ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 9 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจาก โดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่า และยืนเหนือบริเวณ 101 จุดอีกครั้ง โดยปัจจัยกดดันคือ ธนาคารกลางยุโรปขยายมาตรการ QE ต่ออีก 9 เดือน โดยจากเดิมที่จะหมดอายุ เดือน มี.ค. ปีหน้าเป็น เดือน ธ.ค. ปีหน้าแทน ทำให้ทองคำยังแกว่งตัวในกรอบด้านล่าง รวมทั้งแรงขายจาก SPDR ที่ยังขายเข้ามาต่อเนื่องกว่า 1 เดือน โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าต้องติดตามประเด็นหลักคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีของสหรัฐฯ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับลดลง 3.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.29% โดยปิดที่ 1,170.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,168.79 – 1,178.53 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,168 เหรียญ ราคาทองโดนกดดันต่อเนื่องหลังจากเมื่อวานนี้ฝั่งธนาคารกลางยุโรปได้มีการขยายระยะเวลาการทำ QE อีก 9 เดือน จากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2560 เป็นเดือน ธ.ค. 2560 แต่ในช่วงเวลาที่ขยายเพิ่มขึ้นนั้นจะลดวงเงินจากเดิมที่ 8 หมื่นล้านยูโรเป็น 6 หมื่นล้านยูโร จึงส่งผลให้ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ายืนเหนือ 101 จุดได้อีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำโดนกดดันต่อเนื่อง แต่ยังแกว่งตัวในกรอบด้านล่าง รวมทั้งแรงขายจาก SPDR ที่ขายในสัปดาห์นี้แล้วกว่า 9.19 ตัน ทำให้ทองคำยังขาดปัจจัยสนับสนุน รวมทั้งคืนนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่หากปรับตัวดีขึ้นต่ออาจจะกดดันราคาทองได้ และในสัปดาห์หน้าติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบปี ซึ่งมีโอกาสกดดันราคาทองได้ต่อ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอนปิดบวก 0.89ดอลลาร์หรือ 1.7% สู่ระดับ 53.89 ดอลลาร์/บาร์เรล บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันเสาร์นี้เพื่อพิจารณาว่าประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะลดการผลิตลงเพื่อลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินของโลกหรือไม่ด้านนายอับดุลลา เอล-บาดรี อดีตเลขาธิการโอเปกกล่าวในการประชุมที่นิวยอร์คว่า ประเทศนอกกลุ่มโอเปกจำเป็นจะต้องปรับลดการผลิตน้ำมันลงประมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวัน

• ยูโรร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดีหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ แต่ขยายระยะเวลาของโครงการออกไปนานกว่าที่ตลาดคาดไว้

• อีซีบีระบุว่าจะลดวงเงินซื้อสินทรัพย์รายเดือนลงเหลือ 6 หมื่นล้านยูโรในเดือนเม.ย.ปีหน้า จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร แต่จะขยายเวลาโครงการที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ออกไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีหน้า และเปิดโอกาสสำหรับการเพิ่มขนาดการซื้อสินทรัพย์อีกครั้งด้วย

• ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญเพิ่มขึ้น 0.87% สู่ระดับ 101.10 และดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.25% สู่ระดับ 114.06 เยน

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ

Smart Stock

Today Strategy:

Upsideจำกัด

• S50Z16 เมื่อวานนี้แกว่งตัวออกข้างตลอดวันเปิดตลาดในภาคเช้าที่บริเวณ 957.00 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 958.70 ก่อนลงมาทำจุดต่ำสุดในวันที่บริเวณ 951.50 จุดและปิดตลาดบวกสองจุดที่ 955.00 จุด เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันกับดัชนี SET index ที่ปิดตลาดบริเวณ1,525.41 จุด มีปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับปกติที่ 51,170.37 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +1,059.43 ล้านบาทอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ฝ่ายวิจัยมองว่าเมื่อวานดัชนีอาจถูกจำกัด Upside ด้วยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศปรับตัวลดลงต่ำกว่าคาดการณ์ตลาดและต่ำกว่ารายงานในครั้งก่อนหน้าแสดงให้เห็นถึงอุปทานที่ลดลงประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุปโภคบริโภครวมทั้งสินค้าสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทจุดทะเบียนที่คาดการณ์ในไตรมาสนี้และราคาหุ้นซึ่งถูกถ่วงน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นของไทย อีกทั้งปัจจัยภายนอกที่ยังต้องติดตามทั้งนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด รวมทั้งเมื่อคืนทาง ECB ประกาศลดปริมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจลงแต่จะขยายระยะเวลาการกระตุ้นเศรษฐกิจไปจนถึงเดือนธันวาคมในปีหน้า สำหรับการซื้อขายในวันนี้ติดตามรายงานทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของประเทศไทยควรลดสถานะการลงทุนเนื่องจากเป็นปลายสัปดาห์และไม่ถือสถานะข้ามสัปดาห์

 

• แนะนำ : ระวังแรงขายทำกำไร Upside ค่อนข้างจำกัดและขาดปัจจัยหนุนดัชนีในการปรับตัวขึ้น

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ (ประเทศไทย)

 

ข่าวในประเทศ

- ศก.ขยายตัวต่ำฉุดเชื่อมั่นพ.ย.ทรุดอีก : 'หอการค้า'เผยลดลงทุกรายการ 2 เดือนติด ชี้น่าเป็นห่วง-คนหวั่นหางานยากขึ้น หอค้าเปิดผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพฤศจิกายน พบลดลงทุกรายการเป็นเดือนที่ 2 เหตุเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าคาด ชี้คนกังวลหางานยากขึ้น หวั่นรายได้ลดลง ชี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง

- กังวลภาวะเศรษฐกิจฉุดเชื่อมั่นทรุด คาดน้ำท่วมใต้ทำเสียหายหมื่นล้าน : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 พบ 2 ปัจจัยลบ จากความกังวลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังใช้จ่าย ยังหวังมาตรการรัฐกระตุ้นใช้จ่ายหนุนการบริโภคต้นปีหน้าขยับ ม.หอการค้าไทย ประเมินน้ำท่วมใต้กระทบเศรษฐกิจน้อย คาดเสียหายมูลค่า 5,000-10,000 ล้านบาท

- (INTUCHZ16,JASZ16) 'อินทัช' แจ้งตลท.เปล่าซื้อแจส : อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงกรรมการและ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อชี้แจงกรณี มีข่าวว่าบริษัทเจรจาขอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือแจสนั้นว่า ไม่เป็นความจริง และขณะนี้บริษัทไม่มีแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นดังกล่า

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ระวังผันผวน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,170.48 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,164.90 – 1,172.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบด้านล่าง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,165-1,180 เหรียญมาตลอดตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ หรือกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 15 เหรียญ และในคืนนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจาก ม. มิชิแกน และการปรับพอร์ทของนักลงทุนก่อนจะถึงสัปดาห์หน้าที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในปีนี้ รวมทั้งแรงขายของ SPDR ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นฝั่งซื้อ ทำให้ต้องระวังความผันผวนในช่วงก่อนสัปดาห์สำคัญ และการเคลื่อนไหวที่ผันผวนตามธรรมเนียมของวันศุกร์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สำนักงานสถิติรัฐบาลกลางของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีดีดตัวน้อยกว่าคาดในเดือนต.ค. ซึ่งลดความหวังที่ว่า การค้าจะเป็นส่วนสนับสนุนที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจของเยอรมนีในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่ปรับตามฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.3%

- ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลากล่าววานนี้ว่า เขาเห็นด้วยกับอิหร่านที่ให้จัดการประชุมสุดยอดของผู้นำประเทศในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปกในไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์สำหรับตลาดน้ำมัน

