ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ราคาทองวันนี้ l (รอบค่ำ)โดยAusiris

14-Dec-2015

ช่วงเช้า...

- หุ้นเอเชียร่วงกราวรูด/หวั่นเฟดขึ้นดบ. และราคาน้ำมันดิบร่วง

- ตลาดยังหวั่นน้ำมันBrent อาจลดลงต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ $36.20/BBL

- ส่วนหุ้นไทยปิดเช้าลดลง 26.56 จุด(-2.07%)/ขายหุ้นนำเงินออกนอกประเทศ/ส่งผลบาทอ่อน แม้ดอลล่าห์อ่อนค่า

- ด้านเงินหยวนดิ่งหนักสุดรอบ 4 ปีตัวลง 1.37% แตะ 6.4495 หยวนต่อดอลลาร์

- ทองช่วงเช้าออกตัวกันเพียบ/หลังบาทยังอ่อน และSpotขึ้นเล็กน้อย

 

บ่ายนี้...

- ทองบ่ายๆอ่อนตัวตามแรงขาย/ล่าสุดทำกำลังทดสอบแนวรับ 1065/ราคาทองสมาคมปรับกันจ้าละหวั่น วันนี้ปาเข้าไป 4ครั้ง

- ราคาทองออสสิริส965 สูง/ต่ำ 18405/18235

- ราคาทองสมาคมล่าสุด 18150/18250

- Dollar97.889/ยูโร1.0954/บาท36.1 (กรอบ36.0-36.2)

- SPDR 634.63ตัน/คงที่

คืนนี้...

- 18.00น. ประธานECB พี่กี้ / มีขึ้นพูดที่อิตาลี

‪#‎GoldSpot‬

กรอบ 1055 – 1095

แนวรับ 1065/1055

แนวต้าน 1085/1095

‪#‎ทองออสสิริส965‬

กรอบ 18150 – 18350

แนวรับ 18200/18150

แนวต้าน 18300/18350

‪#‎ทองออสสิริส9999‬

กรอบ 18800 – 19000

แนวรับ 18850/18800

แนวต้าน 18950/19000

กลยุทธ์:มือเปล่า-อ่อนตัวเข้าที่เดิม 1065/ บาทยังอ่อน-รอออกตัว/มีของออกไม่ได้-รอเฉลี่ยต้นทุนที่ 1040

‪#‎ราคาทองวันนี้‬ (ข้อมูลที่มีผลต่อราคาทองคำเพิ่มเติม)

- ดูตัวเลขเศรษฐกิจ คลิกที่นี้:http://bit.ly/ปฏิทินเศรษฐกิจ

- ดูราคาทองวันนี้ คลิกที่นี้:http://bit.ly/ราคาทองวันนี้

- ดูบทวิเคราะห์ราคาทอง: http://bit.ly/บทวิเคราะห์ราคาทองวันนี้

- ดูคลิปราคาทอง1นาที: http://bit.ly/คลิปราคาทอง_1นาที

- สรุปข่าวเศรษฐกิจ: http://bit.ly/สรุปข่าวเศรษฐกิจ

12391162_1079792485384619_7134260587117514927_n.png?oh=3c47f633b351b4cf4235fd4fc5f684db&oe=571E0823

12376076_1079792498717951_7598437598108941142_n.png?oh=f415ca80cdf4697715264df979922899&oe=5720D1BA

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

12391380_998640420179755_4681300939306712435_n.jpg?oh=cd32ff2146cf50e3963930b8c98ace8c&oe=571691C3

 

12391860_998640436846420_409716501956818932_n.jpg?oh=6756b1e1ac1f8cc815526269c9596b6e&oe=5720AEEE

 

12373275_998640466846417_5575884636939441304_n.jpg?oh=5c51f53cf43085286947b89fc21bb58b&oe=56DC1307

 

12310454_998640483513082_3183019685217488647_n.jpg?oh=21545dd9465807ea6fc10e15f3db1ebb&oe=571F6EE9

Cr Pairat Kradsiri

วันนี้ ในหลวงเสด็จออกห้องประชุม และพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ข้าราชการหลายหน่วยงาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาฯ และอัยการจังหวัดฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

 

วันนี้ (14 ธันวาคม 2558) เวลา 17.12 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลทหาร และอัยการจังหวัดผู้ช่วย สำนักงานอัยการสูงสุด เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

ในโอกาสนี้ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เจ้ากรมพระธรรมนูญ อัยการสูงสุด และคณะ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

ภาพจาก ฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี เพื่อน พี่น้องนักลงทุนทุกท่าน news wann deb Goldleng meng น้อย ตังเม อยากเล่นด้วยคน ... .. .. .. .. ..

โชคดี สุขกาย บายใจนะคะ

 

by Huasengheng Gold Futures

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 07:46:51 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ธ.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติราคาพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,368.50 จุด พุ่งขึ้น 103.29 จุด หรือ +0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,952.23 จุด เพิ่มขึ้น 18.76 จุด หรือ +0.38% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,021.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.48%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากราคาหุ้นเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.8% ปิดที่ 349.54 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,473.07 จุด ลดลง 76.49 จุด หรือ -1.68% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,139.34 จุด ลดลง 200.72 จุด หรือ -1.94% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,874.06 จุด ลดลง 78.72 จุด หรือ -1.32%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 78.72 จุด หรือ 1.32% ที่ 5,874.06 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 และทำสถิติปรับตัวลดลงติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในรอบ 10 วันนันตั้งแต่เดือนส.ค.

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงหลุดระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 36.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 37.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 12.3 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ระดับ 1,063.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 18.9 เซนต์ หรือ 1.36% ปิดที่ 13.695 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 850.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 548.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากที่อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1000 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0994 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5141 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5229 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.83 เยน จาก 120.78 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9851 ฟรังก์ จาก 0.9820 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7245 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7191 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,368.50 จุด เพิ่มขึ้น 103.29 จุด +0.60%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,952.23 จุด เพิ่มขึ้น 18.76 จุด +0.38%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,021.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด +0.48%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,874.06 จุด ลดลง 78.72 จุด -1.32%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,139.34 จุด ลดลง 200.72 จุด -1.94%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,473.07 จุด ลดลง 76.49 จุด -1.68%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,981.90 จุด ลดลง 96.70 จุด -1.90%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,928.60 จุด ลดลง 100.90 จุด -2.01%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,040.16 จุด ลดลง 75.73 จุด -0.93%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,883.42 จุด ลดลง 347.06 จุด -1.80%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,927.82 จุด ลดลง 20.80 จุด -1.07%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,520.67 จุด เพิ่มขึ้น 86.09 จุด +2.51%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,745.99 จุด เพิ่มขึ้น 10.98 จุด +0.16%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,309.85 จุด ลดลง 154.20 จุด -0.72%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,374.19 จุด ลดลง 19.33 จุด -0.44%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,815.04 จุด ลดลง 19.59 จุด -0.69%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,629.96 จุด ลดลง 10.18 จุด -0.62%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,150.35 จุด เพิ่มขึ้น 105.92 จุด +0.42%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2320036

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 08:48:28 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะ 127.85 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,869.04 จุด ลดลง 14.38 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,518.13 จุด ลดลง 2.54 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,215.54 จุด ลดลง 94.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,074.48 จุด เพิ่มขึ้น 34.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,935.82 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,808.63 จุด ลดลง 6.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,631.10 จุด เพิ่มขึ้น 1.14 จุด

 

 

 

นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) จากระดับปัจจุบันที่ 0.25% โดยจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

 

การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

 

ส่งความเห็นถึงผู้สื่อข่าว

Facebook

Twitter

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนีดีดตัวตามตลาดหุ้นยุโรป สวนกระแสหุ้นเอเชียร่วง

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงภาคบ่าย วิตกราคาน้ำมันร่วง,เฟดขึ้นดบ.,เงินหยวนดิ่งหนักสุดรอบ 4 ปี

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดร่วง 108.83 จุด ตามทิศทางตลาดเอเชีย

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุวิตกราคาน้ำมันดิ่ง, คาดเฟดขึ้นดบ.

