ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

วันอังคารที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐

✿สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ

พระราชทานพระราชานุญาตให้สาธุชน

เข้าถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวันที่ ๑๓ -๑๕ เม.ย.

ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.

1f539.png สำนักพระราชวังเผยแพร่หมายกำหนดการ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จ ฯ ไปในการ นายเจริญ - คุณหญิงวรรณา

สิริวัฒนภักดี และครอบครัว

บำเพ็ญกุศล (พิธีกงเต๊ก) ถวายพระบรมศพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๙.๐๐ น.

ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

ในพิธีข้ามสะพานโอฆสงสาร

1f539.png บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง

และโดยรอบพระบรมมหาราชวัง

ประชาชนในชุดสุภาพไว้ทุกข์สีดำทยอยเดินทาง

มารอคิวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง

❀โดยประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจเดินทางมาในช่วงนี้

เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์-ปีใหม่ไทย

จึงอยากเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ

เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

❀ขณะที่ ตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

พร้อมด้วย กอร.รส.ลงพื้นที่สนามหลวงฝั่งทิศเหนือ

เพื่อเตรียมส่งมอบพื้นที่สำหรับเตรียมจัดงาน

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

✽สำนักพระราชวัง สรุปยอดรวมประชาชน

ที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ในพระบรมมหาราชวัง

ของวันที่ ๑๐ เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๓,๓๓๐ คน

รวม ๑๕๙ วัน เป็นจำนวน ๖,๐๒๑,๗๙๒ คน

มีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล

เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๒,๗๑๓,๒๘๒.๒๕ บาท

รวม ๑๕๙ วัน เป็นเงิน ๔๙๒,๓๕๑,๘๙๒.๒๖ บาท

✽ขณะเดียวกัน สำนักพระราชวัง แจ้งว่า

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๑๓ - ๑๗ เม.ย.๖๐

เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ตามปกติ ระหว่างเวลา ๐๕.๐๐ - ๒๑.๐๐ น.

✿สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชม

พระบรมมหาราชวังและพระวัดศรีรัตนศาสดาราม

สำนักพระราชวังจะเปิดจำหน่ายตั๋วเข้าชมตามปกติ

ในวันที่ ๑๓ -.๑๔ เม.ย. เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.

ส่วนในวันที่ ๑๕ เม.ย. งดจำหน่ายตั๋วตลอดทั้งวัน

ข้อมูล: ✽สำนักข่าว inn, ✿กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์

❀สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

#พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

ที่มา น้อมสำนึก

17862741_268415666902574_3237192568628259133_n.jpg?oh=289cb37a44fd98947ff7b54559362e77&oe=5957B3E0

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.894 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 เมษายน 2560 08:52:00 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.17% แตะที่ 6.894 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2631464

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ คาดแรงซื้อหุ้นพลังงาน-แบงก์ช่วยประคองตลาด วอลุ่มบางก่อนหยุดสงกรานต์

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 เมษายน 2560 08:45:35 น.

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ เหมือนในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อที่สลับเข้ามาในหุ้น 2 กลุ่มหลักทั้งพลังงานและแบงก์ ทำให้คาดว่าหุ้นทั้งสองกลุ่มจะยังคงเป็นกลุ่มที่ช่วยประคองตลาดได้ต่อไปในวันนี้ จากราคาน้ำมันที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของกลุ่มแบงก์ที่มีแนวโน้มออกมาดี จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์

"วันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์น่าจะยังประคองได้อยู่ แต่คงไม่แนะนำให้ไล่ราคา เพราะเดี๋ยวตลาดก็จะหยุด คงต้องรอดูหลังจากนั้น อีกทั้งหุ้นทั้งสองกลุ่มก็ปรับขึ้นมาพอสมควรแล้ว คงเป็นลักษณะการต่อรองราคาหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว และคงจะมีการเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กตามประเด็นข่าวที่มีเข้ามาในแต่ละกลุ่มด้วย"นายคณฆัส กล่าว

พร้อมทั้งแนวรับบริเวณ 1,575 และ 1,571 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,587-1,590 จุด

 

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ วิตกสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 เมษายน 2560 08:49:09 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขายเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในคาบสมุทรเกาหลี

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,592.10 จุด ลดลง 155.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,283.84 จุด ลดลง 5.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,068.91 จุด ลดลง 19.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,831.56 จุด ลดลง 0.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,128.17 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,170.58 จุด ลดลง 4.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,735.83 จุด ลดลง 0.01 จุด

 

 

 

หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจะไม่เพียงโจมตีฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ หรือในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ

 

ทั้งนี้ คำขู่ของเกาหลีเหนือดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

 

นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกาหลีเหนือมักทำการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น โดยในวันเสาร์นี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 105 ของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ส่วนในวันที่ 25 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 85 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2631462

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ กำชับ จนท.กวดขันดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน-นักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 เมษายน 2560 18:46:10 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้กวดขันดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิมหน้า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามและจับกุมผู้ก่อเหตุ แต่สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด คือ ประชาชนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถลดความสูญเสียได้

 

 

 

สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ขอให้ประชาชนมีความสุขและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ อย่านั่งกระบะท้าย หรือขอบกระบะ หวังว่าสื่อมวลชนไม่ได้รับอันตรายจากการพักผ่อนและได้กลับมาเจอกันทุกคน เพราะถ้ามีใครคนหนึ่งเจ็บ ตนเองก็เสียใจ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนในครอบครัว แต่ถือว่าคนไทย 70 ล้านคนคือคนในครอบครัว ถ้าเกิดเรื่องอะไรต่างๆ มา รัฐบาลก็เสียใจ และสิ่งที่รัฐบาลมีให้คือความจริงใจและความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน อะไรที่เป็นปัญหา อะไรที่ปรับได้ ก็ปรับให้ อะไรบางอย่างจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ก่อน และแก้ไขกัน อยากไปต่อต้านให้เสียเวลา ขอให้ทุกคนมีความสุข ร่ำรวยอย่างถูกต้อง ร่ำรวยอย่างเพียงพอ บ้านเมืองจะได้ไม่มีปัญหา

 

ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ได้มาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ไม่ได้ป่วย แต่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไปคุยเรื่องงานด้านความมั่นคง แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าประเทศใด และไม่ใช่ไปคุยเรื่องเรือดำน้ำที่ประเทศจีน

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2631222

 

นายกฯ คาดหวังสถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 เมษายน 2560 18:17:15 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ว่า ส่วนตัวมีความคาดหวังว่าจะดีขึ้น และอยากให้ทุกคนใจเย็นลง เพราะถือเป็นการเริ่มนับหนึ่งของกระบวนการต่างๆ ตามโรดแมป ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย แม้จะไม่ใช่ประชาธิปไตย 100% แต่จากผลสำรวจขององค์กรภายนอก ระบุว่าขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจ การส่งออก และความเชื่อมั่นต่างชาตินั้นดีขึ้น

 

 

 

"เป็นการนับหนึ่งตามขั้นตอนเดิม ตั้งแต่ปี 57 ประกาศไว้อย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ก็อย่างที่บอกอาจจะมีคลาดเคลื่อนนิดหน่อย ก็คือในเรื่องของการมีพระราชพิธีเกิดขึ้น 2 พระราชพิธี ก็อย่างที่บอกการหาเสียงอะไรต่างๆ ก็ควรจะไปหลังนั้น แค่นั้นเอง หรือไปถามเขาดูสิ เขาไม่ยินยอมหรืออย่างไร เขาไม่มีความรู้สึกที่เสียใจกับเราหรือ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ลดการใช้มาตรา 44 นั้น นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับว่า ทำไมไม่อยากให้มีการใช้มาตรา 44 จะกลัวทำไม เพราะการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา โดยจะใช้เท่าที่จำเป็นและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากประเทศชาติไม่มีปัญหาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาใช้อำนาจพิเศษ

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2631206

 

นายกฯ ปัดข้อเสนอ BRN ดึงชาติอื่นร่วมพูดคุย-สังเกตุการณ์ ยืนยันเป็นกิจการภายใน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 เมษายน 2560 18:23:30 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐไทยจริงใจในการพูดคุย โดยให้มีคนกลางและมีผู้สังเกตการณ์จากประเทศอื่นเข้าร่วมในการพูดคุย ว่า ขอความร่วมมือทุกฝ่ายไม่ควรขยายความ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพูดคุยสันติสุขโดยมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ดังนั้นข้อเสนอหรือข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้เห็นต่างจะต้องแจ้งความประสงค์ผ่านผู้อำนวยความสะดวก แต่ต้องยึดในหลักการว่า ไม่มีความจำเป็นต้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา เพราะถือเป็นกิจการภายในของรัฐไทย

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2631214

 

<p><span style="font-size:18px;">World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 เมษายน 2560 07:33:22 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 เม.ย.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศได้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนืออาจโจมตีสหรัฐด้วยนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างรัสเซียและสหรัฐ หลังจากสหรัฐระบุว่ารัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.14% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.24%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและซีเรีย โดยเกาหลีเหนือประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงกับสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐได้ส่งกองเรือรบเข้าใกล้น่านน้ำคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่สถานการณ์ซีเรียส่อเค้าว่าจะตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่ประชุม G7 คว้าน้ำเหลวออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกรณีสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.02% แตะที่ 381.18 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,139.35 จุด ลดลง 61.17 จุด หรือ -0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,365.50 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.23% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.86 จุด ลดลง 5.59 จุด หรือ -0.11%

 

-- -ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทองคำที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สืบเนื่องจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในเกาหลีเหนือและซีเรีย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำกันมากขึ้น นอกจากนี้ ดัชนี FTSE 100 ยังได้แรงหนุนจากหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.23% ปิดที่ 7,365.50 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) หลังจากซาอุดิอาระเบียได้แสดงความตั้งใจที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิต และรัสเซียประกาศว่าจะปรับลดกำลังการผลิตลงอีกในช่วงกลางเดือนนี้ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 53.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 56.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนืออาจโจมตีสหรัฐด้วยนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 20.3 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ระดับ 1,274.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 33.9 เซนต์ หรือ 1.89% ปิดที่ 18.254 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 29.5 ดอลลาร์ หรือ 3.14% ปิดที่ 969.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 803.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) จากแรงกดดันของปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่นักลงทุนได้ชะลอการซื้อขายในสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยกันมากขึ้น

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.65 เยนจากระดับ 110.89 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0074 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0079 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0608 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0603 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2491 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2424 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7495 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7504 ดอลลาร์

