ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือสเปนลงสู่ AA- เหตุวิตกเศรษฐกิจชะลอตัว

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 08:19:43 น.

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลงมาอยู่ที่ระดับ AA- จากระดับ AA โดยให้แนวโน้มเป็นลบ

 

เอสแอนด์พีกล่าวในแถลงการณ์ว่า แม้เศรษฐกิจสเปนส่งสัญญาณการฟื้นตัวในปี 2554 แต่แนวโน้มการขยายตัวยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง, ภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ, หนี้สาธารณะที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสเปน

 

นอกจากนี้ เอสแอนด์พี ยังได้คงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของสเปนไว้ที่ A-1+ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐสภาสโลวาเกียลงมติอนุมัติการขยายกองทุน EFSF มุ่งแก้วิกฤตหนี้สาธารณะ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 09:10:44 น.

รัฐสภาสโลวาเกียมีมติอนุมัติให้มีการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ด้วยการลงคะแนนเสียง 114 ต่อ 30 เสียง ซึ่งการลงมติครั้งนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านหลัก หลังจากที่รัฐสภาได้คว่ำแผนการดังกล่าวในการลงมติครั้งแรก

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สโลวาเกียเป็นประเทศสุดท้ายในบรรดา 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนที่อนุมัติการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับกองทุน EFSF เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน ซึ่งตามข้อกำหนดแล้วกองทุน EFSF จะสามารถดำเนินการปล่อยเงินกู้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับฉันทานุมัติจากรัฐสภาของประเทศยูโรโซนทั้ง 17 ประเทศ

 

การขยายกองทุน EFSF ช่วยให้กองทุนสามารถปล่อยเงินกู้ได้เต็มศักยภาพที่มูลค่า 4.40 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่สามารถปล่อยกู้ได้เพียง 2.50 แสนล้านดอลลาร์ และยังจะช่วยให้กองทุน EFSF สามารถอัดฉีดเงินเพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรปด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 14 ต.ค. 54 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 10:24:50 น.

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเช้าทรงตัวใกล้ระดับ 1,665 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ขณะที่เมื่อวานราคาปรับตัวย่อลงเล็กน้อยจากความกังวลในภาคธนาคาร โดยเจ้าหน้าที่ประเทศสมาชิก EU ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ยอมรับการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของกรีซลงอีกครั้งหลังจากที่ปรับลดลงไปแล้วกว่า 21% โดยอยากจะให้มีการปรับลดราว 50% ซึ่งทำให้ความวิตกภาคธนาคารเพิ่มขึ้น ขณะที่การรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารขนาดใหญ่อย่างเจพี มอร์แกนก็ออกมาน่าผิดหวัง นักลงทุนจึงระบายสินทรัพย์เสี่ยงออกรวมถึงทองคำ แต่อุปสงค์ระยะยาวยังไม่เปลี่ยน โดย GFMS คาดว่าในปีนี้บรรดาธนาคารกลางจะมีการสะสมทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 500 ตัน SPDR รายงานการถือที่ระดับ 1,227.99 ตัน คงที่โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม (GFV11) เปิดตลาดช่วงเช้าราคาเปิดที่ระดับราคา 24,530 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 24,300 บาท ราคาเสนอขาย 24,400 บาท

 

 

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า GT มองว่าราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวไปกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ระยะสั้นตลาดน่าจะมีข่าวเชิงบวกเข้ามาโดยเฉพาะในยุโรปจากการขยายขนาดกองทุน EFSF ซึ่งคาดว่าจะทำได้ รวมถึงการได้รับเงินช่วยเหลือของกรีซ ทำให้ราคาอาจจะปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยบวก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และGold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09.00 น.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 10:12:16 น.

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,679 เหรียญ/ออนซ์ กลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1670เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 30.81 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,450 บาท กับ 24,550 บาท และกลับมาปิดที่ 24,400 บาท กับ24,500 บาท

 

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,493 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่7,052 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 273 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 7 % และSilver Futures Open Interest ลดลง 2 % GFV11 ปิดที่ 24,600 บาท และ GFZ11 ปิดที่ 24,890 บาท และ GF10V11 ปิดที่24,590 บาท และ GF10Z11 ปิดที่ 24,890 บาท SVV11 ปิดที่ 997 บาท

 

 

 