ดอลลาร์อ่อนค่าวันนี้ ราคาน้ำมัน,หุ้นร่วงกดดันตลาด

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ธนาคารกลาง ตลาดหุ้นเอเชีย nikkei เฟด ญี่ปุ่น สหรัฐ IT ดอกเบี้ย ประกาศ

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2320211

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนลดลง,น้ำมันฟื้นประคองหุ้นพลังงาน-จับตาประมูล 4G

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 08:38:46 น.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ จะมีความผันผวนลดลง หลังดัชนีหุ้นไทยร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวจะช่วยประคองการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานให้สามารถยืนทรงตัวได้ ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่คาดว่าจะพิจารณาการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Thailand Future Fund)ในวันนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด แต่ยังต้องจับตาการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ด้วย โดยมองแนวรับบริเวณ 1,260 และ 1,250 จุด ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,292 และ 1,300 จุด

 

 

 

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้จะมีความผันผวนและอยู่ในกรอบที่แคบลง หลังดัชนีปรับตัวลดลงมาติดต่อกัน ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้หลังราคาน้ำมันกระตุกขึ้นบ้าง แต่ตลาดยังคงติดตามความชัดเจนในการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามการประชุมครม. ที่คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างให้สามารถทรงตัวได้ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นก็น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานไม่ปรับลดลงและสามารถประคองตัวได้ รวมถึงยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ถึงการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ในวันนี้ หลังก่อนหน้านั้นตลาดมีความกังวลเรื่องราคาใบอนุญาตที่สูงขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ

 

ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้จะมีไม่มากเหมือนเมื่อวานนี้ที่มีการขายสุทธิในระดับมากกว่า 3 พันล้านบาท หลังมองว่าการปรับพอร์ตสำหรับหุ้นธ.กรุงเทพ(BBL) น่าจะหมดลงแล้ว ประกอบกับการปรับลดลงของดัชนีหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ทำให้ downside จำกัด โดยมองแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 1,260 และ 1,250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,292 และ 1,300

 

อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2320202

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.4559 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 08:50:21 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.64% แตะที่ 6.4559 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2320213

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รวบมือโพสต์ ผังทุจริต'ราชภักดิ์'หิ้วหนุ่มปากน้ำเค้นสอบ'ป้อม'จ่อจับอีก2บงการ'บิ๊กตู่'ลั่นไม่ปลด'บิ๊กโด่ง'ชี้แค่เกมหวังกลบคดีข้าวกฎเหล็กกรธ.หั่นงบฯสส.

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2558 00:00:04 น.

รวบแล้วหนุ่มเมืองปากน้ำ มือทำผังทุจริต "อุทยานราชภักดิ์" โยงครอบครัวนายกฯ ขณะที่ "บิ๊กตู่" ยันสั่งจับเอง ฉุนมั่วโยงคนหลังบ้าน เชื่อหวังกลบกระแสปมจำนำข้าว ยันไม่ปรับ ครม.เซ่นราชภักดิ์ ด้าน "บิ๊กป้อม" เผย "มือโพสต์" ซัดทอดคนร่วมแก๊งอีกอื้อ

 

เตรียมจับเพิ่มอีก 2 คน เชื่อมีคนชักใย ลั่นต้องลากคอเอาผิดยกแก๊ง อุบตอบโยงการเมือง อ้างเดี๋ยวมันหนี ส่วน "ตู่-เต้น" หอบหลักฐานปมโกงราชภักดิ์ ให้ "บิ๊กต็อก" 2 โจกแดง เสียงอ่อยรับหลักฐานไม่สมบูรณ์ แนะดึงสื่อ-นักวิชาการ-องค์กรเอกชน ร่วมสอบเพื่อความโปร่งใส ขณะที่ "ไพบูลย์" เชื่อโครงการอุทยานราชภักดิ์มีทุจริตจริง ลั่นนำคนผิดมาลงโทษให้ได้ ด้าน "กรธ." งัดกฎเหล็ก ห้ามมีงบ ส.ส.เอาไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง ชี้ฝ่าฝืนโทษหนักตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต

 

 

 

"บิ๊กตู่" ยันไม่ปรับ ครม.เซ่นราชภักดิ์

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยยืนยันว่า ไม่มีการปรับ ครม.ในขณะนี้ และยังไม่รู้จะปรับเมื่อไหร่ อยากปรับเมื่อไหร่ก็จะปรับ แต่ยังไม่อยากปรับตอนนี้ ถามว่าทำไมต้องปรับ ปรับตนออกเลยจะดีกว่า ขออย่าไปเชื่อ เพราะเขาต้องการบิดเบือน วันนี้เห็นหรือไม่ว่าจำนำข้าวหายไปแล้ว ส่วนที่มีการพูดว่าจะมีการปรับ ครม.เพื่อแก้ปัญหาอุทยานราชภักดิ์นั้น ถามว่าถ้าปรับแล้วจะแก้ได้หรือไม่ ตราบใดที่การสอบสวนยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลการตรวจสอบจะออกมาอย่างไร เชื่อว่าเรื่องนี้คงยังไม่จบ เพราะใครหรือพวกไหนที่ทำให้เรื่องวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ถ้าจบคือเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไม่ต้องมา เมื่อถามว่าหากไม่จบจะรับมืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจะไปรับมืออะไรกับเขา มีเงินทองมหาศาลกันทั้งนั้น มีแต่รับมือด้วยกฎหมาย ถามว่าจะให้ตนแบกรับประเทศนี้คนเดียวหรืออย่างไร

 

แย้มปลุกกระแส "จำนำข้าว" กลบ

เมื่อถามว่า แม้การปรับ ครม. จะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอุทยานราชภักดิ์ แต่อาจจะช่วยลดกระแสไปได้บ้างใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เดี๋ยวไปปลุกกระแสจำนำข้าวขึ้นมาสู้กัน ไปปลุกมาสิ เรื่อง อุทยานราชภักดิ์ขอให้ใจเย็นๆ ผมปิดบังตรงไหน วันนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ก็ไปพบกับ รมว.ยุติธรรม" เมื่อถามย้ำว่า จะเร่งเรื่องจำนำข้าวใช่หรือไม่ เพราะสิ้นเดือนนี้จะมีการสรุปตัวเลขความเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้จะเร่งเรื่องคดีจำนำข้าว เพียงแต่พูดให้ฟัง เวลาเขามีอยู่ ส่วนครั้งนี้จะมีการขยายเวลาอีกหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาก็ได้ให้โอกาสสืบพยานเพิ่ม 40-50 คน แล้วจะเอาอีกเท่าไหร่ ซึ่งเวลาและคนมีเท่านั้นถือว่าให้โอกาสไปแล้ว ไม่ได้รังแกอะไรเลย จึงอย่านำเรื่องต่างๆ มาพัวพันกัน วันนี้หลายเรื่อง ดูสิเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งเรื่องต่างประเทศ การเมือง ทูตฯ วุ่นไปหมด เพราะใคร แล้วคุณไปขยายให้เขาทำไม คุณก็รู้ทุกอย่าง เจ้านายคุณทุกหนังสือพิมพ์นั่งกินข้าวกับเขาอยู่หรือเปล่า ผมถามเฉยๆ เดี๋ยวจะหาว่าหมิ่นประมาท เจ้านายคุณ หัวหน้า คอลัมนิสต์อาวุโส ไปกินข้าวกับเขาอยู่หรือเปล่า ไปหามา