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด, -0.24%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด, -0.14%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด, -0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,139.35 จุด ลดลง 61.17 จุด, -0.50%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,365.50 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด, +0.23%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.86 จุด ลดลง 5.59 จุด, -0.11%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,788.35 จุด เพิ่มขึ้น 212.61 จุด, +0.72%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,174.75 จุด, ลดลง 6.70 จุด, -0.21%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,735.84 จุด ลดลง 3.68 จุด, -0.21%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,627.93 จุด, ลดลง 16.37 จุด, -0.29%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,088.46 จุด ลดลง 173.72 จุด, -0.72%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 731.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.46 จุด, +0.20%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,601.40 จุด ลดลง 16.51 จุด, -0.22%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,288.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.58 จุด, +0.60%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,123.85 จุด ลดลง 9.47 จุด, -0.44%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,929.30 จุด เพิ่มขึ้น 16.40 จุด, +0.28%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,964.60 จุด เพิ่มขึ้น 15.70 จุด, +0.26%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,747.87 จุด ลดลง 50.01 จุด, -0.27%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,832.42 จุด ลดลง 50.12 จุด, -0.51%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2631392

 

รัสเซียชี้ความสัมพันธ์กับสหรัฐตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 เมษายน 2560 19:22:17 น.

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐกำลังถึงจุดที่ยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามเย็น

 

คำกล่าวของนายลาฟรอฟมีขึ้น ก่อนที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ จะเดินทางเยือนรัสเซียในวันนี้

 

นายลาฟรอฟหวังว่าการเจรจากับนายทิลเลอร์สันจะส่งผลที่น่าพอใจ และเขาหวังที่จะรับฟังจากนายทิลเลอร์สันเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐในเยเมน และลิเบีย

 

นอกจากนี้ นายลาฟรอฟยังหวังว่าสหรัฐจะเห็นพ้องกับการให้นานาชาติทำการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีของซีเรีย

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2631226

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทรัมป์เน้นย้ำสหรัฐจะเข้าจัดการเกาหลีเหนือตามลำพัง หากจีนไม่ให้การช่วยเหลือ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 เมษายน 2560 19:40:49 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ โดยเน้นย้ำว่า สหรัฐจะเข้าจัดการเกาหลีเหนือตามลำพัง หากจีนไม่ยอมให้การช่วยเหลือ

 

"เกาหลีเหนือกำลังหาเรื่อง ซึ่งถ้าจีนตัดสินใจให้ความช่วยเหลือสหรัฐ ก็จะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ เราก็จะแก้ไขปัญหานี้เอง โดยไม่มีจีน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

 

หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจะไม่เพียงโจมตีฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ หรือในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ

 

 

 

คำขู่ของเกาหลีเหนือดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

 

ความตึงเครียดได้เพิ่มขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่สหรัฐทำการโจมตีซีเรียในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่มีความกังวลกันว่าเกาหลีเหนืออาจท้าทายนานาประเทศ ด้วยการทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ในเร็วๆนี้

 

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักทำการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ เกาหลีเหนือมีกำหนดจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ของสภานิติบัญญัติสูงสุดในวันนี้ ขณะที่วันเสาร์นี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 105 ของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ขณะที่วันที่ 25 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 85 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2631235

 

cr paisal Puemongkul

 

สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

การสร้างเรื่องโกหกเพื่อก่อสงครามถูกแฉสนั่นลั่นโลก

เหตุการณ์ระเบิดเคมีในซีเรีย ที่ถูกยกขึ้นเป็นข้ออ้าง ทำสงครามรุกรานซีเรีย ถูกแฉสนั่นลั่นโลกว่า ความจริงรัฐบาลซีเรีย ไม่มีอาวุธเคมี สหประชาชาติได้ตรวจสอบมานานแล้ว

ความจริงขบวนการก่อการร้าย ที่มหาอำนาจตะวันตกสนับสนุนต่างหาก ที่มีอาวุธเคมีอยู่ในบางพื้นที่ของซีเรีย และเหตุระเบิด ที่มีอาวุธเคมีนั้น แท้จริงก็เป็นการก่อเหตุของขบวนการก่อการร้ายดังกล่าว

การแฉความจริง ในเรื่องนี้ที่ชาวโลกเชื่อถือมากที่สุดก็คือ

การเปิดเผยของนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา

คำแถลงของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ และสื่อตะวันตกที่รักความเป็นธรรม เมื่อความจริงถูกเปิดเผยต่อชาวโลก จึงมีการประณาม ผู้ก่อเหตุ และเรื่องนี้กำลังถูกรัสเซีย ยื่นเรื่องให้สหประชาชาติทำการไต่สวน เพื่อเอาผิดกับผู้ก่ออาชญากรรมครั้งนี้

ดังนั้น การอ้างเหตุเพื่อรุกรานซีเรีย จึงกลายเป็นการลวงโลกและหมดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงแล้ว

 

ด่วนมาก

รัสเซียส่งเรือธง จากกองเรือแปซิฟิกซึ่งเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เดินทางถึงน่านน้ำตอนใต้ของเกาหลีใต้แล้ว

มาเงียบๆแต่มาถึงก่อน

ตรงนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่กองเรือของอเมริกาที่เคลื่อนมาจากสิงคโปร์ ต้องการจะมาประจำที่ตรงจุดนี้ พื้นที่ตรงจุดนี้ สามารถถล่มเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และกองเรืออื่นๆ ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามอย่างง่ายดาย และ เป็นจุดที่จะปกป้องเกาหลีเหนือจากน่านน้ำของเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี

แต่ที่น่าแปลกก็คือ รัสเซียส่งเรือไปแค่ 2 ลำ คือเรือธงลำหนึ่งและเรือบรรทุกน้ำมันอีกลำหนึ่ง ซึ่งต้องคอยติดตามจังหวะก้าว ต่อไป

 

สรุปท่าทีของจีนหลังสีจิ้นผิงกลับจากอเมริกา

1 เพิ่มการบินลาดตระเวน ในทะเลจีนใต้ ย่านเกาะเทียมต่างๆ

2 เสริมขี่ปนาวุธ รุ่นใหม่ แถบเกาะเทียม และชายฝั่งทะเล

3 กองทัพปลดแอกประชาชนจีนเคลื่อนพล 150,000 คน ไปที่ชายแดนเกาหลีเหนือ ที่มณฑลเหลียวหนิง จำนวนทหารจีนแสนห้าหมื่นคน ใกล้เคียงกับจำนวนทหารจีน เมื่อครั้ง ประธานเหมา สั่งเคลื่อนทัพ ช่วยเกาหลีเหนือ ช่วงสงครามเกาหลี

และพื้นที่นี้คือพื้นที่ที่ทหารจีนข้ามพรมแดนและข้ามแม่น้ำยาลู โจมตีกองทัพอเมริกา ที่บัญชาการโดย นายพล แมคอาเธอร์แตกกระเจิง

เห็นลีลา ของจีนไหมครับ ไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว

แต่ทำเรื่องใหญ่ๆไปแล้วถึง 3 เรื่อง

===

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันพุธที่ี 12 เมษายน 2560

ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิ

สำหรับวันนี้เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเราคาดว่ามูลค่าการซื้อขายระหว่างวันจะเบาบางลงอย่างชัดเจนรวมทั้งอาจมีแรงขายทำกำไรปรับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวบางส่วน สำหรับภาพรวมการซื้อขายเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นนำไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างโดดเด่นแม้มีแรงขายในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ต่างจากตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดในแดนลบจากความกังวลประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่ดูเหมือนเริ่มจะมีความตึงเครียดมากขึ้นโดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่ประเทศพันธมิตรของซีเรียและรัสเซียเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านและย้ำเตือนสหรัฐฯ ในเรื่องบทบาทระหว่างประเทศ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับแรงกดดันดังกล่าวเช่นกันเพียงแต่รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความกังวลเรื่องอุปทานที่อาจลดลงในช่วงนี้ก็เป็นปัจจัยบวกที่มีต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศซึ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 996.60 จุด มีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,001.90 จุด ซึ่งสามารถทะลุระดับนัยสำคัญที่ 1,000 จุด ได้แต่ก็มีแรงขายกดดันในช่วงท้ายตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,000 จุด ได้อย่างมั่นคงและปิดตลาดที่ 999.80 จุด +2.7 จุด ในขณะที่ดัชนี SET index ปิดตลาดที่ 1,582.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เริ่มกลับมาคึกคักกว่า 44,659.19 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +753.66 ล้านบาท เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ +613.73 จุด ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง -758.93 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิตลอดเดือนเมษายนลดลงเหลือเพียง +1,335.37 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่าตลาดหุ้นไทยและสัญญาฯ มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบและอาจมีแรงขายทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงบางส่วนจากช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นหากนักลงทุนไม่ต้องการรับความเสี่ยงแนะนำให้ถือเงินสดรอไปก่อนเนื่องจากกรอบการเคลื่อนไหวอาจถูกจำกัดด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันและความผันผวนที่เกิดจากทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบกดดันให้ตลาดอาจเคลื่อนไหวอย่างไม่มีแนวโน้ม

แนะนำ : Wait & See, ไม่ถือสถานะลงทุนข้ามสัปดาห์

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1204201791519393…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

17880138_1653551171339893_7360250957012896268_o.jpg?oh=a42dcc48e7f79e4874b5579352d74997&oe=594CC990

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันพุธที่ 12 เมษายน 2560

ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมากกว่า 1.5% หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทองคำได้รับแรงหนุนในแง่สินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งปัจจัยความไม่สงบของซีเรีย และการเลือกตั้งรอบแรกในฝรั่งเศสที่ใกล้จะเข้ามาถึง รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน SPDR ช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นแรง และทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนได้ วันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้าและควรระมัดระวังการถือสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการใน 2 วันที่เหลือของสัปดาห์

ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.83 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.58% โดยปิดที่ 1,274.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,252.90 – 1,275.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,277 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยราคาทองมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ และขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน บริเวณ 1,275 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองมี 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับซีเรีย รวมทั้งเกาหลีเหนือ และตะวันออกกลาง 2. การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ที่ฝั่งขวาจัดมีโอกาสที่จะเข้าเป็นตัวแทนในการเลือกตั้งรอบสุดท้าย 3.กองทุน SPDR สะสมทองต่อเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อคืนนี้ซื้ออีก 4.15 ตัน ทำให้ถือรวม 842.41 ตัน ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง และในวันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้า และระมัดระวังการถือครองสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ และมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคของสหรัฐฯ

คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบ หากราคายืนเหนือ 1,275 เหรียญได้ต่อ แต่ถ้าไม่ระวังแรงขายทำกำไร

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1204201792338393…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

17879945_1653550241339986_4498099693518385482_o.jpg?oh=b61fad1d910b4e5da5c62654bbfa7c81&oe=59531C09

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญาติระอา!?!"ผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ด"เผย "อเมริกา"ไม่ได้อยู่ภายใต้การคุกคามของชาติใดแต่"อเม

ญาติระอา!?!ผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ดเผย อเมริกาไม่ได้อยู่ภายใต้การคุกคามของชาติใดแต่อเมริกาต่างหากคือภัยคุกคามของชาวโลก!!??(รายละเอียด)

TNEWS.CO.TH

17884410_1522186351125275_1712331291197465962_n.jpg?oh=e0c0627b96e381053adbca048c499c73&oe=594E48AC

17883604_1522108721133038_1491974668557682423_n.jpg?oh=76daec927bf24133ff3a3ff14ef0ec03&oe=59982AF7

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วัน ที่ 17 เมษายน 2560

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 เมษายน 2560 17:19:20 น.

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 17 เมษายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,286.05-1,295.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ17 อยู่ที่ 21,020 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,870 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.23 น.ของวันที่ 17/04/2560)

แนวโน้มวันที่ 18 เมษายน 2560

สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเป็นที่เชื่อกันว่า เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบขีปนาวุธในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแต่ประสบความล้มเหลว ความเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มสูงขึ้นเมื่อนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศเตือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ ว่าทั้งสหรัฐและเกาหลีใต้จะไม่ยอมทนต่อการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออีกต่อไป ในขณะที่การโจมตีซีเรียแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจนสามารถเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนได้ ทั้งนี้ ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่ม จากความเสี่ยงในช่วงขาลงของดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่เกิดขึ้นจากการแทรกแซงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเขากล่าวกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า ดอลลาร์ "กำลังแข็งค่ามากเกินไป" และเขาต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ ขณะที่ข้อมูลที่อ่อนแอของสหรัฐได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐ เห็นได้จากยอดค้าปลีกในสหรัฐร่วงลงในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและราคาผู้บริโภคสหรัฐลดลงในเดือนมี.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี โดยรายงานตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอการเติบโตลงในไตรมาสแรก ทั้งนี้ แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เพราะราคาตอบรับกระแสข่าวดังกล่าวไปค่อนข้างมาก หากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบ้างส่วน สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,280 หรือ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านด้านแนวต้านด้านบนที่ 1,300ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณโซน 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หลายครั้งที่ราคารทองคำอ่อนตัวลงก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่หากราคาสามารถทะลุผ่านกรอบบนไปได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาบริแนวรับ

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,280 (20,750บาท) 1,271 (20,600บาท) 1,263 (20,500บาท)

แนวต้าน 1,300 (21,100บาท) 1,313 (21,300บาท) 1,322 (21,450บาท)

GOLD FUTURES (GFJ17)

แนวรับ 1,280 (20,850บาท) 1,271 (20,700บาท) 1,263 (20,600บาท)

แนวต้าน 1,300 (21,200บาท) 1,313 (21,400บาท) 1,322 (21,550บาท)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2633239

<p>ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.25/27 ทิศทางแข็งค่าต่อ มองกรอบพรุ่งนี้ 34.20-34.30 จับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 17 เมษายน 2560 17:29:05 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.25/27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อ

 

 

 

จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.35 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า โดยช่วงนี้คงต้องจับตาประเด็นความตึงเครียดที่คาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่

 

เกาหลีเหนือมีความพยายามจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญอย่างมากที่จะมีผลต่อความทิศทางของค่าเงินใน

 

ระยะนี้

"ระยะนี้คงต้องดูสถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือ เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อค่าเงินเป็นอย่างมาก"

 

นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า มองกรอบที่ 34.20-34.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.30/35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.21 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0620/0628 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0620 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,575.91 จุด ลดลง 13.59 จุด (-0.85%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 27,887 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,684.18 ลบ.(SET+MAI)

- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองทิศทางค่าเงินบาทว่า เปิดสัปดาห์ซื้อขายที่ระดับแข็งค่าสุดในรอบ 21 เดือน สืบเนื่อง

 

<span style="color: rgb(0, 0, 0); font-family: Thonburi, Tahoma, sans-serif;">จากนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่ยังคงสร้างความสับสนและกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดอลล%u

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

YLGResearch

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยหลังสงกรานต์ผันผวน มองกรอบ 1,560-1,600 จุด จับตาคาบสมุทรเกาหลี-ซีเรีย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 17 เมษายน 2560 17:26:11 น.

