ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เงินออมไหลเข้าลงทุนทองคำ คาดวอลุ่มซื้อขายปีนี้แตะแสนล้าน

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2556 09:35 น.

blank.gif

 

TabOver.gif

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

556000005724701.JPEG

blank.gif blank.gif

 

"ออสสิริส" คาดวอลุ่มซื้อขายทองคำปีนี้แตะแสนล้าน หลังคนแห่ซื้อในช่วงราคาลง เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทองคำแท่ง 1 บาท เพื่อตอบรับกระแสความต้องการซื้อเพิ่ม ล็อตแรกประมาณ 1-1.5 พันชิ้น คาดขายเกลี้ยงใน 1 เดือน

 

นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส กรุ๊ป เปิดเผยว่า ประเมินว่าแนวโน้มมูลค่าการซื้อขายทองคำของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นและกลับไปอยู่ในระดับ 1 แสนล้านบาทได้ หลังจากในปีที่ผ่านมา วอลุ่มการซื้อขายลดลง เนื่องในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำปรับลดลงแรง ทำให้มียอดซื้อทองคำเข้ามามาก โดยบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ทองคำแท่งขนาด 1 บาท ที่มีใบรับประกัน (1 Bath Bar Certificate) รองรับความต้องการซื้อทองที่เพิ่มขึ้น

 

"ราคาทองคำที่ลดลงมากในช่วงเดือนเม.ย.ทำให้คนหันมาซื้อทองคำสะสม และซื้อเพื่อลงทุนมากขึ้นทำให้ทองคำรูปพรรณตามร้านขายทองขาดตลาด จึงเป็นจังหวะดีที่บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ตัวนี้มารองรับในช่วงกลางปีนี้ ล็อตแรกประมาณ 1-1.5 พันชิ้น คาดว่าจะขายหมดภายใน 1 เดือน โดยหากได้รับการตอบรับจำนวนมาก บริษัทก็สามารถผลิตเพิ่มได้ เพราะโรงงานมีกำลังการผลิตประมาณ 200-300 ชิ้นต่อเดือน"

 

ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายของปีแสนล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่ 90% เป็นทองคำแท่งขนาด 5 บาท ส่วนทองคำ 1 บาท คาดปีนี้จะมียอดขายคิดเป็น 20% ของยอดขายทอง 5 บาท โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สนใจเริ่มต้นลงทุนซื้อขายทองคำ หรือซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญ และซื้อเก็บสะสมไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งทุกชิ้นมีการรับรองมาตรฐาน และมีซีเรียลนัมเบอร์

 

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำช่วงสั้น 1-2 เดือนนี้ มองว่า อยู่ในช่วงขาลง แต่ในระยะใกล้คงไม่กลับไปสู่จุดต่ำสุดเดิม แต่ในระยะกลางไม่แน่ ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดราคาทองคำช่วงครึ่งปีหลังมีแนวต้านที่ 1,550-1650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะมีแนวรับอยู่ที่ 1,250-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านกลยุทธ์ลงทุนช่วงที่ราคาทองคำผันผวน แนะนำให้ซื้อขายไว ทำกำไรระยะสั้น รวมถึงต้องมีวินัยในการซื้อขาย โดยควรตั้งจุดหยุดขายทุนไว้ไม่เกิน 2-3% หรือประมาณ 400-600 ล้านบาท ของราคาปัจจุบัน ส่วนลูกค้าที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อการออม แนะนำให้ซื้อเก็บสะสม

 

ขณะที่นายธนสิน กลีบลำเจียก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ช่วงที่ทองคำราคาผันผวนในช่วงขาลง ทำให้มีคนติดทองจำนวนมาก นักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ที่มีต้นทุนสูง แต่ยังไม่ต้องการขาย จึงควรใช้สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือโกลด์ฟิวเจอร์สในการบริหารความเสี่ยง ด้วยการเปิดสถานะ Short หรือขายล่วงหน้า เพื่อล็อคต้นทุน แต่สำหรับนักลงทุนที่มีต้องการออมทอง แนะนำให้ซื้อเก็บ

