ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

รบ.นิวซีแลนด์แจงใช้แผนเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับประเทศหลังถูกหั่นเครดิต

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 12:41:46 น.

นายบิล อิงลิช รัฐมนตรีกระทรวงคลังนิวซีแลนด์ได้ออกมาชี้แจงผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) และฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือลง โดยชี้ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการตามแผนการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความสมดุล ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับนิวซีแลนด์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า S&P และฟิทช์ได้แรบลดอันดับความน่าเชื่อสกุลเงินต่างประเทศของนิวซีแลนด์ลงสู่ระดับ AA จากระดับ AA+ ในวันนี้

 

 

อย่างไรก็ดี มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของนิวซีแลนด์ไว้ที่ AAA โดยให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ

 

รมว.คลังกล่าวในการแถลงข่าวว่า ความเคลื่อนไหวของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลทั่วโลกที่มีต่อหนี้สาธารณะในระบบเศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบัน ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พุ่งเป้าไปที่การบริหารประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการเงินโลก อีกทั้งยังเริ่มที่จะดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาตราสารหนี้ต่างประเทศ

 

รมว.คลังกล่าวว่า อัตราการออมภาคเอกชนของนิวซีแลนด์เริ่มสูงขึ้น ดังนั้น เราจึงเริ่มที่จะลดหนี้ในต่างประเทศลง แต่หนี้ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ โดยที่ผ่านมานั้นนิวซีแลนด์สามารถกลับมาเกินดุลได้แล้ว ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ยังขาดดุลและกู้ยืมกันอยู่

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Analysis: พรรคร่วมรบ.เยอรมนียังมีเสถียรภาพหลังรัฐสภาไฟเขียวเพิ่มทุน EFSF

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 11:42:21 น.

นักวิเคราะห์มองว่า การที่สภาล่างเยอรมนี (Bundestag) ลงมติอนุมัติการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเยอรมนีในการเพิ่มทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นั้น ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดของยุคล่าสุดแห่งกระบวนการนิติบัญญัติของเยอรมนี

 

ร่างกฎหมายการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ได้ผ่านมติเห็นชอบจากสภาล่างของเยอรมนีด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นไปเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงคะแนนที่ได้จากสมาชิกของทุกฝ่าย ยกเว้นพรรคลิงค์ส ซึ่งเป็นกลุ่มซ้ายจัด

 

 

 

นายกรัฐมนตรีแองเกลาร์ แมร์เคล ได้รับคะแนนเสียงมากพอจากพรรคคริสเตียน เดโมแครท (ซีดียู) ของเธอ จึงทำให้เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคะแนนเสียงจากพรรคฝ่ายค้านในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยภายใต้กฏหมายฉบับดังกล่าวนั้น เยอรมนีจะต้องเพิ่มการสมทบเงินประกันสินเชื่อสำหรับประเทศสมาชิกยูโรโซนที่มีปัญหาหนี้สิน เข้าสู่กองทุน EFSF จากปัจจุบันที่ 1.23 แสนล้านยูโร (1.673 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 2.11 แสนล้านยูโร

 

บรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมที่จะลงมติผลักดัน EFSF ให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยนายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนี และนายโวล์คเกอร์ คอเดอร์ ผู้นำกลุ่มอนุรักษ์นิยมในรัฐสภา ได้จัดการเจรจาหลายครั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพรรคร่วมรัฐบาลที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้

 

นายโวล์คเกอร์ คอเดอร์ กล่าวว่า การผ่านร่างกฎหมายเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ยังถือเป็นการตอบสนองข้อเรียกร้องต่างๆของเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และยังเป็นการปิดช่องว่างทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล

 

ด้านนายปีเตอร์ อัลท์แมร์ ผู้นำรัฐสภาของนางแมร์เคล กล่าวว่า "ทุกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายหลังจากผลการลงมติออกมาเป็นบวก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก"

 

ขณะที่นายคอเดอร์กล่าวว่า "การลงมติยังแสดงให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้มีความสามารถที่จะบริหารประเทศ"

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลของนางแมร์เคลจะต้องเผชิญกับบททดสอบมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เมื่อมีการอภิปรายกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกลไกกู้วิกฤตสหภาพยุโรป (อียู) ที่ได้รับการเสนอให้นำมาใช้แทนกองทุน EFSF หรืออาจจะมีการอภิปรายเพื่อลงมติขยายกองทุน EFSF เพิ่มขึ้นอีกหากจำเป็น

 

นายฮอร์สท์ ซีโฮเฟอร์ ผู้บริหารพรรคบาวาเรียนและแกนนำพรรคซีเอสยู ซึ่งเป็นพรรคในเครือของพรรคซีดียูของนางแมร์เคล ได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Sueddeutsche ของเยอรมนีว่า พรรคของเขายังคงไม่เห็นด้วยที่ชาวเยอรมนีจะต้องแบกรับภาระ พร้อมกับเตือนว่า เยอรมนีอาจจะสูญเสียความน่าเชื่อถือ

 

บทวิเคราะห์โดย วูล์ฟ วิทท์ จากสำนักข่าวซินหัว

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger moddang news mtts chez และทุกๆคนค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธปท.เผย ส.ค.ดุลบัญชีฯ ขาดดุล US$ 697 ล้าน,ส่งออกโต 28.4%นำเข้าโต 45.9%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 14:44:50 น.

