ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

13096244_10154201739697922_1532855118771823522_n.jpg?oh=1bab0ff7f1947f15c83cba8ca5792c59&oe=57BF1992

 

13083216_10154201739662922_6828322898712846936_n.jpg?oh=7c212c66166a9abb343a6603228dc2e6&oe=57A0A01F

เรารัก สมเด็จพระเทพ ฯ : Our Beloved Princess Maha Chakri Sirindhorn

พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส

วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓

ในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ทรงรับน้ำพระพุทธมนต์และเทพมนต์จากสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แล้วทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดทะเบียนราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม

 

ในวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ตอนกลางคืนมีงานพระราชทานเลี้ยงพระกายาหารในหมู่พระประยูรญาติ

และข้าราชบริพาลใกล้ชิดเพียง ๒๐ คน

สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงเจิมพระนลาฏหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร

‪#‎ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 07:37:58 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 เม.ย. 2559

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเกือบ 3% อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,041.55 จุด เพิ่มขึ้น 51.23 จุด หรือ +0.28% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,863.14 จุด ลดลง 25.14 จุด หรือ -0.51% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,095.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด หรือ +0.16%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการเฟดจะแถลงผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดยุโรปปิดทำการแล้ว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 348.32 จุด ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,559.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.22 จุด หรือ +0.58% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.83 จุด เพิ่มขึ้น 40.24 จุด หรือ +0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,319.91 จุด เพิ่มขึ้น 35.39 จุด หรือ +0.56%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 35.39 จุด หรือ 0.56% แตะที่ 6,319.91 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติการประชุมประจำเดือนเม.ย. โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ระดับ 1,250.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 17.9 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 17.289 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,025.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 5.15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 609.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4553 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4579 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7597 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7740 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.33 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9715 ฟรังก์ จากระดับ 0.9742 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2621 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,041.55 จุด เพิ่มขึ้น 51.23 จุด, +0.28%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,863.14 จุด ลดลง 25.14 จุด, -0.51%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,095.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด, +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,559.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.22 จุด, +0.58%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.83 จุด เพิ่มขึ้น 40.24 จุด, +0.39%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,319.91 จุด เพิ่มขึ้น 35.39 จุด, +0.56%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,064.12 จุด เพิ่มขึ้น 56.82 จุด, +0.22%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,692.34 จุด ลดลง 0.16 จุด, -0.01%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,874.72 จุด ลดลง 19.94 จุด, -0.69%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,845.66 จุด เพิ่มขึ้น 31.57 จุด, +0.66%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,361.60 จุด ลดลง 45.67 จุด, -0.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,180.53 จุด ลดลง 31.39 จุด, -0.44%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,953.67 จุด ลดลง 11.03 จุด, -0.37%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,187.70 จุด ลดลง 32.90 จุด, -0.63%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,253.50 จุด ลดลง 30.10 จุด, -0.57%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,015.40 จุด ลดลง 4.23 จุด, -0.21%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,290.49 จุด ลดลง 62.79 จุด, -0.36%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,563.05 จุด ลดลง 18.52 จุด, -0.22%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2411291

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลักๆ หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 07:29:44 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4553 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4579 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7597 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7740 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.33 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9715 ฟรังก์ จากระดับ 0.9742 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2621 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุมวันนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006

 

ถึงแม้เฟดเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่แถลงการณ์หลังการประชุมบ่งชี้ว่าเฟดไม่รีบร้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้เศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงเมื่อไม่นานมานี้

 

แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า "กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง โดยการขยายตัวด้านการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนได้ลดลง ถึงแม้รายได้ที่แท้จริงของภาคครัวเรือนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับสูง"

 

เฟดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวของเฟดที่ระดับ 2% โดยถูกกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีราคา แต่เฟดมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวแตะ 2% ในระยะกลาง

 

แถลงการณ์ระบุว่า FOMC จะยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสิ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจโลก และพัฒนาการทางด้านการเงินต่อไป

 

ขณะเดียวกัน เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวในอัตราปานกลาง และตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2411289

 

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.4954 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 09:00:59 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่า 1.17% แตะที่ 6.4954 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2411434

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 7 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 06:53:31 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติการประชุมประจำเดือนเม.ย. โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ระดับ 1,250.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 17.9 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 17.289 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,025.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 5.15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 609.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการประชุมเฟด ซึ่งโดยปกติแล้วคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.09% แตะที่ 94.42

 

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2411286

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.29 หลังเฟดตรึงดบ.,สต็อกน้ำมันดิบลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 06:27:34 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นขานรับที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจชะลอตัวลง ขณะที่การขยายตัวด้านการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนปรับตัวลดลง ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวของเฟดที่ระดับ 2% โดยถูกกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีราคาผู้บริโภค

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของ API ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของ API ออกมาสวนทางกับที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

 

ขณะเดียวกัน EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ EIA รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงปรับตัวลง โดยลดลงสู่ 8,938,000 บาร์เรล/วัน จากที่สูงถึง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.2015

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2411278

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thursday, April 28, 2016 -- FED:คำต่อคำในแถลงการณ์เฟดหลังการประชุม FOMC วันที่ 26-27 เม.ย.

