ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 กันยายน 2560

Gold แรงขายของตลาดทองคำเริ่มน่ากลัวหลังนักลงทุนเริ่มกลับมามีมุมมองในการ Realized กำไรออกจากตลาด ส่วนหนึ่งเรามองว่าเป็นผลมาจากการดีดตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมาแบบไม่หยุดพักเลยดังนั้นการปรับสถานะก็มีส่วนดีในการทำให้ตลาดกลับสู่ภาวะดุลยภาพในระยะสั้น

ทองคำยังคงรักษาทรงเเนวโน้มการปรับขึ้นในเเดนบวกได้ค่อนข้างดีเเม้มีเเรงขายรินออกมาบ้างระหว่างวันเเต่ภาพรวมยังคงได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งยังดูเหมือนจะหาข้อยุติไม่ได้ในเวลาอันสั้น สิ่งที่เรากังวลก็คือเเรงขายออกเพื่อปิดสถานะของนักลงทุนในตลาดหลังประเด็นดังกล่าวมีความชัดเจนซึ่งเรามองว่าน่าจะมีปริมาณมากพอสมควร อย่างไรก็ตามเเรงขายที่อาจเกิดขึ้นนั้นก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้างคือจะเป็นการคัดกรองนักลงทุนระยะสั้นออกไปทำให้ตลาดมีความสมดุลมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเเนวโฯ้มขาขึ้นรอบใหม่ซึ่งย่อมจะมีความเเข็งเเกร่งกว่าเดิม สำหรับสัปดาห์นี้จะมีการประกาศดัชนีทางเศรษกิจฝั่งยุโรปค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะประเทศอังกฤษในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มากไม่น้อยเเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องพิจารณาเปิดสถานะลงทุนด้วยความระมัดระวังเเละมีวินัย

แนะนำ : ถือเงินสดรอ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgold.co.th/…/filestrategy11092017930054265.pdf

___________________________

21458259_1832179136810428_4762890625190270183_o.jpg?oh=083c758d3c31113817ef01b219c51a8d&oe=5A598F81

 

21616068_1683178771692698_1838717813090605501_n.jpg?oh=2f7626c465556a0a5b10a26f844628b1&oe=5A58883A

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจาะลึกเศรษฐกิจ by Ylg 11-09-2560

 

วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก by Ylg 11-09-2560

ทิศทางทองคำประจำวันที่ 11 กันยายน 2560

ท่านสามารถอ่านบทวิเคราะห์ได้ที่ :

http://www.huasengheng.com/…/5951cd357138c05b96cc5de0e184a3…

21558862_1486886498024578_5772433195457139347_n.jpg?oh=332ff7b8f6f3c498cd3ca006e247e570&oe=5A5E2ECD

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

MTS GOLD was live.

1 hr · _Y91QzmaslR.pngคลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ Live by MTS TFEX WARS วันที่ 11 กันยายน 2560

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 แนวโน้มกลับมาแข็งค่า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 11 กันยายน 2560 09:19:07 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทเด้งขึ้นมาพอสมควร หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเงินบาททำท่าจะแข็งค่าเฉียดๆ 33 ถ้วน อาทิตย์ที่แล้วลงไป Low

 

33.05 บาท/ดอลลาร์ แล้วก็เด้งขึ้น ลักษณะอย่างนี้ต้องรอดูปัจจัยใหม่ ซึ่งสัปดาห์นี้มีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะเป็นความหวัง

 

บ้างว่าดอลลาร์จะฟื้นตัวได้หรือเปล่า แต่โดยรวมถ้าดูจากยูโรดอลลาร์ที่ทะลุแนวต้าน 1.20 ดอลลาร์/ยูโรขึ้นมา อาจจะมีการเทขาย

 

ทำกำไรสกุลอื่นๆแล้วซื้อคืนดอลลาร์บ้าง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์ มองว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็ง

 

ค่าได้อีก เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 107.65 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2002 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกรั้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0680 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (11-15 ก.ย.) ที่ 33.00-33.20 บาทต่อ

 

ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ใน

 

คาบสมุทรเกาหลี ในช่วงระหว่างวันชาติของเกาหลีเหนือ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้

 

บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. ดัชนีความ

 

เชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. นอกจากนี้นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

 

- "ไอแบงก์" เตรียมรายงานแผนการฟื้นฟูกิจการให้ คนร.พิจารณา พร้อมเสนอคัดเลือกพันธมิตรจากผู้สนใจ 3 ราย

 

ด้านคลังเตรียมใส่เงินเพิ่มทุน 1.8 หมื่นล้านบาท

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ชี้เศรษฐกิจดีขึ้น หนุนผู้ประกอบการเชื่อมั่นเปิดโครงการใหม่คาดทำเลกรุงเทพฯปริมณฑลทั้ง

 

ปีทะลุ 108,709 ยูนิต โต 2.9%

- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์

 

รมว.คลัง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเร่งจัดทำแผนเพิ่มรายได้ในระยะยาว เพื่อให้นำเงินไปใช้เพิ่มในส่วนงบลงทุน

 

ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากนี้ภาครัฐยังมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อีกหลายโครงการในอนาคต นอก

 

จากนี้ ทางรมว.คลังยังได้สั่งการให้หาแนวทางว่าในการดึงภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนกับภาครัฐให้เพิ่มขึ้น

