ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

http://www.gtgoldonline.com/files/2012-09-25_GT%20Gold%20Bullion%2025%20Sep%2012.pdf

image-C8B2_50611B37.jpg

image-246E_50611B37.jpg

image-E6BA_50611B37.jpg

image-F540_50611B37.jpg

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce ไม่หรอก น้องบีมน่ารัก แม่เอ๋น่าฟัด ขนาดนั้นพ่อบาสรักครอบครัว :21

 

http://www.gtwm.co.t...012%20night.pdf

image-4021_50604C00.jpg

ดี nce

 

snapback.pngTrader Junior, เมื่อ 24 กันยายน 2012 - 14:00, พูดว่า:

 

สวัสดีคะเพื่อนๆทุกท่านวันนี้เอ๋กลับมาทำหน้าที่เดิมหลังจากปล่อยให้สามีต้องรับหน้าที่ไป2วันเพราะเอ๋ลาพักผ่อน :01 พอดีที่มาช้าเพราะสามีพึ่งส่ง่กราฟมาให้2กราฟส่งมาช้าอย่างนี้สงสัยแอบไปจีบสาวที่ไหนป่าวน้า :17 :bye

เอ๋ บาสเค้าปั่นกราฟก็แย่แล้วไหนยังต้องรีบกลับบ้าไปหาสองสาวในดวงใจอีก

 

422762_417996274929593_1052774233_n.jpg

สวัสดี คุณๆ พ่อแม่พี่น้อง มือใหม่ เพื่อนๆทุกคน

 

เช้าวันใหม่กับความพร้อมที่จะสนุกไปกับเรื่องราวต่างๆ อย่างผู้คนที่ใจสู้

 

รัก การผจญภัย ได้สัมผัสธรรมชาติ

ทำให้ใจเข้มแข็งกล้าหาญและมีทักษะของนักสู้ที่รู้จักเลี่ยงให้พ้นจุดอันตราย

ดุจการขับเขี้ยวที่สร้างกำลังและพลังที่จะฝาใฟันอุปสรรค์

 

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 07:27:53 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าเยอรมนีและฝรั่งเศสมีความคิดเห็นที่ขัดแยังกันเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าควรจะอนุมัติให้มีการใช้ระบบสหภาพการธนาคารในยูโรโซนเมื่อใด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า กลุ่มผู้ผลิตของจีนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจน้อยลง

emnb_1_370236.gif

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 274.70 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3497.22 จุด ลบ 33.50 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7413.16 จุด ลบ 38.46 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5838.84 จุด ลบ 13.78 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะที่มีต่อเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจหดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 20.55 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 13,558.92 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.26 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 1,456.89 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 19.18 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 3,160.78 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 1,764.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 33.984 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 65.40 เซนต์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,622.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 645.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 26.05 ดอลลาร์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจหดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 96 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 91.06 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 108.78 ดอลลาร์

 

-- ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจอ่อนแอลง นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่สเปนยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดยูโรร่วงลงด้วย

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.42% แตะที่ 1.2924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนแรงลง 0.06% แตะที่ 1.6217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6227 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.840 เยน จากระดับ 78.140 เยน และดีดตัวขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9365 ฟรังค์ จากระดับ 0.9328 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.43% แตะที่ 1.0412 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0457 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.99% แตะที่ 0.8205 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8287 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจหดตัวลง ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวิกฤตหนี้ยุโรปที่มีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 13.78 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 5,838.84 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,806.09-5,852.62 จุด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $13.4 เหตุวิตกหนี้ยุโรป,ดอลล์แข็งค่า

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 06:49:53 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 1,764.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 33.984 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 65.40 เซนต์

emnb_1_370236.gif

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,622.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 645.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 26.05 ดอลลาร์

สัญญาทองคำร่วงลง 0.75% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ดีดตัวขึ้นโดยรวม 0.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในยุโรป โดยเฉพาะความกังวลที่ว่าสเปนอาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงิน

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

อย่าไงรก็ตาม นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ (BofA Merrill Lynch) คาดว่าราคาทองจะแตะระดับ 2,400 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปี 2557 อันเป็นผลจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ หรือ QE3 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง หลังความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีหดตัว

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 07:24:36 น.