- โอเปกหวังว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะช่วยปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 600,000 บาร์เรลต่อวัน นอกเหนือจากที่กลุ่มโอเปกตกลงลดการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะเริ่มปรับลดในเดือนม.ค.ปีหน้า

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ลงมติในการประชุมนโยบายเมื่อวานนี้ที่จะปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์รายเดือนลงเหลือ 6 หมื่นล้านยูโรโดยจะเริ่มในเดือนเม.ย.ปีหน้า โดยลดลงจาก 8 หมื่นล้านยูโรในปัจจุบัน และอีซีบีจะขยายเวลาโครงการซื้อสินทรัพย์ไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีหน้า หลังจากที่โครงการในปัจจุบันสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปีหน้า

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ โดยถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

- ญี่ปุ่นได้ลงสัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) แล้วในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคแปฟิก โดยหวังว่าข้อตกลง TPP จะมีผลบังคับใช้ในวันหนึ่ง แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศแล้วว่า สหรัฐจะถอนตัวจากข้อตกลง TPP ก็ตาม

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

- การประชุมเรื่องกำลังการผลิตของน้ำมันในวันพรุ่งนี้

- แรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีเข้ามาต่อเนื่อง

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบแคบ โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 13 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดต่อเนื่อง ลงไปทดสอบที่บริเวณ 1,151 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบเดือน รวมทั้งแรงขายของกองทุน SPDR ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของเฟด ที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ และติดตามมุมมองดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า ที่เป็นปัจจัยที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้ ภาพรวมทองคำฝั่ง short ยังได้เปรียบแต่ให้ระมัดระวังความผันผวนในช่วงใกล้การประชุมเฟด

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.37 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.38% โดยปิดที่ 1,162.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,151.34 – 1,165.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,162 เหรียญ ราคาทองได้ลดลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 10 เดือนหลังจากความกังวลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะปรับขึ้นค่อนข้างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์ก็เริ่มอ่อนค่าลงหลังจากปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่เดือนก่อน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยถ้าหากเฟดแสดงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำได้ต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ลดความเสี่ยงได้ต่ำควรลดสถานะการลงทุนและรอความชัดเจนหลังทราบผลการประชุมในช่วงเช้าวันพฤหัส

 

Exclusive News

• ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งนำโดยรัสเซีย ได้ตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 558,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ยังคงถือเป็นการร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก ก่อนหน้านี้กลุ่มโอเปกเพิ่งบรรลุข้อตกลงในวันที่ 30 พ.ย.ในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2017 โดยซาอุฯ จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 486,000 บาร์เรลต่อวัน

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันจันทร์จากความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจระบุในแถลงการณ์นโยบายครั้งใหม่ว่า ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมากเกินไป ขณะที่การทะยานขึ้นของราคาน้ำมันหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์

• ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้เป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกตลาดได้ปรับตัวรับการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดแล้ว และมุ่งความสนใจไปที่สัญญาณที่เฟดจะส่งออกมาเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินอีกในปีหน้า

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ แต่ให้ระวังความผันผวนช่วงใกล้การประชุมเฟด

Smart Stock

Today Strategy:

ปัจจัยภายนอกยังคงผันผวน

• S50Z16 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบเเคบขาลงเป็นส่วนมากเปิดดตลาดที่ 958.00 จุด ทำจุดสูงสุดในวันที่ 960.00 จุด และจุดต่ำสุดในวันที่ 952.50 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวในขาลงประมาณ 8 จุด เคลื่อนไหวไม่เเตกต่างจาก SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,526.32 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่ 43,866.49 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +373.76 ล้านบาท ถือว่าเบาบางเนื่องจากเป็นปลายสัปดาห์ซึ่งมีวันหยุดยาวนักลงทุนปิดสถานะลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงเนื่องจากตลาดต่างประเทศซึ่งไม่ได้ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค. โดยมีเเรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคารเเละกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีดสูงขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าตลาดเริ่มปรับขึ้นในกรอบจำกัดเเละค่อนข้างหมดเเรงเเละมีเเรงขายทำกำไรกดดันให้ย่อตัวลงมาจากปัจจัยภายนอกที่ค่อนข้างรุมเร้า ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าเเละกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ ประเด็นที่สำคัญสำหรับตลาดทั่วโลก ณ ขณะนี้ได้เเก่ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค.59 ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรงตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามขอให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากปัจจัยภายนอกยังคงผันผวน

 

• แนะนำ : Wait & See รอผลการประชุม FED ก่อน, ไม่ควรเปิดสถานะรับความเสี่ยง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การประชุมของ FED ช่วง 14-15 ธ.ค.(เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย)

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรง

 

ข่าวในประเทศ

- ‘ประยุทธ์’ สั่งเร่งแผนพัฒนาแรงงาน รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ไทยแลนด์ 4.0 : นายกฯ สั่งกระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักพิจารณาจัดทำแผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทยระยะ 5 ปี (2560-2564) โดยให้ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ การลงทุนและแรงงานในปัจจุบัน ความต้องการแรงงานในภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ

- กม.หุ้นเริ่มบังคับใช้เข้มโทษอาญา-แพ่ง : ก.ล.ต. เผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับที่ 5 แล้ว ทำให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป

- (SAMARTZ16) SAMART จ่อเซ็นงานพันล้าน ปี'60 : SAMART จ่อเซ็นงานใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้าและอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง หวังได้รับงานเติม Backlog ทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต ขณะที่เดินหน้าลุยทุกธุรกิจเต็มสูบเล็งคลอดแผนปี 2560 ต้นปีหน้า

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

รอผลการประชุมเฟด

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,163.15 USD/toz เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงเป็นส่วนใหญ่หลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 1,163.76 USD/toz ยังคงเคลื่อนไหวอยู่บริเวณจุดต่ำสุดในรอบ10 เดือน และปรับตัวลดรุนแรงในช่วงบ่ายคาดการณ์เป็นมุมมองของนักลงทุนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำค่อนข้างรุนแรงในช่วงนี้ได้แก่ การประชุมเพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯชองเฟดซึ่งมีแนวโน้มสูงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามตลาดค่อนข้างรับข่าวไปมากแล้ว แต่หากผลการประชุมออกมาตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์อาจส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวรุนแรงตอบรับ ในด้านราคาน้ำมันดิบผันผวนค่อนข้างรุนเเรงในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าเเต่ USD index ยังคงมีความผันผวนแข็งค่าอยู่เหนือ 100 จุด สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามดัชนีสินค้านำเข้าสหรัฐฯและดัชนีของธุรกิจขนาดเล็ก

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ทองคำดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯปรับขึ้น 4.37 ดอลลาร์สู่ 1,162.12 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือนที่ 1,151.34 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลงจากระดับสูง และดอลลาร สหรัฐอ่อนค่าลง ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มต้นการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 13-14 ธ.ค.