 

"2-3 เดือนที่ผ่านมา มีลูกค้าของบริษัท ปรับพอร์ตการลงทุน จากโกลด์ฟิวเจอร์ ไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิง SET 50 หรือ SET 50 Futures และ Single Stock Futures จากราคาทองคำที่อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ปัจจุบันมีค่าคอมมิชชั่นของทั้ง 2 ตัวเป็น 20% ของสินค้าฟิวเจอร์สทั้งหมด และมีจำนวนบัญชีเพิ่มเป็น 30% ของบัญชีที่มีการซื้อขายทั้งหมด 800 บัญชี ตั้งเป้าปีนี้จะเพิ่มเป็น 50%"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ขายหน้า เว็บไซต์สำนักนายกฯถูกแฮ็ก ขายหน้า เว็บไซต์สำนักนายกฯถูกแฮ็ก เขียนข้อความยอมรับเป็นนายกฯที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย มท.อัดแบงก์ชาติรับผิดชอบค่าบาทแข็ง "จารุพงศ์" อัดแบงก์ชาติต้องรับผิดชอบค่าเงินบาทแข็ง ลั่นโทษรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ กทม.จี้กลุ่มต้านพระวิหารออกก่อน13พ.ค. เครือข่ายต้านคดีเขาพระวิหารยึดสนามหลวง กทม.ขีดเส้นออกก่อนงานพืชมงคลวันที่13พ.ค.จี้ย้ายชุมนุมสวนสราญรมย์ ยอดส่งออกจีนเดือนเม.ย.ดีเกินคาด บราซิลครองผอ.ดับบลิวทีโอ ม็อบกวป.ถึงหน้าสภา ตั้งเวทีโจมตีศาลรธน. สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 8 พ.ค.56 vdo.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MTS GOLD

นายโบห์นเนอร์ กล่าวเกี่ยวกับประเด็นเพดานหนี้ว่า ให้มีการชำระเงินของจีนเป็นอันดับแรกก่อนการทหาร

 

ทั้งนี้ นายโบห์นเนอร์ได้ถูกถามระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เกี่ยวกับการลงมติข้อกฎหมาย Full Faith and Credit Act ในกรณีที่หนี้สหรัฐจะชนระดับเพดานหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะชำระเพียงเงินต้นและดอกเบี้ยให้ผู้ที่ถือพันธบัตรก่อนที่จะชำระหนี้ก้อนอื่นๆ ส่วนการชำระเงินด้านทหารผ่านศึก ประกันสุขภาพ และความมั่นคงอาจจะต้องถูกแบ่งส่วนกันจากเงินที่มีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย

 

จากการคาดการณ์ปัจจุบัน คาดว่า หนี้สหรัฐจะไม่ชนระดับเพดานหนี้จนกว่าจะถึงเดือน ต.ค. ซึ่งรัฐสภาและทำเนียบขาวจะใช้เวลาหลายเดือนในการหารือ รวมถึงประเด็นทางการคลังอื่นๆด้วย

 

ที่มา : Huffingtonpost

 

263159_607461779264408_1590346410_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติฟิลิปปินส์ยอมรับราคาทองคำในตลาดโลกที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีส่งผลกระทบต่อการถือครองทองคำสำรองของฟิลิปปินส์ แต่ยังยืนยันไม่มีแผนนำทองคำสำรองออกขาย

รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงมะนิลาระบุว่า นายอามันโด เอ็ม. เตตังโก จูเนียร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (Bangko Sentral ng Pilipinas : BSP) ออกมายอมรับว่าการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำในตลาดโลก มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อทุนสำรองระหว่างประเทศของฟิลิปปินส์ เช่นเดียวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธนาคารกลางของหลายประเทศ แต่ยังคงยืนยันว่าการถือครองทองคำจะยังคงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของธนาคารฯ ต่อไป แต่จะต้องมีการ “ประเมินความสูญเสีย” ที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า กระทบต่อความมั่นคงทางการคลังของประเทศมากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการธนาคารกลางของแดนตากาล็อกไม่ยอมเปิดเผยว่าฟิลิปปินส์ประสบกับความสูญเสียมากน้อยเพียงใดจากมูลค่าของทองคำที่ลดลง

ทั้งนี้ นายเตตังโก จูเนียร์ ซึ่งเข้ารับหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2005 ในสมัยประธานาธิบดีหญิงกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย ยืนยันว่า ฟิลิปปินส์ไม่มีแผนนำทองคำสำรองของตนที่มีมูลค่ามากกว่า 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 291,823 ล้านบาท) ออกขายอย่างแน่นอน แม้ราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาจะร่วงลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีก็ตาม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

In Focus: หนึ่งทศวรรษ “นิคมอุตสาหกรรมแกซอง จากจุดเริ่มต้นอันเรืองรองสู่อนาคตที่ริบหรี่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 14:50:00 น.

แม้จนถึงขณะนี้ สงครามบนคาบสมุทรเกาหลียังไม่บังเกิดขึ้นตามคำขู่ของเกาหลีเหนือ แถมยังมีรายงานข่าวล่าสุดว่า โสมแดงได้ถอนขีปนาวุธ Musudan จำนวน 2 ลูก ออกจากฐานปล่อยจรวดทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

หนึ่งในหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังไม่ “ญาติดี" กัน ก็คือการที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง (Kaesong Industrial Complex) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สุดท้ายของความร่วมมือระหว่างโสมขาวและโสมแดงยังคงถูกปิดตายเป็นเมืองร้างอยู่ในขณะนี้emnb_18_18900.gif?990261629emnb_1_370236.gif

จุดเริ่มต้นอันเรืองรอง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2546 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน เจ้าหน้าที่หลายร้อยคนจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มารวมตัวกันใกล้กับเมืองเก่านามว่า แกซอง เพื่อร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ร่วมกันบนพรมแดนของเกาหลีเหนือ

นิคมอุตสาหกรรมแกซองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโซลประมาณ 70 กิโลเมตร โดยมีการสร้างทางหลวงแห่งใหม่ ทำถนนลาดยาง และเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านเขตปลอดทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนที่แบ่งแยกเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ออกจากกันนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลี เพื่อนำวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเข้าสู่นิคมฯ และขนส่งสินค้าที่ผลิตแล้วออกจากนิคมฯเพื่อไปจำหน่ายในเกาหลีใต้ นิคมอุตสาหกรรมแกซองได้รับการจ่ายกระแสไฟฟ้าจากเกาหลีใต้

ชุง มง-ฮุน ประธานกลุ่มบริษัทฮุนได กล่าวถึงโครงการใหม่เอี่ยมอ่องในขณะนั้นว่า เป็น “สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองเกาหลี" ขณะที่นายรี จอง-ฮยอก จากทางฝั่งเกาหลีเหนือกล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมแกซองสะท้อนถึงความปรารถนาของเกาหลีเหนือที่จะได้กลับมาร่วมชาติกับเกาหลีใต้

โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากทางฝั่งเกาหลีใต้ ดำเนินการก่อสร้างโดยฮุนได อาซาน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของฮุนได กรุ๊ป และโคเรีย แลนด์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทของเกาหลีใต้เช่นกัน และแม้จะเป็นการร่วมลงทุนโดยเอกชน แต่รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศก็มีส่วนร่วมในการริเริ่มโครงการนี้

โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแบบจำลองความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งยังไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเพื่อสิ้นสุดสงครามเกาหลี (ปี 2493-2496) อย่างเป็นทางการ