 

- รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2561 สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2560 หรือมูลค่า 3.03 ล้านล้าน

 

บาท เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่มุ่งให้ นักท่องเที่ยวใช้เวลาพำนักอยู่ในไทยนานขึ้นผ่านมาตรการต่างๆพร้อมทั้งอาศัยแรงเสริมจาก

 

ผลสำรวจของต่างประเทศที่จัดอันดับให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวระยะยาวแต่คุ้มค่ามากที่สุด

 

- ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน เขาคาดว่า

 

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ และคาดว่างบดุลของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 2.4-3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นทศวรรษ

 

หน้า จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

- ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรยึดมั่นตามแผนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อ

 

ให้ระบบการเงินมีความสมดุล และเศรษฐกิจไม่เผชิญภาวะร้อนแรงเกินไป

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (8 ก.

 

ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

 

เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก

 

ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้

 

- รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มาร่วม

 

พูดคุยกันในวันนี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระดับภูมิภาคมีความคืบหน้ามากขึ้น

 

- เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประกาศว่าทั้ง

 

สองฝ่ายได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และข้อตกลงด้านการลงทุนที่เกี่ยวข้อง

 

- สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มบางส่วนในวันนี้ โดยมีเป้า

 

หมายเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน หลังจากที่ภาคการส่งออกของจีนเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินหยวนพุ่งขึ้นเป็นอย่าง

 

มากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NEIESR) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้น

 

อัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2707428

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 แนวโน้มกลับมาแข็งค่า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 11 กันยายน 2560 11:12:34 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทเด้งขึ้นมาพอสมควร หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเงินบาททำท่าจะแข็งค่าเฉียดๆ 33 ถ้วน อาทิตย์ที่แล้วลงไป Low

33.05 บาท/ดอลลาร์ แล้วก็เด้งขึ้น ลักษณะอย่างนี้ต้องรอดูปัจจัยใหม่ ซึ่งสัปดาห์นี้มีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะเป็นความหวัง

บ้างว่าดอลลาร์จะฟื้นตัวได้หรือเปล่า แต่โดยรวมถ้าดูจากยูโรดอลลาร์ที่ทะลุแนวต้าน 1.20 ดอลลาร์/ยูโรขึ้นมา อาจจะมีการเทขาย

ทำกำไรสกุลอื่นๆแล้วซื้อคืนดอลลาร์บ้าง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์ มองว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็ง

ค่าได้อีก เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.1183 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (8 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.87272%

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (8 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.03586%

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 107.65 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2002 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกรั้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0680 บาท/

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (11-15 ก.ย.) ที่ 33.00-33.20 บาทต่อ

ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ใน

คาบสมุทรเกาหลี ในช่วงระหว่างวันชาติของเกาหลีเหนือ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้

บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. ดัชนีความ

เชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. นอกจากนี้นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

- "ไอแบงก์" เตรียมรายงานแผนการฟื้นฟูกิจการให้ คนร.พิจารณา พร้อมเสนอคัดเลือกพันธมิตรจากผู้สนใจ 3 ราย

ด้านคลังเตรียมใส่เงินเพิ่มทุน 1.8 หมื่นล้านบาท

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ชี้เศรษฐกิจดีขึ้น หนุนผู้ประกอบการเชื่อมั่นเปิดโครงการใหม่คาดทำเลกรุงเทพฯปริมณฑลทั้ง

ปีทะลุ 108,709 ยูนิต โต 2.9%

- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์

รมว.คลัง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเร่งจัดทำแผนเพิ่มรายได้ในระยะยาว เพื่อให้นำเงินไปใช้เพิ่มในส่วนงบลงทุน

ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากนี้ภาครัฐยังมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อีกหลายโครงการในอนาคต นอก

จากนี้ ทางรมว.คลังยังได้สั่งการให้หาแนวทางว่าในการดึงภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนกับภาครัฐให้เพิ่มขึ้น

- รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2561 สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2560 หรือมูลค่า 3.03 ล้านล้าน

บาท เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่มุ่งให้ นักท่องเที่ยวใช้เวลาพำนักอยู่ในไทยนานขึ้นผ่านมาตรการต่างๆพร้อมทั้งอาศัยแรงเสริมจาก

ผลสำรวจของต่างประเทศที่จัดอันดับให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวระยะยาวแต่คุ้มค่ามากที่สุด

- ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน เขาคาดว่า

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ และคาดว่างบดุลของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 2.4-3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นทศวรรษ

หน้า จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

- ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรยึดมั่นตามแผนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อ

ให้ระบบการเงินมีความสมดุล และเศรษฐกิจไม่เผชิญภาวะร้อนแรงเกินไป

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (8 ก.

ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก

ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้

- รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มาร่วม

พูดคุยกันในวันนี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระดับภูมิภาคมีความคืบหน้ามากขึ้น

- เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประกาศว่าทั้ง

สองฝ่ายได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และข้อตกลงด้านการลงทุนที่เกี่ยวข้อง

- สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มบางส่วนในวันนี้ โดยมีเป้า

หมายเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน หลังจากที่ภาคการส่งออกของจีนเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินหยวนพุ่งขึ้นเป็นอย่าง

มากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NEIESR) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้น

อัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

Xinhua world news summary: เม็กซิโกเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 90 ราย

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 11 กันยายน 2560 09:51:40 น.

