ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 31 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และเอฟบีไอของสหรัฐจะสอบสวนนางฮิลลารี คลินตันเพิ่มเติมทางด้านความไม่โปร่งใส ทำให้ช่วยหนุนราคาทองให้ปิดบวกได้ โดยสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมอัตราดอกเบี้ย และนโยบายทางการเงินของ 3 ธนาคารใหญ่ที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.11 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.64% โดยปิดที่ 1,275.91 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,262.04 – 1284.14 ดอลลาร์ โดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงเช้า ก่อนที่จะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐจะสอบสวนนางฮิลลารี คลินตันเพิ่มเติมในเรื่องที่นางคลินตัน เคยใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัวสำหรับการทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาแกว่งในกรอบด้านบน เหนือบริเวณ 1,275 เหรียญได้ โดยในสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมของ 3 ธนาคารใหญ่ เรื่องอัตราดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงิน ได้แก่ธนาคารกลางญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ ตามลำดับ แต่ภาพรวมยังให้น้ำหนักการคงดอกเบี้ย แต่ต้องติดตามแนวโน้มมุมต่อนโยบายทางการเงินและภาพรวมเศรษฐกิจอีกครั้งที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำได้

 

Exclusive News

• บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง2 แท่นในสัปดาห์นี้ หลังจากปรับขึ้นมานานติดต่อกัน 17 สัปดาห์อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปยังความขัดแย้งภายในกลุ่มโอเปก

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปกอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามแผนการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้มีรายงานระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันศุกร์ ขณะที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเปโซเม็กซิโกจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ระบุว่า จะทำการตรวจสอบอีเมลมากขึ้นที่เกี่ยวกับการใช้อีเมลส่วนตัวของนางฮิลลารีคลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading long หากราคาแกว่งเหนือ 1,275 เหรียญ แต่ถ้าต่ำกว่าให้กลับมา trading ในกรอบ

 

Smart Stock

Today Strategy:

ต่างชาติขายสุทธิกดดันดัชนีตลอดเดือน

• S50Z16 ในวันศุกร์ที่แล้วเปิดตลาดและซื้อขายในแดนลบตลอดวันในลักษณะซึมลงเรื่อยๆ ไม่รุนแรงแต่เหมือนไม่มีแรงซื้อเข้าพยุงตลาด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 7.9 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 940.90 จุด และจุดต่ำสุดในวันที่ 933.00 จุด เช่นเดียวกับด้านดัชนี SET หลักที่ลักษณะเคลื่อนไหวออกข้างซึมลงเรื่อยๆ เหมือนไร้แรงซื้อโดยมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 10 จุด และไม่สามารถปรับตัวยืนอยู่เหนือ 1,500 จุดซึ่งเป็นระดับราคาจิตวิทยาที่มีนัยสำคัญได้มีปริมาณการซื้อขาย 54,926.42 ลบ. ถือว่าอยู่ในระดับปกติไม่มากไม่น้อย ซึ่งกลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ (- 978.05 ลบ.) เเละ ขาย Short สุทธิในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ตอกย้ำมุมมองที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทยเเละคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐส่งผลให้ Fund Flow ยังคงไหลออกต่อเนื่องและกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าเเกว่งตัวเหนือ 35 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าประเด็นการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ 1 ต.ค. – 28 ต.ค. กว่า -15,621.70 ลบ.ยังคงเป็นปัจจัยลบปัจจัยหนึ่งที่ต้องจับตามองอยู่ ส่วนอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาประกอบการลงทุนในสัปดาห์นี้ได้แก่ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนกดดันดัชนี SET ราวสองสัปดาห์แล้วเนื่องจากดัชนีหุ้นไทยถูกถ่วงน้ำหนักด้วยกลุ่มพลังงานค่อนข้างมาก ในด้านการซื้อขายวันนี้ให้พิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่จะประกาศในช่วงเช้าและบ่ายได้แก่ ผลผลิตอุตสาหกรรม, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ยอดค้าปลีกและการบริโภคภาคเอกชน

แนะนำ ซื้อขายในกรอบ 930-940 จุด, ซื้อขายในวันไม่ถือสถานะข้ามคืน

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ 930-940 จุด, ซื้อขายในวันไม่ถือสถานะข้ามคืน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในวันนี้ได้แก่ ผลผลิตอุตสาหกรรม, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ยอดค้าปลีกและการบริโภคภาคเอกชน

- Fund Flow ที่ยังคงไหลออกกดดันดัชนีหุ้นไทยต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม (ขายสุทธิ -15,621.70 ลบ.)

- ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน

 

ข่าวในประเทศ

- จำนำข้าวตันละหมื่น : กระทรวงพาณิชย์เสนอเคาะราคาจำนำข้าวในวันนี้ ด้าน ธกส.เสนอสินเชื่อชะลอการขายเกษตรฯ ให้ลดพื้นที่ปลูกข้าว พร้อมต้องจับตาการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ด้านนายกฯ ส่อเคาะราคาจำนำยุ้งฉางตันละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่น ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการดูแลราคาข้าวให้เกษตรกรหลังจากราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี

- บาท/ดอลลาร์เช้านี้ฟื้นตัว : โดยค่าเงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวบริเวณ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังแรงกดดันจากแรงซื้อดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนลดลงไป ขณะที่ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมาตลอดสัปดาห์

- ขายสุทธอในตลาดหุ้นไทย : เมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 978 ล้านบาท ขณะที่ขายสุทธิตราสารหนี้ไทยทุกช่วงอายุ 2.66 พันล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะตราสารหนี้อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ขายสุทธิไปกว่า 1.07 พันล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 31 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ย่อตัวในแนวโน้มขาขึ้น

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าบริเวณ 1,277 USD/toz แกว่งตัวปรับฐานลงเล็กน้อยหลังจากที่มีความพยายามที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงนี้ราคาทองคำยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนราคามากนักถือว่าขึ้นอย่างไม่แข็งแกร่ง ประกอบกับยังมีปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่ซึ่งโดยมากเป็นปัจจัยเดิมๆ เช่น ดอลลาร์แข็งค่า, คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เราจึงมองว่าราคาทองคำยังอยู่ในภาวะสูญญากาศและจะกลับมาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอีกครั้งหลังสิ้นสุดปัจจัยดังกล่าวที่ทำให้กรอบการซื้อขายค่อนข้างจำกัดและราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปีหน้าจากอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นจากเทศกาลตรุษจีนอีกด้วย อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยมองว่าในช่วงนี้ปัจจัยต่างๆเข้ามากระทบบรรยากาศการลงทุนมากมายแต่จะมีกี่ปัจจัยที่กระทบต่อตลาดจริงๆ หากพิจารณาจะพบว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างราคาของทองคำและสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อาจไม่ได้มีความสัมพันธ์ไปในลักษณะเหมือนแต่ก่อน เช่น หุ้นขึ้นทองลง, น้ำมันขึ้นทองขึ้นฯ เนื่องจากมาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบสร้างความผิดปกติให้กับอุปสงค์และอุปทานของตลาด ดังนั้นในช่วงนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ซื้อขายโดยพิจารณาเป็นรายกรณีไปโดยเน้นปัจจัยที่เข้ามากระทบหลักๆมากกว่าปัจจัยแวดล้อมซึ่งอาจมีค่าสหสัมพันธ์ (correlation) อยู่ในระดับต่ำหรือลดลงกว่าแต่ก่อน ค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ, รายได้ส่วนบุคคล, ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคาผู้บริโภค

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- รัสเซียคาดปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.7% ในปีหน้า : ร่างงบประมาณของรัฐบาลกลางรัสเซียระบุว่า รัสเซียคาดว่าจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันขึ้น 0.7% ในปี 2017 และปรับขึ้นอีก 0.9% ในปี 2018 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียอาจขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 548 ล้านตันในปี 2017 และขึ้นไปแตะ 553 ล้านตันในปี 2018 และ 2019 โดยปรับขึ้นจากระดับ 544 ล้านตันในปีนี้ รัสเซียเคยระบุว่า รัสเซียเต็มใจที่จะตรึงปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยถือเป็นส่วน

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง : ดอลลาร์ขยับขึ้นในวันนี้และมีแนวโน้มว่าจะปิดตลาดเดือนต.ค.ในแดนบวก แต่ยังคงอยู่ห่างจากจุดสูงสุดในระยะนี้ หลังจากมีข่าวว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐจะสอบสวนนางฮิลลารี คลินตันเพิ่มเติมในเรื่องที่นางคลินตัน เคยใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัวสำหรับการทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยข่าวนี้ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่านางคลินตันจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

