มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงบ่ายนี้ เหตุผิดหวังแบงก์ชาติญี่ปุ่น-เยนแข็งค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 12:40:38 น.

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงบ่ายนี้ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหม่ในปีหน้า

ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 0.5% แตะ 132.33 เมื่อเวลา 12.52 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

หุ้นนิสสัน มอเตอร์ อ่อนตัว 2.4% ในตลาดหุ้นโตเกียว ขณะที่หุ้นนูฟาร์ม ร่วง 7.9% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากที่บริษัทเปิดเผยว่า BASF SE จะยกเลิกการจัดจำหน่ายในออสเตรเลีย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 1.79 จุด ตลาดผันผวนคล้ายภูมิภาคหลังบาททรงตัว-Flow ไหลเข้าน้อยลง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 12:42:21 น.

ตลาดหลักทรัพย์ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,435.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด(+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 23,739.47 ล้าน

บาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,444.85 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,430.12 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างผันผวนมาก โดยดัชนีฯได้ปรับขึ้นไปทดสอบ 1,444-1,445 จุด แต่ไม่ผ่าน และก็อ่อนตัวลงมา อันเนื่องมาจากแรงขายทำกำไรเข้ามา ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีการแกว่งตัวขึ้นไปแล้วก็ย่อตัวลงมาเช่นกัน

ทั้งนี้ ช่วงเช้าตลาดฯได้รับปัจจัยบวกช่วงสั้นจากความคาดหวังในเรื่องการขยายเพดานหนี้ในสหรัฐฯ ซึ่งจริง ๆ แล้วมองว่ายังไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง และการปรับลดงบประมาณในสหรัฐฯก็คงจะดำเนินต่อไป

"ขณะนี้ทุกคนต่างรอปัจจัยใหญ่จากภายนอกประเทศ และที่ผ่านมาตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปเยอะ อีกทั้งก่อนหน้านี้เงินบาทแข็งค่ามาก แต่มาตอนนี้เงินบาทเริ่มทรงตัวและมีอ่อนตัวบ้าง ดังนั้นนักลงทุนจึงเริ่มระวังมากขึ้น และแม้ว่า Flow ต่างชาติจะยังไหลเข้าแต่ก็ไหลเข้าน้อยลง ตอนนี้ตลาดฯจึงเป็นลักษณะเทรดด้วยความระวัง เมื่อปรับตัวขึ้นไปก็มีการขายทำกำไรระหว่างทาง"น.ส.ธีรดา กล่าว

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ทิศทางยังเป็น up trend อยู่ เพียงแต่จะต้องระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทาง พร้อมให้แนวรับ 1,426 จุด แนวต้าน 1,440 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,166.05 ล้านบาท ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 835.06 ล้านบาท ปิดที่ 5.65 บาท ลดลง 0.10 บาท

BTS มูลค่าการซื้อขาย 647.69 ล้านบาท ปิดที่ 7.45 บาท ลดลง 0.05 บาท

UV มูลค่าการซื้อขาย 644.94 ล้านบาท ปิดที่ 14.80 บาท ลดลง 0.30 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 536.58 ล้านบาท ปิดที่ 194.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

ตลาดการเงินผิดหวังมาตรการบีโอเจบังคับใช้ปีหน้า หวั่นศก.ญี่ป่นย่ำแย่ต่อ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 12:07:02 น.

ตลาดการเงินทั่วโลกมีปฏิกริยาด้านลบต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เมื่อวานนี้ ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่นๆที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดโครงการ พร้อมกับกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ตามคำเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ

อย่างไรก็ตาม ตลาดผิดหวังอย่างมากที่บีโอเจระบุว่าจะเริ่มซื้อสินทรัพย์ทางการเงินราว 13 ล้านล้านเยนในแต่ละเดือน ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น 2 ล้านล้านเยน ตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2557 เป็นต้นไป ซึ่งความผิดหวังดังกล่าวส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกไม่ขานรับความเคลื่อนไหวของบีโอเจ และยังส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรเข้าทุบตลาดหุ้นญี่ปุ่นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เงินเยนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่ากลุ่มบริษัทส่งออกของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแข็งค่าของเงินเยน

นายสึโตมุ ยามาดะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ kabu.com ในญี่ปุ่นกล่าวว่า "นักลงทุนผิดหวังอย่างมากที่บีโอเจกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% แต่ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงย่ำแย่ไปจนถึงปีหน้า"

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ดอลลาร์เคลื่อนไหวเหนือ 88 เยนเช้านี้ หลังอ่อนค่าในตลาด FX ต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 10:58:23 น.

ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบบนของ 88 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ภายหลังอ่อนค่าในตลาดต่างประเทศเมื่อคืนนี้ เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ที่จัดว่าต่ำกว่าเป้าหมายในตลาด

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 88.67-86.71 เยน เมื่อเทียบกับ 88.65-88.75 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 89.09-89.10 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้

ทางด้านยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.3316-1.3319 ดอลลาร์ และ 118.09-118.11 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3317-1.3327 ดอลลาร์ และ 118.14-118.24 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3360-1.3361 ดอลลาร์ และ 119.03-119.07 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

(เพิ่มเติม) ดอลลาร์เคลื่อนไหวเหนือ 88 เยนเช้านี้ หลังอ่อนค่าในตลาด FX ต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 11:16:59 น.

ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบบนของ 88 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ภายหลังอ่อนค่าในตลาดต่างประเทศเมื่อคืนนี้ เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ที่จัดว่าต่ำกว่าเป้าหมายในตลาด

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 88.67-86.71 เยน เมื่อเทียบกับ 88.65-88.75 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 89.09-89.10 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้

ทางด้านยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.3316-1.3319 ดอลลาร์ และ 118.09-118.11 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3317-1.3327 ดอลลาร์ และ 118.14-118.24 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3360-1.3361 ดอลลาร์ และ 119.03-119.07 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวานนี้

ดอลลาร์เคลื่อนไหวในช่วงแคบเมื่อเทียบเยนในตลาดโตเกียว เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ ภายหลังบีโอเจมีมติออกโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดโครงการและกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ในที่ประชุมกำหนดนโยบายวานนี้ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด

สำหรับการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราในยุโรปเมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 88.37 เยนในช่วงสั้นๆ เนื่องจากมติของบีโอเจในการออกมาตรการผ่อนคลายรอบใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในปีนี้

ขณะที่ยูโรแข็งค่าโดยได้รับแรงหนุนจากรายงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรปจะสามารถต้านทานวิกฤตหนี้ในภูมิภาคและฟื้นตัวขึ้นได้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

สถาบันการเงินระหว่างประเทศเผยเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ยังคงแข็งแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 11:25:00 น.

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เผย เม็ดเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ของภาคเอกชนมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 และคาดว่าจะยังคงมีแนวโน้มดังกล่าวต่อไปอีก

รายงานของ IIF คาดว่า เม็ดเงินไหลเข้าอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2556 สู่ระดับ 1.118 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์จากยอดประมาณการณ์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังคาดว่า เม็ดเงินไหลเข้าในปี 2557 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 1.15 ล้านล้านดอลลาร์

นายชาร์ลส์ ดัลลารา ผู้อำนวยการ IIF กล่าวว่า “ตลาดคลายความวิตกกังวลในเรื่องอนาคตของยูโรโซนลงอย่างชัดเจน" พร้อมแสดงความเห็นว่า การได้เงินมาอย่างง่ายๆ อาจสร้างความเชื่อมั่นที่ไม่ตรงกับความจริง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะหันไปใช้นโยบายการเงินที่รัดกุมเมื่อพิจารณาถึงอัตราว่างงานที่ลดลงในระยะนี้

