ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

รมว.พลังงานกรีซขวางใบสั่งแปรรูปจากกลุ่มเจ้าหนี้ ชี้ซ้ำเติมวิกฤติการเงิน

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 มีนาคม 2558 18:23:42 น.

นายพานาจิโอติส ลาฟาซานิส รมว.พลังงานและสิ่งแวดล้อมของกรีซ กล่าวว่า รัฐบาลมีจุดยืนคัดค้านการแปรรูปธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมพลังงาน และสาธารณูปโภคพื้นฐาน

 

นายลาฟาซานิสกล่าวว่า เขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดการแปรรูปได้ถูกตีความว่าหมายถึงการปฏิรูป โดยเขายืนยันว่า การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคพลังงานของระบบเสรีนิยมแบบใหม่ ได้ทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินของกรีซย่ำแย่ลง และสร้างปัญหาพลังงานในประเทศ

 

ทั้งนี้ การแปรรูปสินทรัพย์ของรัฐถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในมาตรการช่วยเหลือทางการเงินที่สหภาพยุโรป, ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศมีต่อกรีซ รวมถึงการใช้มาตรการรัดเข็มขัด โดยการปรับลดค่าใช้จ่ายของรัฐ และการขึ้นภาษี

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2112636

 

*สาวกแอปเปิลป่วน หลัง App store,iTunes,Mac App,iBook ล่มทั่วโลก

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 มีนาคม 2558 22:20:33 น.

แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ว่า การให้บริการบางอย่างของบริษัท ซึ่งได้แก่ App store, iTunes store, Mac App store และ iBook store ได้ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคสำหรับผู้ใช้บริการทั่วโลกในวันนี้

 

"ลูกค้าอาจไม่สามารถเข้าสั่งซื้อสินค้าจาก App Store, iTunes Store, iBooks Store, หรือ Mac App Store" แอปเปิลแถลงผ่านเว็บไซต์

 

ทั้งนี้ ประเทศที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ รวมถึง สหรัฐ, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ และฮ่องกง

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2112674

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'หลวงปู่'จ่อค้านตั้ง3พระผู้ใหญ่ โยงอุ้ม'ธัมมชโย'พ้นปาราชิก

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 11 มีนาคม 2558 21:08:00 น.

11 มี.ค.58 มีรายงานข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.58) เวลา 10.00 น. หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม จะเดินทางไปที่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอคัดค้านการแต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติชุดใหม่ ได้แก่ 1.พระพรหมวชิรญาณ (ปสฤทธ์ เขม.งกโร) 2.พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธ.มโม) 3.พระพรหมบัณฑิต(ประยูร ธม.มจิต.โต) หลัง ตรวจสอบพบว่า พระชั้นผู้ใหญ่ในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติชุดใหม่ 3 รูป มีความเกี่ยวพันกับกรณีที่มหาเถรสมาคม มีมติให้พระเทพญาณมหามุนี หรือ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพรรธรรมกาย ไม่ปาราชิก กรณียักยอกที่ดิน

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2112669

 

บีทีเอสยืนยันไม่ปรับค่าโดยสาร 1 มิ.ย.

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9.COM -- พุธที่ 11 มีนาคม 2558 18:09:37 น.

บีทีเอสยัน โต้ข่าวลือ ยืนยันไม่มีนโยบายปรับค่าโดยสาร ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กล่าวว่า บีทีเอสยังไม่มีแผนที่จะปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ในวันที่ 1 มิถุนายน ในเส้นทางสัมปทานจากสถานีหมอชิต-อ่อนนุช และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ตามที่เป็นกระแสข่าวมาก่อนหน้า

 

 

 

สำหรับการปรับอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้ง บีทีเอสจะพิจารณาจากต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าเสื่อมสภาพของวัสดุอุปกรณ์ อัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และที่สำคัญ จะพิจารณาผลกระทบที่จะมีต่อประชาชน แม้บีทีเอสจะมีสิทธิทำได้ตามเงื่อนไขในสัญญาสัมปทาน 30 ปี ที่ได้รับจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่กำหนดไว้ว่าบีทีเอสสามารถปรับอัตราค่าโดยสารได้ในทุก 18 เดือนตลอดระยะเวลาของสัมปทาน โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก กทม. แต่ต้องทำหนังสือแจ้งกทม.ล่วงหน้าก่อนเป็นเวลา 30 วัน แต่ที่ผ่านมาบีทีเอสก็ไม่ได้ปรับทุก 18 เดือน มีการปรับครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมปี 2550 อยู่ที่ 15-40 บาท และปรับครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 อยู่ที่ 15-42 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามเกินเพดานสูงสุดที่อัตรา 20-60 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย ณัฐชญา แตงตาด(อัครยรรยง) โทร.02-253-5000 ต่อ 114 อีเมล์: natchaya@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iqry/2112631

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

5ff456f1cf8c434565849d497673f333.jpg

ท้องอิ่ม มีพี่สาวอยู่ด้วยแค่นี้ก็พอละ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 07:49:42 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 มี.ค.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้ของบริษัทส่งออก

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,635.39 จุด ลดลง 27.55 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,849.94 จุด ลดลง 9.85 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,040.24 จุด ลดลง 3.92 จุด หรือ -0.19%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรจะช่วยหนุนธุรกิจในกลุ่มส่งออก โดยยูโรแข็งค่าขึ้นขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 395.48 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,997.75 จุด พุ่งขึ้น 115.80 จุด หรือ +2.37% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,805.99 จุด เพิ่มขึ้น 305.61 จุด, +2.66% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,721.51 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด หรือ +0.28%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากที่ร่วงหนักในรอบเกือบ 5 เดือนเมื่อวานนี้ แต่ตลาดบวกขึ้นไม่มากนักเนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแรงลง

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 18.67 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 6,721.51 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ระดับ 1,150.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26.8 เซนต์ ปิดที่ 15.365 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 14.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,115.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 14.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 789.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0535 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0699 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 14934 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5073 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.51 เยน เทียบกับระดับ 121.10 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0102 ฟรังก์ จาก 0.9988 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7578 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7617 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,635.39 จุด ลดลง 27.55 จุด -0.16%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,849.94 จุด ลดลง 9.85 จุด -0.20%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,040.24 จุด ลดลง 3.92 จุด -0.19%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,721.51 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด +0.28%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,805.99 จุด เพิ่มขึ้น 305.61 จุด +2.66%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,997.75 จุด เพิ่มขึ้น 115.80 จุด +2.37%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,763.30 จุด ลดลง 31.00 จุด -0.54%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,793.20 จุด ลดลง 31.00 จุด -0.53%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,523.18 จุด ลดลง 13.35 จุด -0.14%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,723.52 จุด เพิ่มขึ้น 58.41 จุด +0.31%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,980.83 จุด ลดลง 3.94 จุด -0.20%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,290.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.83 จุด +0.15%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,790.70 จุด ลดลง 37.78 จุด -0.48%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,717.97 จุด ลดลง 179.01 จุด -0.75%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,419.57 จุด ลดลง 43.36 จุด -0.79%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,778.16 จุด ลดลง 11.57 จุด -0.65%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,378.59 จุด ลดลง 19.67 จุด -0.58%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,659.17 จุด ลดลง 50.70 จุด -0.18%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2112689

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร ขณะ ECB เดินหน้า QE,คาดเฟดขึ้นดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 07:32:31 น.

ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0535 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0699 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 14934 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5073 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.51 เยน เทียบกับระดับ 121.10 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0102 ฟรังก์ จาก 0.9988 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7578 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7617 ดอลลาร์

 

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะ 1.0536 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนเม.ย.2546 ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางของสหรัฐและยุโรปมีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้มีการร่วงลงดังกล่าว

 

ECB ได้เริ่มโครงการซื้อพันธบัตรจำนวน 60 ล้านยูโรต่อเดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันภาวะเงินฝืดและเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจของยูโรโซนด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากขึ้นเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง

 

ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐได้ช่วยหนุนคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีกำหนดจะประชุมกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดกันว่าจะมีการส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการปรับตัวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักนั้น พุ่งขึ้น 1.16% แตะ 99.763 ในการซื้อขายช่วงท้ายของวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2112685

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% วันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 08:16:26 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2112879

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 12 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 07:15:57 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจาก EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. พุ่งขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 448.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.366 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526

 

