ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อหนุนทองคำปิดพุ่ง 16.2 ดอลลาร์

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 06:48:56 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความรู้สึกผิดหวังต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) รอบแรกซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.2 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,652.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,636.60-1,663.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 45.10 เซนต์ ปิดที่ 31.644 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 22.6 เซนต์ ปิดที่ 3.449 ดอลลาร์/ปอนด์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 32.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,542.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 20.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 638.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายและได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวความพยายามของผู้นำยุโรปในหาทางแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ หลังจากที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่จะเลื่อนกันตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวออกไปเป็นวันพุธนี้

 

นอกจากนี้ สัญญทองคำยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน โดยเอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 49.9 จุด

 

ทั้งนี้ นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภทให้สูงขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาทองคำด้วย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งรับคาดการณ์อียูสรุปแผนคุมวิกฤตหนี้พุธนี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 07:01:43 น.

สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

 

 

 

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3894 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5951 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.050 เยน จากระดับ 76.260 เยน และอ่อนตัวลง 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8811 ฟรังค์ จากระดับ 0.8827 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0471 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0368 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8023 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ผู้นำอียูจะสามารถสรุปการตัดสินใจเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนและการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ แม้ผู้นำอียูยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับขนาดของความเสี่ยงที่ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซจะต้องแบกรับก็ตาม

 

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์และหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รวมถึงหุ้นและสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแคททาร์พิลลาร์รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และเอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 49.9 จุด

 

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างเชื่องช้าในเวลานี้ แต่การใช้มาตรการ QE จะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบปรับตัวสูงขึ้น และจะทำให้มูลค่าสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลง

 

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงราคาบ้านเดือนส.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.,ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบพุ่ง $3.87 ตลาดจับตาประชุมผู้นำอียู

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 06:36:40 น.

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวในเดือนต.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.87 ดอลลาร์ หรือ 4.43% ปิดที่ 91.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.00-91.88 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.89 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 109.32-111.60 ดอลลาร์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 49.9 จุด และทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการนำเข้าเดือนก.ย.ขยายตัว 12.1% สู่ระดับ 34.4771 ล้านล้านเยน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่ดีและจะช่วยหนุนอุปสงค์พลังงานดีดตัวขึ้นด้วย

 

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักลงทุนคาดว่า ผู้นำอียูจะสามารถสรุปการตัดสินใจเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนและการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ แม้ผู้นำอียูยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับขนาดของความเสี่ยงที่ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซจะต้องแบกรับก็ตาม

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

 

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูดีส์ยืนยันน้ำท่วมไม่กระทบอันดับเครดิตไทย, คาด GDP ไทยโต 2.8% ปีนี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 07:26:08 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยรายงาน "Weekly Credit Outlook" โดยคาดการณ์ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะส่งผลให้ไทยได้รับความเสียหายประมาณ 2 แสนล้านบาท (6.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 2% ของจีดีพีในปี 2554 และคาดว่าจีดีพีของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 2.8% แต่ก็คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวขึ้นเหนือระดับ 4% ได้ในปี 2556

 

นอกจากนี้ มูดีส์ยืนยันว่า เหตุการณ์น้ำท่วมจะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยมีฐานะการคลังที่จะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ได้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TOPICS TODAY: จับตาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กทม./พาณิชย์เสนอสินค้าจำเป็นช่วงน้ำท่วมเป็นสินค้าควบคุม

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:41:15 น.

จับตาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมใที่คืบคลานเข้ามาในกทม. หลังจากขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่กทม. ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตซึ่งน้ำได้ไหลมาถึงแยกอนุสรณ์สถาน โดยอีกไม่นานคงจะเข้าถึงพื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง สถานที่ทำงานของ ศปภ.มากขึ้นทุกขณะ นอกจากนี้น้ำยังได้เพิ่มขึ้นอีก 3 จุด ได้แก่ 1.ใต้สะพานพระราม 7 ท้ายซอยจรัญสนิทวงศ์ 74 และ 80 ประชาชนได้ทยอยอพยพออกจากพื้นที่ 2.ถนนเจริญกรุงซอย 22 และ3.ถนนทรงวาด ในเขตสัมพันธวงศ์ ด้านชัชกูล รัตนวิบูลย์ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เผยน้ำหนุนเจ้าพระยาทะลัก 2 จุดคือ ถนนเจริญกรุง 22 สูง 30 ซม. และถนนทรงวาด น้ำสูง 20 ซม. ประกาศปิดถนนเจริญกรุงแล้ว