สถาบันการเงินทั่วโลกกว่า 470 แห่งคาดว่าในปี 2555 ยอดเงินไหลเข้าไปยังประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อยู่ที่ 1.080 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์จากยอดคาดการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2555 แต่ลดลงจากปี 2554 ซึ่งมียอดทั้งหมด 1.084 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ เม็ดเงินไหลเข้าของภาคเอกชนประกอบไปด้วยเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ พอร์ตการลงทุนในหลักทรัพย์ การโอนเงินผ่านสถาบันธนาคารและนอกสถาบันธนาคาร

รายงานดังกล่าวครอบคลุมประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั้งหมด 30 ประเทศ โดยจีนมีสัดส่วนประมาณ 40% ของเม็ดเงินไหลเข้าทั้งหมด ขณะที่ IIF เผยแพร่รายงานดังกล่าวปีละ 3 ครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

Money Daily

 

[ginger 11,058]

Ausiris

 

[ginger 11,058]

รู้ก่อนรวยกว่า

 

[ginger 11,058]

ปธ.แบงก์ชาติเยอรมนีกังวลรบ.ญี่ปุ่นแทรกแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 13:37:21 น.

นายเจนส์ ไวด์มานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลก้าวก่ายกิจการภายในของธนาคารกลาง

สุนทรพจน์ของนายไวด์มานด์ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ธนาคารกลางเยอรมนีได้หยิบยกญี่ปุ่นและฮังการีมาเป็นกรณีตัวอย่างว่า “รัฐบาลใหม่ได้แทรกแซงการดำเนินงานของธนาคารกลางอย่างมาก โดยเรียกร้องให้ใช้นโยบายการเงินในเชิงรุกมากขึ้น และคุกคามต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง"

ในส่วนของตลาดสกุลเงินนั้น เงินเยนได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรนับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า นายชินโสะ อาเบะ จะได้เป็นผู้นำรัฐบาล โดยเขาได้สนับสนุนอย่างชัดเจนต่อนโยบายการเงินที่จริงจังในการทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะที่เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ภายได้แรงกดดันจากนายกรัฐมนตรีอาเบะ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับรัฐบาลโดยระบุว่า ธนาคารได้ตัดสินใจที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายขนานใหญ่ เพื่อจัดการกับภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังและการแข็งค่าของเงินเยน

ทางด้านนายมาซาอากิ ชิรากาวา ผู้กว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่า “แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเป็นการดำเนินงานอย่างมีอิสระของธนาคารกลางญี่ปุ่น"

ขณะที่เยอรมนีกำลังแข่งขันกับญี่ปุ่นในตลาดรถยนต์และตลาดอื่นๆนั้น การแสดงความเห็นของนายไวด์มานด์ส่วนหนึ่งอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางความพยายามของญี่ปุ่นในการทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของกลุ่มผู้ส่งออกญี่ปุ่น

นายไวด์มานด์ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ได้ผ่านช่วงวิกฤตโดยไม่ต้องเข้าสู่สงครามในการทำให้ค่าเงินปรับตัวลง และเขาหวังว่าจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

นักวิเคราะห์คาดดัชนี CPI จีนขยายตัวช้าลงที่ 2% ในเดือนม.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 13:35:11 น.

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตี้ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนักวิเคราะห์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนม.ค. เทียบจากปีก่อนหน้า ขยายตัวช้ากว่าอัตราในเดือนธ.ค. เทียบรายปีที่ 2.5%

รายงานข่าวระบุว่า อัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงนั้น เกิดจากผลกระทบพื้นฐาน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า CPI ในเดือนม.ค. ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายเดือนมีแนวโน้มสูงขึ้นในระดับกลาง เนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรขยายตัวอย่างมากในเร็วๆนี้

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ราคาขายส่งของพืชผักทั้ง 18 ชนิดในเมืองใหญ่ 36 แห่งทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 1.9% เทียบรายสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 14-20 ม.ค. เป็นการเพิ่มขึ้น 12 สัปดาห์ติดต่อกัน

นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ของจีนเมื่อเทียบรายปีมีแนวโน้มขยายตัวในลักษณะรูป N คว่ำในไตรมาสแรกของปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

 

 

