ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ญี่ปุ่นเผยยอดค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนพ.ย.ร่วงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 11:45:22 น.

กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในของญี่ปุ่นระบุในรายงานเบื้องต้นวันนี้ว่า ยอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของภาคครัวเรือนในญี่ปุ่นลดลง 3.2% ในเดือนพ.ย.จากปีก่อน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน

ข้อมูลเผยว่า ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนพ.ย.ลดลง 273,428 เยน (3,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ภายหลังการหดตัว 0.4% ในเดือนต.ค. และการลดลง 1.9% ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ การลดลง 3.2% ในช่วงเวลาดังกล่าวมากกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ 1.1%

ข้อมูลของรัฐบาลยังเผยว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อโทรทัศน์ลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายเพื่อการสันทนาการ

อย่างไรก็ดี ข้อมูลระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์กลับเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงเปิดเผยว่า รายได้ของครัวเรือนที่มีรายรับเป็นรายเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 424,272 เยนในเดือนพ.ย. ซึ่งลดลง 1.0% จากปีก่อน โดยนับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปีหลังจากการลดลง 2.8% ในเดือนต.ค.

ยอดค่าใช้จ่ายถือว่าเป็นเครื่องชี้วัดสำคัญสำหรับการบริโภคส่วนบุคคล สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ยุทธนา กวยเมี้ยน/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.t

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

chez baskie30 หัดเล่นgfและทุกคน

 

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 11:04:41 น.

กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ดอลลาร์อ่อนค่า แต่ทองยังลง

- บาทอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดของปี

- คาดทองทรงตัว 1,580-1,600 ดอลลาร์

 

เงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงแต่ราคาทองคำและโลหะเงินกลับยังปรับตัวลงตามแรงขายที่ยังมีออกมาต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งเมื่อคืนนี้ออกมาไร้ทิศทาง หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนออกมาดีกว่าที่คาด และเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน แต่รายงานราคาบ้านในเดือนตุลาคมของสหรัฐกลับลดลงมากกว่าที่คาด จึงไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองและโลหะเงินการซื้อขายวานนี้ส่วนราคาทองในประเทศวานนี้ปรับลงค่อนข้างน้อยเนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี การเคลื่อนไหวของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบต่อไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามประเด็นต่างๆโดยเฉพาะจากยุโรป ซึ่งตลาดกังวลว่าจะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในยุโรปในเดือนมกราคมนี้ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของประเทศในยุโรปในช่วงนี้ส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นและสนับสนุนมุมมองเรื่องการลดความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ดังนั้นราคาทองคำและโลหะเงินซึ่งในระยะนี้เคลื่อนไหวตามสินทรัพย์เสี่ยงจึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลง การเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งเช้าวันนี้ลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,590 ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับฐานลงสู่แนวรับที่บริเวณ 1,580 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนราคาโลหะเงินซึ่งวานนี้ปรับตัวลงแรงเมื่อเทียบกับราคาทองคำ ยังมีแนวโน้มที่ราคาจะอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 28.50 ดอลลาร์ และ 28.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ ภาพเทคนิคของราคาทองและโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ แต่ด้วยปริมาณการซื้อขายซึ่งในช่วงนี้มีน้อยลง จึงคาดว่าการเคลื่อนไหวโดยรวมยังน่าจะเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดียวกับหลายวันที่ผ่านมา

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.54

 

Close chg. Support Resistance

24,320 +30 23,200/23,100 24,400/24,500

 

 

ราคาทองยังคงแกว่งตัวอยู่ที่บริเวณแนวรับสำหรับเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาในประเทศดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดระหว่างวัน หากราคาปรับฐานลงสู่แนวรับที่บริเวณ 1,585-1,590 ดอลลาร์ ยังสามารถเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ในช่วงสั้นๆ และควรปิดสถานะลดความเสี่ยงเมื่อราคาเริ่มดีดตัวกลับ เช่นเดียวกับกรณีที่ราคาปรับฐานลงไปต่ำกว่า 1,580 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะมีแรงขายตามออกมา

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.54

 

Close chg. Support Resistance

931 -10 920/910 940/950

 

 

ราคาโลหะเงินปรับฐานลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 28.90-29.0 ดอลลาร์ จึงยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับฐานลงต่อ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรการดีดตัวกลับช่วงสั้นๆ อยู่ที่บริเวณ 28.50 และ 28.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีครับ...ผมก็กะลังหาซื้อทางเนทอยู่เลย

แต่อ่านเรื่องนี้ต้องหา...ปี๊บ.....มาไว้ข้างๆด้วยนะ

เห็นคนที่เขาอ่านแล้ว...ทุกคนบอกว่าเสียน้ำตากันมากมาย

 

เราเคยอ่านนานแล้ว เรื่องเศร้า ที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกต่างๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐเรียกร้องจีนปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยน แต่หลีกเลี่ยงตีตราจีนปั่นค่าเงิน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 11:56:01 น.

