ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ชี้3จุดเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจไทยวิกฤต

  • 14 กรกฎาคม 2556 เวลา 06:40 น. post today

 

99925C3344B94B6AAF4581511A56453C.jpg

 

“โฆสิต” ชี้ ขาดดุลเดินสะพัด หนี้ครัวเรือนพุ่ง โครงสร้างประชากร

เป็น 3 จุดเสี่ยงเศรษฐกิจไทย

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ กล่าวสัมมนาเรื่อง “มุมมองอนาคต ความเสี่ยง โอกาสเศรษฐกิจไทย” จัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ปัจจัยเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ ที่ในช่วง 5 เดือนแรก ไทยขาดดุลมากกว่า 3,145 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนต่อรายได้ครัวเรือนอยู่ที่ 81.9% และโครงสร้างประชากรของไทยที่จะมีคนสูงอายุเกิน 65 ปี ในสัดส่วน 30% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

ทั้งนี้ หากไทยยังขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง อัตราหนี้ภาคครัวเรือนต่อรายได้ครัวเรือนสูงขึ้น และประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญเรื่องโครงสร้างประชากร จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยแย่ แต่ระบุไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

“แม้ว่าประเทศไทยจะเกิดจุดเสี่ยงขึ้นมาในประเทศ 3 ด้าน ทั้งหนี้ภาคครัวเรือนสูงมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วง 5 เดือนติดลบ และยังไม่มีการวางโครงสร้างประชากรของประเทศ แต่ผมมั่นใจว่าในขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังจับตาหนี้ภาคครัวเรือนอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลก็ฟังข้อมูล มีมาตรการรับมือ ประเทศไทยคงไม่กลับไปเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนปี 2540”นายโฆสิต กล่าว

ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรมีมาตรการเสริมออกมาดูแลเศรษฐกิจไทย นอกเหนือจากมาตรการทางการเงินและการคลัง ที่ครึ่งปีหลังเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจไทยแผ่วลง โดยที่ผ่านมารัฐบาลใช้มาตรการทางการเงินและการคลังสูงมาก เห็นได้จากในช่วง 12-13 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลกู้เงินเพิ่มขึ้น 5-6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงและน่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เติบโตสูงตามไปด้วย แต่พบว่าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยเติบโตไม่สูงมากนัก

“เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะเติบโตแบบแผ่วลงในทุกส่วน ยกเว้นภาคการท่องเที่ยวที่ดีอยู่ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ทำให้เศรษฐกิจโตสูงขึ้น เศรษฐกิจเกิดสัญญาณแผ่ว ไม่รู้ว่าทำไมทั้งที่รัฐบาลใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก โดยคาดว่าปีนี้จีดีพีจะเติบโต 4%”นายโฆสิต กล่าว

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างประชากรของไทยก็มีความสำคัญสูงมาก เพราะเป็นการวางแผนโครงสร้างประชากรของประเทศระยะยาว โดยในอีก 30 ปี หรือในปี 2583 ประชากรอายุ 65 ปี จะมีสัดส่วน 30% ของประชากรทั้งประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% จึงต้องวางแผนทั้งด้านอุตสาหกรรมและการเกษตรที่จะพึ่งพาการใช้แรงงานสูงไม่ได้

“จะเห็นว่าการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนาประชากรของไทย เพื่อเพิ่มการศึกษาให้มีคุณภาพทั่วถึง และมีเรื่องคุณธรรม มีความสำคัญมากกว่าการลงทุนสร้างระบบสาธารณูปโภค เช่น รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น”นายโฆสิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ ธปท. พบว่า อัตราหนี้สินต่อรายได้ครัวเรือนของคนไทย ปี 2555 อยู่ในระดับ 81.9% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยบางส่วนมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น นโยบายรถยนต์คันแรก เป็นต้น ที่ทำให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศจำนวนมาก ขณะที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดก็เป็นตัวเลขที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญมากเช่นกัน

สำหรับงานสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเมือง : คุณภาพชีวิต

วันที่ 14 กรกฎาคม 2556 09:00

 

เตือนภัย...ดักฟัง โทรมือถือ

โดย : ปกรณ์ พึ่งเนตร

news_img_517134_1.jpg

เตือนภัย...ดักฟังโทรศัพท์มือถือ คลิปเสียงหลุด กับ 4 ความเป็นไปได้

คลิปเสียงชาย 2 คนคุยกันที่หลุดออกมาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทิวบ์จนกลายเป็นประเด็นฮือฮาไปทั้งประเทศ (รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน) ทั้งยังถูกขยายผลทางการเมืองลุกลามไปถึงในกองทัพนั้น

หากเราก้าวข้ามประเด็นที่บางฝ่ายกำลังหยิบมาทะลวงฟันเปิดแผลทางการเมืองกันอยู่ แล้วไปพิจารณาถึงเรื่องมาตรฐาน "ความปลอดภัย" และ "ความเป็นส่วนตัว" ของการสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์มือถือทั้งในบ้านเราและในโลกปัจจุบันนี้ จะพบว่ามีประเด็นที่น่าห่วงใยอยู่ไม่น้อย