ทางการเม็กซิโกเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรง 8.2 แมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นเป็น 90 ราย

ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานแผ่นดินไหวแห่งชาติของเม็กซิโก (SSN) กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของประวัติศาสตร์เม็กซิโก ขณะที่ประธานาธิบดีเอนริเก เปญญา นิเอโตแห่งเม็กซิโก ได้ลงพื้นที่สำรวจรัฐเชียปัสเพื่อตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบสาหัส

 

 

 

 

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 8.533 แสนล้านเยน

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคนั้น ถือเป็นตัวเลขที่สามารถบ่งชี้การใช้จ่ายในอนาคตของบริษัทเอกชน

 

-- ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) เปิดเผยว่า พายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" ได้พัดถล่มเขตฟลอริดาคีย์ส ด้วยความเร็วลม 171 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ NHC คาดว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รัฐฟลอริดาได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 6.5 ล้านคนในพื้นที่ตอนใต้ของรัฐ หลังจากที่พายุเออร์มาได้เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าว โดยประชาชนได้รับคำแนะนำให้เข้าไปอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวซึ่งมีอยู่ประมาณ 650 แห่ง

 

-- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายจ่ายด้านการคลังของจีนในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 2.9% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 5.4%

ขณะที่รายได้ด้านการคลังเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 7.2% เทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 11.1% ในเดือนก.ค.

ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รายจ่ายด้านการคลังของจีนปรับตัวขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้ด้านการคลังในช่วงเวลาดังกล่าว เพิ่มขึ้น 9.8%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 90 เซนต์ เหตุดอลล์อ่อน,วิตกเกาหลีเหนือ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กันยายน 2560 09:13:28 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ระดับ 1,351.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 18.123 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,012.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 17.60 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 931.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ และคาดว่างบดุลของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 2.4-3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นทศวรรษหน้า จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

 

นักลงทุนยังแห่ซื้อทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้

 

นายลี นัค ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันชาติของเกาหลีเหนือ

 

"มีการคาดการณ์กันว่าเกาหลีเหนืออาจทำการยั่วยุต่อไปโดยการยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันที่ 9 ก.ย." เขากล่าว

 

ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ในการเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 9 ก.ย.ปีที่แล้ว

 

สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยเพิ่มขึ้น 1.6% ในสัปดาห์นี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2707068

 

เกาหลีเหนือเตือนสหรัฐจะถูกเอาคืนอย่างสาสม หากเล็งยกระดับคว่ำบาตรอีก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 11 กันยายน 2560 09:19:35 น.

รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนวันนี้ว่า สหรัฐจะถูกเอาคืนอย่าง "สาสม" และจะต้องเผชิญกับ "ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างสุดสาหัส" หากสหรัฐยังดึงดันที่จะเร่งให้สหประชาชาติมีมติ (UN) คว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งทรงพลังที่สุดเมื่อไม่นานมานี้

 

กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ รายงานผ่านสำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือว่า "โลกจะได้เห็นเกาหลีเหนือปราบอันธพาลอย่างสหรัฐ ด้วยการดำเนินการที่จริงจังกว่าที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้"

 

 

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คำเตือนจากเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ สืบเนื่องจากเกาหลีเหนือได้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยสหรัฐได้เสนอให้คว่ำบาตรโดยเน้นเรื่องน้ำมันและอายัดทรัพย์สินของนายคิม จอง อึน ในฐานะที่เป็นผู้นำพรรคแรงงานเกาหลี และผู้นำรัฐบาลเกาหลีเหนือ ตลอดจนมาตรการลงโทษอื่นๆ

 

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระบุว่า หากรัฐบาลสหรัฐ "ยังดื้อดึงเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือก็จะทำให้มั่นใจว่า สหรัฐจะถูกเอาคืนอย่างสาสม"

 

แถลงการณ์ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ "พัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพของอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์อันทรงพลัง เพื่อเป็นวิธีจัดการกับศัตรูที่นับวันยิ่งมีเจตนาร้าย และรับมือกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากสหรัฐ พร้อมขจัดภัยอันตรายในการเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่กำลังปรากฎให้เห็นลางๆบนคาบสมุทรเกาหลีและทั้งภูมิภาค"

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2707429

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

[/size]
[/size][/b]

 

 

YLGResearch[/size][/font][/color]

 

 

 

[/size]
[/size][/b]

 

 

Ylg Bullio[/size][/font][/color]

 

 

 

 

HSHsocial

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดอนุพันธ์: ปรับขึ้นต่อรับ sentiment ตลาดทั่วโลกคลายกังวลเกาหลีเหนือ-พายุเฮอร์ริเคนสหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 18:15:51 น.

นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย

 

SET50 Index Futures วันนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จาก sentiment ตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นหลังคลายกังวลสถานการณ์เกาหลีเหนือที่ไม่

 

มีการทดสอบยิงนิวเคลียร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และสถานการณ์พายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐลดระดับความรุนแรงทำให้ตลาดหุ้นสรัฐปรับตัว

 

 

 

ขึ้นและทำสถิติสูงสุด อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปหลังจากสหประชาชาติประกาศแซงชั่นเกาหลีเหนือ

 

แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดว่าตลาดแกว่งตัวในกรอบจำกัดแต่อิงทางบวก แม้ยังไม่มีปัจจัยบวกเพิ่มเติม โดยให้ติดตามราคา

 

น้ำมันปรับตัวขึ้นต่อหรือไม่ ซึ่งจะหนุนหุ้นพลังงาน รวมทั้งติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า และยังไม่เห็นเงินทุนไหลออกแรงๆ

 

พรุ่งนี้ให้แนวต้านไว้ที่ 1,058 จุด เป็นจุดสูงสุดเดิม และแนวรับที่ 1,045 จุด แนะให้เทรดในกรอบ รอย่อตัวและไม่หลุดแนวรับ

 

ก่อนเปิด long

ส่วนราคาทองคำยังปรับตัวลง หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน มาที่ระดับราคา 1,320 เหรียญ/ออนซ์ คาดว่าพรุ่งนี้ราคา

 

ทองคำแกว่งตัวในกรอบ แนวรับให้ไว้ที่ 1,320 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านให้ไว้ที่ 1,332 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากที่ตลาดคลายกังวล

 

สถานการณ์เกาหลีเหนือ ประกอบกับเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น จึงทำให้การปรับขึ้นจำกัด ช่วงนี้ราคาทองคำพักฐานรอปัจจัยใหม่

 

ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,050.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.93 จุด, +0.28%

ปริมาณ สถานะคงค้าง

Total Market 353,019 2,366,152

Total Futures 347,395 2,242,082

SET50 Index 121,492 412,455

Sector Index - -

Single Stock 205,737 1,752,258

Precious Metal 18,720 52,284

- GF10 17,507 48,446

- GF50 1,213 3,838

Deferred Precious Metal 834 685

- GOLD-D 834 685

Currency 584 24,138

Interest Rate - -

Agriculture 28 262

Total Options 5,624 124,070

Call 3,495 46,899

Put 2,129 77,171

 

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

 

นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ

Futures -31,283 -2,533 +33,816

Options +83 -149 +66

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq42/2708437

 

ปอนด์พุ่งเทียบดอลลาร์,ยูโร หลังเงินเฟ้ออังกฤษทะยานสูงสุดรอบกว่า 5 ปี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 17:26:04 น.

ปอนด์พุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังเงินเฟ้อของอังกฤษทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ณ เวลา 17.15 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.84% สู่ระดับ 1.3272 ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.76% สู่ระดับ 0.9009 เทียบยูโร

 

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.9% ในเดือนส.ค. จากระดับ 2.6% ในเดือนก.ค.

 

ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.นับเป็นระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี จากปัจจัยราคาน้ำมันและเสื้อผ้าที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่ที่อังกฤษทำประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาสินค้าและบริการในสหราชอาณาจักรปรับตัวสูงขึ้น

นายกฯ รับทราบเสียงสะท้อนศก.ฝืดเคือง เชื่อสถานการณ์ดีขึ้นหากยึดตามกฎระเบียบ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 18:27:16 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีเสียงสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังฝืดเคืองว่า จากข้อมูลของหน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องพบว่า การขยายตัวของภาคส่งออกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยดีขึ้น แต่ที่มีเสียงสะท้อนเรื่องเศรษฐกิจฝืดเคืองนั้น อาจมาจากการที่ภาครัฐเข้มงวดกวดขันในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ มากขึ้น เช่น เรื่องของวินจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้โดยสารสาธารณะ แต่เชื่อว่าเมื่อเข้าที่เข้าทางแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2708422

 

นายกฯ รับทราบเสียงสะท้อนศก.ฝืดเคือง เชื่อสถานการณ์ดีขึ้นหากยึดตามกฎระเบียบ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 18:27:16 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีเสียงสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังฝืดเคืองว่า จากข้อมูลของหน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องพบว่า การขยายตัวของภาคส่งออกและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยดีขึ้น แต่ที่มีเสียงสะท้อนเรื่องเศรษฐกิจฝืดเคืองนั้น อาจมาจากการที่ภาครัฐเข้มงวดกวดขันในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ มากขึ้น เช่น เรื่องของวินจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้โดยสารสาธารณะ แต่เชื่อว่าเมื่อเข้าที่เข้าทางแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

 

นายกฯ ยันเดินหน้ากฎหมายลูกตามกรอบเวลา ปัดดึงเรื่องเพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 18:33:49 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจัดทำกฎหมายลูกว่า ขณะนี้ได้ทูลเกล้าฯ ไปแล้ว 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

 

ส่วนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.นั้นอยู่ในระหว่างการจัดทำของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)

 

 

 

"ทำไมต้องไปเร่งเรื่องที่มีปัญหาให้เสร็จเร็วๆ เพราะยังอยู่ในกรอบเวลา ผมไปดึงเรื่องไม่ได้อยู่แล้ว เพราะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย อย่ามากังวลกับผมเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองพยายามปรับตัว ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งคิดว่าทุกวันนี้ทำงานเกิน 100%

 

"ผมพยายามปรับตัวเองไม่ให้อารมณ์ร้อน ผมอาจไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่ดี แต่ก็ตอบคำถามสื่อทุกเรื่องนะ หรือจะให้ยืนยิ้มเฉยๆ...ผมฟังมากขึ้น ไม่โทษใคร โทษตัวเองที่เข้ามาเอง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2708441

 

รอง ผบ.ตร.เผยพบรถต้องสงสัย 2 คันพายิ่งลักษณ์หนีออกทางสระแก้ว

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 16:50:56 น.

