มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

Good morning

 

เช้าวันอังคารแล้วค๊า Chez news ginger bmw bas+trader กระต่ายทอง มดแดง ย่าหยา พวงชมพู Pasaya Pa'ree fung

 

แสงแดด เด็กสยาม เด็กอู่ทอง ขุนศึกปทุม กบจ้า ตังเม ปุยเมฆ bbeem chinchilla Mr.Li Dr.Polar foo

 

gejen goldtoy Aiya Angkana deb Hong Meng auntnextdoor .......

 

 

ดีเช้าวันสีชมพู put จ๋า ชอบชมพูใหน เพื่อนๆ Chez news ginger bmw bas+trader กระต่ายทอง มดแดง ย่าหยา พวงชมพู Pasaya Pa'ree fung

 

 

 

แสงแดด เด็กสยาม เด็กอู่ทอง ขุนศึกปทุม กบจ้า ตังเม ปุยเมฆ bbeem chinchilla Mr.Li Dr.Polar foo

 

gejen goldtoy Aiya Angkana deb Hong Meng auntnextdoor .......

สดใสวันสีชมพู

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข้อมูลศก.จีน,เยอรมนีหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 14.75 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 06:07:57 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและเยอรมนี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 14.75 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 13,169.88 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.48 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 1,418.55 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 2,986.96 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นเพิ่มขึ้น 14.9% สู่ระดับ 1.85 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช่วยหนุนยอดค้าปลีกในช่วง 11 เดือนแรกทะยานขึ้น 14.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 18.68 ล้านล้านหยวน

ด้านเยอรมนีรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 2.45 ในเดือนพ.ย.

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังในสหรัฐ รวมทั้งข่าวที่ว่านายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีจะประกาศลาออกภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการลาออกของนายมอนติจะยิ่งทำให้สถานการณ์ด้านการเงินของอิตาลีย่ำแย่ลงอีก

หุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ย.

หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง พุ่งขึ้น 1.6% ขณะที่หุ้นคลิฟส์ เนเชอรัล ทะยานขึ้น 4.5%

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 2.3% เนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนแซนดี้มีแนวโน้มว่าจะทำให้ต้นทุนการจ่ายเงินสินไหมทดแทนของบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะนลท.จับตาประชุมเฟดคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 09:04:03 น.

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในคืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% ที่ระดับ 126.16 จุด ณ เวลา 10.26 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,510.60 จุด ลดลง 23.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,077.56 จุด ลดลง 6.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,295.99 จุด เพิ่มขึ้น 19.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,621.00 จุด เพิ่มขึ้น 11.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,962.52 จุด เพิ่มขึ้น 5.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,127.53 จุด เพิ่มขึ้น 13.19 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 5,759.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,633.82 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,563.40 จุด เพิ่มขึ้น 5.50 จุด

หุ้นคันไซ อิเล็กทริก เพาเวอร์ ดิ่ง 7.9%, หุ้นเรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ทะยาน 7.8% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่ม 1.3%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ รอปัจจัยชี้นำใหม่-ยังเกาะติดปัจจัยนอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 09:08:00 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามา

โดยในวันที่ 12 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมผู้นำอียู ซึ่งก็จับตาดูความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน นอกจากนี้ยังต้องติดตามการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ต่อไปด้วย ด้านอิตาลี ก็มีประเด็นเรื่องที่นายกฯของอิตาลีเตรียมลาออก ซึ่งทำให้มีการมองกันว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีหนี้ได้

พร้อมให้แนวรับ 1,325-1,330 จุด แนวต้าน 1,340 จุด

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th

 

ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดลบ หลังยอดส่งออกจีนชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 08:52:10 น.