ในรายการบิสซิเนส ทอล์ค ซึ่งออกอากาศทาง "กรุงเทพธุรกิจทีวี" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์ถึงปัญหาดังกล่าวเอาไว้อย่างน่าสนใจ ในตอนที่ชื่อว่า "คลิปเสียงถั่งเช่า"

นายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญระบบคอมพิวเตอร์และความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ประธานศูนย์ฝึกอบรมระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และความปลอดภัยข้อมูล หนึ่งในผู้ร่วมรายการ กล่าวว่า หากพิจารณาเฉพาะประเด็นที่เป็นสาเหตุทำให้ "เสียงสนทนา" หลุดออกมาสู่บุคคลที่สาม คิดว่ามีความเป็นไปได้อย่างน้อยๆ 4 ซีนาริโอ คือ

1.มือถือของคู่สนทนาท่านใดท่านหนึ่งลืมวางสาย อาจจะกดวางไม่สนิท หรือกดโทรออกโดยไม่รู้ตัว อาจจะเพราะมือไปโดน ทำให้บุคคลที่สามซึ่งอยู่ปลายสายของโทรศัพท์ที่ลืมกดวางหรือโทรออกโดยไม่รู้ตัวนั้น ได้ยินเสียงสนทนาของคู่สนทนา นั่นหมายความว่าคู่สนทนานั่งอยู่ด้วยกัน หรืออยู่คนละที่กันแต่ใช้โปรแกรมสไกป์ในการพูดคุย อาจจะสไกป์ผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่งก็ได้

ข้อสังเกตของความเป็นได้ข้อนี้คือ เสียงในคลิปที่หลุดออกมาจะดังไม่เท่ากัน คือฝ่ายเจ้าของโทรศัพท์จะเสียงชัดกว่า ขณะที่คู่สนทนาซึ่งนั่งหรืออยู่ไกลออกไปจะได้ยินเสียงเบากว่า

ส่วนที่มีข่าวว่าบุคคลที่สามที่โทรเข้าไปคือ "นักข่าว" แล้วอัดคลิปเสียงมาแฉนั้น นายปริญญา เห็นว่า ไม่น่าเป็นไปได้ และหากเขาเป็นนักข่าวก็จะไม่ทำแน่นอน เพราะถูกจับได้ง่ายมาก เจ้าของเครื่องโทรศัพท์สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาหรือเจ้าของเครื่องโทรออกไปในเวลานั้น เรียกว่าฆ่าตัวตายได้เลย ความเป็นไปไม่ได้ในแง่ของนักข่าวเป็นคนอัดคลิปจึงค่อนข้างต่ำ

2.มือถือโดนโทรจัน หรือโดนไวรัส หรือมัลแวร์ วิธีการนี้เจ้าของเครื่องไม่ได้ยินยอม และไม่ได้พลั้งเผลอ แต่เกิดจากความจงใจของบุคคลที่สาม ถือเป็นเทคโนโลยีของผู้ที่ทำงานด้านข่าวกรองที่ก้าวหน้ามากๆ มีความเป็นไปได้ 3-4 แบบ คือ

- วางมือถือเอาไว้ เปิดเครื่องโดยไม่ได้ใส่พาสเวิร์ด จู่ๆ ก็มีคนหยิบไป พิมพ์นิดหน่อยไม่เกิน 2-3 นาทีก็เรียบร้อย โทรศัพท์เครื่องนั้นจะไม่ใช่ของเจ้าของเครื่องเดิมอีกต่อไป เพราะบุคคลที่สามจะดูได้หมด ไม่ว่าจะโทรเข้าโทรออก โทรไปหาใคร รูปภาพที่ถ่ายเอาไว้หรือที่โหลดมา เรียกว่าทุกเรื่อง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับแพลตฟอร์มของโทรศัพท์มือถือนั้นๆ ด้วย ซึ่งปัจจุบันมี 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ โนเกีย แบล็คเบอร์รี ไอโฟน และแอนดรอยด์ ถ้าเป็นแอนดรอยด์ก็ลงได้เลย ถ้าแบล็คเบอร์รีหรือโนเกีย เครื่องต้อง allow ถึงจะลงได้ แต่ถ้าเป็นไอโฟนต้องเจลเบรค (ปลดล็อค) ก่อน แต่ใช้เวลาและยาก ต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์มาเจลเบรค

- ส่งเอสเอ็มเอสมา หรือโทรศัพท์มาแล้วเจ้าของเครื่องกดรับก็เรียบร้อย เท่ากับส่งไวรัสเข้ามาฝังในเครื่อง แต่วิธีนี้ใช้เงินมาก และเป็นเทคโนโลยีที่ไฮเทคมากๆ