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวผันผวน โดยแรงกดดันยังคงมาจากความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลีและการโจมตีซีเรียของสหรัฐอเมริกา โดยนักลงทุนยังคงต้องติดตามความรุนแรงว่าจะอยู่ในวงจำกัดหรือขยายลุกลามเพิ่มขึ้น

 

 

 

ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ คือ ผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสในรอบแรก ซึ่งมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน นี้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในความไม่แน่นอนทางเมืองของประเทศฝรั่งเศสที่เกี่ยวข้องกับการดำรงสถานะสมาชิกภาพในกลุ่มประเทศยูโรโซนต่อไปหรือไม่ โดยหากนางนางมารีน เลอแปน ชนะการเลือกตั้งจะส่งผลกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรป

 

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ บริษัทมองว่า อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ซึ่งนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีเติบโตต่อ เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าและฟื้นตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ขณะที่หนี้เสีย (NPL) น่าจะทรงตัว

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันค่าเงินดอลลาร์ฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะสั้น ซึ่งสนับสนุนให้มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) โดยเฉพาะประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ (TIPs Market) โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,560- 1,600 จุด

 

ด้านคำแนะนำการลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้ระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากดัชนีฯ ยังเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนตามกระแสข่าวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาว แนะนำให้ทยอยซื้อสะสมหากดัชนีฯ ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,530 จุด เนื่องจากบริษัทยังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยในประเทศซึ่งจะสามารถสนับสนุนการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป

 

นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า สัปดาห์นี้แนะนำเพิ่มน้ำหนักถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นหลังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองระหว่างประเทศ โดยราคาทองคำในตลาดโลกเริ่มมีทิศทางปรับตัวขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Gold Spot ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70% ขณะที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะปรับตัวลดลง ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยคาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากมีเม็ดเงินทุนจากต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทย

 

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17862840_10155340401532922_6674441039529930263_n.jpg?oh=e22e2bee877da6c58b0bf83cb0f81e2c&oe=5989A00E

ทรงพระเจริญ

เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๙ น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ณ หอพระสุลาลัยพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ หอพระธาตุมณเฑียร และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

ขอบคุณภาพ.สำนักพระราชวัง

 

-----------

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

YLGResearch

 

 

 

 

HSHsocial

 

 

ราคาทองคำวันนี้ 18 เม.ย. 60

http://bit.ly/2oQD4HE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 18 เมษายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 18 เมษายน 2560 09:53:16 น.

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงท้ายตลาดคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่วันศุกร์เป็นวัน Good Friday จึงส่งผลให้ตลาดส่วนใหญ่ปิดทำการ ขณะที่เช้ามือคืนวันศุกร์ สหรัฐฯมีการยิงขีปนาวุธ "Mother of All Bombs"ซึ่งคาดว่าเป็นฐานที่หลบซ่อนของกลุ่ม ISIS ที่ประเทศอัฟกานิสถาน ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงทันที ขณะที่ราคาทองคำตลาด COMEX ปิดคืนวันพฤหัสบดีที่ระดับ 1,288.5 เหรียญ สำหรับช่วงวันหยุดที่ผ่านมายังคงมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ โดยต่างฝ่ายต่างยังไม่ยอมซึ่งกันและกัน และเกาหลีเหนือยังคงมีความพยายามที่จะทดสอบขีปนาวุธของตนเอง ขณะที่สหรัฐฯพยายามส่งกองบินเรือรบไปที่บริเวณคาบสมุทรเกาหลีเหนือ ประกอบกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการที่จะเห็นค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงจากระดับ 101 จุด ลงมาที่ระดับ 100.27 จุดในเช้าวันนี้ ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากระดับ 34.37 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่วันศุกร์ลงมาบริเวณ 34.30 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้แข็งค่าลงมาบริเวณ 34.28 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ทางด้านของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยภาพรวมได้แก่ CPI และ PPI ออกมาปรับตัวลงเล็กน้อยหรือทรงตัว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้ ได้แก่ Empire State Manufacturing Index ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 5 เดือน นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และยังทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในเช้านี้ที่ระดับ 1,295 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทปรับแข็งค่า ภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ขณะที่ราคาเป้าหมายจะอยู่บริเวณ 1,300 เหรียญ และจะมีแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,280 เหรียญ ขณะที่แนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,255 เหรียญ ดังนั้น ยังแนะนำให้ปิดสถานะ Short เน้นทำกำไรระยะสั้น และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด สำหรับราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 21,000 บาท/บาททองคำ และเชื่อว่าวันนี้มีโอกาสที่ราคาทองคำไทยจะทะลุขึ้นไปได้ ทางด้านของ Gold Futures มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นตาม แม้ว่าราคาทองคำไทยจะปรับตัวขึ้นได้ไม่มากจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ลงซื้อ-ขึ้นขาย ทำกำไรระยะสั้นในกรอบขาขึ้น เน้นติดตามข่าวใกล้ชิด

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว และปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาขึ้นของทองคำในขณะนี้

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมของราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น จึงแนะนำให้หาจังหวะเปิดสถานะ Long Position เมื่อราคาย่อตัวและทำกำไรบริเวณแนวต้าน โดยมีระดับราคาเป้าหมาย 1,300 เหรียญ

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,140 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,340 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,380 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2633560

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นฟื้นตัวตามภูมิภาค หลังคลายกังวลสถานการณ์ในต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 เมษายน 2560 09:33:26 น.