 

วอชิงตัน--28 เม.ย.--รอยเตอร์

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยแถลงการณ์

หลังการประชุมในวันที่ 26-27 เม.ย. โดยมีรายละเอียดดังนี้:-

"ข้อมูลที่ได้รับมานับตั้งแต่ FOMC จัดการประชุมในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า สถานการณ์ในตลาด

แรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อไป ถึงแม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดูเหมือนว่าได้ชะลอการเติบโตลง

ทางด้านปริมาณการจับจ่ายใช้สอยในภาคครัวเรือนชะลอการเติบโตลง ถึงแม้รายได้ที่แท้จริง

ของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ภาคที่อยู่อาศัยได้ปรับตัวดีขึ้นต่อไป แต่การลงทุนทางธุรกิจในสินทรัพย์

คงที่และยอดส่งออกสุทธิอยู่ในภาวะอ่อนแอ ทางด้านสัญญาณหลายตัวในระยะนี้ ซึ่งรวมถึงการจ้าง

งานที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานทวีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคง

อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของ FOMC ที่ 2% โดยมีสาเหตุบางส่วนมาจากการร่วงลงของ

ราคาพลังงาน และการร่วงลงของราคาสินค้านำเข้านอกภาคพลังงานในช่วงก่อนหน้านี้ ทางด้าน

มาตรวัดภาวะเงินเฟ้อด้านค่าตอบแทนในตลาดยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่วนมาตรวัดการคาดการณ์

ภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวตามผลสำรวจแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

"เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับมอบตามกฎหมายนั้น FOMC มีความต้องการที่จะส่งเสริม

ภาวะการจ้างงานสูงสุด และเสถียรภาพด้านราคา ทั้งนี้ FOMC คาดการณ์ในขณะนี้ว่า การปรับ

จุดยืนของนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในอัตรา

ปานกลาง ในขณะที่สัญญาณบ่งชี้ในตลาดแรงงานยังคงทวีความแข็งแกร่ง ทางด้านอัตราเงินเฟ้อ

มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้ โดยมีสาเหตุบางส่วนมาจากราคาพลังงานที่ร่วงลง

ในช่วงก่อนหน้านี้ แต่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ในระยะกลาง ในขณะ

ที่ผลกระทบชั่วคราวจากการร่วงลงของราคาพลังงานและราคานำเข้าจางหายไป และตลาดแรงงาน

ทวีความแข็งแกร่งขึ้นต่อไป ทั้งนี้ FOMC ยังคงจับตามองสัญญาณบ่งชี้ด้านเงินเฟ้อและการเปลี่ยน

แปลงทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกอย่างใกล้ชิด

"เมื่อพิจารณาจากภาวะแวดล้อมนี้ FOMC จึงตัดสินใจตรึงกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะ

สั้นไว้ที่ 0.25-0.50% ต่อไป โดยนโยบายการเงินยังคงมีจุดยืนผ่อนคลาย ซึ่งจะสนับสนุนให้

สถานการณ์ในตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อไป และสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2%

"ในการตัดสินใจเรื่องกำหนดเวลาและขนาดของการปรับกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น

ในอนาคตนั้น FOMC จะพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่คาดการณ์ โดย

เปรียบเทียบกับเป้าหมายการจ้างงานสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ 2% โดยการประเมินนี้จะพิจารณา

จากข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดสำหรับสถานการณ์ในตลาดแรงงาน, สัญญาณบ่งชี้ถึงแรง

กดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ทางการเงิน

และการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าระดับ 2%

FOMC จึงจะจับตาดูอย่างระมัดระวังต่อความก้าวหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่คาดการณ์ในการเข้าใกล้

เป้าหมายด้านเงินเฟ้อ โดย FOMC คาดว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

ในแบบที่สนับสนุนให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น และอัตราดอกเบี้ย

ระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับปกติในระยะยาวเป็นเวลานานระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี

แนวโน้มที่แท้จริงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจตามที่ตัวเลขเศรษฐกิจใน

อนาคตระบุไว้

"FOMC จะดำเนินนโยบายเดิมต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของ

หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ (agency) และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกัน

จากสัญญาจำนองของ agency มาลงทุนใหม่ในหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง

ของ agency และจะต่ออายุพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล

และ FOMC คาดว่าจะทำเช่นนี้ต่อไปจนกว่ากระบวนการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้เข้าสู่ภาวะปกติ

ได้ดำเนินไปเป็นเวลานานแล้ว โดยการที่ FOMC ยังคงถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวจำนวนมากต่อไป

น่าจะช่วยให้สถานการณ์ทางการเงินอยู่ในภาวะผ่อนคลายต่อไป

"ทั้งนี้ กรรมการ FOMC ที่ลงคะแนนเสียงเห็นชอบต่อการดำเนินนโยบายการเงินในครั้งนี้ได้แก่

นางเจเน็ต แอล เยลเลน ประธานเฟด, นายวิลเลียม ซี ดัดลีย์ รองประธาน, นางลาเอล เบรนาร์ด,

นายเจมส์ บูลลาร์ด, นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์, นางลอเรตตา เจ เมสเตอร์, นายเจอโรม เอช พาวเวล,

นายเอริค โรเซนเกรน และนายแดเนียล เค ทารุลโล ส่วนผู้ที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านการดำเนินนโยบาย

การเงินในครั้งนี้ได้แก่นางเอสเธอร์ แอล จอร์จ ซึ่งต้องการให้ที่ประชุมในครั้งนี้ปรับขึ้นกรอบเป้าหมาย

อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ 0.50-0.75%"--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; กัลยาณี ชีวะพานิช เรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 0-2648-9742;

Reuters Messaging: jit.phokaew.reuters.com@reuters.net))

Wealth Station

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 10:35:54 น.