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีหลบหนีการฟังคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวนขณะนี้มีรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน ที่คาดว่าเป็นรถยนต์ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ใช้หลบหนี

 

 

 

โดยรถคันแรกได้ออกจากบ้านนางสาวยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. และได้สลับรถอีกคันในท้องที่ สน.มีนบุรี ในเวลาประมาณ 22.00 น.วันเดียวกัน ก่อนขับมุ่งหน้าไปยัง จ.สระแก้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้หญิงอยู่ในรถด้วย แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าใช่นางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ โดยอยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบภาพดังกล่าวอยู่ในขณะนี้

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางออกไปนอกประเทศแล้วหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานใดสามารถยืนยันได้แน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหลักฐานกล้องวงจรปิดจากด่านตรวจต่าง ๆ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในช่วยนางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงกระแสข่าวว่ามีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.และทหาร อาจมีส่วนในการพานางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีเช่นกัน อีกทั้งต้องดูการพาหนีเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด หากเกิดขึ้นก่อนวันที่ 25 ส.ค.และไม่ได้พาออกนอกประเทศก็ไม่ถือว่ามีความผิด แต่หากพาออกนอกประเทศถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

 

--อินโฟเควสท์ โดย ตรฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2708397

 

รมว.ต่างประเทศ ไม่พบยิ่งลักษณ์ทำเรื่องขอลี้ภัยในตปท. ไม่ขอให้ข้อมูลจนกว่าจะมีความชัดเจน

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 10:38:22 น.

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางหลบหนีออกไปนอกประเทศ ส่วนกระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมาในช่วงนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และยังไม่พบว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทำเรื่องขอลี้ภัยอยู่ในประเทศใด

 

 

 

ส่วนที่มีข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น ผู้ที่รับผิดชอบด่านพรมแดนใน จ.สระแก้ว ได้ติดตามความคืบหน้า แต่ยังไม่ได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการประเทศกัมพูชา ทั้งนี้จะต้องได้รับทราบความชัดเจนก่อนจึงจะสามารถให้ข้อมูลต่อสาธารณะได้

รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 2-3 วันนี้

ส่วนสถานการณ์พายุเฮอร์เคนในรัฐฟลอริดานั้น จนถึงล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศยังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.09/12 แกว่งแคบไร้ปัจจัยหนุน คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.06-33.14

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 17:42:42 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.09/12 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง

 

 

 

เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.11 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากวันนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่า

เงินมากนัก และคาดว่าแนวโน้มพรุ่งนี้เงินบาทยังคงแกว่งอยู่ในกรอบแคบเช่นกัน

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.06-33.14 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.70/80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.35 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1960/1965 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1951 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.01 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 51,234 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 71.45 ลบ.(SET+MAI)

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามยุทธศาสตร์ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ภายใต้การ

เชื่อมนโยบาย Thailand 4.0 towards Connected Connected Industries" โดยมีคณะนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 500 รายเข้า

ร่วมงาน โดยได้แสดงวิสัยทัศน์และศักยภาพให้นักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นและเล็งเห็นถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมต้องการให้ญี่ปุ่น

ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หรืออีสต์-เวสต์ อิโคโนมิก คอร์ริดอร์ เพื่อให้เชื่อมโยง

ประเทศเวียดนาม-ลาวผ่านไทย เมียนมาและเชื่อมผ่านประเทศไปยังอินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ ก่อนไปยังประเทศอื่นทั่วโลก

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 60-64) ภายใต้

วิสัยทัศน์ เข้าถึง แข่งขันได้ เชื่อมโยง และยั่งยืน โดยมี 5 มาตรการหลักที่สำคัญ คือ 1.เป็นแหล่งทุนสำหรับ SMEs และส่งเสริม

การเข้าถึงแหล่งทุนให้ SMEs 2.เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 3.เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ

ตลาดทุนไทย 4.พัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงในภูมิภาค 5.มีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ

- ทางการจีนกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อปิดการซื้อขายเงินดิจิทัลสกุลบิตคอยน์ในประเทศจีน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล

ประเภทอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดเงินของจีน จากที่ก่อนหน้านี้ราคาบิตคอยน์ได้ผันผวนอย่างหนัก โดยที่ผ่านมา

การซื้อขายเงินดิจิทัลสกุลบิตคอยน์ของจีนได้รับความนิยมอย่างมาก และความนิยมกลับแผ่วลงหลังจากธนาคารกลางจีนได้ออกประกาศ

ว่าการระดมทุนในรูปแบบการเสนอขายหน่วยเงินดิจิทัลให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรก (Initial Coin Offering -ICO) ถือเป็น

การกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมกับขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนด้วยช่องทางดังกล่าวให้ยกเลิกการทำธุรกรรมใน

ทันที

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น

สู่ระดับ 2.9% ในเดือนส.ค. จากระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.นับเป็นระดับสูงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

จากปัจจัยราคาน้ำมันและเสื้อผ้าที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่ Brexit นั้น ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคา

สินค้าและบริการในสหราชอาณาจักรปรับตัวสูงขึ้น

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค.

