ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 15 ต.ค. 57 (ภาคบ่าย)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 17:01:17 น.

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดลบ 1.75 จุดปิดที่ระดับ 1,026.57 จุด โดยมีการย่อตัวลงมาในช่วงบ่าย หลังจากที่การปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ บวกกับยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เช่นเดียวกับราคาทองคำที่ยังมีการย่อตัว หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอีกครั้ง โดยคืนนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯอย่างยอดค้าปลีกและดัชนี PPI

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า SET50 ยังมีแนวโน้มเป็นเชิงลบ หลังจากที่ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานยังคงไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆเข้ามา ขณะที่ Gold Futures ยังคงปรับตัวลงแม้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะหนุนราคาทองคำในประเทศ

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

 

 

อังกฤษเผยอัตราว่างงานลดลงแตะ 6% ขณะค่าจ้างปรับตัวเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 16:37:15 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานลดลงจาก 6.2% เป็น 6% ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนส.ค. ทำสถิติแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ในขณะเดียวกัน ค่าจ้างในอังกฤษยังได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขข้างต้นจะส่งสัญญาณที่ดีต่อตลาดแรงงานอังกฤษ แต่ก็ยังมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวอยู่บ้าง โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษนั้นปรับตัวลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปีก่อนหน้า ขณะที่มีค่าจ้างรายไตรมาสเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

KBANK มองบาทมีโอกาสแข็งค่าระยะสั้น แต่ปลายปีอ่อนแตะ 33 แนะป้องกันความเสี่ยง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557 16:29:17 น.

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยมองค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง โดยมีเป้าหมายสิ้นปีอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น คาดปีหน้าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้กระแสเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาทและเงินสกุลเอเชียในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นค่าเงินบาทอาจมีความผันผวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นได้บ้าง เนื่องจากยังมีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้จากนักลงทุนต่างชาติที่โยกเงินเข้ามาลงทุน(Portfolio Investment) และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ในแหล่งที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรของประเทศไทยกว่า 1.4 แสนล้านบาท ประกอบกับคาดการณ์ว่าอาจมีการออกมาตรการผ่อนคลายการเงินรอบใหม่ของธนาคารกลางยุโรปECB) จากการประชุมในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ซึ่งหากมีการอัดฉีดสภาพคล่องตามมาตรการใหม่จริงจะทำให้มีเงินอีกระลอกไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ และอาจทำให้เงินบาทและสกุลเพื่อนบ้านแข็งค่าขึ้นได้ชั่วคราว

สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำเข้าในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2557 แนะนำให้เริ่มเข้าป้องกันความเสี่ยงด้วยธุรกรรม Forward หรือ ธุรกรรม Option โดยทยอยซื้อดอลลาร์ (ต้นปีอยู่ที่ประมาณ 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) และรอจังหวะซื้อดอลลาร์เพิ่มหากธนาคารกลางยุโรปมีการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายการเงิน ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ที่จะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งเงินบาทแข็งค่าขึ้นชั่วคราว

จากสถิติของธนาคารพบว่า การเข้าป้องกันความเสี่ยงของผู้ประกอบการในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 มีสัดส่วนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากค่าเงินมีความผันผวนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยในปี 2556 ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 28.56 - 32.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คือมีการเคลื่อนไหวถึง 4.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15.1% ขณะที่ในปีนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 31.75-33.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรืออยู่ในกรอบช่วง 1.40 บาทต่อดอลลาร์ หรือเพียง 4.2% ส่งผลให้การบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ประกอบการลดลง โดยสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงของผู้ประกอบการผ่านธุรกรรม Forward เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วลดลงจาก 43.5% ในปี 2556 เป็น 39.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน และมีการใช้บัญชีเงินฝากที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ (FCD) เพิ่มขึ้น 73%

ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่มองว่าค่าเงินบาทอาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในช่วงที่จะได้รับชำระค่าสินค้าก่อนปลายปี แนะนำให้เข้าป้องกันความเสี่ยงโดยการซื้อ Put Option ซึ่งเป็นการประกันอัตราแลกเปลี่ยนขั้นต่ำสุดในการขายดอลลาร์หากบาทแข็งค่า และในขณะเดียวกันจะมีโอกาสขายได้อัตราที่ดีขึ้นอีกหากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าป้องกันความเสี่ยงไม่เสียโอกาสหากเงินบาทอ่อนค่าลงมากเหมือนการทำ Forward ปกติ

ด้านตลาดตราสารหนี้ของไทย กลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อตราสารหนี้ของไทยเพิ่มอย่างต่อเนื่องโดยนับจากต้นปีจนถึงปลายเดือนส.ค. นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ไทยกว่า 260,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันผู้ออกหุ้นกู้ภาคเอกชนก็ใช้จังหวะที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำตลอดปี 2557 ออกหุ้นกู้เอกชนระยะยาว โดยมีมูลค่าการออกหุ้นกู้นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ถึงปลายเดือนส.ค.กว่า 420,000 ล้านบาท (นับรวมหุ้นกู้ของธนาคารพาณิชย์) โดยทั้งตลาดคาดการณ์ว่าหุ้นกู้เอกชนที่ออกจำหน่ายในปีนี้ รวมแล้วจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์ดิ่งลงเทียบเยน หลังยอดค้าปลีกสหรัฐหดตัวมากเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 21:09:19 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากที่ยอดค้าปลีกสหรัฐหดตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

เมื่อเวลา 9.38 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินดอลลาร์ร่วงลง 1.1% เทียบเยน แตะ 105.84 เยน/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันดอลลาร์ก็อ่อนค่าลง 1.4% เทียบยูโร ที่ระดับ 1.2829 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินเยนเคลื่อนไหวเล็กน้อยเทียบยูโรที่ 135.58 เยน/ยูโร

เงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์จากผู้บริโภคที่อ่อนแอลง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกสหรัฐจะลดลง 0.1% ในเดือนที่แล้ว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง จากคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 19:20:20 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 75 จุด หรือ 0.5% ที่ระดับ 16,180 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ร่วงลง 0.7% แตะที่ 1,862.4 จุด เมื่อเวลา 7.27 น.ตามเวลานิวยอร์ก เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าสหรัฐอาจเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนต.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงหลังจากที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐอาจลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงจะถือว่าหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเขตนิวยอร์ก อาจร่วงลงแตะ 20.25 ในเดือนต.ค. จากระดับ 27.54 ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ในเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

เฟดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเขตนิวยอร์กดิ่งลงในเดือนต.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 22:04:38 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากระดับ 27.54 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะลดลงแตะ 20.25

ส่วนดัชนีย่อยอื่นๆนั้น ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ดิ่งลงแตะ -1.73 ในเดือนต.ค. จาก 16.86 ในเดือนก.ย., ดัชนีระยะเวลาการทำงานเฉลี่ยใน 1 สัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ -1.14 จาก 3.26 ขณะที่ดัชนีการจ้างงานดีดตัวแตะ 10.23 จากระดับ 3.26

สำหรับดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 41.66 ในเดือนต.ค. เทียบกับ 46.72 ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนีความคาดหวังของลูกจ้างลดลงแตะ 12.50 จาก 14.13

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลง หลัง IEA หั่นคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันทั่วโลก

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 19:37:11 น.

ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลง หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาด NYMEX ลดลง 70 เซนต์ แตะที่ 81.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในรายงานประจำเดือนว่า คาดว่าในปีนี้ทั่วโลกจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 650,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์คราวก่อน 250,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะรายงานในวันพฤหัสบดีนี้ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค. สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

สถาบันจีนเผยเงินหยวนจะเป็นสกุลเงินใหญ่อันดับ 3 ของโลกในระยะกลาง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 ตุลาคม 2557 17:58:00 น.