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำแกว่งตัวค่อนข้างมากเมื่อคืนนี้ หลังเฟดยังตัดสินใจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งถ้อยแถลงโดยทั่วไปยังเป็นลักษณะคล้ายๆเดิม แต่เปิดกว้างสำหรับโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระถัดไปคือเดือนมิถุนายน โดยเฟดยังวิเคราะห์ว่าอัตราเงินเฟ้อระยะปานกลางมีโอกาสฟื้นตัว 2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นยังอยู่ในระดับต่ำ ด้านการจ้างงานดีขึ้น แต่ภาคอุตสาหกรรมยังไม่ค่อยดีนัก ในส่วนเจ้าหน้าที่เฟดบางรายยังคงมีความคิดเห็นในเชิงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ราคาทองคำในช่วงที่เฟดประกาศผลประชุมนั้นมีการแกว่งขึ้นลงในกรอบ 1,243 – 1,250 เหรียญเลยทีเดียว สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจภาพรวมขายบ้านส่วนใหญ่ออกมาแย่ลง ขณะที่ตลาดกลับมาให้ความสำคัญกับการประชุมบีโอเจที่จะมาแถลงในวันนี้ โดยตลาดคาดหวังว่าบีโอเจน่าจะมีมาตรการบางอย่างในการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังประสบเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ด้านค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบ 35.08-35.20 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้เปิดแข็งค่าลงมาเล็กน้อยบริเวณ 35.12 บาท/ดอลลาร์ สำหรับราคาทองคำเช้านี้เปิดปรับลงมาบริเวณ 1,242 เหรียญในตลาดเอเชีย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในระยะสั้นจะเห็นความผันผวนและราคามีสภาพเหมือนผิดหวังของการแถลงของเฟด จึงมีการปรับตัวลดลงมา สำหรับแนวโน้มระยะสั้นยังไม่มีความชัดเจน มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาก่อน โดยทดสอบระดับ 1,230 เหรียญก็เป็นได้ ขณะที่ระยะกลางราคาทองคำมีโอกาสจะเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways มากขึ้นในกรอบ 1,240 – 1,250 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 1,230 – 1,245 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยคงจะเคลื่อนตัวกรอบแคบเช่นเดียวกันบริเวณ 20,400 – 20,700 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,230 – 1,245 เหรียญ

* อย่างไรก็ดี Gold Futures J16 จะหมดอายุลงในวันที่ 28 เม.ย. 59 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของGold Futures M16 แทน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เล่นสั้นภายในวัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลตามการแกว่งของตลาด ไม่แนะนำให้ใช้ Leverage มากจนเกินไปนัก

 

Gold Futures J16 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,920 บาท

Gold Futures M16 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,770 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,970 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2411965

 

 

บล.โกลเบล็ก มอง SET Index แกว่งในกรอบ 1,400-1,430 จุด ขาดปัจจัยใหม่ แนะเข้าซื้อจังหวะย่อตัวรอลุ้นงบฯบจ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 10:32:06 น.

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก คาดว่าภาวะตลาดหุ้นไทย (SET Index) จะยังแกว่งตัวในกรอบ 1,400-1,430 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกระแสเงินทุนนต่างชาติชะลอการเข้าซื้อหลังจาก P/E ของ SET พุ่งขึ้นมาที่ 21 เท่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงในระยะสั้นด้วย อย่างไรก็ตาม มองว่าการย่อตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อต่อเนื่องจากมีประเด็นการประกาศงบไตรมาส 1/59 ที่จะทยอยประกาศถึง 16 พ.ค.นี้

 

 

 

ด้าน น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

อีกทั้ง มองว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ไหลกลับเข้าไทยอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่ำลง บวกกับเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน นอกจากนี้ ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 59 ขึ้นสู่ระดับ 41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ 37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงต้องจับตาประเด็นเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ อาทิ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มด้วยการใช้นโยบาย QE มากกว่าการใช้ดอกเบี้ยติดลบเพื่อแก้ปัญหาส่งออก ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว รวมทั้งทางสหรัฐเองจะมีการรายงานตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 1/59 ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ของไทยจะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนวันที่ 29 เม.ย.นี้ และยูโรโซนเปิดเผยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 1/59

 

ขณะที่ นายชัยยศ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในการซื้อสะสมแบบ Selective Buy ในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2559 เติบโต เช่น AOT, BA, AAV, EPG, CPF, WORK, SMT, LPN, PTG, BJCHI, COM7, BANPU, TWPC, TVD และ XO

 

นอกจากนี้แนะนำเก็งกำไรหุ้น STA, TRUBB รับปัจจัยบวกจากราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 195 เยน/กิโลกรัม และการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 5,479 ล้านบาทสำหรับใช้ในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง

 

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จากแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ลดลงผิดคาดในเดือนมี.ค.และการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน มี.ค. รวมถึงดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.พ.

 

ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลงหลังธนาคารบาร์เคลย์ระบุว่ายังไม่เชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นหรือคงอยู่ที่ระดับเดิมได้ มอร์แกน สแตนลีย์ เผยว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเกิดจากคำสั่งซื้อของเฮดจ์ฟันด์โดยไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้นักลงทุนบางส่วนออกจากตลาดน้ำมันและมาลงทุนในตลาดทองคำแทน นอกจากนั้น ยังคาดการณ์กันว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่ 26-27 เม.ย.นี้และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้

 

ส่วนการประชุม BOJ คาดการณ์ว่าจะขยายนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ซึ่งจะสร้างแรงหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

 

ดังนั้น ประเมินว่าแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยล่าสุดราคาทองเริ่มสร้างแท่งเทียนที่เรียงตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้นและสามารถไต่ขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่แกว่งตัวใกล้กัน ทำให้ราคาทองกลับมาอยู่ในแนวขึ้นไหล่ขวาอีกครั้ง และค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาแนวโน้มปรับขึ้นต่อ จึงให้กรอบแนวรับที่ 1,220-1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2411966

 

 

 

โกลเบล็ก”มองหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่ให้กรอบดัชนี 1,400 – 1,430 จุด แนะเก็ง STA -TRUBB รับอานิสงส์ราคายางฟื้น-ครม.อนุมัติพยุงราคา

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 10:27:13 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