นิคมอุตสาหกรรมแกซองเป็นเขตปลอดภาษี และไม่มีการวางกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้สกุลเงินต่างประเทศหรือบัตรเครดิต อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้ตราประทับหนังสือเดินทาง หรือวีซ่า เพื่อเข้าไปในนิคมฯ

ปัจจุบันมีบริษัทอยู่ 123 แห่งจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์ ที่เปิดดำเนินการอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง บริษัทที่ตั้งอยู่ในนิคมฯได้รับการยกเว้นภาษีและได้รับมาตรการจูงใจอื่นๆจากทางการเกาหลีใต้ เช่น เงินเดือนสูง สวัสดิการสังคม และการรับประกันความเสี่ยงทางการเมือง สินค้าทั้งหมดที่ผลิตในนิคมฯ ตั้งแต่หม้อหุงอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า และนาฬิกา ถูกส่งออกไปจำหน่ายในเกาหลีใต้

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุว่า ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทเหล่านี้ได้ว่าจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือ 53,448 คน และชาวเกาหลีใต้ 786 คน นิคมอุตสาหกรรมแกซองสามารถผลิตสินค้าคิดเป็นมูลค่า 470 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และนับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการจนถึงปัจจุบัน นิคมฯผลิตสินค้าคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ จึงนับได้ว่านิคมอุตสาหกรรมแกซองเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดระหว่างสองเกาหลี

ยาง จู มิน ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซลกล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมแกซองทำกำไรให้เกาหลีเหนือถึง 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่เกาหลีใต้ได้มากกว่า 4 เท่า

หากการพัฒนาโครงการสำเร็จลุล่วงตามแผน นิคมอุตสาหกรรมแกซองจะมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของเกาะแมนฮัตตัน และจะเป็นที่ตั้งของย่านช็อปปิ้งและที่อยู่อาศัย รวมถึงการท่องเที่ยวและสันทนาการ

สายสัมพันธ์เศรษฐกิจบนเส้นทางขัดแย้งทางการเมือง

นอกจากเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ 2 ฝ่ายแล้ว กล่าวคือบริษัทของเกาหลีใต้ได้อาศัยที่ดินและแรงงานราคาถูกของเกาหลีเหนือ ส่วนเกาหลีเหนือก็ได้อานิสงส์เป็นการปฏิรูปเศรษฐกิจ การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแกซองยังมีจุดมุ่งหมายทางการเมืองในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ

แต่ดูเหมือนว่า เป้าหมายดังกล่าวจะเอนเอียงไปในทิศทางตรงกันข้ามเสียมากกว่า เมื่อนิคมอุตสาหกรรมแกซองกลายเป็นเหยื่อของความสัมพันธ์ที่ลุ่มๆดอนๆระหว่างสองเกาหลี

ในปี 2552 ทางการเกาหลีเหนือได้ออกกฎระเบียบหลายข้อเกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ภายหลังจากที่เกาหลีใต้และสหรัฐดำเนินการฝึกซ้อมทางการทหารร่วมกัน นิคมฯถูกปิดไม่ให้เข้า-ออกนานหลายวัน ส่งผลให้แรงงานชาวเกาหลีใต้ติดแหง็กอยู่ในนิคมฯ อย่างไรก็ดี กฎระเบียบดังกล่าวได้รับการผ่อนคลายในภายหลัง และเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจกลับมาเปิดชายแดนอีกครั้ง

ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีจะปะทุขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยเหตุที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์จากนิคมฯแห่งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของนิคมอุตสาหกรรมแกซองจึงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างโสมแดงและโสมขาว

โดยโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแกซองยังคงเปิดดำเนินการผลิตในช่วงเวลาที่สองประเทศกำลังฮึ่มๆกันอยู่ ได้แก่ ในปี 2549 ที่เกาหลีเหนือฝ่าฝืนมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ต่อมาในปี 2552 เกาหลีเหนือยิงตอร์ปิโดโจมตีเรือรบ Cheonan ของเกาหลีใต้ จนเป็นเหตุให้เรือล่มและมีลูกเรือเสียชีวิตถึง 46 คน และในช่วงปลายปีเดียวกัน เกาหลีเหนือได้ยิงปืนใหญ่ไปตกบนและรอบๆเกาะยอนเปียง ซึ่งคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ไปอีก 4 ราย

