ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

โอกาสที่ถูกปิดของผู้หญิงชายแดนใต้ "ท่ามกลางปัญหาความไม่สงบ ผู้หญิงหลายคนต้องสูญเสียสามี ต้องกลายเป็นหม้าย และทำให้เธอถูกมองเป็นของสาธารณะ" ไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อไป กรมอุตุฯเผยไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กทม.-ปริมณฑลมีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่ ดีเอสไอเชื่อคนใกล้ชิดสมีคำปล่อยข่าวป่วน ดีเอสไอเชื่อคนใกล้ชิด "สมีคำ" ปล่อยข่าวป่วนการสอบสวน ระบุยังไม่มีข้อมูลยืนยนอดีตเณรคำออกจากลาวไปพม่า น้ำมันปิดลบ50เซนต์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซบ ทองปิดลบ$2.7 ยอดซื้อสินค้าคงทนสหรัฐร่วง กังวลสถานการณ์ซีเรีย ดาวโจนส์ร่วง64จุด วาระครม.พาณิชย์เสนอรายงานภาวะศก.

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 27 สิงหาคม 2556 01:09

 

เฟดถกนักเศรษฐศาสตร์ประสิทธิภาพ'คิวอี'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_525615_1.jpg

เบน เบอร์นันเก

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด "นายเบน เบอร์นันเก" เคยใช้การประชุม ที่เมืองแจ็คสัน โฮลในปี 2555 เป็นเวทีชี้แจงเหตุผลการใช้มาตรการคิวอี3

แต่ในปีนี้ นายเบอร์นันเก้ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม และบรรยากาศในการประชุมก็แตกต่างจากปีที่แล้วเป็นอย่างมาก เพราะรายงานวิจัยหลายฉบับที่ถูกนำเสนอในการประชุมครั้งนี้ ได้ตั้งข้อสงสัยต่อคุณค่า และประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบพิเศษของเฟด ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด "นายโรเบิร์ต ฮอลล์" กล่าวว่านโยบายการเงินแบบพิเศษ เป็นนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพเป็นส่วนใหญ่ เพราะนโยบายเหล่านี้เผชิญอุปสรรคจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ใกล้ 0%

นอกจากนี้เขายังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อประโยชน์ที่เกิดจากการที่เฟดประกาศ "สัญญาณชี้นำล่วงหน้า" ต่อตลาดการเงินด้วย นายฮอลล์ระบุว่าทั้งมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและสัญญาณชี้นำล่วงหน้าที่เฟดนำมาใช้ ต่างก็เป็นเครื่องมือที่อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเห็นได้จากความล้มเหลวของเศรษฐกิจสหรัฐในการฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึงแม้เฟดดำเนินนโนบายการเงินแบบผ่อนคลายมาเป็นเวลานาน

รายงานอีกฉบับหนึ่งตั้งคำถามต่อสมมุติฐานของเฟดเกี่ยวกับแนวทางการ ทำงานของมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลบวกในแวดวงที่แคบกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้มาก โดยศาสตราจารย์ จากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น "นายอาร์วินด์ กฤษณะมูรติ" กล่าวว่าการเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟด ส่งผลบวกต่อตลาดที่เฟดตั้งเป้าหมายไว้เท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยในวงกว้าง รายงานระบุว่า มาตรการนี้ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เฟดระบุไว้เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง เช่น ส่งผลต่อค่าพรีเมียมของตราสารหนี้ระยะยาวทุกประเภท"

อย่างไรก็ดี แทบไม่มีใครที่เรียกร้องให้เฟดยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทันที โดยนายฮอลล์กล่าวว่า ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เฟดกระทำได้ ก็คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินไป "อันตรายที่ใหญ่หลวงที่สุดสำหรับช่วงสองปีข้างหน้า ก็คือ การที่เฟดยอมทำตามแรงกดดันในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดขนาดพอร์ทลงทุนของตนก่อนที่เศรษฐกิจจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ"

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดและอดีตเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนแสดงความเห็นคัดค้านรายงานวิจัยเหล่านี้ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ "นายเจมส์ บูลลาร์ด" กล่าวว่า การที่นายกฤษณะมูรติ มุ่งความสนใจไปยังผลบวกที่ตลาดได้รับในทันทีหลังการประกาศนโยบายเฟด ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปที่ว่า สิ่งนี้ส่งผลบวกต่อตลาดเพียงแห่งเดียว และไม่ส่งผลมากนักต่อสินทรัพย์หลากหลายประเภท

