ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 10:16:51 น.

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ทองร่วงตามราคาน้ำมันดิบ

- ทองแท่งทยอยสะสมหรือเปิดสถานะบริหารความเสี่ยง

- คาดทองปรับฐานต่อหลังต้นสัปดาห์ดีดตัวทางเทคนิค

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นได้เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะมีแรงขายออกมาในการซื้อขายช่วงบ่ายต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จนทำให้ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่บริเวณ 1,670-1,675 ดอลลาร์ เช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินซึ่งมีแรงขายออกมามากในช่วงที่ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับของวันที่บริเวณ 32.5 0ดอลลาร์ จนราคากลับลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 32.0 ดอลลาร์ และยังทรงตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ โดยภาพการเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองและราคาโลหะเงินซึ่งในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้เริ่มดีดตัวกลับนั้น แต่ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่ารอบก่อนหน้าได้ จึงเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิค แล้วจึงเริ่มกลับเข้าสู่ทิศทางของการปรับฐาน และด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว การปรับฐานของราคาที่เกิดขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่ารอบก่อน ดังนั้นการปรับตัวลงของราคาทองในรอบนี้อาจไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่เป็นจุดต่ำสุดของสัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 1,627-1,630 ดอลลาร์ ทำให้การเก็งกำไรในระยะสั้นผ่านทองคำแท่งอาจใช้วิธีการทยอยสะสมในช่วงที่ราคาปรับฐานเข้าใกล้แนวรับ หรืออาจเข้ามามีสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถือครองทองคำ โดยประเด็นที่กดดันให้ราคาทองปรับฐานลงนั้น มาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่กลับแย่กว่าที่คาด ประกอบกับคำเตือนเกี่ยวกับมาตรการที่ใช้แก้ปัญหาในยุโรปในขณะนี้อาจยังไม่เพียงพอสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทำให้ตลาดประเมินว่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าลงอีก โดยในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีการประชุมของรัฐมนตรีคลังยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องมาตรการรองรับและแก้ไขปัญหาของกลุ่มที่อาจเกิดขึ้นอีก และในระยะสั้นคาดว่าจะเป็นประเด็นลบที่กลับมากดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองจนทำให้การฟื้นตัวมีกรอบค่อนข้างจำกัด โดยในระหว่างวันคาดว่าราคาอาจเริ่มดีดตัวกลับแต่คงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,670-1,675 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ และหากปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,655 ดอลลาร์ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,640 และ 1,627 ดอลลาร์ ต่อไป เช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินที่ต้องระวังแรงขายหากปรับฐานลงต่ำกว่า 31.80 ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนทำให้ราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับบริเวณ 31.50 และ 31.0 ดอลลาร์ ต่อไป

emnb_1_370235.gif

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

24,660 -160 24,500/24,400 24,700/24,800

 

ราคาทองปรับฐานลงต่ำกว่าจุดปิดสถานะตัดขาดทุนฝั่งซื้อที่บริเวณ 1,670 ดอลลาร์ จนราคาปรับฐานลงไปต่ำสุดที่แนวรับบริเวณ 1,655 ดอลลาร์ และเริ่มดีดตัวกลับ โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่ 1,670 และ 1,680 ดอลลาร์ตามลำดับ จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ในช่วงสั้นๆ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ และสามารถเลือกเก็งกำไรด้านขายในช่วงที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

1,005 -36 990/980 1,010/1,020

 

มีแรงขายออกมามากหลังจากราคาโลหะเงินไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 32.40-32.50 ดอลลาร์ ได้ โดยเช้านี้ราคาทรงตัวอยู่ที่แนวรับบริเวณ 32 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีการดีดตัวในระยะสั้นเกิดขึ้นหลังจากราคาปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงติดต่อกัน 2 วัน จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อจากการดีดตัวกลับในช่วงสั้นๆ และต้องระวังแรงขายในกรณีที่ราคาปรับฐานลงไปต่ำกว่า 31.70-31.80 ดอลลาร์ โดยสามารถกลับมาเก็งกำไรฝั่งขายในช่วงที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 29 มี.ค. 55 (ภาคเช้า)

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 11:55:15 น.