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.322 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย หลังจากที่รัฐสภาของลิเบียได้ร้องขอให้สหประชาชาติ (UN) เลื่อนการเจรจาสันติภาพออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการหารือเกี่ยวกับโรดแมพของรัฐบาลชุดต่อไป

 

ทั้งนี้ นายฟาร์ราจ ฮาเชม โฆษกสภาผู้แทนราษฎรของลิเบียกล่าวว่า "เราร้องของให้มีการเลื่อนการเจรจาออกไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อหารือเกี่ยวกับโรดแมพ ขอบเขตอำนาจ กรอบเวลา และความสัมพันธ์กับสภาผู้แทนราษฎรของรัฐบาลชุดต่อไป"

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2112684

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 12 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 07:15:57 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจาก EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. พุ่งขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 448.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.366 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526

 

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.322 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย หลังจากที่รัฐสภาของลิเบียได้ร้องขอให้สหประชาชาติ (UN) เลื่อนการเจรจาสันติภาพออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการหารือเกี่ยวกับโรดแมพของรัฐบาลชุดต่อไป

 

ทั้งนี้ นายฟาร์ราจ ฮาเชม โฆษกสภาผู้แทนราษฎรของลิเบียกล่าวว่า "เราร้องของให้มีการเลื่อนการเจรจาออกไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อหารือเกี่ยวกับโรดแมพ ขอบเขตอำนาจ กรอบเวลา และความสัมพันธ์กับสภาผู้แทนราษฎรของรัฐบาลชุดต่อไป"

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2112684

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไทย-จีนตั้งทีมร่วมมือค้าสินค้าเกษตร

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 06:00:00 น.

ไทย-จีนตั้งทีมร่วมมือค้าสินค้าเกษตร

พาณิชย์มั่นใจช่วยขยายตลาดส่งออก

ไทย-จีน เซ็นMOU ตกลงซื้อข้าวไทย 2 ล้านตันและยางพารา 2 แสนตัน พร้อมขยายมูลค่าการซื้อขายสินค้าเกษตรเพิ่มเติมระหว่างก่อสร้างรถไฟรางคู่ ด้านพาณิชย์มั่นใจจะทำให้การส่งออกสินค้าไทยไปจีนมากขึ้น

 

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายหวัง เสี่ยว เทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ผู้แทนรัฐบาลจีน ในการกำหนดแผนงานการดำเนินการภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่าง ไทย และจีน ซึ่งมีกำหนดหารือระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม 2558 ว่า ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมโดยมีรมว.พาณิชย์เป็นประธานฝ่ายไทย และมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมกับคณะผู้แทนฝ่ายจีน จำนวน 2 ชุด

 

 

 

ทั้งนี้ เพื่อหารือในรายละเอียดข้อตกลงซื้อขายข้าวจำนวน 2 ล้านตันในช่วงระหว่างปี 2558-2559 และยางพาราจำนวน 2 แสนตัน ในช่วงระยะเวลาของการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของไทย รวมถึงการขยายมูลค่าการซื้อขายข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ของไทยเพิ่ม ตามที่ได้เซ็น MOU ไปแล้วเมื่อ 19 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา

 

“โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 1 ซึ่งมีการตั้งคณะทำงานชุดเล็กขึ้นมา เพื่อหารือในรายละเอียด การซื้อขายข้าว และยางพารา ตามที่ได้เซ็น MOU ไปแล้ว เบื้องต้นได้ตกลงกันว่าจะซื้อขายข้าว 2 ล้านตัน เป็นข้าวใหม่ 1 ล้านตัน และข้าวในสต๊อกของรัฐบาล 1 ล้านตัน ตามราคาตลาด ซึ่งผู้แทนรับผิดชอบฝ่ายไทย คือ กรมการค้าต่างประเทศ ส่วนจีนคือ บริษัทคอฟโก รัฐวิสาหกิจของจีน ส่วนยางอีก 2 แสนตัน จะซื้อในราคานำตลาด ซึ่งจะไม่ต่ำกว่าราคาตลาดแน่นอน โดยผู้แทนฝ่ายไทยที่หารือคือ องค์การสวนยาง(อสย.) และบริษัทชิโนเค็ม ของจีน”

 