สับรัฐสร้างหนี้ทำวินัยการคลังเสีย

 

post today

 

อดีต 3 รมว.คลัง ชี้จุดเสี่ยงเศรษฐกิจ รัฐสร้างหนี้ทำแต่โครงการประชานิยม ปัญหาทุจริตรุนแรง

 

 

ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "โจทย์ท้าทาย อนาคตเศรษฐกิจไทย" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลดำเนินโครงการประชานิยมมากเกินไป ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีพุ่งสูงถึง 63.7% ในปี 2562 และอาจสูงถึง 70-80% ได้ในอนาคต ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะรัฐบาลไม่มีวินัยทางการคลัง มีการหาเสียงด้วยแบบมักง่ายแจกแต่เงิน เช่น นโยบายรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก รวมถึงโครงการรับจำนำที่ทำให้รัฐบาลเสียหายจำนวนมาก

 

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง กล่าวในงานเดียวกันว่า กล่าวว่า รัฐบาลชุดสอบตกในเรื่องของวินัยทางการคลัง โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว และ โครงการพัฒนาระบบน้ำที่ออกเป็นพ.ร.ก.กู้เงิน 3.5แสนล้านบาท ที่เบิกจ่ายเพียง 4,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลควรใช้เงินในงบประมาณปกติ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสการใช้เงิน เช่นเดียวกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลไม่ควรออกเป็นกฎหมายพิเศษ ควรใช้เงินจากงบประมาณเช่นเดียวกัน

ขณะที่ นายธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง กล่าวว่า สิ่งที่ท้าทายของเศรษฐกิจไทยคือความไม่ยั่งยืนของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากระดับหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นจนอาจอยู่ในระดับที่อันตราย ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาระบบข้าราชการที่มีการวิ่งเต้นนักการเมือง ทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆของรัฐบาลที่ผ่านระบบข้าราชการไม่มีประสิทธิภาพ

[ginger 11,058]

ปรับกลยุทธ์

 

[ginger 11,058]

เขียวยกแผง

 

[ginger 11,058]

ชั่วโมงเงิน นาทีทอง 23-1-56 หาได้ใช้เป็น

 

 

[ginger 11,058]

ดัชนี SET ร่วงกว่า 10 จุด กังวลธปท.จัดการบาทแข็ง-ตลท.จับตาหุ้นเก็งกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 15:42:38 น.

ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายวันนี้ร่วงแรงไปกว่า 10 จุด จากแรงขายที่กระจายไปในทุกกลุ่ม โบรกฯ คาดว่านักลงทุนกังวลมาตรการดูแลค่าเงินบาทของแบงก์ชาติ จึงขายออกเพื่อลดความเสี่ยง ประกอบกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มเข้ามาตรวจสอบการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรอย่างเข้มงวดขึ้น

เมื่อเวลา 15.34 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,420.53 จุด ลดลง 13.56 จุด (-0.95%)

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 23 มกราคม 2556

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 15:36:25 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มวัสดุและการเงิน

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 8.70 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,787.80 จุด ส่วนดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 4,812.10 จุด เพิ่มขึ้น 9.20 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้

ดัชนี LSX Composite Index ปิดบวก 9.15 จุด หรือ 0.64% ที่ 1,437.51 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 196,438 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.37 พันล้านกีบ (ราว 172,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดปรับตัวลงในวันนี้ จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ โดยตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่

ดัชนีเวทเต็ดลดลง 14.92 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 7,744.18 จุด

-- ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประเกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเมื่อวานนี้ แต่นักลงทุนผิดหวังที่มาตรการดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้ทันที

ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 222.94 จุด หรือ 2.08% ปิดที่ 10,486.99 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบ 0.81% เนื่องจากนักลงทุนปลีกตัวนอกตลาด ก่อนการเปิดผลประกอบการภาคเอกชนในไตรมาส 4 ของบริษัทรายใหญ่ ขณะที่เงินวอนอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) รูดลง 16.11 จุด ปิดที่ 1,980.41 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 485.7 ล้านหุ้น มูลค่า 4.16 ล้านล้านวอน (3.9 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 500 ต่อ 300

