ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ด่วน!ไฟไหม้ห้างเทอร์มินอล21 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรุดที่เกิดเหตุ

10 พ.ย. 58 เพจเฟซบุ๊ก "JS100 Radio" รายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารเทอร์มินอล 21 ถนนสุขมวิท ขณะนี้เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงพญาไท และคลองเคย กำลังรุดไปที่เกิดเหตุ

NAEWNA.COM

ย้อนเหตุการณ์ก่อน-หลัง ‘หมอหยอง’ คดีหมิ่นเบื้องสูง

ลำดับเหตุการณ์คดี หมอหยอง - พวก ถูกจับคดีหมิ่นเบื้องสูง หลังแอบอ้างหาประโยชน์ใส่ตัว

 

 

 

NEWS.MTHAI.COM|BY MTHAI NEWS

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

8020dfcb03348a50f4070b456c9835ce.jpg

 

Montauk Gull Print by Tom Hedderich

 

สวัสดีเพื่อน พี่น้อง

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 07:49:33 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ย.

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,758.21 จุด เพิ่มขึ้น 27.73 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,083.24 จุด ลดลง 12.06 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด หรือ +0.15%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 376.27 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,912.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,832.52 จุด เพิ่มขึ้น 17.07 จุด หรือ +0.16% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,275.28 จุด ลดลง 19.88 จุด หรือ -0.32%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองให้ร่วงลง

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 19.88 จุด หรือ 0.32% ที่ 6,275.28 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนต.ค.ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,088.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.7 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 14.356 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 899.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 597.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันมีแนวโน้มลดลงในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 44.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0704 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0757 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5103 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.10 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0077 ฟรังก์ จาก 1.0037 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7020 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7046 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,758.21 จุด เพิ่มขึ้น 27.73 จุด, +0.16%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,083.24 จุด ลดลง 12.06 จุด, -0.24%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด, +0.15%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,912.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด, +0.02%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,832.52 จุด เพิ่มขึ้น 17.07 จุด, +0.16%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,275.28 จุด ลดลง 19.88 จุด, -0.32%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,743.26 จุด ลดลง 378.14 จุด, -1.45%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,451.05 จุด ลดลง 48.46 จุด, -1.08%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,401.70 จุด ลดลง 325.07 จุด, -1.43%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,000.11 จุด ลดลง 70.08 จุด, -0.99%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,640.49 จุด ลดลง 6.40 จุด, -0.18%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,996.59 จุด ลดลง 29.11 จุด, -1.44%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,671.26 จุด เพิ่มขึ้น 28.52 จุด, +0.15%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,536.90 จุด ลดลง 105.58 จุด, -1.22%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,099.20 จุด ลดลง 20.30 จุด, -0.40%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,157.70 จุด ลดลง 22.60 จุด, -0.44%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2294830

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร จากกระแสเฟดขึ้นดบ.,อีซีบีผ่อนคลายเพิ่ม

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 07:26:20 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0704 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0757 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5103 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.10 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0077 ฟรังก์ จาก 1.0037 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7020 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7046 ดอลลาร์

 

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอีซีบีได้ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นการขยายโครงการซื้อพันธบัตรหรือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีจะทำการตัดสินใจในการประชุมเดือนหน้าว่า การซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในขณะนี้สามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้หรือไม่ และอีซีบีจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินในมาตรการ QE หรือไม่

 

คำกล่าวของนายดรากีสะท้อนสิ่งที่เขากล่าวในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วว่า อีซีบีจะทำการทบทวนในเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้

 

ทางด้านสหรัฐนั้น การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในเชิงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงช่วยหนุนดอลลาร์สหรัฐให้ปรับตัวแข็งแกร่ง

 

ล่าสุด นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ

 

นายโรเซนเกรนระบุว่า เดือนธ.ค.อาจเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมสำหรับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2294810

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 27.73 จุด รับข้อมูลภาคค้าส่งสหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 06:39:40 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,758.21 จุด เพิ่มขึ้น 27.73 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,083.24 จุด ลดลง 12.06 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด หรือ +0.15%

 

ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงจีน หลังจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2559 ในขณะที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ทั้งในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)

