ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

หยุดปีใหม่

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,158.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,157.16 – 1,163.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองได้เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลงจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้ทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับได้ในช่วงสั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำวันนี้เป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของปีและจะหยุดยาวจนถึงวันที่ 2 มกราคม และเปิดทำการในวันที่ 3 มกราคม แต่ตลาดไทยเปิดทำการในวันที่ 4 มกราคม จึงแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำควรลดสถานะการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและกลับมาซื้อขายอีกครั้งในปีหน้า ส่วนคืนนี้มีเพียงตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อเขตชิคาโก้ตัวเดียว จึงให้น้ำหนักการแกว่งตัวในกรอบมากกว่าการปรับขึ้นแรงๆ แต่อย่างไรก็ตามคืนวันศุกร์ท้ายปีก็เป็นควรระมัดระวังอยู่เสมอ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และราคาทองจะปรับตัวขึ้นเป็นปีแรกในรอบ 4 ปี ณ เวลา 9.13 น.ตามเวลาไทย ราคาทองในตลาดสปอตอยู่ที่ 1,159.16 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และราคาพุ่งกว่า 1% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.

- หยวนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หยวนเป็นสกุลเงินที่ปรับตัวแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียในปีนี้ และร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีตั้งแต่ปี 1994

- ข้อมูลจากลิปเปอร์ระบุว่า กองทุนหุ้นในสหรัฐได้รับเม็ดเงินลงทุน 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งนับเป็นการปิดท้ายปี 2016 ด้วยความคึกคักสำหรับหุ้นที่ปรับตัวย่ำแย่ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีนี้ นักลงทุนได้ขายกองทุนรวมพันธบัตรที่คิดภาษีได้ และกองทุน ETF คิดเป็นมูลค่า 775 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังวกล่าว ซึ่งเป็นการถอนการลงทุนเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐออกคำสั่งเมื่อวานนี้ให้ขับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับรัสเซีย 35 คนออกจากสหรัฐ และประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานข่าวกรองสองแห่งของรัสเซีย ซึ่งได้แก่หน่วยงาน GRU และ FSB เนื่องจากบุคคลและหน่วยงานเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของกลุ่มการเมืองสหรัฐในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบกว่า 14 ปี

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

คำแนะนำ : ถือ long ต่อหากราคาทะลุ 1,165 เหรียญ แต่ถ้าไม่ทยอยปิดทำกำไร เปลี่ยนมา trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 4 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำเริ่มเห็นการดีดกลับต่อเนื่อง จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มมีแรงขายทำกำไร รวมทั้งราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ราคาทองคำยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน โดยในสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานที่จะช่วยหนุนราคาทองหรือกดดันราคาทองต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.64% โดยปิดที่ 1,158.82 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,145.68 – 1,163.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,158 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงแม้ยังมีปัจจัยกดดันอยู่มากมาย โดยเฉพาะค่าเงินดอลลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องในรอบกว่า 14 ปี รวมทั้งแรงขายของกองทุน SPDR ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขายและเปลี่ยนกลับมาเป็นฝั่งซื้อ และตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาทองเริ่มเห็นการฟื้นตัวและสามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานที่จะช่วยหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยได้หรือไม่ หลังจากสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ เริ่มเห็นการดีดกลับได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 % ในวันอังคาร ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2017 หลังจากเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 18เดือนในระหว่างวัน ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002 และเทรดเดอร์เทขายทำกำไรสัญญาน้ำมัน

• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับยูโรและตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันอังคาร หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐ

• ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในการซื้อขายวันแรกของปี 2017 ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ14 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยร่วงลงสูงระดับ 1.0342 ดอลลาร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 7.36 ดอลลาร์ สู่ 1,158.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 1,163.52 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ตลาดหุ้นและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้นในช่วงแรก และนักลงทุนหันมาซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบโดยเน้น long หากราคาอยู่เหนือ 1,150 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงขาย...

ในวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี S50H17 เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆประมาณ 5 จุดในลักษณะแกว่งตัวออกข้างเปิดตลาดบริเวณ 962.40 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 967.70 จุด และย่อตัวลงมาปิดตลาดที่ 960.40 จุด ภาพรวมมีลักษณะการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับ SET index แต่จะมีความผันผวนช่วงท้ายตลาดมากกว่าเล็กน้อยจากการปิดสถานะการลงทุนสะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่จะลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาว โดย SET index ปิดตลาดบริเวณ 1,542.94 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางต่ำกว่าเกณฑ์ปกติเพียง 38,687.14 ล้านบาทเท่านั้น แรงซื้อส่วนมากเป็นของนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิ +2,943.64 ล้านบาท และสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ +3,547.62 ล้านบาทจาการทำ Window Dressing สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าอาจมีเงินทุนกลับเข้ามาสู่ตลาดในระดับหนึ่งแต่ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไรหลังตลาดบวกค่อนข้างรุนแรงภายใต้ภาวะแวดล้อมที่ยังคงรุมเร้าและไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ดังนั้นตลาดอาจมีการปรับฐานเล็กน้อย รวมทั้งวันนี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อเเละอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยช่วง 10.30น. อย่างใกล้ชิด

 

• แนะนำ : ฝั่ง Long ยังได้เปรียบในวันแต่ต้องพิจารณาจุดเปิดสถานะเนื่องจาก Upside จำกัดอาจมีแรงเทขายหลังทำ Window Dressing ดังนั้นหากไม่ต้องการเปิดรับความเสื่ยงให้ถือเงินสดรอดูสถานการณ์ไปก่อน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อเเละอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยช่วง 10.30 น.

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ล.ต.นัดบอร์ดพิจารณาโทษทางแพ่งประชุมนัดแรก ม.ค.นี้ เพื่อดีเดย์ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งปี 2560 หวังคดีจบเร็ว : ก.ล.ต.เปิดเผยว่า ภายในเดือน ม.ค. 2560 เตรียมนัดคณะกรรมการพิจารณาโทษทางแพ่งประชุมนัดแรกของคณะทำงานเพื่อกำหนดนโยบายการทำงานในการมาตรการลงโทษทางแพ่งที่จะเริ่มมีผลบังคัลใช้ตามที่ได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำหรับกระบวนการพิจารณาว่าคดีไหนจะเข้าสู่การดำเนินการตามมาตรการทางแพ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาคดีทางแพ่ง

- เมกะโปรเจครัฐแรงหนุนธุรกิจ ‘ก่อสร้าง’ ปี60บูม การลงทุนก่อสร้างไตรมาส3 ภาครัฐ13.15% เอกชน 0.16 % : ธุรกิจก่อสร้างปี 60 โต 4-6% มูลค่าแตะ 1.22 ล้านล้านบาท ปัจจัยโครงการเมกะโปรเจครัฐช่วยดัน พร้อมเดินหน้าตั้ง “สภาอุตสาหกรรมก่อสร้าง” ภายในปีนี้หวังใช้จัดระเบียบธุรกิจ

- เร่งปฏิรูปขับเคลื่อนศก.ปี60 : ‘สมคิด’สั่งผลักดันยุทธศาสตร์ เพิ่มความเข้มแข็งท้องถิ่น ภาคเอกชนชี้ยังไม่เห็น สัญญาณเปลี่ยนแปลง มองเศรษฐกิจโลกกดดันไทย เชื่อปีนี้โตใกล้เคียงปี 59

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 4 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

