ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 15,808 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 16:37:04 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 128 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 15,808 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,712.2 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.87 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้emnb_18_18900.gif?287864166emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

มูดีส์ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือระบบธนาคารของฟิลิปปินส์เป็นบวก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 15:38:33 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของระบบธนาคารของฟิลิปปินส์เป็นเชิงบวก จากเดิมที่มีเสถียรภาพ เนื่องมาจากจากบรรยากาศด้านเศรษฐกิจมหภาคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ปัจจัยพื้นฐานของธนาคารที่ดีขึ้น รวมถึงคุณภาพของสินทรัพย์ สภาพคล่อง รายได้ และการจัดสรรเงินทุนemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ประธานอีซีบีเผยจะแยกนโยบายการเงินและกำกับดูแลออกจากกันอย่างชัดเจน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 16:04:05 น.

นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี กล่าวว่า อีซีบีจะกำหนดหลักการณ์และแนวทางปฏิบัติภายในอย่างชัดเจน เพื่อรับประกันประสิทธิภาพในการแยกนโยบายการเงินออกจากการกำกับดูแลในเรื่องการเงิน

นายดรากิแสดงความเห็นดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรปในกรุงบรัสเซลส์ พร้อมกับเสริมว่า บทบาทของอีซีบีในฐานะหน่วยงานสูงสุดในการกำกับดูแลธนาคารไม่ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์หลักในเรื่องเสถียรภาพด้านราคาemnb_18_18900.gif?604685630

“การแยกนโยบายการเงินและการกำกับดูแลด้านการเงินจะเป็นการกำหนดรูปแบบการวิเคราะห์โดยเฉพาะ ตลอดทั้งกำหนดแนวทางการใช้เครื่องมือนโยบายสำหรับการทำงานทั้งสองบทบาท" นายดรากิกล่าว พร้อมกับเสริมว่า จะมีการแต่งตั้งบอร์ดคณะกรรมการกำกับดูแลเพื่อกำกับดูแลในด้านการเงิน

นอกจากนี้ นายดรากิยังระบุว่า อีซีบีได้เริ่มสะท้อนถึงประเด็นเหล่านี้จากภายในและมีการเตรียมพร้อมเพื่อเริ่มการเตรียมการภายในอย่างรวดเร็ว หลังมีการบังคับใช้กรอบการทำงานตามกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ ผู้นำกลุ่มประเทศอียูได้เพิ่มอำนาจให้กับอีซีบีในการกำกับดูแลธนาคารกว่า 200 แห่งโดยตรง โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นจุดเริ่นสำหรับสภาพธนาคารของยูโรโซน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 16:22:31 น.

ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1% โดยระบุถึงปัญหาในยุโรปที่ถ่วงภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แคนาดามีแนวโน้มเป็นผู้ส่งออกก๊าซ LNG รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 16:50:20 น.

แคนาดามีศักยภาพที่จะเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกในอนาคตอันใกล้ สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากอุปสงค์ของตลาดเกิดใหม่

รายงานที่รวบรวมจากคณะกรรมการการประชุมแคนาดา ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการอิสระ ได้พิจารณาสภาพทางเศรษฐกิจพบว่า อุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจแคนาดาในช่วงปี 2555-2578

emnb_1_370236.gif

อุปสงค์สำหรับก๊าซของแคนาดาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในอีก 24 ปีข้างหน้า เนื่องจากการส่งออกก๊าซ LNG สู่เอเชีย และการใช้ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

บริษัทหลายแห่งได้ประกาศแผนงานสำหรับโรงกลั่น LNG ท่อส่งก๊าซ สถานที่ส่งออกในบริติชโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแคนาดา เพื่อการส่งออกก๊าซ LNG

รายงาน ระบุ "ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง แคนาดาจะกลายเป็นผู้จำหน่าย LNG รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกภายในระยะเวลาอันสั้น"

การลงทุนในอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติมีมูลค่าโดยรวม 3.86 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (3.92 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งส่วนใหญ่จะหมุนเวียนใน 3 เมืองทางตะวันตกของแคนาดา บริติชโคลัมเบียอาจมีการลงทุนถึง 1.81 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (1.84 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในช่วงปี 2555-2578 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของประเทศ

อย่างไรก็ตาม อัลเบอร์ตา เมืองทางตะวันตกอีกเมืองของแคนาดา จะได้ผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์มวลรวมจากการลงทุนมากที่สุด ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 1.536 แสนล้านดอลล่าร์แคนาดา (1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตั้งแต่ปี 2555-2578

นอกจากผลพวงทางเศรษฐกิจจากการลงทุนแล้ว ปริมาณการเติบโตของภาคการผลิตทั้งหมดอาจสร้างมูลค่าได้สูงถึง 5.76 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (5.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับเศรษฐกิจของแคนาดา ก่อให้เกิดการจ้างงาน 129,000 ตำแหน่งต่อปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

382074_535426673136793_1066765923_n.jpg

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

 

เรื่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ ฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

 

ด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ ฯ ไปทรงตรวจพระวรกายประจำปี ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แพทย์ผู้ถวายการตรวจได้ตรวจพบกลุ่มหินปูนที่พระอุระ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานถวายการรักษาด้วยการผ่าตัด

 

ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จ ฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

สภากาชาดไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๕ และในวันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕ คณะแพทย์ได้ถวายการผ่าตัดนำกลุ่มหินปูนออกจากพระอุระเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังการผ่าตัดทรงรู้สึกพระองค์ดี อุณหภูมิพระวรกายปรกติ ผลการตรวจทางพยาธิวิทยาไม่พบเนื้อร้าย คณะแพทย์ได้ขอพระราชทานให้ประทับพักฟื้นพระวรกาย ณ โรงพยาบาล และกราบบังคมทูลให้ทรงงดพระราชกิจสักระยะหนึ่ง

 

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

 

สำนักพระราชวัง

 

๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

 

-----------------------------------

ขอจงทรงพระเจริญ พระวรกายแข็งแรง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

 

 

เครดิต: สำนักข่าวไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

401976_305462242845505_1606455450_n.jpg

 

บัวบาน บัวตูม บัวขาวไสว

 

ดอก กอ เกษร ก้านใบ ล้วนแต่ให้คุณ

 

ดุจบุคคลผู้ คิดดี ประพฤติดีมีธรรม

 

ย่อมมีคุณค่า เสมอมิว่าจะอยู่ที่ใด

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 17:06:54 น.

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยวานนี้ว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ของโอเปก ปรับตัวลงแตะ 105.48 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับ 106.74 ดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยแตะระดับต่ำสุดในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนพ.ย. ร่วงลง 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ที่ขยับลงเพียง 0.24%emnb_18_18900.gif?334527747emnb_1_370236.gif

-- นายเอดิมอน กินติ้ง รองผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ประจำอินโดนีเซียคาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 6.6% ในปี 2556 ซึ่งสูงว่าตัวเลขประมาณการของปีนี้ที่ 6.3%

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้พบปะหารือกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ หลังจากที่นายโบห์เนอร์ ซึ่งเป็นแกนนำพรรครีพับลิกันด้วยนั้น ได้ยอมประนีประนอมเรื่องการขึ้นภาษีคนรวยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดหวังว่าทำเนียบขาวและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

-- นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าววานนี้ว่าวุฒิสภาสหรัฐอาจจะกลับมาหารือกันอีกครั้งหลังเทศกาลคริสต์มาส เพื่อหามาตรการเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff ซึ่งจะมีการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า

-- นายชินโสะ อาเบะ ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า เขาและประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ อยู่ระหว่างเตรียมจัดการหารือสุดยอดในเดือน ม.ค. เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

-- กระทรวงคมนาคมรายงานว่า สายการบินรายใหญ่ 9 รายของสหรัฐรายมีผลประกอบการสุทธิรวมทั้งสิ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยราคาบ้านในมณฑลต่างๆของจีนปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลเพื่อบรรเทาปัญหาในธุรกิจที่อยู่อาศัย

-- iPhone 5 โทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากแอปเปิ้ล อิงค์ ได้รับการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในจีน ด้วยยอดขายกว่า 2 ล้านเครื่อง ใน 3 วันแรกหลังการเปิดตัวในจีน ซึ่งจีนนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของแอปเปิ้ล