3.มือถือโดนดักจีเอสเอ็ม (จีเอสเอ็มเป็นเทคโนโลยีดิจิตอลสำหรับโทรศัพท์มือถือซึ่งใช้กันแพร่หลายที่่สุดในโลก) เนื่องจากระบบจีเอสเอ็มไม่ปลอดภัย สามารถดักสัญญาณได้ ผิดกับสไกป์ที่ไม่สามารถดักได้ ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกดักได้ ทำให้ผู้ก่อการร้ายใช้กันทั่ว

4.โดนเครื่องดักฟัง ซึ่งไม่ใช่จากมือถือของคู่สนทนา แต่เป็นอุปกรณ์สี่เหลี่ยมเล็กๆ วางไว้ใต้โต๊ะ หรือใส่ในกระเป๋า มีขายที่คลองถมเครื่องละ 1,500 บาท ที่ตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิม เมื่อใส่ซิมแล้วโทรเข้าไปจะกลายเป็นไมโครโฟน ถ้าใช้วิธีนี้กับการสนทนาทางโทรศัพท์ คู่สนทนาต้องเปิดสปีคเกอร์โฟน หรือเปิดลำโพง หรือแม้แต่สไกป์อยู่ จึงจะได้ยินเสียงทั้งสองฝ่าย

นายปริญญา ยังอธิบายถึงเทคโนโลยีการดักจีเอสเอ็ม ซึ่งทำให้การสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือไม่ปลอดภัยว่า ตัวเครื่องมือถือ เราเรียกว่าอิมมี (IMEI) ถ้าเราพิมพ์ *#06# เข้าไปจะได้เลขประจำเครื่อง ตัวเลข 3 ตัวแรกบอกว่าเป็นยี่ห้ออะไร เช่น 012 คือไอโฟน 4 ถ้า 013 คือไอโฟน 4เอส หรือไอโฟน 5 ถ้า 353, 357 คือ ซัมซุงแกแลคซี อย่างนี้เป็นต้น

แต่ตัวที่ดักกันคือ อิมซี (IMSI) คือเบอร์ที่อยู่ในซิม ตัวเลข 520 คือประเทศไทย เลข 2 ตัวถัดมาคือเครือข่ายที่ใช้ เช่น 18 คือดีแทค ปัจจุบันมีซอฟท์แวร์ดักอากาศและสามารถดักค่าอิมซีได้ เรียกว่า "อิมซี แคทเชอร์" ฉะนั้นถ้าเรารู้เบอร์ของเป้าหมาย ขับรถไปใกล้ๆ สมมติเป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง ใครใช้โทรศัพท์มือถือคุยกันอยู่ในโรงแรมนั้นเราจับคู่ได้หมดโดยไม่ต้องรู้จักคู่สนทนา และไม่ต้องเข้าไปในโรงแรม แค่นำรถที่ติดตั้ง "อิมซี แคทเชอร์" ราคาประมาณ 10 ล้านบาทไปจอด ก็จะมีชื่อขึ้นมาเลยว่าใครคุยกับใคร สามารถดึงมาฟังทีละคู่ๆ ได้เลย

นายปริญญา กล่าวอีกว่า ระบบมือถือที่ใช้อยู่คือ จีเอสเอ็ม 5/1 ถูกถอดรหัสได้หลายปีแล้ว ถือเป็นความอ่อนแอของระบบ จริงๆ ผู้ให้บริการก็มีเวอร์ชั่นใหม่ๆ แต่ต้องเข้าใจว่ามือถือมีหลายรุ่น บางรุ่นเป็นระบบเก่า ทางผู้ให้บริการจึงต้องให้บริการ จีเอสเอ็ม 5/1 ต่อไปเพื่อให้มือถือรุ่นเก่าและใหม่สามารถโทรถึงกันได้ ส่วนอีกระบบหนึ่งที่ไม่ค่อยนิยมในประเทศไทยคือ ซีดีเอ็มเอ แต่ก็มีเครื่องดักได้เหมือนกัน

"ถ้าจะสนทนาลับ ต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ ก็ต้องใช้สไกป์ ถ้าใช้แอพสไกป์ทางมือถือก็อย่าเปิดสปีคเกอร์โฟน และอย่ามีโทรจันอยู่ในเครื่องก็จะปลอดภัย"

นายปริญญา กล่าวด้วยว่า อยากฝากเตือนให้ทุกคนระวังตัว เพราะคนทั่วไปไม่คิดว่ากำลังพกคอมพิวเตอร์ติดตัวอยู่ คิดว่าเป็นแค่มือถือเครื่องหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เรากำลังพกคอมพิวเตอร์อยู่กับตัว กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ทุกวันนี้ โอกาสพลาดจากการใช้อุปกรณ์ตัวนี้จึงสูงมาก ยิ่งเป็นบุคคลสำคัญ มีตำแหน่งสูงๆ ต้องระวังมาก แม้แกระทั่งตัวเราเองคนธรรมดาเดินดินก็ต้องระวัง

"ไอโฟนที่ไม่เจลปลอดภัยที่สุด ส่วนแบล็คเบอร์รีก็โอเค เพราะไม่ค่อยมีโปรแกรมอะไร ถ้าต้องการสื่อสารที่เป็นส่วนตัวจริงๆ ก็ต้องใช้สไกป์ ส่วนแอนดรอยด์กำลังพัฒนาอยู่ ต้องเข้าใจว่าเขาเป็นระบบเปิด มีคนใช้มาก"