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IMI) สังกัดมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีน (RUC) เปิดเผยว่า เงินหยวนจะก้าวขึ้นเป็นสกุลเงินรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในระยะกลาง ภายใต้สภาพการณ์ในเชิงบวก

นายตู๋ หยงหง รองผู้อำนวยการ IMI กล่าวในการสัมมนาว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า คาดว่าเงินหยวนจะกลายเป็นสกุลเงินใหญ่ที่เป็นรองเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโรเท่านั้น เมื่อพิจารณาจากพื้นฐานที่สำคัญจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของจีน และทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินหยวนที่โดดเด่น

IMI เปิดเผยรายงานการสู่ความเป็นสากลของเงินหยวนปี 2557 โดยใช้ดัชนีระหว่างประเทศของเงินหยวน (RMB International Index: RII) เป็นมาตรวัดวัดความเป็นสากลของสกุลเงินหยวน

ดัชนี RII มีการคำนวณที่ครอบคลุมถึงการบทบาทการกำหนดราคา การชำระหนี้ และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยระดับความเป็นสากลของสกุลเงินต่างๆจากระดับต่ำถึงระดับสูง จะอยู่ในกรอบตั้งแต่ 0 ถึง 100

ทั้งนี้ ดัชนี RII แตะระดับ 1.69 ในช่วงสิ้นปี 2556 ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 0.92 ในช่วงต้นปี

ส่วนดัชนีวัดความเป็นสากลของสกุลเงินต่างๆ ซึ่งมีวิธีการคำนวณเช่นเดียวกับดัชนี RII นั้น ดัชนีความเป็นสากลของเงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 52.96 ในไตรมาส 4 ปี 2556 ตามด้วยดัชนีเงินยูโรที่ 30.53, ดัชนีเงินปอนด์ 4.30 และดัชนีเงินเยน 4.27

นายเจา ซีจุน รองคณบดีของ RUC School of Finance คาดว่า ดัชนี RII คาดว่าจะแตะที่ระดับ 20 ในระยะยาว ท่ามกลางการปรับตัวลงที่สอดคล้องกันของดัชนีความเป็นสากลของเงินดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าว จะส่งผลให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และผลกระทบจากการอ่อนค่าของดอลลาร์จะลดน้อยลง นอกจากนี้ สัดส่วนสินทรัพย์ของทุนสำรองต่างประเทศของจีนก็จะมีความหลากหลายยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

ADVERTISEMENT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10394788_701548489921188_847893523370722701_n.jpg?oh=560e6478ac9bf09ca11da8bbf04ad275&oe=54C4C05B

สวัสดียามเช้า

สวัสดีเพื่อน news TraderJunior wannn Goldleng Google OKorOn Espresso papon ..... ..... ...พิเศษสำหรับทุกคน... ... ... ...

สวัสดี deb หลับอุตุ จำฝันมะได้เบย

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 07:43:15 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐ จีน และเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐที่หดตัวลงในเดือนก.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,141.74 จุด ร่วงลง 173.45 จุด หรือ -1.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,215.32 จุด ลดลง 11.85 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,862.49 จุด ลดลง 15.21 จุด หรือ -0.81%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านการผลิต

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.2% ปิดที่ 311.36 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,939.72 จุด ร่วงลง 148.53 จุด หรือ -3.63% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,571.95 จุด ร่วงลง 253.26 จุด หรือ -2.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,211.64 จุด ลดลง 181.04 จุด หรือ -2.83%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแรง และการร่วงลงของหุ้น Shire ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 181.04 จุด หรือ 2.83% ปิดที่ 6,211.64 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐและประเทศต่างๆได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 81.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,244.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์ ปิดที่ 17.464 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,260.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 30.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 764.25 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่มีความต่อเนื่องยาวนานตามที่คาดกันไว้ ซึ่งได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.5929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5906 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.01 เยน เทียบกับระดับ 106.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9439 ฟรังค์ จาก 0.9546 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8709 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,141.74 จุด ลดลง 173.45 จุด -1.06%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,215.32 จุด ลดลง 11.85 จุด -0.28%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,862.49 จุด ลดลง 15.21 จุด -0.81%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,211.64 จุด ลดลง 181.04 จุด -2.83%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,571.95 จุด ลดลง 253.26 จุด -2.87%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,939.72 จุด ลดลง 148.53 จุด -3.63%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,238.00 จุด เพิ่มขึ้น 34.00 จุด +0.65%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,245.60 จุด เพิ่มขึ้น 38.20 จุด +0.73%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,655.51 จุด ลดลง 112.88 จุด -1.29%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,073.52 จุด เพิ่มขึ้น 137.01 จุด +0.92%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,925.91 จุด ลดลง 3.34 จุด -0.17%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,373.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.19 จุด +0.60%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,991.19 จุด เพิ่มขึ้น 45.13 จุด +0.65%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,140.05 จุด เพิ่มขึ้น 92.08 จุด +0.40%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,962.94 จุด เพิ่มขึ้น 40.36 จุด +0.82%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,786.84 จุด ลดลง 9.54 จุด -0.53%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,198.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด +0.14%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อน ขณะข้อมูลศก.สหรัฐแย่สกัดกระแสขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 07:20:07 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่มีความต่อเนื่องยาวนานตามที่คาดกันไว้ ซึ่งได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.5929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5906 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.01 เยน เทียบกับระดับ 106.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9439 ฟรังค์ จาก 0.9546 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8709 ดอลลาร์