- ดอลลาร๋อ่อนค่า, ยูโรทะยานก่อนประชุมเฟด : ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันจันทร์จากความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจระบุในแถลงการณ์นโยบายครั้งใหม่ว่าดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมากเกินไป ขณะที่การทะยานขึ้นของราคาน้ำมันหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสิน ค้าโภคภัณฑ์

- น้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะสูงสุด 18 เดือน : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบราว 18 เดือนในวันจันทร์หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการร่วมมือกันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน และถือเป็นการบรรลุข้อตกลงแบบนี้เป็นครั้งแรกน ับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 2.6 % มาปิดตลาดที่ 52.83 USD/bbl

- บอนด์ยิลด์พุ่งขึ้น : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นและนักลงทุนเตรียมตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 30 ปีปิดลดลง 4/ 32 โดยมีผลตอบแทน 3.160% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปิดลดลง 4/32 โดยมีผลตอบแทน 2.478%

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมเพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ยังคงได้เปรียบหากรับความเสี่ยงได้, หากมีสถานะ Long คงค้างอยู่ให้ปิดสถานะลดความเสี่ยง

 

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook....lassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google....509313835/posts

http://web.stagram.c...assicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

ถูกแก้ไข โดย ilovecgf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำยังโดนกดดันต่อเนื่อง โดยนักลงทุนติดตามการประชุมของเฟดในคืนนี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน โดยเชื่อวาราคาทองคำได้สะท้อนปัจจัยนี้ไปเยอะแล้ว และปัจจัยที่ต้องติดตามมากกว่าคือ มุมต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และมุมมองต่อเศรษฐกิจของเฟด ว่าจะเป็นอย่างไร โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงอ่อนแอ โดยขาดปัจจัยบวกในช่วงนี้ แต่การปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องทำให้หากมีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนอาจทำให้ราคาดีดกลับได้แรงเช่นกัน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 4.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.36% โดยปิดที่ 1,157.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,154.33 – 1,164.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,158 เหรียญ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการประชุมของเฟดที่จะมาถึงในคืนนี้ โดยการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่เชื่อว่าราคาทองคำได้สะท้อนปัจจัยนี้ไปพอสมควรแล้ว ทำให้ประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าคือ มุมมองต่อแนวโน้มของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของเฟด ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นปัจจัยถัดไปในการขับเคลื่อนราคาทองคำได้ โดยการประชุมในคืนนี้จะตรงกับเวลาประมาณ ตี 2 เวลาไทย ทำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำควรระมัดระวังการถือครองสถานะข้ามคืน โดยราคาทองยังคงขาดปัจจัยบวกในช่วงนี้ แต่การปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องทำให้หากมีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนอาจทำให้ราคาดีดกลับได้แรงเช่นกัน

 

Exclusive News

• กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงกันในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงรวมกัน 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และข้อตกลงดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ จนราคาน้ำมันแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2015 อย่างไรก็ดี มีคำสั่งเทขายทำกำไรเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงหลังจากนั้น

• ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันอังคารจากความไม่แน่นอนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วหรือช้าในการประชุมนโยบายที่สิ้นสุดในวันพุธนี้ ขณะที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกในปี 2007-2009

• นางโจนี เทเวส จากบริษัทยูบีเอส โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า "ถ้อยแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มที่จะตอกย้ำว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงที่ 'สมดุล' และสิ่งนี้จะบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แทนที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้"

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยหากหลุดจุดต่ำสุดเดิมให้ follow short เพื่อทำกำไรเร็ว แต่ระวังการดีดกลับเช่นกัน

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนตาม FED...

• S50Z16 เมื่อวานเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนคาดมาจากมุมมองของนักลงทุนที่หลากหลายต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯซึ่งนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าตลาดรับข่าวไปมากแล้วก็อาจเข้ามาถือสถานะลงทุนต่อในขณะที่นักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจและรอมติของธนาคารกลางสหรัฐฯอย่างเป็นทางการก็อาจปรับสถานะการลงทุนหรือถือเงินสดส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนโดย S50Z16 ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันช่วงภาคเช้าที่ 950.10 จุด หลังจากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 962.00 จุดในการซื้อขายภาคบ่าย ก่อนปิดตลาด 960.50 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับด้าน SET index แต่มีความผันผวนที่รุนแรงกว่าเนื่องจากเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,530.21 จุด มีความพยายามจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนมีปริมาณการซื้อขาย 49,796.09 ล้านบาทอยู่ในเกณฑ์ปานกลางในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองขายสุทธิ -1,617.4 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันคาดอาจเกิดขึ้นสองกรณีได้แก่ 1.ปริมาณการซื้อขายเบาบางรอผลการประชุม FED, 2.มีความผันผวนรุนแรงจากการปรับสถานะการลงทุนรวมทั้งจากการเก็งกำไรทิศทางฯ ซึ่งทั้งสองประเด็นฝ่ายวิจัยมองว่าทำให้ตลาดยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางแม้แนวโน้มระยะสั้นจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นก็ตามซึ่งมองว่าเป็นการปรับตัวขึ้นโดยไร้ปัจจัยรองรับและ Upside จำกัดแล้ว

 

• แนะนำ : ฝ่ายวิจัยคงมุมมองเดิม Wait & See รอผลการประชุม FED ก่อน, ไม่ควรเปิดสถานะรับความเสี่ยง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การประชุมของ FED ช่วง 14-15 ธ.ค.(เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย)

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรงเหนือระดับ 55 USD/bbl

 

ข่าวในประเทศ

- กรมบัญชีกลางระบุเบิกจ่าย 2 เดือนแรกสูงกว่าเป้า 2.4% : "กรมบัญชีกลาง" เผยผลการเบิกจ่ายภาพรวมช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 60 เบิกจ่ายได้ 18.46% สูงกว่าปี 2.43% คาดสิ้นไตรมาสแรกผลการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าปีที่ผ่านมา

- พรบ.ใหม่ไม่กระทบซื้อขายหุ้น : ตลาดหลักทรัพย์ประเมินการบังคับใช้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ไม่กระทบมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้น เผยระยะแรกนักลงทุนอาจกังวล แต่เป็นสัญญาณที่ดีในการตื่นตัว เร่งทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน ด้านสมาคมบล.นัด ก.ล.ต.หารือแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

- "คลัง" ดันจีดีพีโต3.4% เพิ่มวัน "ชอปช่วยชาติ" : ครม. "ไฟเขียว" มาตรการชอปช่วยชาติปี 59 เพิ่มเป็น 18 วัน มั่นใจสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปี 58 เป็น 2 หมื่นล้านบาท ด้าน "อภิศักดิ์" มั่นใจจีดีพีปี 60 โต 3.4%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,158.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,157.76 – 1,163.67 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบด้านล่าง โดยรอผลการประชุมของเฟดในคืนนี้ ซึ่งก่อนที่เฟดจะมีการประชุมในช่วงตี 2 เวลาไทย จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงค่ำนี้ก่อน ทำให้ราคาทองอาจจะเริ่มแกว่งผันผวนมากขึ้นในตั้งแต่ช่วงค่ำ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในคืนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ทำให้สิ่งถัดไปที่นักลงทุนให้ความสนใจคือ แนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้ง และมุมมองต่อเศรษฐกิจของเฟดว่าจะเป็นอย่างไรสำหรับรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่การที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องนั้น จึงเสมือนว่าราคาทองคำได้รับข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยมามากแล้วทำให้หากราคาลงอีกอาจจะเป็นจังหวะซื้อเพื่อลุ้นการดีดกลับมากกว่าจะลุ้นให้ปรับตัวลดลงแรง

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ผลสำรวจทังกันของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) บ่งชี้ในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาสในไตรมาส 4 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นและเยนที่ร่วงลงช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออก

- ดอลลาร์ขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในอนาคตหรือไม่ เพื่อรับมือกับการที่รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่อาจจะปรับเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ

- ตลาดหุ้นจีนปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันนี้ หลังจากผู้ควบคุมกฎระเบียบประกาศว่าจะจำกัดการลงทุนที่มีความเสี่ยงของบริษัทประกัน ซึ่งทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เบาบางอยู่แล้วลดลงไปอีกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดลดลง 0.45% ที่ 3,140.80 ส่วนดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปิดลดลง 0.76% ที่ 3,379.32