- บอนด์ยิลด์ระยะสั้นลดลง : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นร่วงจากระดับสูง สุดในรอบ 5 เดือนในวันศุกร์ หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) เปิดเผยว่า จะ สอบสวนอีเมล์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของ นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ทั้งนี้ ราคาพัน ธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดลดลง 1/32 โดยมีผลตอบแทน 1.846% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดลดลง 9/32 โดยมีผลตอบแทน 2.616%

- GDP สหรัฐเติบโตดี : ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2559 อยู่ที่ระดับ 2.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1 อันเป็นจากแรงหนุนของการส่งออกและการลงทุนด้านสินค้าคงคลัง ถึงแม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง โดยการส่งออกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2556 ส่วนการลงทุนด้านสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.1% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- แถลงการณ์จาก BOJ, FOMC ในรอบสัปดาห์นี้

- ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสองอาทิตย์ข้างหน้า

 

คำแนะนำ : สะสม Long ได้ แต่ให้ผิดสถานะถือเงินสดหากราคลงต่ำกว่า 1,264 USD/toz

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 1 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน จากความกังวลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่คาดว่านางฮิลลารี่ มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งน้อยหลังจากโดนการตรวจสอบจาก เอฟบีไอ แต่หากประเด็นนี้คลาดความกังวลราคาทองอาจจะมีแรงขายออกมาบ้าง โดยในวันนี้ติดตามความเคลื่อนไหวฝั่งธนาคารกลางญี่ปุ่น และตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ยังคาดการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งพรุ่งนี้ต้องติดตามการประชุมของเฟดเช่นกัน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.11% โดยปิดที่ 1,277.28 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,270.79 – 1279.54 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 1,276 เหรียญ ราคาทองขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยราคาได้รับแรงหนุนจากเอฟบีไอที่กำลังสอบสวนการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ในช่วงที่นางคลินตันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามหากประเด็นนี้คลายความกังวลอาจจะทำให้ราคาทองอาจจะมีแรงขายทำกำไรได้ และวันนี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย และในคืนนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และการประชุมของเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ที่อาจจะได้เห็นราคาทองแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้นได้

 

Exclusive News

• กลุ่มโอเปกยังไม่ได้กำหนดเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงในการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน ถึงแม้ผู้แทนของกลุ่มโอเปกได้ประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค. และได้ประชุมกับผู้แทนของประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 29 ต.ค. โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า อิหร่านไม่ต้องการจะตรึงปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ลดช่วงบวกลงและแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันจันทร์จากความวิตกครั้งใหม่ที่ว่า การตรวจสอบของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ต่อการใช้เซอร์เวอร์อีเมลส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน อาจจะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

• นายเบอร์นาร์ด ดาห์ดาห์ นักวิเคราะห์ของบริษัทแนติซิสกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้นักลงทุนเคยคาดว่า นางคลินตันจะชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากกรณีนี้ส่งผลให้นางคลินตันมีโอกาสน้อยลงที่จะได้รับชัยชนะ ราคาทองก็อาจจะได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนนี้"

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading long หากราคาแกว่งเหนือ 1,270 เหรียญ แต่ถ้าต่ำกว่าให้กลับมา trading ในกรอบ หรือถือเงินสด

 

Smart Stock

Today Strategy:

เหมือนจะหมดแรง

• เมื่อวานนี้ S50Z16 เเละ SET index หมดเเรงไม่สามารถผลักดันดัชนีให้สร้างเเนวโน้มขาขึ้นได้แกว่งตัวออกข้างในกรอบ 5-6 จุดทั้งคู่ เคลื่อนไหวในกรอบเเคบพักฐานหลังพยายามสร้างแนวโน้มขาขึ้น ถือว่าขาดปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนและยังคงตลาดเฝ้ารอสองปัจจัยหลักได้เเก่ 1.การปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯช่วงปลายปี 2.ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ(8 พ.ย.) ส่วนในด้านปัจจัยภายในประเทศนั้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนประกาศบวกลบสลับกัน ในขณะที่เมื่อวานนี้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยทั้งดีกว่าและต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดบวกลบสลับกันไปไม่สร้างผลกระทบต่อดัชนีมากนักเหมือนกับนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับปัจจัยภายนอกที่ได้กล่าวข้างต้นกดดันตลาดมากกว่าทำให้ SET index มีปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 40,894.37 ลบ. เท่านั้น โดยกลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง -2,449.5 ลบ. คงมุมมองเดิมที่มีตลอดเดือนตุลาคม(ขายสุทธิ -18,071.20 ลบ.ตลอดเดือน ต.ค.) สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ค่าเงินบาทปรับตัวเเข็งค่ามากขึ้นบวกลบอยู่บริเวณ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ USD index ยังคงตัวอยู่เหนือ 98 เกือบสองสัปดาห์ ด้านดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ไม่สามาถปรับตัวขึ้นได้เเม้ตัวเลขรายจ่ายในการบริโภคของบุคคล (PCE) ปรับตัวสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด ส่วนภาพรวมดัชนีหุ้นยุโรป Stoxx50 ปรับฐานหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องราวครึ่งเดือนที่ผ่านมาพร้อมค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าดัชนีหุ้นไทยแม้ยังไม่มีปัจจัยลบรุนแรงแต่ถือว่ามี Upside จำกัดกดดันอยู่แม้ไม่รุนแรงแต่ถือว่ามาเรื่อยๆ เน้นซื้อขายในกรอบราคาและกรอบแนวโน้ม

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบเดิมที่ 930-940 จุด, ซื้อขายในวันไม่ถือสถานะข้ามคืนและบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ต่างชาติขายสุทธิ -18,071.20 ลบ.ตลอดเดือนตุลาคม

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐช่วงปลายปีและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พฤศจิกายน

 

ข่าวในประเทศ

- พาณิชย์มั่นใจยอดซื้อพุ่ง เอกชนอิหร่านยกทัพเจราจาค้าขาย : รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมเจรจาการค้าสินค้าข้าวและมันสำปะหลังในวันที่ 13-16 พ.ย.59 สคต. ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน รายงานว่าจะนำคณะผู้ซื้อผู้นำเข้าสินค้าข้าวรายใหญ่ของอิหร่าน ซึ่งประกอบด้วยผู้นำเข้าอิสระและผู้นำเข้าที่เป็นตัวแทนภาครัฐรวม 15 ราย เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมเจรจาการค้าดังกล่าว

- ไทยยังอู้ฟู่สัดส่วนเงินออมมากกว่าลงทุน ออมสินโชว์ยอดฝากทะลุ 2.2 ล้านบาท : ธนาคารออมสินเผย สถานการณ์การออมในประเทศ ยอดเงินฝากธนาคารออมสินมี 2.2 ล้านล้านบาท แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ปี 2552 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ สัดส่วนการออมต่อ GDP เหลือ 11% จาก 16% เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจภาพรวมไม่ค่อยดี ทำให้รายได้ประชาชนมีสัดส่วนที่ลดลง แต่ยังถือว่าสัดส่วนการออมยังมากกว่าการลงทุน โดยคิดเป็น 33% ของจีดีพีต่อไตรมาส ขณะที่การลงทุนคิดเป็น 25% ของจีดีพีต่อไตรมาสเท่านั้นสะท้อนได้ชัดเจนว่าปัจจุบันประเทศไทยยังมีสภาพคล่องระบบสูง

- “นายกฯ-คสช.” ซัดนักการเมือง : ซัดขั้วอำนาจเก่าจับมือโรงสีรวมหัวกดราคาข้าวดิ่งหวังผลการเมือง เสี้ยมชาวบ้านขัดแย้งรัฐบาล ครวญเห็นใจหน่อยข้าวตันละหมื่นห้าเป็นไปไม่ได้แล้ว “อภิรดี” เผย นบข.ไฟเขียว ชง ครม.เจียด 8.6 พันล้าน รับจำนำยุ้งฉาง-ช่วยชาวนาปลูกข้าวหอมมะลิเพิ่มไร่ละ 500 บาท ไม่เกินรายละ 10 ไร่ มท.สั่งผู้ว่าฯ ชี้แจงมาตรการรัฐ กล่อมชาวนาชะลอขายข้าว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 1 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นไปต่อ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,276.82 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เริ่มเคลื่อนไหวในแดนบวกมากขึ้น โดยแกว่งระหว่าง 1,275.30 – 1,280.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในวันนี้มีการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ได้ข้อสรุปว่าคงอัตราดอกเบี้ยคงเดิม แต่ลดอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่เป็นตัวถ่วงเงินเฟ้อ และภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และยังแสดงถึงความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ทำให้ทองคำแกว่งตัวในแดนบวกได้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยที่สำคัญยังคงเป็นธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะทำให้ราคาทองแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้นได้ และต้องติดตามความเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ที่ไม่ได้มีการปรับพอร์ทการลงทุนมากว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งหาก SPDR ได้กลับเข้ามาซื้อขายอาจจะช่วยให้ราคาทองคำแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้นเช่นกัน

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สมาคมทองจีนเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ระบุว่า ปริมาณการใช้ทองในจีนอยู่ที่ 720.7 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยร่วงลง 12.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน สมาคมทองจีนระบุว่า ปริมาณการผลิตทองในจีนอยู่ที่ 347.8 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยลดลง 2.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จีนถือเป็นประเทศที่ใช้ทองมากที่สุดในโลก โดยปริมาณการซื้อเครื่องประดับทองในจีนอยู่ที่ 478 ตันในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ปีนี้ โดยดิ่งลง 20% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ปริมาณการลงทุนในทองปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปรับขึ้น 4.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี ส่วนปริมาณการซื้อเหรียญทองและทองแท่งพุ่งขึ้น 12.9% ส่วนทุนสำรองทองของจีนอยู่ที่ 1,838.5 ตันในช่วงสิ้นเดือนก.ย.