บล.โกลเบล็ก มองดัชนีหุ้นไทยไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ จับตานักลงทุนต่างชาติโยกเงินลงทุนไทยมากขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รอจังหวะชอปหลังแจ้งงบไตรมาส 1/59 ภายในกลางเดือนพ.ค.นี้ คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,400 – 1,430 จุด แนะเก็งกำไรSTA -TRUBB รับอานิสงส์ราคายางฟื้นตัวถึง 47% เทียบจากปีก่อน ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 195 เยน/กิโลกรัม บวกกับการที่ครม.อนุมัติวงเงิน 5,479 ล้านบาทพยุงราคายาง ด้านราคาทองมีแนวโน้มขึ้น ให้กรอบแนวรับที่ 1,220-1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

 

 

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่าแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

อีกทั้ง มองว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ไหลกลับเข้าไทยอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่ำลง บวกกับเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน นอกจากนี้ ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2559 ขึ้นสู่ระดับ 41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ 37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังคงต้องจับตาประเด็นเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ อาทิ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มด้วยการใช้นโยบาย QE มากกว่าการใช้ดอกเบี้ยติดลบเพื่อแก้ปัญหาส่งออก ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว รวมทั้งทางสหรัฐเองจะมีการรายงานตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 1/2559 ในวันที่ 28 นี้ และธปท.ของไทยจะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนวันที่ 29 เม.ย.นี้ และยูโรโซนเปิดเผยตัวเลขGDP ในช่วงไตรมาส 1/2559

 

ด้านนายชัยยศ จิวางกูรผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบ 1,400 – 1,430 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกระแส Fund Flow ต่างชาติชะลอการเข้าซื้อหลังจาก P/E ของ SET ไทยพุ่งขึ้นมาที่ระดับ 21 เท่า ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงในระยะสั้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามมองว่าการย่อตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อต่อเนื่องจากมีประเด็นการประกาศงบไตรมาส 1/2559 ที่จะทยอยประกาศถึง 16 พ.ค. นี้

 

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในการซื้อสะสมแบบ Selective Buy ในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2559 เติบโต เช่น AOT, BA, AAV, EPG, CPF, WORK, SMT, LPN,PTG, BJCHI, COM7, BANPU, TWPC, TVD และ XO นอกจากนี้แนะนำเก็งกำไรหุ้น STA TRUBB รับปัจจัยบวกจากราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 195 เยน/กิโลกรัม และการที่ครม.อนุมัติวงเงิน 5,479 ล้านบาทสำหรับใช้ในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง

 

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จากแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ลดลงผิดคาดในเดือนมี.ค.และการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. รวมถึงดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.พ.

 

ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลงหลังธนาคารบาร์เคลย์ระบุว่ายังไม่เชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นหรือคงอยู่ที่ระดับเดิมได้ มอร์แกน สแตนลีย์ เผยว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเกิดจากคำสั่งซื้อของเฮดจ์ฟันด์โดยไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้นักลงทุนบางส่วนออกจากตลาดน้ำมันและมาลงทุนในตลาดทองคำแทน ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้

 

ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะขยายนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ซึ่งจะสร้างแรงหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

 

ดังนั้นประเมินว่าแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยล่าสุดราคาทองเริ่มสร้างแท่งเทียนที่เรียงตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้นและสามารถไต่ขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่แกว่งตัวใกล้กัน ทำให้ราคาทองกลับมาอยู่ในแนวขึ้นไหล่ขวาอีกครั้ง และค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาแนวโน้มปรับขึ้นต่อ จึงให้กรอบแนวรับที่ 1,220-1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2411957

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สถานการณ์ทองคำล่าสุดยังคงเป็น Sideway ในกรอบใหญ่ โดยมีบริเวณ 1,230 – 1,250 เป็น Midpoint หรือ จุดสมดุลเกินกว่านี้ไม่ว่าทางใดจะเป็นความโน้มเอียงของตลาดให้สะท้อนกลับ------------------------------------------------------------------------------------

การทรงตัวของราคาทองเหมือนรออะไรบางอย่างเปลี่ยนซึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางทองคำโลกนั้นก็อยู่ที่ดอลล่าร์หรือ Fed Fund Rate การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มดอกเบี้ยจากวันที่ขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อกลางเดือนธันวาคมคือตัวอย่างของจุดเปลี่ยน เป็นการเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่มองตามสถานการณ์ไม่ใช่ตามสิ่งที่เฟดกำหนด ลักษณะการทำงานของเฟดจึงเป็นแบบ Passive ไม่ใช่ Active เป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์และมุมมองนักลงทุน จะชี้นำเมื่อจำเป็นหรือเมื่อตลาดมีมุมมองที่แตกต่างเกินไป จะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เมื่อยิลด์บอนด์ปรับตัวไปในทางใดๆ มากเกินไปเฟดจะให้การปลุกหรือปลอบให้กลับมา ถึงแม้ว่าเฟดจะไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่กับรายงานการประชุมหรือปาฐกถาใดๆ ที่ผ่านๆ มา แต่พอเห็นทิศทางกล่าวคือเฟดไม่เคยพูดว่าจะลดดอกเบี้ยไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นอะไรก็ตาม มีแต่อาจขึ้นช้าหรือจะขึ้นตามเดิมเท่านั้น ทิศทางของดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้จึงเป็นไปในทางว่าจะขึ้นแต่แค่ว่าเมื่อไหร่ ดังนั้นแล้วถ้าการประชุมครั้งนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากนี้ราคาทองคำโลกจะเท่ากับรอเวลาโดนเล่น เล่นประเด็นดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและลบต่อทองไม่ว่าปีนี้จะขึ้นได้หนึ่งหรือสอง Step ก็ตาม ซึ่งการที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับมาทรงตัวใกล้ 50 เหรียญต่อบาร์เรลเป็นปัจจัยสนับสนุนว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแล้วไม่ส่งผลลบต่อวงกว้างมากนักสำหรับช่วง 1 – 3 เดือนจากนี้มองว่าราคาน้ำมันจะลงต่ำกว่าระดับบริเวณ 35.0 – 37.0 ได้ยากในขณะที่กรอบการฟื้นตัวน่าจะยังไม่เกิน 48.0 – 52.5 และเมื่อจบเทรนด์ล่าสุดก็จะทรงตัว Sideway สักพักหนึ่ง

