ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 17 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างกรอบราคา

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,228 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบไร้ปัจจัยบวก ภาพรวมตลาดยังคงมีความกลัวอยู่มากโดยหลังจากที่ทองคำปรับตัวลงรุนแรงราว 8% มีความพยายามที่จะสร้างกรอบราคาด้านล่างบริเวณ 1,220 USD/toz โดยมีกรอบราคาซื้อขายอย่างกว้างบริเวณ 1,210- 1,234 USD/toz และกรอบราคาที่แคบลงบริเวณ 1,222- 1,234 USD/toz ฝ่ายวิจัยมองว่าคืนนี้ภาพรวมทองคำน่าจะได้รับผลกระทบจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศได้แก่ ดัชนีผู้บริโภค, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต, จำนวนบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้างฯ รวมทั้งที่สำคัญจะมีการแถลงนโยบายครั้งแรกต่อสภาคองเกรสของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแสดงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้รัฐบาลนายทรัมป์รวมทั้งอาจมีการส่งสัญญาณเตือนต่อการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีจึงจำเป็นต้องติดตามเป็นอย่างดีและถือว่ายังคงมีปัจจัยกดดันราคาทองคำอยู่พอสมควรทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า USD index 100.41 จุดสวนทางกับค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าและกองทุน SPDR ลดสถานะการลงทุนขายทองคำออกสุทธิ -1.19 ตันถือครองสุทธิ 926.26 ตันและอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวนตามคาดการณ์ความเป็นไปได้ในการปรับลดอุปทานน้ำมัน

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยในวันพุธว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมทรงตัวในเดือน ต.ค. หลังจากร่วงลง 0.2 % ในเดือน ก.ย. และอัตราการใช้กำลังผลิตอยู่ที่ 75.3 % ในเดือน ต.ค. ขยับลงจาก 75.4% ในเดือน ก.ย. ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ต.ค.และอัตราการใช้กำลังผลิตอาจอยู่ที่ 75.5% ในเดือน ต.ค.

- ดอลลาร์พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่แล้วขณะที่นักลงทุนจับตาแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่เร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากแผนการของนายทรัมป์ที่จะใช้นโยขบายการคลังเชิงขยาย ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่การพุ่งขึ้นของราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเริ่มชะลอตัวลง โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาที่ 2.197% ในตลาดเอเชียหลังจากพุ่งแตะระดับ 11 เดือนทะลุระดับ 2.3% ในช่วงต้นสัปดาห์

- ราคาทองคำในวันพุธ (16 พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อยหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 60 เซ็นต์ ปิดที่ 1,223.90 USD/toz

- ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน พ.ย.ลดลงเล็กน้อยสะท้อนราคาทองมีโอกาสปรับลงจากทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่ยังคงเป็นแรงกดดัน

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลดลงในตลาดเอเชียในวันนี้ขณะที่การพุ่งขึ้นร่วมสัปดาห์หลังจากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งอย่างไม่คาดคิดนั้น แผ่วลงไปอีกซึ่งช่วยทำให้หุ้นเอเชียพุ่งขึ้นในช่วงแรกแต่ล่าสุดแทบไม่เปลี่ยนแปลงและทำให้ดอลลาร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีครึ่งที่ทำไว้เมื่อคืนนี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- แถลงนโยบายครั้งแรกต่อสภาคองเกรสของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯวันนี้

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index เหนือระดับ 100 จุด

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในเดือนธันวาคม

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบระมัดระวังถ้อยแถลงของประธานเฟดคืนนี้, ลดสถานะการลงทุน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำยังปรับตัวลดลง หลุดกรอบที่แกว่งตัวในสัปดาห์นี้ และทำจุดต่ำสุดใหม่ในช่วงเช้าวันนี้ โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,207 เหรียญในเช้านี้ ราคาทองคำถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าโอกาสเกิดขึ้นในเดือนหน้าอย่างแน่นอน และการขายของ SPDR ทำให้ราคาทองคำถูกกดดันต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่อ่อนแออีกครั้ง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.39 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.73% โดยปิดที่ 1,216.01 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,210.73 – 1,231.41 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,207 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงแรงในช่วงท้ายตลาดหลังจากราคาหลุดกรอบแคบที่แกว่งตัวในสัปดาห์นี้ และเช้านี้ทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง โดยปัจจัยกดดันยังเป็นค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่อง และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมทั้งนางเจนเนต เยลเลน ออกมายืนยันค่อนข้างชัดเจนสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า และการขายต่อเนื่องของ SPDR โดยเมื่อคืนนี้ขายต่ออีก 5.63 ตัน รวมถือครอง 920.63 ตัน ทำให้ตอนนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนแอและเป็นขาลงที่ชัดเจน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดขยับลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี และดิ่งลงไปอีก 1 ดอลลาร์หลังจากตลาดปิดทำการ ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์บดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะบรรลุข้อตกลงในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในวันพฤหัสบดี ขณะที่ตลาดพันธบัตรเผชิญแรงขายจากความแน่นอนที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และจากสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

• นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และไม่มีหลักฐานบ่งชี้การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยในปีหน้า มุมมองด้านอัตราดอกเบี้ยของนางเยลเลนสอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่บ่งชี้ว่า การเริ่มสร้างบ้านแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีในเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading short หากราคาอยู่ต่ำกว่า 1,210 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ยังผันผวนและอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก

• ดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวนพอสมควรและค่อนข้างเปราะบางตอบสนองต่อข่าวที่เข้ามากระทบตลาดไวโดยเมื่อวานนี้ S50Z16 เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนและมีกรอบการเคลื่อนไหวมีกว้างพอสมควรในวันโดยปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าลงไปทำจุดต่ำสุดในวันที่ 907.90 จุดก่อนปรับตัวขึ้นรุนแรงจากแรงซื้อที่เข้ามาก่อนปิดตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 918.50 จุดด้านดัชนี SET หลักมีปริมาณการซื้อขายลดลงอยู่ที่ระดับ 51,297.65 ลบ.ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปกติในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง -2,440.2 ลบ.พร้อมเปิดสถานะขายสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี ฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ยังคงเฝ้ารอการแถลงนโยบายต่อสภาครองเกรสของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งมื่อคืนนางเยลเลนส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีโดยกล่าวว่ามีความเป็นไปได้สูงมากหลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯกลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าวันนี้ปริมาณการซื้อขายอาจจะมีเบาบางเพราะเป็นช่วงท้ายสัปดาห์และอาจผันผวนในวัน

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Short Positions เป็นหลัก, ยังไร้ปัจจัยบวกและผันผวนในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- บาทอ่อนค่า, ดอลลาร์แข็งค่ารุนแรงที่ USD index เหนือระดับ 100 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- รัฐสั่งลุยแผนพัฒนาระเบียงศก.ตะวันออก : บอร์ดคนพ.เคาะ 48 โครงการเดินหน้าปี60หวังเห็นผลภายใน 3ปี ที่ประชุม คนพ.เห็นชอบแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เร่งเดินหน้าในปี 2560 เตรียมของบประมาณหนุน สั่งสศช.ปรับแผนอีอีซี 5 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและงบประมาณให้เสร็จภายใน 1 เดือน

- เอ็กซิมแบงก์หนุนเอกชนลงทุนต่างประเทศ : เอ็กซิมแบงก์เผยว่ากำลังขยายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในเอเชียที่เป็นตลาดน่าลงทุน เพราะความได้เปรียบด้านความใกล้ชิดทางสังคม วัฒนธรรม และการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

- CPF ลงทุน 38,000 ล.ทะลวงตลาดข้ามทวีป : ซื้อธุรกิจอาหารสำเร็จรูปสหรัฐฯ CPF ลงทุนอีก 38,000 ล้านบาท ซื้อธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานในสหรัฐฯ หวังแทรกแซงตลาดในทวีปอเมริการเหนือ สหรัฐฯ และแคนาดา

- ธปท.ชี้หนี้ครัวเรือนฉุดอสังหาฯ ภาคใต้ : ธปท.รายงานผลสำรวจดัชนีภาวะอสังหาริมทรัพย์ในภาคใต้ พบว่า 6 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นลดลงจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นทำให้ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของลูกค้าลดลง ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อทั้งสิ้นเชื่อที่ให้โครงการและผู้ซื้อ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