ขณะที่ อดีตรองประธานคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด "นายอลัน บลินเดอร์" กล่าวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า การขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาด โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในระยะนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เหนือ 2.80 % หลังจากเฟดส่งสัญญาณว่า อาจจะเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีใน อนาคต

Tags : เฟดคิวอีเบน เบอร์นันเกธนาคารกลางสหรัฐ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครึ่งปีแรกคอนโดติดลบ10%

  • 27 สิงหาคม 2556 เวลา 05:47 น. |

 

81899B5F139249ECBEB91CBB34F81051.jpg

 

ฮาริสัน ระบุ ยอดขายคอนโดครึ่งปีแรกแผ่ว หดตัว 10% นอกจากนี้ ต้นทุนที่ดินพุ่งต่อเนื่อง 20%

 

นายอลัน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน ตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายคอนโดมิเนียมในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาหดตัวลงกว่าปีที่แล้วถึง 10% โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัวและการมีอุปทานคอนโดมิเนียมเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าเกิดการเปรียบเทียบและชะลอการตัดสินใจออกไป

ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ราคา ตร.ม.ละ 2 แสนบาทขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มที่ชะลอตัวมากที่สุด โดยตั้งแต่ต้นปีอุปทานคอนโดมิเนียมหรูเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น แต่การซื้อยังไม่คึกคักมากนัก เพราะผู้ซื้อมองว่าราคาเปิดขายใหม่สูงขึ้นมาก

“ลูกค้าจะมองราคาเปิดในอดีตเปรียบเทียบกับปัจจุบัน มันต่างกันมาก จึงยังทำใจไม่ได้ที่จะซื้อ หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมหรูที่สร้างเสร็จแล้ว วันเปิดขายเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อ ตร.ม. พอตึกสร้างเสร็จ วันนี้ขาย 2.4 แสนบาทต่อ ตร.ม. คนซื้อก็รับไม่ไหว”นายอลัน กล่าว

ขณะที่ช่วง 4-5 เดือนสุดท้ายปีนี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจมีโปรโมชันแรงๆ ออกมากระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ส่วนการปรับตัวของราคาคอนโดมิเนียมเป็นไปตามราคาที่ดินที่ขยับขึ้นไปแรงมาก โดยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนราคาที่ดินขึ้นสูงถึง 30-40%

นอกจากนี้ แม้ว่าสถานการณ์การซื้อขายคอนโดมิเนียมจะหดตัว แต่ราคาที่ดินครึ่งปีแรกกลับปรับขึ้นต่อเนื่อง 10-20% โดยย่านสีลม-สาทร ราคาเสนอขายเฉลี่ย 1.2-1.5 ล้านบาทต่อ ตร.ว. เพลินจิต 1.5 ล้านบาทต่อ ตร.ว. สุขุมวิท-อโศก 1.8-2 ล้านบาทต่อ ตร.ว. อโศก-เอกมัย 8 แสน-1.2 ล้านบาทต่อ ตร.ว. พหลโยธิน-อารีย์ 9 แสน-1 ล้านบาทต่อ ตร.ว.

ทางด้านแผนการตลาดของฮาริสัน ล่าสุด บริษัทได้เปิดแผนกใหม่ CBD Land & House รับอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมือง โดยมีลูกค้านำมาฝากขายแล้วกว่า 100 รายการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ระดับราคาตั้งแต่ 10-200 กว่าล้านบาทตั้งเป้าปีแรกจะมียอดขายจากแผนกนี้ 2,000 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2,000 ยูนิต มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 3,000-4,000 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายทั้งปี 1 หมื่นล้านบาท

นายอลัน กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีที่ผ่านมามี 186 โครงการ รวมยูนิตที่ขาย 61,397 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 2.736 ล้านบาท ส่วนโครงการที่เปิดขายใหม่ทั้งปีของปีที่ผ่านมามีจำนวน 416 โครงการ เฉลี่ยหน่วยละ 2.937 ล้านบาท โดยแม้ว่าราคาเฉลี่ยต่อหน่วยจะลดลง แต่ความเป็นจริงแล้วราคาต่อ ตร.ม.เพิ่มขึ้น เพราะราคาที่อยู่อาศัยไม่ได้ลดลงเลย