 

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น

 

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ลดแรงบวก ในขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ

 

กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นนับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

 

หุ้นแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 3.15% หลังจากเครดิต สวิสระบุว่า ยอดขายของแอปเปิลชะลอตัวลงในตลาดเอเชีย ซึ่งจะส่งผลกดดันราคาหุ้นแอปเปิลในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

 

การแสดงความคิดเห็นของเครดิต สวิส ยังได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิล รวมถึงหุ้นสกายเวิร์ค หุ้นเอวาโก หุ้นเซอร์รัส ลอจิก และหุ้น Qorvo โดยราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวลงในกรอบ 3.9-10%

 

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 6.3% และหุ้นอัลโค อิงค์ ดิ่งลง 3%

 

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 8.3% หุ้นพัลท์กรุ๊ป และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.3%

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2294805

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 34 เซนต์ เหตุนักลงทุนคลายวิตกอุปทานล้นตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 07:21:23 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันมีแนวโน้มลดลงในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 44.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA เปิดเผยในรายงานแนวโน้มพลังงานโลกว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันจะลดลงมากกว่า 20% ในปีนี้ และแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่องไปในปีหน้า

 

นอกจากนี้ EIA ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.

 

EIA คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐจะลดลง 118,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สู่ระดับ 4.95 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2557

 

ส่วนในเดือนต.ค.นั้น EIA ประมาณการว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง 40,000 บาร์เรล/วัน จากระดับของเดือนก.ย.

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปกในวันที่ 4 ธ.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของโอเปกส่งสัญญาณว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการผลิต โดยระบุว่า การปรับลดการผลิตจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2294809

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 40 เซนต์ เหตุข้อมูลศก.อ่อนแอหนุนแรงซื้อทอง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 07:38:35 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนต.ค.ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,088.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.7 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 14.356 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 899.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 597.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 0.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า, ราคาน้ำมันในระดับต่ำ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

 

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ

 

การแสดงความคิดเห็นของนายประธานเฟดสาขาบอสตันมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2294819

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ คาดเดินหน้าฟ้องคดีฟิลลิปส์มอริสทั้งบริษัท-บคุคลภายใน 25 พ.ย.

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2558 18:13:14 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีของบริษัท ฟิลลิปส์ มอริสว่า ได้รับทราบรายละเอียดแล้ว และเรื่องนี้ก็เป็น 1 ใน 12 คดี ที่รัฐบาลเป็นทั้งโจทย์และจำเลย ซึ่งกรณีนี้ค้างคามาหลายปี และอยู่ในระยะเวลาที่ต้องดำเนินการฟ้อง ซึ่งคดีนี้ได้ผ่านคณะอนุญาโตตุลาการมาก่อนแล้ว คาดว่าจะมีการดำเนินการฟ้องร้องตามกำหนดภายในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เท่าที่ทราบเบื้องต้นจะมีการฟ้องร้องทั้งตัวบริษัทและบุคคล

 

 

 

สำหรับการมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแลการดำเนินคดีดังกล่าว เพราะมีเรื่องของอนุญาโตตุลาการ จึงต้องการให้ฝ่ายกฏหมายของรัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ

 

"ผมไว้ใจฝ่ายกฎหมายของเรา เพราะวันนี้ฝ่ายกฎหมายเรา รวมทั้งรองวิษณุ เขาทำอย่างจริงจังลงไปในรายละเอียด เพราะผมเป็นรัฐบาล และผมสั่งให้เขาทำ อนุมัติให้ท่านทำ ให้เกียรติท่านไปทำให้ได้ ทำอย่างไรจะลดปัญหาลงไป ปัญหามาจากกฎหมายก็ต้องใช้กฎหมายไปแก้กันมาให้ได้ อย่าไปโทษรองวิษณุว่าทำไมสมัยก่อนถึงไม่ทำ ก็เพราะไม่มีใครไปตามจี้แบบนี้ เขาก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

พร้อมระบุว่า คงไม่ใช้กฏหมายมาตรา 44 มาเพื่อเร่งรัดคดี เพราะคดีนี้เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ

 