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง หลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเช้านี้ราคาทองอยู่ที่ระดับ 1,661.06 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากผลของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯแข็งค่า ประกอบกับราคาน้ำมันลดลงอันเนื่องมาจากการเพิ่มสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ 7.1 ล้านบาเรล อีกทั้งตลาดยังมีการจับตามองผลการประมูลพันธ์อิตาลีในวันนี้ กองทุน SPDR มีการถือครองที่ระดับ 1,286.62 ตัน คงที่ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนเมษายน (GFJ12) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 24,500 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 24,200 บาท ราคาเสนอขาย 24,300 บาทemnb_1_370232.gif

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า GT คาดว่าราคาทองคำในระยะสั้นยังคงได้รับอิทธิพลจากปัญหาหนี้ยุโรปและราคาน้ำมัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยเชิงบวกหลังจากกรีซได้รับอนุมัติเงินกู้รอบที่ 2 ทำให้สามารถเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคมได้ ประกอบกับแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจสำคัญอย่างจีน อังกฤษ รวมถึงธนาคารกลางยุโรปที่จะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์ แต่การเคลื่อนไหวยังคงเป็นลักษณะผันผวนจากแรงซื้อขายทำกำไร

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

FacebookTwitterพิมพ์ข่าวนี้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 11:57:35 น.

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,680 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,673 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,400 บาท กับ 24, 500บาท และกลับมาปิดที่ 24,350 บาท กับ 24,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,776 คู่สัญญา แบบ10 บาท อยู่ที่ 9,661 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 24 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interestแบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 7.6% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3.6% GFJ12 ปิดที่ 24,630บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,820 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,630 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,830บาทemnb_1_370232.gif

สัญญา Comex ปิดลดลง 27 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1657.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 78.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 31.83 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.62 ตัน ( คงเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.92 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 105.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 71.52 จุด ปิดที่ระดับ13,126.21 จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.08 ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

- อิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนได้ 8.5 พันล้านยูโรเมื่อวานนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.12% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 และลดลงจากระดับ 1.20% ในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว การประมูลครั้งนี้มีความต้องการซื้อตั๋วเงินคลังสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.51 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.36 เท่าในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนในวันนี้(29 มีนาคม2555)อิตาลีจะเสนอขายพันธบัตรระยะยาวอายุ5 ปี และ 10 ปี มูลค่าสูงสุด 8.25 พันล้านยู

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส หรือ Insee เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฝรั่งเศส ขยายตัว 1.7% ในปี 2554 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินที่ผันผวนก็ตาม การขยายตัวของจีดีพีในปี 2554 มีสาเหตุหลักมาจากอำนาจการซื้อของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 1.1% ขณะที่อัตราการออมก็เพิ่มขึ้นเป็น 16.8% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบสามสิบปี

- รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังพิจารณาเรื่องการปล่อยน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐต้องการให้ทำเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน โดยนายเอริค เบส์ซง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมฝรั่งเศส กล่าวว่า สหรัฐเป็นผู้เสนอความคิดดังกล่าว และฝรั่งเศสก็เห็นด้วย ฝรั่งเศสกำลังรอฟังคำแนะนำจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเรื่องคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลฝรั่งเศสก็กำลังกระตุ้นให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปล่อยน้ำมันสู่ตลาดให้มากขึ้น เพื่อชะลอราคาน้ำมัน

- สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายอาลี อัคบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ว่า อิหร่านจะเจรจากับชาติมหาอำนาจอีกครั้งในวันที่ 13 เม.ย.นี้ ซึ่งอาจจะช่วยลดสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นจากกรณีโครงการนิวเคลียร์ โดยคำกล่าวของนายซาเลฮี มีขึ้นหลังจากให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีเทย์ยิป เออร์โดแกน ของตุรกี ซึ่งเดินทางเยือนอิหร่าน และตุรกี เสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมและจะมีการกำหนดสถานที่ประชุมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทูต ในกรุงบรัสเซลส์ ที่ระบุว่า วันที่ 13 เม.ย.นี้อาจจะมีการประชุมเกิดขึ้น

- มีการรายงานโดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งลงถึง 27 ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันนั้น มาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัว 2.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.0% สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 27 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,657.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1673.5 - 1656.0 ดอลลาร์

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัว 2.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.0% ลดลงจากระดับ 3.6% ของเดือนมกราคมที่ได้รับการปรับทบทวนแล้ว ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เมื่อไม่นับรวมยานพาหนะ มีการขยายตัว 1.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนวันพุธ

- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -3.0% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.6%ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 1.6% ตามคาด

- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -3.7% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3.0% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.2%

- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.2 M คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.8 Mตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 7.1M

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 348000 ราย คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 351000 ราย

- Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาเท่าเดิมที่ระดับ 3.0%

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 1670 เหรียญ เปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 1679เหรียญ โดยเริ่มหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1670 เหรียญในช่วงกลางตลาด COMEX เมื่อวานตัวเลขDurable Goods Orders ที่ออกมาดีขึ้น 2.2% แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้กับตลาดเท่าไรนัก ข่าวเรื่อง Durable Goods Orders ไม่ได้มีผลต่อตลาดอย่างไร ในทางกลับกันเรื่องของ physical demand ในตลาดโลกที่ยังไม่มากนักที่จะรองรับการขึ้น จึงยังมีแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้นออกมา ทำให้ราคาหลุดแนวรับที่ระดับ 1670 เหรียญซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ จึงทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาทองคำไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1657 เหรียญโดยประมาณ และดีดกลับมาปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1657.9 เหรียญ โดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีการแกว่งตัวและผิดหวังจากการที่ไม่ได้รับคำยืนยันการที่จะมี QE3 หรือไม่ของนายเบอร์นันเก จึงเกิดแรงเทขายเข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดทองคำ ราคาทองคำในเชิงเทคนิคเริ่มกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่ขึ้นไปเป็นลักษณะของ Technical Rebound มาจาก sentiment ของนายเบอร์นันเกเท่านั้น ในขณะที่ค่าเงินยูโรเองก็ยังมีแรงกดดันให้อ่อนค่าลงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หลายๆ ฝ่ายได้คำนึงถึงปัญหาทั้งสเปนและอิตาลีซึ่งอาจเป็นรายต่อไป แม้ว่าพันธบัตรที่ประมูลออกมาของอิตาลีค่อนข้างได้รับการตอบรับดีก็ตาม รวมทั้งกรีซเองได้รับการดูแลจากอีซีบีมากขึ้น ซึ่งตลาดยังรอความชัดเจนในการอัดฉีดเงินของอีซีบีอีกก้อนหนึ่ง ซึ่งจะมีการประชุมอีซีบีในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ทองคำจะมีแนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1680 เหรียญ ในขณะที่แนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ1650 เหรียญ และคำนวณว่าอาจจะมีโอกาสที่จะหลุดระดับ 1650 ได้ แนวรับสำคัญที่สุดจะอยู่ที่ระดับ1630 เหรียญ

Silver - ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน หลุดบริเวณแนวรับสำคัญที่ระดับ 32.50 เหรียญลงมาอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาลงเช่นเดียวกัน

Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,550 บาท

Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท

Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)

เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาลง คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1650-1665 เหรียญ ให้ขายเมื่อราคาเด้งตัวและเข้าซื้อเมื่อราคาตกลงมาที่แนวรับ

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)

ยังไม่เข้าช้อนซื้อ ให้รออยู่นอกตลาด พอร์ทควรอยู่ในเกณฑ์ 0% หรือพิจารณาทำ short position ได้ ตำแหน่งนี้เป็นระยะต้นของการทำ short position ได้สำหรับนักลงทุนระยะกลาง

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

ไม่แนะนำให้ทำอะไร รอความชัดเจนของทิศทางตลาด และรอช้อนซื้อบริเวณ 1630 เหรียญเท่านั้น

สรุป ทองคำมีความผันผวนและเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาลงอีกครั้ง

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมว่ากรอบกว้างๆ ถ้าไม่มีหลุด 1600 น่าจะออกมาประมาณว่า

1 ราคาตอนนี้ถ้าผมคิดถูก ทำ H&S กลับหัวอยู่

2 ราคาที่ตกลงมาจากแถว 1795 ลงมาแถว 1623 เป็นราคาแถว fibo 61.8 (ราคาตามนิยามคลื่น 3)

3 ราคามีโอกาสทำ สามเหลี่ยมแถว 1795 ซึ่งมีฐานยกสูงขึ้นมา (ราคาต้องไม่หลุด 1636 ) ไม่งั้นต้องมองใหม่

4 bb กำลังบีบ ไม่นานคงหลุดแรงๆด้านใดด้านหนึ่ง

5 ปัญหาอยู่ที่ ma 75 ตัด ma 200 ลงมา (d1) ถ้าราคาจะเป็นขาขึ้นตามที่คาด เส้น 75 ควรจะกระดกขึ้นตัด ma 200

6 ราคารายวันไม่ควรจะหลุด 1650 เพื่อดูความแข็งของแนวรับ และสุดๆ ภาวนาอย่าให้หลุด 1630

เป็นการมองโดยความคิดส่วนตัวนะครับ ต้องดูต่อไปแบยาวๆครับว่าจะตรงหรือเปล่า สรุปมั่วมาครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การประชุมสุดยอด BRICS เปิดฉากแล้ววันนี้ ปธน.จีนเผยจุดยืนเรื่องการพัฒนา

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 12:40:15 น.