-- นายเฮอร์แมน ฟาน รอมพาย ประธานสภายุโรป และนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกลไกการแก้ไขปัญหาที่เป็นหนึ่งเดียว (SRM) โดยเร็ว ซึ่งนับเป็นอีกก้าวหนึ่งของสหภาพการธนาคารของยุโรป

-- ธนาคารกลางอินเดียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 8% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับคงอัตราส่วนการสำรองเงินสด (CRR) ที่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2517

-- เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสซึ่งดูแลด้านปศุสัตว์ของจังหวัดชวาตะวันออกยืนยันการเสียชีวิตล่าสุดของเป็ดราว 11,000 ตัวในเขตเคดิรีว่ามาสาเหตุมาจากไข้หวัดนก

-- รายงานจากหนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัล เปิดเผยว่า จีนอาจกำหนดเป้าอัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ให้อยู่ในระดับ 3.5% ในปี 2556 โดยรายงานอ้างจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งระบุว่า การกำหนดเป้าดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่กำกับดูแลอาจมีมุมมองบวกเกี่ยวกับระดับราคาในปีหน้า และจะมีโอกาสมากขึ้นที่จีนจะดำเนินแนวทางด้านนโยบายที่ค่อนข้างผ่อนคลายภายใต้กรอบนโยบายการเงินที่มีความระมัดระวัง

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของระบบธนาคารของฟิลิปปินส์เป็นเชิงบวก จากเดิมที่มีเสถียรภาพ เนื่องมาจากจากบรรยากาศด้านเศรษฐกิจมหภาคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ปัจจัยพื้นฐานของธนาคารที่ดีขึ้น รวมถึงคุณภาพของสินทรัพย์ สภาพคล่อง รายได้ และการจัดสรรเงินทุน

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในประเทศแตะ 6.8% ในเดือน ต.ค. ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ก็ยังต่ำกว่าในเดือนก.ค. ที่ระดับ 7%

-- ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1% โดยระบุถึงปัญหาในยุโรปที่ถ่วงภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

-- นายอาร์เซนิโอ บาลิซาคาน รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนเศรษฐศาสตร์เชิงสังคมของฟิลิปปินส์คาดว่า เศรษฐกิจฟิลิปินส์อาจขยายตัว 6.5% ในปี 2555 อันเนื่องมาจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนแรก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดกนง.มีโอกาสลดดบ.ลงอีก 0.25% หลังศก.ยังมีความเสี่ยง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2555 13:47:18 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รอบที่ 8 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของปีตามวาระปกติในวันที่ 28 พ.ย.55 นี้ มีโอกาสที่ กนง.จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เพื่อรักษาแรงส่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยืดเยื้อ ขณะที่การปรับลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกมีส่วนช่วยผ่อนคลายแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ กนง.พอจะมีช่องว่างสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจemnb_1_370232.gif

ทั้งนี้ หากมองในระยะต่อไป การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงมีความเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจาก Fiscal Cliff ที่สหรัฐฯ จะมีการปรับลดการใช้จ่าย รวมทั้งการขึ้นภาษีที่จะเริ่มมีผลในปี 2556 ซึ่งอาจจะฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ทั้งนี้ แม้ในเบื้องต้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทางการสหรัฐฯ คงน่าจะหาวิธีการในการบรรเทาผลของ Fiscal Cliff ได้บางส่วน แต่ต้องยอมรับว่า ความคลุมเคลือของการแก้ปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ นั้นได้สร้างแรงกดดันต่อภาคเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน รวมไปถึงการใช้จ่ายของอเมริกันชน นอกจากนี้ สถานการณ์ปัญหาหนี้ยุโรป ยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซนที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยรอบที่ 2 ขณะที่แรงกดดันในการต่อต้านแผนการรัดเข็มขัดเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น

ดังนั้น หากเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในระยะถัดไปปรับตัวไม่เป็นไปตามที่คาด ก็มีโอกาสที่ กนง.จะผ่อนคลายเพิ่มเติมตามความจำเป็น เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ

"สำหรับในการประชุมรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ที่จะมาถึงนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่ามติที่ประชุมจะออกมาเช่นไรระหว่างการปรับลดหรือการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคณะกรรมการนโยบายการเงินแต่ละท่าน ที่อาจจะมีการให้น้ำหนักความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน โดยหากคณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง ก็มีโอกาสที่ผลการลงมติอาจจะเอนไปทางนั้น อันจะนำมาสู่โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงต่อเนื่องจากการประชุมรอบก่อนหน้าได้ แม้ว่ามุมมองต่อเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสมดุลต่อภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทยก็ตาม" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

