ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

รมว.คลังสหรัฐเตรียมหารือแกนนำสภาคองเกรสหลังโอบามาเจรจาภาคเอกชน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 13:27:56 น.

นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ ได้เดินทางมาถึงยังกรุงวอชิงตัน เพื่อประชุมร่วมกับแกนนำสภาคองเกรสทั้ง 4 ราย หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนหลายแห่ง เพื่อขอเสียงสนับสนุนในนโยบายและแนวทางการดำเนินการ เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐต้องตกอยู่ในภาวะหน้าผาทางการคลังหรือ fiscal cliff ซึ่งอาจจะทำให้สหรัฐต้องลดงบประมาณการใช้จ่ายและขึ้นภาษีในวันที่ 1 มกราคม 2556emnb_1_370236.gif

ก่อนหน้านี้ ผู้แทนของบริษัทเอกชนของสหรัฐจำนวนหนึ่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลหาทางเพื่อให้บรรลุกข้อตกลงกันให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการลดยอดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีอันเนื่องมาจากภาวะหน้าผาทางการคลัง

ซีอีโอหลายคนที่ได้พูดคุยกับโอบามาเปิดเผยว่า พวกเขาจะสนับสนุนการขึ้นภาษีผู้ที่มีรายได้สูง รวมทั้งของตนเอง หากว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการใช้จ่าย

โจ เอชวาเรีย ซีอีโอของดีลอยท์ แอลแอลพี กล่าวภายหลังจากที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพื่อพูดคุยกับโอบามาและที่ปรึกษาที่ทำเนียบขาวว่า การประชุมเป็นที่น่าพอใจ และเชื่อว่า ทุกฝ่ายจะตระหนักได้ถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการให้ลุล่วง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

 

ผลสำรวจชี้ชาวอเมริกันมีมุมมองบวกมากขึ้นในการหางานทำที่ดีกว่าเดิม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 13:50:53 น.

ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัพ โพลล์เผยว่า คนอเมริกันมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการได้งานทำที่ดีขึ้นมากกว่าช่วงเวลาใดนับตั้งแต่ยุคหลังวิกฤตทางเศรษฐกิจ

โพลล์ชี้ว่า ขณะนี้ชาวอเมริกัน 24% มีมุมมองในเชิงบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน โดยมีเพียง 8% ที่ยังคงมีความเชื่อเหมือนในปีก่อนหน้า และ 73% ของผู้ตอบแบบสำรวจมีความเห็นว่าในปัจจุบันยังคงเป็นช่วงเวลาที่หางานดีๆได้ยากemnb_1_370236.gif

ชาวอเมริกันไม่ได้มีทัศนคติที่ดีเช่นนี้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เริ่มขึ้นก่อนจะเกิดวิกฤตการเงิน โดยผลสำรวจในเดือนมี.ค. 2551 พบว่าชาวอเมริกัน 26% ระบุว่าเป็นช่วงเวลาเอื้อต่อการหางานที่ดี

ไลมารี โมราเลส นักวิเคราะห์จาก แกลลัพ โพลล์ ระบุว่าสาเหตุที่คนอเมริกันเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจไปในทางที่ดีขึ้น และอัตราการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น

มุมมองเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่ดีขึ้นของชาวอเมริกันมีขึ้นพร้อมกับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ตามการสำรวจของแกลลัพเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการสร้างงาน ซึ่งต่างก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การอภิปรายเรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาล จะยังคงส่งผลกระทบต่อมุมมองทางเศรษฐกิจและบรรยากาศการจ้างงาน

โมราเลสกล่าวเสริมว่า ถึงการอภิปรายดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบรรยากาศการจ้างงาน แต่ภาวะชะงักงันและความไม่ลงรอยกันในสหรัฐก่อนหน้านี้ ได้กระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจกลายจะเป็นปัจจัยลบต่อทัศนคติของชาวอเมริกันเกี่ยวกับตลาดแรงงาน

ในเดือนม.ค.2550 ชาวอเมริกัน 48% มีความเห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ดีในการหางานที่มีคุณภาพ ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่แกลลัพเริ่มทำการสำรวจในลักษณะนี้ในปี 2544 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ศาลสูงอียิปต์ ประท้วงกฤฎีกาเพิ่มอำนาจตนเองของปธน.มอร์ซี

ข่าวต่างประเทศ RYT9.COM -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 13:34:57 น.

iq565b4ee970e8dafb3e54f77039fa8287.jpg

 

ศาลยุติธรรมสูงสุดของอียิปต์ประกาศจะประท้วงจนกว่าผู้นำอียิปต์จะยกเลิกกฤษฎีกาเพิ่มอำนาจตนเอง ขณะที่ปธน.อียิปต์ยืนยันจะยกเลิกกฤษฎีกา เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบ

วานนี้ (28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ประจำศาลยุติธรรมสูงสุดของอียิปต์ประกาศว่า จะเดินหน้าประท้วงจนกว่าประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ของอียิปต์ จะยกเลิกกฤษฎีกาที่เพิ่มอำนาจให้ตนเองมีอำนาจอยู่เหนือตุลาการของอียิปต์ พร้อมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ผู้นำอียิปต์อ้างว่า ศาลยุติธรรมไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านผู้นำอียิปต์ในกรุงไคโร ยังคงออกมาชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมไปแล้วก็ตามemnb_1_370236.gif

ด้าน ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร ไทม์ส ยืนยันว่าจะยกเลิกกฤษฎีกาให้อำนาจตนเองหากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนแล้ว

"การอยู่บนเวทีโลกเป็นเรื่องยากลำบาก ภารกิจหลักของผมคือการนำรัฐนาวาให้ก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ชาวอียิปต์มีเจตนารมณ์ที่จะเดินไปในแนวทางแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตย หากเรามีรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างที่ผมเคยพูดหรือทำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็จะสิ้นผลบังคับใช้ทันที" ผู้นำอียิปต์ กล่าว

อินโฟเควสท์ โดย ฐณฐ ธาระศัพท์/สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลัง เล็งทบทวนคาดการณ์ GDP ปี 55-56 อีกครั้งช่วงเดือน ธ.ค.นี้

 

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 12:36:48 น.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า สศค.จะประเมินตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 55 อีกครั้งในช่วงเดือนธ.ค.55 ซึ่งล่าสุด สศค.ยังคาดการณ์ว่าในปีนี้ GDP จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 5.5% ส่วนปี 56 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 5.2%emnb_1_370232.gif

อย่างไรก็ดี สำหรับตัวเลขการส่งออกนั้น คาดว่าในปีนี้การส่งออกมีโอกาสเติบโตได้ในระดับ 4.5-5% ซึ่งหากจะให้การส่งออกขยายตัวได้ 4.5% นั้น การส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้(พ.ย.-ธ.ค.55) จะต้องมียอดส่งออกรวมกันราว 40,733 ล้านดอลลาร์ แต่หากจะให้การส่งออกขยายตัวได้ 5% นั้นในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้จะต้องมียอดส่งออกรวมกันราว 41,846 ล้านดอลลาร์

"ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี ทั้ง 4.5 และ 5% เราขอดูสถานการณ์อีกเดือน" นายสมชัย ระบุ

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

 

(เพิ่มเติม) คลัง เล็งทบทวนคาดการณ์ GDP ปี 55-56 อีกครั้งช่วงเดือน ธ.ค.นี้

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 13:51:07 น.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า สศค.จะประเมินตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 55 อีกครั้งในช่วงเดือนธ.ค.55 ซึ่งล่าสุด สศค.ยังคาดการณ์ว่าในปีนี้ GDP จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 5.5% ส่วนปี 56 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 5.2%emnb_1_370232.gif

อย่างไรก็ดี สำหรับตัวเลขการส่งออกนั้น คาดว่าในปีนี้การส่งออกมีโอกาสเติบโตได้ในระดับ 4.5-5% ซึ่งหากจะให้การส่งออกขยายตัวได้ 4.5% นั้น การส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้(พ.ย.-ธ.ค.55) จะต้องมียอดส่งออกรวมกันราว 40,733 ล้านดอลลาร์ แต่หากจะให้การส่งออกขยายตัวได้ 5% นั้นในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้จะต้องมียอดส่งออกรวมกันราว 41,846 ล้านดอลลาร์

"ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี ทั้ง 4.5 และ 5% เราขอดูสถานการณ์อีกเดือน" นายสมชัย ระบุ

ผู้อำนวยการ สศค. มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่าหลายประเทศต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป แต่จะเห็นได้ว่ารัฐบาลของหลายประเทศได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินและนโยบายการคลังเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่หันมาเน้นด้านการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นหากทุกประเทศสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภายในได้ประสบผลสำเร็จก็เชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยและประเทศอื่นๆ ในปีหน้าให้ดีขึ้นได้กว่าปีนี้ โดยคาดว่าการส่งออกของไทยในปี 56 จะขยายตัวได้ราว 10.2%

“มันเป็นการส่งสัญญาณว่า จะหวังให้การส่งออกเป็นตัวจักรขับเคลื่อนหลักคงเป็นไปได้ยาก เพราะแต่ละประเทศต่างกระตุ้นเศรษฐกิจของตัวเองเป็นหลัก เน้นการเติบโตภายในประเทศทั้งด้านบริโภคและการลงทุน แต่หากทุกประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจได้สำเร็จ โดยเฉพาะด้านการลงทุนในประเทศ ก็จะช่วยสนับสนุนการส่งออกของแต่ละประเทศให้ดีขึ้นได้" นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับในประเทศไทยเองนั้นภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค.55 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ในขณะที่การส่งออกและภาคการผลิตอุตสาหกรรมมีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก.ย.55

การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องสะท้อนได้จากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนต.ค. 55 ยังขยายตัวในเกณฑ์ดีอยู่ที่ 19.4% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวเร่งขึ้นมากที่ 263.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเนื่องจากกำลังการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ

สามารถกลับมาผลิตได้เต็มประสิทธิภาพเป็นปกติหลังจากสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยปลายปี 54

ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. 55 ขยายตัว 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาล โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ

นอกจากนี้ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค. 55 กลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้ง โดยขยายตัวในระดับสูงอยู่ที่ 36.1% ส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานต่ำของช่วงเดียวกันของปีก่อนจากวิกฤติอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 54 ขณะที่เมื่อพิจารณาเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาลขยายตัวได้ดีเช่นเดียวกันอยู่ที่ 4.9%

ส่วนในไตรมาส 4/55 คาดว่าจะเติบโตได้ในอัตราสูง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้อุปสงค์ในประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเปรียบเทียบกับฐานทีต่ำในช่วงไตรมาส 4/55 ที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย

“จากข้อมูลเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค. ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงการคลังจะปรับประมาณการเศรษฐกิจ และแถลงประมาณการเศรษฐกิจสำหรับปี 55 และ 56 ในช่วงสิ้นเดือนธ.ค.55 ต่อไป" ผู้อำนวยการ สศค.กล่าว

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนในประเทศขณะนี้ว่า ขณะนี้ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ล่าสุดอยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อโดยรวม ส่วน Net NPL อยู่ที่เพียง 1.2% ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่ต้องน่าเป็นกังวลแต่อย่างใด โดยเชื่อว่าเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่เกิดปัญหาที่มาจากกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย แต่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบจากกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมากกว่า

“เราก็แค่ระมัดระวังกลุ่มคนรายได้ที่ไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน ระวังการใช้จ่ายไม่ให้มีหนี้สินเกินตัว เพราะระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่เคยมีปัญหามาจากคนจน ตอนนี้นี้แบงก์ออมสินมี NPL แค่ 1% กว่าๆ ส่วน ธกส.มีไม่ถึง 3% ตราบใดที่ NPL ธกส.ไม่ใช่ 15% หรือออมสินไม่ใช่ 8% ก็ยังไม่ต้องเป็นห่วง" นายสมชัย กล่าว

พร้อมระบุว่า สศค.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบแบบครบวงจร ซึ่งคาดว่าในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะนำเสนอแนวทางการกำกับดูแลปัญหาหนี้นอกระบบต่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เนื่องจากมองว่าปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนมีความสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการเข้ามาดูแลทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยาวที่อาจมีการออกกฎหมายขึ้นมากำกับดูแล รวมถึงอาจมีการจดทะเบียนกลุ่มหนี้นอกระบบเพื่อให้เข้ามาอยู่ในระบบ ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาให้สะดวกมากขึ้น

นายสมชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2 ล้านล้านบาท คาดว่ากระทรวงการคลังจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในเดือนธ.ค.นี้ และน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงต้นปีหน้า

โดยมองว่าการกู้เงินเพื่อมาใช้สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอาจไม่มีความจำเป็นต้องกู้เต็มจำนวน 2 ล้านล้านบาท เพราะอาจจะมีการให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ประมาณ 10%

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

โฆษกผู้ตรวจการฯยังรอลุ้นศาลปกครองสั่งคดีประมูล 3G คาดได้รับสัปดาห์นี้

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 12:08:44 น.

โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คาดภายในสัปดาห์นี้ศาลปกครองกลางน่าจะมีคำสั่งในคดีที่ได้ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพื่อขอให้ยกเลิกการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz พร้อมทั้งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวชะลอการออกใบอนุญาตฯ

emnb_1_370232.gif

"ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าจากศาลปกครอง...ไม่รู้ท่านจะว่ายังไง คิดว่าน่าจะเป็นบ่ายหรือเย็นวันพรุ่งนี้(30 พ.ย.)"นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ มินเด็น โฆษกศาลปกครองกลาง ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"ว่า ภายในสัปดาห์นี้ศาลปกครองน่าจะมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว

สำหรับคดีนี้ ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นชอบร่วมกันที่จะเสนอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค 1 และวรรค 7 หรือไม่ พร้อมยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยชะลอการออกใบอนุญาตฯ ไว้ก่อน

ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางได้ดำเนินการไต่สวนผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้อง และ กสทช.ในฐานะผู้ถูกร้อง ตลอดจนเรียกเอกชนที่ชนะการประมูลทั้งสามราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวเลส เน็ตเวิร์ค จำกัด, บริษัท ดีแทค เน็ตเวิร์ค จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ไปสอบถามข้อมูลแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยอดการผลิตโตโยต้าในจีนร่วง 61% หลังเกิดข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 14:10:57 น.