"ผมจะไปสั่งให้ทุกประเทศในโลกทำตามคงไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้มีมาตรา 44 เหมือนเรา ประเด็นสำคัญคือเราต้องมาดูว่าเราจะเสียหายอะไรหรือเปล่า ต้องดูให้รอบคอบในทุกประเด็น หลายอย่างต้องมีการพูดคุยกันบ้าง และหาคำตอบให้ได้ แต่ไม่ใช่ผิดแล้วเราไปช่วยให้ไม่ผิด ถ้าผิดก็คือผิด ทุกอย่างต้องมาคิดว่าทำอย่างไรถึงจะเดินหน้าต่อไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องคดีทุจริตต่างๆ มีหลายคดี มีความเกี่ยวข้อง ยึดโยงในมาตราอื่นๆ ด้วย ดังนั้นก็ขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องระมัดระวัง รวมทั้งสื่อในการเสนอข่าวและขยายข่าวต่างๆ มีผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น หากใครทำผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2294781

 

เอกสารสำคัญที่จะมีการรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 27

 

 

ข่าวการเมือง มติคณะรัฐมนตรี -- อังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2558 16:46:43 น.

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

 

 

 

1. เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองเอกสารดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558

 

2. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 27 และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมรับรองเอกสารดังกล่าวในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558

 

3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ กต. และกระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

 

สาระสำคัญของร่างปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 ระบุผลการดำเนินการตามเป้าหมายต่าง ๆ ภายใต้ประเด็นสำคัญของเอเปคประจำปี 2558 ได้แก่

 

1. การยกระดับวาระการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ

2. การบ่มเพาะการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในห่วงโซ่คุณค่าโลก

3. การลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์

4. การสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

ร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 27 เป็นการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “สร้างเศรษฐกิจที่ทุกคนมีส่วนร่วม สร้างโลกที่ดีขึ้น” โดยมีลำดับความสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

 

(1) การเสริมสร้างบูรณาการทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

(2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ในตลาดภูมิภาคและระดับโลก

 

(3) การลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์และ

(4) การสร้างชุมชนที่ยั่งยืนและยืนหยุ่น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2558--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/cabt/2294699

 

 

ครม.ต่ออายุรถไฟ-เมล์ฟรี6เดือน นายกฯจี้บินไทยแก้ขาดทุน ปรับลดค่าโดยสารดึงลูกค้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 00:00:57 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบแนวทางการขยายระยะเวลาโครงการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรีออกไปอีก 6 เดือน แล้ว โดยจะไปสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย. 2559 จากเดิมที่มาตรการดังกล่าวได้สิ้นสุดโครงการ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา

 

โดยระหว่างนี้ กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยที่อิงจากเส้นแบ่งขีดความยากจนจากข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) มาคำนวณสูตรที่ใช้เป็น หลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในการใช้บริการ โดยจะมีการเร่งรัดการศึกษาจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยการใช้บริการในอนาคตจะเป็นลักษณะการใช้บัตร Smart Card โดยมี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็น ผู้เปิดให้ลงทะเบียนในการขอรับสิทธิ์การใช้สิทธิ์รถเมล์ฟรีรถไฟฟรี รวมถึงสิทธิ์ประโยชน์ของผู้สูงอายุ พระภิกษุ สามเณร คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส

 

 

 

"สิทธิต่างๆ เหล่านี้จะต้องขอผ่าน ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯเพื่อจะนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลอย่างหนึ่งในระบบการลงทะเบียนการขอรับสิทธิ์การใช้บริการสาธารณะและจะมีข้อมูลในส่วนของ กระทรวงมหาดไทยด้วยที่จะนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลลงทะเบียนเช่นกัน"

 

นายอาคมกล่าวอีกว่า ตามที่ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ได้มีมติให้บริษัท การบินไทยเร่งรัดในการดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร และ ลดค่าใช้จ่ายนั้น ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบแนวนโยบายว่า จะต้องมีการการเพิ่มเที่ยวบิน การตั้งราคาค่าโดยสารให้เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้า

 