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,077.56 จุด ลดลง 0.3% และดัชนีตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเปิดที่ 8,230.03 จุด ลดลง 0.4% ในวันนี้ หลังจากทางการจีนรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ขยายตัวเพียง 2.9% ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของจีนพุ่งขึ้น 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นเพิ่มขึ้น 14.9% สู่ระดับ 1.85 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพ.ย. ซึ่งช่วยหนุนยอดค้าปลีกในช่วง 11 เดือนแรกทะยานขึ้น 14.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 18.68 ล้านล้านหยวน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

GCAP

 

http://youtu.be/aYO9Z-ZWJ8w

[gejen 5,749]

ขอบคุณคุณ ginger คุณ news คุณบาสคุณเอ๋ คุณกระต่าย และทุกท่านค่ะ^_____^

[baskie30 6,060]

สวัสดีคะเพื่อนๆทุกท่าน หยุด3วันไปไหนมาบ้าง อิอิ วันหยุดสามีพาครอบครัว ไปทานpizza & mk ท้องกางกันเลย วันนี้ส่งมา1กราฟคะ"จากกราฟจะเห็นว่าราคาทองเบรคเทรนขึ้นมาได้และที่สำคัญทำคลื่นย่อย5คลื่นและทำไฮเหนื่อ1704 มองว่าน่าจะจบคลื่นCย่อยเป็นคลื่นขยายของ1hAมากกว่าและตอนนี้ก็รีบาวหากวัดด้วยฟิโบจะเห็นว่า1ย่อยหรือAย่อยอยู่ที่1703 ย่อมาทำหางยาวๆกินcutlossที่1685เกือบถึงโลวเดิม อาจจะเป็น2ย่อยหรือBก็ได้ (อันนี้ขอเน้นว่าเจ้าตั้งโปรแกรมไว้ลากมากินcutlossจริงๆ แต่ไม่เกิดโลวใหม่จากนั้นเจ้าก็ลากขึ้นมาเกิดนิวไฮ ขึ้นมาถึง1716เลยทีเดียว ซึ่งอยู่แถวๆฟิโบ161.8 ตามทฤษฏีตรงนี้สามารถเป็นได้ทั้งคลื่น3ย่อยหรือC ย่อยตอนนี้ย่อลงมาถึง1707 แต่ยังไม่หลุด1703 (ตรง1703 สำคัญมากหากหลุดตรงนี้ เท่ากับทำคลื่นabc เป็นการตอกย้ำกว่าเป็นคลื่นขยายของ4hC ในราย4 ชม แต่ถ้าทำคลื่น12345ราคาควรขึ้นไปอย่างน้อย172x-1730 ตรงนี้ถึงจะมีลุ้นอาจเป็นคลื่นกลับตัวของทองหรือเริ่มต้นคลื่นD3ในรายวันก็ได้ ) ซึ่งตรงนี้คือจุดที่คาดว่าจะเป็น4ย่อยเพราะย่อลงมาที่ฟิโบ127.2ตามทฤษฏีพอดี แล้วหากทำ5ย่อยควรขึ้นจากตรงนี้ขึ้นไปจบแถวๆ172x-173xแถวๆฟิโบ200-261.8 ตรงนี้ต้องวัดกันอีกทีว่าเป็นAย่อยรีบาวของ1hBหรือว่า1h1 ของ4h1ของD3คลื่นกลับตัว มุมมองวันนี้คือ เข้าbuyที่1707 สำหรับgs&gf ให้cutlossที่1703เป้าปิดที่172x-173x ส่วนทองแท่งใครมีของหากขึ้นมา1730และมีกำไรจะเก็บกำไรระยะสั้นก้ได้ หรือจะรอถือยาวแล้วรอย่อค่อยซื้อสะสมก็ไม่ว่ากัน เป้าหมายยาวๆ 2000up " จบการรายงานข่าวคะ

ปล.อัพเดตรูปน้องบีมคะ

ให้ชื่อว่า"ขอเป็ดMKให้นู๋บ้างสิคะ"

ปล2.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนทุกท่านนะคะ

[ginger 11,058]

HSH

 

[ginger 11,058]

Price Movement:

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,714.40 USDต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 8.90 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,703.30 - 1,718.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดบวกได้ 3 วันติดต่อกัน จากความหวังว่าเฟดจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อในการประชุม FOMC วันที่ 11 – 12 ธ.ค.นี้ นักลงทุนคาดว่าว่านอกจากการซื้อพันธบัตรระยะยาวมูลค่า 4.5 หมื่นล้านUSD ต่อเดือนแล้ว เฟดจะมีมาตรการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมพื่อทดแทน Operation Twist ที่จะสิ้นสุดลง ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากต้นทุนการกู้ยืมเงินของอิตาลีพุ่งสูงขึ้น จากการที่นายกรัฐมนตรี มอนติ ของอิตาลีประกาศว่าเขาจะลาออกทันทีหลังจากงบประมาณปี 2013 ได้รับการอนุมัติ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าใครจะนำพาอิตาลีให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,708 USDต่อออนซ์ มีแนวโน้มอ่อนตัวลง คาดว่าวันนี้ทองคำมีแนวรับบริเวณ 1,705/1,700/1,685 แนวต้านบริเวณ 1,720/ 1,730 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน นักลงทุนระยะกลาง – ยาว รออ่นตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่ม ถ้าไม่หลุด 1,670 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,665 – 1,755 โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,670 หากหลุดจะทำให้ภาพเป็น Bearish มากขึ้น ส่วนการผ่านบริเวณ 1,725 ได้จะทำให้ภาพกลับมาเป็น Bullish ในสัปดาห์นี้

Technical Analysis:

ภาพกราฟทางเทคนิคราคาขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,718 ไม่ผ่านทำให้อ่อนตัวลงมา คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,705/1,700/1,685 แนวต้านบริเวณ 1,720/ 1,730 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน นักลงทุนระยะกลาง – ยาว รออ่นตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่ม ถ้าไม่หลุด 1,670 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,665 – 1,755 โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,670 หากหลุดจะทำให้ภาพเป็น Bearish มากขึ้น ส่วนการผ่านบริเวณ 1,725 ได้จะทำให้ภาพกลับมาเป็น Bullish โดยมีแนวต้านในสัปดาห์บริเวณ 1,740/1,755

Market Strategy

Symbol Gold Gold 96.5% GFZ12 Recommendations

Support 1,705/1,685 24,730 /24,450 24,900/24,600 แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,685 – 1,730 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ

แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,650 – 1,850 แนะนำ ทยอยเปิด Long ตามแนวรับ

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,620 – 1,900 รอราคาอ่อนตัว เพื่อสะสม Long เพิ่ม

Resistance 1,720/1,730 24.950/25,100 25,100/25,250

Key Point in Precious Market

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ( - ) ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ) ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น ความต้องการของกองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น ( + ) นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ( + )

ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ การชุมนุมประท้วงในอียิปต์ การชุมนุมประท้วงในซีเรีย การประชุม FOMC ของสหรัฐในวันที่ 11 – 12 ธ.ค. การประชุม EU Summit ในวันที่ 13 -14 ธ.ค.

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันอังคาร ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค. ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนต.ค. FOMC เริ่มการประชุมกำหนด นโยบายการเงินวันแรก วันพุธ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ FOMCประกาศมติการประชุม กำหนดนโยบายการเงิน งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนพ.ย. วันพฤหัสบดี ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนพ.ย.