สัญญา Comex ปิดลบ 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,668.50 ดอลลาร์/ออนซ์ Silverปิดลบ 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 31.66 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครอง 1,227.51ตัน (ขายออก 0.48 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลบ 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 84.23ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลบ 40.72 จุด ปิดที่ระดับ 11,478.13 จุด

 

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.70 ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

- S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลงมาอยู่ที่ระดับ AA-จากระดับ AA โดยให้แนวโน้มเป็นลบ แม้เศรษฐกิจสเปนส่งสัญญาณการฟื้นตัวในปี 2554 แต่แนวโน้มการขยายตัวยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง, ภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ, หนี้สาธารณะที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสเปน นอกจากนี้ S&Pยังได้คงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของสเปนไว้ที่ A-1+

 

- คณะกรรมการกำหนดนโยบาของธนาคารกลางยุโรปเตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเตือนว่าการที่หลายประเทศในยูโรโซนบีบให้กลุ่มผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนต้องร่วมแบกรับภาระการขาดทุนอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรปนั้น อาจสร้างความเสียหายให้กับภาคธนาคารและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสกุลเงินยูโรด้วย

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ต.ค.ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 404,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 406,000 ราย และตัวเลขดังกล่าวก็ออกมาน้อยลงจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วคือที่ระดับ 405,000 ราย

 

- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่

 

7 ต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4 ล้านบาร์เรล

 

- ยอดการขาดดุล (Trade Balance) ออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ -45.6B ซึ่งออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะออกมาที่ระดับ -46.0B โดยออกมาเท่ากับตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว

 

ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้

- ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Prelim UoM Consumer Sentiment) ในเดือนต.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 60.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 59.4

 

- ยอดค้าปลีก (Retail Sales) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 0.0%

 

- ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมสินค้าอิเล็คทรอนิค (Core Retail Sales) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 0.1%

 

- ดัชนีราคานำเข้าสินค้า (Import Prices) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ -0.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ -0.4%

 

- ยอดขาดดุลงบประมาณของเฟด (Federal Budget Balance) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ -65.0B ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ -134.2B

 

- มีการประชุม G20 14-15 ต.ค. 2554 เกี่ยวกับการหยุดยั้งวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปเพื่อไม่ให้ลามไปยังประเทศอื่น

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ทองคำ — ราคาทองคำยังเป็นการเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway แต่ยกระดับการเคลื่อนตัวขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่แนวด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1610 เหรียญ แต่ ระดับใหม่เคลื่อนตัวอยู่ที่ระดับ 1650-1695 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านด้านบน และคาดว่าจะเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway เช่นนี้ต่อ ซึ่งเป็นลักษณะเป็นขั้นบันไดยกสูง จะเห็นได้ว่าข่าวตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ไม่ได้มีความชัดเจนในด้านบวกหรือลบ แต่โดยภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกา ซึ่งมีตัวเลขการขาดดุลการค้า และตัวเลขคนว่างงานใกล้เคียงเท่าเดิม ภาพรวมเศรษฐกิจไม่มีอะไรดีขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้นในระยะยาว และคาดว่าจะสะสมพลังเช่นนี้อย่างน้อยไปอีก 1สัปดาห์ ดูนักลงทุนจะเข้าสู่การเก็งกำไรในตลาดค่าเงิน โดยที่ค่าเงินยูโร ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1.3752 ดอลลาร์/ยูโร

 

Silver — เป็นการเคลื่อนตัวเช่นเดียวกันกับทองคำ โดยยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะSideway มีแนวรับด้านล่างที่ระดับ 31 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 32.5 เหรียญ

 

Gold Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,650บาท

Gold Futures Z11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000บาท

Silver Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 960 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท

คำแนะนำ การลงทุน Gold(ทองคำ)

Daily - เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัว คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวระหว่าง 1650-1680 เหรียญ

 

Weekly - ยังเป็นการรอความชัดเจนอยู่นอกตลาด ถือครองพอร์ทประมาณ 55-60 %

Monthly - ยังเป็นการรอความชัดเจนอยู่นอกตลาด ถือครองพอร์ทประมาณ 55-60 %

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้ส่งออกเฮ!รับสหรัฐฯต่อGSPยาว2ปี7เดือนไปสิ้นสุดกค.ปี'56

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 08:55:58 น.