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 5.77 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 2,320.91 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 11.95 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 9,548.31 จุด

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย สวนกระแสตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ ซึ่งปรับตัวในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหม่ในปีหน้า

ดัชนี VN เพิ่มขึ้น 0.52 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 443.37 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดในแดนลบวันนี้ หลังจากหุ้นที่อ่อนไหวต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจปรับตัวลดลง

ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 23.89 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 23,635.10 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 23,540.42-23,710.87 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 8.089 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.044 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

Gold Insinght

 

[Pasaya 499]

ขอบคุณค่ะ

[ginger 11,058]

 

โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ยูโร/ดอลล์, ดอลล์/เยนใน 3, 6 เดือนหน้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 17:19:00 น.

โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือน สู่ระดับ 1.40 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.25 ดอลลาร์ และ 1.33 ดอลลาร์ ตามลำดับ

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดอลลาร์เทียบเยนในช่วง 3, 6 และ 12 เดือนข้างหน้า สู่ระดับ 87 เยน จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 80 เยน

ทั้งนี้ การปรับตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องของญี่ปุ่นเพื่อรับมือกับเงินฝืดที่เรื้อรัง หลังจากที่เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% พร้อมกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ รวมทั้งตัดสินใจดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่คล้ายคลึงกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่นๆที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดโครงการ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกตลาดการเงินทั่วโลกขานรับมาตรการใหม่ดังกล่าว แต่ในเวลาต่อมา ตลาดค่อนข้างผิดหวังที่บีโอเจระบุว่าจะเริ่มซื้อสินทรัพย์ทางการเงินราว 13 ล้านล้านเยนในแต่ละเดือน ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น 2 ล้านล้านเยน ตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2557 เป็นต้นไป

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 23 มกราคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 17:00:00 น.

ทำเนียบขาวเปิดเผยวานนี้ว่า รัฐบาลขานรับข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ออกไปในระยะสั้น และประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว หากมีการนำเสนอเพื่อพิจารณาลงนาม

-- กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า ประเทศจะเสริมศักยภาพของการป้องปรามด้วยนิวเคลียร์ แม้ว่าสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติคว่ำบาตรการยิงจรวด ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเกาหลีเหนือกำลังจะทำการทดอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3

-- องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า อัตราการจ้างงานในกลุ่มประเทศสมาชิก OECD ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2555 ทรงตัวอยู่ที่ 65%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในไตรมาส 4 ปี 2555 เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่พุ่งขึ้น 1.4%

-- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจของประเทศในเดือนม.ค.2556 ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกในรอบ 8 เดือน เนื่องจากสัญญาณที่ดีขึ้นของยอดขายรถยนต์ใหม่ และผลบวกจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคการผลิตของฝรั่งเศสในเดือนม.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 86 จาก 89 ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 100 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตของฝรั่งเศสอยู่ในภาวะตกต่ำ

-- สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยวานนี้ว่า การหารือรอบใหม่ระหว่างอิหร่านและ IAEA จะจัดขึ้นในวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งล่าช้ากว่าที่วางแผนไว้เดิมอยู่ 1 วัน โดย IAEA ไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจนเกี่ยวกับความล่าช้าดังกล่าว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.t

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ขยับลงแตะ 15,710 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 16:53:43 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลดลง 2 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 15,710 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,701.58 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 0.22 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

 

ผลสำรวจเผยชาวจีนนิยมบินไปช็อปสินค้าฟุ่มเฟือยในต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 17:08:00 น.