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งนับว่าหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% และอาจจะส่งผลให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องล่าช้าออกไปจากเดิมที่คาดกันไว้ในช่วงกลางปี 2558

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์จากผู้บริโภคที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ยังปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะลดลง 0.1%

ขณะเดียวกัน เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากระดับ 27.54 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะลดลงแตะ 20.25

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนะซื้อประกันเสี่ยงบาทอ่อน หั่นส่งออก'ติดลบ0.25%'จี้รัฐใช้งบ-ฟื้นท่องเที่ยว

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 00:00:00 น.

ไทยโพสต์ * กสิกรไทยมองเงินบาทจ่อแข็งค่าระยะสั้น แต่ปลายปีอาจอ่อนแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์ แนะผู้นำเข้า-ส่งออกซื้อประกันความเสี่ยง รับความผันผวน 8 เดือนต่างชาติขนเงินเข้าซื้อตราสารหนี้ 260,000 ล้านบาท เอกชนหั่นส่งออกติดลบ 0.25% หลังเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น กระทุ้งรัฐเร่งเบิกจ่ายงบ กระตุ้นท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศ

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนา คารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยมองค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง โดยมีเป้าหมายสิ้นปีอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น คาดปีหน้าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้กระแสเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่และดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นค่าเงินบาทอาจมีความผันผวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นได้บ้าง เนื่องจากยังมีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้จากนักลงทุนต่างชาติ โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรของไทยกว่า 140,000 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าอาจมีการออกมาตรการผ่อนคลายนโยบาย (คิวอี) รอบใหม่ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จากการประชุมวันที่ 2 ต.ค.นี้ หากมีการอัดฉีดสภาพคล่องใหม่จริงจะทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ และอาจทำให้เงินบาทและสกุลเพื่อนบ้านแข็งค่าขึ้นได้ชั่วคราว

"แนะนำผู้ประกอบการที่ เป็นผู้นำเข้า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ให้เริ่มเข้าป้องกันความเสี่ยงด้วยธุรกรรม Forward หรือ ธุรกรรม Option โดยทยอยซื้อดอล ลาร์ และรอจังหวะซื้อดอลลาร์เพิ่มหากอีซีบีมีการเพิ่มมาตรการคิวอี ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ที่จะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งเงินบาทแข็งค่าขึ้นชั่วคราว" นายธิติกล่าว

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทต้นปีอยู่ที่ 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุ บัน 32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ด้านตลาดตราสารหนี้ของ ไทย นับจากต้นปีจนถึงปลายเดือน ส.ค. นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตรา สารหนี้ไทยกว่า 260,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจังหวะที่อัตราดอก เบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ภาคเอกชนออกหุ้นกู้แล้ว 420,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกฯ ได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกของไทยปีนี้ลงจากเดิม 1.6% เป็นติดลบ 0.25% ถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวและยังมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดส่งออกหลักของไทย ติดลบหมดทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป จีนและอาเซียนเดิม รวมทั้งสินค้าส่งออกหลักของไทยลดลงทั้งยางพารา สิ่งทอ ยานยนต์และอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากจะพยุงไม่ให้ยอดส่งออกติดลบมากไปกว่านี้ ภาครัฐจะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณออกมาภายในเดือน ธ.ค.นี้ ตัวเลขการท่องเที่ยวจะกลับมาขยายตัวอีกหรือไม่ รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งหากดันทั้ง 3 ตัวนี้ได้ก็จะพยุงให้จีดีพีปีนี้อยู่ที่ 1.5% โดยไตรมาส 4 ปีนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งรัดใช้งบช่วง 3 เดือนแรกของปีหน้าให้ได้ 30% หรือ 750,000 ล้านบาท และกระตุ้นการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ.