--------------------------------------------------------------------------

วิสัยปกติของเฟดที่มักจะส่งสัญญาณมาก่อน ไม่แอ็กชั่นโดยที่ตลาดตั้งตัวไม่ติด จากที่ตลาดคาดไว้ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ปีนี้เท่ากับการประชุมครั้งนี้เฟดจะส่งสัญญาณบางอย่างออกมาที่ชัดเจนกว่าทุกครั้ง ถ้อยคำที่ใช้จะไม่คลุมเครืออย่างที่เคย ซึ่งในกรณีที่คลุมเครือทองจะขึ้นเนื่องจากถูกตีความว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปเดือนมิถุนายน ในกรณีที่พูดชัดเจนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจภายในสหรัฐมีแนวโน้มที่ดีพร้อมจะขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ทองจะลดระดับลงมาจากกรอบเดิม 1,220 – 1260 โดยเบื้องต้นมองระดับ 1,180 – 1,200 ซึ่งต้องระวังแรงขายในภาพหลัก (Break Down Lowest Low) มากดดันเพิ่มเติมอาจพักตัวลึกถึง 1,150 – 11,70 ยิ่งนานไปเรื่อยๆ กับแนวทางเดิมที่มองไว้โอกาสที่ทองจะไป 1,300 – 1,340 น้อยลงตามเวลาที่ผ่านไป จะเปลี่ยนมุมมองหากว่าราคาสามารถกลับมาทำฐานเหนือ 1250 – 1260

--------------------------------------------------------------------------

เนื่องจากระยะสั้นสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยน กลยุทธ์ยังเทรดไซด์เวยกันต่อไป ลงมาก็ซื้อขึ้นไปก็ขาย ด้วยเหตุการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้จึงต้องมี Stop loss เสมอ โชคดีกับการเทรดครับ

26/4/59

www.Facebook.com/Wealthstation

13077080_1063460003692474_5647732140151749997_n.png?oh=c1866f74e67361666d69687753c229ae&oe=57AE1D79

13055320_1063460100359131_556710524489006935_n.jpg?oh=31ff8eba4cc83f6475641eff1c4bd555&oe=57AC99F0

13095888_1063460187025789_5651536921479066411_n.png?oh=84d4b006553b6ff780e5add5b41ed63b&oe=579BEBCF

13094388_1063460190359122_5233304146226502649_n.png?oh=cc4e1fe7acfeed978e4f3acb9a902e4f&oe=57A9D16E

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.12 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 11:07:58 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.16/17 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค"บาทแข็งค่าจากเย็นวานเล็กน้อย หลังผลประชุม FOMC ออกมาเป็นกลางๆ ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนักจึงยังไม่จำเป็นต้องเร่งรีบปรับอัตราดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.05-35.20 บาท/ดอลลาร์ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.1033 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (27 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ1.51561% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (27 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.56930%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.30 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1304 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.1500 บาท/ดอลลาร์

- แบงก์รับเลื่อนคุ้มครองเงินฝากช่วยเรียกความเชื่อมั่น และเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ ชี้ไม่เกี่ยวกับสภาพคล่องคลังยันไม่มีแนวคิดลดคุ้มครองเหลือต่ำกว่า 1 ล้านบาทแน่นอน

- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ระบุ รัฐบาลจะไม่ต่ออายุให้กับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองว่าทิศทางของธุรกิจภาคอสังหาฯ ในขณะนี้เดินหน้าต่อไปได้พอสมควรแล้ว ซึ่งการให้ยาแรง 6 เดือนที่ผ่านมาก็เป็นเวลาที่สมควรแล้ว ถ้าให้ยาแรงๆ กระตุ้นเป็นเวลาต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการดื้อยาได้

- เอกชนมองหมดมาตรการยาแรงรัฐอสังหาฯ ปีนี้ เติบโตไม่หวือหวาแค่ 5% เหตตลาดต่างจังหวัดยังชะลอตัว ไร้แรงส่งเปิดโครการใหม่ ขณะแรงผลักดันโครงการใหม่ เกิดจากรายใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดเปิดตัวโครงการ 3 ไตรมาส ที่เหลือ 67 โครงการ มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้าน

- นายอลาสแดร์ แกรนท์ ประธานสมาคมจีเอสเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นสมาคมด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่าจากรายงานการพัฒนาความก้าวหน้า ของสังคมดิจิทัลในเอเชีย โดยสมาคม จีเอสเอ็มและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ได้แบ่งประเทศเอเชียออกเป็น 3 กลุ่ม คือ สังคมดิจิทัลยุค เกิดใหม่ สังคมดิจิทัลช่วงเปลี่ยนผ่าน และสังคมดิจิทัลยุคพัฒนาแล้ว มีกรณีศึกษา 7 ประเทศ โดยไทยจัดเป็นประเทศกลุ่มสังคมดิจิทัลช่วงเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกับอินโดนีเซีย

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ว่า คณะกรรมการได้ตัดสินใจคงช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ไว้ที่ระดับ 0.25-0.5% โดยยังคงนโยบายการเงินในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวดีขึ้นต่อไปของภาวะตลาดแรงงานและการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้งในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น คณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจในแง่ของความเป็นจริงและคาดการณ์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน, ปัจจัยชี้เกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.)หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.33 เยน