การประชุมสุดยอด BRICS ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วในช่วงเช้าวันนี้ โดยผู้นำประเทศชั้นนำด้านเศรษฐกิจเกิดใหม่ 5 ประเทศ จะได้มีโอกาสหารือในประเด็นการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้นำบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันก่อนที่จะเริ่มการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมทัจพาเลซ ประเทศอินเดีย และเข้าร่วมการประชุมในช่วงเช้า

ทูตจีนกล่าวว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะพูดในประเด็นเรื่องจุดยืนของจีนในเรื่องการควบคุมระดับโลก การพัฒนาอย่างยั่งยืน และความร่วมมือในกลุ่มประเทศ BRICS ในการประชุม ซึ่งหัวข้อหลักของการประชุมจะเป็นเรื่องความมุ่งมั่นของกลุ่ม BRICS ในการเป็นพันธมิตรเพื่อเสถียรภาพ ความมั่นคง และความรุ่งเรืองemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวียดนามคาดจีดีพีขยายตัว 4% ในไตรมาสแรกปีนี้

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 13:00:00 น.

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนามคาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนามอาจขยายตัว 4% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวที่ระดับ 5.57% ในช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมาและ 6.1% ในไตรมาสสุดท้ายปี 2554

รายงานของกระทรวงระบุว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) และสต๊อกสินค้าที่อยู่ในระดับสูงได้ฉุดการขยายตัวของจีดีพีลงในไตรมาสแรกemnb_1_370236.gif

เวียดนามคาดว่าจะมีรายได้จากการส่งออกประมาณ 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23.6% เมื่อเทียบปีต่อปี และคาดว่ายอดนำเข้าอาจแตะที่ 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.9% ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้าในไตรมาสแรกประมาณ 251 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอคาดว่าจะทำรายได้จากการส่งออกได้มากกว่า 3.2 พันลานดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.4% ในขณะที่อุตสาหกรรมรองเท้าคาดว่าจะทำรายได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14%

ในขณะเดียวกัน การนำเข้าน้ำมันมีปริมาณลดลง 32.1% และมูลค่าลดลง 19.7% ส่วนปริมาณการนำเข้าปุ๋ยลดลง 27.4% มูลค่าลดลง 13.5% มูลค่าการนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่ลดลง 1.4% และ มูลค่าการนำเข้าเส้นใยลดลง 11.1% กระทรวงระบุ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.t

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมว่ากรอบกว้างๆ ถ้าไม่มีหลุด 1600 น่าจะออกมาประมาณว่า

1 ราคาตอนนี้ถ้าผมคิดถูก ทำ H&S กลับหัวอยู่

2 ราคาที่ตกลงมาจากแถว 1795 ลงมาแถว 1623 เป็นราคาแถว fibo 61.8 (ราคาตามนิยามคลื่น 3)

3 ราคามีโอกาสทำ สามเหลี่ยมแถว 1795 ซึ่งมีฐานยกสูงขึ้นมา (ราคาต้องไม่หลุด 1636 ) ไม่งั้นต้องมองใหม่

4 bb กำลังบีบ ไม่นานคงหลุดแรงๆด้านใดด้านหนึ่ง

5 ปัญหาอยู่ที่ ma 75 ตัด ma 200 ลงมา (d1) ถ้าราคาจะเป็นขาขึ้นตามที่คาด เส้น 75 ควรจะกระดกขึ้นตัด ma 200

6 ราคารายวันไม่ควรจะหลุด 1650 เพื่อดูความแข็งของแนวรับ และสุดๆ ภาวนาอย่าให้หลุด 1630

เป็นการมองโดยความคิดส่วนตัวนะครับ ต้องดูต่อไปแบยาวๆครับว่าจะตรงหรือเปล่า สรุปมั่วมาครับ

 

สวัสดี mtts ขอบคุณ สรุปเป็นข้อๆให้สังเกตุ เยี่ยม :gd

 

เป็นไงบ้าง โชคดี สุขกาย สบายใจทั้งครอบคร้วนะ

 

คิดถึงเป็นระยะ อย่าทิ้งระยะห่างนัก พวกเรารอความเห็นข้อสรุปอยู่เสมอ

 

NicetoMeetU chez.......,มือใหม่ที่หายต้ว.....คิดถึงน้า :Announce

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

29-3-2012-2.gifพอดีมาดูกราฟรายสี่ชม.เลยต้องมาอัพเดตซะหน่อย :aa เห็นแพทเทิ้ลrH&Sเล็กๆ มีเนคไลน์ตรงสีเหลือง :57 เป้าหมาย4h3 ก็ปลายลูกศรครับ :uu แถวๆ1765 ตรอกย้ำความมั่นใจเมื่อเช้า :gvme

ปล.ฟิชเชอร์บีบีราย1ชม.อ้าแล้ว แถมหลุดเเนวต้านเทรนฟ้าที่บอกเมื่อเช้าแล้ว ถ้าเข้าก็อย่าลืมคัตลอสนะครับ กลัวถูกเจ้าหักปากกา :_10

ปล2. ถ้าผ่าน180xไปได้และยืนเหนือ1800ได้ อย่างน้อย1900ได้เห็นแน่ๆ :57(มักน้อยไปมั้ยน้า)

ปล3. ขอให้เพื่อนๆโชคดีทุกคนครับ :bye

ถูกแก้ไข โดย baskie30

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จีน: วิตกซัพพลายยางออกใหม่ฉุดสัญญายางปิดร่วง

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 15:01:00 น.