กระทรวงการคลังสหรัฐเรียกร้องให้จีนดำเนินการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน อย่างไรก็ตาม ในรายงานรอบครึ่งปีซึ่งมีการเผยแพร่ครั้งล่าสุดนี้ สหรัฐหลีกเลี่ยงที่จะระบุว่าจีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงินของตนเอง

"ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงของจีนแข็งค่าขึ้นนั้น แต่ขั้นตอนการปรับสกุลเงินหยวนให้แข็งค่ายังไม่สมบูรณ์" กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยในรายงานว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศที่ยื่นต่อสภาคองเกรส

รายงานดังกล่าวระบุว่า แม้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่นการที่จีนยืนยันว่าจะผลักดันระบบอัตราแลกเปลี่ยนให้อิงตามปัจจัยตลาดให้รวดเร็วมากขึ้นและการปรับตัวลงยอดเกิดดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนแล้ว แต่กระทรวงการคลังสหรัฐก็ยังสรุปว่า จีนไม่ได้ปั่นค่าเงิน ซึ่งเป็นการประเมินแบบเดียวกับการรายงานครั้งก่อน

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า "สหรัฐจะติดตามดูความคืบหน้าของการปรับค่าเงินหยวนอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจะกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อนำไปสู่การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ คุณ baskie30. ค่อยสบายใจเพราะดอยอยู่เกือบ 1800 จะรอซื้อนะค่ะ 1541-1525. แล้วถือยาวด้วยคนค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีครับ...ผมก็กะลังหาซื้อทางเนทอยู่เลย

แต่อ่านเรื่องนี้ต้องหา...ปี๊บ.....มาไว้ข้างๆด้วยนะ

เห็นคนที่เขาอ่านแล้ว...ทุกคนบอกว่าเสียน้ำตากันมากมาย

 

ด้วยคน :53 เดี๋ยวหาวิธีก่อนทำไงจะได้อ่าน

ถูกแก้ไข โดย พิพพา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พอดีมีคนแนะนำให้อ่าน...จะได้เข้าใจเด็ก....และเลี้ยงลูกได้ดีขึ้น

เพื่อนๆ.......มีใครเคยอ่านหนังสือเรื่อง "ต้นส้มแสนรัก".....บ้าง...อ่านแล้วเป็นไงมั่งคับ

 

แต่ยังไม่ได้ซื้อหนังสือเลย....

 

เคยอ่านค่ะ นานๆๆๆๆมาก ร้องไห้ด้วยอะ...........^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ คุณ baskie30. ค่อยสบายใจเพราะดอยอยู่เกือบ 1800 จะรอซื้อนะค่ะ 1541-1525. แล้วถือยาวด้วยคนค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านเสมอนะครับ และขออวยพรล่วงหน้าเลยสุขสันต์วันปีใหม่2555 ให้มีความสุขความเจริญ ร่ำรวยทองกันถ้วนหน้าทุกคน :53

ปล.เผื่อว่าจะไม่ได้เข้าจนหลังปีใหม่ยังไงก็ยึดแนวทางนี้ไว้ก่อนอีกอย่างมันคลื่น5ย่อยโอกาสล้มเหลวก็มีอยู่บ้างประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ อีกเจ็ดสิบคงได้ตามเป้าหมายครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://bit.ly/rL5nLf

 

 

สวัสดี ทิพพา Aiya baskie30 Atuka

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าลบ 2.75 แกว่งแคบตามภูมิภาค-วอลุ่มบาง,คาดแรงซื้อ LTF/RMFช่วยพยุง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 12:49:33 น.