โดยในวันที่ 12 มีนาคม 2558 จะมีการเซ็นรับรองผลสรุปการประชุมครั้งที่ 1 ที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งฝ่ายไทยตนจะเป็นตัวแทนในการลงนาม และนายหวัง เสี่ยว เทา จะเป็นตัวแทนลงนามของฝ่ายจีน จากนั้นจะมีการทำร่างรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำไปประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน อีกครั้ง พร้อมกับจะมีการหารือการซื้อขายสินค้าเกษตรอื่นๆ เพิ่มเติม และเซ็นสัญญาตกลงซื้อขายตามข้อตกลง MOU ต่อไป

 

“เซ็นรับรองผลการประชุมครั้งแรก เราจะไปขอใช้พื้นที่กระทรวงคมนาคม เพราะที่นั่นจะมีการหารือเรื่องรถไฟกันด้วย และการหารือครั้งแรกเป็นการหารือในส่วนกรอบที่ 1 ของ MOU เรื่องการซื้อขายขายข้าว และยางพารา ส่วนในกรอบที่ 2 เรื่องการซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มเติมจะหารือรายละเอียดอีกครั้งที่จีน การซื้อขายสินค้าเกษตรเพิ่มเติมจะดำเนินการไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร คาดว่าจะทำให้การซื้อขายสินค้าเกษตรของไทย และจีนขยายตัวเพิ่มขึ้น”

 

รมว.พาณิชย์ย้ำว่า MOU ฉบับดังกล่าว เป็น MOU ที่สำคัญยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นข้าวไทย ซึ่งในอดีตไทย

 

ส่งออกข้าวไปจีนปีละประมาณ 500,000 ตัน และผลจาก MOU ฉบับนี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น

 

นอกจากนี้ จะเร่งรัดให้จีนนำเข้าข้าวตาม MOU กรอบเดิม 1 ล้านตันเช่นกัน ซึ่งจีนได้มีการนำเข้าไปแล้ว 3 แสนตัน แต่จะแยกการเจรจาเป็นคนละส่วน ส่วนการประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลแบบยกคลังรอบ 2 ที่มีการเปิดประมูลข้าว 1 ล้านตัน ไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากกรมการค้าต่างประเทศ แต่เชื่อว่าจะขายข้าวได้ประมาณ 70-80% หรือ 7-8 แสนตันของข้าวที่เปิดระบายทั้งหมด สัปดาห์หน้าจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) เพื่อขออนุมัติระบายข้าวในส่วนนี้ต่อไป

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2112788

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

bd2426099924bfd9695fe03ad5aea9b5.jpg

หน้าร้อนใส่ชุดนี้หม่ำโมหวานเย็น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

Nation Channel

9 mins ·

 

กนง. ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ‪#‎NationTV‬

 

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.1617 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 08:47:10 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.20% แตะที่ 6.1617 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2112891

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขเศรษฐกิจจีนพลาดเป้าตอกย้ำภาวะซบเซา

ตัวเลขด้านเศรษฐกิจของจีนประจำเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์พลาดเป้าทั้งหมด ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขาดแรงส่ง

ตัวเลขการลงทุน ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์พลาดเป้าทั้งหมด ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขาดแรงส่ง และจำเป็นต้องมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ตัว ในวันนี้ (11 มี.ค.) ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ที่ขยายตัวเพียง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 7.8%

ขณะเดียวกัน ยอดค้าปลีกซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 10.7% พลาดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ที่ 11.7% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร มาตรวัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจจีน ขยายตัวไป 13.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 15% ด้วยเช่นกัน แถมยังเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 13 ปีเลยทีเดียว

การที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ๆ ออกมาพลาดเป้าพร้อมกันถึง 3 ตัวนี้ได้ตอกย้ำกระแสคาดการณ์ว่าทางการจีนจะหั่นดอกเบี้ยมากขึ้น รวมไปถึงผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพื่อปัดเป่าภาวะเศรษฐกิจของแดนมังกรที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ไม่ให้ชะลอตัวมากไปกว่านี้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนักในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาลง ประกอบกับความต้องการทั้งในและต่างประเทศน้อยลง แถมภาคอุตสาหกรรมก็มีการผลิตออกมาล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การปราบปรามการคอรัปชั่นเป็นวงกว้างของทางการ ก็ส่งผลกระทบทั้งในเรื่องของการลงทุน และยอดค้าปลีกด้วย