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็กลับมาบวกได้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลลงบ้างกับสถานการณ์ในต่างประเทศ เพราะในแง่ของภูมิศาสตร์ ระหว่างสหรัฐฯ, ซีเรีย, เกาหลีเหนือ โอกาสที่จะเกิดความรุนแรงในขณะนี้เป็นไปได้น้อย คงจะต้องมีการเจรจากันก่อนมากกว่า ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังเป็นเพียงแค่ความตึงเครียดเท่านั้น อย่างไรก็ดีคงจะต้องติดตามดูสถานการณ์กันต่อไปด้วยว่าจะเป็นอย่างไร

 

 

 

ส่วนบ้านเราเมื่อวานนี้ตลาดฯได้ปรับตัวลงมากเกินไป และวอลุ่มเทรดก็ไม่สนับสนุนด้วย นักลงทุนบางส่วนก็ยังถือรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็บางส่วนที่ขายออกไปซึ่งก็มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อคืนได้เหมือนกัน หลังจากคลายกังวลสถานการณ์ดังกล่าว ต่อจากนี้ไปก็คงจะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในสหรัฐฯ และตลาดบ้านเรา ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็มีบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯหลายบริษัททยอยประกาศงบฯออกมา

 

พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,636.92 จุด พุ่งขึ้น 183.67 จุด (+0.90%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,856.79 จุด เพิ่มขึ้น 51.64 จุด (+0.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,349.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด (+0.86%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 142.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 6.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.36 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 21.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.62 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 เม.ย.60) 1,575.91 จุด ลดลง 13.59 จุด (-0.85%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,684.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 เม.ย.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 เม.ย.60) ปิดที่ 52.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 เม.ย..60) ที่ 6.84 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 34.39/41 อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า,มองกรอบ 34.30-34.45

 

- คลังคาดร่างกฎหมายการเงินการคลัง ภาครัฐจะเข้าสู่สนช.เดือนพ.ค.นี้ ขณะที่คณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างปรับปรุงร่าง โดยได้เสนอผ่อนคลายเงื่อนไข กำหนดให้รัฐบาลที่ใช้เงินกู้ในโครงการ ประชานิยมจะต้องชำระหนี้ เมื่อฐานะการคลังมีความพร้อมจากเดิมจะต้องให้รัฐบาลชำระให้หมดภายใน 2 ปี

 

- นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไม่นานมานี้ ให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนการปฏิบัติงานในกรอบระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2560-31 มี.ค.2561 โดยให้ระบุแผนงานสำคัญๆ ที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงพัฒนาในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคมนาคม เกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เศรษฐกิจดิจิทัล การศึกษา วิจัยและนวัตกรรม

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยฝ่ายจัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) ได้รายงานในเดือน มี.ค.2560 กองทุนฟื้นฟูฯ ชำระหนี้ได้ 5,106 ล้านบาท โดย 3,419 ล้านบาท เป็นการชำระดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 1,687 ล้านบาท เป็นการชำระเงินต้น

 

- สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปคาดการณ์ส่งออกทั้งปีขยายตัว 5% มูลค่าแตะ 2.1 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมินไตรมาสแรกลดลง เชื่อราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุด แนวโน้มขาขึ้นหนุนกำลังซื้อประเทศผู้ผลิต จับตานโยบายการค้าอเมริกากระทบเป้าหมาย

 

- ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับตัวแทนจากกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามการตรวจสอบอัตลักษณ์เรือขนาด 10 ตันกรอส ขึ้นไปจำนวน 2,000 ลำทั่วประเทศ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.-13 พ.ค. 2560 ตามกำหนด 30 วัน หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 22/2560 วันที่ 4 เม.ย. 2560 เร่งดำเนินการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- TISCO (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 70 บาท กำไร 1Q60 ที่ 1.49 พันล้านบาท +19% y-y และ +15% q-q จากการตั้งสำรอง และต้นทุนการเงินที่ลดลง ขณะที่ NPL Ratio ลดลงเหลือ 2.37% และมี Coverage ratio สูงถึง 164% จึงมองเห็น upside risk ต่อประมาณการกำไรทั้งปี

 

- KTC (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 156 บาท กำไร 1Q60 ที่ 733 ล้านบาท +15% y-y และ +14% q-q ใกล้เคียงกับทีคาด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากรายได้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ market share ในส่วนของบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 11.2% และ 6.7% ตามลำดับ ส่วน NPL Ratio ยังต่ำเพียง 1.65%

 

- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 74 บาท โดย CPALL และ MAKRO เป็นเพียง 2 บริษัทในกลุ่มค้าปลีกที่มี SSSG ใน 1Q60 เป็นบวก ขณะที่ค้าปลีกอื่นติดลบ บวกกับดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลัง CPALL ออก Perpetual bond 1 หมื่นล้านบาทเพื่อ refinance หุ้นกู้ก้อนเดิมโดยดอกเบี้ยจ่ายของ Perpetual bond ถูกบันทึกในส่วนของผู้ถือหุ้น ไม่ผ่านงบกำไรขาดทุน จึงคาดกำไร +3.7% Q-Q, +9.8% Y-Y แนวโน้มจะดีต่อในไตรมาสถัดไป ปัจจุบันมี PE 27.5 เท่า ต่ำกว่า PE เฉลี่ยในอดีตที่ 33 เท่า

 