สัญญายางที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดร่วงลงในวันนี้ (29 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานยางออกใหม่

สัญญายางส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 440 หยวน หรือ 1.55% ปิดที่ 27,895 หยวน/ตัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลผลิตยางออกใหม่จะเข้าสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับราคายาง

emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Analysis: นักวิเคราะห์คาด GDP จีนดีดตัวใน Q2/55 หลังดิ่งถึงจุดต่ำสุดใน Q1

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 14:56:15 น.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะเดียวกันคาดว่า ทั้งการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ จะดีดตัวขึ้นปานกลางในไตรมาส 2 ของปีนี้

นายโจว จิงตง นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ ไชน่า คาดการณ์ว่า การขยายตัวของจีดีพีจีนในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 8.2% ลดลง 1.5% จากปีที่แล้ว และลดลงราว 0.7% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2554emnb_1_370236.gif

อย่างไรก็ตาม นายโจวคาดว่า อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 8.4% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่ก็ยังคงต่ำกว่าปีที่แล้วอยู่ประมาณ 1.1%

ด้านนายหลู เจิงเหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอินดัสเทรียล แบงก์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ชะลอตัวลงจนถึงจุดต่ำสุดในไตรมาสแรกของปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในไตรมาส 2 เขาคาดว่าจีดีพีจีนจะขยายตัวในกรอบ 8.4-8.8% ในไตรมาสแรกปีนี้ ลดลง 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า

นอกเหนือจากการคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นแล้ว นายหลูยังคาดว่ายอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีนจะขยายตัวในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรก

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ของจีนได้ควบคุมปริมาณการปล่อยเงินกู้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากรัฐบาลประกาศใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ด้วยความพยายามที่จะลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศ

โดยยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของสถาบันการเงินจีนอยู่ที่ 7.381 แสนล้านหยวนในเดือนม.ค. และ 7.107 แสนล้านหยวนในเดือนก.พ. ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของรัฐบาล ยังมียอดรวมกันไม่ถึง 5 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ตาม นายโจวคาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อพิจารณาจาก 4 ปัจจัย ปัจจัยแรกคือฐานการเงินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากมาตรการการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่คาดว่าจะมีการบังคับใชเร็วๆนี้ ปัจจัยที่ 2 คือการคาดการณ์ที่ว่าสถาบันการเงินของจีนจะส่งเสริมการปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

ส่วนปัจจัยที่ 3 คือการคาดการณ์ที่ว่า ฐานเงินทุนและศักยภาพด้านการปล่อยกู้ของรัฐบาลจะฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และปัจจัยที่ 4 ความพยายามของธนาคารกลางจีนในการลดสัดส่วนกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์คาดยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีนพุ่งแตะ 8 แสนล้านหยวนในเดือนมี.ค.

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 14:46:48 น.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในจีนจะขยายตัวแตะ 8 แสนล้านหยวนในเดือนมีนาคม หลังจากที่อ่อนตัวแตะ 7.381 แสนล้านหยวน และ 7.107 แสนล้านหยวน ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ตามลำดับ

อี ยองเจียน นักวิเคราะห์จาก BOCOM Financial Research Center กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นระบุว่า ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารในจีนมีแนวโน้มขยายตัวที่ระดับ 8-9 แสนล้านหยวนในเดือนมีนาคม

เจียง เฉาเหลียง กรรมการผู้จัดการแบงก์ ออฟ อะกรีคัลเจอร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการสินเชื่อจากเศรษฐกิจที่แท้จริงกำลังลดลง

อย่างไรก็ตาม อี ยองเจียน กล่าวว่า โดยปกติยอดปล่อยสินเชื่อจะหดตัวลงในช่วง 2 เดือนแรกของปีอยู่แล้ว ดังนั้นหากจะพิจารณาว่ายอดปล่อยสินเชื่อหดตัวลงหรือไม่ ก็ควรพิจารณาตัวเลขของเดือนมีนาคมด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงานemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...