"นอกจากนั้นยังมีการสร้างเครือข่ายมือถือปลอม ทุกวันนี้เราไปตามตึกต่างๆ จะพบ 'จีเอสเอ็ม เบส สเตชั่น' เพื่อย้ำสัญญาณให้ชัด อาจจะมีของค่ายโน้นค่ายนี้ แต่ปัจจุบันมีอุปกรณ์ชื่อว่า 'ยูเอสอาร์พี' เป็นกล่อง สามารถเปิดค่ายมือถือเองได้เลย ราคาแค่ 3 พันเหรียญ มือถือใครมาเกาะเบสนี้อาจจะขึ้น 3 ค่ายพร้อมกันเลย การทำอย่างนี้ผิดกฎหมาย แต่ก็ต้องระวังหากเป็นเป้าหมายของการถูกล้วงความลับ เพราะเครือข่ายมือถือที่เราเกาะอยู่อาจไม่ใช่เครือข่ายมือถือของเราจริงๆ ก็ได้"

นายปริญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า โปรแกรมดักฟัง ติดตาม หรือสอดแนมต่างๆ ทุุกวันนี้มีเยอะมาก และรับลงตามร้านค้าทั่วไป ตามห้างสรรพสินค้า จึงต้องระมัดระวังให้ดี

"โปรแกรมเยอะแยะ ง่ายๆ ก็โทรเข้าโทรออกเห็นหมด ตอนนี้อยู่ที่ไหน โชว์แผนที่เลย ขับรถไปไหน จอดรถ กินข้าว เติมน้ำมัน รู้หมด โชว์แผนที่มาให้เลย การป้องกันง่ายๆ คือห้ามเจลเบรคเครื่องเด็ดขาด ถ้าไม่เจลก็ลงโปรแกรม (install) ไม่ได้ ถ้าใช้แอนดรอยด์ มีออพชันไม่ลงโปรแกรมที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็อย่าไปกดอนุญาต ก็จะลงได้เฉพาะโปรแกรมจากกูเกิ้ลสโตร์เท่านั้น ถ้าเอาเครื่องไปอัพเดท ก็ไม่ควรปล่อยเครื่องไว้ที่ร้าน ควรเฝ้าอยู่จนทางร้านทำเสร็จแล้วรับเครื่องกลับ" นายปริญญา กล่าวในที่สุด

Tags : ปริญญา หอมเอนกดักฟังโทษศัพท์คลีปแดนไกล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พศ.สั่งนำคำร้องเสียหาย'สมีคำ'แจ้งดีเอสไอ พศ.สั่งนำคำร้องทุกข์ผู้เสียหายจาก"สมีคำ"แจ้งความดีเอสไอ ด้านสภามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานีเต้นเร่งตัดสินถอนปริญญา ท้า'หมอวรงค์'เปิดข้อมูลคนได้ประโยชน์จีทูจี โฆษกพรรคเพื่อไทยท้า"หมอวรงค์"เปิดข้อมูลคนในรัฐบาลได้ประโยชน์จีทูจี 'องอาจ'ตั้งกระทู้ถามคลิปฉาวในสภา1ส.ค. "องอาจ"เตรียมตั้งกระทู้ถามคลิปเสียงคล้าย"ทักษิณ"ในสภา 1 ส.ค. เพื่อไทยเผยทัวร์นักขมิ้นประชาชนตอบรับดี โจมตีกองกำลังสันติภาพยูเอ็นในซูดาน ดับ7 คาดบาทอยู่ที่30.90-31.30 จับตาฟันด์โฟลว์ พท.หนุนรัฐเจรจาบีอาร์เอ็นหยุดยิงรอมฎอน

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 เต้าหู้ และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งห้าครับ :17

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1267 ราคาสูงสุด1294

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1291.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway up ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 48.42 วิ่งมา 49.29 อยู่ต่ำกว่า50 ครับ กำลังจะแตะน้ำเงินบน

Trade Signal Line เส้นแดง 39.93 วิ่งมา 42.08 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 38.47 วิ่งมา 38.80 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway up

เส้นฟ้า 42.94 วิ่งมา 44.96 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 36.57 วิ่งมา 38.53 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1300 1308 1321 1333

แนวรับ 1281 1277 1271 1260

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway up ครับ กำลังจะแตะน้ำเงินบนแล้วครับ

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-02410500-1373844519_thumb.png

Bye

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณ ginger bas news ต่ายทอง และทุกๆท่าน

 

 

เริ่มต้นสัปดาห์ โชคดีในการลงทุนนะค่ะ

 

 

 

 

:Hi ต่ายทอง บายดีนะค่ะ

post-5900-0-33366200-1373850871.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1004628_160075537512411_2012721736_n.jpg

 

 

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณ ginger bas news ต่ายทอง และทุกๆท่าน

 

 

เริ่มต้นสัปดาห์ โชคดีในการลงทุนนะค่ะ

:Hi ต่ายทอง บายดีนะค่ะ

สวัสดี wann ต่าย news bas pasaya GoldLeng ตู้เย็น หงส์ ลูกแก้ว อยากเล่นด้วยคน

โชคดี นะคะ ทุกท่าน

เงินบาทเปิดตลาด 31.19/21 คาดแกว่งตัว นลท.รอดูตัวเลขเศรษฐกิจจีน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 09:38:54 น.

นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.19/21 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.15/17 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาค

"ปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค ทิศทางบาทช่วงนี้น่าจะแกว่งตัว เพราะเฟดยังไม่มีท่าทีที่จะปรับลดมาตรการ QE อย่างชัดเจน" นักบริหาเรงิน กล่าวemnb_1_370232.gif

โดยปัจจัยที่ตลาดรอดูวันนี้เป็นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน แม้ตลาดจะคาดการณ์ว่าไม่น่าที่จะต่างไปจากที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.00-31.25 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.19/22 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 99.12/14 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3061/3065 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.3050/3052 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.109 บาท/ดอลลาร์

- ฟิทช์ฯประเมินธนาคารในภูมิภาคมีแนวโน้มเข้าซื้อหุ้นของแบงก์ไทยเพิ่ม หลังมิตซูฯเปิดตัวรับซื้อหุ้น BAY 75% ระบุ TMB อาจเป็นรายต่อไป เหตุมีความสอดคล้องกับแผนขยายธุรกิจเพื่อรองรับเออีซี กระตุ้นแบงก์ไทยเร่งขยายเครือข่ายในเอเชียเพิ่ม

- นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้จ่ายหรือการอุปโภค-บริโภคในประเทศปีนี้ น่าจะขยายตัวต่ำสุดในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่ประชาชนมีการใช้จ่ายจำนวนมาก

- แบงก์พาณิชย์พาเหรดเพิ่มเงินดาวน์บ้าน 10-15% รับความเสี่ยง หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เน้นผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2-3 หันมาปล่อยกลุ่มรายได้น้อย เหตุความเสี่ยงต่ำกว่าจากความต้องการซื้อบ้านที่อยู่อาศัยจริง

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน(NBS) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2/2556 ของจีนขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 7.7%

ขณะที่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัว 20.3% สู่ระดับ 3.68 ล้านล้านหยวน(5.993 แสนล้านดอลลาร์) ขณะที่ตัวเลขการเริ่มก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 6 เดือนแรก ขยายตัว 3.8% สู่ระดับ 959.01 ล้านตารางเมตร

ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน มิ.ย.ปรับตัวขึ้น 8.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 9.2% ในเดือน พ.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.ขยับขึ้น 0.68% จากเดือน พ.ค.

ด้านยอดค้าปลีกของจีนในเดือน มิ.ย.ขยายตัว 13.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตรา 12.9% ในเดือน พ.ค. และหากเทียบรายเดือน ยอดค้าปลีกในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.26% จากเดือน พ.ค.

และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ขยายตัว 20.1% เทียบรายปี แตะที่ระดับ 18.13 ล้านล้านหยวน (2.94 ล้านล้านดอลลาร์)

- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.32% แตะที่ 6.1663 หยวนต่อดอลลาร์

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งรวมถึงจีดีพีไตรมาส 2/2556 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลง โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่นขยับลงไม่ถึง 0.1% แตะ 438.87 จุด เมื่อเวลา 10.23 น.ตามเวลาซิดนีย์, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,178.26 จุด ลดลง 42.23 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,870.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,240.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,781.92 จุด ลดลง 3.73 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,978.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการเนื่องในวันแห่งทะเล

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 15 กรกฎาคม 2556 09:01

 

กูรูแนะหาจังหวะขายทอง ขึ้นแค่ช่วงสั้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_517251_1.jpg

นักวิเคราะห์ไม่แนะซื้อทองคำเวลานี้ แม้ราคาปรับขึ้นใกล้ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ควรหาจังหวะขาย ความเสี่ยงขาลงยังมีมาก

นายแกรี คลาร์ก นักวิเคราะห์จากรูบินี โกลบอล อีโคโนมิคส์ กล่าวถึงราคาทองคำในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งปรับขึ้นอย่างคึกคักว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนจะขาย และกล่าวว่าราคาทองคำไม่มีเสถียรภาพอย่างมากสำหรับนักลงทุนที่จะพิจารณากลยุทธ์ถือครองและซื้อ

"ผมเห็นว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำยังคงให้โอกาสขาย และการปรับขึ้นตอนนี้แท้จริงได้แรงขับเคลื่อนมาจากความตึงเครียดของตลาดเชิงโครงสร้าง และภาษาออกมาจากปากของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังอยากให้ใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินมากขึ้นต่อไป" นายคลาร์กให้ข้อมูลกับซีเอ็นบีซี