อย่างไรก็ดี หาก กนง.มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ และเลือกที่รอติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ก็มีโอกาสเช่นกันที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะเกิดขึ้นภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 โดยเฉพาะถ้าสัญญาณการปรับตัวของเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ทั้งการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นตามที่คาด จากความเปราะบางของเศรษฐกิจหลักในโลก

ขณะที่คงจะต้องติดตามแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ ภายใต้แรงหนุนจากนโยบายการเงินและการคลังในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงต่อๆ ไปไว้ได้มากน้อยเพียงใด

อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณขิง คุณบาสคุณเอ๋ คุณ news คุณกระต่ายทองและทุกคนที่น่ารัก^____^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้น ขานรับหารืองบประมาณสหรัฐมีความคืบหน้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 19:32:05 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนม.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้น 70 เซนต์ แตะที่ 87.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 11.59 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้ (fiscal cliff) ได้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีการหารือกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายพยายามหาลู่ทางที่จะหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้าemnb_18_18900.gif?224577205emnb_1_370236.gif

การหารือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายโบห์เนอร์ ได้ยอมรับการปรับขึ้นภาษีสำหรับกลุ่มคนที่ร่ำรวย หรือผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลลาร์ต่อปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมองมุมบวกว่าทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าในการหาทางออกเพื่อเลี่ยงหน้าผาทางการคลัง

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐคืบหน้าหารือเลี่ยงหน้าผาการคลัง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 20:01:42 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ หลังจากที่สหรัฐมีความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงงบประมาณในการเลี่ยงการเกิดภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)

ณ เวลาประมาณ 19.48 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 1.0 ดอลลาร์ หรือ 0.06% แตะที่ 1,699.20 ดอลลาร์/ออนซ์emnb_18_18900.gif?1072955349emnb_1_370236.gif

ราคาทองปรับตัวขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาและนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีการหารือเพื่อสกัดการปรับขึ้นภาษีและการลดรายจ่ายของรัฐบาลวงเงินกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นเดือนม.ค.ปีหน้า

ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะพยายามประนีประนอมกัน หลังที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายโบห์เนอร์ ได้ยอมรับการปรับขึ้นภาษีสำหรับกลุ่มคนที่ร่ำรวย หรือผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลลาร์ต่อปี ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อตลาดทองว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อเลี่ยงปัญหาทางการคลังได้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาทองได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าของข้อตกลงการคลังสหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าก็ช่วยหนุนราคาทองด้วย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

 

สหรัฐเผยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงในไตรมาส 3/2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 20:54:42 น.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 3 ปี 2555 ลดลงแตะ 1.075 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ไตรมาส 4 ปี 2553 โดยต่ำกว่าตัวเลขขาดดุล 1.181 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2

ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 3 คิดเป็น 2.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งลดลงจาก 3.0% ในไตรมาสก่อนหน้า

กระทรวงระบุว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ปรับตัวลงในช่วงไตรมาสที่แล้ว เป็นผลมาจากยอดขาดดุลด้านสินค้าและบริการที่ลดลงแตะ 1.245 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จาก 1.374 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2emnb_18_18900.gif?842864059emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ขอบคุณคุณขิง คุณบาสคุณเอ๋ คุณ news คุณกระต่ายทองและทุกคนที่น่ารัก^____^
ขอบคุณทุกข้อมูลข่าวสารค่ะ

 

โชคดีมีความสุข อากาศเปลี่ยนดูแลสุขภาพนะคะเพื่อนๆ

 

YLG

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'ไทย'ติดอันดับ13โลก เงินสกปรกไหลออกจากประเทศ

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2555 21:01 น.