เรื่องนี้ทำให้ทางแบงก์ชาติจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในเดือนพฤศจิกายน และเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ตัวเลขชุดล่าสุดที่ออกมานี้ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจกันมากขึ้นว่า ทางการจีนคงจะปรับลดดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ที่มา : Bangkokbiznews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แอ๊ปเปิ้ลระบบล่ม

แอ๊ปเปิ้ลกู้ระบบคืน หลังทำให้แอพ สโตร์ และไอทูนส์ ใช้งานไม่ได้ร่วม 12 ชั่วโมง ระบุเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคภายใน

ระบบไอทูน และแอพ สโตร์ ของแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ ในช่วงบ่ายวานนี้ ตามเวลาในสหรัฐ หลังจากที่การให้บริการล่มไปนานเกือบ 12 ชั่วโมง สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้ใช้บริการอย่างมาก

เหตุระบบล่มครั้งนี้ ที่แอ๊ปเปิ้ล ระบุว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคในระบบภายในของบริษัทนั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก่อนเวลา 5.00 น ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ โดยบรรดาลูกค้าของแอ๊ปเปิ้ลพากันยึดพื้นที่บนทวิตเตอร์ แสดงความถึงความไม่พอใจต่อการที่ไม่สามารถเข้าไปใช้งานร้านแอพ สโตร์ และบริการคอนเทนท์ออนไลน์อื่นๆ ได้ โดยพากันติดแฮชแท็ก อย่าง ไอทูนส์ดาวน์ ( ‪#‎itunesdown‬) และ แอพสโตร์ดาวน์ (‪#‎appstoresdown‬)

ในเวลาประมาณ 17.04 น ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ในวันเดียวกันนั้น แอ๊ปเปิ้ลได้อัพเดทหน้าสเตตัสของบริษัท เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ระบบต่างๆ ของบริษัท รวมถึง แอพ สโตร์ สำหรับคอมพิวเตอร์แมค และไอบุ๊คส์ สามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติแล้ว หลังเกิดความผิดพลาดในระบบโดเมนเนมภายใน พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

 

ที่มา : Bangkokbiznews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MTS Gold Morning News 2015.03.12

นักวิเคราะห์จาก MKS Group ระบุว่า เมื่อคืนนี้ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 3 เดือนครึ่งเมื่อคืนนี้ ที่ระดับ 1,147.10 เหรียญ โดยขณะนี้ทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 12.5% จากระดับสูงสุดเดิมในเดือนมกราคมบริเวณ 1,307 เหรียญ ทั้งนี้ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการเทขายอย่างหนัก และมีโอกาสลงไปทดสอบระดับแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,100 เหรียญ

อย่างไรก็ดี การแข็งค่าอย่างหนักของค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญหลักที่กดดันราคาทองคำ...

 

ติดตามข่าวฉบับเต็มได้ที่: www.mtsgold.co.th

‪#‎MTS‬ ‪#‎NEWS‬ ‪#‎Gold‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 มี.ค. 58

ราคาทองคำทิศทางเป็นขาลง การดีดกลับดูอ่อนแรง

แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading Short เมื่อราคาดีดตัวขึ้น

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 7.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ปิดที่ 1,154.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ราคาทองคำลงไปทำ low บริเวณ 1,147.10 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ และนักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงสู่ 1.05 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ขณะที่มาตรการ QE ของ ECB ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับติดลบเป็นประวัติการณ์ ส่วนประเด็นเรื่องกรีซขาดสภาพคล่องอย่างหนักและกำลังประชุมกับกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อหาทางออก

แนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ยังเป็นขาลง โดยเมื่อหลุดแนวรับบริเวณ 1,150 จะลงต่อไปที่ 1,130

วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,158/1,165

แนวรับบริเวณ 1,145/1,130

Strategy : นักลงทุนระยะสั้น Trading Short เมื่อราคาดีดตัวขึ้น ส่วนนักลงทุนระยะกลาง – ยาวรอเข้าสะสมบริเวณแนวรับ 1,130

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1203201591450218…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

http://youtu.be/Als5Pel6kxk

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...