Cr : http://www.ryt9.com/s/iq03/2411979

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.12 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 11:07:58 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.16/17 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค"บาทแข็งค่าจากเย็นวานเล็กน้อย หลังผลประชุม FOMC ออกมาเป็นกลางๆ ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนักจึงยังไม่จำเป็นต้องเร่งรีบปรับอัตราดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.05-35.20 บาท/ดอลลาร์ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.1033 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (27 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ1.51561% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (27 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.56930%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.30 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1304 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.1500 บาท/ดอลลาร์

- แบงก์รับเลื่อนคุ้มครองเงินฝากช่วยเรียกความเชื่อมั่น และเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ ชี้ไม่เกี่ยวกับสภาพคล่องคลังยันไม่มีแนวคิดลดคุ้มครองเหลือต่ำกว่า 1 ล้านบาทแน่นอน

- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ระบุ รัฐบาลจะไม่ต่ออายุให้กับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองว่าทิศทางของธุรกิจภาคอสังหาฯ ในขณะนี้เดินหน้าต่อไปได้พอสมควรแล้ว ซึ่งการให้ยาแรง 6 เดือนที่ผ่านมาก็เป็นเวลาที่สมควรแล้ว ถ้าให้ยาแรงๆ กระตุ้นเป็นเวลาต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการดื้อยาได้

- เอกชนมองหมดมาตรการยาแรงรัฐอสังหาฯ ปีนี้ เติบโตไม่หวือหวาแค่ 5% เหตตลาดต่างจังหวัดยังชะลอตัว ไร้แรงส่งเปิดโครการใหม่ ขณะแรงผลักดันโครงการใหม่ เกิดจากรายใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดเปิดตัวโครงการ 3 ไตรมาส ที่เหลือ 67 โครงการ มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้าน

- นายอลาสแดร์ แกรนท์ ประธานสมาคมจีเอสเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นสมาคมด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่าจากรายงานการพัฒนาความก้าวหน้า ของสังคมดิจิทัลในเอเชีย โดยสมาคม จีเอสเอ็มและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ได้แบ่งประเทศเอเชียออกเป็น 3 กลุ่ม คือ สังคมดิจิทัลยุค เกิดใหม่ สังคมดิจิทัลช่วงเปลี่ยนผ่าน และสังคมดิจิทัลยุคพัฒนาแล้ว มีกรณีศึกษา 7 ประเทศ โดยไทยจัดเป็นประเทศกลุ่มสังคมดิจิทัลช่วงเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกับอินโดนีเซีย

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ว่า คณะกรรมการได้ตัดสินใจคงช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ไว้ที่ระดับ 0.25-0.5% โดยยังคงนโยบายการเงินในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวดีขึ้นต่อไปของภาวะตลาดแรงงานและการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้งในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น คณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจในแง่ของความเป็นจริงและคาดการณ์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน, ปัจจัยชี้เกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.)หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.33 เยน

Cr : http://www.ryt9.com/s/iq03/2411979

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Ausiris Group

 

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559

เช้านี้หุ้นไทยรับอานิสงส์ช่วงสั้นจากสินทรัพย์เสี่ยงปรับบวกหลัง Fed ระบุสหรัฐฯชะลอตัวและเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำ จึงไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นไปตามคาด แต่ต้องจับตา BOJ วันนี้ หากเพิ่มมาตรการ อาจทำให้ตลาดผันผวนรุนแรง

ดัชนี SET50 อ่อนตัวลง แต่ยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งเป็นการทดสอบย้ำจุดสูงสุดของรอบหลายครั้ง แต่สัญญาณจาก MACD และ RSI ยังไม่แข็งแรงพอจะปรับตัวขึ้นยืน new high ได้ อย่างไรก็ตาม เส้น moving average ทั้ง 2 เป็นแนวรับที่ดีเช่นเดียวกับกรอบล่างของ channel ขาขึ้น จึงมีแนวโน้มที่ดัชนีจะแกว่ง sideway ไปจนกว่าจะเลือกทาง

 

Strategy : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout

Range : 880 – 920

Resistant : 906 / 910

Support : 887 / 881

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2804201692704316…

___________________________13062152_1287901777904836_7757746356893239303_n.jpg?oh=3f66a3d934553467ed91041892983155&oe=57A37244

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Technical Commentary SET50 Index Futures

ประจำเช้าวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559

S50H16

สัญญาล่วงหน้าดัชนี S50M16 แกว่งผันผวนกว่า SET50 ทำให้ MACD และ RSI ส่งสัญญาณต่างไปเล็กน้อย โดยใน S50M16 เตือนให้ระวังความผันผวนสูงที่มีต่อเนื่องจากการเลือกทิศทางบนเส้นรับระยะสั้น ซึ่งมีแนวโน้มจะดีดตัวได้ดีมากกว่าจะปรับตัวลดลง

 

Strategy : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout

______________________________

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- 29 เม.ย. ข้อมูลการนำเข้า-ส่งออก จากแบงก์ชาติ, ดุลการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ข้อมูลการบริโภคและลงทุนรายบุคคล, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

______________________________

ข่าวในประเทศ

- คลังจัดเก็บรายได้ 1,077,034 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2559 สูงกว่าประมาณการณ์ 6.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 10.2% จากรายได้ค่าประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 และ 1800 MHz จำนวน 48,242 ล้านบาท

- BBL แบงก์กรุงเทพพร้อมจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลของช่องไทยทีวีจำนวน 1,748 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2558 แก่ กสทช.ตามที่ได้มีแบงก์การันตีไว้ โดยธนาคารได้ตั้งสำรองไว้เต็มจำนวนแล้ว

- SCC ปูนซิเมนต์ไทยแจ้งผลกำไรไตรมาส 1 สูงขึ้น 23% เมื่อเทียบรายปี มาอยู่ที่ 13,618.651 ล้านบาท

