มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

คุณ...ginger news bas และทุกๆท่าน

ดีจ้า โชคดีนะ wann

MTS Gold Morning Report 13/8/56

 

- ราคาทองคำช่วงนี้เป็นการแกว่งตัวเพื่อทดสอบแนวต้านด้านบนในระยะสั้น

- ตัวเลขว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ลดความกังวลที่เฟดจะชะลอ QE

- SPDR "ซื้อ" ทองคำเมื่อคืนวันศุกร์ 1.8 ตัน!!!

 

กลยุทธ์การลงทุนของตลาดทองคำในช่วงนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากคลิปด้านล่างได้เลยค่ะ...

[ginger 11,058]

YLG on TPBS : ชั่วโมงทำกิน 13/08/56

[ginger 11,058]

บทวิเคราะห์ Derivative Daily Comment ประจำเช้าวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2556 มาแล้วค่ะ

 

ติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfu...13940431240.pdf

ในรายการ Get SET ทางช่อง Money Channel ดำเนินรายการโดยคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข ในวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556

ถูกแก้ไข สิงหาคม 13, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

[bbeem 71]

ขอบคุณมากค่ะ

[ginger 11,058]

YLG

[ginger 11,058]

Don

[ginger 11,058]

ขอบคุณมากค่ะ

bbeem bbeem

 

[ginger 11,058]

'พงศ์เทพ'รับพรบ.2ล้านล.อืดกระทบโครงการ "พงศ์เทพ" ยอมรับหากพรบ.2 ล้านล้านบาทล่าช้า อาจส่งผลให้โครงการตามกฏหมายช้าตามไปด้วย ชี้พร้อมเดินหน้าต่อและรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า13ส.ค.56 Market Wise ช่วงทิศทางความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 13 ส.ค.56 เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า13ส.ค.56 Market Wise ช่วง เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 13 ส.ค.56 หุ้นไทยเปิดภาคเช้าบวก11จุดแนะถือ คาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นซื้อหุ้นปันผลดี ความเชื่อมั่นไตรมาส3ลด สินค้าจ่อขึ้นราคา กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 13 ส.ค.56

"แบงก์ชาติ"เปิดผลสำรวจนักธุรกิจ พบส่วนใหญ่จ่อขยับราคาสินค้าเพิ่ม หลังต้นทุนพุ่ง ส่วนแนวโน้มธุรกิจส่อชะลอ จากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการลด

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเห็นของภาคธุรกิจไทย พบช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ผู้ประกอบการคาด ต้นทุนการดำเนินงานยังเพิ่มขึ้น จึงมีแผนเพิ่มราคาสินค้า และบริการหลังจากแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยหลายธุรกิจอยู่ในขั้นตอนการขอเพิ่มราคาจากคู่ค้า

ขณะที่บางรายเร่งพัฒนาสินค้า เพื่อให้สามารถปรับเพิ่มราคาได้ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่สำหรับสินค้าที่อ้างอิงราคาตลาดโลก เช่น ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แทน

การสำรวจของธปท. มีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยเป็นการสำรวจผ่านช่องทางต่างๆ คือ การเข้าพบแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักธุรกิจทั่วประเทศจำนวน 196 ราย และการส่งแบบสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายเดือน ไปยังบริษัทต่างๆ 1,010 รายทั่วประเทศ โดยมีการตอบกลับประมาณ 600 รายต่อเดือน รวมทั้งการสำรวจภาวะแนวโน้มสินเชื่อรายไตรมาส จากผู้บริหารงานด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน 50 แห่ง ครอบคลุมสินเชื่อ 98.9%

ภาพรวมการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองภาวะธุรกิจมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง สะท้อนจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่อแนวโน้มธุรกิจที่อ่อนลงเป็นลำดับ สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่คาดว่า การบริโภคโดยรวมจะยังชะลอต่อเนื่อง แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคระดับกลางถึงบนยังมีอยู่ และต้องทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาส่วนแบ่งตลาด

ส่วนด้านการลงทุนใหม่ ขึ้นกับความต้องการจากต่างประเทศ ที่คาดจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ รวมทั้งปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง

รายงานข่าวระบุว่า ภาคการบริโภค มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อว่า คำสั่งซื้อในประเทศอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน แต่สัดส่วนผู้ที่เห็นว่าคำสั่งซื้อ จะดีขึ้นปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนความเชื่อมั่นต่อการบริโภคในระยะต่อไปที่ลดลงเป็นลำดับ

การสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับความเห็นของสถาบันการเงิน จากการสำรวจภาวะ และแนวโน้มสินเชื่อที่พบว่า ความต้องการสินเชื่อเพื่อการบริโภคอื่นๆ ของภาคครัวเรือนมีแนวโน้มทรงตัวจากไตรมาสก่อน เทียบกับการประเมินในช่วงก่อนหน้าที่คาดว่า ความต้องการสินเชื่อดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ผู้ประกอบการบางส่วน เห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคระดับกลางถึงบนยังมีอยู่ แต่จำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และยังคาดว่า การเปิดตัวสินค้ากลุ่ม Smartphone ที่ใช้เทคโนโลยี 3จี และโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ที่จะมีขึ้นปลายปี จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในระยะต่อไป

การลงทุนภาคเอกชน พบว่า ช่วงไตรมาส 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยจากผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจพบ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดจะลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป สอดคล้องกับการสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อที่พบว่า ความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนของธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ผู้ประกอบการเห็นว่า การลงทุนใหม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการจากต่างประเทศที่คาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว รวมทั้งปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ

ส่วนภาคการผลิตและการส่งออก ช่วงไตรมาส 3 พบว่า การผลิตมีแนวโน้มปรับดีขึ้นตามภาวะการส่งออก โดยจากผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการที่คาดว่า การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ภาคการท่องเที่ยว ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงหมดฤดูท่องเที่ยวผู้ประกอบการคาดว่า นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะสถานการณ์ในประเทศที่สงบเรียบร้อยไม่มีภัยธรรมชาติ รวมทั้งไทยยังเป็นประเทศที่มีความคุ้มค่าต่อการท่องเที่ยวและได้รับการจัดอันดับความนิยมในลำดับต้นๆ

ผู้ประกอบการเห็นว่าภาครัฐควรประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพเพิ่มขึ้น

ส่วนแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาส 3 มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง โดยจากการสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อพบว่า สถาบันการเงินมีการประเมิน ความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน อีกทั้งสถาบันการเงินมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อมากขึ้น เพราะมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้กู้และความเสี่ยงด้านฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

"ผลสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับผู้ประกอบการที่ประเมินว่า ความต้องการอาคารชุดจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง คาดความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบจะปรับดีขึ้น โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ในเขตชานเมือง ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกับอาคารชุดในเมือง ส่วนหนึ่งจากผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัย อีกทั้งให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของพื้นที่ใช้สอยต่อราคา" รายงานข่าวระบุ

สำหรับภาวะการจ้างงาน พบว่า ผู้ประกอบการมองตลาดแรงงานช่วงไตรมาส 3 ยังคงตึงตัวต่อเนื่อง ธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง อัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งเครื่องนุ่งห่ม ยังมีแนวโน้มขาดแคลนแรงงาน

Tags : ความเชื่อมั่น • สินค้าขึ้นราคา • ธปท.

[ginger 11,058]

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.25/27 คาดแกว่งแคบ ตลาดรอลุ้นยอดค้าปลีกสหรัฐคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 11:12:20 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับการประกาศยอดค้าปลีกของกระรวงพาณิชย์สหรัฐในเดือนก.ค.นี้

"วันนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรมาก มีที่สำคัญเพียงตัวเดียวที่ตลาดจับตาดู คือคืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดค้าปลีกในเดือนก.ค." นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.2600 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.30897% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.30933%

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.25 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3300 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.2210 บาท/ดอลลาร์

- ภาคเอกชนประเมินแนวโน้มส่งออกไทยครึ่งปีหลังยังไม่ฟื้น ส่อแวว โต 2-2.5% รอลุ้น ก.ค.ชี้วัด เหตุศก.จีนเริ่มส่งผลกระทบชัด ขณะที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยุโรปยังนิ่ง จับตาการค้าชายแดนไทยกับเพื่อนบ้านมิ.ย. 56 ติดลบ 3.2%