ผลสำรวจของ KPMG ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีและให้คำปรึกษาระบุว่า มีผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมากขึ้นที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย

จากการสำรวจพบว่า จำนวนชาวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 71% ของผู้ตอบแบบสำรวจในปี 2555 เทียบกับ 53% ในปี 2551

ในบรรดาผู้ตอบแบบสำรวจที่เดินทางไปต่างประเทศนั้น 72% กล่าวว่าพวกเขาไปซื้อสินฟุ่มเฟื่อย อาทิ เครื่องสำอาง นาฬิกา และกระเป๋า เป็นต้น

เมื่อถามถึงการซื้อเครื่องสำอางและน้ำหอม ผู้ตอบแบบสำรวจ 60% เผยว่าฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊าเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับ 43% ในปี 2552 ขณะที่ยุโรปก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็น 20% ในปี 2555 จาก 3% ในปี 2552

นายนิค เด็บแนม ประธานฝ่ายตลาดผู้บริโภคประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ KPMG China เปิดเผยว่า ผลสำรวจย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ชัดเจนของแบรนด์เก่าแก่ในยุโรป โดยสวิสเซอร์แลนด์ได้รับความนิยมสูงสุดด้านนาฬิกาข้อมือ ฝรั่งเศสได้รับความนิยมในด้านเครื่องสำอาง น้ำหอม เครื่องแต่งกาย และกระเป๋า ส่วนเยอรมนีในด้านรถยนต์

นายเด็บแนมเปิดเผยว่า ผลสำรวจอาจทำให้บริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยปรับแบรนด์และกลยุทธ์การตลาดสำหรับลูกค้าชาวจีน

ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวจีนราว 1,200 คนที่มีอายุระหว่าง 20 - 44 ปีในเมืองใหญ่ 24 แห่ง ร่วมตอบแบบสำรวจในครั้งนี้ โดยผู้ตอบแบบสำรวจมีรายได้ครัวเรือนขั้นต่ำที่ 7,500 หยวน (1,190 ดอลลาร์) ต่อเดือนสำหรับเมืองชั้นหนึ่ง และ 5,500 หยวนในเมืองอื่นๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

ขอบคุณค่ะ

โชคดี นะ

 

 

 

In Focus: อังกฤษกับการตัดสินใจว่าจะ อยู่ หรือ ไป จากอียู

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 มกราคม 2556 16:51:43 น.

เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังรับบทหนัก เมื่อถูกดดันจากทั้งภายในพรรคและนอกพรรคให้จัดทำประชามติ เพื่อวัดใจประชาชนว่าต้องการที่จะถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ จากเดิมที่กรีซเคยเป็นประเทศที่ทุกฝ่ายลุ้นกันว่าจะต้องถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของอียู เพราะวิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศ แต่แล้วเรื่องราวก็ผันแปรกลับกลายเป็นว่า อังกฤษ ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มมาเนิ่นนาน กลับอยากจะถอนตัวเสียเอง

สาเหตุที่คาเมรอนอยากจะจัดทำประชามตินั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกดดันของกลุ่มต่อต้านยุโรปในพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลผสมที่มีอำนาจต่อรองมากขึ้น อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจและมาตรการรัดเข็มขัดภายในประเทศเอง ส่งผลให้นายคาเมรอนต้องหาทางออก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปภายใต้ทิศทางที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ

ล่าสุด นายคาเมรอนได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาไทย (23 ม.ค.) ใจความส่วนหนึ่งมีว่า เขาต้องการที่จะเจรจาเรื่องความสัมพันธ์ของอังกฤษกับอียูอีกครั้ง ก่อนที่จะขอให้ประชาชนลงคะแนนเสียง ซึ่งชาวอังกฤษสามารถตัดสินใจได้ว่าจะยอมรับผลการเจรจา หรือออกจากกลุ่มอียู

สะท้อนความเห็นจากอียู

ประเด็นสถานภาพของอังกฤษก่อให้เกิดคำถามและความเห็นตามมามากมาย นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรป กล่าวว่า ผลประโยชน์ของยุโรปควรเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุดอยู่เสมอ อียูไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับความกังวลในระดับประเทศเท่านั้น