- ที่ปรึกษาของธนาคารกลางจีนบางคนส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนพร้อมที่จะปกป้องค่าเงินหยวน และกล่าวว่าเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพจะช่วยลดแรงกดดันในทางลบที่มีต่อค่าเงินหยวนในอนาคต โดยถ้อยแถลงนี้ถือเป็นความพยายามที่จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อค่าเงินหยวน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ นึคืนนี้

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง

- แรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีเข้ามาต่อเนื่อง

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบโดยหากหลุด 1,150 ให้ follow short เก็งกำไรสั้นๆ หรือรอ long เมื่อทำนิวโลว์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำควรรอความชัดเจนอีกครั้ง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 15 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน โดยในเช้านี้ลดลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,134 เหรียญ ก่อนที่จะเริ่มดีดกลับได้เล็กน้อย ปัจจัยกดดันเพิ่มเติมคือ คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้าเพิ่มขึ้นจาก 2 ครั้ง เป็น 3 ครั้ง ทำให้ทองคำถูกแรงขายกดดันต่อ รวมทั้ง SPDR ตลอดทั้งเดือน โดยเมื่อคืนนี้ขายอีก 6.82 ตัน ทำให้ภาพรวมทองคำอ่อนแอต่อเนื่อง แต่ระยะสั้นหากแรงขายเริ่มชะลอ อาจจะเห็นการดีดกลับได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 13.84 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -1.20% โดยปิดที่ 1,144.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,139.34 – 1,164.97 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,141 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันต่อเนื่องและทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน โดยในเช้านี้ราคาทองได้ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,134 เหรียญ และสามารถดีดตัวกลับได้เล็กน้อย โดยปัจจัยที่เข้ามากดดันราคาทองคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จาก 0.50% เป็น 0.75% ตามคาดการณ์ และปัจจัยที่กดดันราคาทองคำต่อเนื่องคือการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้าที่มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้จากประมาณ 2 ครั้งในปี 2017 เป็น 3 ครั้ง ส่งผลให้กองทุน SPDR ขายทองออกมาต่อเนื่องและขายในเมื่อวานนี้อีก 6.82 ตัน รวมถือครอง 849.44 ตัน

 

Exclusive News

• ดอลลาร์สหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในรอบเกือบ 14 ปีในวันพุธ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ และส่งสัญญาณปรับขึ้นอีกในอัตราที่เร็วขึ้นในปีหน้าทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นประมาณ 1.3% แตะ 102.350 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปี 2003 หลังเฟดปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้น 0.25% สู่ช่วง 0.50-0.75% และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้าจากที่เคยคาดไว้ 2 ครั้งในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 3 % ในวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์พุ่งขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และหลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นในศูนย์กลางคลังน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 13.84 ดอลลาร์ สู่ 1,144.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือนที่ 1,139.34 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 %และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในปีหน้า โดยแถลงการณ์ดังกล่าวหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง short และหากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ อาจจะเข้าเล่น long เพื่อลุ้นการดีดกลับ

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มมีความชัดเจน

• ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ S50Z16 เมื่อวานเป็นไปตามคาดการณ์คือมีแรงขายออกเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนกลุ่มต่างๆส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้าโดยเปิดตลาดที่ 959.00 จุด ก่อนลงมาทำจุดต่ำสุดในวันที่ 952.70 จุด และปิดตลาดบริเวณ 952.30 จุด เคลื่อนไหวประมาณเจ็ดจุดคล้ายคลึงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,521.25 จุด มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 49,271.74 ล้านบาทอยู่ในเกณฑ์ปกติของ SET index นักลงทุนขายออกสุทธิ -144.11 ล้านบาทถือว่าไม่มาก สำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดการณ์อาจมีความผันผวนจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่คาดว่าอาจไม่กระทบมากนักเนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว พิจารณาจากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลดลงแต่ไม่มากแสดงให้เห็นว่านักลงทุนได้ปรับพอร์ตเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว ในด้านของราคาน้ำมันดิบยังคงผลผวนไร้ทิศทางประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่าฝ่ายวิจัยจึงมองว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยอาจถูกจำกัดด้วยปัจจัยลบต่างๆพอสมควรแม้จะอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นก็ตาม

 

• แนะนำ : ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองเดิม Wait & See ในวันก่อนรอให้ตลาดมีแนวโน้มชัดเจน, ผลตอบแทนที่คาดและความเสี่ยงยังไม่คุ้ม

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวน

 

ข่าวในประเทศ

- สั่งขาดดุล5แสนล. บิ๊กตู่หวังงบปี ’61ดันจีดีพีโต 5% เล็งอัดเงินเพิ่มรับแผนพัฒนาฯฉบับที่12 : รัฐบาลสั่งทำงบประมาณปี 61 ขาดดุลต่อเนื่อง นายกมีนโยบายให้จัดทำเป็นงบประมาณแผ่นดินปี 61 เป็นงบขาดดุลและดำเนินการตั้งงบกลางปีไว้เพราะต้องการให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3-4 โดยมีเป้าหมายให้อัตราการเติบโตของ GDP ที่ระดับ 4-5%

- คลังไม่กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย รมว.คลัง เชื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ยกระทบไทยไม่มาก ส่วนเงินบาท ธปท.ดูแลอยู่ : รมว.คลังเปิดเผยถึงการประชุม เอฟโอเอ็มซี กำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายของปีนี้การที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้แล้ว ดังนั้นผลกระทบจะเกิดกับไทยคงไม่มาก เพราะตลาดรับรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย

- (BBLZ16) แบงก์กรุงเทพปัดเบี้ยวจ่ายฟ็อกซ์ : แบงก์กรุงเทพยืนยันอยู่ในขั้นตอนศาลยันฟ็อกซ์ผิดสัญญาและเปิดเผยกรณีที่ปรากฎข่าวว่าธนาคารไม่ยอมชำระเงินตามสัญญาค้ำประกันที่ธนาคารกรุงเทพ ทำให้ ซีทีเอชและจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ไว้โดยฟ็ เป็นผู้รับผลประโยชน์ในฐานะคู่สัญญานั้น ขอชี้แจงว่า ธนาคารได้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันซีทีเอชและจีเอ็มเอ็มให้ไว้กับฟ็อกซ์ โดยมีเงื่อนไขว่าหากสองบริษัทผิดสัญญาที่ทำไว้ ธนาคารจึงจะจ่ายเงินให้ฟ็อกซ์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ระวังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯค่ำคืนนี้