- ธปท.สำรวจแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 3 พบความ เชื่อมั่นลด ผู้ประกอบการเห็นตรง ธุรกิจชะลอตัว ทางแก้ผู้ประกอบการออกรายการส่งเสริมการขาย หวังดูดกำลังซื้อระดับกลางและบนที่ยังคงมีอยู่ และเริ่มเห็นความจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อให้ขายได้ราคา แพงขึ้น ขณะที่ยังรีรอตัดสินใจลงทุนใหม่เพิ่ม ขอดูกำลังซื้อต่างประเทศ และการลงทุนโครงการรัฐก่อน

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ให้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คนใหม่แทนนายวีรพงษ์ รามางกูร ที่เกษียณอายุครบ 70 ปีตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.56

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. นอกจากนี้จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 4 โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังเงินเยนอ่อนค่าขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ อยู่ระหว่างการพิจารณาประเด็นการลดภาษีนิติบุคคล

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 106.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 108. 97 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 22 ดอลลาร์ หรือ 1.68% ปิดที่ 1,334.2 ดอลลาร์/ออนซ์

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-

 

http://www.ryt9.com/world/

[fung 40]

ขอบคุณครับคณnews,คุณginger,คุณบาส

[deb99 290]

ขอบคุณ คุณginger คุณnews คุณbas ครับ

[ginger 11,058]

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 13 สิงหาคม 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

[ginger 11,058]

 

 

ขอบคุณ คุณginger คุณnews คุณbas ครับ

ขอบคุณครับคณnews,คุณginger,คุณบาส

สวัสดีค่ะ deb fung news bas เพื่อนๆ

Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 17:00:00 น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรของภาคเอกชนญี่ปุ่นปรับตัวลง 2.7% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แตะที่ 7.774 แสนล้านเยน และเป็นการยอดที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

-- สถาบันผู้สำรวจที่ได้รับอนุญาตของอังกฤษ (RICS) เปิดเผยว่าผลสำรวจที่ระบุว่าราคาบ้านในอังกฤษพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 6 ปีในเดือนก.ค. โดยมีแรงหนุนจากความต้องการบ้านที่แข็งแกร่งที่สุดนับแต่ปี 2552

-- กระทรวงการคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐแตะที่ 9.76 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. หลังจากที่บันทึกยอดเกินดุลงบประมาณสูงสุดในปีงบประมาณปัจจุบันในเดือนมิ.ย.

-- ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ชุดใหม่หมายเลข 2/2013 อายุ 4 ปี วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท ของบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่ 'A(tha)' โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ และสนับสนุนด้านเงินทุนในอนาคต

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่ารายรับจากการส่งออกของฟิลิปปินส์เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี แตะ 4.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยรายรับที่เพิ่มขึ้นจากเฟอร์นิเจอร์ การส่งออกแร่และเหล็ก

-- ศูนย์คาดการณ์สภาพแวดล้อมทางทะเลแห่งชาติของจีนยังคงออกประกาศเตือนภัยคลื่นลมในระดับสีส้ม และเตือนภัยกระแสน้ำจากพายุในระดับสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นผลพวงจากพายุไต้ฝุ่นอูตอร์ (Utor) พายุไต้ฝุ่นลูกที่ 11 ที่จะพัดเข้าจีนในปีนี้

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน (INE) รายงานวานนี้ว่า ยอดขายบ้านในสเปนในเดือนมิ.ย.ลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และร่วงลง 8.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ของเยอรมนีในเดือนก.ค.ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบรายปี จากอัตรา 1.8% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

-- หน่วยงานต่างๆของอินเดียได้ประกาศเตือนภัยในระดับสูงไปยังสถานที่สำคัญต่างๆหลายแห่งในเมืองหลวงว่า อาจมีการประท้วงในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เนื่องจากเป็นวันชาติอินเดีย และมีการเตรียมพร้อมด้านระบบรักษาความปลอดภัยในขณะเดียวกัน

-- สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน (SAFE) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเงินฝากที่ไม่ได้มาจากภาคพลเรือนของจีนแตะที่ 1.07 ล้านล้านหยวน (1.73 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ สิ้นสุดไตรมาส 2

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 2.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 2.9% ในเดือนมิ.ย.

-- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 42.0 จาก 36.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้น มีความคืบหน้าด้านการฟื้นตัว

-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนขยายตัว 0.7% ในเดือนมิ.ย. จากเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย ขณะที่กลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรยังคงพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคหลุดพ้นจากภาวะถดถอย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 12,438 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 17:08:26 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 68 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,438 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,345.45 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.36 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

เงินบาทปิด 31.24/26 ระหว่างวันแกว่งแคบ มองกรอบพรุ่งนี้ 31.20-31.40

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 17:47:55 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ทำ High ที่ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ และ ทำ Low ที่ระดับ 31.21/23 บาท/ดอลลาร์

"ไม่มีข่าวอะไรหวือหวา มีช่วงบ่ายที่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนี ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโร" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่าถ้าไม่มีข่าวอะไรวันพรุ่งนี้เงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบ 31.20-31.40 บาท/ดอลลาร์

โดยคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.91/92 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3307 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,459.08 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด, +1.87% มูลค่าการซื้อขาย 44,515.12 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 539.74 ลบ.(SET+MAI)

- ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบบนของ 97 เยนในการซื้อขายช่วงบ่ายนี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งได้กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเรื่องการปรับลดภาษีนิติบุคคล

เมื่อเวลา 17.00 น. ของญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 97.73-97.74 เยน เมื่อเทียบกับช่วง 96.85-96.95 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 96.75-96.76 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. ของเมื่อวานนี้ โดยดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 97.06-97.84 เยนในระหว่างการซื้อขายวันนี้ และมีการซื้อขายสูงสุดที่ 97.43 เยน

สำหรับยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.3293-1.3294 ดอลลาร์ และ 129.92-129.96 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3294-1.3304 ดอลลาร์ และ 128.86-128.96 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3307-1.3308 ดอลลาร์ และ 128.75-128.79 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวานนี้

ดอลลาร์ดีดตัวดีขึ้นที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปิดการซื้อขายเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 2.6%

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ของเยอรมนีในเดือนก.ค.ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบรายปี จากอัตรา 1.8% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หากเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ของเยอรมนีในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก่อนหน้า

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 2.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 2.9% ในเดือนมิ.ย.

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 68 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,438 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,345.45 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.36 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 สิงหาคม 2556 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 16:28:51 น.

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 13 สิงหาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,331.11—1,341.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,860 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 340 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,520 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.57 น.ของวันที่ 13/08/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 14 สิงหาคม 2556

สมาคมทองคำจีน (CGA) ระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 ประเทศจีนมีการใช้ทองคำถึง 706.36 ตัน โดยพุ่งขึ้น 54 % เมื่อเทียบจากช่วงครึ่งแรกของปี 2012 แสดงให้เห็น ว่าอุปสงค์ทองคำในจีนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปีเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ประกอบกับราคาโลหะเงินในตลาดโลกพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของราคาทองคำ และ นักลงทุนบางรายเข้าซื้อโลหะเงินในฐานะโลหะที่จะได้รับผลบวกจากความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรม ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ปริมาณเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ ช่วยกระตุ้นความหวังที่ว่า นักลงทุนจะกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง ทั้งนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา และถือเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนาย 2013 หลังจากก่อนหน้านี้ทางกองทุนปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นหลังจากร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ที่มากขึ้นว่าข้อมูลที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในเร็วๆนี้ ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,343 หรือ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,319 (19,490บาท) 1,310 (19,350บาท) 1,303 (19,250บาท)

แนวต้าน 1,343 (19,840บาท) 1,350 (19,950บาท) 1,367 (20,200บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,319 (19,610บาท) 1,310 (19,480บาท) 1,303 (19,370บาท)

แนวต้าน 1,343 (19,970บาท) 1,350 (20,070บาท) 1,367 (20,320บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 21.20 (630 บาท) 20.95 (623 บาท) 20.45 (607 บาท)

แนวต้าน 22.05 (657 บาท) 22.40 (668 บาท) 22.65 (676 บาท)

[ginger 11,058]