จะดีดกลับได้ไกลแค่ไหน

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,159.08 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,156.26 – 1,163.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเริ่มเห็นการดีดกลับต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่แล้ว โดยในช่วงบ่ายวันนี้เคลื่อนไหวบริเวณ 1,162 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ใกล้จุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเมื่อวานนี้และช่วงท้ายปีก่อน โดยหากราคาสามารถทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมได้ก็คาดว่าจะช่วยให้ราคาไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ก็อาจจะอ่อนตัวลงมาเล่นในกรอบเดิมต่อไป โดยปัจจัยของทองคำในช่วงนี้ล้วนแต่มีปัจจัยลบเข้ามากดดัน เช่น 1. ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 2. แรงขายของกองทุน SPDR ที่ขายต่อเนื่องตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3. มุมมองบวกต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ 4. การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ทำให้ต้องติดตามปัจจัยดังกล่าวว่าจะกลับมากดดันราคาทองคำต่อหรือไม่ โดยในปลายสัปดาห์ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ที่มีโอกาสทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนได้ต่อ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดศักราชใหม่ด้วยการปรับตัวแข็งแกร่งในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพอใจกับข้อมูลเศรษฐกิจโลกที่สดใสที่ประกาศออกมาในช่วงวันหยุดของญี่ปุ่น และเยนที่อ่อนค่าช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก

- สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยรายงานในวันอังคารระบุว่า พอร์ทลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่มีเงินไหลเข้าในปี 2016 ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ในขณะที่นักลงทุนรับมือกับเหตุไม่คาดฝันในตลาดโลกในปีที่แล้วด้วยการปรับลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ในประเทศกำลังพัฒนา

- ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับยูโรและตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันอังคาร หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐ

- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในปีนี้

- บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ได้ยกเลิกแผนการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในเม็กซิโกแล้ว และได้จ้างงาน 700 ตำแหน่งในรัฐมิชิแกน หลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่นายทรัมป์หันไปให้ความสนใจกับบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) โดยขู่ว่าจะเก็บ "ภาษีพรมแดนในอัตราสูง" จากรถขนาดกะทัดรัดที่ผลิตในเม็กซิโก

- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย โดยฟื้นตัวขึ้นบ้างจากเมื่อวานนี้ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีและกดดันตลาดน้ำมันดิบ ณ เวลา 09.51 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.31 ดอลลาร์ ที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปิดวานนี้ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ ที่ 52.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ผลสำรวจโดยภาคเอกชนที่ออกมาในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบหนึ่งปีในเดือนธ.ค. ในขณะที่ยอดสั่งซื้อปรับขึ้น และสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบกว่า 14 ปี

- ราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวผันผวน

 

คำแนะนำ : ถือ long หากราคาทะลุจุดสูงสุดเดิม แต่ถ้าไม่ ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long และเปลี่ยนเป็น trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 5 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีการอ่อนค่าลง หลังจากทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี โดยเมื่อคืนนี้การรายงานผลการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนต่อ โดยในคืนนี้ติตตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งถ้าหากออกมาแย่กว่าคาดการณ์จะมีโอกาสช่วยหนุนราคาทองคำต่อ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.58 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.40% โดยปิดที่ 1,163.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,155.95 – 1,167.83 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,170 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวขึ้นต่อในเช้านี้หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีการอ่อนค่ามากขึ้นหลังจากปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยการรายงานผลการประชุมของเฟดครั้งล่าสุดนั้น ไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มเห็นการขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเสร็จสิ้น ทางด้านปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ ตัวเลขภาคการจ้างงาน และน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์ โดยหากตัวเลขออกมาแย่กว่าคาดอาจจะช่วยหนุนให้ทองคำดีดกลับได้ต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.8 % ในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจจะดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้ว และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยนในวันพุธ และลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังเกี่ยวกับการซื้อดอลลาร์มากขึ้น เนื่องจากยังไม่มีสัญญาบ่งชี้ใหม่ๆเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และกำหนดเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• รายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้นได้ถ่วงดอลลาร์ลง และหนุนยูโรขึ้นสู่ระดับ1.0499 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.58 ดอลลาร์ สู่ 1,163.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ที่ 1,167.83 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงจากจุดสูงสุดรอบ 14 ปี และจีนกับอินเดียต้องการซื้อทองในตลาดปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ถือ long ต่อ หากยืนเหนือ 1,165 เหรียญได้ และทยอยปิดทำกำไรหากปรับตัวขึ้นแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงขายหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

S50H17 เคลื่อนไหวในเเดนบวกค่อนข้างรุนเเรงผิดคาดการณ์ของตลาด เปิดตลาดบริเวณ 964.00 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 981.60 จุด และปิดตลาดที่ 980.70 จุดเคลื่อนไหวในแดนบวกเช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,563.58 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่หนาเเน่นเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับต้นปีรวมกว่า 65,154 ล้านบาทซึ่งมากกว่าระดับค่าเฉลี่ยโดยปกติของ SET index ที่ซื้อขายกันในวันประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาทในภาวะปกติ เป็นเเรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิกว่า +2,238.50 ล้านบาท (เเละเปิดสถานะซื้อในสัญญาซื้อขายดัชนีล่วงหน้า SET50 สุทธิกว่า +15,440 สัญญา) ร่วมกับนักลงทุนสถาบันเเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ โดยเป็นเเรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคาร, กลุ่มพลังงานเเละกลุ่มสื่อสาร ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศขายสุทธิสวนทาง -5,633.29 ล้านบาท สำหรับการเปิดสถานะในช่วงนี้ให้ระวังเเรงขายจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศหลังการทำ Window Dressing ที่กดดันให้ Upside เริ่มจำกัดรวมทั้งยังขาดปัจจัยพื้นฐานรองรับ อย่างไรก็ตามเเม้เมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2559 ไว้ที่ 1.13% ปรับตัวสูงสุดรอบ 25 เดือนเเต่ก็ไม่สามารถต้านทานความร้อนเเรงของดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ (การมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสมจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลดี ดังนั้นเงินเฟ้อที่ดีจึงไม่ควรสูงหรือต่ำเกินไป เเต่สำหรับกรณีการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้คาดการณ์ว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยเงินเฟ้อเท่าปัจจัยอื่นๆหรือ Sentiment ของตลาดเลยก็ว่าได้

 

• แนะนำ : Wait & See ระวังแรงขายหลังการทำ Window Dressing

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของประเทศไทยช่วง 11.00 น.

 

ข่าวในประเทศ

- เงินเฟ้อ ธ.ค. สูงสุดรอบ 25 เดือน ดันทั้งปีขยับ 0.19% หลังราคาน้ำมันในประเทศพุ่ง ลุ้นปี 60 ตั้งเป้าโต 1.5-2% กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(เงินเฟ้อ)ในเดือน ธ.ค. 59 เพิ่มขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับ พ.ย.59 และสูงขึ้น 1.13% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 58 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 25 เดือน นับจากเดือน พ.ย. 57 ที่เพิ่มสูงขึ้น 1.26% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2559 สูงขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับปี 2558

- หุ้นไทยวันแรกของปี 2560 พุ่งแรง 1.34% แรงซื้อนักลงทุนจากทุกกลุ่มยกเว้นรายย่อย กองทุนเตือนระวังเทขาย LTF และ RMF : ตลาดหุ้นวันที่ 4 ม.ค. เปิดทำการวันแรกของปี 2560 ปรับเพิ่มขั้นไปในทิศทางเดียวกับหุ้นภูมิภาคเอเชียปิดที่ 1,563.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65,154.67 ล้านบาท

- (CENTELH17) CENTEL รุกอัพฐานเต็มสูบ จ่อโรดโชว์ดึงต่างชาติเพิ่ม : CENTEL วางงบลงทุน 1.2 พันล้านบาท เสริมทัพโรงแรม-อาหาร ผู้บริหารจ่อเหินฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์ หวังโชว์แกร่ง-ดึงต่างชาติลงทุนเพิ่ม พร้อมปักธงปี 2560 ผลงานโตต่อเนื่องจากปี 2559 โหนกระแสท่องเที่ยวขยายตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ระวังแรงขายทำกำไร

- ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,171.28 USD/toz ก่อนเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดภาคเช้าจนถึงช่วง 15.00 น. ตามเวลาไทยมีแรงขายทำกำไรออกมาประมาณ 4-5 ดอลลาร์ แต่ถือว่ายังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น(ช่วงสั้น)อยู่ ซึ่งถือว่าทองคำปรับตัวบวกมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 ม.ค.59 และทำจุดสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนที่บริเวณ 1,179.36 USD/toz ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าเป็นผลบวกที่ต่อเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงหลังขึ้นไปทำจุดสูงสุด(แข็งค่าสูงสุด)ในรอบ 14 ปี ที่บริเวณ 103.83 จุด ด้านกองทุน SPDR คงสถานะถือครองทองคำไว้ที่ 813.87 ตัน หลังเทขายออกทองคำเพื่อลดสถานะการถือครองในช่วงปลายปีกว่า 8.30 ตัน สำหรับคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะมีรายงานออกมาหลายตัวได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, น้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการขั้นสุดท้าย,ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคอุตสาหกรรมจาก ISM, ประกาศปรับลดอัตราการจ้างและการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรจาก ADP

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี : ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยนในวันพุธและลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขณะท ี่นักลงทุนระมัดระวังเกี่ยวกับการซื้อดอลลาร์มากขึ้นเนื่องจากยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใหม่ๆเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯและกำหนดเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯปรับตัวลง : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลงท่ามกลางภาวะซื้อขายผันผวนในวันพุธหลังจากรายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐได้แสดงถึงท่าทีที่ไม่แน่ใจมากกว่าที่ตลาดคาดไว้โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับนโยบายการคลังของฝ่ายบริหารชุดใหม่ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีปิดบวก 9/32 โดยมีผลตอบแทน 3.035% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดบวก 4/32 โดยมีผลตอบแทน 2.437 %

- น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1.8%, คาดสต็อกน้ำมันลดลง : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYM EX พุ่งขึ้น 1.8 % ในวันพุธโดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจจะดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้วและมีสัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

- ทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดเกือบ 4 สัปดาห์ : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯปรับขึ้น 4.58 ดอลลาร์ สู่ 1,163.40 USD/tozในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากขึ้นไปแตะ จุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ที่ 1,167.83 USD/tozในระหว่างวันในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงจากจุดสูงสุดรอบ 14 ปี และจีนกับอินเดียมีความต้องการซื้อทองในตลาดปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 3.30 ดอลลาร์ ที่ 1,165.30 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังแข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 ปี

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันจากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Positions ได้เปรียบในวันแต่ต้องพิจาณาจุดเปิดสถานะที่เหมาะสมเนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไร (เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวหากราคายังยืนเหนือ 1,171 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 6 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดบวกกว่า 1.4% หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีแรงขายทำกำไร โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ออกมาแย่กว่าคาดการณ์และแย่กว่าเดือนก่อน ถึงแม้ตัวเลข PMI จะออกมาดีกว่าคาดแต่กลับไม่ช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อได้ แสดงถึงแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีมากขึ้น โดยในวันนี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานอีกครั้งซึ่งถ้าออกมาอ่อนแอกว่าคาดการณ์ อาจจะช่วยหนุนราคาทองคำให้ไปต่อได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.46% โดยปิดที่ 1,180.39 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,162.29 – 1,184.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,177 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีแรงขายทำกำไรหลังจากตัวเลฃการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ปรับตัวลดลงกว่าคาดการณ์ และลดลงกว่าเดือนก่อน แต่ในทางกลับกันตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการของสหรัฐฯ ประกาศออกมาดีแต่กลับไม่ช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าต่อได้ แสดงให้เห็นถึงเม็ดเงินที่เริ่มไหลกลับเข้ามาในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น แต่ทางด้าน SPDR ยังมีการขายทองคำออกมาอีกเล็กน้อย 0.28 ตัน รวมถือครอง 813.59 ตัน และในวันนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาดการณ์ อาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อทำตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงในช่วงแรก โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินกับสต็อกน้ำมันกลั่นของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกินคาด

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพฤหัสบดี หลังข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐไม่สามารถช่วยหนุนดอลลาร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 16.99 ดอลลาร์ หรือ 1.46 %สู่ 1,180.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,184.90 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงออกห่างจากจุดสูงสุดรอบ 14 ปี ทางด้านราคาพัลลาเดียมขยับลง หลังจากเพิ่งพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์

• ราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงหลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 153,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 170,000 ตำแหน่ง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ปิดทำกำไรฝั่ง long และเปลี่ยนมา trading ในกรอบ หรือ รอ long เมื่ออ่อนตัว

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มแกว่งตัวออกข้าง

S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ 978.90 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันช่วงบ่ายที่ 987.50 จุด ก่อนย่อตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 984.30 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าแต่มีแรงขายทำกำไรอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเช้า ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นไปในรูปแบบเดียวกับ SET index ซึ่งปิดบวกที่ 1,571.05 จุด +0.48% มีปริมาณการซื้อขาย 69,364.44 ล้านบาทหนาเเน่นเป็นวันที่สองต้อนรับปีใหม่ พร้อมนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิ +2,927.05 ล้านบาทสะท้อนมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย (เปิดสถานะซื้อสุทธิสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 +120 สัญญา) ประกอบกับค่าเงินบาทเริ่มเเข็งค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงสวนทางหลัง USD index ขึ้นไปทำจุดเเข็งค่าสูงสุดในรอบ14ปี ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุสิบปีที่ลดลงอย่างชัดเจนในรอบ 20 วันที่ผ่านมา ด้านปัจจัยภายในประเทศเมื่อวานนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประเทศไทยประกาศสูงกว่าคาดการณ์ตลาดที่ 73.70 (คาดการณ์ 71.80) ช่วยประคองตลาดจากแรงขายหลังการทำ Windows dressing ในส่วนของตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่อนไหวในเเดบบวกเเละลบสลับกันสะท้อนปัจจัยระดับมหภาคที่เริ่มทรงตัวเข้าสู่ภาวะสูญญากาศ มีปัจจัยภายในประเทศของเเต่ละประเทศที่นำมาเป็นประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

• แนะนำ : ระวังการปรับฐานหลังดัชนีปรับตัวต่อเนื่องขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งเเต่ต้นปีที่เเล้ว (ในรอบปีกว่าๆเกือบสองปี) Upside เริ่มจำกัด Downside Risk เริ่มกว้าง ระวังเเรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ, Wait and See ถือเงินสดปลอดภัยปลายสัปดาห์

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง USD index เคลื่อนไหวบริเวณ 101.52 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- มาตรการรัฐหนุนเศรษฐกิจฟื้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นในรอบสามเดือน : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกรอบสามเดือน อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ การส่งออกฟื้น ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น คาดเป็นแรงดันเศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัวหนุนทั้งปีโตได้ 3.5-4%

- “สมคิด” ตรวจการบ้านคลัง ขู่ 3 เดือนงานไม่เดินหน้าจัดทัพใหม่ยกแผง : “สมคิด” ตามไล่บี้งานกระทรวงการคลังหลังจากมติ ครม. อนุมัติให้ดำเนินการไปแล้วต้องนำไปสู่ภาคปฏิบัติจนสำเร็จเน้นย้ำช่วยคนชรา-คนจนให้เป็นรูปธรรม “สุวิทย์” เตรียมยกเครื่อง สศช. ใหม่เป็นกระทรวงแห่งอนาคตรับมือความผันผวนของโลก

- “กูรู” ชี้หุ้นไทยยังขึ้นต่อได้แต่ในกรอบที่จำกัด หลังต่างชาติไหลเข้า : ปี 2560 ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการมาเพียง 2 วัน ดัชนีหุ้นขึ้นมาแล้ว 28.11 จุด หรือ 1.82% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 โดยวันที่ 5 ม.ค. ปิดที่ 1,571.05 บาท เพิ่มขึ้น 7.47 จุด หรือ 0.48% มูลค่าการซื้อขาย 69,364.44 ล้านบาท รวม 2 วัน ต่างชาติซื้อแล้ว 5,165.54 ล้านบาท