จะลงต่อไหม

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,216.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,203.86 – 1,217.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดเช้านี้หลังได้รับแรงกดดันจากประธานเฟดที่ออกมายืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่แน โดยทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสเกิดขึ้นในเดือนหน้าค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามนางเจนเนต เยลเลน ยังคงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงให้การเติบโตในระดับที่ปานกลางตามคาดการณ์ รวมทั้งยืนยันว่าผลการเลือกตั้งไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายทางการเงินของเฟด ทำให้ต้องติดตามภาพรวมของเศรษฐกิจในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร โดยในคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญแต่ให้ระวังความผันผวนที่มักจะเกิดขึ้นในปลายสัปดาห์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นจีนปิดลดลงในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มขนส่งปรับตัวลงไปย้าง ซึ่งทำให้สถิติการพุ่งขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกันของตลาดสิ้นสุดลงแต่หยวนที่ร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 8 ปีเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สร้างความวิตกให้แก่นักลงทุน

- ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในวันพฤหัสบดี ขณะที่ตลาดพันธบัตรเผชิญแรงขายจากความแน่นอนที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และจากสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และไม่มีหลักฐานบ่งชี้การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

- มุมมองด้านอัตราดอกเบี้ยของนางเยลเลนสอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่บ่งชี้ว่า การเริ่มสร้างบ้านแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีในเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี

- ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนครึ่งในวันนี้ ขณะที่เยนอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มแนวโน้มสำหรับผลประอบการที่ดีเกินคาดของผู้ส่งออก

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index ทะลุ 100 จุด

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short ยังคงได้เปรียบแต่ทยอยปิดทำกำไรหากไม่หลุด 1,200 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวเพิ่มในช่วงเปิดตลาดเอเชียเช้าหลังจากที่มีแรงขายกดดันในช่วงสัปดาห์ก่อน ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นแรงซื้อหลังจากที่เกิด Panic Sell แต่อย่างไรก็ตามเรายังมองภาพรวมทิศทางทองคำค่อนข้างไม่สดใสจากปัจจัยต่างๆซึ่งทำให้ฝั่ง Short ยังคงได้เปรียบในวันโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นรุนแรง USD index ทะลุ 101 จุดอย่างมีนัยสำคัญและกองทุน SPDR ขายสุทธิในวันศุกร์กว่า -5.34 ตันรวมถือครองสุทธิที่ 915.29 ตัน

 

Key Factors

• Gold ภาพรวมราคาทองคำโดนกดดันจากปัจจัยระยะสั้นพอสมควรเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างจำกัดเป็นการแกว่งตัวออกข้างเพื่อสร้างกรอบราคามากกว่าโดยการซื้อขายค่อนข้างผันผวนและมีกรอบราคาที่กว้างมากขึ้นหลังปรับตัวลดลงอีกรอบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,203 ดอลลาร์ต่ออนซ์โดยได้รับแรงกดดันจากกองทุน SPDR ซึ่งขายทองคำออกสุทธิกว่า -5.34 ตันรวมถือครองสุทธิที่ 915.29 ตัน ถือว่าเป็นแรงขายที่มีนัยสำคัญและสะท้อนมุมมองต่อปัจจัยระยะสั้นได้แก่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯหลังภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้นและนางเยนเลนประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอาจมีการดำเนินนโยบายดังกล่าวเร็วๆนี้ (ซึ่งอาจใช่หรือไม่ใช่ช่วงเดือนธันวาคมก็เป็นได้)

 

Exclusive News

• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบปีนี้ในวันศุกร์จากการปรับสถานะการลงทุนและการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งนายโดนัลด์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ30ปีพุ่งสู่ระดับ 3.051% ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.355%

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 7 .70 ดอลลาร์ สู่ 1,208.31 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ ลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ที่ 1,203.52 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ13 ปีครึ่งโดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมว ันที่ 13-14 ธ.ค. และรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐจะปรับเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าโอเปกจะสามารถหาหนทางในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6 % มาปิดตลาดที่ 45.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

• การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559)

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัวฝั่ง Short ยังได้เปรียบในวันแต่หากหลุดกรอบให้ปิดสถานะลดความเสี่ยง

Smart Stock

Today Strategy:

เคลื่อนไหวในกรอบลุ้นปัจจัยเดิม

• ในวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในช่วงเช้าก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันตลาดในช่วงบ่ายถือว่าแกว่งในกรอบราคาเดิม โดย S50Z16 เปิดตลาดที่ 913.50 จุดทำจุดต่ำสุดในวันที่ 906.50 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 916.30 จุด และปิดตลาดที่ 912.60 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 10 จุด เช่นเดียวกับดัชนี SET ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง 738.4 ลบ.รวมทั้งยังขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ด้วย รวมมีปริมาณการซื้อขายระหว่างวัน 49,361.54 ลบ.เบาบางลงตามที่คาดการณ์เนื่องจากเป็นปลายสัปดาห์ที่ยังขาดปัจจัยใหม่ๆและรอปัจจัยเดิม โดยส่วนมากเป็นแรงขายจากกลุ่ม Big Cap ฝ่ายวิจัยมองว่า Upside ค่อนข้างจำกัดเพราะขาดปัจจัยใหม่ๆและมีปัจจัยลบภายนอกรุมเร้าได้แก่ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต้นทุนปัจจัยการผลิตสูงขึ้น, USD index แข็งค่าเกิน 101 จุด, กลุ่มพลังงานยังคงผันผวนตามราคาน้ำมันดิบโลก ,อัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ 10 ปีสูงขึ้นและที่สำคัญประเด็นเรื่องการปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯกำลังกลับมาเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองอีกครั้งหลังจากที่นางเยลเลนส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาเดิมและยังมีความเสี่ยงปกคลุมบรรยากาศการลงทุนฝั่ง Short Position ยังได้เปรียบในวันหากราคาเด้งขึ้นในกรอบราคา

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ประกาศ GDP ประเทศไทยไตรมาสสาม YoY, QoQ วันนี้

- บาทอ่อนค่า, ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- รองนายกยันจีดีพีปีนี้โต 3.3% ลุ้นรัฐลงทุนช่วยพยุงศก. : เศรษฐกิจไทยในปี 59 ยังมีทิศทางขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีการบริโภคภาคภายในประเทศจะปรับตัวลดลง แต่ก็ จีดีพีจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.2-3.3% ส่วนในปีหน้าเชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น

- ต่างชาติทิ้งบอนด์ 5วัน 5.4หมื่นล้าน ยีลด์ทุบสถิติรอบปี : นักลงทุนต่างชาติเทขาย “หุ้น-บอนด์ไทย” ต่อเนื่อง ตลาดบอนด์สัปดาห์เดียวถล่มขายร่วม 5.4 หมื่นล้าน “ไทยบีเอ็มเอ” ระบุบอนด์ยีลด์ระยะสั้นไม่กระทบขณะรุ่นระยะยาวอายุ 10 ปี พุ่งแตะ 2.6% ทุบสถิติรอบปีกระทบแผนระดมทุนยาวแนวโน้มทุนนอกส่อไหลออกต่อเนื่องถึงสิ้นปี

- ลุ้นยอด ‘รูดบัตร’ ปีนี้โต2หลัก : ผู้ประกอบการชี้ไตรมาส 4 สัญญาณการบริโภคเริ่มฟื้น ผู้ประกอบการบัตรเครดิตยอมรับยอดใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอตัว เชื่อทั้งปียังโตได้ 2 หลัก

- เอสเอ็มอีแบงก์ตั้งเป้าปีหน้าสินเชื่อโต 8%เจาะสตาร์ทอัพ : ตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าโต 8% เน้นพัฒนาผู้ประกอบการให้แข็งแกร่ง ส่งเสริมเอสเอ็มอีกลุ่มสตาร์ทอัพ-นวัตกรรม พร้อมหนุนใช้อีคอมเมิร์ซขายสินค้า