ขณะที่นายเวอร์เนอร์ เฟย์แมนน์ รัฐมนตรีคลังออสเตรียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของนายกฯอังกฤษนั้นเต็มไปด้วยปัญหา และเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศสมาชิกอียูอีก 26 ประเทศต่อต้านอังกฤษ การเกลี้ยกล่อมนายคาเมรอนถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ได้แยกเป็นกลุ่มๆ ประการต่อมาเราต้องการผลลัพธ์ที่ควรค่าสำหรับความพยายามของยุโรป

สถานภาพศูนย์กลางการเงินที่สั่นคลอนของลอนดอน

นายแอนเดอร์ส บอร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสวีเดน เป็นห่วงเกี่ยวกับจุดยืนของอังกฤษในสหภาพยุโรป และการถอนตัวจากกลุ่มจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพของลอนดอนในฐานะศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลก

“คงเป็นเรื่องยากที่จะมองว่าลอนดอนยังคงเป็นศูนย์กลางการเงิน หากอังกฤษถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป เพราะเมื่อคุณไม่ได้มีส่วนร่วมในการหารือแล้ว ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะมีความน่าเชื่อถือ" รมว.คลังกล่าว

ผลการศึกษาเมื่อเดือนก.ย.โดยบริษัทที่ปรึกษา Z/Yen Group ระบุว่า ลอนดอนได้รับการจัดอันดับให้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง แซงหน้านิวยอร์กและฮ่องกงในฐานะของศูนย์กลางการเงินที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดของโลก ด้านเดอะซิตี้ยูเค ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ในลอนดอนระบุว่า ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงการปล่อยกู้ของธนาคารข้ามชาติ โดยมีบริษัทต่างๆชาติเข้ามาทำธุรกรรมมากกว่าศูนย์กลางการเงินอื่นๆ

ขณะที่นิค เคลก รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะสร้างความเสียหายให้กับการเติบโตและการจ้างงาน ทางด้านนายเอ็ด มิลิแบนด์ หัวหน้าพรรคแรงงาน กล่าวว่า การจัดประชามติก่อนรู้ผลการเจรจาของประเทศสมาชิกอื่นๆของอียู อาจสร้างความคลุมเครือที่จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจของอังกฤษในอนาคต

ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวกับนายคาเมรอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐให้ความสำคัญกับอังกฤษที่มีความแข็งแกร่งในกลุ่มอียู ซึ่งมีความแข็งแกร่งเช่นกัน

เหลียวหลังความเป็นมาของอังกฤษในอียู

อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรป ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2503 แต่ประธานาธิบดีชาลส์ เดอ โกล ของฝรั่งเศสคัดค้าน ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเอ็ดเวิร์ด ฮีธ ต้องเริ่มการเจรจาต่อรองใหม่ และในที่สุดอังกฤษก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูเมื่อปี 2516

แม้ว่าอังกฤษจะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกไปแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะราบรื่น เมื่อปี 2527 อังกฤษได้แสดงจุดยืนของตนเอง โดยนางมากาเร็ต แทธเชอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษสามารถทำข้อตกลงเพื่อให้อังกฤษได้มาซึ่งผลตอบแทนจากการลงขันด้านงบประมาณ

อังกฤษในยุคต่อมาภายใต้รัฐบาลชุดโทนี่ แบลร์ จากพรรคแรงงาน วางแผนที่จะใช้สกุลเงินยูโรภายหลังปี 2540 แต่แนวคิดดังกล่าวถูกขวางโดยกอร์ดอน บราวน์ รัฐมนตรีคลัง

จนกระทั่งถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ถูกแรงกดดันทางการเมืองจากสมาชิกพรรคและพรรคฝ่ายค้านให้หันมาทบทวนถึงจุดยืนของประเทศว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร

ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากโพลล์สำนักต่างๆ

ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษโดยโพลล์ คอมเรส เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนเพียง 33% ที่จะโหวตให้ประเทศถอนตัวจากอียู ซึ่งลดลงจาก 37% ในเดือนตุลาคม 2554 ส่วนผู้ที่จะโหวตคัดค้านการถอนตัวมีอยู่สูงถึง 42% จากเดิม 37% ขณะที่อีก 25% ยังไม่ตัดสินใจ

ขณะที่โพลล์ของ YouGov Plc ที่มีการตีพิมพ์ในนสพ.ซันเดย์ ไทมส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาระบุว่า ประชาชน 40% ต้องการที่จะอยู่ในกลุ่มอียูต่อไป ขณะที่อีก 34% ต้องการให้อังกฤษถอนตัวออกจากกลุ่ม โดย YouGov Plc ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 17-18 ม.ค.