ยอดการผลิตรถของโตโยต้าในจีนร่วงลง 61% แตะ 30,591 คัน ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติที่ร่วงลงมากที่สุดในรอบอย่างน้อย 10 ปี หลังจากที่เกิดข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะ

ขณะที่ยอดการผลิตรถของนิสสัน มอเตอร์ ในจีน ร่วงลง 44% ในเดือนเดียวกัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ร่วงลงมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2552 ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตในจีนร่วงลง 54% ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

ปริมาณการผลิตที่ตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ขยายวงจากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะซึ่งลุกลามบานปลายไปสู่การประท้วงเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะคุณ news

:57 สวัสดีมีกำไร :32

http://www.classicgold.co.th/

 

image-65D4_50B7192D.jpg

image-3A5E_50B7192D.jpg

image-AFFA_50B7192D.jpg

image-8E69_50B7192D.jpg

image-4C91_50B7192D.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะทุกคน

ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลข่าวสารและการวิเคราะห์ค่ะ

โชคดีกันทุกคนนะคะ

:Hi

 

http://www.globlexholding.co.th

 

image-A38D_50B71AA2.jpg

image-AD14_50B71AA2.jpg

image-6E57_50B71AA2.jpg

image-8BAC_50B71AA2.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดี bbeem ดีจ้า news bmw2770 ต่าย เด้กสยาม คุณๆ เพื่อนๆ พี่น้อง

 

:Hi

 

http://www.ylgbullion.com

 

image-C970_50B71BB1.jpg

image-DD74_50B71BB1.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

mts.jpg

สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ราคา ทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,741 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,711 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.73 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท และกลับมาปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,864 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,738 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่154 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 13% Silver Futures ลดลง 8% GFZ12 ปิด25,160 บาท และ GFG12 ปิด 25,310บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,170บาท GF10G12 ปิดที่ 25,310บาท SVZ12 ปิดที่1,035บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 25.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,716.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 29.7 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.68ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,347.01 ตัน ( ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 1.2 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 69 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ86.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 106.98 จุด ปิดที่ 12,985.11จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50.96 ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC

ราคา ทองคำปรับตัวลดลง 1.5% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงวันหนึ่งมากที่สุดในเกือบ 1 เดือน จากความกังวลในเรื่องภาวะFiscal Cliff ของสหรัฐทำให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ รวมไปถึงหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง

US-based fund manager ได้กล่าวว่า ผู้คนต่างมองว่า การเจรจาในเรื่อง Fiscal Cliff ดูจะเลวร้ายขึ้น โดยเงินลงทุนต่างๆ ถูกเคลื่อนย้ายออกจากสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นหันไปสู่สกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งทองคำกลายเป็นสินทรัพย์เสี่ยงไป ไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน

สมาชิก สภานิติบัญญัติของสหรัฐอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการหลีกเลี่ยงการเพิ่ม ภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ออกจากเศรษฐกิจสหรัฐภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหวนกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ตามเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายแฮร์รี่ รีด จากเดโมแครต ผู้นำเสียงส่วนใหญ่ของวุฒิสภา ได้กล่าวต่อนักข่าวว่า พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในเรื่องการ เจรจา โดยพรรครีพับลิกันละเมิดสัญญาที่จะพิจารณาการเพิ่มภาษีเพิ่มเติมที่เป็นส่วน หนึ่งของข้อตกลง

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงเนื่องจากกองทุนต่างๆ มีการปรับเปลี่ยน Positions ก่อนวัน First-Notice Day ของสัญญาเดือนธันวาคมในวันศุกร์

First Notice Day (FND) หมายถึง วันแรกที่มีการประกาศว่าเป็นวันที่จะมีการส่งมอบสินค้าในสัญญาซื้อขายล่วง หน้านั้น โดยวันที่ประกาศจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า และตลาดฯ เช่น ถ้าลูกค้าถือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสถานะ long positionลูกค้าจะต้องทำการยกเลิกภาระผูกพัน หรือ roll over ใน position นั้นก่อนที่จะถึงวัน First Notice Day (FND)

นอกจากนี้ นายจอร์จ เจโร รองประธานจาก RBC Global Futures ได้กล่าวว่า เฮดจ์ฟันด์สจำนวนมากได้วางคำสั่ง Sell Stopปริมาณสูง หลังจากสัญญาออพชั่นเดือนธันวาคมหมดอายุลง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย โดยการหมดอายุของสัญญาออพชั่นและการเทขายในช่วงสิ้นเดือนเกิดขึ้นพร้อมกันใน ช่วงเปิดตลาด Comex และเรายังเห็นกองทุนต่างๆ มีการเข้าซื้อในสัญญาเดือนมกราคมที่คำสั่ง Puts ระดับ 1,700 เหรียญ