ทั้งนี้ในเชิงนโยบายที่เน้น ความสำคัญในด้านการตลาด และการกำหนดราคาให้สามารถแข่งขันได้ ขณะที่ การบินไทย ก็พยายามที่จะปรับปรุงเพื่อให้สามารถที่จะเพิ่มอัตราบรรทุก ผู้โดยสาร(Cabin Factor)เพิ่มขึ้นได้ 80-90%

 

ในส่วนของการทำตลาดนั้น การจำหน่ายบัตรโดยสารผ่านเอเจนซี่ไม่ควร ส่งจำนวนที่นั่งทั้งหมดให้เอเจนซี่ไปจำหน่าย เนื่องจากจะทำให้การบินไทย ไม่สามารถบริหารจัดการจำนวนที่นั่งในส่วนนี้ได้ ซึ่งทางการบินไทย อยู่ระหว่างการปรับปรุง

 

อย่างไรก็ดี นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย ได้ยืนยันว่าผลของการดำเนินการในสิ้นปีนี้จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้

 

บรรยายใต้ภาพ

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2294981

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กกต.เมียนมาร์ประกาศผลเลือกตั้งล่าสุดพรรค NLD ได้ 249 ที่นั่ง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 00:51:18 น.

คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมาร์ (UEC) ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาภูมิภาคหรือสภาแห่งรัฐ เพิ่มขึ้นอีก 125 ที่นั่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเผยผลการเลือกตั้งวันที่ 2

 

จนถึงขณะนี้ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้ที่นั่งรวม 249 ที่นั่งใน 3 สภา ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร, สภาชาติพันธุ์ และสภาภูมิภาคหรือสภาแห่งรัฐ

 

ทั้งนี้ UEC ได้ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภารวม 285 คนนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดย 88 คนในสภาผู้แทนราษฎร, 33 คนในสภาชาติพันธุ์ และ 164 คนในสภาภูมิภาคหรือสภาแห่งรัฐ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2294801

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ฉบับเต็ม

Gold Market watch 11-Nov-2015

http://goo.gl/xMCP8B

 

ติดตามข้อมูลราคาทองเช้าตรู่ที่

FB:Ausiris Gold Investment

Line:@ausirisgold

 

ชี้ทางทอง/มองกำไร มั่นใจ/ออสสิริส

#AusirisGoldonline

#ซื้อขายทองออนไลน์ออสสิริส

12240156_1063738106990057_6293792410490141471_n.jpg?oh=2f446615544a352a5712560d3057f5ef&oe=56F909F8

12239966_1063716046992263_3616879666556097629_n.png?oh=7a9604be6a870aae019964eb8683e9d4&oe=56B050E5&__gda__=1458751553_6fe91d90231e6b12ca7c8605648f4ae7

12196000_1063716026992265_2607625287523605430_n.png?oh=7a83377a2aa8cb8c7ea316acbc57e1f4&oe=56C1F757&__gda__=1455762175_2241d8c34e68217100a85421d004d086

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 10:21:14 น.

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำทรงตัวกรอบแคบด้านล่างบริเวณ 1,085 – 1,095 เหรียญ ท่ามกลางความกดดันเกี่ยวกับกระแสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนตุลาคม ด้านกองทุนทองคำ SPDR ยังคงเทขายออกอีก 2.68 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 663.43 ตัน ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้แก่ Import Prices ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ที่ระดับ -0.5% สำหรับคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆของทางสหรัฐอเมริกา

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ตราบใดที่ราคายังอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน โดยที่ทองคำเริ่มเข้าสู่สภาวะทรงตัว โดยวันนี้คาดว่าราคาทองน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,088-1,095 เหรียญ โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,100 เหรียญ และแนวรับสำคัญ 1,080 เหรียญ ด้านทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 18,000 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 18,800 บาท/บาททองคำ และคาดว่าราคาทองคำไทยยังคงเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideway Down เช่นเดิม

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขาลง โดยลดสถานะการถือครอง Long Position และไม่ใช้ Margin ที่สูงเกินไปนัก โดยแนะนำให้หาจังหวะเปิดสถานะ Short Position เมื่อราคาปรับตัวขึ้นชนบริเวณแนวต้าน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

แนะนำให้ทำการลดสถานะหรือปิดสถานะ Long Position

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเปิดสถานะ Short Position เพิ่มเมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังคงแนะนำให้ลงทุนตามทิศทางแนวโน้มขาลง

Gold Futures Z15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,780 บาท

Gold Futures G16 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,880 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2295377

 

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 11 พ.ย. 58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 10:37:59 น.