- เจ้าหน้าที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อนุมัติเอกสารเมื่อวานนี้ที่ระบุถึงเค้าโครงแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของโอเปก โดยสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกประสบความก้าวหน้าในการลดความขัดแย้งกันในเรื่องวิธีการและกำหนดเวลาในการควบคุมปริมาณการผลิต และราคาน้ำมัน

- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ในวันนี้ตามความคาดหมาย

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ไม่ได้ขยายขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันนี้ แต่บีโอเจปรับเลื่อนเวลาที่คาดว่า บีโอเจจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ออกไป โดยบีโอเจส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะตรึงนโยบายการเงินไว้ตามเดิม นอกจากว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงที่เป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

- ผลสำรวจโดยภาคเอกชนที่ออกมาในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวในเดือนต.ค.ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 9 เดือน ในขณะที่ผลผลิตของภาคการผลิตและยอดสั่งซื้อเพื่อส่งออกเพิ่มสูงขึ้น โดยรายงานตัวเลขนี้ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่ออนาคตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- การเลือกตั้งประธานาธิบดี

- อัตราดอกเบี้ยและการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : Trading long หากเหนือ 1,275 เหรียญ แต่ถ้าไม่ให้ trading ในกรอบ หรือ ถือเงินสด

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลง และความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ช่วยหนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นมาได้ รวมทั้งกองทุน SPDR เริ่มกลับเข้ามาซื้อทองคำหลังจากไม่มีการเคลื่อนไหวกว่า 1 สัปดาห์ วันนี้ติดตามการประชุมและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจะช่วยหนุนราคาทองได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.82% โดยปิดที่ 1,287.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,275.20 – 1291.86 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวในแดนบวกบริเวณ 1,290 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาในเมื่อคืนนี้ปรับตัวดีขึ้นก็ตาม แต่ปัจจัยหลักๆ ที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ที่เริ่มมีความไม่ชัดเจนมากขึ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะ หลายฝ่ายเริ่มกังวลถึงนายทรัมป์ที่มีโอกาสชนะมากขึ้น ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุน และในคืนนี้ติดตามการประชุมของเฟดที่คาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยไปก่อน ที่อาจจะช่วยหนุนราคาทองต่อได้ และเริ่มมีแรงซื้อของ SPDR เข้ามาหลังจากไม่มีการเคลื่อนไหวมากว่า 1 สัปดาห์ โดย SPDR ซื้อทองคำ 2.67 ตัน รวมถือครองที่ระดับ 945.26 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดร่วงลงในวันอังคาร และร่วงลงไปอีกในช่วงหลังปิดตลาด เนื่องจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นในระดับที่สูงถึง 9 เท่าของตัวเลขคาดการณ์

• ดอลลาร์สหรัฐร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรในวันอังคารจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ ขณะที่เปโซเม็กซิโกร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์จากความวิตกที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

• บรรดาเทรดเดอร์ยังคงวิตกเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. หลังมีข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สำนักงานสอบสวนกลาง(FBI) ของสหรัฐกำลังตรวจสอบอีเมลที่ค้นพบใหม่ที่เกี่ยวกับการใช้เซอร์เวอร์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต

• ธนาคารเอชเอสบีซีระบุว่า ถ้าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ราคาทองก็อาจจะได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์นี้ เพราะนายทรัมป์จะสร้างความไม่แน่นอนในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : ฝั่ง long ถือต่อ โดยทยอยปิดทำกำไรหากราคาหลุด 1,285 เหรียญ

 

Smart Stock

Today Strategy:

ยังคงแกว่งในกรอบ

• เมื่อวานนี้ S50Z16 เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 945.00 จุดเป็นการปรับตัวขึ้นแบบรวดเดียวตลอดวันเหมือนไม่มีแรงขายเข้ามากดดันเลยเช่นเดียวกับดัชนี SET index หลักซึ่งมีความพยายามที่จะยืนเหนือ 1,500 จุด ปิดตลาดที่ 1,504.52 จุด อย่างอย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากปริมาณการซื้อขาย (54,663.78 ลบ.)ฝ่ายวิจัยยังมองว่าเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างไม่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับลักษณะการปรับขึ้นตลอดวันเพื่อยืนเหนือ 1,500 จุด เนื่องจากเป็นแรงซื้อจากมุมมองของนักลงทุนกลุ่มสถาบันเป็นหลักเท่านั้นซึ่งสวนทางกับนักลงทุนประเภทอื่นที่ขายสุทธิออกในตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะมุมมองของนักลงทุนต่างชาติซึ่งขายสุทธิ - 1,477.7 ลบ. เป็นการขายสุทธิต่อเนื่องเกือบจะตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามต่างชาติทำการเปิดสถานะซื้อสุทธิ(Long Position)ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีสะท้อนมุมมองการเก็งกำไรดัชนีช่วงสั้นๆมากกว่ากล่าวคือยังไม่ได้ซื้อขายสุทธิไปในทิศทางเดียวกันระหว่างหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เช่นเดียวกันกับนักลงทุนสถาบันซึ่งซื้อสุทธิในตลาดหุ้นแต่ขายสุทธิสวนทางในสัญญาล่วงหน้าดัชนี ทำให้เรามองว่าในช่วงนี้การปรับขึ้นเพื่อยืนเหนือ 1,500 จุด ของ SET index ถือว่าไม่แข็งแกร่งเท่าใดให้ระมัดระวังการย่อตัว รวมทั้งลักษณะการลงทุนของนักลงทุนแต่ละประเภทเป็นไปในลักษณะการ “ลุ้นและหวัง” มากกว่าที่จะเป็นการลงทุนในแนวโน้มที่ชัดเจน ค่ำคืนนี้คืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐได้แก่ FOMC Statement, อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ, สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบที่กว้างขึ้น 930-940 จุด, ซื้อขายในวันไม่ถือสถานะข้ามคืน, หากรับความเสี่ยงได้น้อยให้รอซื้อขายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯอาทิตย์หน้า

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ถึงปัจจุบัน (ต.ค. -18,071.20 ลบ.)

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐช่วงปลายปีและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พฤศจิกายน

 

ข่าวในประเทศ

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศึกษาการใช้หุ้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในบัญชี TFEX : หลังร่วมหารือกับโบรกเกอร์ ชี้เป็นผลดีต่อผู้ลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดสัญญาซื้อขายเผยว่าขณะนี้บริษัทสำนักหักบัญชีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษากระบวนการที่จะใช้หุ้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการซื้อขายบัญชีตราสารอนุพันธ์ (TFEX) ได้ในกรณีที่ผู้ลงทุนถูกบริษัทหลักทรัพย์ เรียกให้วางหลักประกันเพิ่ม

- เงินเฟ้อเพิ่มแบงก์ฟันธงเพิ่ม 0.4% : ไทยพาณิชย์เตือนรับมือเงินเฟ้อปีหน้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดปี 2560 ทั้งปีเพิ่มขึ้น 0.4% ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกจากการที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงที่เหลือของปี 2560 ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยทั้งปีที่ 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

- กรมศุลฯลดขั้นตอนสินค้านำเข้า 8 กลุ่มต้นปี : มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประสานงานผู้นำเข้ารายใหญ่ 8 กลุ่มอุตสาหกรรม เดือน ม.ค. 2560 นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการตรวจปล่อยสินค้า โดยเฉพาะสินค้านำเข้าว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกับบริษัทผู้ประกอบการนำเข้ารายใหญ่ เพื่อให้คำแนะนำและวินิจฉัยเกี่ยวกับพิกัดสินค้าและอัตราภาษีที่จะต้องจ่าย โดยจะเริ่มใช้ระบบนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 เป็นต้นไป