โดย NFIB, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้า

ปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และ

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

รัฐฟลอริดาอนุญาตให้ประชาชนบางส่วนกลับบ้านได้แล้ว หลังพายุเออร์มาอ่อนกำลังลง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 กันยายน 2560 18:39:30 น.

รัฐฟลอริดาได้อนุญาตให้ประชาชนบางส่วนสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว หลังจากที่มีการอพยพชาวอเมริกันมากถึง 6.5 ล้านคนออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการพัดถล่มของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา

พายุเออร์มาได้อ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นโซนร้อน โดยมีความเร็วลมเหลือเพียง 35 ไมล์/ชม. หลังจากที่เคยมีความเร็วลมสูงสุดถึง 175 ไมล์/ชม.ในช่วงแรก

ขณะนี้พายุเออร์มากำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ โดยอยู่ทางใต้ของเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ประชาชนราว 9 หมื่นคนที่มีที่อยู่อาศัยในไมอามี บีช และฟลอริดา คีย์ สามารถกลับบ้านได้ อย่างไรก็ดี พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงขาดไฟฟ้าและน้ำ ขณะที่สถานีบริการน้ำมันก็ยังคงปิดอยู่

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

Paisal Puechmongkol

56 mins · _Y91QzmaslR.png

 

สำหรับคดีอาญานั้น ระวางโทษจำคุก20ปีถึงประหารชีวิตทั้งนั้น

อย่างน้อยลูกหลานจะอับอายที่พ่อแม่เป็นคนทราม

ก็เตือนกันไว้ เพราะสรรพสิ่งไม่จีรังดอกท่านเอย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

MTS GOLD GROUP

 

ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้น ขานรับ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กันยายน 2560 20:39:51 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดโลกกำลังหดตัวลง จากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐ และการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

 

ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.89% สู่ระดับ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

"มีการคาดการณ์กันว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะตึงตัว และราคาจะดีดตัวขึ้น" IEA ระบุ

IEA เปิดเผยในรายงานประจำเดือนก.ย.ว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

ทั้งนี้ IEA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 2.4% ในไตรมาส 2 ส่งผลให้ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันสำหรับทั้งปีนี้ สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ เพิ่มขึ้น 1.7%

 

ส่วนในปีหน้า IEA คาดว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 1.4%

ก่อนหน้านี้ IEA คาดการณ์ในเดือนส.ค.ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้

 

อย่างไรก็ดี การเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ได้เป็นปัจจัยกดดันตลาดในวันนี้ โดย API ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 468.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน

 

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขของ API

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2709098

 

ดาวโจนส์พักฐาน หลังพุ่งทำนิวไฮเมื่อคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กันยายน 2560 21:04:37 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในวันนี้ โดยเป็นการพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้

ณ เวลา 20.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,114.40 จุด ลบ 4.46 จุด หรือ 0.02%

หากดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดในแดนบวกในวันนี้ ก็จะเป็นการปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน และมีแนวโน้มปรับตัวดีที่สุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 5 เดือน

 

 

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแอปเปิล อิงค์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลง 1% ในวันนี้ แม้บริษัททำการเปิดตัว"ไอโฟน เท็น"ฉลองครบรอบ 10 ปีของการผลิตไอโฟนเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ดี การดีดตัวของราคาน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดโลกกำลังหดตัวลง จากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐ และการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.89% สู่ระดับ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

"มีการคาดการณ์กันว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะตึงตัว และราคาจะดีดตัวขึ้น" IEA ระบุ

IEA เปิดเผยในรายงานประจำเดือนก.ย.ว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ IEA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 2.4% ในไตรมาส 2 ส่งผลให้ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันสำหรับทั้งปีนี้ สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ เพิ่มขึ้น 1.7%

ส่วนในปีหน้า IEA คาดว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 1.4%

ก่อนหน้านี้ IEA คาดการณ์ในเดือนส.ค.ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค.

การดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมันเบนซิน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุน หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การปฏิรูปภาษีถือเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ความสำคัญสูงสุด และเขาแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐจะผลักดันการปฏิรูปภาษีให้ประสบผลสำเร็จภายในปีนี้

นายมนูชินยังกล่าวว่า รัฐบาลของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาให้การปฏิรูปภาษีมีผลบังคับย้อนหลังไปถึงช่วงต้นปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

 

ดอลลาร์ร่วงหลุด 110 เยนจากแรงขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กันยายน 2560 19:25:43 น.

ดอลลาร์ร่วงลงหลุดระดับ 110 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าทำกำไร หลังจากดอลลาร์ดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ขานรับการผ่อนคลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

ณ เวลา 19.11 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.15% สู่ระดับ 109.99 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.02% สู่ระดับ 131.79 เยน และดีดตัวขึ้น 0.13% สู่ระดับ 1.1981 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.11% สู่ระดับ 91.78

 

 

 

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 110.29 เยนในช่วงแรก โดยสูงกว่าราว 3 เยนจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลในขณะนั้นเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 9 ก.ย.

