ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 18ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มมีแรงซื้อ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,256.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยแกว่งระหว่าง 1,254.40 – 1,262.43 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงหลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน ETF ที่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาและทำให้ราคาแกว่งตัวเหนือบริเวณ 1,250 เหรียญได้ และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแกว่งเหนือบริเวณ 1,260 เหรียญ และในช่วงกลางสัปดาห์นี้ต้องติดตามการโต้วาทีครั้งสุดท้ายของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งจริงในสัปดาห์หน้า โดยหากนายทรัมป์ ทำได้ดีกว่าเดิมอาจจะช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน และในคืนนี้มีตัวเลขเงินเฟ้อที่ต้องติดตาม ซึ่งจากตัวเลขคาดการณ์แล้วนั้นมีแนวโน้มที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อนซึ่งหากมีการประกาศมาผิดคาดอาจจะช่วยให้ราคาทองผันผวนได้ ซึ่งหากราคาทองปรับตัวเหนือ 1,265 เหรียญได้ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบสองสัปดาห์อาจจะเห็นการรีบาวน์ได้ต่อ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายโรแลนด์ หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายจีนใน WGC กล่าวต่อรอยเตอร์ว่า "เราเชื่อว่าจีนอาจจะใช้ทองราว 900-1,000 ตันต่อปี (ในปี 2017) แต่อุปสงค์ทองอาจจะเผชิญอุปสรรคบางประการ โดยเฉพาะในภาคเครื่องประดับ และเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับราคาทองและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในจีนเองด้วย" นายหวังคาดว่า อุปสงค์ทองในจีนในปี 2016 อาจจะอยู่ที่ราว 900-1,000 ตันเช่นกัน โดยเทียบกับระดับ 984.5 ตันในปี 2015

- บริษัทมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ (NIRP) โดยธนาคารของญี่ปุ่นจะมีความสามารถในการทำกำไรลดลงเพียงจำกัด ส่วนผลกระทบมากที่สุดจาก NIRP ต่อความสามารถในการทำกำไรนั้นมาจากเงินกู้ spread loan ซึ่งธนาคารระดับภูมิภาคมีความเสี่ยงมากกว่า

- นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดใกล้มากที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและภาวะเงินเฟ้อ และเขากล่าวเตือนว่า ไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนกรอบการทำงานด้านนโยบายอย่างเร่งรีบเกินไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ราคาทองมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2017 ในขณะที่อุปสงค์ในทองจริงฟื้นตัวขึ้น และปัจจัยนี้ช่วยชดเชยแนวโน้มในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (พิจารณา USD index)

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐ

- การโต้วาทีของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งสุดท้าย

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบ หรือ รอ follow long เมื่อราคา breakout

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง หลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุน แต่ยังคงแกว่งในกรอบการเคลื่อนไหวเดิม โดยในเดือนนี้กองทุน SPDR มีการเข้าซื้อทองคำประมาณ 20 ตัน ซึ่งมีโอกาสช่วยหนุนราคาทองให้ดีดกลับได้บ้างโดยหากผ่าน 1,265 เหรียญอาจจะมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.56% โดยปิดที่ 1,262.24 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,254.30 – 1,264.78 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,263 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเป็นวันที่สองทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้บ้าง หลังจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มมีความกังวลมากขึ้น แต่เมื่อวานนี้มีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การปรับขึ้นดอกของสหรัฐฯ ยังคาดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นสูงในช่วงปลายปีนี้ และเช้านี้มีตัวเลข GDP ของจีนที่ประกาศออกมาที่ 6.7% ตามคาดการณ์ ส่วนในคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยและรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทางด้านกองทุน SPDR ไม่ได้มีการซื้อเพิ่มเติมในเมื่อวานนี้ แต่ในช่วงเดือนนี้มีการซื้อสะสมค่อนข้างมาก ทำให้ลุ้นรีบาวน์ต่อได้หากราคาสามารถผ่าน 1,265 เหรียญไปได้

 

Exclusive News

• นายจอห์น คิลดัฟ หุ้นส่วนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์อะเกน แคปิตัลกล่าวว่า "ถ้าหากสต็อกน้ำมันดิบลดลง นี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่เข้าใจได้ยากเพราะว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันที่ระดับต่ำในปัจจุบันนี้น่าจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น" อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันในสหรัฐปรับลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.ย.

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันอังคารเป็นวันที่สองติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากการแข็งค่าของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา และทำการประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่

• การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมารวมถึงยอดค้าปลีกที่น่าผิดหวัง ทำให้นักลงทุนขายดอลลาร์ออกมาเพื่อทำกำไรส่วนข้อมูลที่เปิดเผยในวันอังคารบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือนใน เดือนก.ย. ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 97.890

• ตลาดจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า อีซีบีจะคงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบ หรือ รอ follow long เมื่อ breakout

 

Smart Stock

Today Strategy:

กำลังสร้างแนวโน้มระยะสั้นใหม่

• S50Z16 ซื้อขายเมื่อวานแกว่งตัวในกรอบออกข้างประมาณ 9-10 จุด ยังไม่สามารถหาทิศทางที่ชัดเจนได้ เหมือนมีความพยายามจะสร้างแนวโน้มระยะสั้นใหม่อยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดมีความผันผวนรุนแรงนักลงทุนอาจยังขาดความเชื่อมั่นในการถือสถานะการลงทุน ด้านดัชนี SET หลักปิดบวก +0.001% มีกรอบการแกว่งประมาณ 13 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 57,714 ล้านบาท ลดลงจากหนึ่งแสนล้านบาทแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนหลังตลาดมีความผันผวนสูงโดย Fund Flow ยังคงไหลออกต่อเนื่อง นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ -2,366.21 ล้านบาท ด้านตลาดสหรัฐเมื่อคืนปิดบวกคาดได้รับแรงหนุนจากการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐซึ่งอย่างไรก็ดีถือว่าเคลื่อนไหวแคบๆเช่นกัน ประกอบกับการประกาศตัวเลขดัชนีผู้บริโภคสหรัฐเมื่อคืนซึ่งประกาศต่ำกว่าคาดการณ์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถือว่ายังแข็งค่าอยู่แม้จะย่อตัวลงไปบ้างโดยพิจารณาจาก USD index ซึ่งพึ่งจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบเจ็ดเดือน ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามคือการดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ, จำนวนใบอนุญาตสร้างอาคารใหม่, สต็อกน้ำมันดิบ

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบไม่ถือสถานะข้ามคืน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- สมาชิก FOMC สหรัฐเสียงแตกกรณีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

- การดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่สามวันนี้

- Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม

 

ข่าวในประเทศ

- "เครือ ปตท." เตรียมออกมาตรการคุมเข้มผู้บริหารซื้อ-ขายหุ้น นอกไซเลนท์พีเรียด หวังเพิ่มธรรมาภิบาล สร้างความโปร่งใสในองค์กร โดยเปิดเผยถึงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในกลุ่ม ปตท.ว่า ปตท.เตรียมออกมาตรการให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม ปตท.หลีกเลี่ยงการซื้อขายหุ้นในกลุ่มบริษัท ปตท.นอกระยะเวลาการห้ามซื้อขายหุ้น (silent period) แต่หากมีความจำเป็น จะต้องแสดงเจตนารมณ์ที่ต่อเลขานุการของบริษัทก่อนดำเนินการล่วงหน้า 2-3 วัน เพื่อแสดงถึงความโปร่งใส เนื่องจากผู้บริหารมักจะถูกจับตามองว่าเป็นผู้รู้ข้อมูลภายในซึ่งเสี่ยงต่อกรณีการเข้าข่ายใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (inside trading)

- นายกรัฐมนตรีสั่งหน่วยงานรัฐ ช่วยชี้แจง-สร้างความเชื่อมั่นประชาชนต่อภาวะเศรษฐกิจประเทศ ย้ำมาตรการขับเคลื่อนยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยที่รัฐบาลมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง จากมาตรการขับเคลื่อนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนทั่วประเทศ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ทองคำจะยืนไหวไหม