 

 

 

แม้ว่าการบริหารจัดการน้ำจะเน้นให้กระจายผ่าน 3 ช่องทาง คือ1.แม่น้ำท่าจีน ตะวันตกของ กทม.2.เจ้าพระยา-ผ่ากลาง กทม. และ3.วิ่งผ่านคลองเหนือ กทม.ไปเลี้ยวขวาลงแม่น้ำบางปะกง แต่ที่ต้องจับตา ณ ตอนนี้ เนื่องจากนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ได้ออกมาระบุว่า กำลังจะมีน้ำปริมาณ 4 พันล้าน ลบ.ม. กำลังจะเข้ามาถึงวันพุธ 26 ต.ค.นี้ ยกระดับวิกฤตขึ้นไปอีก ปกติ กทม.มีศักยภาพระบายได้วันละ 30 ล้าน ลบ.ม.

 

ขณะที่ปัญหาใหญ่ น้ำดื่ม อาหารขาดแคลนอย่างหนัก หลังผู้ว่า กปน. ขอให้ประชาชนสำรองเก็บน้ำประปาไว้ให้เต็มที่ เพราะวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้มีความรุนแรงมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดคิด แต่ขณะนี้ยังสามารถผลิตน้ำได้ตามปกติ ซึ่งในวันนี้ทางกรมการค้าภายใน จะเสนอคณะรัฐมนตรีให้สินค้าจำเป็น 15 รายการเป็นสินค้าควบคุม

 

- ด้าน มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้รายงานแนวโน้มเครดิตรายสัปดาห์คาดว่าจีดีพีของไทยในปี 2554 จะขยายตัว 2.8% ก่อนจะกลับมาขยายตัวเกิน 4% ในปี 2556

 

- เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ จัด โครงการบรรยายพิเศษญี่ปุ่นศึกษา หัวข้อ “ญี่ปุ่นหลังภัยพิบัติกับการก้าวเข้าสู่อนาคตใหม่” ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าว “เครื่องมือช่วยประเมินความเสี่ยงภัยน้ำท่วมด้วยตนเอง” ณ อาคารจุลจักรพงษ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

- คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2554 ระดับ ผบช.-รอง ผบ.ตร. โดยแต่งตั้งตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ทดแทนเกษียณ 4 ตำแหน่ง, ที่ปรึกษา สบ.10 4 ตำแหน่ง, หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ 1 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 9 ตำแหน่ง รวม 18 ตำแหน่ง และการโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามที่ ก.ตร.เห็นสมควร

 

- กระทรวงพาณิชย์ ประชุมร่วมกับองค์การอาหารและยา(อย.) เพื่อพิจารณาแนวทางและขั้นตอนการนำเข้าและสินค้าที่ขาดแคลนจากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ เช่น อาหารกระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น โดยขั้นตอนอาจต้องใช้วิธีพิเศษที่ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย.อีก เพื่อความรวดเร็วที่จะนำสินค้าเข้ามากระจายในพื้นที่ที่มีปัญหาจำหน่ายให้กับประชาชน

 

- กระทรวงพาณิชย์ เสนอ ครม.ขออนุมัติรายการสินค้า 10 รายการ เช่น น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง กระสอบทราย เรือท้องแบน ผ้าอนามัย เข้าบัญชีสินค้าควบคุม เพื่อใช้มาตรการกฎหมายในการกำกับดูแล หลังจากสินค้าเหล่านี้เริ่มขาดตลาดจากปัญหาการกักตุนของประชาชน หลังจากนั้นจะประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) เพื่ออนุมัติสินค้าตามที่ ครม.เห็นชอบ

 

- ตามดูทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยท่ามกลางมรสุมทางเศรษฐกิจสารพัดรูปแบบที่เข้ามารุมเร้าว่าดัชนีหุ้นจะฟันฝ่าสถานการณืเลวร้ายครั้งนี้ไปได้หรือไม่

 

- บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลล์(APCO) เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอ โดยมีพิธีลงนามสัญญษาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งมี บล.ฟิลลิป เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจัดจำหน่ายฯ โถงชั้น 1 ตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์กรอบแคบ,เก็งประชุมผู้นำอียู-น้ำท่วมกทม.กดดัน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:14:36 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวน์ต่อจากเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ตอบรับข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป แม้ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ต.ค. จะยังไม่มีรายละเอียดอะไรออกมา แต่ตลาดฯก็มีความคาดหวังว่าน่าจะได้เห็นมาตรการที่ชัดเจนจากการประชุมรอบสองในวันที่ 26 ต.ค. นี้

 

อย่างไรก็ตามการรีบาวน์ของดัชนีฯในวันนี้คงไปไม่ได้ไกล และในภาพรวมยังมีความผันผวนสูงจากแรงขายทำกำไรที่จะสลับออกมา เนื่องจากยังถูกกดดันจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศ ที่ขณะนี้ได้เริ่มไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และวันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งอาจจะมีมาตรการเยี่ยวยาภาคธุรกิจและผู้ประสบภัยออกมา

 

พร้อมให้แนวรับ 900-905 จุด แนวต้าน 925-930 จุด

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 06:09:30 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของภาคเอกชนในสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทแคททาร์พิลลาร์ อิงค์ และความคาดหวังที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะและการเพิ่มทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 104.83 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 11,913.62 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.94 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 1,254.19 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 61.98 จุด หรือ 2.35% ปิดที่ 2,699.44 จุด

 

--สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวในเดือนต.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.87 ดอลลาร์ หรือ 4.43% ปิดที่ 91.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความรู้สึกผิดหวังต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) รอบแรกซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.2 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,652.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

 

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3894 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5951 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.050 เยน จากระดับ 76.260 เยน และอ่อนตัวลง 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8811 ฟรังค์ จากระดับ 0.8827 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0471 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0368 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8023 ดอลลาร์สหรัฐ

 

--ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและยอดการส่งออกของญี่ปุ่นขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการใช้มาตรการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

 

ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 59.41 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 5,548.06 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขณะตลาดจับตาประชุมผู้นำอียู

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 07:45:54 น.

ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถสรุปมาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 242.03 จุด

 

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 84.31 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 6,055.27 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,937.58-6,067.16 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 49.12 จุด หรือ 1.55% ปิดที่ 3,220.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,156.37-3,224.09 จุด ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 59.41 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 5,548.06 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,487.21-5,552.79 จุด

 

เอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 49.9 จุด และทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการนำเข้าเดือนก.ย.ขยายตัว 12.1% สู่ระดับ 34.4771 ล้านล้านเยน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนราคาโลหะทะยานขึ้น และหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นริโอทินโตพุ่งขึ้น 7.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 5.2%

 

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักลงทุนคาดว่า ผู้นำอียูจะสามารถสรุปการตัดสินใจเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนและการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ แม้ผู้นำอียูยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับขนาดของความเสี่ยงที่ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซจะต้องแบกรับก็ตาม

 

หุ้นสวอช กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายนาฬิกาของสวอชจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7 พันล้านฟรังค์ หรือ 7.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ อาสาสมัครกู้ภัย จิตอาสา

 

ขอบคุณ คุณหมอ พยาบาล อ.ส.ม ทุกท่าน

 

ขอบคุณ เจ้าหน้าที่ ทหารทุกท่าน

 

ขอบคุณ น้ำใจคนไทยที่เสียสละกำลังกาย+ใจ+ทรัพย์ เพื่อช่วยคนไทยด้วยกัน :wub: !_087

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 09:30:22 น.

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 16.20 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,652.30 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อมีความหวังว่าจะมีมาตรการเบ็ดเสร็จในการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรป

 

Key Points in Gold Market

- ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 16.20 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,636.60 — 1,663.30 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่วันศุกร์โดยปิดเพิ่มขึ้น 23.20 USDต่อออนซ์หรือเพิ่มขึ้น 1.44% และในวันจันทร์เพิ่มขึ้นอีก 0.99% เมื่อนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นว่าหลังการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันอาทิตย์ จะส่งผลให้มีการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปประสบความสำเร็จได้ โดยผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศสกล่าวว่าจะพบเจรจากันอีกครั้งในวันพุธ มีผลทำให้ราคาหุ้นดาวโจนส์ปรับบวกเพิ่มขึ้น 2.31% ในวันศุกร์ และเพิ่มขึ้นอีก 0.89%