 

ลั่นสั่งจับเองคนทำผังราชภักดิ์

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการจับกุมบุคคลที่ทำแผนผังการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า ตนเป็นคนสั่งให้จับกุมเอง ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ว่าเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ตนเห็นแล้วโมโห เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนที่มีการเชื่อมโยงคนหลังบ้านนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายภายหลังการให้สัมภาษณ์ว่า 2-3 วันนี้ ตาช้ำไปหมด เพราะคิดมากแล้วปวดลูกกะตา จำหน้าใครไม่ค่อยได้ มองแล้วเห็นเป็นศัตรูไปหมด จำได้ทุกคน ถ้าไม่มีนักข่าวก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่อย่างไร

 

"ป้อม" ยันจับมือทำผังราชภักดิ์แล้ว

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ตนไม่พูดแล้ว เรื่องนี้ยุติอยู่แล้ว จบอยู่แล้ว ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้เขาสอบกันอยู่แต่ยังไม่ได้สรุป ซึ่งเขาทำโปร่งใส ไม่ใช่ไปเขียนกันเองว่าทหารตั้งกันเอง เขาต้องดูเพราะมันมีรูปแบบอยู่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหลายคน เขาไม่ยอมเสียชื่อหรอก ทำเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะเป็นปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็น คิดไปเอง โดยขณะนี้สามารถจับคนที่เขียนแผนผังว่า นายกฯ ภรรยา และลูก รวมถึงหาว่าตนเป็นคนเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ได้แล้ว และเดี๋ยวจะมีการจับอีก 2 คน ตนฟ้องหมด เมื่อถามว่า เป็นกลุ่มไหนที่ทำแผนผังดังกล่าว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไปดูเองแล้วกัน ตำรวจเขาจับได้เมื่อคืนวันที่ 8 ธ.ค. โดยตำรวจเขารายงานมา ต่อข้อถามว่า ใช่กลุ่มการเมืองทำหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ เขากำลังสอบอยู่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มันลึก พวกนี้สงสัยไม่มีอะไรทำ ตนว่าไปจ้างมันดีกว่าจะได้ให้มีเงินเดือน มันจะเลิกเขียนอะไรพวกนี้ สงสัยอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ มันคิดไปเองเออเอง ตนถามว่าเชื่อกันหรือเรื่องแผนผัง ขอให้เลิกทำเสียที เขียนในโซเชียลมีเดียเสียหายมาก คนไม่ฟังหรอก เขารำคาญ

 

เชื่อมีคนชักใย

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าคนที่กล้าทำแบบนี้ต้องมีคนหนุนหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีคนหนุนหลังแน่ และมีขบวนการอยู่ รอให้ตำรวจสอบสวนจะดำเนินการเอาผิดทั้งหมด เมื่อถามต่อว่า ทางพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่าการที่รัฐบาลห้ามแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มนักศึกษา ไปอุทยานราชภักดิ์ ถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และยังไม่เห็นแถลงการณ์ ขอไม่ตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ให้ความสำคัญ คนเขาจะมาทำงาน แต่นี่มาเล่นการเมือง ตนบอกแล้วว่ามันคนละเรื่อง อย่าไปเล่นการเมือง ดังนั้น ขอเวลาตรวจสอบ ส่วนกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายกฯ เพราะเป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว ตนไม่ทราบ ที่ผ่านมานายกฯ ก็ตอบคำถามสื่อมวลชนหลายครั้ง เมื่อถามถึงกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ยืนยันที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์อีก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ผมบอกแล้วว่าถ้าจะไปไหว้ไปเลย แต่ถามว่าจะไปทำอะไร หากตรวจสอบจะเอาอะไรตรวจสอบ ไฟฉายหรือ โธ่ เอ้ย" เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าหากไปไหว้เฉยๆ ไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไปสิ รู้หรือไม่เมื่อเดือนที่แล้วเขารายงานว่า มีคนเข้าไปดูอุทยานราชภักดิ์เป็นล้านคน อย่างไรก็ตาม พระมหากษัตริย์ในอดีตรักษาประเทศชาติเอาไว้ได้ แต่พวกนี้เล่นอะไรกันไม่รู้

 

ทหารรวบหนุ่มปากน้ำมือโพสต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าจับกุมนายกฤชณา หรือฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ ได้ในบ้านพัก อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยบุคคลดังกล่าวโพสต์รูปในเฟซบุ๊ค สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ (สดช.ป) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 19.45 น. ลงข้อความแผนผังเปิดปมการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ตอนที่ 2 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3 และอุทยานราชภักดิ์ต้องใช้ใบบัวปิด 5,920,000 ใบถึงจะปิดได้ โดยมีเนื้อหาสาระ ระบุว่า บุคคลที่ถูกพาดพิงเกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เป็นเงินจำนวนมาก เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นข้อมูลเท็จ นายธนกร จึงมีความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 14(1) พร้อมส่งตัวให้ พ.ท.สุทธิชัย พร้อมเจริญ ผบ.ป.พัน 102 รอ. และ ร.อ.ณัฐวุฒิ ศรีพินิจ หน.ชป.พท.ป พัน 102 รอ. และพวก ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของทหารต่อไป

 

แจ้ง 3 ข้อหาหนักมือโพสต์

ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ชนะ ขำทอง พงส.กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999/47 หมู่ 2 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในข้อหาผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี หรือ ม.112 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือ ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 14 (1)

 

ยึดคอมพ์-มือถือตรวจสอบ

พล.ต.วิจารณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากหน่วยข่าวกรองของทหาร ได้สืบทราบว่ามีการโพสต์แผนผังเปิดปมการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3 และอุทยานราชภักดิ์ต้องใช้ใบบัวปิด 5,920,000 ใบถึงจะปิดได้ โดยมีเนื้อหาสาระระบุว่าบุคคลที่ถูกพาดพิงเกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เป็นเงินจำนวนมาก เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นข้อมูลเท็จ จึงได้ดำเนินการสืบสวนกระทั่งทราบว่า นายฐนกร ศิริไพบูลย์ เป็นผู้เผยแพร่ภาพแผนผังอุทยานราชภักดิ์ กระทั่งเวลา 16.30 น. วานนี้ (8 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตาม ม.44 เข้าคุมตัวนายฐนกรได้ที่ บ.อาบาเทก (เอเชีย) จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ยึดคอมพิวเตอร์พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของนายฐนกร ให้เจ้าหน้าที่ บก.ปอท.ไปทำการตรวจสอบ ก่อนคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง

 