- ราคาทองคำเปิดตลาดซื้อขายในช่วงเช้าแกว่งในกรอบ 1,260-1,265 USD/toz จะเห็นได้ว่าราคาสามารถทะลุกรอบราคาเดิมบริเวณ 1,260 USD/toz ที่แกว่งตัวอยู่ราวหนึ่งสัปดาห์ในกรอบแคบ แต่ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปแกว่งตัวยืนเหนือกรอบราคาใหญ่ที่เหนือ 1,265 USD/toz ได้ในช่วงเช้า (ในช่วงบ่ายมีความพยายามดีดตัวขึ้นไปเหนือ 1,265 USD/toz ) โดยทองคำมีความพยายามสร้างฐานราคาที่ 1,250-1,260 USD/toz อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกที่มีต่อทองคำได้แก่ 1.SPDR ซื้อสุทธิตลอดเดือนที่ผ่านมาเหมือนจะสะสมทองคำ ณ ระดับราคาในกรอบ 1,250 – 1,260 USD/toz ซึ่งทำให้ราคาบริเวณนี้เป็นจุดน่าสนใจในการตัดสินใจถือสถานะการลงทุน 2. เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องซึ่งทำให้ทองคำดูน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่ปัจจัยที่ไม่เอื้อต่อราคาทองคำได้แก่ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่มีแนวโน้มว่านางฮิลลารี่จะมีชัยซึ่งเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง ในณะเดียวกันก็กดดันราคาทองคำลดลงรวมทั้งราคาน้ำมันที่ผันผวนต่อเนื่อง ในค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขขออนุญาตสร้างบ้านใหม่, ตัวเลขการเริ่มก่อสร้างบ้านใหม่, น้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์และรายงานภาวะเศรษฐกิจ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวขึ้น หลังบริษัทจำนวนมากรายงานรายได้แข็งแกร่ง ประกอบกับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป จะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป, ขณะที่ในยุโรปนั้น ดัชนีหุ้นทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี จะเปิดประชุมในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไว้เหมือนเดิม และอาจมีการอัดฉีดเพิ่มเติมในเดือนธ.ค. ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้นเช่กัน จากการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน จะควบคุมปริมาณการผลิต แม้จะมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันก็ตาม

- ราคาทองคำในวันอังคาร (18 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,262.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 35 เซ็นต์ ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 16 เซ็นต์ ปิดที่ 51.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- ผู้ค้ารับซื้อขายทองคำซบเซา คนไม่มีกะจิตกะใจจับจ่าย นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ภาวะการซื้อขายทองคำหน้าตู้จะกลับมาคึกคักและต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี เนื่องจากเกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวผลิตผลการเกษตรและมีรายได้จากการขายสินค้า อีกทั้งช่วงที่เหลือของปีจะเริ่มมีเทศกาลงานบุญ งานกฐิน งานบวชและงานแต่งทำให้ประชาชนมาซื้อเครื่องประดับเพื่อสวมใส แต่หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต ทำให้ประชาชนไม่มีแก่ใจหรือไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอยซื้อเครื่องประดับ “แม้มีประชาชนต่างจังหวัดเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครจำนวนมาก แต่ไม่ได้แวะมาที่เยาวราชเพื่อซื้อทอง แม้ช่วงนี้ราคาทองคำแท่งขายออกจะลดลงมาต่ำอยู่ที่บาทละ 21,000 บาท เพราะทุกคนต่างมุ่งไปที่พระบรมมหาราชวังเพื่อถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัย

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (พิจารณา USD index)

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐ

- การดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่สามก่อนการเลือกตั้งจริง

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะซื้อ long position เป็นหลัก เมื่อราคาย่อตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 20 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวาน ภายใต้ปัจจัยต่างๆ กดดันราคาทองคำอย่างไรก็ดีถือว่าทองคำมีอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ร่วงลงรุนแรงและมีความพยายามสร้างฐานราคาที่แข็งแกร่งในกรอบช่วง 1,250-1,265 USD/toz ฝ่ายวิจัยแนะนำเปิดสถานะซื้อ (Long Position) เป็นหลักเมื่อราคาย่อตัว แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,265 USD/toz ให้ปิดสถานะถือเงินสดและรอความชัดเจน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวาน (19 ต.ค.) สามารถทะลุระดับราคาสำคัญซึ่งเป็นกรอบราคาที่ทองคำไม่สามารถทะลุขึ้นไปซื้อขายได้ตลอดเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราวสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งการที่ทองคำสามารถขึ้นไปซื้อขายเหนือระดับ 1,265 USD/toz ได้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าทองคำอาจสามารถฟื้นตัวยืนเหนือ1,265 USD/toz ได้ แม้โดยภาพรวมของตลาดทองคำโลกในช่วงนี้จะไม่มีปัจจัยใดที่เป็นบวกต่อราคาทองคำเลยก็ตาม ตั้งแต่ 1.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 2.คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่มีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นสูงซึ่งจะส่งผลลบต่อทองคำ 3.คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งคาดว่านางฮิลลารี่จะมีชัยเหนือนายทรัมป์ อันจะเป็นผลให้เงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงและกดดันราคาทองคำต่อไป

 

Exclusive News

• บอนด์ยิลด์ทรงตัว : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพุธ ขณะที่ดีลเลอร์ซื้อและขาย พันธบัตรรัฐบาลเพื่อประกันความเสี่ยงหลักทรัพย์ที่พวกเขาทำอันเดอร์ไรท์ไว้ หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้ขายพันธบัตรโลกครั้ง แรกเป็ประวัติการณ์ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดที่ 97-196/256 โดยมีผลตอบแทน 1.7485% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดที่ 94-144/256 โดยมีผลตอบแทน 2.51 %

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น : 6 .66 ดอลลาร์ สู่ 1,268.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากขึ้นไปแตะจุด สูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,273.34 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองปรับขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และสามารถพุ่งขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 1,266.60 ดอลลา ร์ได้สำเร็จ ในขณะที่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอก เบี้ยเมื่อใด และนักลงทุนรอดูการโต้วาทีนัดสุดท้าย ระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 7.00 ดอลลาร์ ที่ 1,269.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดตลาดบวก 0.025 ดอลลาร์ ที่ 17.663 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 3.00 ดอลลาร์ ที่ 943.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 3.90 ดอลลาร์ ที่ 635.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : เปิดสถานะซื้อ (Long Position) เป็นหลักเมื่อราคาย่อตัว หากหลุดต่ำกว่า 1,265 USD/toz ให้ปิดสถานะถือเงินสด

 

Smart Stock

Today Strategy:

พยายามสร้างฐานราคา

• S50Z16 เมื่อวานนี้มีแรงซื้อเข้ามาหนุนดัชนีเล็กน้อยดันดัชนีไปปิดบวกที่ 939.7 จุด หรือบวกราว +6.5 จุด ถือว่าแกว่งตัวในแดนบวกพอประมาณ ด้านดัชนี SET หลัก ปิดบวก +0.59% โดยมีสถาบันเข้ามาซื้อสุทธิ 3,173.7 ล้านบาท หนุนตลาดไว้ ในขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 2,557.8 ล้านบาท ต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปริมาณการซื้อขายรวมที่ 58,923.67 ล้านบาท ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับดัชนีหุ้นไทยในภาวะเช่นนี้ ในส่วนประเด็นที่ต้องสนใจเป็นพิเศษได้แก่ กรณี Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องตลอดเดือนจากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งส่งผลให้ปริมาณเงินไหลเข้าสู่ดอลลาร์ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและ Fund Flow ไหลออกจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ในส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในวันนี้ได้แก่ การดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งสุดท้าย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เเละการเเถลงต่อสื่อของ ECB

 

• แนะนำ : เน้นสถานะซื้อ (Long Position) เมื่อดัชนีย่อตัวเป็นหลักหากหลุดกรอบให้ Follow Buy ถ้ารับความเสี่ยงได้, ไม่ถือสถานะข้ามคืน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม(เมื่อวานยังขายสุทธิต่อเนื่อง)

- การดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่สาม

- สมาชิก FOMC สหรัฐเสียงแตกกรณีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

ข่าวในประเทศ

- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการห่วงปัจจัยภายนอก : นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 84.8 เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 83.3 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากมีคำสั่งซื้อทั้งในและจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนยานยนต์เครื่องสำอาง อาหารและยาโดยเฉเพาะอาหารทะเลแปรรูป

- ก.ล.ต. พร้อมออกหลักเกณฑ์เอื้อธุรกิจ "FinTech" : ก.ล.ต. กำลังอยู่ระหว่างศึกษาการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ที่จะเอื้อต่อการนำ “FinTech" มาใช้ในตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกใบอนุญาต ขอบเขตการทำธุรกรรมและประโยชน์ที่ผู้ใช้บริการจะได้รับ โดยสิ่งที่สำนักงาน ก.ล.ต. จะให้ความสำคัญคือความทันสมัยของหลักเกณฑ์ที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเกิดขึ้นของ “FinTech" รวมถึงการดูแลระบบความปลอดภัยที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับใช้ผู้บริการด้วย