blank.gif แฉ อาชญากรรม คอร์รัปชั่น และการหนีภาษี เป็นปัจจัยที่ช่วยกันดูดเงินไหลออกจากประเทศกำลังพัฒนาไปเฉียดๆ 6 ล้านล้านดอลลาร์ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยที่เงินผิดกฎหมายเหล่านี้ยังกำลังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ สำหรับประเทศที่เป็นแชมป์ในการสูญเสียเงินเหล่านี้สูงที่สุดคือจีน เฉลี่ยตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 274,000 ล้านดอลลาร์ (8.494 ล้านล้านบาท) หรือถ้านับรวมตั้งแต่ปี 2001-2010 ก็เท่ากับ 2.74 ล้านล้านดอลลาร์ (84.94 ล้านล้านบาท) ขณะที่เฉพาะปี 2010 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ทำการศึกษาอยู่ที่ 420,360 ล้านดอลลาร์ (13.031 ล้านล้านบาท) ส่วนไทยตลอดทั้งทศวรรษ มีมูลค่าความสูญเสียเฉลี่ยปีละ 6,426 ล้านดอลลาร์ (199,206 ล้านบาท) อยู่ในอันดับ 13 หรือรวมทั้ง 10 ปีก็จะอยู่ที่ 64,260 ล้านดอลลาร์ (1.992 ล้านล้านบาท) และนับเฉพาะปี 2010 อยู่ที่ 12,370 ล้านดอลลาร์ (383,470 ล้านบาท) ติดอยู่อันดับ 10 ของโลก

 

องค์การเพื่อความซื่อสัตย์มั่นคงทางการเงินแห่งโลก (Global Financial Integrity หรือ GFI) ซึ่งเป็นองค์การรณรงค์เพื่อให้การเงินในระดับโลกอยู่ในภาวะที่มีผู้รับผิดชอบสามารถตรวจสอบได้ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน จัดทำรายงานจัดอันดับดังกล่าวนี้ออกมาเผยแพร่ในวันจันทร์(17) โดยบอกด้วยว่า ยอดเงินผิดกฎหมายไหลออกของทั่วโลกในปี 2010 เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2009

 

รายงานฉบับนี้ของจีเอฟไอ ซึ่งใช้ชื่อว่า “การเคลื่อนย้ายของเงินผิดกฎหมายจากบรรดาประเทศกำลังพัฒนา ปี 2001-2010” (Illicit Financial Flows From Developing Countries: 2001-2010) ระบุว่า นอกจากจีนที่เป็นอันดับ 1 แล้ว ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในอันดับรองๆ ลงมา ได้แก่ ที่ 2 เม็กซิโก ซึ่งสูญเสียเงินในช่วง 10 ปีนี้โดยเฉลี่ยเท่ากับปีละ 47,600 ล้านดอลลาร์, ที่ 3 มาเลเซีย 28,500 ล้านดอลลาร์, ที่ 4ซาอุดีอาระเบีย 21,000 ล้านดอลลาร์, ที่ 5รัสเซีย 15,200 ล้านดอลลาร์, ที่ 6ฟิลิปปินส์ 13,782 ล้านดอลลาร์, ที่ 7 ไนจีเรีย 12,904 ล้านดอลลาร์, ที่ 8 อินเดีย 12,332 ล้านดอลลาร์, ที่ 9 อินโดนีเซีย 10,886 ล้านดอลลาร์, ที่ 10 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10,650 ล้านดอลลาร์, ที่ 11 อิรัก 10,597 ล้านดอลลาร์, ที่ 12 แอฟริกาใต้ 8,390 ล้านดอลลาร์, ที่ 13 ไทย 6,426 ล้านดอลลาร์

 

เฉพาะปี 2010 นั้น ขณะที่จีนยังคงรักษาแชมป์เอาไว้อย่างเหนียวแน่น มาเลเซียกลับแซงขึ้นที่ 2 โดยสูญเสียเงินไปในปีดังกล่าว 64,380 ล้านดอลลาร์, ที่ 3 เม็กซิโก 51,200 ล้านดอลลาร์, ที่ 4 รัสเซียก็แซงขึ้นด้วยยอด 43,600 ล้านดอลลาร์, ส่วนที่ 5 ซาอุดีอาระเบีย 38,200 ล้านดอลลาร์, ขณะที่อันดับ 6-10 ของปี 2010 ได้แก่ อิรัก 22,200 ล้านดอลลาร์, ไนจีเรีย 19,660 ล้านดอลลาร์, คอสตาริกา 17,510 ล้านดอลลาร์, ฟิลิปปินส์ 16,620 ล้านดอลลาร์, และไทย 12,370 ล้านดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...