิกจ่ายได้อย่างน้อย 65-70% ในปีนี้

- (KKPH17) เพิ่มพอร์ต 2 หมื่นล้านใน 3 ปี ‘เคเคพี’ บุกลงทุนต่างประเทศ : เกียรตินาคินตั้งเป้าเพิ่มเงินลงทุน เท่าตัวเป็น 2 หมื่นล้านภายใน 3 ปี รุกหาผลตอบแทนหุ้นต่างประเทศ เล็งเข้าตลาดอินโดนีเซียปีนี้ ชี้เป็นตลาดใหญ่เศรษฐกิจฟื้น หวังปล่อยสินเชื่อโตเกิน 5% จากสินเชื่อบุคคล เอสเอ็มอีและอสังหาริมทรัพย์ ส่วนรายใหญ่ยังชะลอ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามเฟดคืนนี้

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,210.23 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,206.30 – 1,213.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งทรงตัวในกรอบแคบๆ หลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ในเมื่อคืนนี้ จากการที่รัฐบาลของนายทรัมป์ได้กล่าวหาว่าเยอรมนี ญี่ปุ่นและจีนมีการแทรกแซงค่าเงินให้อ่อนค่าเพื่อให้บริษัทในสหรัฐฯ เสียเปรียบทางด้านการแข่งขัน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลุดบริเวณ 100 จุด แต่อย่างไรก็ตามคืนนี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก รวมทั้งติดตามการประชุมของเฟดเรื่องมุมมองเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือ มุมมองของนางเจนเนต เยลเลน ต่อรัฐบาลชุดใหม่ และภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร หากมีอัตราเร่งมากขึ้นก็จะกดดันราคาทอง แต่ในทางตรงกันข้ามหากมีท่าทีที่ชะลอลงก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองได้เช่นกัน

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของโอเปกในปรับลดการผลิตลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าระดับสูงได้วิพากษ์วิจารณ์เยอรมนี, ญี่ปุ่นและจีน โดยระบุว่า คู่ค้าที่สำคัญของสหรัฐทั้ง 3 ประเทศนี้มีส่วนร่วมในการลดค่าเงินเพื่อทำลายบริษัทและผู้บริโภคของสหรัฐ

- แหล่งข่าวอาวุโสในรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า นายทาโร อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นจะชี้แจงจุดยืนของรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับค่าเงินและนโยบายการเงินในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสัปดาห์หน้า

- ผลสำรวจของภาคเอกชนพบว่า กิจกรรมในภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกพุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่า อุปสงค์ในต่างประเทศดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อวานนี้ ขณะที่เทรดเดอร์รอมติการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าเฟดจะคงนโยบาย

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เรื่องอัตราดอกเบี้ย

- การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ เรื่องนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

คำแนะนำ : trading long ยังน่าสนใจ โดยหากทะลุ 1,220 เหรียญได้แนะนำให้ถือ long ต่อ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดลดลงเล็กน้อย โดยราคาได้รับแรงกดดันในช่วงแรก จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ออกมามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ราคาเริ่มดีดกลับได้ในช่วงท้ายตลาดหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย และไม่มีการเพิ่มอัตราเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน SPDR กว่า 10 ตัน หลังจากไม่มีการเคลื่อนไหวมาเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสได้รับแรงหนุนต่อ โดยวันนี้ติดตามการประชุมธนาคารอังกฤษเป็นหลัก

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.12% โดยปิดที่ 1,209.11 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,197.73 – 1,213.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,212 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวลงในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ จากตัวเลขภาคการจ้างงานนอกภาคการเกษตร โดย ADP ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ออกมาที่ 246,000 ราย และคาดการณ์ที่ 165,000 ราย ทำให้ราคาทองถูกแรงขายทำกำไร และไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,197 เหรียญ หลังจากนั้นราคาทองเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย โดยนางเจนเนต เยลเลน ให้มุมมองต่อเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่สดใส การจ้างงานปรับตัวดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนอีกครั้งในท้ายตลาด และได้รับแรงหนุนจาก SPDR ที่ซื้อทองกว่า10.67 ตัน รวมถือครอง 809.74ตัน ในวันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ และตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันนี้และวันพรุ่งนี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านยืนยันเรื่องการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงด้วย

• รอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงในเดือนม.ค.ราว 100,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 1 ใน 3 ของที่สัญญาไว้ว่าจะปรับลดปริมาณการผลิตลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 82 % ของที่สัญญาไว้ว่าจะปรับลดลง 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 1.40 ดอลลาร์ สู่ 1,209.11ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ แต่ราคาทองสามารถลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้เกือบหมดก่อนปิดตลาด ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวกลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0.50-0.75% ตามความคาดหมายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสองวันในวันพุธ แต่เฟดยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สดใสของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ถึงแม้เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงกำหนดเวลาในการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading long ยังได้เปรียบ หรือรอ follow long เมื่อราคาทะลุ 1,220 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

อ่อนไหวกับปัจจัยภายนอก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนในวันและยังขาดปัจจัยบวกที่จะหนุนดัชนี SET index ให้สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุด ได้อีกครั้งเช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์สหรัฐฯ ซึ่งแม้จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 20,000 จุด แต่ก็ไม่สามารถยืนรักษาระดับได้อย่างมั่นคง จากความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดทุนทั่วโลกรวมทั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยด้วย ด้านสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 979.20 จุด เกิดช่องว่างของราคา (Trading Gap) ในแนวโน้มขาลง สะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนที่เก็บไว้ในคืนก่อนหน้าและการคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวในวัน ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดและปิดตลาดบริเวณ 986.00 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในวัน ภาพรวมการเคลื่อนไหวถือว่าผันผวนมากกว่า SET index ซึ่งปิดตลาด 1,576.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมที่หนาแน่นประมาณ 60,515.01 ล้านบาท เป็นเเรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ -2,112.49 ล้านบาท เเละนักลงทุนสถาบัน -717.34 ล้านบาท คาดการณ์ว่าเป็นแรงขายเพื่อลดความกังวลจากความกังวลจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เรื่องทิศทางการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนนี้ (มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0.50-0.75%) รวมทั้งแนวนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน เปราะบาง และไร้ทิศทางที่ชัดเจน

 

• แนะนำ : Wait & See, อัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์ยังไม่คุ้มกับระดับความเสี่ยงยอมรับได้

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (Draghi)

 

ข่าวในประเทศ

- อัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ทำจุดสูงสุดรอบในรอบ 28 เดือน ราคาน้ำมัน-สินค้าเกษตรเพิ่ม กระทรวงพาณิชย์ ลั่นอย่าห่วงของแพงลุยสกัดเข้ม : กระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีเงินเฟ้อ ม.ค.เพิ่มขึ้น 1.55% สูงสุดรอบ 28 เดือน เหตุน้ำมัน ยาสูบ/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผักผลไม้ราคาสูงขึ้น มองสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งทบทวนเงินเฟ้อใหม่ คาดการณ์ไตรมาสแรกขยับเพิ่มขึ้นอีก และยังแนะนำประชาชนอย่าวิตกสินค้าแพงพร้อมยืนยันยังคงติดตามใกล้ชิดสกัดผู้ค้าฉวยโอกาส

- รัฐบาลเร่งระบายสต๊อกข้าว : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศเตรียมออกประกาศประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปปริมาณ 2.8 ล้านตัน เพื่อการบริโภคโดยจะมีข้าวหลายชนิด เช่น ข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ เป็นต้น ส่วนรายละเอียดการเปิดประมูลรวมถึงกำหนดวันให้ยื่นซองเปิดประมูลจะชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 3 ก.พ.นี้

- (BCPM17) BCP อัดงบลงทุนเพิ่ม 7.8หมื่นล้าน “ขยายปั๊ม-ปรับปรุงโรงกลั่น” : BCP เตรียมงบ 7.8 หมื่นล้านบาท ลงทุนยาวตั้งแต่ปี 2560-2563 เดินหน้าตามแผนการขยายปั๊มน้ำมันและปรับปรุงโรงกลั่น รวมถึงใช้สำหรับธุรกิจต้นน้ำ ตั้งเป้าปีนี้ขยายปั๊มครบ 100 แห่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

SPDR เป็นปัจจัยหนุน

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,212.90 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระหว่างวัน โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,218.07 USD/toz ด้วยปัจจัยหนุนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ภาพรวมราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางได้รับปัจจัยหนุนจากความกังวลของนักลงทุนที่มีมุมมองต่อผลกระทบของแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกรวมทั้งประเด็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นไปอย่างรวดเร็ว รุนแรงและคาดการณ์ได้ยาก รวมทั้งปัจจัยหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องโดยที่ USD index ลดลงต่ำกว่า 100 จุด ติดต่อกันตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และปรับลดลงรุนแรงอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50 – 0.75% ตามคาดการณ์ของตลาด ด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันอย่างกองทุน SPDR เริ่มกลับมาซื้อสุทธิทองคำ 10.67 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 809.74 ตัน ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าก่อนหน้านี้ SPDR ยังคงรอท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ประกาศปรับลดอัตราการจ้างงาน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กำลังการผลิตนอกภาคการเกษตรขั้นต้นและต้นทุนเเรงงานต่อหน่วยขั้นต้น รวมทั้งถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปและการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำขยับลดลงเล็กน้อย, เฟดตรึงดอกเบี้ย : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับลดลง 1.40 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,209.11 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ แต่ราคาทองสามารถกลับขึ้นมาได้ก่อนปิดตลาด ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ลดลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่นายโดนัลด์ทรัมป์ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