สื่อเกาหลีใต้ตีความว่า การที่เกาหลีเหนือไม่ยอมปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซองในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงต่างๆนั้น ก็เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตเงินสกุลหลัก (hard currency) ที่สำคัญยิ่งของเกาหลีเหนือ โดยเชื่อกันว่า ค่าแรงและค่าธรรมเนียมอื่นๆที่บริษัทเกาหลีใต้จ่ายให้กับแรงงานชาวเกาหลีเหนือในนิคมฯแห่งนี้ได้กลายสภาพเป็นเงินทุนที่ผู้นำเกาหลีเหนือนำไปใช้จ่ายในโครงการผลิตอาวุธต่างๆ

อนาคตที่ริบหรี่

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดครั้งล่าสุดนี้ ดูเหมือนว่า เกาหลีเหนือซึ่งเคยแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อข้อครหาข้างต้น ได้ยอมกัดฟันตัดเส้นเลือดของตนเอง

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เกาหลีเหนือได้เรียกคนงานทั้งหมดออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อประท้วงการฝึกซ้อมทางการทหารประจำปีร่วมกันระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้

เกาหลีใต้พยายามใช้ไม้นวมโดยยื่นข้อเสนอให้เกาหลีเหนือหันหน้ามาเจรจาเพื่อทำให้การดำเนินงานในนิคมอุตสาหกรรมแกซองกลับคืนสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือเบือนหน้าหนีเกาหลีใต้อย่างไม่ใยดี ส่งผลให้ประธานาธิบดีปัก กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ตัดสินใจถอนคนงานชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดออกจากนิคมฯเช่นกัน พร้อมกับเตรียมมาตรการรองรับความสูญเสียในด้านต่างๆให้กับบริษัทที่ตั้งอยู่ในนิคมฯ ซึ่งรวมถึงการให้เงินกู้ฉุกเฉิน 3 แสนล้านวอน (273 ล้านดอลลาร์) แก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการปิดนิคมฯ

รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า อนาคตของนิคมอุตสาหกรรมแกซองนั้นขึ้นอยู่กับท่าทีของเกาหลีใต้

คณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติ (NDC) ระบุในแถลงการณ์ว่า หากรัฐบาลเกาหลีใต้ปริวิตกเกี่ยวกับอนาคตของนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เกาหลีใต้ก็ควรยุตินโยบายที่เป็นปรปักษ์ทั้งหมด และยุติการฝึกซ้อมทางการทหารที่เป็นการยั่วยุเกาหลีเหนือ

 

"ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเล่นเกมวัดใจ (Game of Chicken) กันอยู่ โดยทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างก็ไม่แสดงทีท่าว่าจะยอมลงให้อีกฝ่าย" ศาสตราจารย์ลิม อึล-ชูล จากมหาวิทยาลัยคยองนัมกล่าวกับบีบีซี

เหตุการณ์ล่าสุดนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งวิกฤตที่สุดสำหรับนิคมอุตสาหกรรมแกซอง นับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2547 และอาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของความสัมพันธ์สองเกาหลี หากยังไม่มีทางออกที่เป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูดีส์คาดยอดขายบ้านในจีนชะลอตัวลง หลังรัฐบาลออกมาตรการควบคุม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 15:37:31 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ชี้การขยายตัวของยอดขายและราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะชะลอตัวลง แต่แนวโน้มของตลาดอสังหาฯจะยังมีเสถียรภาพหลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการควบคุม

กลุ่มนักวิเคราะห์ระบุในรายงานว่า การขยายตัวของยอดขายจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 10% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากระดับปีที่แล้ว ในขณะที่มีการใช้มาตรคุมเข้มด้านการซื้อบ้าน

การขยายตัวของเขตเมืองและการให้สินเชื่อเพื่อการจำนองสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก จะช่วยหนุนดีมานด์และปริมาณการขาย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมี.ค. อดีตนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าได้สั่งให้ธนาคารกลางเพิ่มเงื่อนไขในการจ่ายเงินดาวน์สำหรับการขอสินเชื่อจำนองครั้งที่ 2 ในเมืองที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก และแจ้งให้หน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่นให้จำกัดการซื้อบ้าน และตั้งเป้าหมายในการควบคุมราคาอสังหาฯemnb_18_18900.gif?1898772443emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ปชป.ประชดประเทศเดียวในโลกม็อบหนุนรัฐบาล ปชป. ประชดประเทศเดียวในโลกที่มีม็อบหนุนรัฐบาล จวกละเลยความเดือดร้อนประชาชน อดีตผู้แทนการค้าบราซิลนั่งผอ.การค้าโลก นายโรแบร์โต้ อาเซเวโด้ อดีตผู้แทนการค้าของบราซิล ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ขององค์การการค้าโลก เอ็นจีโอผ่ากู้2.2ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญ กป.อพช.ผ่าพ.ร.บ.กู้เงิน2.2ล้านล้านชี้ชัดผิดรัฐธรรมนูญ หวั่นกระทบชาวบ้านถูกเวนคืนที่ดิน ตำรวจถอนกำลังออกจากศาลรธน. ปตท.-บางจากขึ้นเบนซิน-โซฮอล์40 สต. หนุน'กิตติรัตน์'ถกผู้ว่าธปท.แก้ค่าบาทแข็ง อนุดิษฐ์สั่งสอบด่วนหลังเว็บโดนแฮ็ก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

248003_502329723156149_2015991930_n.jpg

นานแค่ไหนจึงลบเหลี่ยม

กลมมน หลากรูป ต่างสีสันต์

 

โชคดี สุขกาย สบายใจนะคะ

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 17:00:00 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่าสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นในอัตรา 3.4% ต่อปี ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอัตรา 8% ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอลง

-- สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนเพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดการนำเข้าขยายตัว 16.8% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้า 1.816 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

 

emnb_1_370236.gif

-- สมาคมผู้นำเข้ายานยนต์ของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่นำเข้าในญี่ปุ่น รวมทั้งรถยนต์ของผู้ผลิตญี่ปุ่นที่ผลิตในต่างประเทศ ทะยาน 35.5% ในเดือนเม.ย.จากเมื่อหนึ่งปีก่อน สู่ระดับ 20,596 คัน

-- สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานในวันนี้ว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศเดือนเม.ย.ของจีนขยายตัว 15.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าเดือนมี.ค.ที่ระดับ 12.1%

-- โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ผลกำไรสุทธิของโตโยต้า กรุ๊ปในปีธุรกิจที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. ทะยานขึ้น 239.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 9.6216 แสนล้านเยน เนื่องมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง และยอดขายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ และเอเชีย

-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยว่า ดันอับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Aa3 ของพันธบัตรรัฐบาลจีนซึ่งได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ จะไม่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในปัจจุบัน

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ชี้การขยายตัวของยอดขายและราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะชะลอตัวลง แต่แนวโน้มของตลาดอสังหาฯจะยังมีเสถียรภาพหลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการควบคุม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

นักวิเคราะห์คาดส่งออกจีนชะลอการขยายตัวในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 16:02:00 น.