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 20 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ยังแกว่งอยู่ด้านบน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,269.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ปรับตัวอยู่ในกรอบด้านบนโดยแกว่งระหว่าง 1,267.84 – 1,273.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบด้านบนหลังจากราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,250 – 1,265 เหรียญตลอดเกือบสองสัปดาห์ โดยเมื่อคืนนี้มีรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) ยังคงระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมายังมีแนวโน้มเป็นบวก ทางด้านปัจจัยที่คาดว่ามีโอกาสหนุนราคาทองคำได้คือ ผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่นายทรัมป์เริ่มมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้น รวมทั้ง นาง คลินตันที่มีคะแนนเสียงลดลง โดยผลสำรวจล่าสุดอยู่ที่ 43% ของนายทรัมป์ และ 47% ของนางคลินตัน รวมทั้งคืนนี้ติดตามทางด้าน ECB เรื่องอัตราดอกเบี้ย และนโยบายทางการเงินที่ทางเรายังให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ย และคงนโยบายทางการเงินเช่นเดิม ซึ่งถ้าหากไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาผิดคาดการณ์นั้น อาจจะใช้ประเด็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะช่วยหนุนราคาทองได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สโมสรโลทอสว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดำเนินไปตามปกติ ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดจากหนึ่งในเจ้าหน้าที่เฟดที่มีอิทธิพลมากที่สุด

- ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแสดงความเห็นของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ว่าจะบ่งชี้ในการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้หรือไม่ว่า อีซีบีจะเริ่มปรับลดโครงการซื้อพันธบัตร

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีแนวโน้มที่จะตรึงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ แต่อีซีบีมีแนวโน้มที่จะปูพื้นฐานไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. ในขณะที่อีซีบีพยายามที่จะทำให้ราคาผู้บริโภคดีดตัวขึ้นอย่างยั่งยืน

- เยอรมนีและฝรั่งเศสกดดันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียให้ขยายเวลาในการหยุดพักการโจมตีทางอากาศในซีเรีย และให้ระงับ "การก่ออาชญากรรม" ด้วยการทิ้งระเบิดใส่พลเรือน แต่เยอรมนีและฝรั่งเศสระบุว่า การเจรจา 4 ฝ่ายเพื่อยุติความรุนแรงในภาคตะวันออกของยูเครนมีความคืบหน้าบางประการ

- นายคาร์โล แอลเบอร์โต เด คาซา หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทแอคทีฟเทรดส์กล่าวว่า "ราคาทองได้รับแรงหนุนเป็นอย่างดีจากปัจจัยทางเทคนิคเหนือระดับ 1,250 ดอลลาร์ และการที่ราคาทองพุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับ 1,270 ดอลลาร์ในวันพุธ ถือเป็นการส่งสัญญาณในทางบวก ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในสหรัฐ และก่อนที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค."

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (พิจารณา USD index)

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐ

- การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายังเคลื่อนไหวด้านบน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวลดลงหลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องจากตัวเลขยอดขายบ้านมือสองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยและคงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป แต่อย่างไรก็ตามความต้องการทองคำยังดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดีในเดือนนี้ ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสดีดกลับได้ หลังจากราคาปรับตัวลดลงแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.24% โดยปิดที่ 1,265.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,264.35 – 1,273.82 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,264 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจาก การที่ธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ย และคงอัตราวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรที่ 1.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขการขายบ้านมือสองที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากอ่อนแอต่อเนื่องกัน 2 เดือนก่อนหน้า ทำให้ทองคำมีแรงขายออกมา แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขความต้องการทองของ SPDR ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเมื่อวานนี้ซื้อเพิ่มอีก 2.96 ตัน รวมถือทองคำ 970.1 ตัน และมีตัวเลขรายงานการถือครองทองคำของประเทศรัสเซียที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 49.1 ล้านทรอยออนซ์ในต้นเดือน ต.ค. เป็น 49.6 ล้านทรอยออนซ์ ทำให้คาดว่าทองคำมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ถึงแม้จะถูกกดดันโดยค่าเงินดอลลาร์ก็ตาม

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 2.3 % ในวันพฤหัสบดีในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันเพิ่งพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 15 เดือนที่ 51.93ดอลลาร์ในวันพุธ

• ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีและดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดโอกาสสำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในเดือนธ.ค.

• นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีเปิดกว้างสำหรับทางเลือกต่างๆ และย้ำการคาดการณ์ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นจากการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ซึ่งเท่ากับเป็นการปฏิเสธข่าวที่ว่า อีซีบีจะปรับลดโครงการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 1.7 ล้านล้านยูโร (1.9 ล้านล้านดอลลาร์)

• ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คที่ระบุในวันพุธว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบ โดยเน้นฝั่ง long เมื่อย่อตัว

 

Smart Stock

Today Strategy:

สร้างแนวโน้มในภาวะเปราะบาง

• S50Z16 เมื่อวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้าแต่ถือว่าเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด 4 จุดเท่านั้น ในขณะที่ดัชนี SET หลักปิดบวกที่ 1,492.73 จุด บวก+6.45 จุด ปริมาณการซื้อขาย 51,214.62 ล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากนักลงทุนสามกลุ่มหลักได้เเก่ สถาบัน, บัญชีบล.และต่างชาติ กลับมามีมุมมองบวกต่อตลาดซื้อสุทธิสวนทางกับรายย่อยที่ขายสุทธิ 2,929.8 ล้านบาท คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยได้รับเเรงหนุนเล็กน้อยจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันทำจุดสูงสุดที่ 52.67USD/bbl แต่ก็มีปัจจัยลบได้แก่ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสูงสุดในวันที่ 35.01 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังได้รับผลกระทบทางตรงที่ดอลลาร์เเข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเจ็ดเดือนอีกครั้งที่ USD index = 98.32 จากคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ในขณะที่ประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มมีความชัดเจนที่ฮิลลารี่จะมีชัยเหนือทรัมป์ในการเลือกตั้งหลังการดีเบตครั้งที่สามตอกย้ำความชัดเจนดังกล่าวซึ่งก็เป็นเเนวโน้มที่ตลาดคาดการณ์เเต่ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนเท่าใดเมื่อพิจารณาจากดัชนีหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกไม่มากถือว่าไม่มีนัยสำคัญ เเต่เหมือนอารมณ์ตลาดจะไปลงที่ทองคำซึ่งปรับลดลงมาที่ 1,264 USD/toz หลังมีความพยายามทะลุกรอบซื้อขายเดิมที่เเกว่งตัวราวสองสัปดาห์ 1,250-1,260 USD/toz เเต่อย่างไรก็ดีด้านทองคำยังมีเเรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุน SPDR ซึ่งซื้อทองสุทธิ 2.96 ตันเมื่อวานนี้ถือว่ามีปริมาณการถือครองทองคำสูงที่สุดนับตั้งเเต่ มิถุนายน 2556 คาดการณ์ดัชนียังสามารถไปต่อได้เพราะยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่เป็นลบต่อตลาดมากนักเเต่ให้ระวังอารมณ์ของนักลงทุนที่ยังเปราะบางอยู่

 

• แนะนำ : เปิดสถานะซื้อเมื่อย่อตัวและไม่ถือสถานะข้ามวัน, ระวังอารมณ์ของนักลงทุนที่ยังเปราะบางอยู่

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเจ็ดเดือนที่ (USD index=98.32)

- ติดตามน้ำมันดิบซึ่งราคาผันผวนรุนแรง +/- 2% ในวันซึ่งอาจกระทบกลุ่มพลังงานในดัชนี SET

 

ข่าวในประเทศ

- นายกฯ จี้หน่วยงานเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแผน : มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ตั้งกลไกใหม่ลงปลุก 7 พื้นที่ให้คึกคัก ด้านกระทรวงการคลังเร่งเอกชนลงทุนในสิ้นปีนี้เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดันงบลงทุนไตรมาสแรกปีงบ 2560 ได้ตามเป้า 1 แสนล้านบาท ด้านกระทรวงอุตฯมั่นใจเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้า, สอท.เชื่อการลงทุนรัฐ-เอกชนที่นับหนึ่งแล้วเดินต่อได้, สมคิดเดินสายเปิด ”ครีเอทีฟไทยแลนด์” ในขณะที่ กทพ.คมนาคมยืนยันประมูลรถไฟฟ้า 3 สายต.ค.-พ.ย.นี้ตามกำหนดการเดิม