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นดีดกลับสั้นๆ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,207.71 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,205.36 – 1,217.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเริ่มดีดกลับได้ในวันนี้ หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมราคาทองคำถือว่าอ่อนแอลงต่อเนื่องในระยะกลาง หลังจากกองทุน SPDR เริ่มมีแรงขายออกมาต่อเนื่องในช่วงหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่คาดว่าอาจจะมีการดีดกลับได้สั้นๆ หากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติมในช่วงนี้ และคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปว่าจะมีประเด็นเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ระยะสั้นยังไม่ลดลงต่ำกว่า 1,200 เหรียญทำให้คาดว่าอาจจะมีการดีดกลับได้สั้นๆ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- กระทรวงการคลังเยอรมนีแถลงในวันนี้ว่า การที่เศรษฐกิจเยอรมนีชะลอการเติบโตลงในไตรมาส 3 เป็นสิ่งที่ได้รับการคาดการณ์ไว้แล้วล่วงหน้า หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยทางกระทรวงระบุว่า การบริโภคภาคครัวเรือนและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นเศรษฐกิจเยอรมนี

- นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันของอิหร่านแสดงความหวังต่อการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งสู่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ถ้ามีการบรรลุข้อตกลง และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกให้ความร่วมมือ

- ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวในวันอาทิตย์ว่า รัสเซียพร้อมที่จะตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันของตนเองไว้ที่ระดับปัจจุบัน เพราะการทำเช่นนี้ไม่ถือเป็นปัญหาสำหรับรัฐบาลรัสเซีย

- นางทาคาโกะ มาซาอิ สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ระบุว่า การเลือกตั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ, การลงมติออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) และสถานะที่อ่อนแอของภาคการเงินของอียู อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในอนาคต และทำให้ตลาดการเงินผันผวนรุนแรง

- นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปยังสัญญาณบ่งชี้ถึงนโยบายที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะนำมาใช้ในอนาคต โดยจะให้ความสนใจต่อเรื่องนี้มากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนมั่นใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index ทะลุ 100 จุด

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

- ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบการรีบาวน์ หรือ รอ short เมื่อราคาปรับขึ้นแรง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองเริ่มกลับมาปิดบวกได้หลังจากลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดบริเวณ 1,203 เหรียญในปลายสัปดาห์ก่อน และเริ่มมีแรงซื้อกลับในช่วงเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มมีการพักตัวหลังปรับตัวขึ้นแรงใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และช่วงนี้ยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระทบราคาทอง แต่มีปัจจัยหลักที่คอยกดดันราคาทองคือ แรงขายของกองทุน SPDR และการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทำให้คาดว่าราคาทองคำอาจจะดีดกลับเพียงช่วงสั้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.44% โดยปิดที่ 1,213.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,205.36 – 1,217.63 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวในแดนบวกบริเวณ 1,219 เหรียญ ราคาทองเริ่มมีแรงดีดกลับได้หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มมีการพักตัวหลังแกว่งทะลุ 100 จุด รวมทั้งตอนนี้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบกับตลาด ทำให้ราคาทองมีการดีดกลับได้บ้างหลับปรับตัวลดลงมาแรง แต่อย่างไรก็ตามราคาทองยังถูกกดดันโดยแรงขายของ SPDR ที่ขายเข้ามาต่อเนื่องอีก 6.53 ตัน รวมถือทองคำ 908.76 ตัน และประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนหน้ายังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำต่อไป

 

Exclusive News

• สมาชิกโอเปกมีกำหนดที่จะทำข้อตกลงตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อิหร่านและสมาชิกโอเปกบางประเทศส่งสัญญาณว่า ประเทศของตนมีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลง และรัสเซียซึ่งอยู่นอกกลุ่มโอเปกก็ส่งสัญญาณดังกล่าวด้วย

• นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่โอเปกจะประสบความสำเร็จในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน และโกลด์แมน แซคส์เชื่อว่า ภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกจะเปลี่ยนไปเป็นภาวะน้ำมันขาดตลาดภายในช่วงกลางปี 2017 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

• ดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์หลังพุ่งขึ้น 10 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการพุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งคาดว่าจะดำเนินนโยบายการคลังที่จะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.35 ดอลลาร์สู่ 1,213.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนครึ่งที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ 1,203.52 ดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวกที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว

• การอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยหนุนราคาทองให้ปรับขึ้นในวันจันทร์นอกจากนี้ ราคาทองที่ระดับต่ำก็ดึงดูดให้ผู้ใช้ทองจริงกลับเข้ามาซื้อทองในตลาดด้วย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบการรีบาวน์ หรือ รอ Short เมื่อราคาปรับตัวขึ้นแรง

Smart Stock

Today Strategy:

รอความชัดเจน

• S50Z16 เมื่อวานเปิดตลาดช่วงเช้ามีแรงขายกดดันตลาดลงมาทำจุดต่ำสุดในวันที่ 912.40 จุดก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 918.10 จุดและปิดตลาด +3.4 จุดที่ 915.7 จุด ด้านดัชนี SET index หลักปิดที่ระดับ 1,473.30 จุด ปริมาณการซื้อขายเบาบางตลอดวันเพียง 38,130.13 ล้านบาทถือว่าน้อยลงกว่าค่าเฉลี่ยที่ห้าหมื่นล้านบาทหรือลดลงประมาณ 20% ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายออกสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ทั้งในประเทศและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ คาดว่ามาจากการเฝ้าารอความชัดเจนประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯและตลาดยังคงขาดปัจจัยบวกรวมทั้งประกาศ GDP-Q3/59 ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดและมีอัตราการเติบโตลดลงโดยเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาสะท้อนมุมมองการลงทุนภาคเอกชนในภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector)ที่ลดลง อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดับที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนคาดโอเปกปรับลดอุปทานได้ตามเป้าหมายหนุนกลุ่มพลังงานและ Big Cap ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดยังคงมี Upside จำกัดและ Downside Risk ที่ค่อนข้างกว้างมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยที่เข้ามากระทบกดดันให้เคลื่อนไหวผันผวนไร้แนวโน้มและแกว่งตัวออกข้างเป็นหลัก

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ, Short Position ได้เปรียบในวันแต่ต้องจำกัดขาดทุนให้เหมาะสมไม่เกิน 2-3 จุดเพราะตลาดยังคงอ่อนไหว

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- บาทอ่อนค่า, ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- บริษัทจดทะเบียนไทยกำไร 2 แสนล้าน : บริษัทจดทะเบียนใน SETจำนวน 527 บริษัท 93% จากทั้งหมด 565 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 425 บริษัทหรือกว่า 80% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมดโดยมีต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลงทำให้มีกำไรขั้นต้น 590,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 208,998 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 251% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

- คลังเล็งขายบอนด์ออมทรัพย์ 1.5 หมื่นล้าน : คลังเตรียมขายพันธบัตรออมทรัพย์ 1.5 หมื่นล้านอายุ 3 ปี และ 7 ปี วันที่ 13 ธ.ค. 2559 เม.ย.2560 พร้อมจับตาเงินทุนไหลออกหลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯสูงขึ้น

- (BJCH17Y) บีเจซี ส่งบิ๊กซีเสียบเอ็มเอ็มเมก้าฯ : CEO บีเจซีและบริษัทบิ๊กซีเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเลิกใช้ตราสินค้าธุรกิจค้าปลีกค้าส่งแบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตให้เป็นแบรนด์บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตเนื่องจากแบรนด์บิ๊กซี มีความแข็งแกร่งมากกว่าแบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตเพราะอยู่ในธุรกิจมานานกว่า 20 ปี ขณะที่แบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองเริ่มกลับมาปิดบวกได้หลังจากลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดบริเวณ 1,203 เหรียญในปลายสัปดาห์ก่อน และเริ่มมีแรงซื้อกลับในช่วงเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มมีการพักตัวหลังปรับตัวขึ้นแรงใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และช่วงนี้ยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระทบราคาทอง แต่มีปัจจัยหลักที่คอยกดดันราคาทองคือ แรงขายของกองทุน SPDR และการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทำให้คาดว่าราคาทองคำอาจจะดีดกลับเพียงช่วงสั้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.44% โดยปิดที่ 1,213.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,205.36 – 1,217.63 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวในแดนบวกบริเวณ 1,219 เหรียญ ราคาทองเริ่มมีแรงดีดกลับได้หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มมีการพักตัวหลังแกว่งทะลุ 100 จุด รวมทั้งตอนนี้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบกับตลาด ทำให้ราคาทองมีการดีดกลับได้บ้างหลับปรับตัวลดลงมาแรง แต่อย่างไรก็ตามราคาทองยังถูกกดดันโดยแรงขายของ SPDR ที่ขายเข้ามาต่อเนื่องอีก 6.53 ตัน รวมถือทองคำ 908.76 ตัน และประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนหน้ายังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำต่อไป