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าบริเวณ 1,142.32 USD/toz หลังปรับตัวลงแรงเมื่อคืนตอบรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ตัดสินใจปรับขึ้น 0.25% เพื่อให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 0.50-0.75% และจะปรับขึ้นอีกสามครั้งภายในปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามตลาดคาดการณ์เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆสนับสนุนได้แก่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานออกมาค่อนข้างดี เช่น อัตราการจ้างงาน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อฯ และถือเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากการคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเวลานานเป็นการบิดเบือนอุปสงค์อุปทานของตลาดและทำให้จุดดุลยภาพถูกบิดเบือนไปด้วย สำหรับการซื้อขายทองคำในช่วงนี้ปัจจัยลบยังคงกดดันให้ทิศทางราคาทองคำอยู่ในขาลงต่อเนื่องทั้งจากค่าเงินดอลลาร์ที่ USD index ปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ 102 จุด, ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ผันผวนปรับตัวลดลงต่ำกว่า 51.00 USD/bbl, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯซึ่งเป็นตัวแทนของสินทรัพย์ปลอดภัยที่ปรับตัวสูงขึ้นตอบรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5670 % และที่สำคัญมุมมองของกองทุน SPDR ยังคงขายสุทธิทองคำต่อเนื่องเมื่อวาน -6.82 ตันถือครองสุทธิ ณ ปัจจุบัน 849.44 ตัน หากไม่มีความจำเป็นให้หลีกเลี่ยงการถือสถานะลงทุน ไปก่อนเนื่องจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายตัวได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาสสาม, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการสำรวจภาคการผลิตของฟิลาเดเฟีย, ดัชนีการสำรวจจากผู้ผลิตในรัฐนิวยอร์ก, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมครั้งแรกและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านจาก NAHBฯ ซึ่งอาจประกาศบวกลบสลับกันและส่งผลให้ทองคำมีความผันผวนรุนแรงได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% : ธนาคารกลางสหรัฐลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามความคาดหมายในวันพุธและส่งสัญญาณว่าจ ะมีการปรับขึ้นอีกในอัตราที่เร็วขึ้นในปีหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดเตรียมปรับตัวรับ มาตรการปรับลดภาษี, การลดระเบียบขั้นตอนทางราชการและการกระตุ้นการใช้จ่ายซึ่งนายทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะดำเนินการเมื่อเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า

- ทองคำดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบสิบดือนหลังการประชุมเฟด : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 13.84 ดอลลาร์ สู่ 1,144.12 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ(เมื่อวาน)หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่าสิบเดือนที่ 1,139.34 USD/toz ระหว่างวันโดยราคาทองได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 % และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในปีหน้าโดยแถลงการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯให้แข็งค่าขึ้น

- ค่าเงินดอลลาร์พุ่งรับเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% : ดอลลาร์สหรัฐฯพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน สำคัญในรอบเกือบ 14 ปีในวันพุธหลังธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้และส่งสัญญาณปรับขึ้นอีกในอัตราที่เร็วขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นประมาณ 1.3% แตะ 102.35 จุด ซึ่ง เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปี พ.ศ. 2546 หลังเฟดปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้น 0.25% สู่ช่วง 0.50-0.75% และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสามครั้งในปีหน้าจากที่เคยคาดไว้สองครั้งในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนต่อเนื่อง

- ทิศทางของสินทรัพย์ลงทุนประเภทต่างๆหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาฝั่ง Short Position ได้เปรียบเปิดสถานะเมื่อราคาดีดตัว, ราคาอาจมีความผันผวนจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 16 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง ปิดลดลงกว่า 15 เหรียญ โดยไปทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 1,122 เหรียญ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 14 ปี รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่อ่อนแอต่อเนื่อง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 15.78 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -1.38% โดยปิดที่ 1,128.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,122.35 – 1,144.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,129 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 14 ปี จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกาคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มรวดเร็วมากขึ้น ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมามีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง และการคาดการณ์เศรษฐกิจที่จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังจากนายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงได้รับความน่าสนใจต่อเนื่อง และแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย ก็ยังถูกขายต่อ เห็นได้ว่า SPDR ลดสถานะการถือครองอีก 7.11 ตัน ทำให้ถือทองเหลือ 842.33 ตัน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มราคาทองคำที่อ่อนแอต่อเนื่อง

 

Exclusive News

• กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ส่งสัญญาณว่า ปริมาณน้ำมันส่วนเกินจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ถ้าสมาชิกไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อลดการผลิตจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และผู้ผลิตนอกโอเปกไม่ลดการผลิตตามข้อตกลงที่ทำไว้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

• ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพฤหัสบดี ขณะที่บรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกหลังจากที่ปรับขึ้น 0.25% ในวันพุธ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 15.78 ดอลลาร์ หรือ 1.38 % สู่ 1,128.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากรูดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 10 เดือนครึ่งที่ 1,122.35 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินคาด และปัจจัยดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้พุ่งขึ้น และหนุนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินให้ทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง short และหากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ อาจจะเข้าเล่น long เพื่อลุ้นการดีดกลับ

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดเริ่มเปลี่ยนความสนใจ

• S50Z16 เมื่อวานนี้ซื้อขายในแดนลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เปิดตลาดที่บริเวณ 946.80 จุด แกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 945-951 จุด มีลักษณะการเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาดที่ 1,519.65 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 49,530.71 ล้านบาทไม่มากไม่น้อยสำหรับ SET index นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ -1,456.60 ล้านบาทคาดการณ์ว่าเป็นควันหลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในวันก่อนหน้า สำหรับการซื้อขายในวันคาดการณ์ว่าเป็นลักษณะการแกว่งตัวในกรอบแคบและมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากเป็นการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์และค่อนข้างขาดปัจจัยหนุน ฝ่ายวิจัยมองว่าสำหรับวันนี้ยังไม่น่าถือสถานะลงทุนเท่าใดเนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาอยู่ในกรอบจำกัด รอเปิดสถานะลงทุนในสัปดาห์หน้าดีกว่าและคาดการณ์ว่าประเด็นที่ตลาดจะหันมาสนใจในลำดับต่อไปได้แก่ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯของนายทรัมป์รวมทั้งท่าทีต่อประชาคมโลกในทางปฏิบัติ

 

• แนะนำ : รอเปิดสถานะในสัปดาห์หน้าดีกว่า

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวน

 

ข่าวในประเทศ

- แบงก์สำรองเงินสด 1.5 แสนล. รับมือคนใช้จ่ายส่งท้ายปีเก่า : ธปท. เผยว่าช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.2559 และ ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกติ ซึ่ง ธปท.ได้สำรองและเบิกจ่ายธนบัตรเพิ่มเติมไปยังธนาคารพาณิชย์เพื่อสำรองจ่ายเงินจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้เอทีเอ็มในช่วงวันหยุดยาวไว้แล้ว

- สคร.ฝันปีหน้าคลอดแน่ ไฟเขียวกองทุน “ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์” : สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นบานเพื่ออนาคตประเทศไทย วงเงิน 60,000-80,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้จะทยอยแบ่งออกเป็น 1-3 กอง ตามความต้องการใช้เงิน

- “เฟด” ขึ้นดอก “คลัง” ไม่หวั่นเงินไหล : FED มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ของกรอบเดิม 0.25-0.50% เป็น 0.50-0.75% เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ทิ้งช่วงการขึ้นดอกเบี่ยมาเกือบปีจนมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งยังส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าและปีต่อไปอีก 3 ครั้ง

- ปตท.โชว์ถือเงินสดในมือ 4 แสนล้าน เล็งลงทุนปิโตรเลียมเพิ่ม ตอกย้ำธุรกิจปีหน้ายังแข็งแรง : ปตท. ปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่ม ปตท.มีสภาพคล่องทางการเงินสูงมาก โดยมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 400,000 ล้านบาท ดังนั้น ปตท.จึงต้องวางแผนบริหารจัดการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะยังคงแผนการซื้อกิจการปิโตรเลียมในต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีหน้า

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 19 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองเริ่มดีดกลับได้ในช่วงท้ายตลาดและเช้าวันนี้ หลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากประกาศตัวเลขภาคที่อยู่อาศัย ที่ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ รวมทั้งราคาทองปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยคาดว่าราคาทองมีโอกาสรีบาวน์ได้ต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.65 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.50% โดยปิดที่ 1,133.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,126.36 – 1,141.19 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,139 เหรียญ ราคาทองเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงต่ำกว่าคาดการณ์ รวมทั้งราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง ทำให้เริ่มเห็นการดีดกลับในท้ายตลาด และในช่วงเช้าวันนี้ โดยสับดาห์นี้ติดตามธนาคารกลางญี่ปุ่น มีการประชุมนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าจะไม่มีนโยบายเพิ่มเติม รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้าหากผิดคาดการณ์ อาจจะทำให้ตลาดการเงินผันผวนได้อีกครั้ง และเมื่อคืนวันศุกร์ SPDR ขายทองต่อเนื่องอีก 5.34 ตัน รวมถือทอง 836.99 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนหลังโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้า และผู้ผลิตแสดงสัญญาณการปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อลดการผลิต

• โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับไตรมาส 2 ของปีหน้าสู่ระดับ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ดอลลาร์ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันศุกร์ แต่ยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่เข้าทดสอบหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่แรงขายทำกำไรยุติการทะยานขึ้นของดอลลาร์

• ราคาทองปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดของวัน หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า เรือรบของจีนได้ยึดยานสำรวจใต้น้ำ (drone) ของสหรัฐในทะเลจีนใต้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading long ในกรอบการรีบาวน์

Smart Stock

Today Strategy:

Volume เบาบางส่งท้ายปีเก่า

• S50Z16 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดที่ 950.10 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 953.40 จุด จุดต่ำสุดที่ 946.80 จุด ปิดตลาดบริเวณ 947.40 จุด เปลี่ยนเเปลง +0.03% รูปแบบการเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกับ SET index ที่มีปริมาณการซื้อขาย 46,841.99 ล้านบาท ถือว่าเบาบางลดลงจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยของ SET index ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงมุมมองขายสุทธิ -1,980.21 ล้านบาท เเละขายสุทธิสะสมตลอดเดือนรวม -1,871.34 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี (Short Position) -386 สัญญาตอกย้ำมุมมองที่มองต่อตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตามถือว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในเเดนบวกปรับขึ้นตามภูมิภาคได้รับเเรงจากกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เเละหุ้นบลูชิพ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดได้เเก่กลุ่มธนาคารเเละกลุ่มพลังงานที่ได้รับเเรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเหนือระดับ 51 USD/bbl (WTI-NYMEX) ด้านปัจจัยภายในประเทศได้เเก่ มาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ที่คณะรัฐมนตรีอนุมติผ่านไปเรียบร้อยเเล้วซึ่งน่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งช่วงส่งท้ายปีเก้า แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานพบว่าปัจจัยภายนอกยังคงรุมเร้ากดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่เเข็งค่า กดดันให้บาทอ่อนเเละเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง ดังนั้นฝ่ายวิจัยยังมอง Upside จำกัดและมีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, เปิดสถานะเมื่อราคาดีดตัว

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันเงินบาทให้อ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวน

 

ข่าวในประเทศ

- แข่งเดือดรับช้อปช่วยชาติดอกเบี้ย 0% ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง : สถาบันการเงินแข่งขันกันจัดโปรโมชั่น กระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกันอย่างคึกคัก สนับสนุนมาตรการช้อปช่วยชาติ 15,000 บาท และมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว 15,000 บาท ของรัฐบาลที่ออกมาถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าการใช้จ่ายช่วงวันที่ 14-31 ธ.ค. 59 มียอดรูดบัตรเครดิตซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%

- บีโอไอตั้งเป้าปี 60 ยอดขอ 6 แสนล้าน ตั้งเป้า 60% ลงทุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย : บีโอไอ ตั้งเป้าดันยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนปี 2560 แตะ 6 แสนล้าน หวังรัฐเร่งคลอดกฎหมายใหม่ 3 ฉบับ สร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ ระบุ 11 เดือนปีนี้ยอดขอรับส่งเสริมฯ แตะ 5 แสนล้านใกล้เคียงเป้าหมาย

- (PTTZ16) PTTเคาะลงทุน3.38 แสนล.ลุยโครงสร้างพื้นฐานเต็มสูบ : PTT บอร์ดไฟเขียวแผนลงทุน 5 ปี (60-64) วงเงินรวม 3.38 แสนล้านบาท ลุยธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน-ร่วมทุนและการลงทุนของบริษัทย่อย-ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ "เทวินทร์ วงศ์วานิช" มั่นใจปี 2560 ผลงานโตต่อเนื่องชี้ราคาน้ำมันขาขึ้นหนุนธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นไปได้สวย

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

จะรีบาวน์ได้ไกลแค่ไหน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,133.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,133.76 – 1,142.32 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาดคืนวันศุกร์ จากปัจจัยตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาดการณ์ ทำให้ทองคำเริ่มได้รับแรงหนุนหลังจากปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง โดยในวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ และในวันพรุ่งนี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ถ้าหากธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ได้มีนโยบายที่เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ก็คาดว่าในสัปดาห์นี้ทองคำจะเริ่มมีการซื้อขายที่เบาบางลง เนื่องจากเข้าใกล้วันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนไม่ควรประมาทกับการลงทุน โดยคาดว่าราคาทองมีโอกาสดีดกลับได้บ้างหลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องกว่า 1 เดือนเต็ม

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ริงกิตร่วงแตะระดับต่ำสุดหลังปี 1998 ที่เคยทำไว้ในปีที่แล้ว และวอนร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือนในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วเกินคาดในปีหน้า

- นายเจฟฟรี่ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีหน้า และจะเผชิญกับความท้าทายในการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- บริษัทพลังงานของสหรัฐเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน โดยการขุดเจาะน้ำมันฟื้นตัวขึ้นเป็นเวลา 7 เดือนแล้วขณะที่ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน บริษัท Baker Hughes Inc ซึ่งเป็นบริษัทบริการด้านพลังงานเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทขุดเจาะน้ำมันได้เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมัน 12 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุดวันที่ 16 ธ.ค. ส่งผลให้มีแท่นขุดเจาะรวม 510 แท่นซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. แต่ยังคงต่ำกว่า 541 แท่นของปีที่แล้ว

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์เรื่องภาวะตลาดการจ้างงานของสหรัฐที่มหาวิทยาลัยบัลติมอร์ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย

- ร่างงบประมาณของญี่ปุ่นที่รอยเตอร์ได้รับมาบ่งชี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะกำหนดงบประมาณขั้นต้นที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 97.45 ล้านล้านเยน (8.30 แสนล้านดอลลาร์) ในปีงบประมาณ 2017 ขณะเดียวกันก็จะรักษาการออกพันธบัตรใหม่ให้ต่ำกว่าระดับของปีนี้

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนครึ่งที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน

- ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในสหรัฐลดลงมากเกินคาดในเดือนพ.ย. โดยร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี ขณะที่กิจกรรมการก่อสร้างลดลงโดยรวม ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงว่าเศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาส 4

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมเรื่องนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น

- ทิศทางของสินทรัพย์ลงทุนประเภทต่างๆ หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบกว่า 14 ปี

 

คำแนะนำ : trading long ในกรอบการรีบาวน์

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 20 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำช่วงสั้นหลังถูกปัจจัยภายนอกรุมเร้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าทองคำอาจสามารถปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัดเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าต่อเนื่องกดดันราคาทองคำ ส่วนปัจจัยช่วงสั้นที่อาจเข้ามาเป็นปัจจัยบวกได้แก่กรณีปัญหาด้านการเมือง(ทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกลอบสังหาร)ซึ่งอาจส่งผลให้เเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงสั้นๆ แต่ในภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำแกว่งตัวในแนวโน้มขาลงต่อเนื่องโดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในสินทรัพย์ปลอดภัยหลังธนาคารกลางสหรัฐฯมีความชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการสร้างความชัดเจนให้ตลาด โดยทองคำมีความพยายามที่จะปรับตัวขึ้นจาก 1,122.35 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าปัจจัยต่างๆยังคงกดดันราคาทองคำเช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดย USD index ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่บริเวณ 103.120 USD/toz ในขณะทีกองทุน SPDR ยังคงขายออกสุทธิทองคำต่อเนื่องโดยมีเมื่อขายสุทธิ -8.89 ตัน มีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 828.10 ตัน ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องติดตามได้แก่กรณีเอกอัครราชทูตรัสเซียประจําประเทศตุรกีถูกลอบสังหารซึ่งอาจส่งผลให้อาจมีเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น

 

Exclusive News

• ราคาทองปิดบวกแม้ดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ข่าวการยิงเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีเสียชีวิตได้ช่วยหนุนทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่า ส่วนราคาโลหะเงิน, พลาตินั่มและพัลลาเดียมปิดลดลง

• Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจอาจเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิมขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค.