- พาณิชย์เตรียมฟื้นความสัมพันธ์การค้ากับซาอุฯ ในรอบ 20 ปี : ระบุเป็นข่าวดีหลังต้องทำการค้าผ่านประเทศที่ 3 และไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการค้าในซาอุฯ มานานสั่งทูตพาณิชย์สำรวจความพร้อมและศึกษากฎระเบียบการค้า เผย8เดือนแรกปีนี้ไทยส่งออกไปซาอุฯ 1,632 ล้านดอลลาร์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15% ขณะไทยขาดดุลติดต่อกัน 5 ปี จากกว่า 70% นำเข้านํ้ามันดิบ

- คลังโชว์งบปี 2559 เงินคงคลังทะลุ 4.4 แสนล้าน พร้อมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐ : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลมีรายได้ 2.41 ล้านล้านบาทขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวน 2.8 ล้านล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2559 มีจำนวน 4.41 แสนล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook....lassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google....509313835/posts

http://web.stagram.c...assicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

ถูกแก้ไข โดย ilovecgf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบกว้างขึ้น

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,265.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าและปรับตัวดีขึ้นในช่วงบ่าย โดยแกว่งระหว่าง 1,260.70 – 1,266.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก โดยจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง และตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานจะเพิ่มขึ้น แต่ยังถือว่าอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง แต่ทางด้านความต้องการทองคำของกองทุน ETF ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งจากประเทศจีนที่มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,250 เหรียญได้ โดยในคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ให้ระมัดระวังกรอบการแกว่งที่เริ่มกว้างขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวได้หลังจากเริ่มมีอุปสงค์เข้ามามากขึ้นในช่วงนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) แถลงในวันนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนขายสกุลเงินต่างประเทศสุทธิ 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. โดยพุ่งขึ้นเป็น 3 เท่าจากระดับในเดือนส.ค. ในขณะที่ยอดเงินทุนไหลออกจากจีนพุ่งสูงขึ้น

- หยวนร่วงผ่าน 6.75 ต่อดอลลาร์ในวันนี้ หลังธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนอ่อนกว่าระดับดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ขณะที่ธนาคารกลางยังคงปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลง หยวนร่วงลงราว 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่สิ้นเดือนก.ย.

- ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีหน้าขึ้นสู่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 53 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ธนาคารโลกคาดว่า ข้อตกลงการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะช่วยลดปริมาณน้ำมันส่วนเกิน

- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจอาจจะปรับเลื่อนกำหนดเวลาในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อออกไปอีกในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากราคาพื้นฐานปรับขึ้นอย่างอ่อนแอ อย่างไรก็ดี เขากล่าวย้ำว่า บีโอเจอาจจะชะลอการเข้าซื้อตราสารหนี้ในอนาคต ถ้าหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 0% เป็นอย่างมาก

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตรึงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษไว้ตามเดิมในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่เปิดโอกาสสำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือนธ.ค. โดยอีซีบีสยบการคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะปรับลดการดำเนินมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ซึ่งมีขนาด 1.7 ล้านล้านยูโร

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ราคาทองปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ณ เวลา 09.20 น.ตามเวลาไทย ราคาทองในตลาดสปอตอยู่ที่ 1,264.01 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.79 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวลง 0.2% เมื่อวานนี้ และราคาพุ่งขึ้นกว่า 1% ในสัปดาห์นี้

- กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองของกองทุนเพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 970.18 ตันเมื่อวานนี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (พิจารณา USD index)

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- การสะสมทองคำของกองทุน SPDR ที่มีการสะสมทองคำต่อเนื่อง

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบที่แกว่งกว้างขึ้น โดยยังเน้นฝั่ง long

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 25 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่โดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากประธานเฟดสาขาย่อยที่ให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้ามากถึง 3 ครั้ง รวมทั้งตัวเลขภาคการผลิตที่ประกาศออกมาดีต่อเนื่อง รวมทั้ง SPDR ที่ขายออกมาถึง 16.61 ตันในสัปดาห์ก่อน ทำให้ราคาทองโดนกดดัน แต่ยังเคลื่อนไหวในกรอบ โดยวันนี้ติดตามถ้อยคำปราศัยของธนาคารกลางอังกฤษ และยุโรป

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 2.19 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.17% โดยปิดที่ 1,264.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,260.37 – 1271.87 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,264 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาทองพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนที่จะโดนแรงกดดันลงมาหลังจาก ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องโดยประธานเฟดสาขาย่อยนายชาร์ลส อีแวนส์ ได้ให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นโดยคาดง่าปีหน้าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง รวมทั้งตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในรอบ 1 ปี และการขายของกองทุน SPDR ในวันศุกร์ที่ขายออกมามากกว่า 16.61 ตันทำให้ราคาทองโดนกดดันต่อเนื่อง โดยวันนี้ติดตามถ้อยคำปราศัยของทางฝั่งยุโรป และอังกฤษที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ และร่วงผ่านระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลลงไปเป็นเวลาสั้นๆ โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า จะมีการเปิดการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันบัซซาร์ดของอังกฤษอีกครั้งในเร็วๆนี้ และข่าวที่ว่าอิรักต้องการที่จะได้รับการยกเว้นจากมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

• ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ และแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์จากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

• ข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมา และความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว โดยในวันจันทร์ เทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 74% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

• นายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งระหว่างนี้จนถึงสิ้นปี 2017 ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบที่กว้างขึ้น และรอ follow เมื่อ breakout

 

Smart Stock

Today Strategy:

ยังไม่ชัดเจน

• S50Z16 เปิดตลาดวันศุกร์ที่แล้วที่ 943.80 จุด มีความพยายามขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 946.70 ก่อนแกว่งตัวและปิดตลาดที่ 945.50 จุด มีกรอบการการซื้อขายประมาณ 5.7 จุด เเกว่งในกรอบเเคบยังไม่มีทิศทางชัดเจนเท่าใดนัก เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับดัชนี SET หลักที่ปิดบวกที่ 1,500.37 จุด +7.64 จุด นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +1,335.63 เเละบัญชีบล.ซื้อสุทธิ +446.77 ล้านบาท สวนทางกับ Fund FLow ที่ไหลออกเล็กน้อย ซึ่งต่างชาติขายสุทธิ -547.22 ล้านบาท โดยมีมุมมองเดียวกับนักลงทุนภายในประเทศซึ่งขายสุทธิ -1,235.18 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายรวม 48,511.96 ล้านบาท ถือว่าเบาบาง เนื่องจากมีวันหยุดยาว 22-24 ต.ค. ทำให้นักลงทุนไม่รับความเสี่ยงจากการถือสถานะการลงทุนข้ามสัปดาห์ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากตลาดโลกในวันจันทร์ ที่ 24 ต.ค. ซึ่งไม่ได้หยุดทำการเหมือนประเทศไทย ในขณะที่เมื่อคืนนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐดีกว่าคาดการณ์ของตลาดพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เป็นผลบวกต่อตลาดสหรัฐเท่าไหร่ ส่วนในรอบสัปดาห์นี้ตลาดมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาดังนี้ 1.บาทอ่อนค่า Fund Flow ไหลออก ดอลลาร์เเข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเจ็ดเดือนอีกครั้งที่ USD index = 98.76 2.น้ำมันผันผวนรุนเเรงสร้างแรงกดดันให้กลุ่มพลังงานซึ่งถูกถ่วงน้ำหนักไว้มากในดัชนีหุ้นไทย 3.น้ำมันที่ยังคงผันผวนอยู่ ในส่วนของค่ำคืนนี้ติดตามรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากซีบี, ถ้อยเเถลงของผู้ว่าการธนาคารอังกฤษเเละถ้อยเเถลงของ มาริโอ ดาร์กี้ ประธานธนาคารกลางยุโรป

 

• แนะนำ : ให้น้ำหนักฝั่ง Long Position ในกรอบ, หากหลุดกรอบราคาเดิมให้ปิดสถานะถือเงินสด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Powell), ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป

- เงินบาทอ่อนค่าในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ย.ส่งออกรถยนต์สูงสุด 9 เดือนโกย 4.8 แสนล้านบาท : ส.อ.ท. เผย ก.ย. ส่งออกรถยนต์ 112,565 คัน สูงสุดในรอบ 12 เดือน แต่ลดลง 9.9 % เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมยอด 9 เดือนแรก ส่งออกทะลุ 9 แสนคัน โกยแล้วกว่า 4.8 แสนล้านบาทส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2559 มีจำนวน 4.41 แสนล้านบาท

- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์ : กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าประจำเดือน ก.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 13 .30 น. ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จะเปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน ก.ย.ในวันจันทร์ที่ 31 ต.ค.เวลา 10.30 น. ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.อาจลดลง หลังจากที่เพิ่ มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนส.ค. และคาดว่ายอดส่งออกที่ย่ำแย่จะทำให้ผลผลิตอุตสาหกรรมชะลอตัว ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ชะลอตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 25 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างแนวโน้มขาขึ้น

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,264 USD/toz มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหลังจากที่ร่วงหล่นลงไปประมาณ 10 USD/toz ในวันจันทร์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ขายทองคำออกตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยด้านกองทุน SPDR ขายทองคำออกในช่วงวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ กว่า 16.61 ตันทำให้ทองคำร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดีในภาพรวมราคาทองคำเรายังมองว่ามีปัจจัยกดดันหลายปัจจัยได้แก่ 1.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในรอบเจ็ดเดือนเรื่อยๆ กดดันอุปสงค์ทองคำไม่ให้เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ 2.คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกราวสองสัปดาห์ซึ่งไม่เป็นผลบวกต่อราคาทองคำ ในช่วงนี้แนะนำซื้อเล่นสั้นเป็นหลักและไม่ซื้อขายมากเกินไปรวมทั้งต้องมีวินัยในการตัดขาดทุน รอให้ปัจจัยดังกล่าวมีความชัดเจนมากกว่านี้ ค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ, ดัชนีราคาบ้านเดือน ฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- คำขู่อิรักฉุดน้ำมันดิบปิดลบ : สัญญาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดวันจันทร์ปรับตัวลดลงหลังจากอิรักขู่ว่าจะไม่ทำตามแผนของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปค) ในการสร้างเสถียรภาพด้านราคา โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวลดลงหลังจากนายแจบบาร์ อัล-เลาไอบี รัฐมนตรีน้ำมันของอิรักกล่าววานนี้ว่า อิรักควรจะได้รับการยกเว้นจากการแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงของโอเปก เนื่องจากอิรักกำลังทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายของรัฐอิสลาม (ไอเอส) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจากชั้นหินดินดาน ที่เปิดดำเนินงานในสหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น

- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ : ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดวันจันทร์ ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขานรับข่าวการซื้อกิจการของบริษัทเอกชนหลายแห่ง นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ดัชนีดาวโจนส์ได้รับปัจจัยหนุนจากการประกาศควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง รวมทั้งนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอย่างแน่นอน

- ซาอุฯมั่นใจราคาน้ำมันตกต่ำใกล้สิ้นสุด : เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทั้งในแง่ปริมาณและความต้องการเริ่มปรับตัวดีขึ้น และคาดหวังว่า ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปค บรรลุกรอบข้อตกลงในเดือนที่แล้วว่าจะลดเพดานการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีจากวันละ 33 ล้านบาร์เรลเป็น 32.5 ล้านบาร์เรล และจะ ประชุมครั้งใหม่ในวันที่ 30 พ.ย.ส่วนในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่เพื่อหารือประเด็นเทคนิคที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยมีประเทศนอกกลุ่มโอเปคเช่น รัสเซีย ได้รับเชิญเข้าร่วมด้วย

- โพลคาดฮิลลารีชนะทรัมป์แน่นอน : ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันล่าสุด พบนางฮิลลารี คลินตัน มีคะแนนทิ้งห่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 12% มากที่สุดแล้วนับแต่เริ่มเปิดศึกชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว โดย เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 24 ต.ค. อ้างผลสำรวจความคิดเห็นระดับประเทศของ ABCNews ล่าสุดเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ว่า นางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนสนับสนุนจากกลุ่ม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีแนวโน้มจะไปใช้สิทธิถึง 50% ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ คะแนนสนับสนุนเพียง 23%

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นที่ USD index = 98.74

- SPDR ขายทองออกราว 16.61 ตันในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคา 1,260-1,270 USD/toz ฝั่ง long ได้เปรียบ แต่ให้ระวังราคาย่อตัวจากการขายทำกำไรและตัวเลขเศรษฐกิจในค่ำคืนนี้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 26 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน รวมทั้งทองคำได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากเทศกาลสำคัญของอินเดียในปลายเดือนนี้ รวมทั้งกองทุน SPDR กลับเข้ามาซื้อทองอีกครั้งหลังจากขายออกไปมากในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน วันนี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการและยอดขายบ้านใหม่

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.79 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.77% โดยปิดที่ 1,273.85 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,261.90 – 1276.67 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,274 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยราคาทองได้แกว่งในกรอบ 1,250 – 1,275 เหรียญกว่า 2 สัปดาห์ โดยในเมื่อวานนี้ราคาพยายามจะ breakout ออกนอกกรอบการเคลื่อนไหวเดิม แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ ทำให้วันนี้ต้องจับตาว่าจะมีการทะลุผ่านได้หรือไม่ โดยราคาทองยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุน SPDR ที่กลับเข้ามาซื้อทองคำอีก 3.27 ตัน และวันนี้ติดตามตัวเลขภาคบริการ และตัวเลขการขายบ้าน ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาทองอีกครั้ง

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากถ้อยแถลงของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน โดยอิรักระบุในวันอังคารว่า อิรักไม่ต้องการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยอิรักถือเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรและจากระดับสูงสุดในรอบราว 3 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร หลังความเห็นจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) สร้างความไม่แน่ใจต่อการคาดการณ์เรื่องการดำเนินมาตรการกระตุ้นด้านการเงินมากขึ้นในยุโรป

• ทองได้รับแรงหนุนในช่วงนี้ เนื่องจากชาวอินเดียนิยมให้ทองเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญของศาสนาฮินดู ซึ่งได้แก่เทศกาล Dhanteras และ Diwali ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนต.ค.

• สภาทองคำโลก (WGC) ประเมินว่า จีนครองสัดส่วนราว 27 % ของอุปสงค์ทองในตลาดโลก ส่วนอินเดียครองสัดส่วน 24 %

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading กรอบ และ follow long เมื่อ breakout

 

Smart Stock

Today Strategy:

ปรับตัวขึ้นไม่แข็งแรง

• S50Z16 เมื่อวานนี้แกว่งตัวออกข้างพยายามที่จะสร้างแนวโน้มขาขึ้น โดยเปิดตลาดกระโดดขึ้นประมาณ 6 จุด สะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกตอบรับผลประกอบการไตรมาสสามของบริษัทจดทะเบียนในวันก่อนหน้า มีกรอบการซื้อขายประมาณ 7 จุด ถือว่าเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปานกลาง ด้านดัชนี SET หลักสามารถปิดบวกที่ 1,506.47 จุด ยืนเหนือ1,500 จุดได้ มีปริมาณการซื้อขาย 47,446.91 ล้านบาท ไม่มากเท่าใดเมื่อเทียบกับการปรับตัวขึ้นเหนือระดับราคาที่เป็นจิตวิทยา ดังนั้นฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดยังคงปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่แข็งแรงมากนัก เพราะเป็นการปรับขึ้นในขณะที่นักลงทุนสามกลุ่มหลักมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันคือขายสุทธิทั้ง ต่างชาติ, สถาบัน, รวมทั้งนักลงทุนภายในประเทศ มีเพียงบัญชีบล.เท่านั้นที่ซื้อสุทธิสวนทาง ประกอบกับภายในสามสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีผันผวนรุนแรงทำให้เกิดช่องว่างของราคาค่อนข้างกว้างดังนั้น เมื่อระดับราคากลับมา ณ จุดเดิมก่อนหน้า อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาได้จากนักลงทุนที่มีสถานะขาดทุนค้างอยู่เดิม(ติดหุ้น) วันนี้ให้ระวังแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาในตลาดและมี Downside Risk ค่อนข้างกว้างในขณะที่ Upside ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับเมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาของสหรัฐมีทั้งดีและไม่ดีสลับกันไปตามคาดการณ์ของตลาดทำให้ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดไม่สดใสมากนัก ค่ำคืนนี้ให้ติดตาม ดัชนี PMI, สต็อกน้ำมันดิบและยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ ซึ่งค่อนข้างมีความสำคัญต่อจิตวิทยาการลงทุน