 

Exclusive News

• สมาชิกโอเปกมีกำหนดที่จะทำข้อตกลงตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อิหร่านและสมาชิกโอเปกบางประเทศส่งสัญญาณว่า ประเทศของตนมีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลง และรัสเซียซึ่งอยู่นอกกลุ่มโอเปกก็ส่งสัญญาณดังกล่าวด้วย

• นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่โอเปกจะประสบความสำเร็จในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน และโกลด์แมน แซคส์เชื่อว่า ภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกจะเปลี่ยนไปเป็นภาวะน้ำมันขาดตลาดภายในช่วงกลางปี 2017 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

• ดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์หลังพุ่งขึ้น 10 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการพุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งคาดว่าจะดำเนินนโยบายการคลังที่จะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.35 ดอลลาร์สู่ 1,213.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนครึ่งที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ 1,203.52 ดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวกที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว

• การอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยหนุนราคาทองให้ปรับขึ้นในวันจันทร์นอกจากนี้ ราคาทองที่ระดับต่ำก็ดึงดูดให้ผู้ใช้ทองจริงกลับเข้ามาซื้อทองในตลาดด้วย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบการรีบาวน์ หรือ รอ Short เมื่อราคาปรับตัวขึ้นแรง

Smart Stock

Today Strategy:

รอความชัดเจน

• S50Z16 เมื่อวานเปิดตลาดช่วงเช้ามีแรงขายกดดันตลาดลงมาทำจุดต่ำสุดในวันที่ 912.40 จุดก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 918.10 จุดและปิดตลาด +3.4 จุดที่ 915.7 จุด ด้านดัชนี SET index หลักปิดที่ระดับ 1,473.30 จุด ปริมาณการซื้อขายเบาบางตลอดวันเพียง 38,130.13 ล้านบาทถือว่าน้อยลงกว่าค่าเฉลี่ยที่ห้าหมื่นล้านบาทหรือลดลงประมาณ 20% ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายออกสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ทั้งในประเทศและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ คาดว่ามาจากการเฝ้าารอความชัดเจนประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯและตลาดยังคงขาดปัจจัยบวกรวมทั้งประกาศ GDP-Q3/59 ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดและมีอัตราการเติบโตลดลงโดยเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาสะท้อนมุมมองการลงทุนภาคเอกชนในภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector)ที่ลดลง อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดับที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนคาดโอเปกปรับลดอุปทานได้ตามเป้าหมายหนุนกลุ่มพลังงานและ Big Cap ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดยังคงมี Upside จำกัดและ Downside Risk ที่ค่อนข้างกว้างมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยที่เข้ามากระทบกดดันให้เคลื่อนไหวผันผวนไร้แนวโน้มและแกว่งตัวออกข้างเป็นหลัก

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ, Short Position ได้เปรียบในวันแต่ต้องจำกัดขาดทุนให้เหมาะสมไม่เกิน 2-3 จุดเพราะตลาดยังคงอ่อนไหว

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- บาทอ่อนค่า, ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- บริษัทจดทะเบียนไทยกำไร 2 แสนล้าน : บริษัทจดทะเบียนใน SETจำนวน 527 บริษัท 93% จากทั้งหมด 565 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 425 บริษัทหรือกว่า 80% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมดโดยมีต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลงทำให้มีกำไรขั้นต้น 590,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 208,998 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 251% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

- คลังเล็งขายบอนด์ออมทรัพย์ 1.5 หมื่นล้าน : คลังเตรียมขายพันธบัตรออมทรัพย์ 1.5 หมื่นล้านอายุ 3 ปี และ 7 ปี วันที่ 13 ธ.ค. 2559 เม.ย.2560 พร้อมจับตาเงินทุนไหลออกหลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯสูงขึ้น

- (BJCH17Y) บีเจซี ส่งบิ๊กซีเสียบเอ็มเอ็มเมก้าฯ : CEO บีเจซีและบริษัทบิ๊กซีเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเลิกใช้ตราสินค้าธุรกิจค้าปลีกค้าส่งแบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตให้เป็นแบรนด์บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตเนื่องจากแบรนด์บิ๊กซี มีความแข็งแกร่งมากกว่าแบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตเพราะอยู่ในธุรกิจมานานกว่า 20 ปี ขณะที่แบรนด์เอ็มเอ็มเมก้ามาร์เก็ตเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างฐานราคา

- ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าปรับตัวลดลงหลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,221.06 USD/toz หลังย่อตัวลงในช่วงวันศุกร์กว่า 14.26 USD/toz หลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจาก USD index ที่ทะยานขึ้นไปสูงกว่าระดับ 101 จุดทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 แม้จะย่อตัวลงมาแล้วตั้งแต่เมื่อวานแต่ก็ยังถือว่าแข็งค่าอยู่เหนือระดับ 100 จุดกดดันทั้งทองคำและค่าเงินยูโร อีกปัจจัยหนึ่งซึ่งสะท้อนอ่อนไหวของตลาดสินทรัพย์ลงทุนได้แก่ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนทั้งปรับขึ้นและปรับลงรุนแรงตามคาดการณ์การปรับลดอุปทานน้ำมันดิบของโอเปกซึ่งต้องติดตามการประชุมโอเปกในช่วงปลายเดือนอย่างใกล้ชิด ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยลบค่อนข้างปกคลุมตลาดทองคำโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุน SPDR ขายทองคำออกสุทธิเมื่อวานนี้กว่า 6.53 ตัน มีสถานะถือครองทองคำ 908.76 ตัน ถือว่าขายออกค่อนข้างมากภายในหนึ่งวันทำการถือเป็นตัวสะท้อนมุมมองของกองทุนขนาดใหญ่ที่มีต่อทิศทางราคาทองคำในช่วงสั้นได้เป็นอย่างดี ค่ำคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯประกอบการลงทุนได้แก่ ตัวเลขยอดขายบ้านที่สร้างเสร็จแล้วและรายงานดัชนีภาคการผลิตในริชมอนด์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์ร่วงหลังบวกต่อเนื่องสิบวัน : ดอลลาร์ร่วงลงหลังพุ่งขึ้นสิบวันติดต่อกันขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการพุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งนายทรัมป์ซึ่งคาดว่าจะดำเนินนโยบายการคลังที่จะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.3% สู่ระดับ 100.90 จุดหลังปรับตัว ขึ้นเกือบ 5% ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ในขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.2%

- น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4% คาดโอเปกบรรลุข้อตกลง : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 4 % สู่จุดสูงสุดรอบสามสัปดาห์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะบรรลุข้อตกลงกัน ในวันที่ 30 พ.ย.ในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ. ค.พุ่งขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 4 % มาปิดตลาดที่ 47.49 USD/bbl

- ทองดีดขึ้นขณะดอลลาร์อ่อนค่า : ทองคำปรับขึ้น 5.35 ดอลลารสู่ 1,213.66 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์จากจุดต่ำสุดรอบห้าเดือนครึ่งที่ทำไว้ที่ 1,203.52 USD/toz ในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวกที่ทำ ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว

- EIA รายงานตัวเลขน้ำมันสหรัฐ : สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ย.ในวันพรุ่งนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 0.8 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.8% จาก 89.2%

- โกลด์แมนแซคส์ให้ความเห็นทิศทางราคาทองคำ : โกลด์แมนแซคส์ระบุว่า "เราปรับลดคาดการณ์ราคาทองในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือนข้างหน้าของเราลงสู่ระดับ 1,200 USD/toz เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นและเรายังคงคาดการณ์ราคาทองในช่วง 12 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 1,250 USD/toz เนื่องจากราคาทองจะขึ้นอยู่กับว่าธนาคารกลางสหรัฐจะจัดการอย่างไรกับมาตรการกระตุ้นและภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐขณะที่เศรษฐกิจบรรลุภาวะการจ้างงานแบบเต็มที่