นาง นันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโกว่า สหรัฐอเมริกาต่ออายุจีเอสพี หรือ โครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP: Generalize System of Preference) ของสหรัฐฯ ที่ให้สิทธิประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศไทย ส่งสินค้าไปสหรัฐฯ โดยไม่เสียภาษีศุลกากรนำเข้า ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 และให้มีผลบังคับย้อนหลังไปนับแต่วันที่หมดอายุ 31 ธันวาคม2553

 

 

 

ทั้งนี้การต่ออายุจีเอสพี จะมีผลดีต่อสินค้าไทยที่ใช้สิทธิ์ จีเอสพีสูง และมูลค่าการนำเข้าสหรัฐลดลงไปในช่วงที่จีเอสพีหมดอายุลงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เช่น เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เตาอบไมโครเวฟ และ เลนซ์แว่นตา ทำให้มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในอนาคต

 

ทั้งนี้ในปี 2553 สินค้าไทยได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้จีเอสพี จากสหรัฐฯ มากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 3,611.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 15.90 % ของ สินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากไทย

 

"การต่ออายุให้ถึง 2 ปี 7 เดือน จะเป็นผลดีต่อต้นทุนการผลิตสินค้าของสหรัฐฯ เนื่องจากผู้ประกอบการสหรัฐฯจำนวนมาก ต้องแสวงหาวัตถุดิบและเครื่องมือจากต่างประเทศเพื่อนำมาผลิตสินค้า ดังนั้นสินค้านำเข้าปลอดภาษี จะช่วยลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการสหรัฐฯด้วย ช่วยให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น และจะเป็นผลให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ในราคาที่ย่อมเยาลง"

 

ด้านนาง สมรรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก กล่าวเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญของพระราชบัญญัติต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรฉบับนี้ การขยายระยะเวลาการให้จีเอสพี ออกไปเป็นระยะเวลานาน ไม่ตัด สิทธิ์หรือลดจำนวนประเทศกำลังพัฒนา ไม่มีการปรับลดจำนวนสินค้า หรือ ปรับเงื่อนไขในการได้รับสิทธิพิเศษ และไทยยังคงได้รับสิทธินี้เช่นเดิม โดยจะคืนภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บไปในช่วงที่โครงการจีเอสพีไม่มีผลบังคับให้แก่ผู้นำเข้า แต่เงินที่คืนนี้ จะไม่จ่ายดอกเบี้ย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 30.83/90 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ นลท.เทขายสินทรัพย์เสี่ยง

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 09:23:16 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.83/90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.82/86 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

เงินบาทวันนี้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากช่วงนี้นักลงทุนต่างเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา หลังจากที่ทางการยุโรปออกมาเตือนว่า การจะทำให้เอกชนยอมรับผลการขาดทุนจากตราสารหนี้ และถือครองตราสารหนี้ในยูโรโซนอาจจะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารในยุโรปด้วย ประกอบกับเมื่อวาน S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 10 แห่งในสเปน

 

"ส่วนปัจจัยในประเทศจากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายจังหวัดของประเทศ มีผลบ้างหลังโรงงานปิดค่อนข้างเยอะ ทำให้วอลุ่มในประเทศค่อนข้างจะหายไป" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ 76.69/77.00 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.3737/3791 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.80-31.00 บาท/ดอลลาร์

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 09:45:23 น.

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 14.10 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,668.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลง เนื่องจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เมื่อตัวเลขเกินดุลการค้าของจีนลดลงมากกว่าคาด

 

Key Points in Gold Market

- ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 14.10 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,654.30 — 1,686.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำใน COMEX ปรับลดลงอีกครั้งหลังจากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,686 ได้ และมีแรงขายทำกำไรลงมา โดยกลับมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,660 — 1,663 อีกครั้งในเช้าวันนี้ ราคาที่ปรับลดลงเป็นผลจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เมื่อตัวเลขเกินดุลการค้าของจีนลดลง 12.4% YoY มากกว่า

 

 

 

- รัฐสภาของสโลวาเกียผ่านความเห็นชอบแผนเพิ่มประสิทธิภาพเงินกองทุน EFSF แล้ว เป็นประเทศสุดท้ายใน 17 ประเทศของกลุ่มยูโรโซนที่ให้ความเห็นชอบผ่านแผนดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สพภาพยุโรปเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้ของยุโรปให้ดีขึ้น ( + )

 

- สเปนถูก S&P ปรับลดอันดับเครดิตของสเปนลง 1 ขั้นสู่ระดับ AA- โดยมีแนวโน้มเชิงลบ โดย S&P ระบุว่าสเปนมีความเสี่ยงที่เกิดจากปัญหาหนี้เพิ่มขึ้น โดยการถูกปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 ปี ( - )

