ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 20 ธ.ค. 54 (ภาคเช้า)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 10:09:05 น.

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--GT Wealth Management

 

ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเช้าเคลื่อนไหวใกล้ระดับ US$1,595 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบก่อนสิ้นปี โดยสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯที่ปรับตัวแข็งค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเกิดวิกฤติหนี้ยุโรปทำให้ราคายังคงมีแรงกดดันเชิงลบ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาด้าน Supply ในคาซัคสถานหลังจากการประท้วงหยุดงานเป็นปัจจัยบวกต่อราคา SPDR รายงานการถือที่ระดับ 1,279.97 ตัน โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม (GFZ11) เปิดตลาดช่วงเช้าราคาเปิดที่ระดับราคา 23,860 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 23,650 บาท ราคาเสนอขาย 23,750 บาท

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า GT มองว่ากรอบการเคลื่อนตัวของราคาทองคำในช่วงปลายปีอาจจะไม่สูงมากแล้วเนื่องจากนักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย ขณะที่แนวโน้มระยะกลางราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากปัญหาหนี้ยุโรปที่เราคาดว่าจะเพิ่มความรุ่นแรงในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า ทำให้การปรับตัวขึ้นยังอยู่ในกรอบที่จำกัด แต่ระยะยาวทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากมุมมองในการต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง และจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

 

GT Wealth Management

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 10:07:08 น.

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 1.20 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,596.70 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,599 USDต่อออนซ์ ราคามีแนวโน้ม rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,620 ซึ่งเป็นเส้น MA 200 วัน แต่อาจมีแรงขายทำกำไร

 

Key Points in Gold Market

- ราคาทองคำในตลาด COMEX มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,585.50 — 1,611.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ rebound ขึ้นได้แต่ชนแนวต้านบริเวณ 1,600 — 1,610 โดยมีแนวโน้มจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,600 ได้ และกำลังสร้างฐานเพื่อขึ้นสู่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,620 ซึ่งอาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,610 / 1,620 แต่กรอบแนวรับยกตัวสูงขึ้น โดยแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 1,585 — 1,590 และแนวรับถัดไปบริเวณเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,578 ราคายังยืนเหนือเส้น MA 50 สัปดาห์ได้ แสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น การปรับตัวขึ้นแนวต้านบริเวณ 1,620/ 1,650 อาจใช้เวลาสร้างฐานและแกว่งตัวอยู่ในกรอบบริเวณ 1,585 — 1,620 ก่อนถัดไปบริเวณ ภาพทางเทคนิคในระยะสั้น เส้น MA ราย 4 ช.ม. แสดงแนวโน้มราคาจะขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,610 ถ้าผ่านไปได้จะไปทดสอบเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,620 ถ้ายืนเหนือ 1,620 ได้แสดงแนวโน้มที่ดีขึ้น ถ้าหากผ่านไปได้ในปลายสัปดาห์อาจไปถึงระดับ 1,640 — 1,650 การขึ้นชนแนวต้านในแต่ละระดับจะมีแรงขายทำกำไร ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย Trading ได้ในกรอบ 1,585 — 1,620 .ในช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนในปลายสัปดาห์ ถ้าไม่หลุดเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,578 มีแนวโน้มสร้างฐานบริเวณเหนือ 1,600 เพื่อไปสู่แนวต้าน 1,620 / 1,640 โดยมีเป้าหมายของสัปดาห์ที่บริเวณ 1,640 ส่วนการหลุดแนวรับบริเวณ1,585/ 1,578 อาจลงไปที่ระดับ 1,550

- สัญญาณทางเทคนิคในรายวันมีแนวโน้มดีขึ้น นักลงทุนที่เปิด Long ไว้.บริเวณ 1,585 ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,578 หรือเล่น Trading ในกรอบ 1,585 — 1,620

- ผลการประชุมของรมว.ยูโรโซน ในการระดมเงินทุน 2 แสนล้านยูโรให้แก่ IMF เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ ปรากฎว่ายังไม่ได้ครบตามเป้าหมาย เนื่องจาก อังกฤษปฏิเสธที่จะให้เงินกู้ ทำให้ในขณะนี้ได้เงินเพียง 1.5 แสนล้านยูโรจากธนาคารกลางของประเทศในยูโรโซน 17 ประเทศ ส่วนประเทศอื่น นอกยูโรโซน แสดงความประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือแต่ต้องรอขออนุมัติจากรัฐสภาก่อน รวมถึงมีความพยายามที่จะขอความช่วยเหลือจาก G20 และประเทศที่มีศักยภาพสูง เช่น จีน และ รัสเซีย

- ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของระบบธนาคารในปี 2012 ทำให้ตลาดเงินตอบรับต่อข่าวนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงอีกครั้ง และนักลงทุนยังคงขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น โดยมีความต้องการถือเงินสด โดยเฉพาะดอลล่าร์สรอ. เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าเงิน USD ยังแข็งค่าอยู่ในระดับ 1.30 USDต่อยูโร

- ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับลดลง 100.13 จุดหรือ -0.84% ปิดที่ 11,766.26 จุด จากสถานการณ์ในยูโรโซนที่ยังไม่ดีขึ้น และการที่ธนาคารกลาง สหรัฐจะให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆเพิ่มทุนสำรองให้มากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับระบบธนาคาร ทำให้หุ้นของธนาคารต่างๆ ปรับลดลงแรง

- ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 31.27 บาทต่อดอลล่าร์

- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.วันพุธยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนธ.ค.ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. วันศุกร์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.

- ราคาโลหะเงินปิดลดลง 0.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 28.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 28.68 — 29.80 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 45.37 ตันถือโลหะเงินจำนวน 9,698.04 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 30.0/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.5 / 27.9 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.9 — 30.9 USDต่อออนซ์

- SPDR ถือทองคำเท่าดิมจำนวน 1,279.98 ตัน

 

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,610/1,620/1,640 และแนวรับที่ 1,585/1,578/1,550 สัญญาณทางเทคนิคในรายวันเป็นบวก นักลงทุนอาจเปิด Long ไว้ถือต่อเพื่อทำกำไร บริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,585/1,578 หรือ Trading ในกรอบ 1,585 — 1,620

++ ราคาโลหะเงินมีแนวแนวต้านบริเวณ 30.0/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.5 / 27.9 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.9 — 30.9 USDต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 10:02:35 น.

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ทองแกว่งตัวแคบหลังนักลงทุนเริ่มหยุดซื้อขายช่วงปลายปี

- ยุโรปปล่อยกู้ IMF น้อยกว่าที่ตลาดประเมิน

- คาดราคาทองเคลื่อนไหวแคบลงแนวต้านหลัก 1,620 ดอลลาร์

 

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง หลังจากกองทุนส่วนใหญ่เริ่มหยุดทำการช่วงปลายปี รวมทั้งยังไม่มีประเด็นบวกหรือลบใหม่ๆที่ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงมุมมอง โดยราคาทองดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือ 1,600 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา ส่วนราคาโลหะเงินปรับฐานลงค่อนข้างแรง โดยราคาโลหะเงินไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 29.0-29.2 ดอลลาร์ ได้ ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานต่อ ส่วนราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นต่อแต่โดยรวมแล้วอาจมีกรอบการฟื้นตัวค่อนข้างแคบ แนวต้านสำคัญของราคาทองยังอยู่ที่บริเวณ 1,620 ดอลลาร์ หากผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ คาดว่าจะเป็นสัญญาณซื้อที่จะทำให้นักลงทุนกลับมาเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ในยุโรป รวมทั้งการเสียชีวิตของผู้นำเกาหลีเหนือ ส่งผลให้นักลงทุนต่างต้องการถือครองเงินสดโดยเฉพาะเงินดอลลาร์ จึงกดดันให้ราคาทองโลหะเงินและตราสารอื่นๆ ปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด โดยในส่วนของประเด็นจากยุโรปนั้น ช่วงค่ำที่ผ่านมา รมว. คลัง ของกลุ่มประเทศยูโรโซนตกลงที่จะให้เงินกู้ 1.50 แสนล้านยูโรแก่ไอเอ็มเอฟเพื่อช่วยแก้วิกฤติหนี้ แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นแรงซื้อยูโรและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆได้ เนื่องจากตลาดคาดการณ์จำนวนเงินที่ควรเป็นอยู่ที่ราว 2 แสนล้านยูโร รวมทั้งมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปของประธานธนาคารกลางยุโรป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ถ่วงเงินยูโรให้กลับอ่อนค่าลง และการเคลื่อนไหวของราคาทองและโลหะเงินในช่วงนี้คงยังเคลื่อนไหวตามเงินยูโร หากยังไม่มีประเด็นบวกใหม่ๆ คาดว่าราคาทอง คงไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,620 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ ส่วนราคาโลหะเงินที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงวานนี้ คาดว่าในระหว่างวันอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 29.0-29.20 ดอลลาร์ หากไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ คาดว่าราคาจะกลับปรับฐานลงสู่แนวรับที่บริเวณ 28.50 และ 28.0 ดอลลาร์ ต่อไป