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index ทะลุ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาฝั่ง Short ได้เปรียบในวัน, เปิดสถานะลงทุนเมื่อราคาดีดตัว

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวบริเวณด้านล่าง โดยเมื่อวานนี้ราคาพยายามดีดกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,221 เหรียญ และราคาเริ่มไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่จากสัปดาห์ก่อน แต่ภาพรวมทองคำโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 100 จุดได้ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง รวมทั้งแรงขายของ SPDR ที่เริ่มขายต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์ทำให้กดดันภาพระยะกลางและระยะยาวของทองคำ แต่ในระยะสั้นอาจจะลุ้นการดีดกลับสั้นๆ หลังจากราคาปรับลดลงมาแรงในช่วง 2 สัปดาห์นี้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.15% โดยปิดที่ 1,211.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,205.86 – 1,221.06 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,213 เหรียญ ราคาทองคำพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยทำจุดสูงสุดเมื่อวานนี้ที่บริเวณ 1,221 เหรียญ และจุดต่ำสุดบริเวณ 1,205 เหรียญ ซึ่งไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่จากปลายสัปดาห์ก่อน โดยภาพรวมทองคำยังโดนกดดันจากการคาดการนโยบายของนายทรัมป์ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 100 จุด รวมทั้งตลาดหุ้นดาวโจนส์สหรัฐฯ ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องและการขายทองคำของ SPDR ที่ยังมีต่อเนื่องโดยเมื่อวานนี้ขายอีก 3.85 ตัน รวมถือทอง 904.91 ตัน ทำให้ทองคำยังถูกกดดันต่อ แต่จากการที่ราคาลงมาแรงในช่วงสองสัปดาห์ก่อน รวมทั้งเริ่มไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ในระยะสั้น ทำให้อาจจะเกิดการดีดกลับได้บ้างในช่วงสั้น

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 1 ดอลลาร์ในช่วงแรก หลังจากเจ้าหน้าที่ไนจีเรียที่เข้าร่วมการประชุมกลุ่มโอเปกกล่าวว่า ประเทศสมาชิกโอเปกทุกประเทศจะสนับสนุนข้อตกลงภายในวันอังคารอย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงในเวลาต่อมา หลังจากมีข่าวว่า กลุ่มโอเปกที่ประกอบด้วยสมาชิก 14 ประเทศจะเลื่อนการตัดสินใจเรื่องการทำข้อตกลงออกไปจนกว่าจะถึงวันที่ 30 พ.ย.เนื่องจากมีเสียงคัดค้านจากอิหร่านและอิรัก

• ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐเพิ่มขึ้น 2% สู่ 5.6 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีครึ่ง ซึ่งช่วยหนุนดอลลาร์ดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดของวันเมื่อเทียบกับเยน และหนุนดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัว ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.4% สู่ 111.18 เยน

• ดัชนีดอลลาร์แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ 101.07 ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สู่ระดับ 1.0622 ดอลลาร์ และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ซึ่งเข้าทดสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

• ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นนับตั้งแต่สหรัฐจัดการเลือกตั้ง ในขณะที่นายทรัมป์ให้สัญญาว่าจะปรับลดภาษี, ปรับเพิ่มงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และปรับลดกฎระเบียบในภาคธนาคารและการแพทย์

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบการดีดกลับสั้นๆ หรือรอ short เมื่อราคาปรับขึ้นแรง

Smart Stock

Today Strategy:

กำลังหาแนวโน้ม

• S50Z16 เมื่อวานนี้ซื้อขายกันในแดนบวกเป็นหลักเปิดตลาดที่ 922.20 จุด และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดวันก่อนขึ้นไปปิดตลาดที่925 จุด ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในวันที่ 925.40 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 4-5 จุด ภาพรวมของรูปแบบการเคลื่อนไหวในวันค่อนข้างต่างกับดัชนี SET index ซึ่งแกว่งตัวออกข้างตลอดวันมากกว่าแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นก็ยังไม่สามารถดันตลาดขึ้นไปเหนือระดับ 1,500 จุดได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีมีรูปแบบเป็น Contango กับสินทรัพย์อ้างอิงคือราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสูงกว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าสินทรัพย์อ้างดิง(ตัวดัชนี)จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตหรือช่วงสิ้นสุดอายุสัญญา ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวค่อนข้างไร้ทิศทางและเปราะบางพอสมควรปัจจัยลบยังปกคลุมบรรยากาศการลงทุนทั้งเงินบาทที่อ่อนค่า,ดอลลาร์แข็งค่ารุนแรง,แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯช่วงเดือนธันวาคมซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเมื่อวานนี้ -992.61 ล้านบาทโดยขายสุทธิสะสมตลอดเดือนที่ -29,313.07 ล้านบาท ปริมาณซื้อขายเบาบางเพียง 45,645.65 ล้านบาทสะท้อนความไม่สดใสในตลาดหุ้นไทยและ Upside ที่ยังจำกัด

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบเพราะตลาดยังเคลื่อนไหวอย่างไม่มีแนวโน้มหากรับความเสี่ยงได้น้อยให้ถือเงินสด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเชื่อไม่ฉุดเศรษฐกิจมีผล 1 ม.ค.60 : ครม.ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 69 จังหวัดหลังในอัตรา 5-10 บาท ตามพื้นที่ระบุเฉลี่ยค่าแรงในไทยปรับขึ้น 1.7% เชื่อไม่ฉุดเศรษฐกิจสะดุดและดันราคาสินค้าพุ่งจนกระทบค่าครองชีพประชาชน แจงแปดจังหวัดที่ไม่ได้ปรับขึ้นเพราะไม่ใช่แหล่งโรงงานอุตสาหกรรม

- ท่องเที่ยวไทยปีหน้าลุ้นโต 10% : ศูนย์วิจัยฯ ไทยพาณิชย์มองท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่องปีหน้าลุ้นยอดเพิ่มขึ้น 10% ทั้งจำนวนและรายได้แนะรัฐหนุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับนักเที่ยวสูงอายุ ครม.อนุมัติเว้นค่าวีซ่าดึงนักท่องเที่ยว 19 ประเทศ

- โครงสร้างพื้นฐานดันเหล็กฟื้น : ผู้ประกอบการเหล็กประเมินความต้องการใช้เหล็กฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนจากลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขณะ “มิลล์คอน” รุกตลาดอาเซียน 5 ประเทศแรกเร่งเจรจาพันธมิตรเข้าลงทุนเมียนมาร์ คาดรายได้ปีหน้าโต 10%

- (BHZ16) 'BH' จับกลุ่มลูกค้าต่างชาติผนึกพันธมิตรอัพฐานผู้ป่วย : BH เร่งเครื่องธุรกิจเต็มสูบทุ่มงบ 1.2 พันล้านบาทซื้อที่ดินขยายพื้นที่ เปิดคลินิกโกยฐานผู้ป่วยเข้าพอร์ต จับมือพาร์ตเนอร์ 20 ประเทศทั่วโลก เขย่าธุรกิจโรงพยาบาลโตฉลุย หนุนความสามารถทำกำไรพุ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เคลื่อนไหวในกรอบ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,212.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,209.85 – 1,214.93 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบในวันนี้ เนื่องจากยังขาดปัจจัยในช่วงเช้าวันนี้ โดยคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาค่อนข้างมาก โดยตัวเลขที่สำคัญได้แก่ ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงาน ตัวเลขการขายบ้าน คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ และประเด็นสำคัญช่วงตีสอง คือรายงานผลการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด ว่าจะให้มุมมองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร ซึ่งหากเริ่มแสดงความชัดเจนถึงการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ก็อาจจะกดดันราคาทองต่อได้ แต่ถ้ายังคงรอความชัดเจนเช่นเดิม อาจจะเริ่มเห็นการพักตัวของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองดีดกลับในรอบสั้นๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตามฝั่ง short ยังคงได้เปรียบอยู่

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค รมว.พลังงานรัสเซียกล่าวในวันนี้ว่า รัสเซียยังไม่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย. แต่รัสเซียจะเข้าร่วมในการปรึกษาหารือระดับผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 พ.ย.

- สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะหารือกันในสัปดาห์หน้าเรื่องการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 4.0-4.5% สำหรับทุกประเทศสมาชิก ยกเว้นลิเบียและไนจีเรีย อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในการทำข้อตกลงนี้จะขึ้นอยู่กับว่า อิรักและอิหร่านเห็นด้วยกับข้อตกลงหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่า ทั้งสองประเทศนี้จะให้การสนับสนุนข้อตกลงอย่างเต็มที่

- ชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองจริงในยุโรปในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่นักลงทุนในสหรัฐยังคงนิ่งเฉย เพราะว่านักลงทุนหลายรายในสหรัฐคาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากลงคะแนนเสียงให้นายทรัมป์ไปแล้ว

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 2 ปีดิ่งลงแตะสถิติต่ำสุดใหม่ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะต่ออายุมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ออกไปเพื่อให้เลยช่วงเดือนมี.ค. 2017 และการต่ออายุดังกล่าวจะส่งผลให้ภาวะขาดแคลนตราสารหนี้ที่สามารถซื้อขา¬¬ยได้ในตลาดทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ตลาดกำลังรอดูรายงานการประชุมนโยบายประจำเดือนพ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index และยังเคลื่อนไหวเหนือ 100 จุดได้

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

- เปิดเผยผลการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดในคืนนี้

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบแคบ โดยเน้น ฝั่ง short เมื่อราคาปรับตัวขึ้นแรง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือนครึ่ง โดยปรับตัวลดลงแรงในเมื่อวานนี้กว่า 2.0% โดยปัจจัยกดดันราคาทองยังคงเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนหน้า เข้ามาใกล้ 100% และกองทุน SPDR ขายกดดันราคาต่อเนื่อง แต่ในวันนี้คาดว่าราคาอาจจะไม่ผันผวนรุนแรงเนื่องจากตรงกับวันหยุดธนาคารสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 24.21 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -2.00% โดยปิดที่ 1,187.65 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,181.45 – 1,214.93 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,185 เหรียญ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อ โดยตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวออกมาดีกว่าคาดการณ์ ทำให้ความคาดหวังของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าที่ให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเข้าใกล้ 100% รวมทั้งนักลงทุนคาดการณ์ถึงปีหน้าที่คิดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำมีปัจจัยกดดันราคาอย่างต่อเนื่อง และกองทุน SPDR ขายทองคำต่อเนื่องมากกว่า 63.46 ตัน หลังจากทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี คาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไม่รุนแรงเนื่องจากตรงกับวันหยุดของสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะตกลงกันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในระดับที่มากพอที่จะช่วยบรรเทาภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกลงได้อย่างจริงจังหรือไม่ ในขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับสูงขึ้น

• ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2003 ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวและตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าและในปีหน้า

• การดีดตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมา และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่ต่ำกว่า 300,000 รายเป็นเวลา 90 สัปดาห์ติดต่อกันได้ช่วยสนับสนุนแแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ โดยขณะนี้ตลาดปรับตัวรับโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ รายงานการประชุมของเฟดในเดือนนี้ยังบ่งชี้ด้วยว่า เฟดใกล้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,180 – 1,200 เหรียญและ follow เมื่อ breakout โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ

Smart Stock

Today Strategy:

ปรับขึ้นแต่เปราะบาง

• S50Z16 เมื่อวานนี้เปิดตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวันโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 932.00 จุดก่อนปิดตลาดในบริเวณที่ใกล้เคียงกันที่ 931.60 จุด เช่นเดียวกับดัชนี SET index หลักซึ่งเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นในวันเช่นกันปิดบวกที่ 1,496.36 จุด มีเเรงหนุนจากกองทุนภายในประเทศและเเรงซื้อจากกลุ่ม Big Cap มีความพยายามที่จะผลักดันตลาดขึ้นสู่ระดับ 1,500 จุด ปริมาณการซื้อขายที่ 50,686.61 ล้านบาทไม่มากไม่น้อยในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -692.27 ล้านบาทคงมุมมองเดิมตลอดสองเดือนที่ผ่านมาซึ่งสำหรับเดือนพฤศจิกายนขายสุทธิไปกว่า -30,005.35 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภูมิภาคซึ่งตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นสามวันทำการติดต่อกันแล้วแต่ยังถือว่าเป็นการปรับขึ้นที่ค่อนข้างเปราะบางเนื่องจากยังมีปัจจัยภายนอกกดดันตลาดได้แก่ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯและการประชุมเพื่อหาแนวทางในการลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกในทางปฏิบัติ ส่วนปัจจัยบวกในวันสำหรับตลาดทุนได้แก่ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดบวกทำจุดสูงสุดใหม่สร้างภาพรวมบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นแต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าเงินทุนที่ไหลเข้าไปผลักดันตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นเป็นเงินทุนที่ไหลออกจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่หรือไม่

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ 926-934 จุด, ปัจจัยบวกยังไม่มากนักระวังแรงขายกดดันหลังปรับตัวขึ้นสามวันทำการติดต่อกัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศไทย 28 พ.ย. : ดุลการค้า, ยอดการส่งออก, ยอดการนำเข้า

- ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- เปิดยื่น ‘พิโกไฟแนนซ์’ 1 ธ.ค. ประเมินภาพรวมหนี้นอกระบบสูงระดับแสนล้าน : “คลัง” พร้อมเปิดให้ผู้สนใจทำธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ยื่นขอใบอนุญาต 1 ธ.ค.นี้ คาดมีผู้สนใจมากกว่าสินเชื่อ นาโนไฟแนนซ์ ระบุกำหนดทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน ชี้ช่วยให้รายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

- ผุดเศรษฐกิจพิเศษ ลงทุนตราด 5 พันล. : ธนารักษ์อนุมัติ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ประเดิมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตราด ลงทุน 5,000 ล้านบาท ให้สิทธิบริหาร 50 โดยได้ลงนามสัญญาเช่าที่ราชพัสดุเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตราดกับบริษัทซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ระยะเวลา 50 ปี โดยมีมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาทแบ่งเป็นการลงทุน 3,000 ล้านบาท และค่าเช่าที่ราชพัสดุ 2,000 ล้านบาท ใช้เวลาลงทุน 6 ปี ตั้งแต่ 2560-2565

- (SIRIZ16) ‘แสนสิริ’หวังอสังหาปี 60 ฟื้น ปัจจับบวกลงทุนรัฐ-ส่งออก : “แสนสิริ” มองอสังหาฯปี60 ฟื้น ปัจจัยพื้นฐานดีขึ้น ทั้งการส่งออกการเกษตร รัฐอัดฉีดเม็ดเงินสู่รากหญ้า เดินหน้าโครงการลงทุนเมกะโปรเจค ลุยเปิดโครงการ “คุณ บาย ยู” มูลค่า 4 พันล้าน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลงแล้ว...ลงอีก

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,184.66 USD/toz แกว่งตัวออกข้างในกรอบตลอดวันยังไม่มีทิศทางราคาที่ชัดเจนหลังจากที่เมื่อคืนปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงจากระดับ 1,211 USD/toz ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,181.45 USD/toz ปรับลดลงกว่า 29.55 USD/toz หรือลดลงกว่า -2.44% ซึ่งสวนทางกับตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯที่รายงานเป็นผลบวกต่อราคาทองคำแต่ไม่สามารถหนุนราคาทองคำให้ซื้อขายในแดนบวกได้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าจะปรับขึ้นแน่นอนเร็วๆนี้เป็นตัวเร่งให้เงินทุนไหลเข้าสู่ค่าเงินดอลลาร์ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาทองคำต่อเนื่องรวมทั้งเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้แก่ตลาดหุ้นสหรัฐฯซึ่งทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อคืนก่อน สำหรับการซื้อขายค่ำคืนนี้ให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวังและติดตามตัวเลขเศรษฐกิจได้แก่ ดุลการค้า, ปริมาณสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเบื้องต้น, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการครั้งแรก