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลาต่อมาหลุดระดับ 110 เยน ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจต่อปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐ ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 19-20 ก.ย.

ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันพรุ่งนี้ และยอดค้าปลีกในวันศุกร์ ซึ่งอาจบ่งชี้สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

 

มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุระเบิดนอกสนามกีฬาคริกเก็ตในกรุงคาบูล ส่งผลตาย 2 บาดเจ็บ 7

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กันยายน 2560 20:01:27 น.

ตำรวจอัฟกานิสถานกล่าวว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายได้ก่อเหตุระเบิดนอกสนามกีฬาคริกเก็ตแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย

มือระเบิดได้ก่อเหตุนอกประตูสนามกีฬา ขณะที่ผู้ชมหลายร้อยคนกำลังชมการแข่งขันคริกเก็ตในสนาม

ขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุระเบิดนอกสนามกีฬาคริกเก็ตในกรุงคาบูล ส่งผลตาย 2 บาดเจ็บ 7

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กันยายน 2560 20:01:27 น.

ตำรวจอัฟกานิสถานกล่าวว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายได้ก่อเหตุระเบิดนอกสนามกีฬาคริกเก็ตแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย

มือระเบิดได้ก่อเหตุนอกประตูสนามกีฬา ขณะที่ผู้ชมหลายร้อยคนกำลังชมการแข่งขันคริกเก็ตในสนาม

ขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้า เเพื่อน พี่น้องทุกท่าน

 

ประชาชนไปสมัครเข้าร่วมโครงการจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง

 

 

โครงการ "หน่วยพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" สร้าง

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองปิดลบ 4.70 ดอลลาร์

สำนัประชาชนไปสมัครเข้าร่วมโครงการจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงกข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 60)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,328 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.3 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 17.867 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 983.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 9.70 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 933.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สาม เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมันเบนซิน

นอกจากนี้ การที่ตลาดวอลล์สตรีททำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สอง ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้น

นักลงทุนจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นตัวบ่งชี้กรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.07 รับ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 60)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ นอกจากนี้ IEA ยังระบุว่า อุปทานน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์"

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 49.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 55.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ IEA ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดเมื่อวานนี้ว่า อุปทานน้ำมันทั่วโลกในเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 720,000 บาร์เรล/วัน จากระดับของเดือนก.ค. สู่ระดับ 97.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์

นอกจากนี้ IEA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 2.4% ซึ่งส่งผลให้ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันสำหรับทั้งปีนี้ สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ เพิ่มขึ้น 1.7% โดยก่อนหน้านี้ IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้

การปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกของ IEA ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดน้ำมันโลก และข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่วิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.2 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังจากสมาชิกรายใหญ่ของโอเปกพากันปรับลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 79,100 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 32.76 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 39.32 จุด รับความหวังแผนปฏิรูปภาษี,หุ้นพลังงานพุ่ง

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 60)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีได้เป็นผลสำเร็จภายในปีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,158.18 จุด เพิ่มขึ้น 39.32 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,498.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,460.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.09%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นซีดริลล์ ทะยานขึ้น 20% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานล่าสุดของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกเริ่มปรับตัวลดลง พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสำหรับทั้งปี 2560 ขึ้นสู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ เพิ่มขึ้น 1.7%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ปธน.ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี โดยในสัปดาห์หน้านี้จะมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี ซึ่งจะสะท้อนถึงฉันทามติของผู้ร่างแผนปฏิรูปภาษีในสภาคองเกรส และรัฐบาลของปธน.ทรัมป์

ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันการปฏิรูปภาษีให้ประสบผลสำเร็จภายในปีนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาให้การปฏิรูปภาษีมีผลบังคับย้อนหลังไปถึงช่วงต้นปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

หุ้นเซ็นทรีน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐ พุ่งขึ้น 8% หลังจากเซ็นทีนบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทฟิเดลิส แคร์ มูลค่า 3.75 พันล้านดอลลาร์

หุ้นนอร์ดสตรอม ห้าค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 6% ขานรับแผนการระดมทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.8% เนื่องจากนักลงทุนมองว่า "ไอโฟนเท็น (iPhone X) " มีราคาแพง และการวางจำหน่ายในวันที่ 3 พ.ย.นั้น ถือว่าล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ ประกาศเปิดตัว "ไอโฟนเท็น" เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีของการผลิตไอโฟน โดยไอโฟนเท็นมีราคาตั้งต้นที่ 999 ดอลลาร์ และจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 3 พ.ย. อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่บริษัทแอปเปิลกำหนดเวลาการวางจำหน่ายไอโฟนเท็นในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งล่าช้ากว่าการวางจำหน่ายไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 ของแอปเปิล

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐซึ่งมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมันเบนซิน

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 อ่อนค่าเล็กน้อย นลท.จับตาผลประชุม BoE-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2560 09:19:59 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

 

 

 

จากเย็นวานนี้เล็กน้อย จากระดับปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนดอลลาร์ฟื้นเมื่อเทียบกับสกุลหลัก เนื่องจากมีความหวังเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีของ"ทรัมป์"มากขึ้น แต่ขณะที่ตัว

 

เลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาเมื่อคืน คือตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนคืนนี้จะมีการประชุมธนาคาร

 