บรรยายใต้ภาพ

ธิติ ตันติกุลานันท์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $10.5 เหตุเศรษฐกิจซบเซาหนุนแรงซื้อทอง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 07:38:30 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,244.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์ ปิดที่ 17.464 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,260.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 30.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 764.25 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก

ทางการสหรัฐเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1% ขณะที่ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 27.54 ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. น้อยกว่าที่ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงและยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทศกาลวิวาห์และเทศกาลเฉลิมฉลองในประเทศอินเดีย โดยมีรายงานว่า อินเดียนำเข้าทองคำในเดือนก.ย.มูลค่า 3.75 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเดือนส.ค.เกือบสองเท่า

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ฉุดน้ำมัน WTI ปิดลบ 6 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 07:12:52 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐและประเทศต่างๆได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 81.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันยังคงได้รับปัจจัยลบจากรายงานของ IEA ที่ระบุว่า คาดว่าในปีนี้ทั่วโลกจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 650,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์คราวก่อน 250,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้ส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1% ขณะที่ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 27.54 และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. น้อยกว่าที่ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ข้อมูลเงินเฟ้อที่ซบเซาของจีนและเยอรมนีนับเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนก.ย.ขยายตัว 1.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงรุนแรงมากกว่าที่คาด และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2553 ขณะที่เยอรมนีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย.ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับเดือนส.ค.และก.ค.

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะรายงานในวันพฤหัสบดีนี้ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค. สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 15-10-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 15-10-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ แนวโน้มราคาทองคำ สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 15-10-57 กสิกรไทยมองค่าเงินสิ้นปีอยู่ที่33บาท ธนาคารกสิกรไทย มองค่าเงินบาทสิ้นปีนี้อยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ ส่วนปีหน้าอยู่ที่ 34 บาท/ดอลลาร์ พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1.2พันลบ. หุ้นไทยปิดบวก0.63จุด Money Wise COMMODITIES 15-10-57 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย 15-10-57 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 14 ตุลาคม 2557 10:00

 

คลังชี้ปฏิรูปดันเครดิตไทย'ขยับ'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_610989_1.jpg

"สมหมาย"ระบุต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ไทยมากขึ้น สนบ.แจงแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เน้นกู้เงินในประเทศ

กระทรวงคลังมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่ง เชื่อปีหน้าฟื้น แก้ปัญหาคอร์รัปชัน-ความเชื่อมั่น มีโอกาสขยับขึ้นระดับ “เอ” ชี้ต่างชาติเข้าใจการเมืองไทย ด้านแบงก์ชาติ มั่นใจแนวโน้มบริโภคดีขึ้น หลังการเมืองคลี่คลาย มองปีหน้าเศรษฐกิจโตตามศักยภาพ ขณะยอดขอบีโอไอ เพิ่มต่อเนื่อง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และ ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้จัดประชุมประจำปี 2557 ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมครั้งนี้ นายสมหมาย ภาษีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ รมว.คลังและผู้ว่าการฯธปท. ได้หารือทวิภาคีกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และสถาบันการเงินระหว่างประเทศชั้นนำต่างๆ เช่น ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ แบงก์ และธนาคารเฮชเอสบีซี

นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ(เครดิต)ของโลก 3 แห่ง คือ สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ ฟิตช์ เรตติ้ง โดยทั้ง 3 แห่ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อของไทยไว้ที่ระดับเดียวคือกัน คือ BBB+