 

- ราคาทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาทำได้ยากขึ้น และมีแนวโน้มถูกกดดันจากภาพทางเทคนิคที่เป็น double top ทำให้ราคาไม่สามารถปรับขึ้นยืนเหนือ 1,700 USDต่อออนซ์ ได้ในช่วงนี้ ถ้าดูจากกราฟในราย 60 นาที มีแนวรับบริเวณ 1,655 และถัดไป 1,645 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,686 และถัดไป 1,705 แนะนำเปิด Long ที่แนวรับ 1,655/1,645 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1,686/1,705

 

- ดัชนีค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 77.23 และเทียบกับเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.374 USDต่อยูโรในเช้าวันนี้ ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง 1.34 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 84.23 USDต่อบาร์เรล ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับลดลง 40.72 จุด ปิดที่ 11,478.13 จุด ( - )

 

- ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ตัองจับตา ได้แก่ วันศุกร์ ยอดค้าปลีก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย.

 

- ราคาโลหะเงินปิดลดลง 1.12 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 31.67 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.46 — 32.80 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,954.27 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 32.9 / 33.3 และแนวรับบริเวณ 31.25 / 30.6 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 31.0 — 33.3 USDต่อออนซ์

 

- SPDR ขายทองคำออก 0.48 ตัน ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,227.51 ตัน

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,655 1,645 แนวต้านที่ 1,686 1,705 ภาพกราฟราย 60 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ Side way แนะนำเปิด Long ที่แนวรับ และ ปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน

 

++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 31.25 30.6 แนวต้านที่ 32.9 33.3 ภาพกราฟราคาราย 240 มีแรงขายที่ ราคา 32.9 ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 30.6 — 33.3 แนะนำ Trading ในกรอบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 09:48:25 น.

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- รายงานดุลการค้าจีนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

- SPDR ถือทองลดลง 0.48 ตัน

- คาดดีดตัวช่วงสั้นยังไม่ผ่าน 1,680 ดอลลาร์ เก็งกำไรฝั่งขาย

แนวโน้มราคาโลหะมีค่า

ทองปรับฐานตามสินทรัพย์เสียงหลังมีรายงานดุลการค้าของจีนที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ตลาดจึงเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของจีน ส่วนการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียเกี่ยวกับการจัดตั้งและขยายวงเงินให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรปนั้น แม้จะเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่คาดว่าคงจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองและสินทรัพย์อื่นๆไม่มาก โดยตลาดยังรอติดตามการประชุมของกลุ่ม G-20 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าคงยังไม่มีประเด็นที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือยุโรป เพราะผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศสยืนยันว่าจะมีการแถลงความชัดเจนต่างๆในการประชุมผู้นำยุโรปในวันที่ 23 ตุลาคม ดังนั้นการประชุมช่วงสุดสัปดาห์นี้คงยังไม่มีประเด็นใหม่ และอาจมีเพียงการกดดันจากนานาชาติให้กลุ่มยุโรปมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา และอาจมีการกดดันจากสหรัฐเพื่อให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ซึ่งคงไม่มีผลต่อตลาดมากนัก การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐรวมทั้งรายงานตัวเลขเงินเฟ้อจากจีนที่อาจจะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ยังเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของตลาด โดยคาดว่าเงินเฟ้อเดือนล่าสุดของจีนมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง ซึ่งจะเป็นประเด็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้ดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ แต่คาดว่าจะยังมีแรงขายกลับอออกมา เพราะตลาดยังไม่มั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่วนราคาทองคาดว่าจะแกว่งตัวตามสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป โดยราคาดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบหลังจากปรับฐานลงไปยังแนวรับที่บริเวณ 1,655-1,660 ดอลลาร์ แต่คาดว่าการที่แนวต้านบริเวณ 1,675-1,680 ดอลลาร์ จะยังมีแรงขายกลับออกมามากและกดดันให้ราคาทองปรับฐานลงต่อไป ดังนั้นหากราคายังไม่สามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้ ราคาทองมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อไป ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับทองคำ โดยวานนี้ปรับฐานลงหลุดแนวรับที่ 31.90-32.0 ดอลลาร์ ทำให้ภาพการฟื้นตัวของราคาเริ่มดูอ่อนแรงลง และอาจปรับฐานลงต่อตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 31 ดอลลาร์และ 30 ดอลลาร์ตามลำดับ หากดีดตัวขึ้นในระหว่างวันคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านที่บริเวณ 32 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะปรับฐานลงต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