ลอนดอน เบส โบรกเกอร์ ไทรแลนด์ เมเทิลส์ ก็ได้สังเกตเห็นว่า ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงเมื่อคืนนี้ตลอดเปิดตลาด Comex โดยมีstop loss sell orders เข้ามาเป็นจำนวนมาก ผลักดันให้ตลาดทองคำร่วงทันที 25 เหรียญในเวลา 1 นาที ที่การเทขายสูงถึง12,000 ล็อต ซึ่งการเทขายดังกล่าวส่งผลให้เกิด shocking effect ต่อนักลงทุนในตลาดหลายราย จนทำให้บางรายต้องกล่าวโทษว่าเป็น fat finger trade หรือการคีย์ผิดที่ก่อให้เกิดการเทขายอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ไทรแลนด์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าก็น่าจะเป็นการทำ Stop loss selling และการปรับเปลี่ยน Position ก่อนวัน First-notice day ของสัญญาส่งมอบเดือนธันวาคม

สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับ ตัวลดลง 25.8 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,716.5 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายคับคั่งอย่างมากเกือบ 440,000 ล็อต มากกว่าสองเท่าของค่าเฉลี่ย 250 วัน โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการโรลโอเวอร์สัญญาส่งมอบเดือนธันวาคมถึง เดือนกุมภาพันธ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเทขายในทองคำส่งผลให้ราคาลงไปอยู่ใกล้บริเวณจุดต่ำสุดเดิมระหว่าง 1,703 – 1,705 เหรียญ ซึ่งราคาทองคำอาจปรับตัวลงต่อเนื่องจากขาดแนวรับหากราคาเบรกลงมาต่ำกว่า บริเวณแนวรับที่สำคัญ

สำหรับข่าวที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนในตลาดกำลังจับ ตาอย่างใกล้ชิดมาที่การเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐ ซึ่ง CME Groupกล่าวในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ที่อาจก่อให้เกิดการดาวน์เกรดสหรัฐและบางทีอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

เฟด เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีการขยายตัวในอัตราที่สม่ำเสมอในช่วงหลายสัปดาห์ที่ ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและตลาดที่อยู่อาศัย ที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดที่อยู่อาศัยยังคงถูกกดดันจากการชะลอตัวทางการผลิตและผล กระทบจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ ทั้งนี้เฟดกล่าวว่าการเติบโตยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เพียงพอ โดยธนาคารกลางจะยังคงซื้อ MBS จำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไป และจะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเมื่อOperation Twist หมดอายุในสิ้นปี พร้อมทั้งกล่าวว่า เฟดเชื่อมั่นว่าจะมีแนวทางการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ได้ เนื่องจากตลาดบ้านยังอยู่ในภาวะที่ดี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐลดลง 0.3% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. สู่ระดับ 368,000 ยูนิต ขณะเดียวกันยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ก็ถูกปรับลดลงเหลือ 369,000 ยูนิต จากเดิมที่รายงานว่าขายได้ถึง 389,000 ยูนิต ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐยังไม่ มั่นคง

นายแบลงค์ฟินผู้บริหาร Goldman Sachs ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแผนของโอบามาในกรุงวอร์ชิงตัน เพื่อการบรรลุข้อตกลงFiscal Cliff โดยเขากล่าวว่าการประนีประนอมของทั้ง 2 พรรคระหว่างด้านรายได้ และด้านงบประมาณโครงการต่างๆ จำเป็นจะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้บรรลุข้อตกลงในการแก้ปัญหา Fiscal Cliff อย่างไรก็ตาม เขาได้ย้ำเตือนว่าอาจจะต้องมีการเพิ่มอัตราภาษีเพื่อให้บรรลุข้อตกลง แม้ว่าเขาจะพอใจกับอัตราภาษีที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เขาก็ยอมรับหากจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น

นายโอบามาได้ให้ความมั่นใจกับ เหล่าผู้บริหารว่าเขาเตรียมพร้อมแล้วสำหรับการบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส ก่อนช่วงคริสมาสต์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff และการนัดพบผู้บริหารนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศเชิงบวก อีกทั้งยังได้มอบหมายให้นายไกน์เนอร์จัดการประชุมกับเหล่าผู้นำของสภา ได้แก่ นายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภา นางแนนซี่ เพโลซี่ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นายแฮรี่ รีดหัวหน้าระดับสูงพรรคฝ่ายรัฐบาล และนายมิช แมคคอเนล หัวหน้าระดับสูงพรรคฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ในประเด็น Fiscal Cliff ซึ่งเป็นการเจรจาตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกระหว่างฝ่ายบริหารระดับสูงกับสมาชิก ระดับสูงของสภา นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.