นายสมหมาย กล่าวว่าหากไทยมีความเข้มแข็งในเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ และมีธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศสามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้น ก็มีโอกาสที่สถาบันจัดอันดับทั้ง 3 แห่งจะปรับเครดิตไทยเพิ่มขึ้นเป็นระดับ A ในปี 2558

นายสมหมาย กล่าวว่าในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เครดิตไทยจะไม่ถูกปรับลดลงอย่างแน่นอน และมีโอกาสที่ปรับขึ้น ซึ่งหากได้ปรับขึ้นจะเป็นหน้าตาของประเทศ สิ่งที่จะตามมาคือทำให้ดอกเบี้ยที่รัฐบาล หรือเอกชนไปกู้เงินต่ำลง

“ผมได้ขอบคุณไปทางสถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีความอดทนไม่ลดเครดิตไทยปีที่แล้ว ซึ่งการพิจารณาเครดิตไทยนั้นดูโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจพบว่าของไทยยังดีอยู่ และมีความมั่นคงด้านการเงิน รวมถึง ความมั่นคงของค่าเงินบาท แม้คนไทยจะทะเลาะกัน ถือมีดถือดาบ แบ่งเป็น 2-3 สี แต่การเงินและการคลังของไทยยังดี ทำให้เครดิตไทยไม่ถูกปรับลดลง”นายสมหมายกล่าว

เชื่อต่างชาติเข้าใจการเมืองไทย

จากการหารือกับนักลงทุนของสหรัฐ ธนาคารต่างๆ รวมถึงสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ พบว่า เขาเข้าใจไทยมากขึ้นว่าทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งนักลงทุนเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทย และนักลงทุนพอใจกับการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ที่ทำในแบบรูปแบบประชาธิปไตยแม้จะไม่ผ่านการเลือกตั้ง แต่มีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา มีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และมีสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)

“ผมบอกกับนักลงทุน และกลุ่มที่ไปพบว่า ถ้าไทยไม่ทำอย่างนี้ไทยก็จะดีลำบาก และนายกฯดีๆ ที่มาในลักษณะนี้ทั้ง จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ สมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ก็ได้เข้ามาพัฒนาประเทศมาก และผมก็หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จะไม่ต่างจาก 2 ท่านที่ถูกยกชื่อขึ้นมา”นายสมหมาย กล่าว

มั่นใจเศรษฐกิจโตเกิน1.5%

อย่างไรก็ตาม นายสมหมาย ยอมรับว่า การเดินทางไปครั้งนี้ รู้สึกไม่สบายใจที่รู้ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยสุดในอาเซียน โดยธนาคารโลกมองว่า เศรษฐกิจไทยจะโตได้แค่ 1.5% แต่ส่วนตัวมองว่า เศรษฐกิจของไทยโตได้มากกว่า 1.5% และหากการส่งออกขยายตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปี และผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจโตได้ใกล้ระดับ 2%

“ผมต้องขอโทษประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่ไทยเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจในปี 2557 ของอาเซียนต่ำจากระดับที่ควรจะเป็น แม้แต่ลาวยังโตถึง 7% ผมรู้สึกอายที่เศรษฐกิจไทยโตในอัตราต่ำที่สุดในอาเซียน”นายสมหมาย กล่าว

แม้เศรษฐกิจไทยจะโตได้ต่ำ แต่ไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งอัตราการว่างงานต่ำ อัตราเงินเฟ้อต่ำ และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่มุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสทางการคลังการปฏิรูปภาษีเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมีส่วนร่วมรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนสหรัฐฯ

ยกระดับ‘AMRO’เป็นองค์กรระหว่างปท.