 

การรับมือกับความเศร้าต้องใช้สติและปัญญาประกอบกัน

การเจริญสติโดยไม่เจริญปัญญานั้นยังกำจัดความเศร้าไม่ได้ผลชะงัด

เพราะแม้สติจะทำหน้าที่ตัดฉับ ตัดความเศร้าได้ทันทีก็จริง

 

แต่หากไม่มี ปัญญา ที่จะช่วยให้เข้าใจสัจธรรม รากเหง้าของความเศร้าย่อมยังอยู่

และพร้อมจะเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นเมื่อใช้สติระงับความเศร้าทันทีที่เกิดขึ้นแล้ว

เราต้องใช้ปัญญากำจัดรากเหง้าของความเศร้าให้หมดไปอย่างถาวรด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2581-075763400 1318566682.jpg

ภาพของดาวเทียม RADARSAT-2 ของวันที่ 12 ตค.2554 เวลา 6.01 น.

เมื่อนำมาเปิดดูบน Google Earth พื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ โดนไปเยอะแล้วเหมือนกัน

ส่วนทางตะวันตกก็ไม่เบาโดยเป็นผืนใหญ่ ( เครดิต Viwat Udompitisup )

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

‎"ความสามัคคีของชนทั้งผอง คือ ครรลองแห่งความสุข"

 

สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี(๒๕/๑๙๔)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รวมรายชื่อจุดจอดรถหนีนน้ำท่วม 109 แห่งในก.ท.ม

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130369

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฟังเลขาฯ “มูลนิธิสืบ” วิเคราะห์น้ำท่วมกรุง

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130002

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดั ช นี ต ล า ด หุ้ น

 

14 ต.ค. 54 Value Net Chg

DOW JONES 11,478.13 -40.72

S&P 500 1,203.66 -3.59

NASDAQ 2,620.24 +15.51

FTSE 100 5,403.38 -38.42

CAC 40 3,186.94 -42.82

DAX 5,914.84 -79.63

NIKKEI 8,823.25 +84.35

HANG SENG 18,757.81 +428.35

 

 

จั บ ก ร ะ แ ส ต ล า ด

 

ดอลลาร์ สหรัฐ 31.14 บาท

เยน ญี่ปุ่น(100) 40.64 บาท

ยูโร 42.90 บาท

ปอนด์ อังกฤษ 49.23 บาท

หยวน จีน 5.04 บาท

ดอลลาร์ ฮ่องกง 4.06 บาท

ดอลลาร์ ออสเตรเลีย 31.87 บาท

ดอลลาร์ สิงค์โปร์ 24.35 บาท

เบนซิน 95 38.14 บาท

เบนซิน 91 35.87 บาท

น้ำมันดีเซล 27.49 บาท

แก๊สโซฮอล 95 35.87 บาท

แก๊สโซฮอล 91 32.84 บาท

ดีเซล บี 5 27.99 บาท

LPG 280-290/15 kg บาท

NGV 8.50 บาท

NYMEX 84.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคาทองคำ รับซื้อ ขายออก

ทองคำแท่ง 24,300 บาท 24,400 บาท

ทองรูปพรรณ 23,952.80 บาท 24,800 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กูเกิล เผยผลประกอบการไตรมาสสามพุ่งขึ้นสูงเกินคาด

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 11:35:00 น.

กูเกิล อิงค์ บริษัทผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามปี 2554 ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

กูเกิล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมาเทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย รายงานว่า บริษัทมีรายได้ 9.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสสามซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. โดยเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบรายปี

 

 

ขณะที่ผลกำไรของกูเกิลอยู่ที่ 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 2.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 9.72 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 8.74 ดอลลาร์สหรัฐ

 

“ถือเป็นไตรมาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา" นายแลร์รี เพจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลกล่าวในแถลงการณ์ “ตอนนี้ กูเกิล+ เปิดบริการให้กับผู้ใช้ทุกท่าน และยอดผู้ใช้ก็เพิ่งจะผ่านหลัก 40 ล้านคน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหันมาใช้บริการกูเกิล+ กันมากอย่างเหลือเชื่อทั้งๆที่เราเพิ่งจะเริ่มต้นให้บริการ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ยุทธนา กวยเมี้ยน/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...