นายบัฟเฟตคาดว่าปัญหา Fiscal Cliff จะสามารถแก้ได้ แต่ไม่ใช่ภายในสิ้นปีนี้ แต่ไม่ได้ระบุว่าแนวทางการแก้ปัญหารูปแบบใดที่จะทำให้เขาพึงพอใจ แต่เขากล่าวว่าแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้ควรจะทำให้สหรัฐมีรายได้ 18.5% ของจีดีพี และมีค่าใช้จ่ายที่ 21% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีความยั่งยืน เนื่องจากจะทำให้อัตราหนี้ต่อจีดีพีไม่เพิ่มขึ้น และอาจจะลดลงได้ในเวลาต่อมา พร้อมทั้งกล่าวว่า ปัญหา Fiscal Cliff ไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในระยะยาวของเขา ขณะที่เขาได้โต้แย้งว่าชนชั้นกลางกำลังถูกบังคับให้จ่ายภาษีสำหรับประกัน สังคมและประกันสุขภาพอย่างไม่ยุติธรรม และกล่าวว่ามันเป็นภาษีที่รุนแรงที่สุด

สำหรับข่าวทางฝั่งยุโรป นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า แนวทางสู่การฟื้นตัวของกรีซได้เปิดกว้างในขณะนี้ หลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงระหว่างยูโรโซนและไอเอ็มเอฟว่าด้วยการช่วยเหลือ ทางการเงินสำหรับกรีซ

อัตราเงินเฟ้อรายปีของเยอรมนีอยู่ที่ 1.9% ในเดือนพ.ย. ชะลอตัวลงจาก 2.0% ในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาพลังงานลดลงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ช่วยชดเชยราคาอาหารที่สูงขึ้น ทั้งนี้แรงกดดันจากเงินเฟ้อไม่น่าจะเป็นประเด็นเร่งด่วนสำหรับการประชุมของ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีการตั้งเป้าเงินเฟ้อไว้ต่ำกว่า 2.0% นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่าอีซีบีอาจสามารถลดดอกเบี้ยได้อีกครั้งในอีกไม่กี่ เดือนข้างหน้า

อีซีบีอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างสำหรับธนาคารสเปน 4 แห่ง ซึ่งได้แก่ บีเอฟเอ/บังเกีย, เอ็นซีจี บังโก, คาตาลุนยา แบงก์ และบังโก เด บาเลนเซีย ทั้งนี้นายโจคิม อัลมูเนีย กรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียูกล่าวในการแถลงข่าวว่า ธนาคารสเปนทั้ง 4 แห่งดังกล่าวจะต้องได้รับเงิน 3.7 หมื่นล้านยูโร (ราว 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อใช้ในการเพิ่มทุน และผู้ถือตราสารของธนาคารดังกล่าวจะเผชิญกับภาวะขาดทุน

กองทุนทองคำ SPDR เปิดเผยปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นอีก 1.205 ตัน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,347.018 ตัน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- New Home Sales เดิมอยู่ที่ระดับ 389K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 368K (คาดการณ์ 387K)

- Crude Oil Inventories เดิมอยู่ที่ระดับ -1.5M ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ -0.3M (คาดการณ์ 0.5M)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

- Prelim GDP q/q เดิมอยู่ที่ระดับ 2.0%คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.8%

- Unemployment Claimsเดิมอยู่ที่ระดับ 410K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 392K

- Pending Home Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.3%คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.9%