อย่างไรก็ตาม นายคลาร์กมองว่า อัตราการปรับขึ้นของราคาทองคำ อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน แต่การปรับขึ้นนี้จะไปไม่ผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นในระยะยาว โดยซีเอ็นบีซีระบุว่า ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี(11 ก.ค.) ปรับขึ้นเกือบ 3%แล้ว ในช่วงกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนายเบอร์นันเก้พูดว่านโยบายการเงินผ่อนคลายยังจำเป็น แต่นักวิเคราะห์หลายรายรวมถึงนายคาร์กยังคงเห็นว่า ทองคำไม่ใช่การลงทุนที่ดีในระยะยาว

นักวิเคราะห์หลายรายเห็นตรงกันว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ค. นี้ขึ้นไปแตะ 1,298 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น เป็นการปรับขึ้นไม่ต่อเนื่อง และคาดว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาลงมากขึ้น

โดยนายคริส วัทลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลองวิว อีโคโนมิคส์ เห็นด้วยว่าไม่มีกรณีชัดเจนให้เข้าเป็นผู้ซื้อทองคำในระยะยาว ถึงแม้ว่าราคาทองคำปรับลดลงจากระดับเคยทำสถิติสูงสุดในปี 2554 เมื่อราคาขึ้นไปแตะระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเขาเตือนว่าทองคำอาจกลายเป็นฟองสบู่ที่จะพร้อมจะแตก และในที่สุดทำให้ราคาทองคำดิ่งลงไปอยู่ระหว่าง 300-400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านนายคลาร์กเพิ่มเติมว่า ราคาทองคำยังคงต่ำลง 25%ในปีนี้ และจะไม่มีเสถียรภาพก่อนถึงสิ้นปี 2557 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยแท้จริงใกล้อยู่ระดับปกติ เพราะราคาทองคำได้รับแรงผลักดันอย่างมากจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริง มีความผันผวนมากมายเกิดกับอัตราดอกเบี้ยแท้จริงขณะนี้ เป็นผลจากปรับลดนโยบายผ่อนคลายการเงิน หรือ คิวอี 3 ที่มีการพูดถึงกัน และจะไม่ได้เห็นภาวะปกติเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงสิ้นปีหน้า

"คิดว่านักลงทุนทองคำควรเตรียมสถานะตั้งรับการฟื้นตัวของสหรัฐ และการสิ้นสุดคิวอีกับการนำอัตราดอกเบี้ยกลับสู่ระดับปกติ ในประเด็นนั้น ราคาทองคำจะปรับลดลงไปสู่ระดับซึ่งมีความต่อเนื่องในระยะยาวมากขึ้น เพราะทองคำยังมีบทบาทสำคัญที่จะเป็นการลงทุนป้องกันเงินเฟ้อกับความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นตามมา แต่ผมมองว่าทองคำตอนนี้เผชิญช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง" นายคลาร์ก กล่าว

ส่วนนายโยนิ จาคอบส์ หัวหน้านักวางแผนการลงทุน จากชาร์ท โพรเพห์ต แคปิตอล มองความสัมพันธ์ตรงกันข้ามระหว่างดอลลาร์สหรัฐกับราคาทองคำ พบว่าเมื่อดอลลาร์ปรับลดลงราคาทองคำกลับปรับขึ้น และเขาตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อดอลลาร์ปรับขึ้น 17% นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี2554 ทำให้คาดได้ว่าทองคำจะยังคงอยู่ในช่วงขาลง และเขาเชื่อว่าทองคำไม่ใช่การลงทุนปลอดภัยอีกต่อไป

"การซื้อทองคำไม่ใช่ความเคลื่อนไหวชาญฉลาด เพราะเป็นการเทรดที่ขาดทุน เป็นการไล่ล่าการลงทุนมีแต่ความสูญเสีย เป็นการต่อสู้กับแนวโน้มทำให้เกิดการขาดทุน หากเชื่อในการเด้งขึ้นของราคา อย่าซื้อทองคำในเวลานี้ เพราะผมคาดว่าราคาทองคำจะร่วงลงไปแตะ 700 ดอลลาร์ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า" นายจาคอบส์กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค เฟเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเจ้าของวารสาร "อึมครึม-หายนะ-เฟื่องฟู" มองว่าทองคำสามารถเป็นแหล่งทำกำไรได้ในที่สุด และเป็นไปได้ที่ราคาทองคำอาจต่ำลงอีก แต่เขาคิดว่าตอนนี้ทองคำอยู่ในระดับราคาสมเหตุสมผล ซึ่งตัวเขาเองยังคงเข้าไปซื้อทองคำ และคาดว่าในที่สุดราคาทองคำจะปรับสูงขึ้น

Tags : ราคาทองมาร์ค เฟเบอร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Derivative Daily Comment ประจำเช้าวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 มาแล้วค่ะ

 

ติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy150720131027341193.pdf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า15ก.ค.56 vdo.gif

 

Market Wise ช่วง เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 15 ก.ค.56

 

โบรกหั่นเป้ากำไรหุ้นอสังหาฯ 3%

 