- (AOTH17) AOT จับตาผลงานติดลมบน ทุ่ม 3.62 หมื่นล้านบาทเพิ่มสนามบิน : AOT ปลอดภัยจากปัจจัยลบที่สุด คาดเติบโตได้มากที่สุดในกลุ่ม ทั้งยังมีประเด็นบวกระยะสั้นจากการแตกพาร์เหลือ 1 บาท จากเดิม 10 บาท ช่วยเพิ่มสภาพคล่องพร้อมเปิดแผนพัฒนาท่าอากาศยาน 10 ปี มูลค่ากว่า 3.62 หมื่นล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 9 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดลดลงหลังจากทำจุดสูงสุดในรอบเดือนเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในท้ายตลาดก่อนปิดสัปดาห์หลังจากตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ทั้งปีออกมาแข็งแกร่ง ทำให้มุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นประเด็นกดดันราคาทองได้ต่อ และสัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดหลายสาขา ว่าจะให้มุมมองต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อย่างไร ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อหรือพักตัวได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับลดลง 7.67 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.65% โดยปิดที่ 1,172.72 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,170.28 – 1,181.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,175 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันในช่วงท้ายตลาดเมื่อคืนวันศุกร์ จากตัวเลขค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวออกมาแย่กว่าคาดการณ์และแย่กว่าเดือนก่อน แต่ภาพรวมทั้งปีก่อนของภาคการจ้างงานยังถือว่าแข็งแกร่งทำให้ประเด็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังเป็นลบต่อราคาทอง โดยสัปดาห์นี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดหลายสาขาที่ต้องติดตามมุมมองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร และแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ที่จะมีโอกาสพักตัวได้หรือไม่

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวก อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันหรือไม่

• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ หลังจากที่ดอลลาร์ร่วงลงในวันพฤหัสบดีจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทางของสหรัฐ และจากการที่จีนเข้าหนุนค่าเงินหยวนดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญหลังรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรบ่งชี้ถึงการจ้างงานที่ชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. แต่ค่าแรงปรับตัวขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

• สหรัฐมีการจ้างงาน 2.16 ล้านตำแหน่งในปี 2016 และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้นสู่ 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีโดยอัตรา 2.9 % นี้ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2009

• นักลงทุนไม่มั่นใจในนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขากำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. ดังนั้นนักลงทุนจึงใช้ความระมัดระวังในการลงทุน หลังจากราคาทองปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading long ในกรอบด้านบน

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มแกว่งตัวในกรอบ, ระวังแรงขาย...

สำหรับต้นปี พ.ศ.2560 ดัชนีตลาดหุ้นไทยถือว่าร้อนแรงต้อนรับปีใหม่โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 982.00 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 987.50 จุด ก่อนย่อตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 985.20 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 8-9 จุด ภาพรวมเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาดบริเวณ 1,571.48 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 61,142.63 ล้านบาทถือว่าหนาแน่นตลอดสัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +1,911.40 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนทั่วไปภายในประเทศที่ขายสุทธิ -1,693.44 ล้านบาท การเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงเช่นนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงขายจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศหลังทำ Window Dressing ช่วงปลายปีแต่ยังขายออกสุทธิไม่มากและไม่ได้สัดส่วนกัน ทำให้อาจมีเงินทุนบางส่วนที่รอจังหวะขายทำกำไรอยุ่ (สถาบันภายในประเทศซื้อสุทธิสะสม 1 - 6 ม.ค. +3,992.83 ล้านบาท) รวมทั้งปัจจยลบภายนอกได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์ที่เเข็งค่าขึ้นโดย USD index เคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 102.27 จุด พร้อมกับอัตราผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นบริเวณ 2.4193% สะท้อนมุมมองที่มีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ กดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงที่ 35.78 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกก็ยังมีอยู่ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นโดย WTI(NYMEX) เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 53.81 USD/bbl ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มพลังงานซึ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นไทยพอสมควร สำหรับการซื้อขายวันนี้คาดการณ์ว่าเริ่มแกว่งตัวในกรอบที่แคบลงและอาจมีแรงขายทำกำไรบางส่วน รวมทั้งให้ติดตามทุนสำรองระหว่างประเทศ(ประเทศไทย) ช่วง 14.30 น.

 

• แนะนำ : ราคามีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกข้างในแนวโน้มขาขึ้นฝั่ง Long ได้เปรียบ, Upside จำกัดในกรอบดังนั้นต้องเข้าสถานะบริเวณที่มีต้นทุนต่ำ หากราคาหลุด 980 จุดควรปิดสถานะถือเงินสด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ประกาศทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศไทยช่วง 14.30 น.

 

ข่าวในประเทศ

- จัด“อาเซียนเอ็กซ์โป”ดันเอสเอ็มอี 4.0 รวมพลังเอกชน10ประเทศ ยกระดับผู้ประกอบการไทย : ส.อ.ท.จับมือภาครัฐ เตรียมจัดงานใหญ่ “อาเซียนเอสเอ็มอีเอ็กซ์โป” พัฒนาผู้ประกอบการ พร้อมประสานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 27 แห่งจัดโปรแกรมพัฒนา SME ในพื้นที่ ตั้งเป้านำร่อง 1,000 ราย ยกระดับสู่เอสเอ็มอี 4.0

- กระทรวงพาณิชย์เปิดช่องทางออนไลน์เพิ่มราคาสินค้าเกษตรปี 60 : กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนงานยกระดับราคาสินค้าเกษตรในช่วงปี 2560 โดยจะเน้นหลักยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตเกษตรกรรวมทั้งติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

- เอกชนขอซอฟท์โลนช่วยเอสเอ็มอีน้ำท่วมใต้ : หอการค้านครศรีธรรมราชเตรียมสรุปผลกระทบเศรษฐกิจจากน้ำท่วมใต้ เสนอรัฐสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเงินพิเศษช่วยSME

- (QHH17)QHลุ้นQ4งบสดใสดีมานด์ทะลักเพียบ : ดีมานด์ที่อยู่อาศัยพุ่งดันผลงาน Q4/2559 แจ่ม โบรกเกอร์ ฟันธงปี 2560 ผลงานไฉไลต่อเนื่อง อานิสงส์โปรเจ็กต์รอโอนเพียบ แถมมีแววเปิด 12 โครงการใหม่เพิ่มเติม Backlog เดิมที่รอบุ๊ก 3.1 พันล้านบาท ในปีนี้ หนุนยอดขาย-รายได้พุ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 9 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบ

- ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,172.53 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,171.78 – 1,177.89 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันจำนวนการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเริ่มเห็นการชะลอตัวลง ทำให้อาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดแรงงานในอนาคตได้ เนื่องจากการที่ค่าจ้างแรงงานเพิ่มมากขึ้นแต่จำนวนการจ้างงานน้อยลงอาจจะส่งผลต่อความตึงตัวของตลาดแรงงาน และภาวะเงินเฟ้อที่คาดการณ์กัในอนาคต และจะส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยสัปดาห์นี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดหลายสาขาในช่วงปลายสัปดาห์ ต่อมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่มีโอกาสทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนมากขึ่น

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐ (BLS) ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐปรับเพิ่มตำแหน่งงานในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ในขณะที่บริษัทขุดเจาะน้ำมันเปิดใช้งานบ่อน้ำมันบางแห่งอีกครั้ง โดยเป็นผลจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

- เจ้าหน้าที่ด้านน้ำมันของคูเวตเปิดเผยว่า คูเวตได้ลดการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค.ลงสู่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งบรรลุเป้าหมายการผลิตภายใต้ข้อตกลงลดการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

- ปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีในเดือนธ.ค. แต่ก็ทรงตัวสูงกว่าระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์เพียงเล็กน้อย ขณะที่ทางการได้เข้ามาพยุงค่าเงินหยวนก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์

- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่เขาเคยคาดไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และการคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ของเขา

- EEF ซึ่งเป็นสมาคมภาคการผลิตของอังกฤษเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ผู้บริหารโรงงานในอังกฤษคาดการณ์ในทางลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากชาวอังกฤษโหวตถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ในเดือนมิ.ย.ปี 2016

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงปลายสัปดาห์

- การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป

 

คำแนะนำ : trading long ในกรอบด้านบน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 10 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 5 สัปดาห์ที่ 1,185.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือถ้อยแถลงของประธานเฟดในปลายสัปดาห์นี้ และมุมมองของตลาดต่อการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์ในสัปดาห์หน้า

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.72% โดยปิดที่ 1,181.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,171.78 – 1,185.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,182 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่รอบกว่า 5 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงเช่นกัน รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้ภาพรวมสินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มน่าสนใจมากขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ติดตามการแถลงการณ์ของเฟด โดยประเด็นที่สนใจคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะมีทิศทางอย่างไร และในสัปดาห์หน้า วันที่ 20 ม.ค. นายทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องติดตามว่าตลาดจะให้มุมมองอย่างไรต่อตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งภาพรวมราคาทองคำช่วงสั้นยังโดนกดดันจากแรงขายของกองทุน SPDR ที่เมื่อวานนี้ขายทองออกมามากกว่า 8.59 ตัน รวมถือครอง 805 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 4 % ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อิรักอาจจะส่งออกน้ำมันดิบสูงเป็นประวัติการณ์และปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้อาจบดบังความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการแก้ไขภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลก

• ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการเสี่ยงลดลง และปอนด์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนจากข่าวที่ว่า อังกฤษจะดำเนินการด้านความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างรวดเร็วอีกครั้งกับสหภาพยุโรป (อียู) หลังการลงประชามติถอนตัวออกจากอียูหรือ Brexit

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 8.44 ดอลลาร์ สู่ 1,181.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1,185.80 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐใหม่ ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันจันทร์

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,170 – 1,185 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

พักฐาน

• S50H17 เปิดตลาดต้นสัปดาห์เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวันเช่นดียวกับตลาดอื่นๆในภูมิภาคการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะรินขายออกเรื่อยๆไม่รุนแรงมากโดยเปิดตลาดบริเวณ 984.60 จุด ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันที่ 975.60 จุด และปิดตลาดที่ 977.90 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวในวันประมาณ 9 จุดในลักษณะเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,564.08 จุดมีปริมาณการซื้อขาย 53,355.50 ล้านบาทถือว่ามีปริมาณการซื้อขายลดลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เปิดปีใหม่ พ.ศ.2560 ภาพรวมตลาดเริ่มมีแรงขายทำกำไรโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (คาดการณ์ว่าเป็นแรงขายหลังการทำ Window dressing) หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง +1,580.86 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิ -2,225.34 ล้านบาท, นักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ -352.76 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกรองรับและมีแนวโน้มที่จะย่อตัวจากแรงขายทำกำไร Downside risk เปิดกว้างมากขึ้นและอารมณ์ตลาดค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแนวโน้มขาลงลักษณะ Sideway down และมีภาวะซื้อมากเกินไป สำหรับปัจจัยภายนอกที่ยังกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ปรับตัวลดลงที่ 51.91 USD/bbl กดดันกลุ่มพลังงานในดัชนีหุ้นไทย ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าที่ 35.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯได้รับอานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง (USD index = 101.83 จุด)

 

• แนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นบริเวณ 35.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- เศรษฐกิจท้ายปีดีขึ้น สรรพสามิตเก็บภาษีเดือน ธ.ค. เกินเป้าผลจากมาตรการรัฐ กระตุ้นยอดซื้อสินค้า : กรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า เดือน ธ.ค. 2559 จัดเก็บภาษีได้ 4.47 หมื่นล้านบาท เกินกว่าเป้า 856 ล้านบาท หรือ 1.82% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 2.45% เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลช่วงปลายปี

- กกร.ปรับเป้าส่งออกปีหน้าขยายตัว 1-3% คาดเศรษฐกิจฟื้นดันราคาน้ำมัน-สินค้าเกษตรมีแนวโน้มดี : การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากการส่งออกจะขยายตัวจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ปรับเพิ่มขึ้น

- (TCAPH17) ธนชาตตั้งเป้าพลิกสัดส่วนธุรกรรมผ่านดิจิทัลจาก 15% เป็น 80% ใน 5 ปี : ธนาคารธนชาตเปิดเผยว่าแผนดิจิทัลแบงก์กิ้งปี 2560 ยังมุ่งเน้นพัฒนาบริการของโมบายแบงก์กิ้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งหลังจากที่เปิดให้บริการโมบายแบงก์กิ้งธนชาตคอนเนกต์ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2559 มีลูกค้าใช้บริการกว่า 2 แสนรายและปีนี้คาดว่าลูกค้าจะใช้บริการเพิ่มขึ้น 80%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 10 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตาม SPDR

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,181.11 USD/toz ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,187.61 USD/toz ก่อนลงมาทำจุดต่ำสุดในวันในช่วงบ่ายบริเวณ 1,182.58 USD/toz มีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 4-5 ดอลลาร์โดยเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังราคาลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่บริเวณ 1,122.35 USD/toz ได้รับอานิสงส์จากความไม่นอนทางการเมืองสหรัฐฯและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงโดย USD index เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 101.60 จุดหลังขึ้นไปแข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 ปี ที่บริเวณ 103.82 จุด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงที่ 2.3647% ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจุบันราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นช่วงสั้นซึ่งอาจเป็นการปรับตัวขึ้นหลังจากที่เกิดภาวะขายมากเกินไปตลอดสองเดือนที่ผ่านมาอีกทั้งยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันประมาณเกือบหนึ่งเดือนดังนั้นให้ระวังแรงขายกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงมา โดยให้พิจารณามุมมองของนักลงทุนสถาบันเช่น กองทุน SPDR เป็นปัจจัยประกอบซึ่งล่าสุดขายสุทธิทองคำกว่า 8.59 ตันเมื่อวานนี้มีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 805 ตัน รวมทั้งติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในค่ำคืนนี้ได้แก่ จำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตร, ปริมาณสินค้าคงคลังภาคค้าส่งขั้นสุดท้าย และ ดัชนีธุรกิจขนาดเล็กโดย NFIB

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 8.4 4 ดอลลาร์ สู่ 1,181.16 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1,185.80 ดอลลาร์ในระหว่างวันในขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐใหม่ก่อนที่นายโดนัลด์ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการใน วันที่ 20 ม.ค. โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯและจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯในวันจันทร์ที่ผ่านมา

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯร่วงรับความกังวลค่าเงินหยวนและกรณี Brexit : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลงขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับค่าเงินหยวนของจีนและการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษได้กระตุ้นความต้องการพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำก่อนการประมูลขายพันธบัตรมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในสัปดาห์นี้

- น้ำมันดิบดิ่งลงกว่า 4% จากความกังวลว่าอิรักจะผลิตน้ำมันสูงขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ดิ่งลง 4 % ในวันจันทร์โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าประเทศอิรักอาจจะส่งออกน้ำมันดิบสูงเป็นประวัติการณ์และปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้อาจบดบังความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ในการแก้ไขภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลก

- ค่าเงินดอลลาร์ร่วงเทียบค่าเงินเยนหลังระดับการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนลดลง : ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนในวันจันทร์ที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุน มีความต้องการที่จะเสี่ยงลดลงและปอนด์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนจากข่าวที่ว่าอังกฤษจะดำเนินการด้านความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างรวดเร็วอีกครั้งกับสหภาพยุโรปหลังการลงประชามติถอนตัวออกจากอียูหรือ Brexit

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานเฟดและสมาชิก FOMC ในช่วงปลายสัปดาห์ (12-13 ม.ค.)

- การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (12 ม.ค.)

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวัน, เปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัวและปิดสถานะถือเงินสดหากราคาต่ำกว่า 1,182 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 11 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ที่บริเวณ 1,190 เหรียญ ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะคงยังออกมาดีต่อเนื่อง แต่นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงการแถลงนโยบายครั้งแรกของนายทรัมป์ในคืนนี้ และการเข้ารับตำแหน่งในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการที่อังกฤษออกจากยูโรโซนอย่างแข็งกร้าว ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยดูน่าสนใจมากขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.48 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.55% โดยปิดที่ 1,187.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,179.75 – 1,190.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,187 เหรียญ ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 6 สัปดาห์ที่ 1,190 เหรียญ โดยค่าเงินดอลลาร์เริ่มแกว่งตัวแคบลง โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำในช่วงนี้คือ ความกังวลของนักลงทุนต่อการแถลงนโยบายของนายทรัมป์ครั้งแรกในคืนนี้ รวมทั้งการที่อังกฤษจะออกจากยูโรโซนอย่างแข็งกร้าวในช่วงนี้ ทำให้แรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสชะลอลง และแรงซื้อในสินทรัพย์ปลอดภัยจะกลับมาหาตลาดยังขาดความชัดเจน ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดดิ่งลง 2.2 % ในวันอังคาร หลังจากรูดลงแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในระหว่างวัน ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนไม่มั่นใจว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงหรือไม่

• อิรักประกาศว่า อิรักจะปรับเพิ่มยอดส่งออกน้ำมันดิบจากเมืองท่าบาสราสู่สถิติสูงสุดในเดือนก.พ. หลังจากยอดส่งออกน้ำมันดิบจากภาคใต้ของอิรักทรงตัวใกล้สถิติสูงสุดในเดือนม.ค. โดยอิรักถือเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองในกลุ่มโอเปก

• ดอลลาร์สหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันอังคารจากความกังวลก่อนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะจัดการแถลงข่าวเป็นครั้งแรกในวันพุธนี้ ขณะที่ค่าเงินเปโซเม็กซิโกร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

• นักลงทุนวิตกว่า นายทรัมป์ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. อาจสั่นคลอนตลาดด้วยการแถลงนโยบายที่แข็งกร้าว อาทิ นโยบายการค้าและความสัมพันธ์กับจีน

• ราคาทองได้รับแรงหนุนจากกระแสการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงในตลาด หลังจากนักลงทุนกังวลว่าอังกฤษอาจจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างแข็งกร้าว หรือ hard Brexit

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading long หากราคาอยู่เหนือ 1,185 เหรียญ แต่ถ้าไม่ให้เปลี่ยนเป็น trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบโลก

S50H17 และ SET index เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนขึ้นลงในวัน คาดดัชนีเริ่มเข้าสู้การปรับฐานแกว่งตัวออกข้างในกรอบและกำลังเลือกทิศทางหลังดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นติดต่อกันตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 ธ.ค.59 ปีที่แล้ว โดย S50H17 เปิดตลาดในภาคเช้าเมื่อวานนี้ที่ 975.50 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 984.70 จุด ก่อนมีแรงขายออกมาช่วงท้ายตลาดกดดันให้ปิดตลาดบริเวณ 980.00 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวในช่วงเช้าและบ่ายคล้ายคลึงกับ SET index แต่ในช่วงท้ายตลาด SET index ไม่มีแรงขายออกมากดดันดัชนีเท่าใดยังแกว่งตัวในกรอบราคาด้านบนและปิดตลาดที่ 1,572.10 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 59,897.95 ลบ.อยู่ในเกณฑ์สูง เป็นแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน(+274.26 ลบ.), นักลงทุนต่างชาติ(+1,028.98 ลบ.)และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์(+433.67 ลบ.) สวนทางกับนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศที่ขายสุทธิ (-1,736.90 ลบ.) สำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้ระวังการย่อตัวของดัชนีจากแรงขายในกลุ่มพลังงานซึ่งอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาน้ำมันดิบ WTI (NYMEX) ที่ปรับตัวลดลงรุนแรงต่อเนื่องมาห้าวันปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 50.94 USD/bbl

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบ, เปิดสถานะด้วยความรอบคอบและระวังแรงขายกดดัน Upside ของดัชนี

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ปรับตัวลดลงบริเวณ 50.94 USD/bbl

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ล.ต.กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่พัฒนาตลาดทุนใน 3 ปี : ก.ล.ต. ได้วาง 4 ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ปี 60-62 เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดทุน, การเพิ่มคุณภาพของช่องทางของผู้ระดมทุน, เพิ่มโอกาสแก่ธุรกิจรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับพัฒนาการของฟินเทคและพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

- กบง.เพิ่มชดเชยตรึงราคาแอลพีจีเดือนม.ค. : กบง.ตรึงราคาขายแอลพีจีเดือนมกราคมไว้ที่ 20.29 บาทต่อกก. เพิ่มเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมัน 4.69 บาทต่อกก. หลังราคาตลาดโลกและค่าเงินบาทอ่อนดันต้นทุนสูงขึ้น

- ดัชนีเชื่อมั่นอสังหาฯไตรมาสสี่วูบ : ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจอสังหาฯ ไตรมาส 4 ปี 2559 ลดลงเล็กน้อยยกเว้นความเชื่อมั่นด้านยอดขายที่ลดลงมากหลังมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ภาครัฐหมดลง โดยเฉพาะรายกลาง-เล็ก ความเชื่อมั่นวูบหนัก

- (SAWADH17X) 'ศรีสวัสดิ์'ขายหุ้นกู้5พันล้าน : ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์เล็งออกหุ้นกู้ 3-5 พันล้าน เดือนนี้นำเงินขยายธุรกิจ-รีไฟแนนซ์ ชูดอกเบี้ยจูงใจ 3-4.5% ขายนักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ ตั้งธนาคารซีไอเอ็มบีเป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์เผยแนวโน้มธุรกิจปีนี้โต 20-30% เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 200-300 สาขา

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 11 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นขึ้นต่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,187.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,185.51 – 1,190.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 6 สัปดาห์ แม้ในวันนี้ค่าเงินดอลลาร์แกว่งทรงตัวในกรอบแคบ แต่ทองคำยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความวิตกถึงการแถลงข่าวของนายทรัมป์ในคืนนี้ และการเข้ารับตำแหน่งในสัปดาห์หน้า ที่เริ่มเห็นการแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวกับนโยบายต่างๆ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับตลาดได้ทั้งสองทาง ทำให้ภาพรวมราคาทองคำเริ่มดีดกลับตั้งแต่ช่วงต้นปีหลังไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,120 เหรียญ ในช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนทางด้านการซื้อขายของ SPDR ยังไม่ช่วยหนุนราคาทองคำเนื่องจากตั้งแต่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีมา SPDR ขายทองต่อเนื่องมาตลอดกว่า 2 เดือน ไม่เคยมีการเข้าซื้อเลย โดยตอนนี้ถือทองคำรวม 805 ตัน ทำให้ภาพรวมคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสรีบาวน์ต่อ และถ้า SPDR กลับเข้าซื้อทองอีกครั้งอาจจะเห็นราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่ทรงตัวจนถึงแข็งค่าขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอดูการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมที่บ่งชี้ถึงนโ ยบายเศรษฐกิจของเขา และทิศทางของดอลลาร์

- กระทรวงพลังงานรัสเซียแถลงในวันนี้ว่า นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค รมว.พลังงานรัสเซียจะเดินทางไปยังกรุงเวียนนาในช่วงต่อไปในเดือนนี้ เพื่อเข้าร่วมในการเจรจาที่ตั้งเป้าไปที่การสอดส่องดูแลว่า ประเทศต่างๆปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันได้ดีเพียงใดทั้งนี้ การเจรจาดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 21-22 ม.ค

- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้คาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อเขาประชุมกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในวันนี้

- นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า นายทรัมป์จะจัดการแถลงข่าวในวันนี้ที่นครนิวยอร์ค ซึ่งถือเป็นการจัดแถลงข่าวครั้งแรกนับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

- นักลงทุนวิตกว่า นายทรัมป์ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. อาจสั่นคลอนตลาดด้วยการแถลงนโยบายที่แข็งกร้าว อาทิ นโยบายการค้าและความสัมพันธ์กับจีน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยแถลงของประธานเฟดและสมาชิก FOMC ในช่วงปลายสัปดาห์ (12-13 ม.ค.)

- การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (12 ม.ค.)

- การแถลงข่าวของนายทรัมป์ ในคืนนี้

- ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวลดลง

 

คำแนะนำ : trading long แต่ระวังความผันผวนในคืนนี้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 12 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำทำจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ที่บริเวณ 1,198.40 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ หลังจากนักลงทุนผิดหวังการแถลงข่าวของนายทรัมป์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากไม่ได้เน้นการพูดถึงนโยบายทางเศรษฐกิจ แต่เน้นพูดถึงเรื่องอื่นๆ มากกว่า ทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนต่อได้ คืนนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาย่อย และการประชุมของ ECB ที่จะช่วยหนุนราคาทองให้ไปต่อได้หรือไม่

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.82 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.32% โดยปิดที่ 1,191.46 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,176.94 – 1,198.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,193 เหรียญ ราคาทองแกว่งผันผวนโดยกรอบการเคลื่อนไหวมากกว่า 20 เหรียญในเมื่อวานนี้ โดยภาพรวมราคายังปรับตัวขึ้นต่อโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดต่อเนื่องในรอบ 7 สัปดาห์ได้ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความคาดหวังของนักลงทุนที่คาดว่าการแถลงข่าวครั้งแรกของนายทรัมป์ จะมีการแถลงเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ แต่กลับพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเรื่องอื่นๆ มากกว่า ทำให้ราคาทองกลับมาบวกต่อในช่วงท้ายตลาดได้ วันนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาย่อย และการประชุมธนาคารกลางยุโรป ว่าจะช่วยหนุนราคาทองให้ไปต่อได้หรือไม่

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2.8 % ในวันพุธ ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหนึ่งเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากงานแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันสู่เอเชียด้วย

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ หลังการแถลงข่าวครั้งแรกของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อดอลลาร์ ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการแถลงเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

• ดอลลาร์ร่วงลง หลังว่าที่ปธน.ทรัมป์แถลงข่าวโจมตีสำนักงานข่าวกรอง แต่ไม่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของเขา

• นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองจะได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งในฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีในปีนี้ เพราะการเลือกตั้งดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองในสหภาพยุโรป (อียู)

• ราคาทองขึ้นไปแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่แข็งแกร่ง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ฝั่ง long ถือต่อ และติดตามหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,200 เหรียญ ให้ทยอยขายทำกำไร

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น

S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงในวันโดยเปิดตลาดและเคลื่อนไหวในแดนบวกที่ 977.50 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดแบบขาเดียวที่ 988.90 จุดในช่วง 15.00 น.ก่อนที่จะมีแรงขายกดดันให้ตลาดปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงท้ายตลาด ปิดตลาดบริเวณ 982.00 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาด 1,572.93 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวม 65,411.82 ล้านบาท ถือว่าหนาแน่นคึกคัก เป็นเเรงซื้อเข้ามาในกลุ่มสื่อสารและพลังงานเป็นหลัก โดยกลุ่มนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ (+1237.42 ลบ.), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ (+417.26 ลบ.)เเละนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ (+336.91 ลบ.) สวนทางกับนักลงทุนรายย่อยที่ขายสุทธิ (–1,991.59 ลบ.) เหมือนวันก่อนหน้า สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าดัชนียังคงมีแนวโน้มผันผวนแต่อาจได้ผลบวกจากค่าเงินบาทเเข็งค่าต่อเนื่องที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังภาวะการซื้อมากเกินไป รวมทั้งผลกระทบจากเงินทุนของต่างชาติที่อาจมีมุมมองแตกต่างจากเดิมหลังเมื่อคืนทรัมป์แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกซึ่งภาพรวมเป็นการชี้แจงข้อสงสัยในประเด็นที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน, กรณีรัสเซียแทรกแทรงการเลือกตั้งและการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ชายแดนเม็กซิโกหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าประเด็นนี้ยังไม่กระทบตลาดลงทุนโลกอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาที่กว้างขึ้น, Upside จำกัดขาดปัจจัยหนุน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า USD index =101.78 จุด, น้ำมันดิบผันผวนรุนแรงในวัน

 

ข่าวในประเทศ

- 'สมคิด'มั่นใจปี 60 GDP โตแตะระดับ 4%, คลังยันรัฐบาลไม่'ถังแตก' : "สมคิด" มั่นใจ GDP ปีนี้โตได้กว่า 3-4%, ปลัดคลัง "น้อยใจ" เอกชนไมลงทุนยืนยันกระทรวงการคลังยังไม่ "ถังแตก" ด้านเอกชนยันลงทุนเฉพาะด้าน จับตาปัจจัยบวกต่างประเทศกระตุ้นส่งออก ท่องเที่ยวฟื้น

- สศค. โชว์รายได้รัฐบาลไตรมาสแรกปี 2560 เก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 2.7 หมื่นล้าน : สศค. เผยว่าการเก็บรายได้ของรัฐบาล 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 เก็บได้ 5.52 แสนล้านบาทสูงกว่า 5.2% เนื่องจากการเก็บรายได้กรมสรรพากรเกินเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจเกินเป้า 1.1 หมื่นล้านบาทส่วนการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าเป้า 2,100 ล้านบาทเนื่องจากการเก็บภาษีเดือน ธ.ค.2559 กลับมาเกินเป้าหลังจากที่สองเดือนก่อนหน้านั้นเก็บได้ต่ำกว่าเป้าและกรมศุลกากรเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 5,000 ล้านบาท

- (SPALIM17) SPALI ทุ่มงบก้อนโตซื้อที่ดิน ลุยเปิดโครงการ 3.7 หมื่นล้าน : SPALI เผยปี 2560 ตั้งเป้ายอดขายโต 2.7 หมื่นล้านบาทและรายได้ 2.45 หมื่นล้านบาท รับอานิสงส์เศรษฐกิจขาขึ้นและโครงการภาครัฐหนุน “ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่กว่า 24 โครงการ มูลค่าราว 3.7 หมื่นล้านบาท พร้อมทุ่มงบ 8 พันล้านบาท ลุยซื้อที่ดินหวังพัฒนาโครงการในอนาคต

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,195.37 USD/toz เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นตลอดวันค่อนข้างแข็งแกร่งได้รับปัจจัยหนุนระยะสั้นจากการแถลงข่าวของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อคืนนี้ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนพอสมควรจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าคุณทรัมป์จะแถลงข่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่คุณทรัมป์กลับให้ข่าวในประเด็นกว้างๆในเรื่อง ความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์, การส่งมอบธุรกิจให้ทายาท, การแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯโดยรัสเซียรวมทั้งการดําเนินนโยบายด้านความมั่นคงชายเเดนเมื่อเข้ารับตำเเหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ฯ ซึ่งไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นด้านการกระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจตามที่ตลาดให้ความสนใจเท่าที่ควรส่งผลให้มีแรงขายในค่าเงินดอลลาร์กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงต่อเนื่องในแนวโน้มอ่อนตัวเดิมโดย USD index เคลื่อนไหวบริเวณ 101.24 จุด และทำให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ทองคำต่อเนื่องดันราคาขึ้นไปที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองเดือน ส่วนในด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันอย่างกองทุน SPDR ยังคงมีมุมมองเดิมไม่ปรับสถานะการถือครองทองคำคงที่สุทธิที่ 805 ตันเป็นวันที่สามติดต่อกัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ติดตาม ถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Evans และ Harker)และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีสินค้านำเข้า รวมทั้งคาดการณ์ถ้อยแถลงของนางเยลเลนประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำในคืนนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญพอสมควร

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์: ราคาทองคำสหรัฐฯปรับขึ้น 3.82 ดอลลาร์ สู่ 1,191.46 USD/toz ช่วงท้ายตลาดวันพุธหลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ที่ 1,198.40 USD/toz ในระหว่างวันโดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯหลังนายทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.