รับโพสต์เองปลุกต้านรัฐ

จากกการสอบสวนนายฐนกร ให้การว่า ประกอบอาชีพรับจ้างที่ บ.อาบาเทก (เอเชีย) จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ได้เล่นเฟซบุ๊คโดยใช้ชื่อบัญชีว่า Thanakorn Siripaiboon ผ่านทางโทรศัพท์มือถือซัมซุง กาแลกซี่ รุ่นเจ 7 โดยได้เห็นรูปภาพแผนผังดังกล่าวก่อนทำการบันทึกลงในโทรศัพท์ ต่อมาเวลา 19.45 น. วันที่ 8 ธ.ค. นายฐน กรก็ได้นำรูปภาพดังกล่าวเผยแพร่ลงในเพจ "สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ" โดยเพจดังกล่าวเป็นเพจที่พูดคุยกันเรื่องการเมืองต่อต้านการทำงานของรัฐบาล กระทั่งถูกคุมตัวในที่สุด อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ทำลงไปนั้นเพื่อต้องการให้ประชาชนหรือกลุ่มคนที่มีความเห็นด้วย เกิดการรวมตัว เพื่อให้ต่อต้านและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

 

ตร.เร่งขยายผล

พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่านายฐนกรได้กระทำความผิดเข้าข่าย ม.112 และ ม.116 หลังกดถูกใจรูปภาพที่มีข้อความที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าข่ายการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางคอมพิวเตอร์ ถือเป็นความผิดอีกทางหนึ่ง รวมทั้งจากการตรวจสอบกลุ่มสถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ พบว่าเป็นกลุ่มผิดและเป็นกลุ่มที่หมิ่นสถาบัน และมีการเผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสมทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมต่อไป

 

"ตู่-เต้น" ให้ข้อมูลปมราชภักดิ์

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เดินทางเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ พร้อมทั้งพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) โดยมี พล.อ. นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ และนายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าร่วมรับข้อมูลและหารือด้วย โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

 

"ไพบูลย์" ขอบคุณให้ข้อมูล

ภายหลังการพูดคุย พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ขอบคุณทั้ง 2 คนที่ใช้ช่องทางนี้มาพูดคุยถึงรายละเอียดการทุจริตก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งในวันนี้ แกนนำ นปช.ได้นำเอกสารมายื่นต่อศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ซึ่งเป็นข้อมูลประกอบการทำงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. แต่ไม่ใช่หลักฐานที่ชี้ชัดว่าจะเอาผิดได้หรือไม่ เป็นเพียงข้อมูลการบริจาคเงินของภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทัพบก รวมถึงข้อมูลความผิดปกติในส่วนของโรงหล่อ ซึ่งถือว่าข้อมูลที่นำมาเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน โดยการพูดคุยได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า จะใช้ช่องทางนี้ในการประสานงานและตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมทาง นปช.จะเดินทางมาให้ข้อมูลอีกเป็นระยะ ส่วนการตรวจสอบของ ศอตช. จะมีผลทิศทางเดียวกับทางกองทัพบกคือ ไม่พบการทุจริต หรือไม่นั้น ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์มีการทุจริต เนื่องจากผู้รับผิดชอบเป็นผู้ออกมาเปิดเผยว่ามีการทุจริตจริง ดังนั้นผลการตรวจสอบของ ศอบต.ต้องเจอการทุจริต ซึ่งต้องดูว่าผลจะเป็นใคร พร้อมฝากถึงขบวนการประชาธิปไตยศึกษาให้ใช้ช่องทางนี้ในการตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย รวมถึงมุ่งไปสู่ขั้นตอนการตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าสร้างนวัตกรรมตรวจสอบใหม่เพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสน ยืนยันว่าจะต้องนำคนผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนคนที่หลบหนีหากมีหลักฐานเชื่อมโยงก็ต้องดำเนินการเอาผิดต่อไป และหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นก็จะดำเนินการเอาผิดทั้งหมด ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

 

"จตุพร" รับหลักฐานไม่สมบูรณ์

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า หลักฐานที่นำมายื่นให้ตรวจสอบครั้งนี้ยอมรับว่าไม่มีทางที่จะครบถ้วน 100% เพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่ในกลไกรัฐ ดังนั้น ข้อมูลที่นำมาให้จึงเป็นเพียงหลักฐานเบื้องต้นที่จะนำไปสู่การสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เป็นกรณีที่ใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นเรื่องของการเมือง การจะทำให้จบได้ก็คือทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งได้ยื่นให้ตรวจสอบหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องของงบบริจาคที่บางส่วนเป็นงบประมาณของแผ่นดิน เนื่องจากมีการทำหนังสือส่วนราชการ และผู้ว่าราชการรับทราบ ทำให้หลายจังหวัดมีการนำงบของจังหวัดซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดินมาบริจาค นอกจากนี้ ตนได้รับทราบข้อมูลว่ามีการโยกพัฒนาของกองทัพบกมาใช้สร้างความไม่พอใจภายในกองทัพซึ่งแสดงออกด้วยการไม่เข้าร่วมพิธีเปิด และยังขอสนับสนุนงบประมาณจากทุกกระทรวงและผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนขณะนี้คือการเข้าไปตรวจสอบโรงหล่อเพื่อเทียบสัดส่วนโลหะว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เรื่องดังกล่าวจะกระทบความโครงสร้างและความแข็งแรงของรูปหล่อ

 

"เต้น" ปัดเอี่ยวแก๊ง "จ่านิว"

ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การพูดคุยในวันนี้ได้ข้อสรุปตรงกัน คือ การก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้นเริ่มต้นจากกองทัพบก และ สตง. มีสิทธิเข้ามาตรวจสอบเงินบริจาคเพราะเงินบริจาคทั้งหมดมีการใช้จ่ายผ่านกองทุนสวัสดิการกองทัพบก และส่วนตัวยังมีข้อเสนอต่อขบวนการสอบสวนของ ศอตช. โดยให้มีตัวแทนจากสื่อมวลชน นักวิชาการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง รวมถึงตัวแทนจากองค์กรเอกชนที่มีบทบาทในการตรวจสอบการทุจริต เข้ามาร่วมสังเกตการณ์การตรวจสอบในโครงการดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้พิจารณา อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบคุณภาพโลหะของอนุสาวรีย์บูรพมหากษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ เนื่องจากการยอมรับว่ามีการหักค่าหัวคิวโรงหล่อ นั้นอาจจะมีการลดคุณภาพในการก่อสร้าง และฝากถึงรัฐบาลให้อธิบายขบวนการ ขั้นตอนการตรวจให้ประชาชนรับทราบ และติดตามตัวผู้หลบหนีมารับโทษต่อไป ยืนยันว่าทางกลุ่ม นปช.ไม่มีเจตนาที่จะนำเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขทางการเมืองเพื่อต่อรองกับรัฐบาล เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวหลังมีการยอมรับว่ามีการทุจริต ทั้งนี้ยืนยันว่าทางกลุ่ม นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของขบวนการประชาธิปไตยศึกษา

 