โบรกเกอร์ลดเป้ากำไรกลุ่มที่อยู่อาศัย 9 บริษัท คาดกำไรปีนี้ลดเหลือ 2.7 หมื่นล้านบาท โต 18% จากเดิมประเมิน 21% เหตุเศรษฐกิจชะลอกำลังซื้อลดลง

 

กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทย 15 ก.ค.56 vdo.gif

 

Market Wise ช่วง เปิดกลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทย สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 15 ก.ค.56

 

'ศุภชัย'แนะผ่าทางตันข้าว

 

 

 

'โอบามา'ร้องเคารพผลตัดสินคดีฆาตรกรรม

 

 

 

กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 15 ก.ค.56 vdo.gif

 

 

 

Market Warm UP 15 ก.ค.56 vdo.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 10:03:42 น.

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,284 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,280 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.15 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท และกลับมาปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 892 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,021 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.2% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 1.9% GFQ13 ปิด 19,010 บาท และ GFV13 ปิด 19,090 บาท GF10Q13 ปิด 19,010 บาท GF10V13 ปิด 19,080 บาท

emnb_18_21074.gif?1862299829

สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,277.6ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.28เซนต์ ปิดที่ระดับ 20.06 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 939.07 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 10.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 105.77ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 3.38 จุด ปิดที่ 15,464.30 จุด

ข่าวที่สำคัญ

แม้วันศุกร์ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง แต่เมื่อดูตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 5.4% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2011 จากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ที่เรียกร้องให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

SPDR ไม่ได้ทำอะไรติดต่อกันสองวัน คงทองที่ระดับ 939.07 ตัน

ข้อมูลจาก CFTC เก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 9 ก.ค. ระบุว่า นักลงทุนมีการลงทุนในทิศทางขาขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มการลงทุนสถานะ Long Position สุทธิ 4.1% สู่ระดับ 35,691 คู่สัญญา

HSBC กล่าวว่า ปริมาณทองคำที่มีการลงทะเบียนในตลาด COMEX ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีที่ 0.986 ล้านออนซ์ และสะท้อนให้เห็นถึงภาวะตึงตัวในตลาดทองคำแท่ง ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าครึ่้งหนึ่งของระดับที่เริ่มต้นปี 2.288 ล้านออนซ์

ช่วงเวลา 9.00 น. ที่ผ่านมา มีการประกาศตัวเลข GDP จีนประจำไตรมาสที่ 2 ออกมาที่หดตัวลงที่ระดับ 7.5% จากระดับ 7.7%

รัฐมนตรีคลังจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า อัตราการเติบโตของจีนในปีนี้อาจลดลงต่ำถึง 7% ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ในเดือนมีนาคมที่ 7.5%

สัปดาห์นี้ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะมีการแถลงในวันพุธและัวันพฤหัสบดี เวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรายงานนโยบายปีละ 2 ครั้ง โดยนักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่า ความเห็นต่างๆ ของนายเบอร์นันเก้จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐไม่ควรลดขนาด QE จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นถึงระดับเป้าหมาย

นายชาร์ล พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย กล่าวว่า เฟดควรเริ่มลดขนาด QE ในเดือนกันยายน และสิ้นสุดการกระตุ้นเศรษฐกิจในสิ้นปีนี้

ฟิทช์ เรตติ้ง ปรับลดเครดิตฝรั่งเศสลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากเจพี มอร์แกน และเวลฟาร์โก

ก่อนหน้าการประกาศ GDP จีน ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง และกลับทิศทางเป็นบวกหลังจากประกาศ GDP จีนออกมาแย่ลง

ตัวเลขเศรษฐกิจคืนวันศุกร์

-PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% คาดการณ์จะทรงตัวที่ระดับ 0.5% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ3.3%

-Prelim UoM Consumer Sentiment เดิมอยู่ที่ระดับ 84.1 คาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 85.3 ตัวเลขจริงออกมาลดลงสู่ระดับ 83.9

ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้

-Core Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% คาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.5%

-Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.6% คาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.7%

ทิศทางาราคาทองคำ

โดย ภาพรวมราคาทองคำมีลักษณะของการดีดตัวขึ้นหลังจากที่นายเบอร์นันเก้ให้ สัมภาษณ์ถึงการที่อาจจะยังคงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปสักระยะหนึ่ง โดยราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับมายืนอยู่บริเวณ 1,280 เหรียญได้ และในช่วงปลายสัปดาห์ยังเป็นลักษณะการแกว่งตัวในกรอบ Sideway up

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway up โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,300 เหรียญ และแนวรับบริเวณ 1,275 เหรียญ ยังคาดว่าราคามีโอกาสที่จะดีดขึ้นไปบริเวณ 1,300 เหรียญ โดยที่ SPDR เริ่มหยุดขายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังเป็นการปิดสถานะ Short Position และหาจังหวะในการเปิดสถานะ Long Position ตามแนวโน้ม Sideway up