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นยืนเหนือ 1,300 USD/toz

- ทองคำในวันนี้ซื้อขายในแดนบวกเปิดตลาดเอเชียช่วงเช้า 09.00น. ที่ 1,287.60 USD/toz และมีแรงซื้อต่อเนื่องตลอดวันเหมือนมีความพยายามขึ้นไปทดสอบระดับราคา 1,300 USD/toz โดยถือว่าราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนหลังได้รับปัจจัยบวกต่างๆ ได้แก่ 1.ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเพิ่มความน่าสนใจให้ทองคำและพันธบัตรรัฐบาลในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 2.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ 3.มุมมองของนักลงทุนรายใหญ่ได้แก่กองทุน SPDR ที่กลับมาซื้อสุทธิทองคำ +2.67 ตันถือครองสุทธิ 945.26 ตัน 4.ราคาน้ำมันดิบผันผวนรุนแรงที่ปรับลดลงราว 10% สร้างความไม่เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจให้นักลงทุนและชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง 5.ความไม่แน่นอนของการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯหลังตัวเลขเศรษฐกิจที่เปิดเผยออกมาบวกลบสลับกัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ติดตามการประชุมของสมาชิก FOMC และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ, สต็อกน้ำมันดิบและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- กังวลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯหนุนทองพุ่งขึ้น : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 10.52 ดอลลาร์ สู่ 1,287.80 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันอังคารหลังจากราคาทอง, โลหะเงินและพลาตินั่มพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนในระหว่างวัน ในขณะที่ความกังวลเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐส่งผลให้ตลาดหุ้นกับค่าดอลลาร์ร่วงลงและส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือนธันวาคมที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 14.90 ดอลลาร์ ที่ 1,288.00 USD/toz และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธันวาคมที่ตลาด COMEX ปิดตลาดบวก 0.622 ดอลลาร์ ที่ 18.418 USD/toz ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนมกราคมปิดพุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ที่ 997.90 USD/toz และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดพุ่งขึ้น 16.10 ดอลลาร์ ที่ 634.10 USD/toz

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดบวก : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นในวันอังคารหลังจากหุ้นร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมซึ่งเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยขณะที่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในสัปดาห์หน้ากระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดบวก 4/32 ที่ 97-05/32 โดยมีผลตอบแทน 1.820% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดเพิ่มขึ้น 13/32 ที่ 93-13/32 โดยมีผลตอบแทน 2.568%

- ดอลลาร์ร่วงเทียบยูโรพุ่งจากความวิตกเลือกตั้งสหรัฐฯ : ดอลลาร์สหรัฐร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามสัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรในวันอังคารจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ ขณะที่เปโซเม็กซิโกร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์จากความวิตกที่ว่านายทรัมป์อาจจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงราว 0.8% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสองสัปดาห์ที่ 97.640 หลังจากปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนตุลาคม ส่วนยูโรพุ่งขึ้นราว 0.8% สู่ 1.1069 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วั นที่ 12 ตุลาคมขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 1.5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือนที่ 0.9730 ฟรังก์สวิส และร่วงลงราว 1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 วันที่ 103.81 เยน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : เน้นเปิดสถานะซื้อ (Long Position) เมื่อราคาย่อตัว, ระวังแรงขายบริเวณระดับราคา 1,300 USD/toz

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 3 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นและพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,307 เหรียญ หลังการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ หลังจากนั้นราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยปัจจัยที่สำคัญสำหรับราคาทองคำในช่วงนี้ คือความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งผันผวนได้ต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.09 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.71% โดยปิดที่ 1,296.89 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,287.00 – 1307.76 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,299 เหรียญ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนทองคำนั้นได้แก่ความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไว้ที่ < 0.50% ตามคาดการณ์ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นเป็นผลลบต่อราคาทองคำ และคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้สูงในเดือน ธ.ค. คืนนี้ติดตามการประชุมของธนาคารอังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจทำให้ราคาทองผันผวนได้ต่อ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 2.9 % ในวันพุธ หลังจากรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ล่าสุด และรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดโลก หลังจากนักวิเคราะห์เพิ่งประเมินเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นในเดือนต.ค.

• ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร, เยน, ฟรังก์สวิสและปอนด์ในวันพุธจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า

• ผลสำรวจความเห็นประชาชนโดยรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อวันจันทร์บ่งชี้ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำนายทรัมป์ 5% แต่ผลสำรวจอื่นๆระบุว่า นายทรัมป์มีคะแนนนำนางคลินตัน 1-2%

• เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการตัดสินใจนโยบายครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ แต่ก็ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบ หากราคาอยู่ต่ำกว่า 1,300 และถ้าราคากลับไปยืนเหนือ 1,300 อีกครั้ง ให้กลับไปเล่นด้าน long

 

Smart Stock

Today Strategy:

กังวลปัจจัยภายนอก

• S50Z16 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบประมาณ 5 จุดเช่นเดียวกับดัชนี SET index ที่ไม่สามารถปิดปรับตัวยืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้หลังถูกต่างชาติขายสุทธิออกมาและมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางที่ 49,339.22 ลบ. ฝ่ายวิจัยมองว่าสำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีในวันนี้มีแนวโน้มเชิงลบมากกว่าโดยมีปัจจัยภายนอกกดดันตลาดค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่องจากภาพรวมการซื้อขายเมื่อวานนี้ทั้งดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ยุโรปและเอเชียปิดปรับตัวลดลงหลังนักลงทุนลดความเชื่อมั่นในตัวนางฮิลลารีและปรับลดแนวโน้มที่นางฮิลลารีจะได้รับเลือกตั้งฯ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกและเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองและพันธบัตรรัฐบาลแทนโดยส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นราว 1.4% ภายในหนึ่งวันและสามารถดันราคาทะลุระดับราคา 1,300 USD/toz ได้แม้ว่าจะยังไม่สามารถยืนได้มั่นคงในช่วงนี้ก็ตาม ด้านการประชุมสมาชิก FOMC เมื่อคืนนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดการณ์ของตลาดและมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมสูง ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯเมื่อคืนรายงานต่ำกว่าคาดการณ์สะท้อนการเติบโตที่ลดลงของเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ สำหรับปัจจัยบวก (ไม่มาก)ต่อตลาดหุ้นไทยในวันได้แก่ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแต่เป็นการแข็งค่าจากดอลลาร์อ่อนเสียมากกว่า ฝ่ายวิจัยยังมองว่าปัจจัยกดดันภายนอกยังคง ปกคลุมตลาดหุ้นไทยมากกว่าโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงสู่ระดับ 45.52 USD/bbl ที่จะกดดันตลาดหุ้นไทยจากกลุ่มพลังงานที่มีมูลค่าตลาดถ่วงน้ำหนักสูงที่สุดในดัชนีหุ้นไทย วันนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประเทศไทยช่วง 11.00น. และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ, อัตราเงินกู้รวมทั้งการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและสำหรับค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์, กำลังการผลิตนอกภาคการเกษตรและดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคา “930-950จุด” โดยฝั่งขาย (Short Position) ได้เปรียบในวันหลังปัจจัยภายนอกรุมเร้าตลอดคืน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของประเทศไทยช่วง 11.00น.

- ต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ถึงปัจจุบัน

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯของเฟดและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงการคลังเคาะโครงการตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ นัดประชุมบอร์ดไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ 4 พ.ย. ตั้งเป้าระดมเงินทุนภายในปีนี้ : นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสหากิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการเตรียมการตั้งกองทุนรวมโครงสร้างฟื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ จะประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปโครงสร้างของกองทุนทั้งหมด เพื่อที่จะระดมทุนให้ได้หนึ่งแสนล้านบาท

- ธนาคารแห่งประเทศไทยลุยยกระดับตลาดเงิน : “แบงก์ชาติ” ยกระดับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงการกู้ยืมเงินบาทโดยใช้วิธีคำนวณจากข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริงหวังลดความเสี่ยงจากการถูกบิดเบือนเหมือนกรณีดอกเบี้ยไลบอร์ต่างประเทศทั้งนี้มั่นใจช่วยพัฒนาตลาดเงินไทยให้ดียิ่งขึ้นกว่าก่อน

- กระทรวงการคลังเตรียมถกระดมเงินตั้งฟิวเจอร์ฟันด์ กังวลการเวนคืนที่ดินฉุดโครงการมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำช้า : กระทรวงการคลังติดเครื่องไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เตรียมถกเคาะโครงการร่วมระดมทุนล็อตแรกหนึ่งหมื่นล้านบาทเตรียมส่งสามโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศนำร่อง ด้านกรมทางหลวงเปิดทางให้เอกชนร่วมลงทุนสายมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ 63,998 ล้าน กังวลล้าช้าหลังติดปัญหาเรื่องการเวนคืนในหลายพื้นที่ และค่าใช้จ่ายในการเวนคืนที่ดินที่พุ่งสูงกว่าที่ตั้งไว้เดิมกว่า 100%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 3 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ไปต่อไหวไหม