______________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

 

See Translation

 

 

 

 

13119091_1287905454571135_7631448092875674907_n.jpg?oh=2fe3bbef5fd2330e0a1e658b2e5c13f2&oe=579B8DA5

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13087811_1615706562087755_2218680791337143022_n.jpg?oh=0a85b6866f78b207ffd7e81602e86483&oe=57A29DFC

วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ

ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 18 นาฬิกา 35 นาที ณ โรงพยาบาลศิริราช

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พระราชทานเสามาอักษร พระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ทองคำ ส่วนของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ

อีกทั้งทรงพระมหากรุณาธิคุณอธิบายพระนามของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ว่า

“ผู้ทำประทีปคือ ปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง, ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรื่องโชติช่วง”

ทรงพระเจริญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559 07:54:15 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 เม.ย. 2559

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล อิงค์ และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,830.76 จุด ร่วงลง 210.79 จุด หรือ -1.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,805.29 จุด ลดลง 57.85 จุด หรือ -1.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.81 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.92%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.2% ปิดที่ 348.90 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,557.36 จุด ลดลง 2.04 จุด หรือ -0.04% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 10,321.15 จุด เพิ่มขึ้น 21.32 จุด หรือ +0.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,322.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด, +0.04%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและโลหะ ในขณะที่หุ่นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 2.49 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 6,322.40 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐชะลอตัวลงในไตรมาสแรก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 16 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ระดับ 1,266.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 25.3 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 17.588 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 1,050.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 624.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงข้ามที่กระแสคาดการณ์ในตลาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

 

เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1350 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4610 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4553 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7597 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.10 เยน จากระดับ 111.52 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9667 ฟรังก์ จากระดับ 0.9715 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2518 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,830.76 จุด ลดลง 210.79 จุด, -1.17%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,805.29 จุด ลดลง 57.85 จุด, -1.19%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,075.81 จุด ลดลง 19.34 จุด, -0.92%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,557.36 จุด ลดลง 2.04 จุด, -0.04%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,321.15 จุด เพิ่มขึ้น 21.32 จุด, +0.21%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,322.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด, +0.04%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,603.10 จุด ลดลง 461.02 จุด, -1.77%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,674.76 จุด ลดลง 17.58 จุด, -1.04%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,862.30 จุด ลดลง 12.42 จุด, -0.43%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,848.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.73 จุด, +0.06%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,388.03 จุด เพิ่มขึ้น 26.43 จุด, +0.12%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,162.56 จุด ลดลง 17.97 จุด, -0.25%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,945.59 จุด ลดลง 8.08 จุด, -0.27%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,225.40 จุด เพิ่มขึ้น 37.70 จุด, +0.73%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,289.40 จุด เพิ่มขึ้น 38.50 จุด, +0.73%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,000.93 จุด ลดลง 14.47 จุด, -0.72%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,666.05 จุด ลดลง 624.44 จุด, -3.61%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,473.87 จุด ลดลง 89.17 จุด, -1.04%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2412400

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเยน หลังแบงก์ชาติญี่ปุ่นคงนโยบายการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559 07:31:16 น.

สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงข้ามที่กระแสคาดการณ์ในตลาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1350 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4610 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4553 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7597 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.10 เยน จากระดับ 111.52 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9667 ฟรังก์ จากระดับ 0.9715 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2518 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยน หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ มีมติคงนโยบายในการเพิ่มฐานเงินรายปีที่ระดับ 80 ล้านล้านเยน ผ่านทางการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ ต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ พร้อมระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจและดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรกของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7% โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีสาเหตุจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ได้กดดันการส่งออก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองปิดพุ่ง 16 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559 07:27:20 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 16 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ระดับ 1,266.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 25.3 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 17.588 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 1,050.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 624.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.53% มาอยู่ที่ระดับ 93.86

 

ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันทองคำมีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ และหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรก โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2412366

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 70 เซนต์ หลังสหรัฐเผยการผลิตน้ำมันลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559 06:58:42 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐชะลอตัวลงในไตรมาสแรก

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลงสู่ 8,938,000 บาร์เรล/วัน จากระดับสูงสุดถึง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว

 

ขณะเดียวกัน EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540.6 ล้านบาร์เรล แต่ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรก โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2412357

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

29-Apr-2016

ราคาทองวันนี้

- ราคาทองออสสิริส965สูง/ต่ำ 20985/20625

- ทองสมาคมวานนี้ 20700/20800

- คืนเดียวทองแพงขึ้นอีก 310 บาท!

- SPDR 804.14ตัน/ซื้อ1.49ตัน(+ทอง)

- SPDR Netปีนี้ 804.14ตัน/Netซื้อ161.77ตัน (+ทอง)

 

เช้านี้...

- Gold Spot 1265

- Dollar93.75/ยูโร1.1363/บาท35.01

ติดตามบทวิเคราะห์...คลิกLink ด้านล่าง

- บทวิเคราะห์ราคาทองวันนี้

http://bit.ly/24nHBxt

- ราคาทองวันนี้:

http://bit.ly/ausiris_goldprice

 

 

 

 

13062226_1172686322761901_2408795001191113723_n.png?oh=1d331c61223abe766b1032381c31f457&oe=579B54E6

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

HSHsocial

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

13082667_1730869233860695_5985823643912060923_n.jpg?oh=19f0a76202f557be4f61fd8303f3a4e8&oe=57B69405

แจกสูตร ปอเปี๊ยะสด เมนูของว่างยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู | สูตรอาหาร จานโปรด

สูตรอาหารไทย เมนูอาหาร พร้อมเคล็ดลับวิธีทำอาหารให้อร่อย เมนูอาหารจานเดียว อาหารไทย 4 ภาค อาหารอาเซียน อร่อยเด็ดแซ่บเว่อร์.