• นางเจเน็ตเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ซื้อขายในกรอบ, ภาพรวมระยะกลางยังคงเป็นแนวโน้มขาลง

Smart Stock

Today Strategy:

เหมือนจะหมดแรงปลายปี...

• S50Z16 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบเปิดตลาดที่ 949.00 จุด ก่อนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 946.00 จุด และมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงบ่ายดันสัญญาฯ ให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 952.80 จุด และปิดตลาดที่ 951.50 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวในวันประมาณ 7 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวมีความผันผวนกว่า SET index ที่ปิดตลาดที่ 1,522.40 จุด ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายในวันเพียง 36,233.42 ล้านบาทซึ่งถือว่ามีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางตามคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยคาดเนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางไม่คึกคักเหมือนปกติ ด้านนักลงทุนซื้อสุทธิ 88.10 ล้านบาท (ขายสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นเดือน -1,783.23 ล้านบาท) เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 220.90 ล้านบาท อีกหนึ่งปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยได้เเก่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดย USD index ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 103.14 จุด ในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 51 USD/bbl หลังมีความผันผวนรุนเเรงในช่วงสัปดาห์ก่อน ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยเริ่มมี Upside ที่จำกัดและมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายออกมาหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, Upside จำกัด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ในวันที่ 21 ธ.ค.

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันเงินบาทให้อ่อนค่าต่อเนื่อง

 

ข่าวในประเทศ

- 10 อุตฯดาวรุ่งอุ้มเศรษฐกิจ 60 ฟันธงปีไก่สดใสกว่าปีลิงแน่ : ส.อ.ท. ประเมินภาคอุตฯ ปี 60 จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 59 เนื่องจากได้อานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของภาครัฐ เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยมี 10 อุตฯ สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 60 เช่น อุตฯ ยานยนต์ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ

- คลังเสนอลดดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี ให้4.6ล้านรายของขวัญปีใหม่ : รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ที่ผ่อนชำระค่าที่อยู่อาศัย ที่มีประวัติการผ่อนชำระชั้นดี กับ ธนาคารออมสิน และ ธอส. โดยเบื้องต้นจะลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าที่มีประวัตการผ่อนชำระดีติดต่อกัน 48 งวด

- (CKZ16) CK คุมเข้มต้นทุนการเงิน ช.การช่างปีหน้าวางนโยบายคุมต้นทุนเงินไว้ที่ 3.8% พร้อมกู้อีก 2-3 หมื่นล้าน ศึกษากู้แบงก์-ออกหุ้นกู้ สรุปต้นปีหน้า : CK เปิดเผยว่า บริษัทยังรักษาต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยในปี 2560 ให้ใกล้เคียงปัจจุบันที่มีต้นทุนการเงินเฉลี่ย 3.8% ขณะที่อัตราหนี้ต่อทุนอยู่ที่ 1.47 เท่า สามารถหาเงินกู้ทั้งการออกหุ้นกู้และกู้เงินได้อีก 2-3 หมื่นล้านบาท จากเพดานดีอีที่กำหนดไว้ไม่เกิน 3 เท่า การรับงานก่อสร้างส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูงเพราะจะได้รับเงินจ่ายล่วงหน้ามาจากลูกค้า 10-15% ของมูลค่างานก่อสร้าง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

กลับเข้าสู่แนวโน้มขาลง...

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าบริเวณ 1,138.10 USD/toz มีความพยายามปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่สามารถต้านทานแรงขายซึ่งกดดันราคาทองคำตลอดวันทำให้ราคาทองคำปรับลดลงมาซื้อขายบริเวณ 1,132.00 USD/toz ภาพรวมนั้นค่าเงินดอลลาร์ยังคงกดดันทองคำต่อเนื่องโดย USD index ยังคงซื้อขายอยู่เหนือ 103 จุด ส่วนปัจจัยระยะสั้นเรื่องการลอบสังหารทูตรัสเซียประจำตุรกีฝ่ายวิจัยมองว่าไม่มีนัยสำคัญเพียงพอต่อการปรับขึ้นของสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงนี้ ในขณะที่กองทุน SPDR ยังคงขายสุทธิทองคำต่อเนื่องโดยเมื่อวานขายสุทธิไปกว่า 8.89 ตันรวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 828.10 ตัน และอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำได้แก่การที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯได้กล่าวว่าการว่างงานของประเทศ(สหรัฐฯ)อยู่ในระดับต่ำซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังฟื้นตัวซึ่งส่งผลลบต่อราคาสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและตราสารหนี้พอสมควร ฝ่ายวืจัยคาดการณ์ว่าในวันนี้ทองคำเริ่มกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงตามเดิมหลังจากที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดในช่วงก่อนหน้าแต่อาจเป็นลักษณะขายเรื่อยๆ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำปิดบวกแม้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ข่าวการลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีเสียชีวิตได้ช่วยหนุนทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แ ม้ดอลลาร์ยังคงแข็งค่า หลังนางเจเน็ตเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวพุ่งขึ้น : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อคืนก่อนช่วงสิ้นปี แต่ราคาลดช่วงบวกไปบ้าง หลังจากนางเจเน็ต เย ลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้แสดงความเห็นเชิงบวกต่อภาวะตลาดจ้างงาน

- ราคาน้ำมันดิบปิดทรงตัวขณะซื้อขายเบาบางก่อนวันคริสต์มาส : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันจันทร์ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาก่อนวันคริสต์มาส ขณะที่ตลาดรอดูว่าการผลิตน้ำมัน shale oil ของสหรัฐจะขยายตัวมากพอที่จะชดเชยการปรับลดการผลิตของกลุ่มโอเปก, รัสเซียและผู้ผลิตอื่นๆในปีหน้าหรือไม่

- คาดการณ์เศรษฐกิจจีนขยายตัวชะลอลง : สถาบันสังคมวิทยาศาสตร์จีน (CASS) คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวชะลอลงอีกหนึ่งปีเหลือเพียง 6.5% ในปี 2017 ซึ่งจะเป็นอัตราที่ช้าที่สุดในรอบมากกว่า 25 ปี และเทียบกับที่โตในปีนี้ประมาณ 6.7%

- จีนพยุงเงินหยวนสกัดเงินทุนไหลออก : ในช่วง 11 เดือนแรกของ 2016 เงินฝากธนาคารในรูปสกุลเงินดอลลาร์ของครัวเรือนในจีนได้พุ่งขึ้นเกือบ 32% จากปัจจัยหนุนค่าเงินหยวนที่ร่วงลงถึงระดับค่ำสุดในรอบ 8 ปี