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,296.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เริ่มมีแรงขายทำกำไรโดยราคาปรับลดลงเล็กน้อย โดยแกว่งระหว่าง 1,294.61 – 1,306.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังจากเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าค่อนข้างสูงทำให้ต้องระมัดระวังการแข็งค่าของดอลลาร์ต่ออีกครั้ง โดยปัจจัยที่คาดว่าจะสนับสนุนทองช่วงนึ้คือ ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีโอกาสช่วยหนุนราคาทองได้ และในวันพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขสำคัญคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งหากออกมาดีต่อเนื่องก็อาจจะเป็นประเด็นกดดันราคาทอง และทำให้เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่ในระยะสั้นราคาทองอาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรช่วงสั้นได้ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยให้บริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่เคยทะลุขึ้นมา เป็นจุดที่อาจจะสะสม long ได้อีกครั้ง คือบริเวณ 1,285 เหรียญ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นถึง 1.5% เมื่อวานนี้ ขณะที่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐได้ชดเชยสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

- กระทรวงพลังงานของรัสเซียเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์หลังยุคสหภาพโซเวียตในเดือนต.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 11.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน การเพิ่มขึ้นดังกล่าวตอกย้ำความยากลำบากที่รัฐบาลอาจจะเผชิญในการจำกัดระดับการผลิตตามข้อตกลงระดับโลกกับผู้ผลิตชั้นนำอื่นๆ พื่อพยุงราคาน้ำมัน

- ไคซิน/มาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคบริการจีนเพิ่มขึ้นสู่ 52.4 ในเดือนต.ค. จาก 52.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และดัชนีที่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการในจีน

- ธนาคารกลางจีนสาขาเซี่ยงไฮ้เปิดเผยในวันนี้ว่า เซี่ยงไฮ้จะเพิ่มการตรวจสอบแหล่งของการวางเงินดาวน์เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสาขาเซี่ยงไฮ้ยังขอให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ป้องกันแหล่งสินเชื่อที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกองทุนบริหารความมั่งคั่งไม่ให้เข้ามาในตลาดที่ดิน

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ คงอันดับความน่าเชื่อถือของอินเดียไว้ที่ BBB- เมื่อวานนี้ โดย S&P แสดงความพึงพอใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองของอินเดีย และความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ดีขึ้นในอินเดีย แต่ S&P ตัดโอกาสในการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในปี 2016 และ 2017 เนื่องจากอินเดียมีฐานะการเงินภาครัฐอ่อนแอ และมีรายได้ต่อหัวอยู่ในระดับต่ำ

- หนังสือพิมพ์ไชน่า รีฟอร์ม เดลี่รายงานวานนี้ว่า บริษัทไชน่า เนชันแนล โคล กรุ๊ป คอร์ป (ChinaCoal) ซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหินของรัฐบาลรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของจีนรองจากเสิ่นหัว กรุ๊ป จะลดราคาถ่านหินthermal coal ลง 10 หยวน (1.48 ดอลลาร์) ต่อตันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะที่บริษัทคาดว่าการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาลดลง

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองยังคงดีดกลับได้ในช่วงท้ายตลาด หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศออกมาอ่อนแอกว่าคาดการณ์ ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่อย่างไรก็ตามราคาทอง เริ่มไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสั้นๆ ทำให้ควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเช่นกัน แต่คืนนี้ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ที่มีโอกาสทำให้ราคาทองคำผันผวนแรงได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.49% โดยปิดที่ 1,303.25 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,285.01 – 1306.04 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,301 เหรียญ ราคาทองได้ปรับลดลงในช่วงแรกไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 2 วันที่บริเวณ 1,285 เหรียญ แต่ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และตัวดัชนี PMI ภาคบริการที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ราคาทองดีดกลับในช่วงท้ายตลาด แต่อย่างไรก็ตามราคาเริ่มไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้น ทำให้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรมากขึ้น โดยในวันนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่มีนักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวดีกว่าเดือนก่อน ทำให้ต้องติดตามความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ และก่อนสัปดาห์การเลือกตั้ง

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานในวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 14 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์

• รัฐมนตรีน้ำมันของกลุ่มโอเปกจะประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อตกลงกันเรื่องการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน แต่นักลงทุนไม่มั่นใจว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้หรือไม่

• ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินสกุลสำคัญในวันพฤหัสบดีท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ผลสำรวจความเห็นชาวสหรัฐยังคงบ่งชี้ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน

• นายโอเล แฮนเวน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคารแซกโซกล่าวว่า "ความต้องการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงหนุนราคาทองให้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,300ดอลลาร์ในวันพุธ และราคาทองจะยังคงได้รับแรงหนุนต่อไป ตราบใดที่มีความไม่แน่นอนในผลการเลือกตั้งในสหรัฐ"

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบการอ่อนตัว

 

Smart Stock

Today Strategy:

ระวัง! ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

• S50Z16 เมื่อวานนี้เปิดตัวเเละเเกว่งออกข้างในลักษณะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าเเละช่วงบ่ายในกรอบแคบก่อนถูกเทขายในท้ายตลาดกดลงกว่า -9จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 13.70 จุด ด้านดัชนี SETหลักปรับตัวลงช่วงท้ายตลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง -2,064.6ลบ. มีปริมาณการซื้อขาย 54,419.22ลบ. ตลาดยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ มีเพียงการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนฯในไตรมาสสามที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์และกลุ่มพลังงานที่ทรงตัวสวนทางกับทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงเท่านั้นที่เป็นสองปัจจัยเข้ามาพยุงตลาดในช่วงเช้าเอาไว้ ขณะเดียวกันปัจจัยลบภายนอกก็ยังปกคลุมตลาดส่งผลให้ทั้งดัชนีหุ้นไทยเเละภูมิภาคปรับตัวลดลงจากการขายเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความไม่เเน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯหลังผลโพลล่าสุดคะแนนนิยมค่อนข้างใกล้เคียงกัน ฝ่ายวิจัยมองว่าสำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดการณ์ปริมาณการซื้อขายเบาบางโดยอาจมีเเรงขายกดดันตลาดเพื่อลดความเสี่ยงจากการถือสถานะลงทุนข้ามสัปดาห์ในช่วงที่มีปัจจัยภายนอกผันผวนทั้งการเลือกตั้งฯ, ราคาน้ำมันดิบและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC (Fischer) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐได้แก่ รายได้เฉลี่ยนอกภาคการเกษตร, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร, อัตราการว่างงานและดุลการค้าสหรัฐฯ

 

• แนะนำ : Wait&See ไม่ถือสถานะข้ามสัปดาห์หากราคาต่ำกว่าระดับ 1,490 จุด เปิดสถานะขาย (Short Position) หากรับความเสี่ยงได้

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย.

- ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนปรับลดลงรุนแรง

 

ข่าวในประเทศ

- ดัชนีความเชื่อมั่นฯลดลง : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนนับจากเดือน ก.ค.59 สะท้อนว่าประชาชนยังไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดยังอยู่ในระดับต่ำโดยเฉพาะราคาข้าวเปลือก ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรอยู่ระดับต่ำไปด้วยตามตัว

- ชงแผนตั้งกระดานสตาร์ทอัพ : ‘ตลาด’คาดเปิดเทรดปีหน้า ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมเสนอแผนตั้ง “กระดานสตาร์ทอัพ" กับ ก.ล.ต.สัปดาห์นี้ คาดได้ข้อสรุปรายละเอียดสิ้นปีหวังเปิดให้บริการซื้อขายไตรมาสสามปีหน้าชี้เปิดให้นักลงทุนเฉพาะกลุ่มเทรดก่อนเพราะมีความเสี่ยงสูง ยอมรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพยังคงมีความกังวลเรื่องการเปิดเผยข้อมูลทั้งนี้เตรียมหาช่องทางแก้ปัญหาให้ลุล่วงก่อนซื้อขาย

- งดแคมแปญสินเชื่อบ้าน : แบงก์รับทั้งปีอาจต่ำเป้าเล็กน้อย ยันไม่ขอมาตรการกระตุ้นเพิ่มด้านธอส.ขยายวงเงินกู้ดอกเบี้ย 0.63% อีก7.5พันล้านสินเชื่อบ้านชะลอตัวแบงก์งดแคมเปญกระตุ้นตลาด ในด้านธนาคารกรุงศรีฯคาดการณ์สินเชื่อบ้านหย่อนเป้าเล็กน้อยปล่อยกู้ใหม่ทั้งปีแค่6.4หมื่นล้านย้ำไม่ขอมาตรการกระตุ้นจากรัฐเพิ่ม ในด้าน ธอส.ขยายวงเงินสินเชื่อบ้าน 63 ปี เป็น 37,500 ล้าน