JARNPROD.BLOGSPOT.COM

เผยสอบผู้รับเช็คสหกรณ์ฯครบ หลักฐานมัด-เบื่อโต้ทนายวัดฯ

28 เม.ย. 59 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ทนายพระธัมมชโย ไปแจ้งความที่สภ.คลองหลวง ว่า ยืนยันว่าในวันที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอชุดสอบสวนคดีดังกล่าวเดินทางไปที่วัดพระธรรมกาย…

NAEWNA.COM

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

เปิดผังเครือข่ายพบ"จตุพร-บก.ลายจุด"จ้างทำเว็บเพจ - NOW26.TV

พิกัดข่าวค่ำ : เปิดผังเครือข่ายพบ "จตุพร-บก.ลายจุด" จ้างทำเว็บเพจ "NOW26" 28-4-59

 

 

 

NOW26.TV|BY NOW26

'ธัมมชโย'ส่งทนายแจ้งปลอมลายมือ แจงไม่เคยรับเช็ค

"ธัมมชโย" ส่งทนายความแจ้งดำเนินคดีกับผู้ปลอมลายมือเซ็นรับเช็ค 100 ล้านบาท ยันไม่เคยเห็น - ไม่เคยได้รับเช็คฉบับดังกล่าว

 

 

 

BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ

นี่แหละเหตุผล !! ว่าประกันชีวิตในโครงการ "อาวุโสโอเคร" ผู้สูงอายุ และไม่สูงอายุ...

เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อมีการออกมาแฉกลวิธี หรือการใช้ความแยบยลในข้อกฏหมายของประกันชีวิต ซึ่งทำให้ประชาชนอาจจะต้องตกเป็นเหยื่อของกลวิธีนี้…

SHOWKHAO.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

YLGResearch

เมื่อวาน..หมอไม่ให้ไป วันนี้..ทนายไม่ให้รับ ! ธัมมชโย "เมินหมายเรียก" DSI

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อายเลย ! อา..แล้วจะรู้ว่า..ใครหญ่าย ! ประเทศไทยใครคุม นรก สวรรค์ นิพพาน ล้วนแต่เป็นเส้นทางที่ธัมมชโยเดินจนคล่อง รู้ว่าสตีฟ จ็อปส์ ตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร…

WORLDENEWSNOW.TUMBLR.COM|BY JAVIER GARCIA

 

MTS GOLD GROUP

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Technical Commentary

ประจำเช้าวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559

ภาพกราฟทางเทคนิค

ราคาทองคำในกราฟราย 120 นาที ปรับตัวลดลงในกรอบที่แคบเข้า ซึ่งการสวิงของค่าเงินดอลลาร์และยูโรจะเพิ่มความผันผวนให้กับราคา โดยมีโอกาสจะ breakout เพื่อไปทดสอบกรอบ sideway หลักในระยะถัดไป

 

Strategy : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout

______________________________

Key Point

Positive View( + )

• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative View( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• ราคาน้ำมันลดลง

______________________________

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ความเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจีนและรัสเซีย

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

______________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

 

 

 

 

 

13087383_1288640681164279_9151722207447974713_n.jpg?oh=ba4bc8a86d6320126bcf98666bbd7814&oe=579E5728

 

 

 

 

 

 

13133223_1288654047829609_5439689185614535701_n.jpg?oh=bcb520a807bb71f3992fe0f8ec4b657d&oe=57B66801

 

 

Technical Commentary SET50 Index Futures

ประจำเช้าวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559

S50H16

สัญญาล่วงหน้าดัชนี S50M16 แสดงการลงที่ชัดเจน แต่การ cover short ท้ายตลาดเพื่อปิดทำกำไรในวัน ทำให้ MACD และ RSI เริ่มมีสัญญาณชะลอการลง อย่างไรก็ตาม แนวรับหลักที่ควรพิจารณาว่าราคาจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไปหรือไม่อยู่ที่เส้น moving average บริเวณ 860 จุด

 

Strategy : trading ในกรอบ และเน้นถือ short เมื่อหลุด 873 จุด

______________________________

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- 29 เม.ย. ข้อมูลการนำเข้า-ส่งออก จากแบงก์ชาติ, ดุลการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ข้อมูลการบริโภคและลงทุนรายบุคคล, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

______________________________

ข่าวในประเทศ

- สศค.ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงจาก 3.7% มาเป็น 3.3% โดยให้ช่วงคาดการณ์ระหว่าง 3.0-3.6% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกจะหดตัวราว 0.7% จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน

- JAS กสทช.ขยายเวลา 1 เดือน ให้คณะทำงานพิจารณาความเสียหายจากกรณีที่ แจส โมบาย บรอดแบนด์ ทิ้งใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ขณะที่จะเชิญธนาคารกรุงเทพมาให้ข้อมูลด้วยถ้อยคำอีกครั้ง ส่วนธนาคารไอซีบีซีไทยให้ข้อมูลว่า แจสติดต่อขอกู้จากกองทุนในจีนและขอให้ไอซีบีซีจีนเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แต่มีข้อติดขัดจึงไม่มีการดำเนินการใด ๆ

- PTTEP ปตท.สผ.เผยกำไรไตรมาสแรกร่วง 34.72% (yoy) มาเป็น 5,625 ล้านบาท ส่วนกำไรในรูปเงินสกุลดอลลาร์ลดลง 41% (yoy) เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 28% มาอยู่ที่ 35.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง แต่นโยบายลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลงด้วยเช่นกัน

______________________________

 

 

 

 

13087744_1288649737830040_1107391739809535158_n.jpg?oh=c83315df6f67f937db96fe0572d8313d&oe=57A06368

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...