SPDR ซื้อ 1.81 ตัน ถือทองจำนวน 1,353.35 ตัน

Spot Silver

ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.38 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.09 - 33.50 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวน 9,829.15ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 32.7/32.5 แนวต้านบริเวณ 33.3/33.5 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

สรุปข่าวเศรษฐกิจ:

เศรษฐกิจสหรัฐ สินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2% ต่อปีในเดือนต.ค. สู่ระดับ 2.7535 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.7393 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ สินเชื่อหมุนเวียน ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิต เพิ่มขึ้นแตะ 8.576 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 4.7% ต่อปี จาก 8.542 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ส่วนสินเชื่อไม่หมุนเวียน ซึ่งรวมถึงสินเชื่อรถยนต์และเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพิ่มขึ้น 6.9% แตะ 1.8958 ล้านล้านดอลลาร์

เศรษฐกิจสหรัฐ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 7.9%

เศรษฐกิจยุโรป นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีจะประกาศลาออกภายในสิ้นปีนี้ โดยจะลาออกจากตำแหน่งทันทีที่งบประมาณปี 2013 ได้รับการอนุมัติ และอาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่าใครจะนำพาอิตาลีให้หลุดพ้นจากวิกฤติหนี้ อย่างไรก็ตาม นายมอนติพยายามที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่า อิตาลีจะไม่ถูกปล่อยให้ดำเนินไปอย่างไร้ทิศทางหลังการตัดสินใจของเขาที่จะลาออกจากตำแหน่ง

เศรษฐกิจยุโรป ธนาคารกลางเยอรมนี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2555 ลงสู่ระดับ 0.7% จากเดิมที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 1.0% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2556 จะขยายตัวเพียง 0.4% จากเดิมที่ 1.6% ทั้งนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยของบางประเทศในยูโรโซน รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเตือนว่ายังมีความไม่แน่นอนสูง และการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะยังคงแข็งแกร่ง และช่วงการเติบโตที่อ่อนแรงจะเป็นไปในช่วงสั้นๆ หากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นและยูโรโซนยังคงเดินหน้าปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง

เศรษฐกิจจีน ยอดการส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ย. จากระดับปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าทรงตัวเมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว โดยยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศลดลงแตะ 1.96 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว จากระดับ 3.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของประเทศ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อได้ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือนที่ 1.7% ในเดือนตุลาคมเนื่องจากราคาอาหารปรับตัวขึ้น สำหรับการเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีซีพีไอจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน

เศรษฐกิจญี่ปุ่น ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นหดตัวลงในไตรมาสสุดม้ายของปี 2555 เนื่องจากการผลิตและการส่งออกที่อ่อนตัวลง ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทด้านดินแดนกับจีน โดยดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับติดลบ 5.5 จากระดับ 2.2 ในไตรมาสที่แล้ว และยังเป็นสถิติที่ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส

ราคาทองคำ จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงเป็นจำนวน 47,478 กิโลกรัมในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลดลง 32% จากจำนวน 69,712 กิโลกรัมในเดือนก.ย. และลดลง 45% จาก 86,314 กิโลกรัมในช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่ฮ่องกงนำเข้าทองคำจากจีนในปริมาณ 22,536 กิโลกรัมในเดือนต.ค. ลดลงจาก 23,270 กิโลกรัมในเดือนก.ย.

[ginger 11,058]

Night Trade Report

- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

- ติดตามการประชุมเฟดวันนี้และวันพรุ่งนี้

- แนวต้านของราคาทองคำ 1,715-1,720 ดอลลาร์

 ในการซื้อขายวันศุกร์ ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านทางเทคนิคระหว่าง 1,680-1,700 ดอลลาร์ โดยราคาดีดตัวขึ้นพรอ้มกับการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เริ่มมีกลับเข้ามา หลังจากราคาทองปรับตัวลงมามากติดต่อกันหลายวัน เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินซึ่งปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ทรงตัวจากวันพฤหัส โดยแกว่งตัวระหว่าง 32.50-33.30 ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ราคาทองคำและราคาโลหะเงินยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

 การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.สูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ขณะที่อัตราว่างงานร่วงลงสู่ 7.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2008 โดยตลาดประเมินว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 7.9% นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย.และต.ค. โดยปรับลดลง 49,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้

 การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้และพรุ่งนี้เป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ โครงการ Operation Twist ที่กำลังจะหมดอายุและมีแนวโน้มว่าจะไม่มีการต่ออายุหรือมีมาตรการใหม่ทดแทน โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจรอดูการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังก่อน หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ก็จะมีการพิจารณาเพิ่มปริมาณเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมครั้งหน้า แต่หากมีการออกมาตรการใหม่ในการประชุมครั้งนี้จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อไป

 ราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่บริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ทำให้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่คาดนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้คาดระยะสั้นราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ 1,700-1,720 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,715-1,720 ดอลลาร์และ 1,730 ดอลลาร์ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,700-1,705 ดอลลาร์

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55

Close chg. Support Resistance

24,830 +60 24,700/24,600 24,850/25,000

ราคาทองมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway up โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันอังคารและวันพุธ ซึ่งนักลงทุนบางส่วนมีความหวังว่าจะธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศซื้อหลักทรัพย์เพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน คาดว่าอาจมีการอ่อนตัวลงในระหว่างวัน จุดที่แนะนำให้เปิดสถานะซื้อเก็งกำไรอยู่ที่ 1,700 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,695 ดอลลาร์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55

Close chg. Support Resistance

1,013 +7 1,000/980/975 1,015-1,020

การเข้าเก็งกำไรฝั่งซื้อในซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส แนะนำให้ราคาโลหะเงินปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 32.50 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 32.10-32.20 ดอลลาร์

[ginger 11,058]

กลยุทธ์การลงทุนในทองคำ

• นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน)

หลังซื้อแล้วให้ทยอยขายออกที่แนวต้าน $1,723/Oz หรือหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า $1,700/Oz

• นักลงทุนระยะกลาง-ยาว

หลังซื้อไปแล้วให้ขายหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า $1,700/Oz

ภาพรวมตลาดวานนี้

ภาพรวมตลาดวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวขึ้น $7.60/Oz หรือ 0.45% มาอยู่ที่ $1,711.40/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,702.40-1,717.20) วานนี้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นมาได้จากแรงหนุนของผลผลิตอุตสาหกรรมจีนที่ออกมา 10.1% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 9.8% แต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากนายกอิตาลีที่เตรียมลาออกจากตำแหน่งหลังการผ่านร่างงบประมาณปี 2013 เสร็จโดยคาดว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือน ก.พ. ปี 2013 ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอิตาลีอาจมีปัญหาทางการเงินอีกครั้ง

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ในวันนี้หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $1,703/Oz ได้ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยระหว่างวันจะมีประกาศดัชนีภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งจะมีผลต่อราคาทองคำในช่วง 17.00 น. มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,694-1,723/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

• การจ้างงานนอกภาคเกษตรฝรั่งเศส(QoQ) เวลา 13.30 น.

• ดัชนีภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี เวลา 17.00 น.

• ยอดดุลการค้าสหรัฐ เวลา 20.30 น.

ปัจจัยบวก

• หุ้นยุโรปปิดบวกแม้วิตกการเมืองอิตาลีถ่วงตลาด

• ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดลบหลังอากาศอบอุ่น,สต็อกเพิ่ม

• ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน

ปัจจัยลบ

• สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด 146,000 ตำแหน่ง ว่างงานต่ำสุด 4 ปี

• ดาวโจนส์ปิดบวก 0.1% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

กลยุทธ์การลงทุนในโลหะเงิน

• นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน)

ทยอยเข้าซื้อหากราคายืนเหนือแนวรับที่ $33.00/Oz ได้อย่างแข็งแกร่ง

• นักลงทุนระยะกลาง-ยาว

ยังให้รอดูทิศทางราคาก่อนทำการลงทุนเพิ่มเติม

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

Silver– ราคาโลหะเงินปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น $/0.16Oz หรือ 0.48% มาอยู่ที่ $33.21/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $33.02-33.42/Oz) ราคาโลหะเงินปรับตัวกลับขึ้นมาได้จากแรงหนุนในผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนที่ออกมาปรับตัวดีกว่าที่ตลาดไว้ที่ 10.1% แต่ยังได้รับปัจจัยกดดันตามเงินยูโรที่นายกอิตาลีประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากผ่านร่างงบประมาณปี 2013 เสร็จสิ้นทำให้นักลงทุนกลับมากังวลอีกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน

แนวโน้มตลาดวันนิ้

Silver – ในวันนี้หากราคาโลหะเงินยังสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $33.00/Oz ได้ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยระหว่างวันจะมีประกาศดัชนีภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งจะมีผลต่อราคาโลหะเงินในช่วง 17.00 น. มองกรอบราคาโลหะเงินในวันนี้ที่ $32.80-33.75/Oz

Arbitrage ทองคำแท่ง-Gold futures

ทองคำแท่ง-ซื้อ(Long)ทองคำแท่งที่ราคา 24,705 จำนวน 50 บาท (ณ เวลา 15.00 7/12/55)

Gold Futures-ขาย(Short) GFG 13 1 สัญญาที่ราคา 25,050 บาท (ณ เวลา 15.00 7/12/55)

ปัจจัยบวก

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดลบหลังอากาศอบอุ่น,สต็อกเพิ่ม

(+)ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดปรับตัวลงในวันจันทร์ขณะที่ถูกกดดันจากสภาพอากาศที่อบอุ่นและสต็อกน้ำมันในประเทศที่แข็งแกร่งโดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้จากแรงหนุนของข้อมูลเศรษฐกิจจีนทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 37 เซนต์ หรือ0.43% สู่ระดับ 85.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปรับตัวในช่วง 85.33-86.78 ดอลลาร์ (อ้างอิงจาก รอยเตอร์)

หุ้นยุโรปปิดบวกแม้วิตกการเมืองอิตาลีถ่วงตลาด

(+)ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นบลูชิพในตลาดหุ้นฝรั่งเศส, เยอรมนีและอังกฤษ ขณะที่ความปั่นป่วนทางการเมืองในอิตาลีสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนหลังนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีประกาศว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งหลังจากงบประมาณปี 2013 ได้รับการอนุมัติ ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 13.12 จุด หรือ 0.17%สู่ 7,530.92 หลังจากปรับตัวในช่วง 7,457.40-7,536.60ดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดเพิ่มขึ้น 6.49 จุด หรือ 0.18%สู่ 3,612.10 หลังจากปรับตัวในช่วง 3,575.53-3,614.46ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดปรับตัวขึ้น1.84 จุด หรือ 0.16% สู่ 1,134.53 หลังจากปรับตัวในช่วง 1,126.05-1,134.83(อ้างอิงจาก รอยเตอร์)

ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน

(+)ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันในวันจันทร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีพยายามที่จะคลายความวิตกเกี่ยวกับ แนวโน้มของอิตาลี แต่ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซนจะยังคงกดดันยูโรต่อไป ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 82.370 เยน เทียบกับระดับวันศุกร์ที่ 82.460 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2940 ดอลลาร์และ 106.58 เยน เทียบกับระดับวันศุกร์ที่ 1.2924 ดอลลาร์และ 106.60 เยน (อ้างอิงจาก รอยเตอร์)

ปัจจัยลบ

ดาวโจนส์ปิดบวก 0.1% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

(-)ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา และบริษัทแมคโดนัลด์เปิดเผยยอดขายรายเดือนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 14.75 จุดหรือ 0.11% สู่13,169.88, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.48 จุด หรือ 0.03% สู่ 1,418.55และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 8.92 จุด หรือ 0.30% สู่ 2,986.96 (อ้างอิงจาก รอยเตอร์)

สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด 146,000 ตำแหน่ง ว่างงานต่ำสุด 4 ปี

(-)กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 93,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.รัฐบาลระบุว่าพายุเฮอริเคนแซนดีไม่ได้มีผลกระทบมากนักต่อการจ้างงานในเดือนพ.ย. การจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.หลังจากเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนภาครัฐปรับลดการจ้างงาน1,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานร่วงลงแตะระดับ 7.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 7.9%(อ้างอิงจาก รอยเตอร์)