นอกจากนี้ นายสมหมาย ยังได้ลงนามในความตกลงเพื่อการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office : AMRO)ให้เป็นองค์การระหว่างประเทศ ความตกลงฉบับนี้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ได้แก่ ประเทศกลุ่มอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับ AMRO จากสถานะบริษัทจำกัดขึ้นเป็นองค์การระหว่างประเทศ

“การยกระดับ AMRO เป็นองค์การระหว่างประเทศนี้ จะส่งผลดีต่อทั้งประเทศไทยและต่อภูมิภาคอาเซียน+3 โดยจะเป็นการสร้างความมั่นใจว่าประเทศสมาชิกอาเซียน+3 จะมีองค์กรถาวรในการเฝ้าระวังทางเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ มีสถานะและความสำคัญเท่าเทียมกับองค์กรทางการเงินระหว่างประเทศอื่นๆ รวมทั้ง ยังสามารถดึงดูดให้บุคลากรที่มีคุณภาพสูงมาทำงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และติดตามภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกและของภูมิภาค”เขากล่าว

ธปท.เชื่อศก.ปี58โตตามศักยภาพ

ด้าน นายจิรเทพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธปท. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าการธปท. มีโอกาสพบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยโดยหนึ่งในประเด็นที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศให้ความสนใจ คือ เรื่องความมั่นใจของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ดีขึ้นว่า เป็นเพียงชั่วคราวหรือไม่

"ผู้ว่าฯการธปท. ชี้แจงว่า สถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายลงน่าจะทำให้การบริโภคกลับสู่แนวโน้มปกติ อีกทั้งความต้องการใช้จ่ายที่ชะลอไว้ในช่วงก่อนหน้านี้น่าจะกลับมาเป็นปกติด้วย"

นายจิรเทพ กล่าวว่าภาคเอกชนจะได้อานิสงส์จากการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามศักยภาพในปี 2558 นอกจากนี้ รัฐบาลเร่งดำเนินการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ปรับโครงสร้างพลังงาน รวมทั้งดูแลภาคเกษตรโดยไม่ใช้นโยบายการอุดหนุนราคา ทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ดีขึ้น ในภาพรวมในช่วงปีหน้ายังไม่เป็นห่วงเรื่องความมั่นใจทางธุรกิจ เพราะการปฏิรูปการเมืองเดินตามโรดแมพ 3 ช่วงตามที่ประกาศไว้

เผยยอดขอ‘บีโอไอ’เพิ่มชัดเจน

สำหรับประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้น ผู้ว่าการธปท. ได้ชี้แจงว่า หากมองจากตัวเลขโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นโครงการที่สำคัญ เช่น อีโคคาร์ การแปรรูปอาหาร และที่เกี่ยวกับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน(renewable energy) โดยเป็นนักลงทุนจากหลายประเทศไม่ใช่เฉพาะจากญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ภาพรวมการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศสุทธิรวมตั้งแต่ต้นปีเป็นบวก

นายจิรเทพ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการดูแลเศรษฐกิจปี 2558 ผู้ว่าการธปท.ยืนยันว่า นโยบายการเงินขณะนี้มีความเพียงพอในการช่วยดูแลเศรษฐกิจ และไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อถึงแม้จะมีการปรับราคาพลังงานบ้าง มองไปข้างหน้า ธปท. จะติดตามทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด แต่ก็เป็นข้อมูลที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว

ชี้‘ทุนสำรอง’แกร่งรับมือบาทผันผวน

ส่วนในเรื่องเสถียรภาพเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่อาจผันผวนในปี 2558 จากอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันในประเทศอุตสาหกรรมหลัก รวมทั้งความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งผู้ว่าการธปท.ระบุว่า ปัจจุบันไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศเพียงพอและมีระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นที่ช่วยเป็นด่านแรกในการดูแลความผันผวนนี้ได้

สำหรับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ล่าสุด ณ วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 1.61 แสนล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันยังมีฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์

สบน.แจงแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ด้าน นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กล่าวว่า การหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเรทติ้งทั้ง 3 แห่ง ในครั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปฏิรูปการจัดเก็บภาษี นโยบายและแนวทางในการบริหารประเทศของรัฐบาลที่เน้นแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยและแนวทางการระดมทุน เพื่อสะท้อนให้บริษัทฯ เห็นว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต

ส่วนการหารือทวิภาคีระหว่าง สบน. กับสถาบันการเงินต่างประเทศ ได้แก่ แบงก์ออฟโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, ซิตี้แบงก์, มิซูบิชิ ยูเอฟเจ, มอร์แกนแสตนเลย์, โนมูระ และ ยูบีเอส อินเวทเมนท์แบงก์ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย และการระดมทุนโดยการออกตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ การบริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้ต่างประเทศ

เน้นกู้เงินในประเทศลงทุน

นายกฤษฎา กล่าวว่า การลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศยังคงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาจัดทำแผนการลงทุนของโครงการที่มีความพร้อมและแผนการระดมทุนเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละโครงการ

แหล่งเงินสำหรับโครงการประกอบด้วย เงินงบประมาณ รายได้ของรัฐวิสาหกิจ เงินกู้ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน(พีพีพี) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ การกู้เงินส่วนใหญ่จะเป็นการกู้เงินในประเทศ สำหรับการกู้เงินและการออกตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจะพิจารณาต้นทุนการกู้เงินเปรียบเทียบกับการกู้เงินในประเทศ รวมทั้งพิจารณาความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการใช้เงินและแนวทางการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนติดตามประเมินสภาวะตลาด

Tags : ไอเอ็มเอฟเวิลด์แบงก์ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยพีพีพีเครดิตปฏิรูปสมหมาย ภาษีประสาร ไตรรัตน์วรกุล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯถึงอิตาลีร่วมประชุมอาเซม คนไทยในมิลานแห่ต้อนรับคึกคัก

http://www.naewna.com/politic/126263

 

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 08.25 น.

tags : ประยุทธ์, นายกฯ, อิตาลี, มิลาน

[/url]

126263.jpg

16 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานมาลเพนซา (Malpensa) นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี เวลา 17.05 น.วันที่ 15 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง โดยมีรองอธิบดีกรมพิธีการทูตอิตาลีให้การต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ และคณะ เดินทางต่อไปยังโรงแรม starhotels Rosa Grand ที่พัก เพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำ ที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกรัฐมนตรี และคณะ

ทั้งนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางถึงโรงแรม ได้มีคนไทยจำนวนหนึ่งนำรูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ธงชาติไทย ป้ายข้อความ และมอบดอกไม้ มาให้กำลังใจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายและกล่าวขอบคุณ

k(16).jpg

ขณะที่ในวันที่ 16 ต.ค.พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดเข้าหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ ประกอบด้วย นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

จากนั้นจะร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย - ยุโรป หรืออาเซม ครั้งที่ 10 อย่างเป็นทางการ ก่อนจะรับฟังผลการประชุมสภาเอเชีย - ยุโรป การประชุมเวทีประชาชนเอเชีย - ยุโรป และสภาธุรกิจเอเชีย - ยุโรป และร่วมประชุมเต็มคณะในหัวข้อการส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินและเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมโยงระหว่างเอเชีย - ยุโรป การเป็นหุ้นส่วนระหว่างเอเชีย - ยุโรป เพื่อกำหนดประเด็นโลก ภายใต้โลกที่มีความเชื่อมโยงกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เข้าคุยขำๆมะได่

สแตนชาร์ตลุ้นจีดีพีไทยปีหน้า6% "สแตนชาร์ต" คาดจีดีพีโลกโต 3.4% ปีหน้า หนุนจีดีพีไทยพุ่ง 6% การเมืองมีเสถียรภาพรัฐบาลทำหน้าที่ต่อเนื่อง จ่อเอาผิดโบรกปล่อยข่าวผ่านไลน์ "ก.ล.ต." ออกโรงเตือนบริษัทหลักทรัพย์ กำชับเจ้าหน้าที่การตลาด ระมัดระวังการปล่อยข่าวทางไลน์ ชี้มีความผิด ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคเช้า 16-10-57 vdo.gif Money Wise ช่วง COMMODITIES ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคเช้าสดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 16-10-57 ทิศทางตลาดหุ้นภาคเช้า 16-10-57 vdo.gif 5 ปัจจัยก่อนลงทุน 16-10-57 vdo.gif หุ้นเช้าเปิดร่วง6.51จุด 'คีรี'คืนสังเวียนอสังหาฯ

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...