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.54

 

Close chg. Support Resistance

23,850 +10 23,800/23,700 23,900/24,000

 

 

คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวรับและแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,580-1,585ดอลลาร์ และ 1,610-1,620 ดอลลาร์ ตามลำดับ หากราคาปรับฐานลงหลุดแนวรับหรือมีแรงซื้อเข้ามามากจนราคาผ่านแนวต้านขึ้นไปได้ คาดว่าราคาทองจะมีปริมาณการแกว่งตัวในกรอบที่กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ทั้งในยุโรปและสหรัฐเริ่มหยุดซื้อขายช่วงปลายปี โอกาสที่ราคาทองจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบจึงมีมากกว่า การเก็งกำไรระยะสั้นควรรอเปิดสถานะช่วงที่ราคาปรับฐานลงมายังแนวรับบริเวณ 1,585 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,580 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.54

 

Close chg. Support Resistance

908 -19 900/885 915/920/930

 

 

ราคาโลหะเงินปรับฐานลงแรง จนภาพเทคนิคของราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อ ในระหว่างวันหากราคาดีดตัวกลับขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 29.0-29.20 ดอลลาร์ สามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายต่อ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 29.40-29.50 ดอลลาร์ ส่วนกรณีที่ราคากลับปรับตัวลงต่อสวนทางกับที่คาด และไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่บริเวณ 28.50 ดอลลาร์ ได้ อาจมีแรงขายกลับออกมามาก จนราคาปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 28.0 ดอลลาร์ ต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณ ginger และ พี่ๆ ในthaigold ทุกท่าน สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ดีๆและมากประโยชน์ นะครับ :10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณnews,พี่มดแดง ,คุณginger ,คุณChez ,คุณย่าหยา ,คุณbmw2770

สวัสดีครับพี่พวงชมพู,คุณเฟิร์ส,คุณchinchillaและเพื่อนๆพี่ๆทุกๆท่านครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีอีกครั้งค่ะ

 

 

พอมีเวลานิดหน่อย เลยกลับมาบ้านก่อน

 

 

นั่งหาแนวรับสำหรับคนมองขึ้น :57

 

1587 1576 1569 1562 1550...

 

( ถ้ามันเทนะก็นั่งมองไปก่อนนะ อย่ารีบคว้า ... ลองดูไว้ แถวๆ อันนี้มันต้องเฝ้าจึงจะบอกได้ว่าจุดไหน ณ ตอนนั้นควรเข้าหรือไม่ 1540 1522 1497> คงไม่มามั๊ง )

 

 

แนวต้าน หวยออกค่อนข้างตรงกันหรือเปล่า แถวๆ 1614-6.ให้ผ่านตรงนี้ก่อนค่อยมาดูแถวๆที่หาไว้ 1625 1636 1650 :gvme.

 

ตอนนี้ขอให้ผ่าน 1604-9 ก่อนจ้า

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ คุณginger พี่moddang คุณchez คุณnews คุณbmw2770 คุณbaskie30

fung ย่าหยา คุณเด็กสยาม พี่แสงแดด และเพื่อนๆทุกคน

ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับทุกกราฟ วิเคราะห์ ข่าวสาร บทความ

ธรรมะประจำวัน รูปสวยๆ และกำลังใจดีๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แบงก์ชาติออสเตรเลียหวั่นวิกฤตหนี้ยุโรปกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 11:30:32 น.

ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุมในวันนี้ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงขึ้นยังคงทำให้เศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งออสเตรเลีย มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

รายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า สถานการณ์ที่ย่ำแย่ในยุโรปเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 4.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. พร้อมระบุว่า ภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในยูโรโซนและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับปานกลาง นับเป็นอีกเหตุผลของการตัดสินใจลดดอกเบี้ยด้วย

"มีความเป็นไปได้สูงมากว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในและปัญหาในภาคธนาคารจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยุโรปในระยะใกล้นี้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวลงอย่างหนัก"

รายงานของธนาคารกลางออสเตรเลียยังบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียมีความแข็งแกร่งมากกว่าในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพราะได้แรงหนุนจากการลงทุนที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งสวนทางกับประเทศยุโรป อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางออสเตรเลียกังวลว่า วิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลียและทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(เพิ่มเติม) ฟิทช์เผยแนวโน้มธนาคารชั้นนำของไทยมีเสถียรภาพแม้ประสบอุทกภัย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 11:08:33 น.