- ดอลลาร์ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 1 เดือนหลังทรัมป์แถลงฯ : USD index ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันพุธหลังการแถลงข่าวครั้งแรกของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อดอลลาร์ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการแถลงเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลให้ USD index ลดลง 0.15% สู่ 101.86 ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้นมากถึง 0.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์โดยแตะระดับสูงของวันที่ 1.0622 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ร่วงลงราว 1.3% สู่ 114.26 เยนซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนและปอนด์บวก 0.8% สู่ 1.2273 ดอลลาร์

- ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.8% สวนทางค่าเงินดอลล์อ่อนค่า : ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) พุ่งขึ้น 2.8 % ในวันพุธปรับตัวสูงสูงที่สุดในรอบหนึ่งเดือน ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากงานแถลงข่าวของนายทรัมป์และยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันสู่เอเชียด้วย ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.8 % มาปิดตลาดที่ 52.25 USD/bbl

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯร่วงรับแถลงฯของทรัมป์"เมื่อคืน : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลงในวันพุธโดยผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในช่วงสั้นๆ หลังจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีได้รับการตอบรับหนาแน่นขณะที่ความเห็นของนายทรัมป์กระตุ้นความต้องการพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 30 ปีมีผลตอบแทน 2.9596% ส่วนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีมีผลตอบแทน 2.3721%

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Evans และ Harker)

- ถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.)

- การประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (12 ม.ค.)

 

คำแนะนำ : ซื้อขายในกรอบแนวโน้มขาขึ้นฝั่ง Long Position ได้เปรียบ, เปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว, ติดตามถ้อยแถลงสมาชิก FOMC

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 13 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ หลังจากนั้นเริ่มมีแรงขายและไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญได้ โดยค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์เช่นกันก่อนที่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัว ทำให้ทองปรับตัวลดลงในท้ายตลาด วันนี้ติดตามตัวเลขภาคการค้าปลีกที่มีโอกาสทำให้ราคาแกว่งผันผวนได้อีกครั้ง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.34% โดยปิดที่ 1,195.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,190.91 – 1,206.98 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,194 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ โดยขึ้นทะลุเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญ ขึ้นไปได้ แต่เริ่มมีแรงขายมาในช่วงท้ายตลาด โดยปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อคือค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามในเช้านี้ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 1,200 เหรียญจึงอาจจะเกิดแรงขายทำกำไรได้ในช่วงสั้น และเมื่อคืนที่ผ่านมาการแถลงของประธานเฟดยังไม่มีการพูดถึงเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย และในคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคค้าปลีกเป็นหลักที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ราคาทองได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 1 % ในวันพฤหัสบดีโดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย กำลังปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงนอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์น้ำมันอาจพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดในจีน

• ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดี และมีแนวโน้มปรับตัวแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนพ.ย.โดยได้รับผลกระทบจากการสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาดหลังการแถลงข่าวของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการใช้จ่ายใหม่ด้านการคลังและการลดภาษี

• นายคาร์สเตน เมงเคอ นักวิเคราะห์ของธนาคารจูเลียส แบเออร์กล่าวว่า "ถึงแม้ราคาทองรับขึ้นมาอยู่เหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็คาดว่าราคาทองจะไม่ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เพราะตลาดขาดแรงหนุนจากคำสั่งซื้อทองจริง ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเงื่อนไขในการทำให้ราคาทองฟื้นตัวอย่างยั่งยืน"

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

• ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : ปิดทำกำไรฝั่ง long แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบ

Smart Stock

Today Strategy:

แกว่งออกข้างไร้แนวโน้ม

S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดเกิดช่องว่างราคา (Gap) ในแดนบวกบริเวณ 983.00 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 986.40 จุด ก่อนมีแรงขายกดดันราคาช่วงท้ายตลาดค่อนข้างรุนแรงปิดตลาดที่ 978.50 จุดเช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดตลาดที่ 1,568.84 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 48,465.48 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ปกติของดัชนีเป็นเเรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (-382.76 ล้านบาท) เเละสถาบันภายในประเทศ (-276 ล้านบาท) ที่เข้ามาขายในกลุ่มธนาคารและพลังงานเป็นหลักหลังเกิดภาวะซื้อมากเกินไปในขณะที่ยังไม่มีพื้นฐานรองรับเพียงพอทำให้ตลาดเริ่มแกว่างตัวออกข้างและเกิด Downside Risks ซึ่งแม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าในวัน (35.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) และราคาน้ำมันดิบ (WTI=53.01 USD/bbl) ปรับตัวขึ้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะพยุงดัชนีไว้ได้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าเป็นแรงขายเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนลดความเสี่ยงจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Evans, Harker) เมื่อคืน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ) ซึ่งมีภาพรวมการแถลงคือการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับแนวนโยบายที่ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้วางไว้ แต่อย่างไรก็ตามตลาดสหรัฐฯตอบรับในเชิงลบหรืออาจไม่ได้ให้น้ำหนักต่อถ้อยแถลงดังกล่าวเท่ากับการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ ดังนั้นสำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้ระวังแรงขายที่อาจเกิดขึ้นในวันกดดันดัชนี

 

• แนะนำ : ซื้อขายในกรอบราคาที่กว้างขึ้นฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, Upside จำกัดขาดปัจจัยหนุน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯค่ำคืนนี้

 

ข่าวในประเทศ

- พาณิชย์ใช้เวที WEF ดึงนักลงทุนมาไทย : กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าในวันที่ 17-20 ม.ค.นี้ จะร่วมประชุมในเวที World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2560 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยจะใช้เวทีนี้สร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีระดับโลก

- เคาะงบประมาณปี 61 เฉียด 3 ล้านล้าน ขาดดุลต่อ 4.5 แสนล้าน คาดการณ์หนุนจีดีพีโต 3.8% : รองนายกฯ เปิดเผยหลังการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 61 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 61 วงเงินรวม 2.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการประมาณการจัดเก็บรายได้อยู่ 2.45 ล้านล้านบาทและงบประมาณแบบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท

- (TRUEM17) ‘ทรูวิชั่นส์’ โวช่องใหม่เรตติ้งขึ้นที่1 ลูกค้าเก่า HBO บอกเลิกสมาชิกแค่จิ๊บๆ วอน ‘กสทช.’ เปิดใจกว้างดูข้อเท็จจริง : ‘ทรูวิชั่นส์’ ชี้ลูกค้าเข้าใจหลังนำกลุ่มช่อง HBO ออกจากผังรายการเผยขอยกเลิกสมาชิกแค่ 500 ราย หรือแค่ 0.166% วอน กสทช. เปิดใจกว้างดูข้อเท็จจริง โวช่องใหม่เรตติ้งพุ่งขึ้นอันดับ 1

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...