"พท." จี้บิ๊กตู่ตอบปมร้อนราชภักดิ์

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงในข้อสงสัยของพรรคเพื่อไทย 12 ข้อ สรุปดังนี้ พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ชี้แจงกรณีมีการสร้างบ้านพักรับรองเพื่อต้อนรับแขกต่างประเทศของกองทัพบก ภายในโครงการอุทยานราชภักดิ์, เหตุใดรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี จึงได้อนุมัติงบกลางให้กับกองทัพบกในการดำเนินการสร้างโครงการดังกล่าว ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังมีปัญหา และแทนที่จะตั้งงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณ ปี พ.ศ. .... เพื่อดำเนินการจัดสร้างแทน เพราะโครงการดังกล่าวไม่มีความเร่งด่วนแต่ประการใด, เหตุใดการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการดังกล่าว ซึ่งใช้ระเบียบราชการในการปฏิบัติ ถึงมีคนกลาง (เซียนพระ) เป็นผู้เข้ามาดำเนินการ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ยังได้ตั้งข้อสงสัยถึงการจับกุมนักศึกษาที่ต้องการเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงต้องขัดขวางการทำกิจกรรมดังกล่าวของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งรัฐไม่ควรปิดกั้นบุคคลเข้าตรวจสอบการทุจริตในโครงการดังกล่าว และยังถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง

 

"จ่านิว" พาแม่บุกค่ายทหาร

ขณะเดียวกัน นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" แกนนำนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อม น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ ซึ่งเป็นมารดา เดินทางเข้าพบนายทหารประจำกองบัญชาการควบคุม กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ภายในวัดสุทธิสะอาด เขตคลองสามวา เพื่อถามถึงกรณีติดตามรบกวนมารดาและครอบครัวที่บ้าน ทั้งการโทรศัพท์ติดตามและการเดินทางไปหาถึงที่บ้าน ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้แก่ครอบครัว โดย น.ส.พัฒน์นรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำให้ที่บ้านเกิดความกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากรุนแรงกว่าทุกครั้ง ตั้งแต่บุตรชายเริ่มทำกิจกรรมทางการเมืองมา แต่ยืนยันจะไม่สร้างแรงกดดันกับบุตรชาย เพราะเคารพในการตัดสินใจของบุตรชายที่จะทำกิจกรรมต่อไป

 

ร้องอย่ายุ่งเกี่ยวครอบครัว

ด้านนายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ได้คุยกับนายทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมขอร้องให้หลังจากนี้ หากมีธุระให้ติดต่อกับตนโดยตรงเท่านั้น ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับที่บ้านอีก ซึ่งนายทหารยืนยันจะไม่รบกวนที่บ้านอีก แต่ขอให้เข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของกองบัญชาการควบคุม ซึ่งต้องลงพื้นที่ดูแลชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยตนเองยอมรับได้ แต่ขออย่าให้เข้ามาที่บ้าน ในลักษณะของการข่มขู่คุกคามอีก และขอให้ผู้มีอำนาจทุกส่วน ช่วยแยกแยะให้ออก ว่าการเคลื่อนไหวของตนและครอบครัว ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า จะยังคงทำกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อไป และจะมีเพียงการสอบเท่านั้นที่จะทำให้ตนพักจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ ซึ่งจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ก่อนสิ้นปีให้ได้ แต่คงจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง

 

กรธ.ห้าม ส.ส.แปรญัตติเพิ่มงบ

นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุม กรธ. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาบทบัญญัติเกี่ยวกับการตราพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ เบื้องต้น กรธ.มีแนวคิดว่า จะทำอย่างไรให้การแปรญัตติเกิดประโยชน์สูงสุด โปร่งใส คุ้มค่า ไม่ให้แปรญัตติเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน พวกพ้อง หรือเพื่อสร้างความนิยมทางการเมือง กระบวนการแปรญัตติ โดยกำหนดให้ ส.ส.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน ส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 20 วันรวม 125 วัน สาระสำคัญคือ ห้ามไม่ให้ ส.ส.แปรญัตติเพิ่มงบประมาณค่าใช้จ่าย ทำได้เพียงแค่ปรับลด งบประมาณเท่านั้น แต่มิให้ ส.ส.ปรับลด หรือตัดงบ 3 ประเภท คือ 1.เงินสำหรับจ่ายเงินกู้ 2. เงินสำหรับจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ 3.และเงินกำหนดจ่ายตามกฎหมาย ทั้งนี้ ส.ส.ต้องไม่มีส่วนหรือการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากการแปรญัตติงบประมาณแผ่นดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้งบประมาณแผ่นดินไปในทางผลประโยชน์ทับซ้อน กรธ.จึงกำหนดให้หาก ส.ส.หรือ ส.ว. สงสัยบุคคลใด กระทำการฝ่าฝืน สามารถรวบรวมรายชื่อ 1 ใน 10 ของสภานั้นๆ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ โดยศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 7 วัน กรณีศาลวินิจฉัยว่า บุคคลที่ถูกยื่นสอบดังกล่าว กระทำการฝ่าฝืนจริง ก็ให้เรื่องที่พิจารณากันอยู่ในสภาดังกล่าวตกไป และให้ ส.ส.คนนั้น พ้นจากตำแหน่งทันที และถูกตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต นอกจากนี้หากมีประเด็นความผิดทางอาญา ก็จะส่งต่อไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาต่อไป

 

สกัดหั่นงบฯ เข้ากระเป๋าตนเอง-พวกพ้อง

นายชาติชาย กล่าต่อว่า เรื่องนี้ ถือเป็นกลไกใหม่ที่ กรธ.ชุดนี้ คิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ ส.ส.แปรญัตติ เพื่อตัดงบประมาณไปเข้าพกเข้าห่อตนเอง และพวกพ้อง อย่างไรก็ตามหลังจากการร่างรัฐธรรมนูญมา 2 เดือนกว่า จากการสอบถามความเห็นประชาชน และผลโพลต่างๆ ส่วนตัวมั่นใจว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านการทำประชามติ เพราะที่ผ่านมา เราไม่ได้ร่างรัฐธรรมนูญไปกลั่นแกล้งใคร ร่างโดยใช้หลักการพื้นฐานทั่วไปที่ทุกคนยอมรับ

 

บรรยายใต้ภาพ

แจ้งความ- พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนโพสต์รายละเอียดแผนผังเกี่ยวกับการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ หลังมีข่าวว่าทหารได้ควบคุมตัวไว้แล้ว

 

ขอคุย- นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษา พร้อมนายอานนท์ นำภา ทนายความ และครอบครัว เข้าพูดคุยกับทหารที่ประจำการที่วัดสุทธิสะอาด ขอร้องให้หยุดการคุกคามมายังครอบครัวของตนเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/bmnd/2317526

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง 12.3 ดอลล์ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 07:42:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 12.3 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ระดับ 1,063.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 18.9 เซนต์ หรือ 1.36% ปิดที่ 13.695 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 850.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 548.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าจะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

 

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

 

ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2320034

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 69 เซนต์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 07:18:33 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงหลุดระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 36.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 37.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเนื่องจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงเกินไป ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้สิ้นสุดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 4 ธ.ค.โดยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันใหม่สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้า

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านมีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนธ.ค. ขณะที่อิหร่านยืนยันว่าจะไม่พิจารณาปรับลดการผลิตน้ำมัน จนกว่าจะสามารถผลิตน้ำมันชดเชยช่วงที่ขาดหายไปขณะที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร

 

นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพุธนี้ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 485.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 423,000 บาร์เรล สู่ระดับ 59.4 ล้านบาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2320031

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คืนนี้ 3 ทุ่ม รอดูกันเลยยยย

 

"ฝนดาวตกเจมินิดส์ "

 

#MThai

 

อ่านเพิ่มเติม > > http://news.mthai.com/hot-news/general-news/472695.html

12347871_10153909285375676_8117421192113090298_n.jpg?oh=f8a63cd5f63d594eefd89f83f3736e0d&oe=56D64219

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12341629_1080164465347421_532930129335854928_n.jpg?oh=0bea7929e1a926bd795709960b13092b&oe=56E5DE7C

 

12366316_1080151865348681_4027386137854370031_n.png?oh=efd82106ee74c2176c9f2662bf804aaf&oe=57133CA5

12373262_1080151852015349_7618429432793485201_n.png?oh=34a3dca23d48bcea3a5613f61b4b2887&oe=5720E470

ราคาทองวันนี้ l (รอบเช้า)โดยAusiris

15-Dec-2015

วานนี้...