- IVL (ไอร่า) เป้า 45 บาท สัดส่วน EBITDA ของ IVL มาจากทวีปอเมริกาเหนือประมาณ 43% คิดเป็นเฉพาะในสหรัฐฯ ประมาณ 32% ซึ่งคาดได้รับประโยชน์หากมีการลดภาษีนิติบุคคลตามนโยบายของ ปธน.สหรัฐฯ จากปัจจุบัน IVL ต้องเสียอัตราภาษีที่สหรัฐฯ อยู่ที่ 38% ในขณะที่ภาพการเติบโตของ IVL ในช่วงปี 60 - 61 เน้นไปที่การเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นไปอยู่ที่ 10.6 ล้านตันในปี 61 จาก 8.7 ล้านตัน ในปี 59 หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ 10.4% ต่อปี และมีเป้าหมายในปี 61 จะมีผลิตภัณฑ์ HVA จำนวน 2.0 ล้านตัน คิดเป็น 19% ของกำลังการผลิตทั้งหมด และ IVL ยังขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแผนการลงทุนใหม่ของ IVL จะลดลงมากในช่วงปี 60-61 ทำให้คาด IVL จะมีกระแสเงินสดที่ดีขึ้นในปี 60-61 และถือเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวจากคาดการณ์เงินปันผลที่สูงขึ้น

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2633574

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 34.39/41 อ่อนค่าจากเย็นวานหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า,มองกรอบ 34.30-34.45

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 เมษายน 2560 09:22:25 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.39/41 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

 

 

 

จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.25/27 บาท/ดอลลาร์ตามทิศทางค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหลัง รมว.คลัง

 

ของสหรัฐออกมาแสดงความเห็นว่าอยากให้ดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งขัดกับความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้านี้ที่อยากเห็น

 

ดอลลาร์อ่อนค่า

"หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมาแสดงความเห็นว่าอยากให้ดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลให้ดอลลาร์กลับมา react แข็งค่าใน

 

ช่วงสั้นๆ ซึ่งขัดกับความเห็นของทรัมป์ก่อนหน้านี้ โดยดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าเนื่องจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งบนคาบสมุทร

 

เกาหลี" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.30-34.45 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.00/02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.30/35 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0648/0652 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0620/0628 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.2670 บาท/

 

ดอลลาร์

- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.64% แตะที่

 

6.8849 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

- กระทรวงการคลังสหรัฐ เผยจีนได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรสหรัฐในเดือน ก.พ.หลังจากที่ลดการถือครองลง

 

7.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจีนถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 1.0597

 

ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน ก.พ.ขณะที่ญี่ปุ่นซึ่งแซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงที่สุดเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่าน

 

มา ได้ถือครองพันธบัตรเพิ่มขึ้น 12.6 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.1151 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน ก.พ.

 

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลสถานการณ์

 

เกาหลีเหนือ หลังจากที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่พิจารณาการใช้ปฏิบัติการทาง

 

ทหารตอบโต้เกาหลีเหนือในขณะนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวอย่าง

 

แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2560 โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,636.92 จุด พุ่งขึ้น 183.67 จุด หรือ +0.90% ขณะที่

 

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,349.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.86% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,856.79 จุด เพิ่มขึ้น 51.64

 

จุด หรือ +0.89%

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการวันจันทร์ที่ 17 เม.ย. เนื่องในวัน Easter Monday

- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 17 เม.ย. เนื่องในวัน Easter Monday

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) จากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่ม

 

กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13

 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงหลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกัน

 

เกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิด

 

ที่ 52.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 55.36 ดอลลาร์/

 

บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวม

 

ทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่

 

ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity

 

Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,291.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้

 

(17 เม.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะ

 

ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังส่งผลให้นักลงทุน

 

เทขายดอลลาร์ และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงเงินเยน

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2633559

 

รองปธ.เฟดคาดการปรับลดขนาดงบดุลบัญชีไม่น่าก่อให้เกิดความโกลาหลในตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 เมษายน 2560 09:15:00 น.

นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า การที่เฟดอาจเริ่มต้นลดขนาดงบดุลบัญชีลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ไม่น่าจะก่อให้เกิดความโกลาหลในตลาด เนื่องจากตลาดแทบไม่มีปฏิกิริยาหลังไม่นานมานี้เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมฉบับล่าสุด ซึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการเริ่มต้นลดขนาดงบดุลบัญชีดังกล่าว

 

 

 

อย่างไรก็ดี นายฟิชเชอร์ เปิดเผยว่า เฟดจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ในตลาดอย่างรอบคอบ

 

รายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มี.ค. ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการเริ่มต้นลดขนาดงบดุลบัญชีลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ หากเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์

 

รายงานดังกล่าวระบุว่า "เนื่องจากเศรษฐกิจยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ ผู้ร่วมการประชุมส่วนใหญ่จึงมองว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไปในอนาคต และตัดสินว่า การเปลี่ยนนโยบายเรื่องการลงทุนต่อ (reinvestment) ของทางคณะกรรมการน่าจะสมควรแก่เวลาภายในปีนี้"

 

รายงานระบุว่า "ผู้ร่วมประชุมหลายรายเน้นย้ำว่า การลดขนาดงบดุลบัญชีควรเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและคาดการณ์ได้" เพราะการลดขนาดงบดุลบัญชี อาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยคุกคามการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2633556

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก 3.4 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 เมษายน 2560 07:05:53 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,291.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 18.514 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 13.7 ดอลลาร์ หรือ 1.40% ปิดที่ 991.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 7.35 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 788.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ปรับตัวลดลง 0.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1%

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 3 จุดในเดือนเม.ย. แตะระดับ 68 เนื่องจากผู้สร้างบ้านเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านกฎระเบียบในระดับสูง และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้น

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้เพิ่มการถือครองทองมากกว่า 6 ตันในวันพฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 1 เดือน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2633365

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...