 

• แนะนำ : ให้ wait & see เพราะราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นแต่อาจมีแรงขายทำกำไรในวัน, มี Downside Risk อยู่และ Upside ในวันค่อนข้างจำกัด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- Fund Flow ที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องทั้งตลาดหุ้นไทยและภูมิภาค

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- กระทรวงการคลังยืนยันเศรษฐกิจปลายปีไม่ทรุดและการลงทุนยังดีอยู่ : กระทรวงคลังยืนยันเศรษฐกิจปลายปีไม่ทรุดรวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มดี อีกทั้งยัง รัฐอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่องเเละประชาชนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยสะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกันยายน 2559 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 63.4 โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระยะต่อไป

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จะเปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน ก.ย.ในวันจันทร์ที่ 31 ต.ค.เวลา 10.30 น. ในขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.อาจลดลง หลังจากที่เพิ่ มขึ้น อย่างไม่คาดคิดในเดือนส.ค. และคาดว่ายอดส่งออกที่ย่ำแย่จะทำให้ผลผลิตอุตสาหกรรมชะลอตัว ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ชะลอตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ค่ากลางในผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ 12 คนพบว่า การส่งออกอาจลดลง 2.00% ในเดือนก.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.5% ในเดือนก.ย. เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 26 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นไปต่อ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,272.91 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยแกว่งระหว่าง 1,272.63 – 1,276.51 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเริ่มได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ETF ของทองคำเองและตัวทองคำแท่งในเทศกาลประจำปีของประเทศอินเดีย รวมทั้งความต้องการทองคำของการถือทองคำสำรองในประเทศรัสเซีย ทำให้เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำได้ในช่วงนี้ และราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากความไม่ชัดเจนของการควบคุมกำลังกาผลิต ทำให้กดดันตลาดหุ้นและส่งผลให้ทองคำเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้ทั้ง 2 ทางเช่นกัน โดยหากการปรับตัวขึ้นเหนือ 1,275 เหรียญนั้น มีโอกาสให้ทองคำน่าสนใจมากขึ้นในฝั่ง long แต่ถ้าไม่ก็จะกลับมาเล่นในกรอบเดิม 1,260 – 1,275 เหรียญเหมือนในช่วงสองสัปดาห์นี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันอังคารว่า อีซีบีตระหนักว่า นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษของอีซีบีส่งผลให้ภาคการเงินต้องแบกรับต้นทุนมากยิ่งขึ้น และอีซีบีไม่ต้องการที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับติดลบเป็นเวลานานเกินไป

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะชะลอการขยายมาตรการกระตุ้นในสัปดาห์หน้า แม้คาดว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อซึ่งอาจบ่งชี้ว่า นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจจะไม่เห็นอัตราเงินเฟ้อบรรลุเป้าหมาย 2% ก่อนที่เขาจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2018

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า รัสเซียและคาซัคสถานยังคงเพิ่มปริมาณทองคำสำรองในเดือนก.ย. ทั้งนี้ คาซัคสถานเพิ่มการถือครองทองคำสำรอง 4.1 ตัน สู่ระดับ 248.2 ตันในเดือนก.ย. และรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำสำรอง 16.5 ตัน สู่ระดับ 1,542.7 ตันในเดือนก.ย.

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอุปสงค์ในตลาดส่งมอบปัจจุบันก่อนถึงงานเทศกาลที่สำคัญของอินเดียในปลายเดือนนี้

- อิรักแจ้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันอังคารว่า อิรักพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการทำข้อตกลงเรื่องการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ตราบใดที่อิรักสามารถผลิตน้ำมันใกล้ระดับปัจจุบันได้ต่อไป

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย โดยถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสหรัฐ, การผลิตที่เพิ่มขึ้นในไนจีเรีย และความขัดแย้งภายในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เกี่ยวกับแผนลดการผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : trading long เมื่ออ่อนตัว หรือ follow long เมื่อราคา breakout

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 27 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงหลังจากไม่สามารถผ่านกรอบด้านบนบริเวณ 1,275 เหรียญขึ้นไปได้ ทำให้มีแรงขายในทองคำออกมา รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนทางด้าน SPDR ขายทองคำออกมาถึง 14.24 ตัน ทำให้ทองคำถูกแรงกดดันอีกครั้ง แต่ยังคาดว่าราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260 – 1,275 เหรียญได้ ซึ่งแนะนำให้ซื้อขายในกรอบ และ follow หากทะลุกรอบได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 7.24 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.57% โดยปิดที่ 1,266.61 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,264.19 – 1276.51 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวลดลงในช่วงท้ายตลาดหลังจากตัวเลขการขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่ม รวมทั้งตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น และสต๊อกน้ำมันดิบที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ทองคำเกิดแรงขายออกมา และกองทุน SPDR ได้ขายทองออกมา 14.24 ตันหลังจากซื้อไปเพียง 3.27 ตันในช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสได้รับแรงกดดันอีกครั้ง และในวันนี้ติดตามตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงาน และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย ที่อาจจะกดดันราคาทองคำต่อได้ โดยคาดว่าทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260 -1,275 เหรียญได้

 

Exclusive News

• กลุ่มโอเปกวางแผนจะปรับลดปริมาณการผลิตลงราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่มีน้ำมันล้นตลาดโลกราว 1.0-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบันอย่างไรก็ดี เป็นที่คาดกันว่าอิหร่าน, ลิเบีย, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลาอาจจะได้รับการยกเว้นจากแผนการนี้ และอิรักระบุว่า อิรักจะไม่เข้าร่วมในแผนการนี้ ทางด้านบริษัทน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายที่จะปรับเพิ่มการผลิต

• นักวิเคราะห์กล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้นั้นได้ถูกสะท้อนในการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมาอย่างเต็มที่แล้ว โดยดอลลาร์มีความเสี่ยงที่จะร่วงลงหากมีการส่งสัญญาณที่ตรงกันข้ามจากเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงนี้จนถึงสิ้นปี

• บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ในวันพุธว่า มีโอกาสราว 74% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ลดลงจากโอกาสมากกว่า 78% ในวันอังคาร

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 7.24 ดอลลาร์ สู่ 1,266.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ในขณะที่นักลงทุนต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้นและน้ำมันดิบ และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout

 

Smart Stock

Today Strategy:

ขึ้นง่ายลงง่าย

• S50Z16 วันนี้ใกล้สิ้นสุดอายุสัญญาแล้วเพราะฉะนั้นราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและสินทรัพย์อ้างอิงจะบรรจบเข้าหากัน (Price Convergence) ซึ่งในขณะนี้ราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50Z16 อยู่ในลักษณะที่ต่ำกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิง SET50 (Normal Backwardation) แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีมุมมองลบต่อตลาดในช่วงนี้และในอนาคต ซึ่งเมื่อวานนี้ S50Z16 เปิดตลาดและซื้อขายกันในแดนลบมีกรอบการซื้อขาย 9.80 จุด ปิดตลาดที่ 936.80 จุด เช่นเดียวกับ SET หลักที่มีเเรงขายซึมตัวลงตามตลาดในภูมิภาคและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ถูกแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ(-1,068.3 ลบ.)และนักลงทุนสถาบัน(-1,601.6 ลบ.)กดดันราคาไม่ให้สามารถยืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้ปิดลบกว่า -14.35 จุดที่1,492.12 จุดตอกย้ำ Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่เข้าสู่เงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นจากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงปลายปี รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50 USD/bbl หลังรายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นบ่งชี้ภาวะอุปทานส่วนเกิน (Excess Supply : อุปทานมากกว่าอุปสงค์) ทำให้ตลาดมีความพยายามที่จะปรับตัวเข้าสู่ระดับดุลยภาพ ฝ่ายวิจัยมองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกหนุนดัชนี ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ถึงแม้ตัวเลขการส่งออกและดุลการค้าของไทยจะดีขึ้นแต่ก็ไม่สามารถพยุงตลาดเอาไว้ได้ ในค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐได้แก่ ยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ, ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังและตัวเลขยอดรอขายบ้านของสหรัฐฯ

 

• แนะนำ : สถานะขายได้เปรียบสำหรับการซื้อขายในวัน, อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาดังนั้นให้จับจังหวะลงทุนเมื่อราคาดีดตัวเท่านั้น