- นักลงทุนกังวลอิหร่านทดสอบขีปนาวุธเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านยืนยันเรื่องการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงด้วย ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ มาปิดตลาดที่ 53.88 USD/bbl

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงหลังแถลงการณ์เฟดบ่งชี้สัญญาณเงินเฟ้อต่ำ : ดอลลาร์ลดลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ในวันพุธจากความผิดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงท่าทีในเชิงที่จะคุมเข้มนโยบายมากขึ้นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดควรจะหนุนดอลลาร์ขึ้นมากกว่านี้ก็ตาม

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ฟื้นตัวหลังเฟดคงดอกเบี้ย : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ฟื้นตัว ขึ้นในวันพุธหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและระบุว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สดใสพอสมควรโดยที่ไม่ได้แสดงท่าทีเชิงคุมเข้มนโยบายตามที่ตลาดคาดการณ์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ประมาณ 19.15น. ตามเวลาไทย)

- ติดตามการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ เรื่องนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย

- วันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) ติดตามถ้อยแถลของสมาชิก FOMC(Evans)

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวัน, ระวังแรงเทขายทำกำไร

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวต่อเนื่องหลังจากตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณให้เฟดปรับตัวขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าคาดการณ์ โดยมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าที่ชี้ให้เห็นว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. เพียง 10% รวมทั้งกองทุน SPDR เริ่มกลับมามีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่อง 3 วันทำการ ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นและหากยืนเหนือ 1,220 เหรียญได้ฝั่ง long ยังน่าสนใจ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.33% โดยปิดที่ 1,219.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,207.10 – 1,221.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,224 เหรียญ ราคาทองเคลื่อนไหวผันผวนในคืนวันศุกร์ โดยมีประกาศตัวเลขการจ้างงานที่ยังมีแนวโน้มค่อนข้างดี แต่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด และทำให้นักลงทุนมองว่าไม่ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าในเดือน มี.ค. เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 10% ราคาทองคำจึงปรับตัวยืนเหนือ 1,220 เหรียญในเช้านี้ รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากกองทุน SPDR ที่ทำการซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยซื้ออีก 3.29 ตัน ทำให้ถือรวม 814.51 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมทองคำเริ่มมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหากยืนเหนือ 1,220 เหรียญได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ หลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบุคคลบางคนและกิจการบางแห่งของอิหร่าน โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวเพิ่งประณามอิหร่านเรื่องการทดสอบขีปนาวุธนำวิถี

• การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานในบริษัทก่อสร้างและบริษัทค้าปลีก ในขณะที่อัตราการว่างงานขยับขึ้นสู่ 4.8 %

• กระทรวงการคลังสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ โดยระบุว่าบุคคล 13 คนและกิจการ 12 แห่งของอิหร่านไม่สามารถเข้าถึงระบบการเงินของสหรัฐ และไม่สามารถทำธุรกิจกับบริษัทสหรัฐได้ นอกจากนี้ บุคคลและกิจการเหล่านี้ยังตกอยู่ภายใต้ "มาตรการคว่ำบาตรขั้นที่สอง" ด้วย ซึ่งหมายความว่ามีการห้ามบุคคลและบริษัทต่างชาติจากการทำธุรกิจกับบุคคลและกิจการกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐ

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่รายงานการจ้างงานของสหรัฐบ่งชี้ว่า ค่าจ้างในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนม.ค. แม้ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะดำเนินการในเชิงรุกน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• ความคืบหน้าของอังกฤษเรื่องการออกจากยูโรโซน (Brexit)

 

• Strategy : trading long หากราคายืนเหนือ 1,220 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ปัจจัยภายในยังทรงตัว