มุมมองจากผู้บริหารระดับแนวหน้า

เซอร์มาร์ติน ซอร์เรล ประธานบริหารของ WPP Group ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณา มองว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เดวิด คาเมรอน ทำด้วยเหตุผลทางการเมือง มีหลายสิ่งที่เราไม่ชอบในอียู ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการทำงานที่เป็นแบบข้าราชการมากจนเกินไป กฎเกณฑ์และการกำกับดูแลที่น่าขัน รวมทั้งสิ่งที่เราเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว เราต้องการเงื่อนไขที่ดีที่สุด แต่ผมอยากให้เราหารือกันภายในกลุ่ม มากกว่าที่จะออกไปนอกกลุ่มแล้วเข้ามาหารือ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทหลายแห่งมองว่าไม่มีความแน่นอน ก่อให้เกิดความคลางแคลงใจว่า เพราะเหตุใดบริษัทของตนเองจะต้องย้ายโรงงาน สำนักงานการเงิน และสำนักงานใหญ่ ซึ่งในมุมมองของทางธุรกิจและจังหวะเวลาแล้ว เรียกได้ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้

เซอร์มาร์ตินกล่าวได้อย่างน่าสนใจว่า การเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีขึ้นจากอียูนั้น ควรจะมาจากการเจรจากันอย่างเงียบๆกันเองมากกว่าที่จะแสดงออกผ่านทางจุดยืนที่แข็งกร้าว

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าผู้บริหารทุกรายจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการแยกตัวออกจากอียู ลุค จอห์นสัน ประธานของ Risk Capital Partners ซึ่งเป็นกลุ่มไพรเวท อิควิตี้ มองว่า นักการเมืองของอังกฤษไม่สามารถควบคุมภาระที่ดาหน้าเข้ามาด้วยตนเองได้ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราจะต้องควบคุมชะตาของธุรกิจและเศรษฐกิจของเราเอง หากเราต้องการที่จะแข่งขันกับทั่วโลก

อียูไม่ได้ทำหน้าที่ในแบบที่เคยเป็นมา ในแง่ของส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจโดยรวม ในขณะที่อเมริกาใต้ และเอเชีย ได้มีบทบาทมากขึ้นในการผลักดันเศรษฐกิจโลก

นิกกี คิง กรรมการผู้จัดการอีซูซุ ทรัค ยูเค กล่าวเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า การอยู่ในกลุ่มอียูก็เหมือนกับเรากำลังตั้งครรภ์ เราไม่สามารถตั้งครรภ์แบบครึ่งๆกลางๆได้ จริงอยู่ว่ากฎหมายของกลุ่มที่มีผลต่อเรานั้นเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่เราเองก็ต้องการให้ยุโรปช่วยให้การค้าของเราอยู่รอดได้ หากเรายังรักษาไว้ซึ่งความเชื่อมโยงด้านการค้า แต่ไม่ต้องอยู่ภายใต้ระบบการทำงานแบบข้าราชการ คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี

ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับอนาคตของประเทศ เพื่อปูทางให้ชาวอังกฤษได้ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือจะไปจากอียูแล้ว คงจะต้องจับตากันต่อไปกับผลการตัดสินใจของชาวอังกฤษ ซึ่งอย่างเร็วที่สุดคาดว่าการลงประชามติจะจัดขึ้นได้ในช่วงสิ้นปี 2560

อินโฟเควสท์ โดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--