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจอ่อนแอลง นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่สเปนยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดยูโรร่วงลงด้วย

emnb_1_370236.gif

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.42% แตะที่ 1.2924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนแรงลง 0.06% แตะที่ 1.6217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6227 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.840 เยน จากระดับ 78.140 เยน และดีดตัวขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9365 ฟรังค์ จากระดับ 0.9328 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.43% แตะที่ 1.0412 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0457 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.99% แตะที่ 0.8205 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8287 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนก.ย.ลดลงแตะ 101.4 จาก 102.3 ในเดือนส.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่อ่อนแรงในเดือนก.ย.ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีมีแนวโน้มจะอยู่ในภาวะย่ำแย่ต่อไปในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือสเปน โดยมีรายงานว่านายลูอิส เดอ กวินดอส รัฐมนตรีเศรษฐกิจสเปนได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรปในเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของสเปน ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันที่ 27 ก.ย. นี้ โดยคณะกรรมาธิการกำหนดให้สเปนต้องบรรลุเงื่อนไขต่างๆก่อนตัดสินใจให้ความช่วยเหลือ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยสถาบัน GfK จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือนต.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลสำรวจภาคธุรกิจเดือนก.ย. และอิตาลีจะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้เช่นกัน โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: วิตกศก.จีน,เยอรมนีชะลอตัว ฉุดน้ำมัน WTI ปิดลบ 96 เซนต์

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 07:11:38 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจหดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 96 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 91.06 ดอลลาร์

emnb_1_370236.gif

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 108.78 ดอลลาร์

นักลงทุนวิตกกังวลว่าสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจอย่างเยอรมนีและจีนนั้น จะส่งผลให้อุปสงค์พลังงานหดตัวลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนก.ย.ลดลงแตะ 101.4 จาก 102.3 ในเดือนส.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่อ่อนแรงในเดือนก.ย.ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีมีแนวโน้มจะอยู่ในภาวะย่ำแย่ต่อไปในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% เนื่องจากเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ชะลอตัวลง รวมทั้งวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ และการฟื้นตัวที่ล่าช้าเกินคาดของเศรษฐกิจสหรัฐ

ขณะที่ CBB International ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่ตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์กระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มผู้ค้าปลีกของจีนมีมุมมองที่เป็นบวกน้อยลงเกี่ยวกับยอดขาย และยังวางแผนที่จะปรับลดการจ้างงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิต การค้า และยอดค้าปลีกของจีนชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 950,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 540,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

S&P ลดคาดการณ์ GDP จีนปีนี้เหลือ 7.5% จากวิกฤตหนี้ยุโรป,ศก.สหรัฐชะลอตัว

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 24 กันยายน 2555 22:10:00 น.

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% เนื่องจากเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ชะลอตัวลง รวมทั้งวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ และการฟื้นตัวที่ล่าช้าเกินคาดของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ เอสแอนด์พีระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆในเอเชียที่ต้องพึ่งพาการส่งออก รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

emnb_1_370236.gif

นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศในเอเชียแปซิฟิกในปี 2555 ได้แก่ ปรับลดจีดีพีอินเดียลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5% ปรับลดจีดีพีญี่ปุ่นลงสู่ระดับ 2.0% ปรับลดจีดีพีเกาหลีใต้ลงสู่ระดับ 2.5% และปรับลดจีดีพีสิงคโปร์ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.1% อีกทั้งยังได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีฮ่องกงลงสู่ระดับ 1.8% จากเดิม 2.8%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของเอสแอนด์พีกล่าวว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลให้ประเทศเอเชียแปซิฟิกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้การค้าและเงินทุนหมุนเวียนตกอยู่ในภาวะเปราะบาง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