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ : ถือเป็นการสะท้อนมุมมองภาวะเศรษฐกิจที่สดใสขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณความเชื่อมั่นที่ว่าเยนที่อ่อนค่าลงและการฟื้นตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศจะเพิ่มแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง "เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวปานกลางตามทิศทาง" โดย BOJ ระบุในแถลงการณ์มุมมองดังกล่าวสดใสกว่าการประเมินเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งบีโอเจระบุว่า ขณะที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวปานกลางตามทิศทาง แต่ก็ยังคงมีภาวะชะลอตัวในภาคการส่งออกและการผลิต บีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% สำหรับเงินฝากส่วนเกินที่สถาบันการเงินฝากไว้กับบีโอเจ ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ นอกจากนี้ ยังคงได้เป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีไว้ที่ 0% ด้วย นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจจะจัดการแถลงข่าวในเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 13.30 น.ตามเวลาไทยวันนี้เพื่อชี้แจงมติการประชุม

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- แถลงการณ์ภาวะเศรษฐกิจจาก ECB ในวันพรุ่งนี้

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าต่อเนื่อง USD index ยังคงเหนือระดับ 103 จุด

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 21 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงอีกครั้ง หลังจากพยายามดีดกลับแต่ได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ การคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนางเยลเลนได้ออกมากล่าวเสริมถึงภาพรวมตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสเร็วกว่าที่คาด ทำให้ทองคำยังโดนกดดันต่อ โดยในปลายสัปดาห์ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ

 

Key Factors

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในวันอังคาร ขณะที่ความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการจ้างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีหน้า ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังนางเยลเลนกล่าวในวันจันทร์ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวของค่าแรงกำลังกระเตื้องขึ้น

• ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยนด้วย หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลงตามคาด ในวันอังคาร โดยคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ -0.10% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ราว 0%

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปิดร่วงลงในวันอังคาร ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนเทขายทองจากการคาดการณ์ที่ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะแข็งแกร่งขึ้น และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่เหตุโจมตีในตุรกีและเยอรมนีไม่สามารถกระตุ้นแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ

Smart Stock

Today Strategy:

ขาดปัจจัยบวก

• S50Z16 เมื่อวานซื้อขายในแดนลบตั้งแต่ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ 951.60 จุด ก่อนลงไปทำจุดต่ำสุดในวันที่ 943.80 จุด และปิดตลาดที่ 946.30 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งมีแรงขายจากกลุ่มพลังงานกดดันการเคลื่อนไหวของดัชนีปิดตลาดที่ 1,511.65 จุด มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 41,238.21 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าแต่ก็ยังถือว่าเบาบางสำหรับ SET index ที่ปกติมีปริมาณการซื้อขายประมาณ 4.75 – 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -793.85 ล้านบาท โดยขายสุทธิสะสมตลอดเดือนธันวาคมที่ -2,577.08 ล้านบาท ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคยังถูกปัจจัยภายนอกกดดันต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนมาก ซึ่งเมื่อวานปัจจัยหนึ่งที่เป็นที่สนใจของตลาดได้แก่ ประเด็นเรื่องธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% ตามคาดการณ์ของตลาดและประเด็นการลอบสังหารทูตรัสเซียประจำประเทศตุรกีและการก่อความไม่สงบในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งกดดันบรรยากาศการลงทุนในยุโรปและตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงสั้นๆ ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่ารุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯตั้งแต่เมื่อวานซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบกับการซื้อขายในวันนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, Upside จำกัด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ในวันนี้

- เงินบาทอ่อนค่ารุนแรงเหนือระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- มาร์เก็ตแคปไทยเบอร์ 2 ห่วงเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบหุ้นไทยซบยาว : มาร์เก็ตแคปไทยโตสุดปีนี้ ขึ้นแท่นเบอร์ 2 อาเซียนแซงมาเลเซีย ตลท.ห่วงเงินเฟ้อพุ่งเร่งดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบตลาดหุ้นไทยซบยาว ตลท. แถลงว่า มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 4.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการติบโตสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังขึ้นอันดับ 2 แทนตลาดหุ้นมาเลเซียเป็นครั้งแรก จากที่ทุกปีตลาดหุ้นไทยเป็นรองอินโดนีเซียและมาเลเซียเท่านั้น

- MAI วูบหนึ่งแสนล้าน EA ย้ายไป SET : MAI ทำใจรับผลกระทบ EA ย้ายเข้าซื้อขาย SET ทำ P/E พุ่งมาร์เก็ตแคปหายแสนล้านแม้มีหุ้นจ่อเข้าใหม่ แต่ไม่มากเท่า MAI เปิดเผยว่า การย้ายไปซื้อขายใน SET ของ EA จะส่งผลให้ มาร์เก็ตแคปหายไป 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันทั้งตลาดมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท และจะทำให้อัตราราคาต่อกำไรของตลาดสูงขึ้นเป็น 70 เท่า จากปัจจุบันที่ 61.1 เท่า และจะทำให้มูลค่าซื้อขายต่อวันหายไป 100 ล้านบาท

- (TMBZ16) TMB ประเมินแบงก์ชาติ คงดอกเบี้ยยาวสิ้นปี60 หนุนการฟื้นตัวของศก : TMB คาดการณ์แบงก์ชาติคงดอกเบี้ยยาวถึงสิ้นปี 60 หนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้แรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แถมส่งสัญญาณผู้ประกอบการและนักลงทุนก็ไม่ควรนิ่งนอนใจและเตรียมตัวรับมือกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

พยายามจะรีบาวน์แต่มีปัจจัยกดดันเรื่อยๆ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,131.94 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,129.15 – 1,137.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเช้านี้ หลังจากเมื่อวานนี้ยังโดนกดดันจากหลายปัจจัย คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายทางการเงินเช่นเดิม ทำให้ค่าเงินเยนมีแนวโน้มอ่อนค่า ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง และส่งผลลบกับราคาทองคำ ผนวกกับถ้อยคำปราศัยของนางเยลเลน ที่กล่าวว่าเฟดมีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีหน้า เนื่องจากภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งคาดการณ์เศรษฐกิจที่เติบโตหลังจากนายทรัมป์เป็นประธานาธิบดี รวมทั้งฝั่ง SPDR ที่ขายทองคำเข้ามาต่อเนื่องตลอดหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยขายออกมามากกว่า 13 % ทำให้ราคาทองคำล้วนมีแต่ปัจจัยกดดัน โดยวันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมืองสอง และตัวเลข GDP สหรัฐฯ ในคืนวันพรุ่งนี้ โดยราคาทองคำเริ่มแก่วงไร้ทิศทาง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง เพราะเข้าใกล้วันหยุดยาวช่วงปลายปีนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในวันอังคาร ขณะที่ความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการจ้างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีหน้า ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังนางเยลเลนกล่าวในวันจันทร์ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวของค่าแรงกำลังกระเตื้องขึ้น

- นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานของรัสเซียคาดว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียในปีนี้จะมีปริมาณรวม 547.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อน เขาระบุด้วยว่า การประชุมของคณะกรรมการสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อเฝ้าสังเกตการปฏิบัติตามการลดการผลิตน้ำมันนั้น อาจจะจัดขึ้นในเดือนม.ค.

- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในวันนี้ ซึ่งสอดรับกับมุมมองเชิงบวกมากขึ้นของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอาจจะกำลังฟื้นตัว รัฐบาลยังได้ปรับเพิ่มการประเมินการใช้จ่ายภาคครัวเรือน, การส่งออก และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ โดยระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกำลังเพิ่มขึ้น และยอดส่งออกไปยังเอเชียกำลังฟื้นตัว

- วอนและบาทร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการค

าดการณ์ว่าสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วขึ้น หลังจากนายโดนัลด์ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบกว่า 14 ปี

- แรงซื้อในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง

- ค่าเงินบาทที่แกว่งผันผวนมากขึ้น

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบด้านล่าง โดยฝั่ง short ได้เปรียบมากกว่า

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...