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงผลภาวะเศรษฐกิจเดือนสิงหาคม 54 ว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 697 ล้านดอลลาร สรอ. ดุลการค้าเกินดุล 705 ล้านดอลลาร สรอ. และ ดุลการชำระเงินเกินดุล 556 ล้านดอลลาร์ สรอ.

 

 

 

ทั้งนี้ อุปสงค์ต่างประเทศขยายตัวดีทั้งการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว โดยการส่งออกมีมูลค่ารวม 20,940 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 28.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นการขยายตัวในทุกหมวดสินค้า ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรจากการส่งออกข้าวไปไนจีเรีย ตะวันออกกลาง และอาเซียน และการส่งออกยางพาราที่ขยายตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับการผลิตยานยนต์ทั่วโลกที่กลับมาฟื้นตัว

 

ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมยังส่งออกได้ดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารพร้อมปรุง และผลิตภัณฑ์ยางพารา

 

สำหรับการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีจำนวน 1.7 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 35.7 เป็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียเป็นสำคัญ โดยภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากนักเนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

 

ภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวและอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัวดี ส่งผลให้การนำเข้าขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 45.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นการขยายตัวเร่งขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดเชื้อเพลิงที่เร่งขึ้นมากกว่าปกติเพื่อนำมาผลิตก่อนปิดปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน และหมวดสินค้าทุนที่มีการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อการขุดเจาะน้ำมัน

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 30 กันยายน 2554

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 16:34:53 น.

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดบวกเป็นวันที่สี่ติดต่อกันในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากที่ธนาคารกลางไต้หวันมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้

 

ดัชนีเวทเต็ดปิดเพิ่มขึ้น 42.77 จุด หรือ 0.6% ที่ 7,225.38 จุด

-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทรงตัววันนี้ หลังจากที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ

 

 

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ขยับขึ้น 0.30 จุด ปิดที่ 4,008.60 จุด

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทรงตัวในวันนี้ เนื่องจากผลพวงในด้านบวกจากการที่รัฐสภาเยอรมนีอนุมัติการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เริ่มแผ่วลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

 

ดัชนีนิกเกอิปิดขยับขึ้นเพียง 0.94 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 8,700.29 จุด

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคขยับขึ้น หลังจากรัฐสภาเยอรมนีอนุมัติการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

 

ดัชนี VN ปิดลบ 0.48 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 427.60 จุด

-- -ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้

ดัชนี LSX Composite Index ปิดเพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ 0.14% ที่ระดับ 937.77 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 172,151 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 873 ล้านกีบ (ราว 109,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ขยับลง ก่อนที่จะถึงวันหยุดปะรจำชาติของจีน ซึ่งกินเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค.นี้ ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตจีนเดือนก.ย.ชะงักงัน

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตอ่อนตัว 6.12 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 2,359.22 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 4.43 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 10,292.33 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทรงตัวในวันนี้ เนื่องจากข่าวดีจากฝั่งยูโรโซนไม่ได้เปลี่ยนบรรยากาศการลงทุนที่ซบเซาให้กลับมาสดใสได้มากนัก ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วงวันหยุด ขณะที่เงินวอนอ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดปรับตัวขึ้น 0.36 จุด หรือเพียง 0.02% เท่านั้น โดยขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,769.65 จุด

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ร่วงลง นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินของจีน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ

 

ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 418.65 จุด หรือ 2.32% ปิดที่ 17,592.41 จุด หลังจากที่เคลื่อนไหวในช่วง 17,502.28 - 17,964.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.044 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1.161 หมื่นล้านดอลลาร์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงวันนี้ เหตุวิตกการผลิตจีนทรงตัว-ยอดค้าปลีกเยอรมนีอ่อนตัว

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 14:33:23 น.

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนที่ชะงักงัน รวมถึงยอดค้าปลีกของเยอรมนีที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจชะลอตัวลง

 

ดัชนี Stoxx 600 ร่วง 1.1% แตะ 226.3 จุด เมื่อเวลา 8.09 น.ตามเวลาท้องถิ่นในลอนดอน

 

หุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วง 3.2% หุ้นเมโทร เอจี ร่วง 1.7% หลังจากที่ยอดค้าปลีกเยอรมนีอ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ในเดือนส.ค.