นายจาง จื้อเหว่ย นักวิเคราะห์จากโนมูระ ซิเคียวริตีส์คาดการณ์ว่า การส่งออกของจีนจะชะลออัตราการขยายตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อมาตรการควบคุมกระแสการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อเก็งกำไร ซึ่งทางการได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ เริ่มก่อให้เกิดผลที่ชัดเจน

สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนเม.ย. ขยายตัว 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 16.8% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าดีกว่าคาดที่ 1.816 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับยอดขาดดุล 884 ล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.emnb_18_18900.gif?890061845emnb_1_370236.gif

นายจางกล่าวว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออกในระดับสูงอาจสะท้อนให้เห็นถึงรายงานการส่งออกที่เกินความเป็นจริง และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการค้าของประเทศกำลังกระเตื้องขึ้น

สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน (SAFE) ระบุว่า จะเดินหน้าควบคุมการไหลเข้าของเงินทุน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความไม่สอดคล้องกันระหว่างสินค้าและกระแสเงินสด ตลอดจนความผิดพลาดที่เพิ่มขึ้นในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเดินสะพัด โดย SAFE จะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 8 พฤษภาคม 2556 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 16:51:37 น.

กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,448.28—1,458.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,410 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 230 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,640 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 695 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 6 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 701 บาทemnb_18_18900.gif?2089021411emnb_1_370232.gif

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น.ของวันที่ 08/05/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 9 พฤษภาคม 2556

สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่ามูลค่าการค้าต่างประเทศเดือนเมษายนของจีนขยายตัว 15.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าเดือนมีนาคมที่ระดับ 12.1% มูลค่าการนำเข้าและส่งออกโดยรวมในเดือนเมษายนอยู่ที่ 3.5596 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้รายงานของสำนักงานศุลกากร ระบุว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าต่างประเทศขยายตัวทั้งสิ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 8.36 ล้านล้านหยวน ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนเป็นแรงหนุนในตลาดทองคำ เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆของโลก ประกอบกับ ราคาทองคำได้ปัจจัยบวกจากยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นเกินคาด และความต้องการพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสที่อยู่ในระดับสูงในการประมูล แต่อย่างไรแล้วตลาดทองคำแทบไม่มีความเชื่อมั่นที่จะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเงินลงทุนยังคงหลั่งไหลออกจากกองทุน ETF ทองคำ ซึ่งกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำใหญ่ที่สุดในโลกได้ปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาณดังกล่าวแสดงถึงแรงซื้อที่ชะลอตัวลง ขณะที่นายจอห์น พอลสันมหาเศรษฐีชื่อดัง ในธุรกิจเฮดจ์ฟันด์มียอดขาดทุนอย่างมากในกองทุนทองคำเดือนเมษายน โดยกองทุนทองคำของนายจอห์น พอลสันมียอดสูญเสีย 27 % ในเดือนเมษายน และส่งผลให้ยอดสูญเสียของกองทุนนี้อยู่ที่ 47 % นับตั้งแต่ต้นปีนี้ยังคงสร้างมุมมองเชิงลบต่อภาพรวมในตลาดทองคำเบื้องต้นทางวายแอลจีประเมินแนวรับบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้จะเกิดแรงดีดตัวขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,472-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนได้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะอ่อนลงสู่แนวรับถัดไปบริเวณถัดไปที่บริเวณ 1,427 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,472-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมาเพื่อสร้างฐานของราคา โดยประเมินแนวรับที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวหากราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,427 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดดีดตัว

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,440 (20,000บาท) 1,427 (19,820บาท) 1,417 (19,680บาท)

แนวต้าน 1,472 (20,450บาท) 1,480 (20,560บาท) 1,494 (20,760บาท)

GOLD FUTURES (GFM13)

แนวรับ 1,440 (20,190บาท) 1,427 (20,010บาท) 1,417 (19,870บาท)

แนวต้าน 1,472 (20,640บาท) 1,480 (20,750บาท) 1,494 (20,950บาท)

SILVER FUTURES (SVM13)

แนวรับ 23.45 (685บาท) 23.10 (674บาท) 22.85 (667บาท)

แนวต้าน 24.20 (707บาท) 24.45 (714บาท) 24.90 (727บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...