 

(อิอิ) เล่นมุกให้ขำขำคะพี่ขิงพี่ต่ายทอง :uu หากตอบช้าไม่ว่ากันนะคะปั่นงานอยู่ด้วยคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 45 เซนต์เช้านี้ ขณะตลาดจับตารายงานสต็อกน้ำมัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 10:54:51 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้น 45 เซนต์ แตะที่ 92.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียเมื่อเวลา 09.51 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากที่สัญญาร่วงลงเป็นเวลา 5 วันในช่วง 6 วันทำการที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 950,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 540,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯเผยรัฐบาลโปรตุเกสเล็งขึ้นภาษีเงินได้แทนการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 13:45:00 น.

นายกรัฐมนตรีเปโดร ปาสซอส โคเอลโญของโปรตุเกส กล่าววานนี้ว่ารัฐบาลกำลังเตรียมการสำหรับการปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แทนการเพิ่มสัดส่วนการจ่ายเงินสมทบสวัสดิการสังคมที่เขาได้ประกาศไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งได้จุดปะทุให้เกิการประท้วงไปทั่วประเทศ

นายปาสซอส โคเอลโญกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมกับผู้แทนภาคธุรกิจและผู้นำสหภาพเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า คณะรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเพิ่มภาษีเงินได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบแรงงานทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชน โดยการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะไม่เพียงแต่มีผลบังคับใช้กับค่าจ้าง แต่ยังรวมถึงเงินทุนและอสังหาริมทรัพย์ด้วย

นายปาสซอส โคเอลโญได้ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่เมื่อวันที่ 7 ก.ย.เพื่อบรรลุเป้าการลดยอดขาดดุลเพื่อรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และ มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศ โดยมีการประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงลิสบอน

ทั้งนี้ รัฐบาลโปรตุเกสได้เห็นพ้องกันที่จะใช้วิธีการอื่นแทนการปรับเพิ่มสัดส่วนการจ่ายเงินสมทบสวัสดิการสังคม หลังการประชุมสภาแห่งรัฐเป็นเวลา 8 ชั่วโมงที่สิ้นสุดลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เมื่อปีที่แล้ว โปรตุเกสได้ตกลงเกี่ยวกับแผนความช่วยเหลือวงเงิน 7.8 หมื่นล้านยูโร (ราว 1 แสนล้านดอลลาร์) ที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป (อียู), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และโปรตุเกสต้องลดยอดขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากเดิมที่ 4.5%ในปีนี้ โดยโปรตุเกสกำลังประสบปัญหาในการบรรลุเป้าดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

รมว.คลังญี่ปุ่นเผยพร้อมสกัดเงินเยนแข็งค่าแม้รัฐบาลเตรียมปรับครม.

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 12:01:35 น.

นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น ซึ่งใกล้จะพ้นจากตำแหน่งกล่าวว่า ตนเองยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนจวบจนนาทีสุดท้าย

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าว ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐร่วงมาอยู่ที่ระดับ 77 เยน จากระดับ 79 เยน ภายหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีผู้คาดการณ์บางส่วนที่คิดว่า อาจจะเกิดช่วงสูญญากาศในช่วงที่นายอามิจะออกจากตำแหน่ง แต่เขายืนยันว่าจะทำหน้าที่จนจบวาระการทำงาน

ทั้งนี้ นายอาซูมิจะดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการพรรคเดโมเครติค พาร์ตี ออฟ เจแปน ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรีที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้

นายอาซูมิกล่าวด้วยว่า การดำเนินการของธนาคารกลางญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมทันท่วงที และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว แต่ก็ได้แสดงความกังวลที่ว่า อาจจะกิดการเก็งกำไรขึ้นในตลาดเงินได้ระยะใกล้นี้

ในขณะที่การประชุม G7 จะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้าที่กรุงโตเกียวนั้น นายอาซูมิกล่าวว่า ตนเองตั้งเป้าที่จะสรุประยะเวลาการประชุมและเตรียมข้อมูลรายละเอียด เพื่อที่ญี่ปุ่นจะได้สามารถทำหน้าที่ประเทศเจ้าภาพได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าใครจะเข้ามารับตำแหน่งก็ตาม

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

รัฐมนตรีว่าการฯ ร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ สมัยที่ ๖๗

 

ข่าวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 11:41:07 น.