- นักลงทุนถือ Long Position

รอจังหวะขายทำกำไรบริเวณ 1,300 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำ Stop Loss หาจังหวะในการปิดสถานะ ซึ่งได้เตือนให้ปิดมากว่า 2 วันแล้ว ให้เก็งกำไรในลักษณะ Sideways และตามกรอบไม่ถือด้านใดด้านหนึ่ง

Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,200 บาท

Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,280 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุทกท่าน :Announce วันศุกร์ทองยังไม่ลงมาปิดแกบนะครับ แต่ก็ขึ้นไม่แรงเท่าไหร่ลงมาแค่1267 ตอนนี้1290 มาดูกราฟกัน15-7-56-01.gifจากกราฟราย4ชม เห็นว่าทองเบรคแนวต้านสีขาวสามเหลี่ยมมีโอกาสขึ้นถึง1334 แต่ไม่เกิน1338 แต่ไม่รู้จะถึงจริงรึป่าวเพราะมีแนวต้านema200สีฟ้ากดอยู่ตรง1310 และมีแนวต้านเทรนขึ้นสีฟ้าอยู่แถวๆ1309-1313 มาดูกราฟต่อไป15-7-56-02.gifจากกราฟราย1ชมจะเห็นว่่าทองเบรคเนคไลน์สีม่วงของแพทเทิ้ลrh&S ขึ้นมาและเปิดแกบตรงนี้ด้วย แต่ก็ลงมาไม่ถึงไม่ย้ำเนคไลน์มองว่าไปต่อ เป้าหมายแพทเทิ้ลนี้อยู่แถวๆ1312 ตรงกับฟิโบ200สีขาวในกราฟราย1ชม กราฟต่อไปกราฟที่3 15-7-56-03.gif กราฟราย15นาทีหากให้ตรง1282 เป็น1ย่อยของคลื่น15m5หรือคลื่น5ราย15นาที ที่ขึ้นไปเมื่อเช้าเป็นคลื่น3ย่อยและตอนนี้กำลังทำ5ย่อยอยู่โดย5ย่อยมีโอกาสจะขึ้นถึงฟิโบ200 (1296) เป้าแพทเทิ้ลrh&sสีเหลืองที่เบรคขึ้นมา หรืออาจเลยไปถึงฟิโบ227.2(1300) ถ้าคลื่น5ยาวเท่าคลื่น1ตามเส้นสีขาว หรือฟิโบ261.8(1305) ถ้าคลื่น5ยาวเท่าคลื่น3 ตามเส้นสีม่วง

ซึ่งการจบตรงนี้้ เป็นการจบคลื่น5ราย15นาที(15m5) ที่ทำราคาไม่สูงกว่า1338 ยอดคลื่น1ราย4ชมขาลง(4h1) จึงมองว่าที่ขึ้นมาเป็นคลื่น4ราย4ชมขาลง(4h4) เตรียมจะลงทำคลื่น5ราย4ชมขาลงต่อไป(4h5) เพราะราย4ชมยังไม่เกิดไดเวอร์จิ้นสัญญาณกลับตัว จึงสรุปว่าทองพร้อมจะลงต่อช่วงนี้ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะแกบที่เปิดไว้ยังไงต้องลงมาปิดแน่นอนเพราะเจ้าได้เลือกดันราคาให้จบก่อนแล้วปิดทีหลัง

 

มุมมองวันนี้สำหรับคนซื้อ

1. แนะนำรอซือ(buy limit) 1208 cut1200 เป้าปิด1257

2 หากถูกกินcut แนะนำรอดูสถานการณ์ ส่วนใครมีของแนะนำรอปิดแถวๆ1300-1313

 

สำหรับคนขาย

1. แนะนำรอขาย (sell limit) 1309 cut1315 เป้าปิด1257

2 หากถูกกินcut แนะนำรอดูสถานการณ์ แถวๆๆ1334 อีกที

ปล.อัพเดตพอรืททองครับวันศุกร์กดซื้อbuyสดๆไว้ที่1277.95 ยังไม่ได้ปิดรอปิด1300 ตามกราฟราย15ตรงฟิโบ227.2 และขยับcutขึ้นมาเป็น1285 ล๊อคลำใยไว้ก่อน7.05$ ถ้าเจ้าเลือกจะลงเลย ส่วนทองแท่งอีกก้อนอาจจะรอปิดที่1300-1313 15-7-56-04.gif

ปล2. กราฟเงินบาทตอนนี้ทำรูปแบบคล้ายจะกลับตัวด้วยแพทเทิ้ลH&S ขึ้นทำไหล่ขวาอยู่แถวๆ31.2-31.315-7-56-05.gifเป้าหมายการแข็งค่าคือ30.5ถ้าหลุด31บาทลงมาได้ตารางทองเทียบบาท15-7-56-06.gifตอนนี้เล่นกรอบเหลืองส้มหลุด1285ลงมาก็อาจได้เห็น1250 หลุด1300ขึ้นไปอาจได้เห็น1330กรอบสีฟ้าให้ไว้ถ้าหากเงินบาทลงต่ำกว่า31บาทนะครับ

ปล3.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนวันนี้นะครับขอตัวทำงานก่อนน้า :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...