กลางอังกฤษ (BoE) และดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ 33.10 - 33.20 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.69 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.03/07 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1973 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0870 บาท/

 

ดอลลาร์

- รัฐบาล ตั้งเป้าหมายพัฒนามูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์คิดเป็น 1.5 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

 

(Gross Domestic Product: GDP) และมีมูลค่าตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนคิดเป็น 0.25 เท่าของ GDP หลังคณะรัฐมนตรี เมื่อ

 

วันที่ 12 กันยายน 2560 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560 - 2564)

 

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์เริ่มมีปัญหารายได้จากค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ที่ลดลง

 

เรื่อย ๆ จากการขายประกันกับกองทุน การขายประกันผ่านระบบธนาคาร (แบงก์อินชัวร์รันส์) ที่ตลาดเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับภาครัฐ

 

ปรับเกณฑ์การขายใหม่และให้ผลตอบแทนที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ย จึงทำให้ผู้บริโภคหันไปลงทุนด้านอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ที่สำคัญ

 

ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ประกอบกับในยุคเทคโนโลยีดิจิตอลมีบริการใหม่ ๆ ทั้งพร้อมเพย์ ทำให้

 

รายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง

- โปรดเกล้าฯ กฎหมายประกอบ รธน.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุให้ประธาน กกต. และ กกต. ชุดเก่า

 

พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ามีการแต่งตั้งคนใหม่เข้ารับหน้าที่ โดยให้มีผลตั้งแต่บัด

 

นี้เป็นต้นไป

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค. และการ

 

ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเช้าวันนี้

- วันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็น

 

ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงิน QE ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ รวมทั้งคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่น

 

ล้านปอนด์

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มีการปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบราย

 

เดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมัน

 

เบนซิน

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.)

 

ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่

 

ระดับ 1.1885 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1967 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.51 เยน จากระดับ

 

110.03 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงิน

 

ดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงิน

 

เฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.

- ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูป

 

ภาษีจนสำเร็จ โดยในสัปดาห์หน้านี้จะมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี ซึ่งจะสะท้อนถึงฉันทามติของผู้ร่างแผนปฏิรูปภาษีใน

 

สภาคองเกรส และรัฐบาลของปธน.ทรัมป์

- นักลงทุนจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นตัว

 

บ่งชี้กรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐที่จะมี

 

การเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.,

 

การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2709416

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 อ่อนค่าเล็กน้อย นลท.จับตาผลประชุม BoE-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2560 11:16:38 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

 

 

 

จากเย็นวานนี้เล็กน้อย จากระดับปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนดอลลาร์ฟื้นเมื่อเทียบกับสกุลหลัก เนื่องจากมีความหวังเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีของ"ทรัมป์"มากขึ้น แต่ขณะที่ตัว

 

เลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาเมื่อคืน คือตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนคืนนี้จะมีการประชุมธนาคาร

 

กลางอังกฤษ (BoE) และดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ 33.10 - 33.20 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.1150 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (13 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.78478%

 

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (13 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.96328%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.69 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.03/07 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1973 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0870 บาท/

 

ดอลลาร์

- รัฐบาล ตั้งเป้าหมายพัฒนามูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์คิดเป็น 1.5 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

 

(Gross Domestic Product: GDP) และมีมูลค่าตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนคิดเป็น 0.25 เท่าของ GDP หลังคณะรัฐมนตรี เมื่อ

 

วันที่ 12 กันยายน 2560 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560 - 2564)

 

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์เริ่มมีปัญหารายได้จากค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ที่ลดลง

 

เรื่อย ๆ จากการขายประกันกับกองทุน การขายประกันผ่านระบบธนาคาร (แบงก์อินชัวร์รันส์) ที่ตลาดเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับภาครัฐ

 

ปรับเกณฑ์การขายใหม่และให้ผลตอบแทนที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ย จึงทำให้ผู้บริโภคหันไปลงทุนด้านอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ที่สำคัญ

 

ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ประกอบกับในยุคเทคโนโลยีดิจิตอลมีบริการใหม่ ๆ ทั้งพร้อมเพย์ ทำให้

 

รายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง

- โปรดเกล้าฯ กฎหมายประกอบ รธน.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุให้ประธาน กกต. และ กกต. ชุดเก่า

 

พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ามีการแต่งตั้งคนใหม่เข้ารับหน้าที่ โดยให้มีผลตั้งแต่บัด

 

นี้เป็นต้นไป

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค. และการ

 

ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเช้าวันนี้

- วันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็น

 

ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงิน QE ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ รวมทั้งคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่น

 

ล้านปอนด์

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มีการปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบราย

 

เดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมัน

 

เบนซิน

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.)

 

ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่

 

ระดับ 1.1885 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1967 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.51 เยน จากระดับ

 

110.03 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงิน

 

ดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงิน

 

เฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.

- ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูป

 

ภาษีจนสำเร็จ โดยในสัปดาห์หน้านี้จะมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี ซึ่งจะสะท้อนถึงฉันทามติของผู้ร่างแผนปฏิรูปภาษีใน

 

สภาคองเกรส และรัฐบาลของปธน.ทรัมป์

- นักลงทุนจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นตัว

 

บ่งชี้กรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐที่จะมี

 

การเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.,

 

การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2709504

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...