 

 

 

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารเอชเอสบีซีในวันนี้ระบุว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงชะงักงันในเดือนก.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงอย่างหนักทั้งภายในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ผลสำรวจระบุว่า ราคาวัสดุและต้นทุนด้านอื่นๆที่ใช้ในการผลิตได้ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งทำให้จีนเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

 

เอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.ทรงตัวอยู่ที่ 49.9 จุด ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลง โดยภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลงหลังจากที่ธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง และยังใช้มาตรการควบคุมในด้านอื่นๆ โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2554 14:22:46 น.

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ข้อมูลทองคำวันนี้

- ราคาสมาคม เปิดที่ 23,700-23,800

- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,606

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.17-30.20

- GFV11 Hi- Low 24,640-24,210 ปิดที่ 24,510

Gold & Silver Insight

สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 34.4 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,618.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,600.50-1,672.00 ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.402 ดอลลาร์ ปิดที่ 30.134 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรปยังคงกดดันให้นักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงทองคำ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโร ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 179.79 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 11,010.90 จุด S&P 500 ดิ่งลง 24.32 จุด หรือ 2.07% ปิดที่ 1,151.06 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 55.25 จุด หรือ 2.17% ปิดที่ 2,491.58 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีข่าวว่าผู้นำของหลายประเทศในยุโรปมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย

 

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 3.24 ดอลลาร์ หรือ 3.84% ปิดที่ 81.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 81.11-84.62 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป

 

กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 29 กันยายน ซื้อเข้า 0.01ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1241.91ตัน เข้าสู่ระดับ 1241.92ตัน

 

USD/EU ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะทราบผลการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวลดลง ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3542 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3591 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3556 ดอลล่าร์ต่อยูโร

 

USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.520 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.790 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.55 เยนต่อดอลลาร์

 

USD/THB

ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.97-31.00 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 31.17-31.20 บาทต่อดอลล่าร์

 

ข่าวเศรษฐกิจโลก

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 2.018 แสนล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับเดือนก.ค.ที่ยอดสั่งซื้อพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.1% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมการลงทุนในภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอ่อนแอ หากไม่นับรวมยอดสั่งซื้อในอุตสาหกรรมการขนส่งแล้ว ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.ของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.1% เช่นกัน ส่วนสต็อกสินค้าคงทนในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับ 3.653 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 20 มีรายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย โดยในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงอย่างหนักถึง 20.2% ซึ่งเป็นการลดลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มกระเตื้องขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 341.0 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 157.7 ล้านบาร์เรล แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 214.9 ล้านบาร์เรล น้อกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5% สู่ระดับ 87.8% น้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.8% สต็อกน้ำมันดิบข้างต้นไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

 

นายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวต่อรัฐสภายุโรปในวันนี้ว่า กรีซจะยังคงเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร พร้อมกับให้คำมั่นว่า สหภาพยุโรป (EU) จะให้การสนับสนุนกรีซอย่างเต็มที่ บนเงื่อนไขที่ว่ากรีซได้ดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้โดยสมบูรณ์ บาร์โรโซกล่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังดำเนินการเพื่อช่วยให้กรีซฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึงโครงการมูลค่า 500 ล้านยูโร เพื่อค้ำประกันเงินกู้ที่ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป (EIB) อนุมัติให้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของกรีซ นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณาเรื่องการขยายกลไกการรับประกันให้กว้างขวางขึ้น เพื่อช่วยให้ธนาคารต่างๆสามารถปล่อยกู้ได้อีกครั้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 30 กันยายน 2554

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 17:00:00 น.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขึ้นเป็น 1.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 1% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.2% เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกและการอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น

 

 

 

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย. ลดลง 37,000 ราย สู่ระดับ 391,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 2554 ที่จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 400,000 ราย

 

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผย ดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.ร่วงลง 1.2% มาอยู่ที่ระดับ 88.6 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.8%

 

-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นรายงานในเบื้องต้นวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.8% จากเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5

 

-- ราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.จากปีก่อนหน้านี้

กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาหารสดอยู่ที่ 99.9 จุดเมื่อเทียบกับระดับพื้นฐานที่ 100 จุดในปี 2553

 

-- กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.7% ของเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

 

-- นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นเผยจะจัดหาเงินทุนสำหรับการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรามากขึ้น โดยตั้งเป้าจัดหาเงินทุนให้ได้ถึง 46 ล้านล้านเยน หรือ 6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 15 ล้านล้านเยน พร้อมกับย้ำว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินการเพื่อสกัดการเก็งกำไรในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มที่