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ US$2.20 ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ระดับ US$1,089.51 ต่อออนซ์(Gold spot) โดยแนวโมของราคาทองคำยังเป็นเชิงลบ หลังจากที่ยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อคืนอย่างสต๊อกสินค้าคงคลังออกมาดีกว่าที่คาด บวกกับการเปิดเผยข้อมูลของคณะกรรมการ ECB 4 คนว่า ECB อาจพิจารณา ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีกครั้งรวมถึงประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำต่อ ทางด้านค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.83 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่ามาอีกครั้ง SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ 663.43 ตัน ลดลง 2.68ตัน

 

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,090 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม 2558 (GFZ15)ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,710 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,500 บาท ราคาเสนอขาย 18,600 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ US$1,100 ทำให้แนวโน้มยังเป็นเชิงลบ โดยความวิตกเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยจะยังเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อราคาทองคำในระยะต่อไป

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2295396

 

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 11 พ.ย.58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 10:39:54 น.

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวานนนี้ หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงท้ายตลาด โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 33,161.64 ล้านบาท โดยวันนี้ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ปรับตัวลงอย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาบวกกับดัชนีรับปัจจัยเชิงลบไปแล้วพอสมควร รวมถึงราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังคงต้องระวังแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงมีอยู่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามอยู่ที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของไทยในวันที่ 16 พ.ย. นี้ ทางด้านค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.84 บาทต่อดอลลาร์

 

 

 

แนวโน้มดัชนี SET50นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ดัชนี SET50 ปรับตัวรับประเด็นลบไปพอสมควรแล้ว ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวมาอีกครั้ง แต่ภาพรวมของปัจจัยพื้นฐานยังเป็นเชิงลบ ทำให้การฟื้นตัวของดัชนีอาจมี Upside ไม่มาก

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2295397

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 35.84/86 คาดแกว่งแคบในกรอบ 35.70-35.95 ไร้ปัจจัยใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2558 09:18:56 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.84/86 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.91/94 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยสำคัญต่อตลาดมากนักในวันนี้ ซึ่งหากเงินบาทไม่อ่อนค่าขึ้นไปแตะที่ 35.95 ก็อาจจะลงมาที่ระดับ 35.80 ได้

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.70-35.95 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.85/88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 123.11 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0744/0748 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0735 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.885 บาท/ดอลลาร์

 

- กสทช.ยืนยันเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz เริ่มเคาะราคา 10.00 น.วันนี้ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เตือนนักลงทุนให้ใช้ความระมัดระวัง และติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz สำหรับการลงทุนในหุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC), บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติการเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตดังกล่าว

 

- นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทโค้งสุดท้ายของปีนี้ ยังคงผันผวนจากปัจจัยลบจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด โดยเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 35.75-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปีหน้า (2559) ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่ที่ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

- ครม.ไฟเขียวคงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบ 7 ขั้นออกไปอีก 1 ปี พร้อมต่อรถไฟ-เมล์ฟรีอีก 6 เดือนถึงเม.ย.59 ด้าน "ก้องเกียรติ" มองเศรษฐกิจไทยปี 59 ทิศทางสดใส อานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น หนุนส่งออก และการบริโภคในประเทศดีขึ้น

 

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงเติบโตสวนทาง โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งในอนาคตต้องยกระดับจากฐานการผลิตสู่ฐานการวิจัย เพื่อรองรับการเปิดเออีซีในอนาคต

 

- ก.ล.ต.เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ลูกจ้าง เปิดช่องเลือกโอนย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปกองทุนอาร์เอ็มเอฟได้ หนุนการออมการลงทุนระยะยาว เผยเดิมลูกจ้างไม่มีทางเลือกหลังนายจ้างเลิกกิจการ หรือย้ายงานที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

- จีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในช่วงเที่ยงวันนี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค.

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันมีแนวโน้มลดลงในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 44.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2295170

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...