ฟิทช์ เรทติ้งส์ เผยแนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำของไทยยังคงมีเสถียรภาพ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรง และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ ฟิทช์การระบุถึงแนวโน้มดังกล่าโดยพิจารณาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารต่างๆจะยังคงฟื้นตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมีการกันสำรองหนี้และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น

ฟิทช์คาดว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 เนื่องจากการหยุดชะงักของภาคธุรกิจและและภาคการบริโภค อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจในระดับสูงหลังน้ำท่วมน่าจะช่วยลดผลกระทบได้บ้าง ความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ น่าจะลดลงเนื่องจากเกณฑ์การผ่อนผันของธนาคารแห่งประเทศที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถคงสถานะลูกหนี้สินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมไว้ได้เป็นเวลา 6 — 12 เดือน

ทั้งนี้ ฟิทช์มองว่า ความล่าช้าของกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจน่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อธนาคารพาณิชย์ไทย ในการประมาณเมินสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงนั้น สถานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ที่มีสัดส่วนการสำรองหนี้สูญในระดับต่ำจะได้รับผลกระทบมากกว่า

การเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงโดยไม่มีการเติบโตของฐานเงินฝากควบคู่กันไปได้ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้ความเสี่ยงในด้านการระดมทุนและสภาพคล่องปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินโลกอาจส่งผลให้ความเสี่ยงดังกล่าวสำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดกลาง การออกตั๋วเงินฝาก (bills of exchange) ในปริมาณที่มากและการพึ่งพาเงินทุนสกุลเงินต่างประเทศในระดับที่สูงมากเกินไป อาจจะส่งผลให้ฟิทช์พิจารณาเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบได้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี chinchilla jojosung bbeem fung พวงชมพู ย่าหยา ลูกน้ำเค็ม น้อย ตังเม แสงแดด เด็กสยาม ผีแม่หม้าย

 

หัดเล่นgf raty mateene foo win win thon TNT2012 MR.Li และเพื่อนๆทุกคน

 

ทานข้าวกันยัง

 

 

IMF ขานรับผู้นำยุโรปอัดฉีดเงินทุน 1.50 แสนล้านยูโรเพื่อรับมือวิกฤตหนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 12:09:00 น.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้แสดงความพอใจที่สหภาพยุโรป (อียู) ตัดสินใจอัดฉีดเงินทุนให้กับไอเอ็มเอฟ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับไอเอ็มเอฟในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป

“เรารู้สึกพอใจอย่างมากเมื่อที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนมีมติเพิ่มทุนให้กับไอเอ็มเอฟ ในขณะที่เราพยายามจะเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานเงินทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั่วโลกอย่างเป็นระบบ" โฆษกไอเอ็มเอฟกล่าวในแถลงการณ์

ที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนมีมติจัดหาเงินกู้มูลค่า 1.50 แสนล้านยูโร (หรือประมาณ 1.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับไอเอ็มเอฟ ส่วนอีก 5 หมื่นล้านยูโร (6.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) คาดว่าจะมาจากประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มยูโรโซน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับไอเอ็มเอฟในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ตามมติของที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อังกฤษยังคงยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมแผนการอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเติมให้กับไอเอ็มเอฟ หลังจากที่อังกฤษเคยปฏิเสธที่จะสนับสนุน "บทบัญญัติทางการคลัง" (fiscal compact) ที่พุ่งเป้าไปที่การควบคุมวินัยด้านการคลังของประเทศอียู เพราะอังกฤษต้องการปกป้องภาคการเงินในประเทศของตนเอง

นายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า ธนาคารกลางเยอรมนีจะมีส่วนในการสมทบทุนให้กับไอเอ็มเอฟ หากเงินทุนดังกล่าวอยู่ในลักษณะการปล่อยสินเชื่อระดับทวิภาคี ไม่ใช่การใช้ไอเอ็มเอฟเป็นช่องทางในการให้ความช่วยเหลือเฉพาะประเทศยูโรโซน

ท่ามกลางวิกฤตหนี้ของยูโรโซนที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ นักลงทุนเข้าใจว่า ไอเอ็มเอฟควรจะเพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อรับมือกับวิกฤตให้ดีกว่านี้ ขณะที่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ รวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุเมื่อไม่นานมานี้ว่า สหรัฐยังไม่มีแผนที่จะสมทบเงินเพื่อเพิ่มทุนให้กับไอเอ็มเอฟ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ยุทธนา กวยเมี้ยน/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี Aiya (คุณแม่คนเก่ง ลูกสาวคนสวยเป็นไงบ้าง) เฟิร์ส put42 GOLDPIG goldleng goldfish goldgold (เป็นไงบ้าง)

 

 

ยอดปล่อยกู้ใหม่ของแบงก์พาณิชย์จีนมีแนวโน้มทะลุ 8 ล้านล้านหยวนในปี 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 12:29:37 น.