- กระทรวงการคลังเร่งประเมิน ‘ที่รายแปลง’คาดเสร็จปี60 : กรมธนารักษ์คาดประเมินที่ดิน 32 ล้านแปลงคาดการณ์แล้วเสร็จปี60 รองรับการบังคับใช้กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปัจจุบันประเมินที่ดินรายแปลงไปได้ 18.6 ล้านแปลงและเดินหน้าอบรมวิธิการคำนวณภาษีที่ดินตามกฎหมายใหม่ต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั่วประเทศเผยการปรับค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์จะมีผลในปีหน้าคาดสร้างรายได้หลักพันล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

พยายามยืนเหนือ 1,300 USD/toz

- ทองคำเปิดตลาดเอเชียซื้อขายในภาคเช้าบริเวณ 1,302 USD/toz โดยค่ำคืนที่ผ่านมาค่อนข้างเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงกว่า 15 USD/toz ต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้าวันนี้ทำให้ราคาปรับลดลงแม้มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนราคาทองคำพอสมควร ถือเป็นความผันผวนระดับหนึ่งหลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯและความผันผวนของราคาน้ำมันซึ่งทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและพันธบัตรมีความน่าสนใจมากขึ้นประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า ส่วนอีกปัจจัยที่น่าสนใจเมื่อวานนี้ได้แก่การที่กองทุน SPDR เข้าซื้อสุทธิทองคำกว่า 4.43 ตันในวันทำการวันเดียวถือว่าเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันที่มีนัยสำคัญต่อตลาดพอสมควรส่งผลให้ SPDR มียอดถือครองทองคำรวม 949.69 ตัน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนเช่น PMI, อัตราการจ้างงาน, ผู้ขอรับสวัสดิการ ฯ จะออกมาสนับสนุนให้ราคาทองคำเป็นบวกแต่ถือว่ายังไม่ได้รับความสนใจจากตลาดเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับประเด็นการเลือกตั้งและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับคำคืนนี้คาดการณ์ราคาทองคำมีความผันผวนสูงและให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ ดุลการค้า, อัตราการว่างงาน, การจ้างงานนอกภาคการเกษตรและรายได้เฉลี่ยนอกภาคการเกษตร

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- กังวลเลือกตั้งสหรัฐหนุนทองขยับขึ้น : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯปรับขึ้น 6.36 ดอลลาร์สู่ระดับ 1,303.25 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดีโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และจากความไม่แน่นอนเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ ตลาด COMEX ปิดลดลง 4.90 USD/toz ที่ 1,303.30 USD/toz และราคาโลหะเงินส่งมอบ เดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดตลาดลดลง 0.277 ดอลลาร์ ที่ 18.416 USD/toz ส่วนที ่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 7.40 ดอลลาร์ ที่ 994.40 USD/toz และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ ที่ 617.60 USD/toz

- ทองคำปิดลบครั้งแรกในรอบสามวันทำการ : ด้านราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันนักลงทุนทบทวนข่าวที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวจากยูโรโซนของสหราชอาณาจักรและแนวโน้มของโลหะมีค่าก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,303.30 USD/toz

- ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินสำคัญจากวิตกเลือกตั้งสหรัฐ : ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อเทียบกับ ตะกร้าเงินสกุลสำคัญในวันพฤหัสบดีท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแม้ผลสำรวจความเห็นชาวสหรัฐยังคงบ่งชี้ว่านางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรค รีพับลิกัน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.24% สู่ 97.163 หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ กว่า 3 สัปดาห์ที่ 97.041 ส่วนยูโรปรับตัวขึ้น 0.14% สู่ 1.1110 ดอลลาร์ และดอลลาร์ลดลง 0.37% สู่ 102.91เยนหลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ1เดือนที่102.56 เยน

- ตัวเลขสต็อกน้ำมันกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 1.5% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.5 % ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงได้รับผลกระทบจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์และนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถดำเนินมาตรก ารจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน ได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 68 เซนต์ หรือ 1.5 % มาปิดตลาดที่ 44.66 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนรุนแรง

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะซื้อ (Long Position) เมื่อราคาย่อตัวและไม่ถือสถานะข้ามสัปดาห์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

พยายามยืนเหนือ 1,300 USD/toz

- ทองคำเปิดตลาดเอเชียซื้อขายในภาคเช้าบริเวณ 1,302 USD/toz โดยค่ำคืนที่ผ่านมาค่อนข้างเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงกว่า 15 USD/toz ต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้าวันนี้ทำให้ราคาปรับลดลงแม้มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนราคาทองคำพอสมควร ถือเป็นความผันผวนระดับหนึ่งหลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯและความผันผวนของราคาน้ำมันซึ่งทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและพันธบัตรมีความน่าสนใจมากขึ้นประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า ส่วนอีกปัจจัยที่น่าสนใจเมื่อวานนี้ได้แก่การที่กองทุน SPDR เข้าซื้อสุทธิทองคำกว่า 4.43 ตันในวันทำการวันเดียวถือว่าเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันที่มีนัยสำคัญต่อตลาดพอสมควรส่งผลให้ SPDR มียอดถือครองทองคำรวม 949.69 ตัน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนเช่น PMI, อัตราการจ้างงาน, ผู้ขอรับสวัสดิการ ฯ จะออกมาสนับสนุนให้ราคาทองคำเป็นบวกแต่ถือว่ายังไม่ได้รับความสนใจจากตลาดเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับประเด็นการเลือกตั้งและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับคำคืนนี้คาดการณ์ราคาทองคำมีความผันผวนสูงและให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ ดุลการค้า, อัตราการว่างงาน, การจ้างงานนอกภาคการเกษตรและรายได้เฉลี่ยนอกภาคการเกษตร

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- กังวลเลือกตั้งสหรัฐหนุนทองขยับขึ้น : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯปรับขึ้น 6.36 ดอลลาร์สู่ระดับ 1,303.25 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดีโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และจากความไม่แน่นอนเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ ตลาด COMEX ปิดลดลง 4.90 USD/toz ที่ 1,303.30 USD/toz และราคาโลหะเงินส่งมอบ เดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดตลาดลดลง 0.277 ดอลลาร์ ที่ 18.416 USD/toz ส่วนที ่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 7.40 ดอลลาร์ ที่ 994.40 USD/toz และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ ที่ 617.60 USD/toz

- ทองคำปิดลบครั้งแรกในรอบสามวันทำการ : ด้านราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันนักลงทุนทบทวนข่าวที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวจากยูโรโซนของสหราชอาณาจักรและแนวโน้มของโลหะมีค่าก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,303.30 USD/toz

- ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินสำคัญจากวิตกเลือกตั้งสหรัฐ : ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อเทียบกับ ตะกร้าเงินสกุลสำคัญในวันพฤหัสบดีท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแม้ผลสำรวจความเห็นชาวสหรัฐยังคงบ่งชี้ว่านางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรค รีพับลิกัน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.24% สู่ 97.163 หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ กว่า 3 สัปดาห์ที่ 97.041 ส่วนยูโรปรับตัวขึ้น 0.14% สู่ 1.1110 ดอลลาร์ และดอลลาร์ลดลง 0.37% สู่ 102.91เยนหลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ1เดือนที่102.56 เยน

- ตัวเลขสต็อกน้ำมันกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 1.5% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.5 % ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงได้รับผลกระทบจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์และนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถดำเนินมาตรก ารจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน ได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 68 เซนต์ หรือ 1.5 % มาปิดตลาดที่ 44.66 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนรุนแรง

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะซื้อ (Long Position) เมื่อราคาย่อตัวและไม่ถือสถานะข้ามสัปดาห์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวลดลงในเช้านี้ หลังจากมีข่าวว่าผลการสืบสวนคดีของ FBI ต่อนางคลินตัน ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาใดๆ เพิ่มเติ่ม ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และราคาทองถูกกดดัน แต่อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสเป็นปัจจัยหนุนราคาทองได้ แต่ภาพระยะสั้นมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบการอ่อนค่าเล็กน้อย

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.04% โดยปิดที่ 1,303.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานศุกร์นี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,294.15 – 1306.61 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,291 เหรียญ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันในเช้านี้หลังจากผลการตัดสินของ FBI ต่อนางคลินตัน ยังยึดผลตามก่อนหน้า ทำให้ราคาทองปรับลดลงในเช้านี้ โดยในสัปดาห์ก่อนมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ยังเป็นแรงกดดันราคาทองต่อไป โดยสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญ คือความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทอง และให้ระมัดระวังความผันผวนที่มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบกว้างขึ้น

 

Exclusive News

• แหล่งข่าวกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า มีความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบียในการประชุมผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบียระบุว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันขึ้นได้อีกมาก เพื่อกดดันราคาให้ร่วงลง ถ้าหากรัฐบาลอิหร่านปฏิเสธที่จะจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสในวันศุกร์จากความวิตกก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.นี้ แม้ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าก็ตาม

• ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญร่วงลง1.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.