ทั้งนี้ กรณีประเด็นหนี้สินครัวเรือนเพิ่มทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ ปัจจุบันการปล่อยกู้คอนโดมิเนียมจะให้กู้น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สิน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนภัย!! โจรขโมยล้อรถยนต์ ใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาที (ชมคลิป)

 

http://www.naewna.com/local/66007

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงครามแย่งพนง.แบงก์เดือด แห่ลาออก12%

 

กสิกรไทยระบุสงครามแย่งคนแบงก์รุนแรงมากขึ้น ชี้ 2 ปีที่ผ่านมาอัตราการลาออกพุ่งเป็น 12% ใช้ราคาเป็นหลัก หวั่นสูงเกินจริง

 

เกาะติดตลาดหุ้นโลก 27 ส.ค.56 vdo.gif

 

เกาะติดตลาดหุ้นโลกไปกับ Morning News ออกอากาศ 27 ส.ค.56

 

สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 26 ส.ค.56 vdo.gif

 

สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 26 ส.ค.56 ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ

 

บาทปิด31.94/95จับตาราคาทอง

 

 

 

'กรณ์'อัด'กิตติรัตน์'ยันศก.ถดถอย

 

 

 

พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1.6พันล้าน

 

 

 

หุ้นไทยผันผวนปิดร่วง8จุดกังวลศก.ถดถอย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกท่าน :Announce ทองเบรคไฮไปนิดนึงเองในรายชม. ทำนิวไฮประมาณ0.25$ ได้แต่นิวไฮก็คือนิวไฮ แล้วก็ลงมาที่1397ในตอนเช้า :ghostมาดูกราฟกันเลย27-8-56-01.gifจากกราฟจะเห็นว่ารายชม.เกิดไดเวอร์จิ้นในmacd&rsi เหมือนราย4ชม แล้ว ในเชิงเทคนิคถ้าคาบเวลารายชม&ราย4ชม. เกิดไดเวอร์จิ้นเหมือนกันค่อนข้างจะชัดเจนว่าพร้อมแล้วที่จะลงระยะทางขึ้นเหลือไม่มากอย่างที่บอกไว้เมื่อวานเป้าหมายตามฟิโบที่คาดว่าจะถึง1407-1415-1424 ขึ้นมาแบบขาดเล็กน้อยครบ5คลื่นด้วย ต้องระวังเป็นพิเศษหากขึ้นก็คงไม่เยอะไม่เกิน3ตัวนี้ต้องพิจารณากันต่อไป แต่บาทอ่อนลงทำให้ทองน่าจะบวกเช้านี้50-100บาท เป็นโอกาสที่จะปล่อยของ ส่วนคนจะsell แท่งหรือฟิวเจอร์บาทอ่อนเป็นลบกับครับsellอย่างมากระวังด้วยนะเล็งกันดีๆมั่นใจแล้วค่อยลุยไม่มั่นใจอยู่เฉยๆ ส่วนกราฟวันนี้ให้ดูฟิโบสีขาวผมวางด้วยสมมุติฐานว่า ถ้าจบตรง1406.8จริงๆ ยอดคลื่น1ย่อยหรือAย่อยน่าจะลงมาแถวๆ1389เมื่อคืน แล้วเด้งตามเส้นสีฟ้าส่วนจะทำ3คลื่นหรือ5คลื่นก็ว่ากันในภายหลัง คลื่นย่อยตามเส้นสีฟ้าประเมินว่าน่าจะจบแถวๆ1370-1360 ซึ่งตรงนี้จะเป็นการจบคลื่น1h1หรือ1hA ก่อนรีบาวกลับทำ1h2หรือ1hBต่อไป ซึ่งอย่างที่เคยบอกทุกครั้งว่าคลื่นขาลงหรือรีบาวที่ประกอบด้วยคลื่น A B C จะนับคลื่นย่อยภายในยากมากพลาดแล้วเสียหายหนักอย่างต้นเดือนที่ผ่านมาที่ผมนับพลาดก็เสียหายกันให้เห็น :_02 แต่วันนี้ภาพชัดขึ้นสัญญาณทั้ง2คาบเวลายืนยัน ก็เล่นตามสัญญาณ แต่ต้องมีแผน234ตามไว้ด้วย เพราะถึงแม้จะเกิดไดเวอร์จิ้นแต่เจ้าก็ลากขึ้นมากินcutได้เหมือนกัน มุมมองวันนี้

สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buy limit 1361 cut 1355 เป้า 1381

2 หากถูกกินcutข้อ1 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอsell limit 1407 cut 1412 เป้า 1373-1366-1361

2 หากถูกกินcut ข้อ1 แนะนำรอ sell limit 1415cut1420 เป้า 1373-1366-1361

3 หากถูกกินcut ข้อ2 แนะนำรอ sell limit 1424 cut1430 เป้า 1373-1366-1361

4 หากถูกกินcut ข้อ3 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล. ส่วนตัวผมเมื่อวานที่กดbuyไปเช้า กดปิดไปตอนประมาณ5ทุ่มและ ตอนตี1 buy 1392.7 ปิดไปเมื่อเช้า1403.5 รวมๆเก็บลำใยเข้าเป๋าไป158.5$ ส่วนวันนี้เช้ากดsell สดไปแล้ว1397.8cut1407.8 เป้า1373.8 และตั้งรอsellตามข้อ2&3 และตั้งรอซื้อตามข้อ1 ครับ ส่ว่นทองแท่งยังไม่ได้ทำอะไรเหมือนเดิม27-8-56-02.gif

ปล2.อัพเดตภาพขำขำครับ

1236636_574509659251981_1888534581_n.jpg

ชื่อภาพว่า"ออกกำลังกายกับยายข้างบ้าน"

267291_574557882580492_873049099_n.jpg

ชื่อภาพว่า"นู๋ขอซื้อไอติมหน่อยค๊ะ"

ปล3.วันนี้ต้องรีบเคลียร์งานหลายๆงานให้เสร็จนะครับขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy27082013912251264.pdf

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บริษัทไทยแกร่งตุนเงินสด7.2แสนล. ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยสถิติบริษัทจดทะเบียนรวมกลุ่มแบงก์ ตุนเงินสด 7.2 แสนล้านบาท มีอยู่ 143 แห่งราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี สงครามแย่งพนง.แบงก์เดือด ลาออก12% กสิกรไทยระบุสงครามแย่งคนแบงก์รุนแรงมากขึ้น ชี้ 2 ปีที่ผ่านมาอัตราการลาออกพุ่งเป็น 12% ใช้ราคาเป็นหลัก หวั่นสูงเกินจริง ความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า27ส.ค.56 vdo.gif Market Wise ช่วงทิศทางความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 27 ส.ค.56 เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า27ส.ค.56 vdo.gif ทิสโก้หั่นเป้าดัชนีสิ้นปีนี้เหลือ1,420จุด กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทย 27 ส.ค.56 vdo.gif กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 27 ส.ค.56 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 27 ส.ค. 56 (ภาคเช้า)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 10:55:40 น.

Bangkok--27 Aug--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดปิดบวก US$7.96 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับUS$1,404.40 ต่อออนซ์(Gold spot) ราคาทองคำปรับตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยสามารถปิดเหนือระดับ US$1,400 ได้ในที่สุดทั้งนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาดทำให้ตลาดคาดว่า FED อาจจะยังไม่เริ่มชะลอมาตรการ QE ในเดือนกันยายนนี้อย่างที่ตลาดคาดไว้ในตอนต้น โดยวานนี้ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนทั่วไปของสหรัฐฯลดลง 7.3% ในเดือนก.ค.สะท้อนการชะลอตัวในภาคธุรกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ปัญหาความรุนแรงในซีเรียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นอีกแรงหนุนของราคาทองคำ ทั้งนี้ติดตามการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯที่จะมีในช่วงตุลาคมนี้ ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งใกล้ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 920.13 ตัน

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวเหนือระดับ US$1,390 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2556 (GFV13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 21,500 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 21,150 บาท ราคาเสนอขาย 21,250 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐของเดือนกรกฎาคมสะท้อนให้เห็นแล้วว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นในตลาดเงินจะเป็นแรงกดดันสำคัญต่อการตัดสินใจชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ประเด็นการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องติดตาม ทางเทคนิค แนวโน้มยังเป็นเชิงบวกแต่เริ่มติดแนวต้าน US$1,406 หากผ่านได้เป้าหมายถัดไป US$1,420-25 ทั้งนี้กรอบแนวรับระยะสั้น US$1,380 แนวรับสำคัญ US$1,355 ซึ่งเป็นระดับ Fibonancci Retracement 38.2% ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาทองคำในประเทศโดยมีกรอบการเคลื่อนไหว 31.80-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 10:23:14 น.

กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,393 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,396 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,950 บาท กับ 21,050 บาท และกลับมาปิดที่ 21,150บาท กับ 21,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,182 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,400 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.9 % แบบ 10 บาท ลดลง 7.3 % GFQ13 ปิด 21,260 บาท และ GFV13 ปิด 21,390 บาท GF10Q13 ปิด 21,260 บาท GF10V13 ปิด 21,390 บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 2.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,393.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 27.2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 24.01 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 920.13 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 50 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 105.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 64.05 จุด ปิดที่ 14,946.46 จุด

ข่าวที่สำคัญ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง หลังจากที่ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2.5 เดือนบริเวณ 1,406 เหรียญ เนื่องจากตัวเลข Core Durable Goods Orders และ Durable Goods Orders ออกมาแย่ลงทั้งสองตัว

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเปิดการซื้อขายตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ นายจอห์น เคอร์รี่ ออกมากล่าวว่า ซีเรียได้ใช้อาวุธทางเคมีกับพลเรือนอย่างไม่น่าให้อภัยและไม่สามารถปฏิเสธได้ และเเป็นเรื่องเลวร้ายทางศีลธรรม

ตลาดส่วนใหญ่ยังมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากเป็นวันหยุดของอังกฤษและจะมีวันหยุดแรงงานสหรัฐในวันจันทร์หน้า ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายในสัปดาห์นี้มีไม่มากเท่าที่ควร

เทรดเดอร์ทองคำในอินเดียยังคงรออยู่นอกตลาดไม่ได้มีการนำเข้าทองคำใดๆ แม้ราคาทองคำภายในประเทศจะทำจุดสูงสุดในรอบมากกว่าเก้าเดือน ซึ่งคาดว่าเทรดเดอร์อาจเริ่มมีความเคลื่อนไหวภายในสัปดาห์นี้

ดอยซ์แบงก์ ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะทองคำ

มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวล่าสุดของราคาทองคำจะจางหายในช่วงสิ้นปี จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหมดศรัทธาในทองคำ

สำนักข่าว CNBC เน้นถึงเหตุผลที่ทำไมจึงต้องมีการเข้าซื้อทองคำในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นรายวันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอ โดยให้แนวรับหลักอยู่ที่ 1,383 - 1,384 เหรียญ และแนวต้านสำคัญในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 1,422 เหรียญ ซึ่งคาดว่าจะเห็นภายในเร็ววันนี้

นายเดนนิส การ์ทแมน ระบุกับ CNBC ว่า เขาเปิดสถานะ Long Position ในทองคำและตลาดนิกเกอิ เนื่องจากอยู่ในภาวะตลาดกระทิง

นายจาคอป ลิว เลขาธิการการคลังสหรัฐระบุเตือนว่า รัฐบาลสหรัฐอาจต้องเผชิญกับปัญหาการเงินเรื่องเพดานหนี้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม และจะไม่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อชำระหนี้ได้ หากสภาคองเกรสไม่ลงมติเพิ่มระดับเพดานหนี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ จากคำกล่าวของนายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืน หลังจากนายจอห์น เคอร์รี่ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องการให้รัฐบาลซีเรียรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนด้วยอาวุธเคมี

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1 % ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ -0.6 %

- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.9 % ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ -7.3 %

ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้

-S&P/CS Composite-20 HPI y/y ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 12.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 11.9%

-CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 80.3 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 79.6