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล รายงานว่า ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีนอาจทะลุระดับ 8 ล้านล้านหยวนในปี 2555 เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายด้านสินเชื่อ

ไชน่า ซิเคียวริตี้ส์ ระบุว่า ส่วนหนึ่งของสินเชื่อใหม่จะถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล และโครงการต่างๆของรัฐบาลท้องถิ่นที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

หนังสือพิมพ์คาดการณ์ด้วยว่า จีนอาจจำเป็นที่จะต้องปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก โดยมีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายสภาพคล่อง

ไชน่า ซิเคียวริตี้ส์ รายงานโดยอ้างแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์ว่า จีนอาจปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงอีก 2 หรือ 4 ครั้งในช่วงสิ้นปีนี้และปีหน้า โดยปรับลดลงครั้งละ 0.50%

นอกเหนือไปจากการปรับลด RRR แล้ว คาดว่าจีนยังจะผ่อนคลายนโยบายสินเชื่อในระดับหนึ่งควบคู่กันไปด้วย โดยธนาคารยูบีเอสคาดว่า ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีนอาจทะลุ 7.5 ล้านล้านหยวนในปี 2554 และจะเพิ่มขึ้นสู่ประมาณ 8 ล้านล้านหยวนในปี 2555

นอกจากนี้ ไชน่า ซิเคียวริตี้ส์ยังอ้างการเปิดเผยของบริษัทไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่นว่า จีนอาจใช้ผ่อนคลายข้อกำหนดเกี่ยวกับอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารอย่างระมัดระวัง เพื่อรับประกันว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อในระดับที่เหมาะสมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

https://www.facebook.com/ichitan?sk=app_267773289909934

 

เอากิจกรรมดีๆมาฝาก เมื่อกี้ผมคนที่678 ตอนนี้แค่ไม่ถึงห้านาทีล่อไป1440แล้ว :_10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ พี่ chez + พี่ news + พี่ bmw2770 + พี่มดแดง + พี่ย่าหยา+ พี่ baskie30 + พี่ ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2554

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 15:51:31 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่ไม่เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวน

ดัชนี S&P/ASX 200 ขยับลง 7.30 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 4,053.10 จุด

 

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ นำโดยหุ้นเอชทีซี บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของไต้หวัน ที่พุ่งแรง หลังจากที่บริษัทประกาศชัยชนะในคดีความฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรกับแอปเปิล อิงค์

ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวขึ้น 29.31 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,662.64 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้

ดัชนี LSX Composite Index ปิดบวก 8.79 จุด หรือ 0.97% ที่ระดับ 916 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 129,319 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 883 ล้านกีบ (ราว 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

 

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวานนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นที่ถูกเทขายอันเนื่องมาจากการตื่นตระหนกต่อข่าวการอสัญกรรมของนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ

ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 40.36 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 8,336.48 จุด

 

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดในวันนี้ปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนายเจฟฟรีย์ แล็กเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาสหรัฐสาขาริชมอนด์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2-2.5% ในปีหน้า

ดัชนี VN ลบ 1.73 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 365.67 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวขึ้น 0.91% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนไม่วิตกกังวลเรื่องผลกระทบภายหลังการถึงแก่อัญกรรมของนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ และทุ่มซื้อหุ้นบลูชิพ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปรับตัวขึ้น 16.13 จุด มาแตะที่ 1,793.06 ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับปานกลางที่ 385.1 ล้านหุ้น มูลค่า 3.92 ล้านล้านวอน โดยมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตรา 662 หุ้น ต่อ 182 หุ้น

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้แทบจะทรงตัว ขณะที่ตลาดยังคงจับตาแนวโน้มด้านนโยบายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับลง 2.31 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 2,215.93 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นอ่อนตัว 22.41 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 9,031.67 จุด

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในการซื้อขายระหว่างวัน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายร่วงต่ำสุดในปีนี้

ดัชนีฮั่งเส็งบวก 9.99 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 18,080.20 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 18,010.26-18,270.70 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 3.71 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...