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงต่ำกว่า 50 USD/bbl

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- "ไอโอดี" เผยบริษัทจดทะเบียนไทยได้คะแนนประเมิน CG ปีนี้สูงขึ้นทุกด้าน พร้อมมุ่งปฏิบัติตามความคาดหวังของนักลงทุน : ผลสำรวจคะแนน CGR ประจำปี 2559 ของบจ.ไทย 601 บริษัท มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 78% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าปี 2558 ที่มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 75% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยทุกหมวด นอกจากนี้จากการประเมิน พบว่า บจ. ไทยมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน และการปรับบทบาทและภาวะผู้นำของคณะกรรมการในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุน

- ไทยติดอันดับ 46 จาก 190 ประเทศที่มีความสะดวกในการทำธุรกิจมากสุด : ธนาคารโลก รายงานผลการวิจัยประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็นการสำรวจความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศสมาชิกของธนาคารโลกจำนวน 190 ประเทศ ไทยขยับจัดอันดับอยู่ที่ 46 จากปีก่อนที่อันดับ 49 ปรับ

- ดึงทุนไทย-เทศปลุกศก.ใต้ เปิดทางลุยทำเหมืองแร่ : กพร.จับมือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 อำนวยความสะดวกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังดึงนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่จากการทำเหมืองแร่ สร้างรายได้ ลดความขัดแย้ง ประเดิมล่าสุดมีผู้ประกอบการยื่นขออาชญาบัตรสำรวจแร่ดีบุกและตะกั่วแล้วสามแปลง ร่วมหนึ่งหมื่นไร่

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 27 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างแนวโน้มขาขึ้น

- ทองคำเปิดตลาดในภาคเช้ามีแรงซื้อเข้ามาหลังจากที่เมื่อคืนปรับฐานร่วงลงค่อนข้างรุนแรงพอสมควรก่อนมีความพยายามจะสร้างฐานแกว่งอยู่ในช่วง 1,266 USD/toz ก่อนปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,269.50 USD/toz ในช่วงบ่าย ถือว่ายังแกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากที่กองทุน SPDR ที่ขายสุทธิทองคำกว่า -14.24 ตันทำให้สถานะการถือครองลดลงกว่า -1.49% ภายในหนึ่งวันถือว่าเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักที่มีนัยสำคัญและส่งผลกระทบให้ทองคำร่วงหล่นราว 10 USD/toz ฝ่ายวิจัยคาดว่าเกิดจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ปรับตัวดีเกินคาดการณ์ของตลาดเมื่อคืนนี้ทั้ง PMI ภาคบริการเเละ Goods Trade Balance ในขณะที่ USD index แกว่งตัวแข็งค่าในกรอบ 98.60 - 98.70 ส่งผลให้ภาพรวมทองคำในค่ำคืนนี้ก็ยังไร้ปัจจัยบวก รวมทั้งประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐที่เป็นประเด็นที่พิจารณากันมานานและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐภายในอีกราวสองอาทิตย์ข้างหน้า อย่างไรก็ดียังถือว่าทองคำยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางแม้ไม่มีปัจจัยบวกเท่าที่ควรดังนั้นการเปิดสถานะฝั่ง “ซื้อ” ยังถือว่าได้เปรียบอยู่ ส่วนการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน(ไม่รวมค่าขนส่ง), ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน, ตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองที่รอปิดการขาย

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- IMF เผยรัสเซียและคาซัคสถานเพิ่มการถือครองทองคำสำรองในเดือนก.ย. : IMF เผยรัสเซียและคาซัคสถานยังคงเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำสำรองในเดือนก.ย. ขณะที่ตุรกีและจอร์แดนลดการถือครองทองคำสำรองโดยคาซัคสถานเพิ่มการถือครองทองคำสำรอง 4.1 ตันสู่ระดับ 248.2 ตันในเดือนก.ย. และรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำสำรอง 16.5 ตัน สู่ระดับ 1,542.7 ตันในเดือนก.ย. ส่วนตุรกีลดการถือครองทองคำสำรองลง 13.4 ตัน สู่ระดับ 442.1 ตันในเดือนก.ย. ด้านเบลารุสได้เพิ่มการถือครองทองคำสำรอง 2.5 ตัน สู่ระดับ 43.0 ตันในเดือนส.ค. และจอร์แดนลดการถือครองทองคำสำรองลง 6.5 ตัน สู่ระดับ 33.9 ตันในเดือนส.ค.

- ราคาทองคำเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) อ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ : คาดจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยก่อนการประชุมเฟดคราวต่อไป และศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนหน้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,266.60 ดอลลาร์ทรอยออนซ์

- น้ำมันลงต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ หลังข้อตกลงการลดกำลังการผลิตล้มเหลว : ราคาน้ำมันลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อวาน (26 ต.ค.) จากความกังวลต่อความสำเร็จของแผนจำกัดการผลิตของโอเปก ส่วนวอลล์สตรีทปิดทรงตัวท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ผสมผสานในขณะที่ทองคำปิดลบพอสมควร

- ยอดขายบ้านในสหรัฐก.ย.เพิ่มขึ้นผิดคาด ส่วนตัวเลขอื่นแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐคงขยายตัวเร็วกว่าที่ได้คาดไว้ในไตรมาส สาม : ยอดขายบ้านใหม่ขนาดหนึ่งครอบครัวเพิ่มขึ้นผิดคาดในเดือน ก.ย. ซึ่งชี้ถึงอุปสงค์ของบ้านที่อยู่อาศัยที่มีต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีการปรับข้อมูลตัวเลขของ 3 เดือนก่อนหน้าให้ต่ำลงมา ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นที่ออกมาในวันพุธแสดงว่าเศรษฐกิจโดยรวมคงจะขยายตัวเร็วกว่าที่ได้คาดไว้ในไตรมาสสามโดยเห็นได้จากตัวเลขดุลการค้าที่ขาดดุลน้อยลงมาก ในขณะที่ยอดขายส่งและปริมาณสินค้าคงคลังตามโกดังต่างๆมีเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย.

- ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำโดยรอยเตอร์ชี้ว่า GDP สหรัฐน่าจะโต 2.5% : โดยอาจเร่งตัวขึ้นจากตัวเลขที่ซบเซาของไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ช้าเพียง 1.4% แต่ตัวเลขด้านการค้าที่ออกมาล่วงหน้าในวันพุธระบุว่าดุลการค้าได้ขาดดุลน้อยลง 5.2% มาเหลือเพียง 56,100 ล้านดอลลาร์ในเดือน ก.ย. เนื่องจากการส่งออกได้กระเตื้องขึ้น ซึ่งสะท้อนว่าตัวเลข GDP ของไตรมาส 3 คงจะออกมาดีกว่าคาด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50USD/bbl หลังข้อตกลงลดกำลังการผลิตส่อแววล้มเหลว

- ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสองอาทิตย์ข้างหน้า

 

คำแนะนำ : ให้เปิดสถานะ Long Position เป็นหลัก, หากราคาต่ำกว่า 1,265 USD/toz ให้ปิดสถานะและถือเงินสดรอ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 28 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองยังปิดบวกได้เล็กน้อยถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตัวเลขภาคอสังหาของสหรัฐฯ ก็ออกมาดีต่อเนื่อง แต่ราคาทองได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของทองจริงในอินเดีย ที่เป็นเทศกาลที่มีการซื้อทองคำ ทำให้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบด้านบนได้ โดยในวันนี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่อาจสร้างความผันผวนให้ราคาทองได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.09% โดยปิดที่ 1,267.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,264.90 – 1272.67 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,271 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง โดยราคายังโดนกดดันหลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งตัวเลขภาคอสังหาที่ประกาศมาเมื่อคืนก็ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ราคาทองยังคาดว่าได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการทองคำจริง จากผู้บริโภคทองในอินเดียซึ่งถือเป็นผู้ที่ซื้อทองอันดับ 2 ของโลก โดยกรอบราคาทองจะเห็นได้ว่าราคาเริ่มปรับตัวย่อลงแค่ประมาณ 1,265 เหรียญ และมีแรงซื้อกลับ ทำให้วันนี้คาดว่ามีโอกาสแกว่ง 1,265 – 1,275 เหรียญ และต้องติดตามตัวเลข GDP ที่อาจจะช่วยให้ราคาทองแกว่งกว้างขึ้นได้ โดยตัวเลขคาดการณ์นั้นคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นซึ่งถ้าหาก อ่อนแอผิดคาดนั้นจะช่วยหนุนราคาทองได้เช่นกัน

 