- พี่กี้ECBย้ำ พร้อมทำQEหากเงินเฟ้อไม่ถึงเป้า (เงินยูโรแทนที่จะอ่อน กลับแข็งสวนเอาดื้อๆ)

- หุ้นไทยร่วงหนัก/ฝั่งยุโรปยังร่วงต่อ ส่วนสหรัฐบวกเล็กน้อย

- น้ำมันดิบทรงๆ$37.71/BBL แต่ตลาดยังหวั่นหลุดLowรอบ11 ปีที่ $36.20/BBL

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ขี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยมีสูง แต่เชื่อกระทบระยะสั้นและไทยรับมือได้

- ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี คาดที่ประชุมกนง. 16ธ.ค.นี้จะมีคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50

- ดอลล่าห์อ่อนต่ำกว่า98/บาทอ่อนยืน 36/ยูโรแข็งทะลุ 1.1

- ราคาทองออสสิริส965 สูง/ต่ำ 18405/18195

- ราคาทองสมาคม 18200/18300 วานนี้ปรับกัน5 ครั้ง

 

เช้านี้...

- Spot เช้า1062/ อ่อนตัวหลังรีบาวด์ แล้วเจอแรงขายอีกรอบ

- Dollar97.593/ยูโร1.0994/บาท36.15 (กรอบ36.1-36.2)

- SPDR 634.63ตัน/คงที่

คืนนี้... 20.30น.สหรัฐประกาศตัวเลข

- ดัชนีราคาผู้บริโภคพ.ย. คาด0%, เดิม0.20%

- ดัชนีราคาผู้ปริโภค (Core)* พ.ย. คาด0.20%, เดิม0.20%

- (Core)* ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน

‪#‎GoldSpot‬

กรอบ 1040 – 1080

แนวรับ 1050/1040

แนวต้าน 1070/1080

‪#‎ทองออสสิริส965‬

กรอบ 18100 – 18300

แนวรับ 18150/18100

แนวต้าน 18250/18300

‪#‎ทองออสสิริส9999‬

กรอบ 18750 – 18950

แนวรับ 18800/18750

แนวต้าน 18900/18950

กลยุทธ์:อ่อนตัวเข้าที่ 1055/บาทยังอ่อน-รอราคารีบาวด์ตัดกำไร/มีของออกไม่ได้-รอเฉลี่ยต้นทุนที่ 1040

‪#‎ราคาทองวันนี้‬ (ข้อมูลที่มีผลต่อราคาทองคำเพิ่มเติม)

- ดูตัวเลขเศรษฐกิจ:http://bit.ly/ปฏิทินเศรษฐกิจ

- ดูราคาทองวันนี้:http://bit.ly/ราคาทองวันนี้

- ดูบทวิเคราะห์ราคาทอง: http://bit.ly/บทวิเคราะห์ราคาทองวันนี้

- ดูคลิปราคาทอง1นาที: http://bit.ly/คลิปราคาทอง_1นาที

- สรุปข่าวเศรษฐกิจ: http://bit.ly/สรุปข่าวเศรษฐกิจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองวันนี้ มีปัจจัยส­­­­­­­­­ำคัญอะไรบ้าง ราคาทองจะเป็นเช่นไร รับชมได้ในคลิปนี้ครับ... ติดตามราคาทองคำแบบ Real Time ได้หรือ https://www.ausiris.co.th ราคา...

 

by YLGResearch

 

 

 

 

 

by gcapgold

 

by CLASSIC GOLD GROUP

 

 

by NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12366334_1164785650205896_6556302837337995560_n.jpg?oh=00d363469db0f95ed230df698ac3f2d8&oe=56DCD355

 

 

 

 

 

 

คำสอนสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร

 

10 hrs ·

 

ส่งเสด็จ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ครั้งสุดท้าย 2015 (ฉบับเต็ม)

วีดีทัศน์ชุดพิเศษ เพื่อประกอบการถ่ายทอดสด พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

โดยบริษัท ธรี ดี แลนด์ และคณะผู้จัดทำขอถวายอภิสัมมานสักการะด้วยเศียรเกล้า ขอถวายอภิสัมมานสักการะด้วยเศียรเกล้า แด่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก

 

 

Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย

"กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการประชาสัมพันธ์ประชาชนการถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชนในเขตกทม.ปฎิบัติดังนี้"

อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378481590/'>http://www.nationtv.tv/main/content/social/378481590/

http://www.nationtv.tv/main/content/social/378481590/

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12348047_10153857344187922_3360397693960087530_n.jpg?oh=c80648e0ca2ab42ed339e9871428e7fc&oe=56D4F607

12360084_10153857344427922_4475336931882406980_n.jpg?oh=8c18f7216e0c6d5892f69a3e42f15cb5&oe=571F1673

12392045_10153857344107922_5312712426113268548_n.jpg?oh=363b332700c66506209c2dbd827115dc&oe=56D8279A

วันอังคารที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกพระเมรุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร

 

ภาพ.FB_Now26 และ FB_MGR PHOTO

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12391359_10156394163325085_2600338870489522875_n.png?oh=0f72b09281688c773ff0bdb8a20a6fa1&oe=56D74984

 

12141651_510326542460304_8332702431783265557_n.jpg?oh=7cc0a4012e2ecb848c6c8143de96c23b&oe=570F6F8E

 

10297561_1129079973776367_9013264563961558340_n.jpg?oh=cf3fc52dec22a543b888e0d95aa72670&oe=57177310

 

สถาปนาพระเกียรติยศ 'สมเด็จพระสังฆราช' เป็นกรณีพิเศษ-สังฆราชกัมพูชา สองนิกายร่วมงานถว

เว็ปไซต์ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ สถาปนาพระเกียรติยศ…

 

 

 

 

MANAGER.CO.TH|BY MGRONLINE LIVE

 

 

 

เพลงชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก (คีตธรรมแห่งการน้อมไว้อาลัยและส่งเสด็จสู่พระนฤพาน) คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม ทำนอง : ปทุมมามหาสิกขาลัย เรียบเรียง :...