กรุงเทพ--25 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ

 

เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในโอกาสติดตามนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ (United Nations General Assembly — UNGA) สมัยที่ ๖๗ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

๑. ภาพรวม

๑.๑ การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เป็นเวทีการทูตพหุภาคีที่มีความสำคัญที่สุดของโลก มีผู้นำและบุคคลสำคัญจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมกว่า ๑๙๓ ประเทศ และในปีนี้เป็นเรื่องที่ปลื้มปิติที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ได้ทรงมีพระดำรัสในที่ประชุม High-Level Meeting on the Rule of Law at the National and International Levels ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมดังกล่าว และทรงเป็นผู้กล่าวถ้อยแถลงในนามของอาเซียนด้วย

๑.๒ การเดินทางมานครนิวยอร์กของนายกรัฐมนตรีและคณะในครั้งนี้มีเป้าประสงค์หลัก ๒ ประการ คือ ๑) การชูบทบาทไทยในเวทีสหประชาชาติ และ ๒) การสร้างความเชื่อมั่นของไทยในด้านต่าง ๆ โดยในกรอบสหประชาชาติ ไทยจะได้มีโอกาสแสดงท่าทีในประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญ ๆ ต่างๆ อาทิ เรื่องซีเรีย ปาเลสไตน์ กิจกรรมรักษาสันติภาพ ตลอดจนชูบทบาทของไทยในภูมิภาค โดยเฉพาะในบริบทของอาเซียน และเรื่องการเชื่อมโยง และนโยบายของไทยในการพัฒนาโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในขณะเดียวกันก็พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ของไทย อาทิ โครงการที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า และการพัฒนาเด็กและสตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่สหประชาชาติชื่นชมไทย และได้หยิบยกความสำเร็จของไทยเป็นตัวอย่างในหลายเวที ทั้งความสำเร็จของโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค และกองทุนพัฒนาสตรี ซึ่งในครั้งนี้ เลขาธิการสหประชาชาติได้เชิญนายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในโครงการ Every Woman Every Child ด้วย

๑.๓ สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย นอกจากนายกรัฐมนตรีจะได้กล่าวถ้อยแถลงในเวทีสหประชาชาติถึงพัฒนาการของไทยหลังจากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดพบปะกับภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ อาทิ ร่วมเปิดการสัมมนา Thailand: Positioning for Growth and Stability ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง การหารือกับสมาชิก USABC และ USCC ในเวที Executive Luncheon Meeting ซึ่งจัดโดย BOI และการเปิดงาน Thai Restaurant Week ซึ่งจัดโดยกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ให้แก่ Asia Society

๑.๔ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังจะใช้โอกาสในการเข้าร่วมประชุม กระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับ ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ประธานคณะมนตรียุโรป ประธานสมัชชา UNGA และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเออี

๑.๕ สำหรับภารกิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่นอกเหนือจากร่วมบางกิจกรรมกับนายกรัฐมนตรีแล้ว รัฐมนตรีว่าการฯ ยังมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในกรอบสหประชาชาติ อาทิ การประชุมของ UN Democracy Caucus การประกลุ่มเพื่อนเลขาธิการสหประชาชาติในเรื่องเมียนมาร์ รวมทั้งการประชุมอื่นภายใต้กรอบอาเซียน ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (Informal ASEAN Ministerial Meeting) การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับสหรัฐฯ การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับกลุ่มความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC) รวมถึงการหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับเลขาธิการสหประชาชาติและประธานสมัชชา UNGA นอกจากนี้ ยังจะเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมืออื่น อาทิ กรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) และกรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC)

อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดหารือทวิภาคีกับประเทศต่าง ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ เช่น ปานามา เบลเยี่ยม โคลัมเบีย บาห์เรน เอสโตเนีย อิรัก ฟิลิปปินส์ ปาเลสไตน์ และองค์กร เช่น American Jewish Committee

๒. ภารกิจของนายกรัฐมนตรีว่าการในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕

๒.๑ ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันแรกที่ปฏิบัติภารกิจที่นครนิวยอร์ก รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมโรงเรียนในย่าน Harlem Children Zone ตามข้อเสนอของ UNICEF ซึ่งเป็นการศึกษาดูงานการพัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กผู้ด้อยโอกาส เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนางานที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนไทย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปมอบนโยบายให้แก่ผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์ให้ช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนของไทยในต่างประเทศและเชิญชวนให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยให้มากยิ่งขึ้น พร้อมนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดงาน Thai Restaurant Week ซึ่งจัดโดยกระทรวงพาณิชย์เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น

๒.๒ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้หารือทวิภาคีกับนายโรมูโล รูซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐปานามา ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ ๓๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับปานามา โดยไทยเห็นว่าปานามามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการเป็นประตู สู่ทวีปอเมริกา และเล็งเห็นศักยภาพของปานามาในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมให้ปานามาใช้ไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียน อีกทั้ง ควรส่งเสริมการเยือนของภาคธุรกิจระหว่างกัน

๒.๓ สำหรับการหารือกับนาย ดิดิเยร์ เรนเดอร์ส รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การค้าต่างประเทศและกิจการยุโรปของเบลเยียม ทั้งสองฝ่ายพอใจกับความสัมพันธ์ที่มีความใกล้ชิดในทุกระดับ ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะการเสด็จฯ เยือนไทยของเจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียมซึ่งจะทรงนำคณะนักธุรกิจมาศึกษาลู่ทางการขยายการค้าการลงทุน ตลอดจนได้หารือกันถึงความเป็นไปได้ในการเยือนเบลเยียมอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ในปี ๒๕๕๖ นอกจากนี้ ไทยยังได้ขอให้ฝ่ายเบลเยี่ยมพิจารณาการขอยกเว้นการตรวจลงตราเข้าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในเขตเชงเก็นสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทยด้วย

 

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แบงก์ชาติเกาหลีใต้พัฒนาโมเดลประเมินความเสี่ยงเชิงระบบครั้งแรกในเอเชีย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กันยายน 2555 15:07:30 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางได้พัฒนาแบบจำลองการประเมินความเสี่ยงเชิงระบบของประเทศเป็นครั้งแรกในกลุ่มธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีขึ้นในด้านการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน หลังจากที่มีการพิจารณาทบทวนการดำเนินงานของธนาคารกลางเกาหลีใต้เมื่อปลายปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า แบบจำลองดังกล่าวเรียกว่า "Systemic risk Assessment model for Macro-prudential Policy (SAMP)" จะทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงระบบ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค, ผลกำไรและขาดทุนในภาคการธนาคาร และการขาดดทุนจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้านการเงินระดับมหภาค

นอกจากนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า แบบจำลอง SAMP มีข้อได้เปรียบในการประเมินความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง และการประเมินผลในช่วงเวลาที่หลากหลายเมื่อเทียบกับแบบจำลองที่ได้รับการพัฒนาโดยธนาคารกลางอังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บัีนได7ขั้นสู่ความสำเร็จในการลงทุน

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(อิอิ) เล่นมุกให้ขำขำคะพี่ขิงพี่ต่ายทอง :uu หากตอบช้าไม่ว่ากันนะคะปั่นงานอยู่ด้วยคะ

:57

 

 

http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail3550_AfternoonUpdate-25-9-12.pdf

image-00BD_50615A93.jpg

image-8936_50615A93.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...