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold – ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วรุนแรงในช่วงตลาด COMEX เมื่อวานนี้ท่ามกลางความตื่นตกใจและเป็นแรง Panic Selling ของนักลงทุน โดยเริ่มจากราคาปรับตัวลดลงจนหลุดระดับแนวรับสำคัญแนวแรกที่ระดับ 1,730 เหรียญลงมา และเกิดAutomatic Computerized Stop Selling บริเวณ 1,737 เหรียญ ทำให้ราคาหลุดอย่างรวดเร็วลงมาที่ 1,718 เหรียญ หลังจากนั้นก็ยังมีแรงเทขายต่อเนื่องจนหลุดแนวรับที่สองที่สำคัญที่ระดับ 1,710 เหรียญ ทำให้ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 1,706เหรียญ และสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1,716.5 เหรียญ สาเหตุทั้งหมดเป็นจากการที่ตัวสัญญา Optionจะหมดอายุในวันนี้จึงทำให้เกิดแรงเทขายโยกย้ายสัญญาทั้งในสัญญา Option และ Futures ในตลาด COMEX และตามมาด้วยภาวะ Stop Selling Computerize ราคาจึงร่วงลงอย่างรวดเร็ว ในเชิงเทคนิคนั้น การที่ราคาตกลงมาทำให้ภาพรวมของกราฟทางเทคนิคยังมีความสับสนในทิศทางอีก ครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทะลุแนวรับสำคัญทุกแนวลงมา จึงทำให้ราคาน่าจะเคลื่อนตัวในทิศทางSideway หรือไม่ชัดเจนในระยะสั้นๆ MTS Gold ยังวิเคราะห์ว่า การตกน่าจะมีการ Rebound ได้ในคืนนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบรับของเศรษฐกิจในคืนนี้ว่าจะเป็นอย่างไร และเป็นวันสิ้นสุดสัญญา มีความเป็นไปได้ทั้งสองทางที่จะตกต่อถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีขึ้น และการ Roll Over ที่จะสิ้นสุดวันนี้ ในขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,705 เหรียญ ซึ่งถ้าตกหลุดลงมาก็จะต้องบริหารเงินลงทุนในภาวะการแกว่งตัวอย่างมากของทิศ ทางของตลาด สรุปได้ว่า คิดว่าราคาจะเป็นการตกจากสาเหตุเดียวและน่าจะสามารถRebound ได้ในช่วง 2 – 3 วัน แนวต้านของทองคำตอนนี้กลับมาอยู่ 1,730 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง

Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,090 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,250 บาท

Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450บาท

Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,010 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,040 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)

เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัว ซึ่งน่าจะสลับขึ้นลงกันได้ คาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,715 – 1,725 เหรียญ

นักลงทุนระยะสั้น 7 – 20 วัน (Weekly Trade)

ยังเป็นการรอและบริหารพอร์ทให้เหมาะสม Portfolio ที่มีอยู่ 50% ไม่คติดว่าจะต้องหนี น่าจะสามารถืถครองยาวได้ รอซื้อถ้าเกิด Panic Selling อีกครั้งเท่านั้น

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

เป็นลักษณะการรอช้อนซื้อเมื่อราคาลงมาบริเวณ 1,700 เหรียญ Portfolio อยู่ที่ระดับ 50-60%

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

คลิ๊ก!! เพื่ออ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส

pdf_icon.jpg

คลิ๊ก!! เพื่ออ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส

หากไม่สามารถเปิดไฟล์ได้กรุณากด F5

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 15:25:44 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมองมุมบวกเรื่องการบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณ เพื่อหลีกเลี่ยงการปรับลดค่าใช้จ่ายและการขึ้นภาษี

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 30.40 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 4,477.70 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 4,490.10 จุด เพิ่มขึ้น 27.50 จุด

 

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดบวกแข็งแกร่งในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลัง

ดัชนีเวทเต็ดเพิ่มขึ้น 68.62 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 7,503.55 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์

 

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน และหลังจากที่นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน แสดงความเชื่อมั่นว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์หน้าผาการคลังได้ในไม่ช้านี้

ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 92.53 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 9,400.88 จุด

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ร่วงลง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 10.04 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,963.49 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นลบ 45.1 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 7,808.96 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น 1.15% เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นตัวดีขึ้น จากความคาดหวังว่านักการเมืองสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตงบประมาณ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลี (KOSPI) พุ่งขึ้น 22.07 จุด ปิดที่ 1,934.85 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 382.2 ล้านหุ้น มูลค่า 4.77 ล้านล้านวอน (4.4 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 536 ต่อ 271

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องปัญหาการคลังของสหรัฐ

ดัชนีฮั่งเส็งทะยาน 213.91 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 21,922.89 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 21,786.03-21,996.40 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 5.446 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 7.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดตลาดในแดนบวก ขานรับสหรัฐมีแนวโน้มตกลงกันได้เรื่องงบประมาณ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 14:37:51 น.

ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มว่า จะเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ขานรับมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มที่สภาคองเกรสและทำเนียบขาวจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องงบประมาณ

ดัชนี Euro Stoxx 50 บวก 0.8% เมื่อเวลา 7.04 น.ตามเวลาลอนดอน

นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า เขายังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง "fiscal cliff" กับประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้

นายโบห์เนอร์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันพร้อมที่จะพิจารณาเรื่องรายได้ใหม่ ตราบใดที่ประเด็นดังกล่าวจะไม่ทำให้ต้องปรับขึ้นภาษีเงินได้ของชาวอเมริกันที่ร่ำรวย

 

emnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

สมาชิกบอร์ดบีโอเจเตือนศก.ญี่ปุ่นเผชิญภาวะขาลง เหตุศก.ต่างประเทศผันผวน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 16:02:18 น.