 

WWW.YOUTUBE.COM

 

12341644_967797363295468_1876017217145122111_n.jpg?oh=daa6ea44a1dd74c93e231f933eb3de33&oe=56DE1F82

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 1.8 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ธันวาคม 2558 07:34:46 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,061.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 13.77 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 855.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 18.25 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 566.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำ เพราะเมื่อดอลลาร์แข็งค่าจะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) เป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

 

สำหรับปัจจัยล่าสุดที่หนุนกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น มาจากรายงานที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของสหรัฐเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 0.2%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2320983

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.04 รับคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ธันวาคม 2558 07:16:34 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก โดยสนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 37.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 38.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก 500,000 บาร์เรล โดย EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย

 

ส่วนในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 485.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 423,000 บาร์เรล สู่ระดับ 59.4 ล้านบาร์เรล

 

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าสู่ระดับ 43 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังปรับลดคาดการณ์ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ WTI ในปีหน้าสู่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อย่างไรก็ดี มูดี้ส์คาดว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์ และ WTI ในปี 2017 และ 2018 จะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์/บาร์เรลต่อปี

 

ขณะเดียวกัน มูดี้ส์ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทกลุ่มสำรวจและผลิตน้ำมันลงสู่เชิงลบ โดยระบุว่าถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงอ่อนตัวลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2320981

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ก่อนทราบผลการประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ธันวาคม 2558 07:31:59 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) ก่อนการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะมีขึ้นในการประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0918 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5043 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5141 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.76 เยน จาก 120.83 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9903 ฟรังก์ จาก 0.9851 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7195 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7245 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่ง ขณะที่เฟดเริ่มการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่าจะเฟดจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษในแถลงการณ์หลังการประชุม

 

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนับเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์ เนื่องจากจะทำให้สินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน

 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่าการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐยังเป็นผลมาจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในตลาด หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น

 

ทั้งนี้ ตลาดได้ปรับตัวรับคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดไว้แล้ว แต่ความกังวลที่ว่าเฟดอาจจะใช้วิธีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น ได้สกัดการปรับตัวขาขึ้นของดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2320982

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 156.41 จุด รับหุ้นพลังงานดีดตัว

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 ธันวาคม 2558 06:34:33 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเกือบ 3% ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,524.91 จุด พุ่งขึ้น 156.41 จุด หรือ +0.90% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,995.36 จุด เพิ่มขึ้น 43.13 จุด หรือ +0.87% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,043.41 จุด เพิ่มขึ้น 21.47 จุด หรือ +1.06%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3.8%

 

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะช่วยหนุนกำไรของภาคธนาคาร โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่หุ้นเรเจียนส์ ไฟแนนเชียล ดีดตัวขึ้น 3.6%

 

หุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอิลลูมินา อิงค์ และหุ้นเอ็นโด อินเตอร์เนชันแนล ปรับตัวขึ้นกว่า 6% ขณะที่หุ้นเซลจีน คอร์ป และหุ้นไบโอเจน อิงค์ พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับขึ้น 1.9%

 

หุ้นกลุ่มสื่อปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นนิวส์ คอร์ป และหุ้นซีบีเอส คอร์ป ที่ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 1%

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในระหว่างวันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง และหากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เช่นเดียวกับเดือนต.ค.และก.ย.

 

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 1 จุด สู่ระดับ 61 ในเดือนธ.ค. แต่ยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี

 

ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์ครายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ยังคงอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ ดัชนีขยับขึ้นสู่ระดับ -4.6 จาก -10.7 ในเดือนพ.ย. และ -11.4 ในเดือนต.ค.

 

นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในการประชุมครั้งนี้ จากระดับปัจจุบันที่ 0.25% โดยจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

 

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2320978

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ กำชับประสานปท.เพื่อนบ้านแก้ปมค้ามนุษย์- IUU อย่างต่อเนื่อง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 18:33:18 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ว่า ได้สั่งการและเน้นย้ำไปยังทุกหน่วยงานให้ทำงานอย่างต่อเนื่องในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU ขณะที่กองทัพเรือได้ออกติดตามตรวจสอบเรือประมงที่ทำผิดกฎหมาย

 

 

 

นอกจากนี้ยังกวดขันดูแลเรือประมงที่จะออกจากฝั่ง รวมถึงการติดตามตรวจสอบเรือบางลำที่ออกไปทำการประมงระยะไกล โดยยืนยันว่าการทำงานในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก เป็นผลจากการทำงานอย่างจริงจัง มีการควบคุมในหลายด้าน ทั้งในส่วนของตัวเรือ เครื่องมือ ใบอนุญาต และกฎหมายในการควบคุมดูแล

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เรื่องของความร่วมมือประมงอาเซียนที่ได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พูดคุยกับประเทศอินโดนีเซียและจะต้องพูดคุยกับประเทศเวียดนามในการทำประมงร่วมกันเพื่อประโยชน์ด้านการประมงและให้การดูแลการทำประมงผิดกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดด้านการประมงและการค้ามนุษย์จะต้องเน้นดำเนินการกับผู้กระทำผิดรายใหญ่และเมื่อมีการจับกุมเรือประมง ต้องดำเนินการไปถึงเจ้าของเรือซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2320945

 

(เพิ่มเติม) ป.ป.ช.มีมติ 7 ต่อ 2 เลือกพล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธานคนใหม่

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 18:48:25 น.

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติ 7 ต่อ 2 เลือก พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคนป.ป.ช.คนใหม่ แทนนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง

 

 

 

ในช่วงบ่ายวันนี้ จะรายงานผลประชุมไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้นำชื่อว่าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน และว่าที่ประธาน ป.ป.ช.นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

 

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า การที่พล.ต.อ.วัชรพล ได้รับเลือกไม่ได้เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตนเอง และรองนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด โดยเป็นเรื่องของป.ป.ช.ที่ตัดสินใจกันเลือกกันเอง

 

"ไม่ควรฟังตามกระแส เพราะกระแสบางครั้งก็มาจากความไม่บริสุทธิ์ใจ ซึ่งไม่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง" นายกฯ กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2320946

 

12391333_1114231821920732_2286020948743965027_n.jpg?oh=ce375dbb9a68ab79ec57c61e18798bda&oe=57191E06

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

(Dec 15) "เตรียมรับมือสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย" การประชุมของคณะกรรมการ นโยบายการเงินสหรัฐอาทิตย์นี้ เป็นที่คาดกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐ คงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม คราวนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี คือ ตั้งแต่ สิงหาคมปี 2007 ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งเดียว 50 bsp ส่งสัญญาณความไม่ปรกติในระบบการเงิน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายคราวนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรอัตราดอกเบี้ย ขาขึ้นที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างขวาง วันนี้จึงอยากเขียนเรื่องนี้ เพื่อให้ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งกรณีเลวร้ายก็อาจมีผลรุนแรงจนเป็นชนวนความเปราะบาง หรือปัญหาใหญ่ในประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่จะมีผลกระทบมาถึงประเทศไทย นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้ ความต้องการของเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีมาตั้งแต่ต้นปี ที่เฟด ส่งสัญญาณชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำมากหรือระดับใกล้ศูนย์ที่มีอยู่นี้จำเป็นต้องปรับขึ้น

ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัว เพราะอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำเกินไป และยืนอยู่นานในระบบเศรษฐกิจจะกระตุ้นให้เกิดปัญหาฟองสบู่ได้ง่าย ดังนั้น เงื่อนเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงรอเพียงให้ตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเข้มแข็งและชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามการตัดสินใจปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยได้ล่าช้ามาตลอดทั้งปี

ส่วนหนึ่งเพราะความเข้มแข็งของการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ชัดเจน อีกส่วนหนึ่ง มาจากเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่ได้อ่อนแอลงมากโดยเฉพาะจีน ทำให้ มีความห่วงใยถึงผลกระทบที่จะมีต่อประเทศตลาดเกิดใหม่ถ้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มปรับสูงขึ้น ล่าสุดตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐดูดีขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่แรงกดดันของ นักลงทุนต่อตลาดการเงินประเทศตลาด เกิดใหม่โดยเฉพาะจีนก็ได้ผ่อนคลายลง เดือนนี้จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เฟดจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าคงมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐอาทิตย์นี้