 

-- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์โดยสารเพิ่มขึ้น 1.5% แตะที่ 604,317 คัน และรถบรรทุกขยายตัว 0.1% แตะ 89,963 คัน ส่วนยอดผลิตรถโดยสารเพิ่มขึ้น 56.6% แตะ 9,816 คัน

 

-- ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารเอชเอสบีซีในวันนี้ระบุว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงชะงักงันในเดือนก.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงอย่างหนักทั้งภายในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ผลสำรวจระบุว่า ราคาวัสดุและต้นทุนด้านอื่นๆที่ใช้ในการผลิตได้ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งทำให้จีนเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

 

-- ฟิทช์ เรทติ้งส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของนิวซีแลนด์ลงสู่ระดับ AA จากระดับ AA+ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สินที่สูงขึ้น

 

-- หน่วยงานต่างๆของรัฐบาลจีนเริ่มประสานงานกันเพื่อรณรงค์สร้างเสถียรภาพราคาสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐาน รวมทั้งให้เงินอุดหนุนแก่ครอบครัวในเมืองที่มีรายได้ต่ำก่อนช่วงหยุดยาวเนื่องในวันชาติ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ว่า ผลผลิตจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การผลิต และไฟฟ้าและก๊าซในเดือนส.ค.ลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ 1.9% หลังจากที่เดือนก.ค.ตัวเลขปรับลดลง 0.3% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตในปีที่แล้วพบว่า มีการขยายตัว 4.8% และเป็นการขยายตัวเดือนที่ 26 ติดต่อกันเมื่อเปรียบเทียบรายปี

 

-- ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือนส.ค.ลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากวิกฤตหนี้ยุโรป ทำให้ผู้บริโภคไม่อยากจับจ่ายใช้สอย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลองเดาอีกแบบเล่นๆนะ... แต่อ่านจริงนะจ้ะ

 

 

ลงมาทดสอบแนวรับ 1623 เพราะนั้นลองเดาว่า น่าที่จะไป 1647 ซะที :D

 

 

แต่คิดว่าคงลงมากกว่านี้หน่อยนึงนะ จะถึง 1612 หรือไม่ :unsure:

 

และถ้าลงมาที่ 1612 แล้วละก็ ....ก็อาจมีแรงไปได้แถวๆ 165X !32

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณแนวรับแนวต้านคุณนิวคุณมดแดงนะคะ (ว่างเมื่อไหรแวะมาบอกดังๆนะค้า)ขอบคุณมากมาย

แล้วก็ข่าวของคุณ ginger และเพื่อนคนอื่นๆด้วย

คุณ chez goldofcourse ย่าหยา แสงแดด พวงชมพู deb chinchilla pun put42 madam Aiya TNT2012

NOT4545 goldgold bbeem mtts bmw2770 meng166 zooloo foo GODRON

(แอบก๊อปรายชื่อมาจากคุณ ginger อะ) ไม่ว่ากันน่า

 

love love :wub: :lol: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินเฟ้อยูโรโซนเดือนก.ย.พุ่ง 3% ขยายตัวเร็วสุดในรอบเกือบ 3 ปี

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 18:04:24 น.

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อยูโรโซนขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนกันยายน ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปเผชิญความลำบากยิ่งขึ้นในการแก้ไขวิกฤตหนี้ในภูมิภาค

 

เงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศ พุ่งขึ้นแตะ 3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 2.5% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นราคาผู้บริโภคที่ขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551

 

ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่ขยายตัวเร็วขึ้นสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจที่บอบช้ำอยู่แล้วจากมาตรการรัดเข็มขัด และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หดตัวลง ขณะที่รัฐบาลประเทศต่างๆในภูมิภาคต้องรับมือกับวิกฤตการคลัง

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ร่วงลงแตะ 15,168 HKD/tael

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 16:33:48 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 240 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 15,168 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,634.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ปรับตัวลง 25.87 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.788 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ มีเรื่องน่าดีใจ พี่C จะรับสอน

 

ใครจะเรียนไปสมัครนะอย่าช้าล่ะ :D

 

ขำๆกันบ้าง อ่านแต่ข่าวทั้งวัน

 

 

อังกฤษ

 

เดวิด เบคแฮมเดินเข้าไปในห้องสมุดแล้วบอกว่า "ขอชีสเบอเกอร์กับเฟรนช์ฟรายครับ"

บรรณารักษ์เงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจก่อนตอบว่า "ที่นี่ห้องสมุดค่ะ"

"ขอโทษครับที่เสียงดัง" เบคแฮมกระซิบ "ขอชีสเบอเกอร์กับเฟรนช์ฟรายครับ"

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...