ซายูริ ชิราอิ สมาชิกกรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และผลกระทบที่รุนแรงของการปรับขึ้นภาษีการขยายซึ่งรัฐบาลได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้

"ขณะที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลงและขาขึ้นด้วยนั้น เราประเมินว่ามีโอกาสที่เราจะเผชิญกับภาวะขาลงมากกว่า" ซายูริกล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคูมาโมโตะ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญ๊ปุ่น พร้อมกับกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเลื่อนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศออกไป

ส่วนแนวโน้มด้านราคานั้น ซายูริกล่าวว่า มีความเสี่ยงที่ราคาจะเคลื่อนไหวในช่วงขาลงเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเอกชนอาจจะพากันระมัดระวังเรื่องการปรับขึ้นราคาสินค้าและการบริการของบริษัท แม้กระทั่งว่า ปัจจัยแวดล้อมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ซายูริกล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่แตกต่างกันไป เช่น ประชากรที่สูงวัย ซึ่งจะมีส่วนทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเชื่องช้าในระยะยาว และราคาที่ปรับตัวลดลง พร้อมกับกล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นสิ่งจำเป็นต่อการกระตุ้นการเติบโตและประสิทธิผล สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อิตาลีเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 17:00:27 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจภาคการผลิตของอิตาลีในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 88.5 จาก 87.8 ในเดือนต.ค.emnb_1_370236.gif

Istat ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตเดือนพ.ย.ได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการผลิตที่ดีขึ้น แม้แนวโน้มคำสั่งซื้อจะย่ำแย่ลง

ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ Istat รายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ร่วงลงแตะ 84.8 จากระดับ 86.2 ในเดือนต.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะขยับขึ้นแตะ 86.5

ตัวเลขที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดถือเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดทำข้อมูลเมื่อเดือนม.ค.2539 สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนชาวอิตาลีมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินส่วนบุคคลลดลง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

 

เยอรมนีเผยจำนวนผู้ว่างงานเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5,000 คน,อัตราว่างงานที่ 6.9%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 16:54:20 น.

ทางการเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 5,000 คนในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค. แตะระดับ 2.94 ล้านคน หลังจากที่ยอดผู้ว่างงานพุ่งขึ้น 19,000 คนในเดือนต.ค. ส่วนอัตราว่างงานในเดือนพ.ย.ยังทรงตัวที่ 6.9% จากเดือนก่อนหน้า

จำนวนผู้ว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 15,000 คน

ก่อนหน้านี้ บริษัทวิจัยตลาด GfK เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีปรับตัวลงในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาส โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่วงหน้า รูดลงมาอยู่ที่ 5.9 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 6.1 ในเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงย่ำแย่

สำหรับดัชนีย่อยอื่นๆนั้นปรับตัวแตกต่างกัน โดยดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 1.2 จุด สู่ระดับ -14.6 ในเดือนพ.ย. แต่ดัชนีคาดการณ์รายได้ลดลงแตะ 17.8 ในเดือนพ.ย. จาก 29.9 ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนีแนวโน้มการซื้อลดลงที่ 29.4 จาก 33.9 ในเดือนที่แล้วemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

 

จีนคาดผลผลิตธัญพืชปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 16:25:45 น.

นายเฉิน ซือเหวิน ผู้อำนวยการสำนักงานกลุ่มผู้นำด้านงานชนบท กล่าวในวันนี้ว่า คาดว่าจีนจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มปริมาณผลผลิตธัญพืชติดต่อกันเป็นปีที่ 9 ในปี 2555

นายเฉินระบุในการประชุมประจำปีของนิตยสารไคจิงว่า การสร้างเขตเมืองจะมีบทบาทในฐานะแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาจีนมากขึ้น และกล่าวว่าควรมีการสร้างความมั่นใจด้านความมั่นคงเกี่ยวกับธัญพืชและปริมาณผลผลิตภาคการเกษตรในกระบวนการสร้างพื้นที่เขตเมืองemnb_1_370236.gif

นายเฉินกประเมินว่าการนำเข้าธัญพืชของจีนจะทะลุ 60 ล้านตันในปีนี้ ขณะที่การส่งออกถั่วเหลืองเกือบครึ่งหนึ่งของโลกมีแนวโน้มจะมุ่งสู่จีน โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จีนกลายเป็นผู้นำเข้าสุทธิสำหรับข้าวสาลี ข้าว และข้าวโพด ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการพัฒนาด้านการเกษตรของจีนชะลอตัวกว่าการพัฒนาของเศรษฐกิจ

นายเฉินยังเปิดเผยว่า จีนจะเข้มงวดในการคุ้มครองพื้นที่ทำเกษตรและยกระดับศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ผลผลิตธัญพืชจีนในปี 2554 ได้เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 571.21 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 15,980 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555 17:30:01 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 170 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 15,980 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,730.83 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 18.41 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...