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเหนือ 1,390 เหรียญ ตลอดทั้งวันของการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยที่ภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาต่ำกว่าที่คาด ยังส่งผลในทิศทางบวกสำหรับราคาทองคำ รวมทั้งความตึงเครียดในประเทศซีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดสงครามในลักษณะของความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะส่งทหารเข้าไป ซึ่งเป็นตัวที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น และ Hedge Funds เริ่มปิดสถานะ Short Position และเริ่มเข้าซื้อทองคำ และ SPDR เมื่อวานไม่ได้เข้าซื้อหลังจากที่ซื้อในวันศุกร์ 6.61 ตันแล้ว โดยภาพหลักวันนี้จะมีตัวเลข S&P/CS Composite-20 HPI และ Consumer Sentiment โดยคาดว่าจะออกมาลดลง ซึ่งถ้าออกมาตามที่คาดจะยังเป็นผลบอกต่อทอง อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดูตัวเลขที่สำคัญในวันพฤหัสบดีนี้ซึ่งจะมี Prelim GDP และ Unemployment Claims ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นจากเมื่อวานจากระดับ 31.94 บาท/ดอลลาร์มาอยู่ที่ระดับ 32.08 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นในเชิงเทคนิค โดยที่มีโอกาสทดสอบแนวต้านบนบริเวณ 1,420 เหรียญ แนวรับด้านล่างยังคงอยู่ที่ 1,385 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เป็นกลยุทธ์ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ยังแนะนำให้สะสม Long Position และปิด Short Position โดยหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม

นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะในการซื้อเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว ทำกำไรในทิศทางขาขึ้น

นักลงทุนที่ถือ Short Position

ควรจะต้องมีการปิดสถานะไปนานแล้ว ถ้ายังคงถือ Short Position อยู่ นักลงทุนคงจะต้องหาวิธีทำ Stop Loss ออกไป

Gold Futures GFQ13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,380 บาท

Gold Futures GFV13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,500 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

 

 

 

นักเศรษฐศาสตร์คาดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค.ร่วงแตะ 78.0

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 11:26:10 น.

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค.จาก Conference Board จะร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 78.0 จากระดับ 80.3 ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวลง แต่ก็อาจจะช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง

ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board จะมีการเปิดเผยในเวลา 21.00 น.ในวันนี้ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนส.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนร่วงลงแตะระดับ 80 จากระดับสิ้นเดือนก.ค.ที่ 85.1

ทั้งนี้ สถิติเดือนก.ค.นั้น ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กดSellสดแล้วครับ1397.8cut1407.8เป้า1373

 

 

คัตลอสไปแล้วครับที่1402 ครับ

คืนเจ้าไป42$

ยกเลิกsell limit 1407 ครับ

ยกเลิกsell limit 1415 ครับ

คงsell limit 1424 cut 1430 เป้า 1373 ไว้

เพิ่ม sell limit 1435 cut 1440 เป้า 1373

27-8-56-03.gif

กราฟนี้คือเหตุผลที่ยกเลิกออเดอร์เหลือแค่1424 และเพิ่ม1435 ครับ

จากกราฟราย15นาที ตอนนี้เราอยู่ในคลื่นย่อย5สีเขียวซึ่งประกอบด้วย5คลื่นย่อย

ตอนนี้เหมือนเล่น1&2ไปแล้วตอนนี้คลุมเคลือจะเล่น345รึป่าว ถ้าเล่น345ต่อจะต้องเบรคไฮ1406.8เมื่อเช้าให้ได้ จึงจะเล่นต่อไปเป้าไปต่อถ้าจบจริงๆน่าจะฟิโบ200-227.2-261.8 หรือราคา 1424 -1430-1435 ตามลำดับ

แม้ว่าราย1และราย4ชม จะเกิดไดเวอร์จิ้นแล้ว และราย4ชมฟิชเชอร์บีบีก็ยกตัวแล้ว แต่เป็นการเตรียมความพร้อมที่จะลง ยังหาเหตุผลลงไม่ได้ พอมาแกะราย15นาที มีลักษณะคล้ายจะไปต่อได้อีกก็ต้องยอมให้ขึ้นให้จบสำหรับคนรอปล่อยของนี่อาจเป็นจังหวะที่รออยู่ก็ได้้ ส่วนแนวต้านอีกอันคือแนวต้านสีขาวข้างบนตรงกับฟิโบ227.2หรือ1430 ตรงนี้เป็นแนวต้านเทรนขึ้นรอบนี้ถ้าขึ้นมาติดตรงนี้ก็น่าเสี่ยงขายแต่ให้เผื่อใจไว้เล็กน้อยเพราะเจ้าไม่ธรรมดาไม่ยอมให้ได้ราคาดีที่สุดแต่วันนี้หรือไม่เกินพรุงนี้คงรู้ผลแล้วว่าสิ่งที่ยืนยันตลอดทางที่ผ่านมาจะเป็นจริงหรือไม่ :aa

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...