Exclusive News

• รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรในอ่าวอาหรับได้แจ้งต่อรัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียในสัปดาห์นี้ว่า พวกเขาเต็มใจที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันสูงสุดลงราว 4 %

• อย่างไรก็ดี อิรักเรียกร้องให้ตนเองได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน และเป็นที่คาดกันว่าลิเบีย, ไนจีเรีย และอิหร่านอาจจะได้รับการยกเว้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันของ 3 ประเทศนี้ได้รับแรงกดดันจากสงครามและมาตรการคว่ำบาตรในช่วงที่ผ่านมา

• ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับโครนสวีเดน หลังธนาคารกลางสวีเดนแสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบาย และดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเยนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

• ราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงนี้จากอุปสงค์ในทองจริงที่เพิ่มขึ้นในอินเดียโดยอินเดียถือเป็นประเทศผู้ใช้ทองรายใหญ่อันดับสองของโลก ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงใกล้จะถึงเทศกาล Diwali และ Dhanteras ในอินเดีย และชาวอินเดียนิยมให้ทองเป็นของขวัญในเทศกาลนี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบ โดย follow long เมื่อ breakout

 

Smart Stock

Today Strategy:

สร้างฐานราคา

• S50Z16 เมื่อวานซื้อขายในแดนบวกตลอดวันแม้มีแรงขายกดดันให้ดันชีย่อตัวเล็กน้อยแต่ภาพรวมยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นในกรอบระยะสั้นได้ มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 6-6.5 จุด ถือว่าไม่กว้างและไม่ผันผวนมากแสดงให้เห็นว่านักลงทุนคลายความกังวลต่อปัจจัยที่มีผลกระทบในระยะสั้นไปในระดับหนึ่งเหลือแต่ปัจจัยที่กดดันตลาดในระยะกลางได้แก่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นหลัก ในส่วนปัจจัยอื่นๆเช่น ความผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เรายังให้น้ำหนักไม่มากในช่วงนี้แม้ราคาน้ำมันจะมีผลต่อกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมมีมูลค่าตลาดถ่วงน้ำหนักในดัชนีหุ้นไทยมากที่สุดก็ตาม ด้านแรงซื้อถือว่าซื้อเรื่อยๆ ไม่รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 2,148.30 ลบ. ดันดัชนี SET หลักทะยานขึ้นไปปิดที่ 1,498.36 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 52,398.88 ลบ. ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ (-1,382.60 ลบ.) ต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงมอง Downside Risk มากอยู่พิจารณาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสู่ระดับ 35.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และภาพรวมตลาดถูกปกคลุมด้วยความกังวลต่อปัจจัยภายนอก ทำให้วันนี้ตลาดอาจไม่เคลื่อนไหวมากนักรวมทั้งนักลงทุนยังคงรอตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในวันจันทร์หน้า ได้แก่ ผลผลิตอุตสาหกรรม, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ยอดค้าปลีกและการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนในวันนี้และทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางลงเล็กน้อย ในขณะที่ค่ำคืนนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐได้แก่ ตัวเลข GDP ไตรมาส 3, ดัชนีค่าจ้างแรงงาน ไตรมาส 3, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ โดย ม.มิชิแกน

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ, เปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว, ฝั่ง Long ยังได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในวันจันทร์หน้า (ผลผลิตอุตสาหกรรม, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ยอดค้าปลีกและการบริโภคภาคเอกชน)

- Fund Flow ที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม

- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน

 

ข่าวในประเทศ

- เอกชนใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิจ แม้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่-กกร.ถกประเมินศก. 1 พ.ย. :ประธานหอฯและสมาคมการค้า ผนึกกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แม้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ยอมรับมีผลกระทบบ้าง แต่ต้องเดินหน้าต่อ ด้านประชุม กกร. เดือนพ.ย. เตรียมถกประเมินภาวะเศรษฐกิจ และแนวทางการพัฒนาค้าชายแดน ขณะภาคเอกชนแห่จองคิวเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมพระบรมศพ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

- สินเชื่อ 9 เดือนขยับ 2.32% แบงก์กรุงศรีเพิ่มเป้าทั้งปีโต8-9% : 11 ธนาคารพาณิชย์ ผลประกอบการ 9เดือนปี59 รั้งสเปรดเหนียวแน่น โดยเฉพาะแบงก์เล็ก-กลาง “ เกียรตินาคิน –ทิสโก้-กรุงศรี-ซีไอเอ็มบีไทย” ด้านเอ็นพีแอลแตะ 6.68% หนี้สุทธิไต่ระดับกร่อนอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้ลด ส่วนยอดสินเชื่อเติบโตเพียง 2.32% ขณะที่เงินสำรองพุ่ง 14.02%ทุกค่ายปึ้ก!

- กรุงไทยลุยลูกค้าขรก./เพย์โรล รับสินเชื่อครึ่งปีแรกพลาดเป้าโตแค่ 2% : KTB รับสินเชื่อบุคคลพลาดเป้า ชี้ยอด 6 เดือนแรกขยายตัวได้ 6,500 ล้าน จากเป้าทั้งปีอยู่ที่ 1.63 หมื่นล้าน ยอดคงค้างแตะ 3.22 แสนล้าน เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว/หนี้ครัวเรือนยังไต่ระดับ แถมแบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อ ไตรมาส 4 เตรียมเจาะลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เพย์โรล กระทุ้งยอด เน้นเสี่ยงต่ำ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 28 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งด้านบน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,268.01 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบเดิมโดยแกว่งระหว่าง 1,266.05 – 1,271.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเริ่มแกว่งอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามตัวเลขสำคัญ คือ ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ไตรมาส 3/2559 โดยมีตัวเลขคาดการณ์ดีกว่าครั้งก่อน ทำให้มีโอกาสกดดันราคาทองได้ แต่ราคาทองคำก็ยังพยายามแกว่งเหนือ 1,265 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 3 วันนี้ ทำให้ภาพรวมราคาทองยังมีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี ถึงแม้จะยังไม่มีปัจจัยมาสนับสนุนราคาทองที่ชัดเจน โดยในควรระมัดระวังความผันผวน เนื่องจากสัปดาห์หน้ามีการประชุมของหลายธนาคารกลาง เช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น สหรัฐฯ และ อังกฤษ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับติดลบต่อไป และจะตรึงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. หลังจากบีโอเจปรับเปลี่ยนจุดสนใจของนโยบายในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

- ผลสำรวจสองฉบับที่ออกมาในวันนี้ระบุว่า ผู้บริโภคชาวอังกฤษลดการคาดการณ์ในทางบวกลงในเดือนนี้ ในขณะที่การดิ่งลงของค่าเงินปอนด์เริ่มส่งผลลบต่อรายได้สุทธิของผู้บริโภค และผลสำรวจนี้ทำให้นักลงทุนกังวลกับปริมาณการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต

- ทีมนักวิเคราะห์ GFMS ของบริษัทธอมสัน รอยเตอร์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อุปสงค์ในทองจริงดิ่งลงเกือบ 1 ใน 3 ในช่วงไตรมาส 3 (เดือนก.ค.-ก.ย.) ในขณะที่การพุ่งขึ้นของราคาทองส่งผลลบต่อคำสั่งซื้อเครื่องประดับในจีนและอินเดีย

- GFMS คาดว่า ราคาทองอาจจะเข้าสู่เสถียรภาพในช่วงใกล้สิ้นปี โดยจะลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปรับขึ้น และราคาทองอาจจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,420 ดอลลาร์ในปี 2017

- ยอดส่งออกน้ำมันของอิหร่านมักจะร่วงลงในเดือนต.ค.และพ.ย.ของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงที่โรงกลั่นน้ำมันในยุโรปและเอเชียมักจะปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่ายอดส่งออกน้ำมันจากอิหร่านสู่เอเชียอาจจะทรงตัวหรือปรับขึ้นในเดือนพ.ย. ในขณะที่จีนมีแนวโน้มนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมากยิ่งขึ้น หลังจากที่จีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านในเดือนต.ค.ในระดับต่ำที่สุดในปี 2016

- ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในอังกฤษ กระตุ้นให้มีแรงเทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษออกมาอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือนเมื่อวานนี้ และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเทศสำคัญพุ่งขึ้น ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ

- ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50USD/bbl หลังข้อตกลงลดกำลังการผลิตส่อแววล้มเหลว

- ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสองอาทิตย์ข้างหน้า

- การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ , ญี่ปุ่น และอังกฤษในสัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : Trading ในกรอบ และ follow เมื่อ breakout

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...