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- แนวโน้มราคาน้ำมันจาก IEA : สำนักงานพลังงานสากลระบุว่าปริมาณการลงทุนในการผลิตน้ำมันใหม่มีแนวโน้มที่จะลดลงในปี หน้าเป็นปีที่สามติดต่อกันในขณะที่ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลกยังคงอยู่ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวน

- ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน : นักลงทุนคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันอย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดในระดับต่ำกว่าที่ซาอุดิอาระเบียคาดการณ์ไว้

- ทองดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 9 เดือนครึ่ง : ทองดิ่งลง 24.21 USD/toz หรือ 2 % สู่ 1,187.65 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังลดลง 2.5 % แตะจุดต่ำสุดรอบ 9 เดือนครึ่งที่ 1,181.45 USD/toz ในระหว่างวัน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2546 โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

- น้ำมันดิบขยับลงเล็กน้อย : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าWTI(NYMEX) ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะตกลงกันปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในระดับที่มากพอที่จะช่วยบรรเทาภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกลงได้อย่างจริงจังหรือไม่ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ขยับลง 7 เซนต์ หรือ 0.2 % มาปิดตลาดที่ 47.96 USD/bbl หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 47.40-48.43 USD/bbl

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดร่วงลง : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันพุธ ถึงแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลงจากจุดสูงสุดรอบหลายปี หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดประมูลขายพันธบัตรประเภทอายุ 7 ปี และได้รับการตอบรับอย่างแข็งแกร่ง ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ย. โดยไม่มีเนื้อหาที่น่าประหลาดใจในรายงานการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีร่วงลง 09/32 สู่ 96-29/32 ในช่วงท้ายตลาด โดยมีผลตอบแทน 2.352 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปรับลง 06/32 สู่ 97-06/32 โดยมีผลตอบแทน 3.018 %

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index และยังเคลื่อนไหวเหนือ101จุด

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบแคบฝั่ง Short Position ได้เปรียบเมื่อราคาปรับตัวขึ้น

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำยังโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวบริเวณจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยราคาทองเคลื่อนไหวในแดนลบแคบๆ เนื่องในวันหยุดของสหรัฐฯ และในวันนี้คาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเปิดทำการเพียงแค่ครึ่งวัน รวมทั้งทองคำยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 4.45 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.37% โดยปิดที่ 1,183.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,180.99 – 1,190.54 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,182 เหรียญ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวานนี้เนื่องจากตรงวันหยุดของทางสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ได้ปิดทำการ โดยราคาทองปรับตัวขึ้นระหว่างวันได้เล็กน้อย ไปทดสอบจุดสูงสุดระหว่างวันเพียง 1,190 เหรียญ และกลับมาปิดในแดนลบซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่องและค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเคลื่อนไหวสูงสุดในรอบ 14 ปี และทองคำยังขาดปัจจัยสนุบสนุนในช่วงนี้ รวมทั้งคืนนี้คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทำการเพียงครึ่งวัน แต่อย่างไรก็ตามก็ควรระมัดระวังหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,180 เหรียญ ที่ทำให้ราคาทองมีโอกาสแกว่งผันผวนได้

 

Exclusive News

• ตลาดเงินนิวยอร์คปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

• ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุในเมื่อวานนี้ว่า เสถียรภาพทางการเงินในยูโรโซนเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น และอาจจะมีความกังวลกันว่า บางประเทศในยูโรโซนจะสามารถชำระหนี้ได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ โดยความกังวลดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอในยูโรโซน

• อีซีบีระบุในรายงานทบทวนเสถียรภาพว่า "ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น อาจจะส่งผลให้มีการออกนโยบายที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายที่เน้นกิจการภายในประเทศมากยิ่งขึ้น"

• องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ระบุในวันนี้ว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆจำเป็นต้องยุติการยึดติดกับระดับหนี้สิน และหันมาปรับเพิ่มงบใช้จ่ายในนโยบายที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับปรับลดภาระภาษีในส่วนที่สามารถทำได้

• นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค รมว.พลังงานรัสเซียกล่าวในวันนี้ว่า รัสเซียอาจจะปรับทบทวนแผนผลิตน้ำมันประจำปี 2017 ให้ต่ำลงจากเดิม ถ้าหากข้อตกลงตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกมีผลบังคับใช้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบแคบหรือ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

รอความชัดเจน

• S50Z16 เมื่อวานนี้มีแรงขายทำกำไรออกมาในตลาดตั้งแต่ช่วงเช้าหลังดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันสามวันทำการ โดย S50Z16 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 929.80 จุดก่อนลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 924.20 จุดมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 5.60 จุด เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับดัชนี SET index หลักซึ่งก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับราคาที่มีนัยสำคัญบริเวณ 1,500 จุดได้ต่างชาติยังคงมุมมองขายสุทธิเหมือนเดิมที่ -1,315.80 ล้านบาทมีปริมาณการซื้อขายทั้งวันรวมเพียงแค่ 33,752.37 ล้านบาทถือว่าเบาบางมากเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าวันนี้ดัชนีจะยังคงมีปริมาณการซื้อขายเบาบางเช่นเดิมเนื่องจากเป็นปลายสัปดาห์และยังขาดปัจจัยบวกทั้งภายในและภายนอกเงินลงทุนต่างชาติยังคงไหลออกต่อเนื่องเข้าสู่ค่าเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงสวนทางกับดัชนี USD index ที่แข็งค่ารุนแรงสำหรับวันนี้ให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวังเพราะตลาดยังคงเปราะบางและขาดปัจจัยบวกไม่ควรถือสถานะลงทุนข้ามวันและหากมีสถานะลงทุนให้ลดสถานะลงเท่าที่รับความเสี่ยงได้

 

• แนะนำ : Wait&See ลดสถานะการลงทุน, รอความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศไทย 28 พ.ย. : ดุลการค้า, ยอดการส่งออก, ยอดการนำเข้า

- ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

 

ข่าวในประเทศ

- จี้รัฐวิสาหกิจเร่งลงทุน3.7แสนลบ. : สคร.จะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 60 ที่มีอยู่ 3.7 แสนลบ.คิดเป็น 95% ให้ได้ตามเป้าหมายเนื่องจากมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างมาก

- ปั้นเอสเอ็มอีนักรบรุ่นใหม่โกยยอดขายได้ 5.2 หมื่นลบ. : กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเปิดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี สปริง อัพ รุ่นที่ 4-5 ในเร็ว ๆ นี้หลังจากพบว่าการเปิดอบรมฯ ในรุ่นที่ 1-3 ได้รับความสำเร็จอย่างมาก โดยมีเอสเอ็มอีเข้าโครงการถึง 345 ราย มีเงินลงทุนเริ่มต้นการทำธุรกิจ 12,423 ล้านบาท ยอดขายรวม 52,699 ลบ. และเกิดการจ้างงาน ถึง 30,102 คน

- (AOTZ16) 'AOT' ขานรับท่องเที่ยว : โบรกชี้เป้าราคา 490 บาท AOT รับอานิสงส์เต็มๆ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ บวกช่วงไฮซีซันหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นดันผลงานไตรมาส 1/2560 (ต.ค.-ธ.ค.) โตแรง จากจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวด้อยกว่าตลาด เป็นจังหวะดีในการสะสม โบรกเคาะเป้าหมาย 490 บาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

จะเด้งได้ไกลแค่ไหน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,184.21 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,171.21 – 1,186.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดตลาดใกล้เคียงเดิมก่อนที่จะมีแรงขายอีกรอบในช่วงเช้าลงไปทดสอบจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง ก่อนที่จะดีดกลับเล็กน้อย โดยในคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน และไม่มีตัวเลขสำคัญประกาศในคืนนี้ แต่คาดว่าอาจจะเห็นราคาทองคำแกว่งผันผวนได้ หลังจากเคลื่อนไหวแรงในเมื่อเช้านี้ และในสัปดาห์หน้าที่จะมีการประชุมของ OPEC เกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมันและทางฝั่งธนาคารกลางยุโรปที่เริ่มมีโอกาสปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินมากขึ้น รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างเยอะในช่วงต้นเดือน ทำให้ต้องระมัดระวังความผันผวนในจังหวะทีเผลอที่นักลงทุนคาดว่าจะมีการซื้อขายที่เบาบางเนื่องในวันหยุดของฝั่งสหรัฐฯ และราคาทองคำมีแนวโน้มที่อ่อนแอต่อเนื่องโดยราคาปรับลดลงหลังจากวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กว่า 160 เหรียญแล้ว ทำให้ควรเพิ่มระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อขายทั้งฝั่ง long และฝั่ง short