• ราคาทองในตลาดสปอตร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐและตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นหลังสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ระบุว่าFBI ยังคงยึดตามการค้นพบก่อนหน้านี้ที่ว่า ไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาใดๆต่อนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือรอสะสม long เมื่อราคาปรับลดลงแรง เพื่อลุ้นไปขายช่วงเลือกตั้ง

 

Smart Stock

Today Strategy:

ถือเงินสดไม่เสี่ยง

• ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว S50Z16 และดัชนี SET index ปรับตัวลงและค่อนข้างมีความผันผวนสูงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางมีปริมาณการซื้อขายเบาบางถือว่าเป็นการซื้อขายในภาวะที่ขาดปัจจัยหนุนในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองขายสุทธิในดัชนี SET หลักต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวบวกลบในกรอบแคบภายในวันผันผวนไปตามปัจจัยที่เข้ามากระทบสะท้อนความอ่อนไหวของนักลงทุนในตลาด แต่อย่างไรก็ตามถือว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคซึ่งปรับตัวลดลงค่อนข้างมากโดยเปรียบเทียบ ซึ่งก็มาจากหลากหลายปัจจัยได้แก่ 1.มีการประชุมธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลักถึงสามประเทศในช่วงหนึ่งสัปดาห์โดยมติที่ประชุมของ FED, BOJ, BOE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด 2.ประเด็นความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯสร้างความไม่เชื่อมั่นให้นักลงทุนในทิศทางของนโยบายเศรษฐกิจในอนาคตหลังมีการตั้งรัฐบาล 3.ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนปรับลดลงราว 14.72% ภายในสิบวันและกว่า -6.10% ตลอดสัปดาห์ที่แล้วกดดันกลุ่มพลังงานซึ่งถ่วงน้ำหนักมากในดัชนีหุ้นไทย ฯ ในด้านของปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นพิเศษในรอบสัปดาห์นี้ได้แก่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้(8 พ.ย.)ส่งผลให้เงินทุนมีแนวโน้มไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและพันธบัตรมากกว่าที่จะมีสถานะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นดัชนีหุ้น ดังนั้นฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางและอาจมีความผันผวน

 

• แนะนำ : Wait & See ไม่ควรเปิดสถานะลงทุนรับความเสี่ยงและให้ถือเงินสดรอความชัดเจนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย.

- การประชุม OPEC วันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- งบลงทุน ‘โลจิสติกส์’ เฉียดแสนล้านปีหน้า : สำนักงบประมาณเผยปี 2560 งบลงทุนด้านโลจิสติกส์กว่า 9.88 หมื่นล้านบาทผ่านโครงการลงทุนถนนมอเตอร์เวย์สามสาย การลงทุนโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน และลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสิบสายในกรุงเทพและปริมณฑล

- กลุ่มฟินเทคเล็งสินเชื่อบุคคล : ชมรมฟินเทคเร่งหารือสมาชิกสัปดาห์นี้ก่อนถกแบงก์ชาติหวัง ขจัอุปสรรคการปล่อยกู้ระหว่างบุคคลชี้เป็นแผนระยะที่สองหลังเข้าพบ ก.ล.ต. แก้กฎเกณฑ์เอื้อธุรกิจสตาร์ทอัพพร้อมเตรียมเดินหน้ารับฟังความเห็นกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตในปีหน้า

- จำนำข้าวเปลือกเจ้า-หอมจังหวัด ‘พาณิชย์’เสนอนบข.วันนี้-หวังช่วยชาวนาเท่าเทียม “เกษตร”คลอด ยุทธศาสตร์ห้าปีผลิตสอดคล้องบริโภค : “พาณิชย์” เสนอที่ประชุม นบข.วันนี้ เปิดจำนำยุ้งฉางข้าวเปลือกเจ้า-ข้าวหอมจังหวัด 90% จากราคาตลาด หวังช่วยชาวนาเท่าเทียมกัน หากที่ประชุมเห็นชอบดันเข้า ครม. 8 พ.ย.ทันทีขณะที่ “เกษตร” คลอดยุทธศาสตร์ห้าปีเล็งไทยเป็นศูนย์กลางค้าข้าวควบคุมการผลิตให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มศักยภาพส่งออกของประเทศ

- ธอส.’ชูเงินฝาก พ่วงพร้อมเพย์ ใช้ดอกเบี้ยจูงใจ : นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 3 ธนาคารมียอดเงินฝาก 7.9 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 8% จากสิ้นปีก่อนซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 7.7 แสนล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

โดนกดดันอีกครั้ง

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,291.51 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เริ่มมีแรงขายทำกำไรโดยราคาปรับลดลงโดยเคลื่อนไหวระหว่าง 1,283.12 – 1,295.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงตั้งแต่เปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้า และเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งวัน โดยปัจจัยที่กดดันราคาทอง คือ ความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ โดยจากความกังวลถึงการสอบสวนเรื่องการใช้อีเมลล์ส่วนตัวของนางคลินตัน โดย FBI นั้น ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ เพิ่มเติม ทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น และขายทำกำไรสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งทองคำ ทำให้ราคาทองคำโดนกดดันตลอดวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระมัดระวังความผันผวนของราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากผลโพลล์ของการเลือกตั้งได้แสดงให้เห็นถึงคะแนนเสียงที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทำให้มีโอกาสที่จะผิดคาดการณ์ได้ง่าย ดังนั้นนักลงทุนในช่วงนี้จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนตลอดทั้งสัปดาห์นี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์พุ่งขึ้นในวันนี้ ในขณะที่มีข่าวว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะไม่ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาทางอาญาในเรื่องการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัว โดยข่าวนี้ช่วยหนุนโอกาสของนางคลินตันในการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย.

- นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวในวันนี้ว่า กลุ่มโอเปกมีภาระผูกพันต่อข้อตกลงในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ในการประชุมที่กรุงแอลเจียร์สในเดือนก.ย.

- ราคาทองในตลาดสปอตร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐและตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นหลังสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ระบุว่า FBI ยังคงยึดตามการค้นพบก่อนหน้านี้ที่ว่า ไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาใดๆต่อนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตก่อนการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้

- ผลสำรวจของเอ็นบีซี-วอลล์ สตรีท เจอร์นัลที่ออกมาในวันอาทิตย์ระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนิยมเหนือนายโดนัลก์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันอยู่ราว 4%

- ผลสำรวจของเรียล เคลียร์ โพลิติกส์ระบุว่า ค่าเฉลี่ยจากโพลล์หลายสำนักแสดงให้เห็นว่า นางคลินตันมีคะแนนนิยมเหนือนายทรัมป์เพียง 1.8%

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนรุนแรง

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว โดยหากราคายังยืนเหนือ 1,280 เหรียญ แนะนำให้ trading long เพื่อลุ้นไปขายในช่วงวันเลือกตั้ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 8 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงแรงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยลดลงแรงกว่า 1.75% โดยโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ดีดกลับได้จากประเด็นที่นางคลินตันกลับมามีโอกาสมากขึ้นในการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางเราแนะนำให้ลดสถานะการลงทุนในช่วงนี้ เพราะคาดว่าราคามีโอกาสจะแกว่งผันผวนแรงในช่วงใกล้การประกาศผล และอาจจะตรงกับเวลาที่ตลาดไทยปิดทำการ โดยแนะนำให้กลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังจากผลการเลือกตั้งชัดเจน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 22.87 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -1.75% โดยปิดที่ 1,280.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานศุกร์นี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,277.70 – 1,295.80 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,283 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงแรงโดยปรับตัวลดลงแรงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากโอกาสที่นางคลินตันมีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอยากให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรลดสถานะการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน เพราะคาดว่าสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกมีโอกาสแกว่งผันผวนทั่วโลก โดยการเลือกตั้งจะเริ่มขึ้นในเวลาเที่ยงวันของบ้านเรา โดยคาดว่าช่วงแรกในการเลือกตั้งตลาดจะยังไม่ผันผวนมากหากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด และคาดว่าราคาจะเริ่มแกว่งผันผวนในช่วงที่ผล exit polls ประกาศซึ่งจะตรงกับเช้าวันพุธที่ในเวลาตลาดไทยยังไม่เปิดทำให้นักลงทุนควรลดการถือครองสถานะเพื่อลดความเสียงของพอร์ทการลงทุน