อย่างที่ได้กล่าว การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเมื่อเกิดขึ้น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้น ของวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเริ่มถูกปรับขึ้นต่อเนื่อง เป็นขั้นบันไดจากนี้ไป ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึง ไทยอย่างน้อยผ่านสามช่องทาง

ช่องทางแรก คือ อัตราดอกเบี้ยในเศรษฐกิจโลกจะแพงขึ้น ทำให้ต้นทุนการเงินของภาคธุรกิจจะสูงขึ้นกว่าเดิม มีผลต่อการใช้จ่ายของภาคเอกชน และต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ช่องทางที่ 2 คือ การไหลกลับของเงินทุน ต่างประเทศ ที่เงินที่เคยถูกนำมาลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ จะไหลกลับเพราะการลงทุนในทรัพย์สินเงินดอลลาร์จะให้ผลตอบแทนสูงขึ้น นักลงทุนจะเคลื่อนย้ายเงินลงทุนออกจากทรัพย์สินที่ลงทุนไว้ในประเทศตลาดเกิดใหม่ กลับสู่สหรัฐหรือทรัพย์สินเงินดอลลาร์ เกิดการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศจากตลาดเกิดใหม่ การไหลออกของเงินทุนนี้จะสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ให้อ่อนค่าลง พร้อมกับทำให้ภาวะสภาพคล่องในประเทศตลาด เกิดใหม่ตึงตัวมากขึ้น

ผลกระทบทั้งสองด้านนี้จะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศตลาดเกิดใหม่ต้องปรับสูงขึ้นตาม ซึ่งจะสร้างแรงกดดันหรือซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ และการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น ไทย

ช่องทางที่ 3 คือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ปริมาณหนี้ได้เพิ่มขึ้นมาก ตั้งแต่ช่วงหลังปี 2008 ทั้งหนี้ในสกุลเงินท้องถิ่นและในสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐปรับสูงขึ้น ภาระหนี้ของบริษัทธุรกิจที่มีหนี้ก็จะมากขึ้น รวมถึงการต่ออายุสัญญาเงินกู้ก็จะยากขึ้นเมื่อหนี้ครบกำหนด ทั้งจากผู้ให้กู้ที่เป็นนักลงทุนต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์และบริษัท ในประเทศ ที่ได้ไปกู้เงินอัตราดอกเบี้ยต่ำจากต่างประเทศ มาปล่อยกู้ต่อในประเทศ (carry trade) สิ่งเหล่านี้จะสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทธุรกิจ และอาจนำมาสู่ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอกชนได้ในปีหน้า ซึ่งเป็นประเด็นที่จะเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ผลกระทบทั้ง 3 ช่องทางนี้ จะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในปีหน้า แต่ที่น่ากลัวและต้องระวังมากก็คือ ผลกระทบที่ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจที่จะมาจากปัญหาการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอย่างที่กล่าว ซึ่งในกรณีของประเทศไทยหนี้ทั้งสองประเภทนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้อาจเกิดมากขึ้นปีหน้าทั้งจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมาก และจากต้นทุนชำระหนี้ที่ได้เพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งถ้าบริหารจัดการไม่ดีปัญหาระดับบริษัท ก็อาจขยายไปเป็นความเปราะบางเชิงระบบได้

ภาระหนี้ของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ได้ เพิ่มสูงขึ้นหลังปี 2008 เป็นผลโดยตรงจาก การอัดฉีดสภาพคล่อง โดยธนาคารกลาง ของประเทศอุตสาหกรรมหลักทั้งสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ผ่านมาตรการคิวอี ตั้งแต่ปี 2008 ประมาณว่าเม็ดเงินใหม่ที่ได้ถูกอัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจโลกมีมากกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ เม็ดเงินเหล่านี้ได้ถูกนำไป "ลงทุน" ในประเทศตลาดเกิดใหม่ สะท้อนจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ แต่ที่เกิดขึ้นจริงก็คือเงินทุนเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำไปลงทุนในด้านเครื่องจักร การสร้างโรงงานใหม่ หรือการสร้างกำลังการผลิต (Real investment) เพราะตัวเลขการลงทุน ภาคเอกชนในตลาดเกิดใหม่ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น ตามการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ

แต่ที่เกิดขึ้นก็คือเงินทุนเหล่านี้ ได้ถูกนำไปลงทุนในทรัพย์สินทางการเงินแทน

ผลที่ตามมาก็คือเศรษฐกิจไม่ขยายตัว แต่หุ้น หรือตลาดการเงินดีขึ้นต่อเนื่องจากการลงทุน ที่เกิดขึ้น ประมาณว่าความเป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในประเทศตลาดเกิดใหม่ เป็นหนี้ ของบริษัทธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ทำให้ระดับหนี้ ของบริษัทธุรกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ เพิ่มสูงขึ้น จากประมาณร้อยละ 50 ของรายได้ประชาชาติปี 2008 เป็นร้อยละ 75 ในปี 2014

ในกรณีของประเทศไทย ยอดหนี้ คงค้างของภาคธุรกิจไทย ณ ไตรมาสหนึ่งปีนี้ มีมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ประชาชาติ ตัวเลขนี้อ้างโดย ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ขณะที่อัตราส่วนระหว่างหนี้ครัวเรือน กับรายได้ประชาชาติเทียบกับแนวโน้มระยะยาว ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ด้วยกัน

ดังนั้นประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่ง ที่ระดับหนี้ภาคเอกชนได้เพิ่มสูงขึ้นหลังปี 2008 ทำให้นโยบายต้องให้ความสำคัญ กับผล กระทบของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่จะมีต่อ ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจ และของครัวเรือน

ย้อนกลับเมื่อ 18 ปีก่อน ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งขึ้นปี 1997 ภาวะเศรษฐกิจโลกตอนนั้น ก็คล้ายมากกับขณะนี้ คือเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่ขยายตัวไม่ดี มีแต่สหรัฐประเทศเดียวที่ขยายตัว ได้ดี และสหรัฐก็เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่ามาก ผลก็คือ เศรษฐกิจทั่วโลกถูกกระทบทั้งจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ

ในกรณีของไทยถ้าจำได้ การ ส่งออกช่วงนั้นขยายตัวไม่ดี ประเทศมีปัญหา การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมาก และมีการ ไหลออกของเงินทุนต่างประเทศต่อเนื่อง จนกระทบความมั่นใจของนักลงทุนในที่สุด ขณะนี้เทียบกับเมื่อ 18 ปีก่อนความท้าทายต่อนโยบายก็คล้ายกัน ต่างกันก็เพียงระบบอัตราแลกเปลี่ยนของไทยขณะนี้ มีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะไม่ได้เป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ขนาดของเงินทุนสำรอง มีมากขึ้นจากเดิมและดุลบัญชีเดินสะพัด

ณ จุดนี้ยังเป็นการเกินดุล ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะดูแลปัญหาที่ดีกว่าเมื่อ 18 ปีก่อน ก็ต้องตามดูว่า จากนี้ไปการบริหารจัดการ ความเสี่ยงและผลกระทบต่างๆ จะเป็นอย่างไรโดยเฉพาะในปีหน้า

คอลัมน์ เศรษฐศาสตร์บัณฑิต โดย ดร.บัณฑิต นิจถาวร

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

 

12346433_1108700569149434_4716510203680895334_n.jpg?oh=601fd4208b0d98058d8995f2b357bcb0&oe=5717FEB2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...