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีระยะสั้นดิ่งลงสู่สถิติต่ำสุดใหม่ในวันนี้ ในขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรดังกล่าวอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ตลาดพันธบัตรทั่วโลกดิ่งลงในช่วงนี้ก็ตาม

- สำนักข่าวนิวส์ไรส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังอินเดียคนหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลอินเดียอาจจะกำหนดเพดานการถือครองทองภายในประเทศ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีนาเรนดรา โมดีของอินเดียเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินมาตรการต่อต้าน "เงินนอกกฎหมาย"

- ร่างงบประมาณของรัฐบาลญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นวางแผนปรับเพิ่มงบใช้จ่ายของรัฐบาลขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับปีหน้า ในขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นดำเนินนโยบายไปในทิศทางที่แตกต่างจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายทรัมป์ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

- นายโรเบร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า เขาไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะให้สหรัฐถอนตัวออกจาก WTO

- รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่นปรับลดลงในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน และถือเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยรายงานตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังเผชิญกับภารกิจที่ยากลำบากในการยุติภาวะเงินฝืด และในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะงักงัน ในขณะที่ทางเลือกในการกำหนดนโยบายของบีโอเจเหลือน้อยลงเรื่อยๆ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นร่วงลง 0.4% ต่อปีในเดือนต.ค. ซึ่งเท่ากับตัวเลขคาดการณ์ในตลาด หลังจากปรับลง 0.5% ต่อปีในเดือนก.ย. โดยดัชนี CPI พื้นฐานของญี่ปุ่นเป็นดัชนีที่ไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมราคาผลิตภัณฑ์น้ำมัน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ารุนแรง USD index และยังเคลื่อนไหวเหนือ101จุด

- คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบกรารีบาวน์ โดยระมัดระวังความผันผวนที่อาจจะมากขึ้น

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองก็ยังเป็นปัจจัยเดิมคือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และความกังวลถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ลุ้นราคาทองคำดีดกลับในช่วงสั้นๆ ถ้าหากราคาทองคำไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยในเช้านี้เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาทางฝั่งตลาดเอเชีย แต่ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะมีประกาศออกมามากในสัปดาห์นี้และการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งผันผวนได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 0.32 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.03% โดยปิดที่ 1,182.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,171.21 – 1,184.21 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,192 เหรียญ ราคาทองคำได้ไปทดสอบจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน ที่บริเวณ 1,170 เหรียญ และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาปิดใกล้เคียงเดิม และในเช้าวันนี้เริ่มเห็นการดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง โดยในสัปดาห์นี้มีประเด็นหลักๆ ที่ต้องติดตามคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขภาคการผลิต ของสหรัฐฯ และทางฝั่งยุโรปคือ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปที่จะพูดถึงมุมมองเศรษฐกิจ และประเด็นนโยบายทางการเงินที่ต้องติดตามว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และการประชุมกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในวันพุธนี้ ทำให้สัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน ได้ในสัปดาห์นี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงเกือบ 4% ในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากซาอุดิอาระเบียระบุว่า จะไม่เข้าร่วมการเจรจาในวันจันทร์นี้กับประเทศผู้ผลิตที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปกเพื่อหารือเรื่องการปรับลดการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรดอลลาร์หลังจากทะยานขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 14 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงจากระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.3% สู่ระดับ 101.42 หลังแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 14 เดือนในวันพฤหัสบดี

• ตลาดหุ้นและสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ค่าเงินลีร์ของตุรกีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นอัตราดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยลีร์ได้รับผลกระทบเนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหภาพยุโรปได้เรียกร้องให้ยุติการเจรจากับตุรกีชั่วคราวเรื่องการเป็นสมาชิกอียู

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ปิดทำกำไรฝั่ง short และเริ่มเปลี่ยนมา trading ในกรอบการรีบาวน์โดยฝั่ง long เริ่มน่าสนใจมากขึ้น

Smart Stock

Today Strategy:

ขึ้นต่อหรือย่อตัว

• S50Z16 ปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 935.80 จุดก่อนย่อตัวลงมาปิดตลาดที่ 934.90 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 10 จุดเช่นเดียวกับดัชนี SET index หลักที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันปิดตลาดที่ 1,500.40 จุด มีปริมาณการซื้อขายรวมตลอดวันที่ 36,866.60 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงมุมมองขายสุทธิเหมือนเดิมแต่ลดปริมาณการขายลงที่ประมาณ 519.10 ล้านบาทฝ่ายวิจัยมองว่าแม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นในวันทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและดัชนีตลาดหุ้นแต่ยังมองว่ายังปรับขึ้นโดยปราศจากปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมรองรับสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องห้าวันทำการติดต่อกันหรือตลอดสัปดาห์มีเพียงกองทุนภายในประเทศเท่านั้นที่เป็นปัจจัยดันให้ดัชนี SET index ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,500 จุด ฝ่ายวิจัยถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นที่เปราะบางขาดปัจจัยหนุนภายใต้ภาวะแวดล้อมที่มีปัจจัยกดดันได้แก่ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า, เงินลงทุนที่ไหลออก, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทย ดังนั้นให้ระวังแรงขายในวันที่อาจกดดันดัชนีหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องห้าวันทำการที่ผ่านมาและกดดันไม่ให้ดัชนีสามารถยืนเหนือระดับนัยสำคัญที่ 1,500 จุดได้ และสำหรับวันนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประเทศไทยได้แก่ ดุลการค้า, ยอดการส่งออกและยอดการนำเข้า

 

• แนะนำ : Wait & See ลดสถานะการลงทุน, ระวังแรงขายภายในวันและรอความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประเทศไทย : ดุลการค้า, ยอดการส่งออก, ยอดการนำเข้า

- การประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.

- ดอลลาร์แข็งค่าที่ USD index เหนือระดับ 101 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- ตลาดหลักทรัพย์ยันระบบเทรดแกร่งป้องกันการแฮกได้ดี : ชี้มีที่ปรึกษาภายนอกช่วยคัดกรองแจงการเชื่อมต่อระหว่าง “ตลาด-โบรกเกอร์” ใช้ระบบปิดรองรับวอลุ่มเฉลี่ยต่อวันระดับแสนล้านได้

- ธนาคารออมสินนำร่องปล่อยเงินกู้ผู้สูงวัย : ธนาคารออมสินเผยว่าในปีนี้ธนาคารจะเปิดให้บริการสินเชื่อ Reverse Mortgage (RM) หรือสินเชื่อสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนำที่อยู่อาศัยที่ตนมีกรรมสิทธิ์และปลอดหนี้นำมาเป็นรายได้ในการดำรงชีวิตเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อลูกหลาน

- ‘สมหวัง’ รอเกณฑ์พิโคปี 2560 สินเชื่อแตะหมื่นล้านบาท : นายศุภชัย บุญสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภทภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” เผยว่าบริษัทสนใจที่จะทำธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ที่กระทรวงการคลังจะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบแต่ขณะนี้ยังต้องการรอดูกฎระเบียบให้ชัดเจนก่อน

- (THAIZ16) แผนฟื้น ‘การบินไทย’ คืบหน้า สคร.ชี้เปลี่ยน ‘ดีดี’ ไม่กระทบฟื้นฟูกิจการ : การบินไทยผลกการดำเนินงานปกติปรับตัวดีชึ้นจากต้นทุนน้ำมันลดลงด้าน สคร.ย้ำเปลี่ยนดีดีการบินไทยไม่กระทบฟื้นฟูกิจการโดยแผนงานยังมีความต่อเนื่องเพราะมีอนุกรรมการฟื้นฟูกิจการดูแลอยู่แล้ว ชี้ผลดำเนินงานบินไทยดีขึ้นและการแก้ปัญหาคืบหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดารัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง รองจากเอสเอ็มอีแบงก์

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...