 

Exclusive News

• โพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.7%

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์หลังสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตจะเผชิญกับข้อหาอาญาเกี่ยวกับกรณีการใช้เซอร์เวอร์อีเมลส่วนตัว ซึ่งเพิ่มโอกาสที่นางคลินตันจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันอังคารนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลงในวันจันทร์ โดยร่วงลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์และตลาดหุ้นทะยานขึ้นรับข่าวที่ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตจะไม่เผชิญคดีอาญาเกี่ยวกับการใช้เซอร์เวอร์อีเมลส่วนตัวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันอังคารที่ 8 พ.ย.นี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading long ในกรอบการรีบาวน์ แต่หากราคาหลุด 1,278 เหรียญให้ถือเงินสดรอความชัดเจนประกาศผลการเลือกตั้ง

 

Smart Stock

Today Strategy:

ลุ้นผลเลือกตั้งสหรัฐฯ

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50Z16 เมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้นตลอดวันเรียกว่าซื้อเรื่อยๆ ปิดตลาดปรับตัวบวก +11.70 จุด ที่ระดับ 937.2 จุด เช่นเดียวกับดัชนี SET index ซึ่งปิดปรับตัวยืนเหนือ 1,500 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 52,704.11 ลบ. ถือว่าไม่มากไม่น้อยในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย -722.69 ลบ.คงมุมมองเดิมราวสี่สิบวันที่ผ่านมา ซึ่ง SET index และ S50Z16 ยังคงถือว่าปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกที่ตอบรับการเก็งผลการเลือกตั้งสหรัฐฯที่นางฮิลลารีกลับมามีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายทรัมป์หลังจากที่ FBI ไม่ชี้มูลความผิดกรณีการใช้อีเมลส่วนตัวเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติทำให้ตลาดออกมาตอบรับค่อนข้างดีโดยดัชนีหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นราว 2% พร้อมทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นลักษณะ Contango (ราคาฟิวเจอร์สูงกว่าราคา spot) ซึ่งเป็นมุมมองบวกต่อแนวโน้มในอนาคต, ค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นเหนือ 97.50 รวมทั้งเงินทุนที่มีการไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งทองคำและพันธบัตรรัฐบาลโดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลหลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยอาจได้รับปัจจัยบวกจากกองทุนซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่พยุงตลาดไว้ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่โอเปกยืนยันว่าจะปฏิบัติตามมติการลดอุปทานการผลิตน้ำมันหลังจากที่ตลาดมีภาวะอุปทานส่วนเกิน (Excess Supply : อุปทานมากกว่าอุปสงค์)

 

• แนะนำ : ฝั่ง“ซื้อ”(Long Position) ยังคงได้เปรียบหาก SET หลักยืนเหนือ 1,500 จุดได้, หากไม่รับความเสี่ยงให้รอความชัดเจนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯชัดเจนก่อนจึงเข้าเปิดสถานะลงทุน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ

- การประชุม OPEC วันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- สศค. แนะนำไทยเร่งปรับตัวขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว : สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มลดต่ำกว่าในอดีตที่เคยขยายตัวในระดับกว่า 10% คาดว่าปีนี้จะขยายตัว 6.7% ต่ำกว่าปีที่แล้วขยายตัว 6.8% ทั้งนี้ธนาคารโลกได้ประเมินว่าจากนี้จนถึงปี 2573 เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 5.5% คาดว่าจากนี้ไปเศรษฐกิจจีนน่าจะขยายตัวในระดับที่ต่ำลง ไทยจึงต้องปรับตัวสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน ให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้นและพยายามสร้างตลาดส่งออกใหม่ๆ เช่น กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 10.4% ของการส่งออกทั้งหมด ใกล้เคียงกับจีนที่ไทยส่งออกคิดเป็น 11% โดยเศรษฐกิจภายในประเทศยังเข้มแข็งทุนสำรองอยู่ในระดับสูง ภาคการคลังมีเสถียรภาพและระยะยาวไทยกำลังปรับประสิทธิภาพการผลิตในประเทศเน้นไปยัง 10 อุตสาหกรรมใหม่ที่มีคำขอการลงทุนแล้วคิดเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านบาทหรือ 43% ของมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่ยื่นขอบีโอไอปีนี้

- กระทรวงพาณิชย์ชะลอนำเข้าข้าวสาลีแก้ข้าวโพดในประเทศราคาตก : แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ซึ่งมีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ได้มีมติที่จะออกมาตรการชะลอการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 8 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ทองคำโดนกดดัน

- ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,283 USD/toz แกว่งตัวลดลงในกรอบแคบในช่วงเช้าประมาณ 3 USD/toz ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงบ่ายที่ 1,285 USD/toz โดยภาพรวมทองคำมีแรงซื้อกลับเข้าตลาดตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนหลังจากที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงเมื่อวานนี้ในช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทยจากแรงขายหลังจากที่ FBI ไม่ชี้มูลนางฮิลลารีกรณีใช้อีเมลส่วนตัวทำให้มีแรงซื้อกลับเข้าในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและค่าเงินดอลลาร์ให้ปรับตัวแข็งค่า (USD index > 97.50) พร้อมกดดันค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ในขณะที่มีแรงขายในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและพันธบัตร ซึ่งกดดันราคาทองคำไม่ให้ยืนเหนือ 1,300 USD/toz หลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนที่ 1,305 USD/toz ปัจจัยหนึ่งที่น่าสังเกตุคือ SPDR ยังคงสถานะถือครองตามเดิมไม่เปลี่ยนเเปลงที่ 949.69 ตัน เเต่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าอาจมีความเคลื่อนไหวของ SPDR หลังสิ้นสุดการเลือกตั้งสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งสำหรับการซื้อขายในช่วงค่ำแนะนำให้ถือเงินสดรอผลการเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อนดีกว่า เพราะในค่ำคืนนี้ถือว่าไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดจะมีความสำคัญกว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐฯแล้ว

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นทั่วโลกขึ้นรับฮิลลารี นั่งประธานาธิบดีสหรัฐ : ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ยืนยันว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตไม่มีความผิดคดีอาญา ในกรณีที่นางฮิลลารีใช้อีเมลส่วนตัวเพื่อรับและส่งข้อความในขณะที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศสหรัฐก่อนที่จะเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติหรือกระแสฟันโฟลว์โยกเงินจากสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ทองคำแล้วหันไปลงทุนในตลาดหุ้นในตลาดต่าง ๆ และดอลลาร์สหรัฐเพิ่มมากนัก เพราะมั่นใจว่า นางฮิลลารีน่าจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง

- ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 28 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 2.19% ปิดที่ระดับ1,303 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์โดยได้ปัจจัยบวกที่เข้ามากระทบได้แก่ รายงานการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ ปรับลดลงผิดคาดในเดือน ก.ย. + รายงานจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับเพิ่มขึ้น รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ประจำเดือน ต.ค.ปรับเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด รวมถึงดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวลดลงและต่ำกว่าคาดในเดือน ต.ค. และความกังวลผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เริ่มมีความไม่แน่นอนหลังคะแนนนิยมของนายทรัมป์ เริ่มตีตื้นเข้าใกล้นางฮิลลารี จากข่าว FBI เตรียมรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัวของนางฮิลลารี

- สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 (ครั้งที่ 1) เมื่อเวลา 09.22 น.ราคาลดลง 50 บาท ทองแท่งรับซื้อบาทละ 21,200.00 บาท ขายออกบาทละ 21,300.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 20,814.68 บาท ขายออกบาทละ 21,800.00 บาท

- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งแตะระดับ 9.42 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้วซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1972 โดย EIA ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน และEIA ยังระบุว่าราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงได้ทำให้กิจกรรมการผลิตน้ำมันลดลงจากระดับ 9.63 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.ปีที่แล้วสู่ระดับ 8.74 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค.ปีนี้ ทั้งยังเปิดเผยว่า เท็กซัส, อ่าวเม็กซิโก และนอร์ทดาโกต้าเป็นแหล่งที่มีการผลิตน้ำมันมากที่สุดในปีที่แล้วโดยคิดเป็นสัดส่วน 77% ของการผลิตทั่วสหรัฐฯ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

 

คำแนะนำ : “Cash is King” ถือเงินสดรอผลการเลือกตั้งชัดเจนแล้วค่อยเปิดสถานะลงทุน 1.กรณีฮิลลารีชนะการเลือกตั้งมีแนวโน้มที่ทองคำจะถูกเทขาย 2.กรณีทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเงินทุนจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำและพันธบัตรทำให้ทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตาม

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...