 

 

 

- ราคาทองคำและดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในวันจันทร์ เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น และนักลงทุนมีความหวังในการแก้ปัญหาของยุโรป ถ้าดูกราฟในรายวันหลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 วัน แต่ยังยืนเหนือ 1,600 USDต่อออนซ์ ทำให้คาดว่าความเคลื่อนไหวในสัปดาห์เป็น side way อยู่ในกรอบ 1,600 — 1,680

 

- ในสัปดาห์นี้คาดว่า ตลาดยังให้น้ำหนักกับปัญหาหนี้ในยุโรป ซึ่งมีประเด็นที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุมผู้นำยุโรปซึ่งได้เลื่อนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายมาเป็นวันพุธที่จะถึงนี้ โดยการประชุมจะพิจารณาการเพิ่มทุนให้กับธนาคาร วิธีการใช้กองทุน EFSF ในการแก้ไขปัญหา รวมถึงมาตรการเบ็ดเสร็จในการแก้ปัญหาให้ทันการประชุมสุดยอด G20 ในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม การประชุมดังกล่าวอาจยืดเยื้อออกไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวเป็นลักษณะ side way ต่อไปในสัปดาห์นี้

 

- ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ วันอังคาร ราคาบ้านเดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนต.ค. วันพุธ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนก.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ย. วันศุกร์รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย. ดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3/2011 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.

 

- สำหรับในวันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,663 และถัดไป 1,680 ส่วนแนวรับคาดว่าที่บริเวณ 1,640/ 1,623 คาดว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้จะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวไปได้ คำแนะนำ หาจังหวะเปิด Short เมื่อราคาปรับตัวเข้าใกล้แนวต้าน 1,663/1,680 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,600 USDต่อออนซ์

 

- ราคาโลหะเงินปิดลดลง 0.45 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 31.64 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.23 — 32.04 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 33.3 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,840.75 ตัน ปรับ วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 32.2 และถัดไปที่ 32.9 และแนวรับบริเวณ 29.8 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 29.8 — 32.9 USDต่อออนซ์

 

- SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 6.05 ตัน รวมถือทองคำจำนวน 1,233.56 ตัน

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,640 1,623 แนวต้านที่ 1,663 1,680 ภาพกราฟราย 240 นาที ติดเส้น MA75 ที่ 1,654 แนะนำเปิด Long ที่แนวรับ และ ปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน

 

++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 29.8 28.8 แนวต้านที่ 32.2 33.0 ภาพกราฟราย 240 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 29.8 — 33.0 แนะนำ Trading ในกรอบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135977

 

 

 

 

ผู้ว่าฯ รฟม.รับหยุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ตุลาคม 2554 13:08 น.

 

 

นายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยอมรับว่า ขณะนี้การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ ทั้ง 3 สัญญาต้องหยุดการก่อสร้างแล้วทั้งหมดจากผลกระทบที่น้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ก่อสร้างหลายจุด ซึ่งจะกระทบต่อตารางงานก่อสร้างมากน้อยเพียงใดและจะกลับมาเร่งรัดงานได้แค่ใหนต้องติดตามสถานการณ์อีกครั้ง โดยคงต้องมีการผ่อนผันให้เอกชนตามกรอบของระยะเวลาที่เป็นจริง

ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบ เนื่องจากโครงการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นจากกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น

สำหรับความมั่นใจของผู้ใช้ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น รักษาการผู้ว่าฯ รฟม.ยืนยันว่า นอกจากจุดทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าที่ทำการป้องกันอย่างดีแล้ว จุดอื่นๆ ที่ถือเป็นจุดเสี่ยง เช่น ช่องระบายอากาศ ซึ่งมีทั้งหมด 140 จุด รฟม.ได้ร่วมกับบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ BMCL ปิดจุดเสี่ยงไปแล้ว 70 จุด เพื่อป้องกันน้ำ และจะติดตามจุดอื่นๆ ต่อไปด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ พี่ chez + พี่ news + พี่ ginger

chinchilla เป็นไงบ้าง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...