สัญญาฯ S50H17 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดบริเวณ 977.50 จุด ก่อนมีแรงซื้อเข้าตลอดวัน หนุนให้สัญญาฯ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 991.50 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 989.20 จุด (ชำระราคาในวันที่ 989.40 จุด) การเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมีลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,582.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันระดับปานกลางที่ 47,299.53 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเพียงกลุ่มเดียว (+1,535.81 ล้านบาท) สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ในตลาดที่มีมุมมองขายสุทธิ อย่างไรก็ตามภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนยังคงเเกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาเช่นเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดท้ายสัปดาห์ในเเดนบวก/ลบสลับกัน ได้รับทั้งประโยชน์เเละเเรงกดดันจากดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจเเละการประชุมของธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลัก ในขณะที่ยังขาดปัจจัยบวกและประเด็นใหม่ๆภายในประเทศ อย่างไรก็ตามแม้ใน สัปดาหร์ก่อนจะมีการประกาศ ดัชนีความเชื่อมั่นของประเทศไทยที่ประกาศค่อนข้างสดใสหลังตัวเลขส่งออกดีขึ้นประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ตลาดให้น้ำหนักมากนัก ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าสำหรับการซื้อขายในวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของดัชนี ดาวโจนส์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นเหนือระดับนัยสำคัญที่ระดับ 20,000 จุด อีกครั้งสะท้อนความมั่นใจทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม

 

• แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคาที่กว้างขึ้น, ฝั่ง Long ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทยังคงเเข็งค่าต่อเนื่องที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- ธปท.รายงานยอดเงินลงทุนต่างชาติวูบ : ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่า เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมาลงทุนในไทยมีเพียง 282 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งปี 2559 มีมูลค่ารวม 3,286 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงกว่า 63% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีเงินลงทุนโดยตรง 9,004 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

- กระทรวงการคลังเร่งดันกฎหมายเก็บภาษีที่ดินเปล่าเข้า สนช. : กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งที่ผ่านมามีความเห็นแตกต่างจากร่างที่คลังเสนอไปให้พิจารณา แต่กระทรวงคลังยังคงยืนยันในสาระสำคัญตามร่างเดิม แต่บางรายละเอียดก็เห็นตามที่กฤษฎีกาให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม

- (AOTH17) AOT พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง : AOT มั่นใจศักยภาพทำกำไรสดใส หลังเดินหน้าขยายสนามบินต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง พร้อมมั่นใจพื้นฐานยังคงแกร่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งด้านบนแคบๆ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,219.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,218.91 – 1,225.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนบวกในกรอบแคบๆ โดยพยายามทรงตัวเหนือบริเวณ 1,220 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากตัวเลขภาคการจ้างงานในสัปดาห์ก่อน ที่ค่าจ้างแรงงานปรับตัวออกมาแย่กว่าคาดการณ์ รวมทั้งเริ่มมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 2 ครั้ง ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ในช่วงปลายปีที่แล้วที่มีการคาดการณ์กันที่ประมาณ 3 ครั้ง และเริ่มได้รับแรงหนุนจากกองทุน SPDR ที่กลับเข้ามาซื้อเป็นวันที่ 3 ซึ่งหากราคาเคลื่อนไหวในกรอบด้านบนเหนือ 1,220 เหรียญได้ ก็มีโอกาสไปต่อได้ แต่ในวันนี้ยังให้น้ำหนักการแกว่งตัวแคบๆ มากกว่าเพราะไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญในคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ตลาดหุ้นจีนปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบาง ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อการคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางจีน หลังจากธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ที่แล้ว

- สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าปรับตัวรับโอกาสน้อยกว่า 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานการจ้างงาน แต่คาดว่ามีโอกาสมากกว่า 60% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

- ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน และร่วงลง 2.3% เมื่อเทียบกับเยนซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดรายสัปดาห์นับตั้งแต่ปลายเดือนก.ค. โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการที่รัฐบาลของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์สนับสนุนดอลลาร์ที่อ่อนค่า

- ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่รายงานการจ้างงานของสหรัฐบ่งชี้ว่า ค่าจ้างในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนม.ค. แม้ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะดำเนินการในเชิงรุกน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นบริษัทดีลเลอร์ชั้นนำของสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยโพลล์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ และมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยที่เฟดจะได้รับแรงกดดันให้คุมเข้มนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้น

- ผู้บัญชาการคนหนึ่งในกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะใช้ขีปนาวุธ ถ้าหากความมั่นคงของอิหร่านเผชิญกับภัยคุกคาม ในขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านท้าทายมาตรการคว่ำบาตรใหม่ของสหรัฐด้วยการจัดการซ้อมรบในวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR

- ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายังยืนเหนือ 1,220 เหรียญได้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...