[wann 334]

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ

[ginger 11,058]

MTS

 

[luck 512]

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ ginger news chez bas+trader bmw ต่ายทอง ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด fung wann put และทุกๆคนค่ะ

โชคดี สุขกาย สบายใจ มีกำไรค่ะ

 

คุณบาส+คุณเอ๋ น้องบีมโตขึ้นมาก น่ารักๆๆๆ เห็นแล้วทำให้ยิ้มได้ สบายใจ

[ginger 11,058]

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ

ดีจ้า wannn Morning Talk

 

[ginger 11,058]

น้ำมัน WTI บวก 7 เซนต์ ตลาดจับตารายงานสต็อกน้ำมันสหรัฐ,ประชุมโอเปค

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 10:13:12 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนม.ค.ขยับขึ้น 7 เซนต์ แตะที่ 85.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันพุธนี้ ส่วนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. ร่วงลง 2.36 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 371.77 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ที่กรุงเวียนนา และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารที่ 11 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าโอเปคจะตรึงเป้าหมายการผลิตเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

 

 

 

 

China Today:ข่าวธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจีนประจำวันที่ 11 ธ.ค. 2555

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 10:28:00 น.

ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า จีนได้นำเข้าน้ำมันปรุงอาหารในปริมาณ 920,000 ตันในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 37% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณน้ำมันปรุงอาหารที่จีนนำเข้ามาทั้งหมดเท่ากับ 7.33 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

-- นอกจากนี้ จีนนำเข้าถั่วเหลือง 4.16 ล้านตัน ในเดือนพ.ย. ลดลง 27% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 3.2% จากในเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์จีนประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.09 ล้านตัน และในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ จีนได้นำเข้าถั่วเหลืองทั้งหมดเป็นจำนวน 52.49 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

 

โอเปกเผยราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 09:28:03 น.

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยวานนี้ว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ของโอเปก ปรับตัวลงแตะ 106.74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับ 107.92 ดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า

การปรับตัวลงดังกล่าวนับเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเชิงลบของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจากยูโรโซนก็เพิ่มแรงกดดันช่วงขาลงต่อราคาน้ำมันด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าโอเปกจะคงเพดานการผลิตไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่โอเปกหลายรายได้แสดงความพอใจกับการผลิตน้ำมันในปัจจุบัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

 

ออสเตรเลียเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ย.ร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 09:42:25 น.

เนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ที่ -9 ในเดือนพ.ย. จากระดับ -1 ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทเอกชนที่ได้รับการสำรวจกว่า 600 แห่งมีมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจมากกว่ามุมมองบวก

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังบ่งชี้ว่า สภาวะในการทำธุรกิจของภาคเอกชนออสเตรเลียยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ -5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้

NAB เปิดเผยในรายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจในภาคส่วนต่างๆไม่ได้ฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคการผลิตร่วงลงหนักสุด

"การร่วงลงของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจนั้น ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคธุรกิจมีความวิตกกังวลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในปัจจุบัน นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลียด้วย" NAB กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/

 

[ginger 11,058]

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ ginger news chez bas+trader bmw ต่ายทอง ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด fung wann put และทุกๆคนค่ะ

โชคดี สุขกาย สบายใจ มีกำไรค่ะ

 

คุณบาส+คุณเอ๋ น้องบีมโตขึ้นมาก น่ารักๆๆๆ เห็นแล้วทำให้ยิ้มได้ สบายใจ

 

ให้ชื่อว่า"ขอเป็ดMKให้นู๋บ้างสิคะ"

ปล2.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนทุกท่านนะคะ

นู๋บีมน่ารัก ชื่นใจ รักๆนะคะ

 

Get Set

 

 

[ginger 11,058]

YLG