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,025.63 จุด ลดลง 2.75 จุด(-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 4,723.07 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,028.94 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,024.85 จุด

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวกรอบแคบในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากเข้าสู่จากเทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่หายไปจากตลาดฯ ทำให้มูลค่าการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง ขณะที่เริ่มมีคำเตือนว่าปัญหาทั้งยุโรปและสหรัฐฯยังคงอยู่

ทั้งนี้ ตลาดฯคงไม่ปรับตัวลงมาก เนื่องจากคาดว่าจะมีแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF และการทำ Window Dressing เข้ามาช่วยพยุงดัชนีฯ ประกอบกับคาดว่าตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่จะประกาศคืนนี้น่าจะออกมาดีต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งแคบต่อ พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหว 1,020-1,030 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 433.58 ล้านบาท ปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 338.85 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 193.07 ล้านบาท ปิดที่ 315.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 175.93 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 158.13 ล้านบาท ปิดที่ 4.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Obama to ask for debt limit hike: Treasury official

WASHINGTON (Reuters) - The White House plans to ask Congress by the end of the week for an increase in the government's debt ceiling to allow the United States to pay its bills on time, according to a

 

The demise of US dollar

 

 

โดย Monkey Trader เมื่อ 28 ธันวาคม 2011 เวลา 9:57 น.

 

 

 

อย่าว่าแต่คืนเงินต้นเลยครับ. ตอนนี้ US gov ต้องขอ Congress เพิ่มเพดานหนี้ขึ้นเพื่อจ่าย "ดอกเบี้ย" พันธบัตรที่จะครบกำหนด (Due) ในรอบนี้. ทำให้นึกถึงข่าวที่เริ่มเขียนว่า เงินบาทเริ่มอ่อน ฯลฯ ตอนนี้ใน DX chart ซึ่งเป็น ดัชนีค่าเงิน USD เมื่อเทียบกับตระกร้าค่าเงินหลักอีก 5 สกุล เราเริ่มเห็น Bullish divergence (BD) กันแล้ว แต่ BD อย่างเดียว ไม่ได้บอกเลยว่า DX นี้จะกลับตัวเข้าสู่ Bullish trend อีกครั้ง. ยังเร็วเกินไป หนำซ้ำ US gov ออกมาประกาศว่าจะเพิ่มเพดานหนี้ week หลัง Christmas ก่อน New Year แบบนี้มันเตี๊ยมกันชัดๆ. เห็นชัดว่าต้องการลดกระแสต่อต้านจากมวลชน เพราะเขา Holiday กันอยู่ กว่าจะกลับจากพักผ่อน มตินี้ก็คงผ่านเสียแล้ว.

http://www.facebook.com/freedomtrader

 

 

ขอให้โชคดีครับ.

-Freedom trader

 

น่าจะมีผลกับดอลล่าร์ ถ้าการขอเพิ่มเพดานหนี้สำเร็จ

ถูกแก้ไข โดย baskie30

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณnews,พี่มดแดง,คุณginger,คุณbmw2770,คุณbaskie30,คุณย่าหยา

สวัสดีครับคุณchezและพี่ๆเพื่อนๆทุกท่าน

หากพี่ๆเพื่อนๆท่านใดต้องเดินทางขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพทุกท่านครับ ^_^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.youtube.com/watch?v=17ZrK2NryuQ&feature=player_embedded

 

วันนี้....คุณสนใจคนข้างๆกาย...บ้างหรือยัง

ถูกแก้ไข โดย chez

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมัน NYMEX บวก 12 เซนต์ เหตุวิตกสถานการณ์อิหร่านตึงเครียด

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 13:58:36 น.

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวลง 12 เซนต์ แตะที่ 101.22 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 101.34 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลที่ว่า สถานกาณ์ตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในตะวันออกกลางจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบสะดุดลง

สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านรายงานเมื่อวานนี้ว่า นายเรซา รอฮิมี รองประธานาธิบดีอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งจะส่งผลให้เส้นทางการส่งออกน้ำมันถูกตัดขาดลง หากนานาประเทศคว่ำบาตรการลำเลียงน้ำมันของอิหร่าน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2554

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 15:46:44 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง หลังจากที่ตลาดผิดหวังกับข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

ดัชนี S&P/ASX 200 อ่อนตัว 51.60 จุด ปิดที่ 4,088.80 จุด

 

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดลดลงในวันนี้ สอดคล้องตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางการซื้อขายเบาบางช่วงปลายปี

ดัชนีเวทเต็ดลบ 28.36 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 7,056.67 จุด

 

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากมีรายงานว่า เกาหลีเหนือจัดพิธีฝังศพนายคิม จอง อิล

ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 16.94 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 8,423.62 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วง 0.92% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูง หลังจากรอบการจ่ายเงินปันผลของบริษัทเหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดร่วง 16.9 จุดลงมาแตะ 1,825.12 จุด นับเป็นการปรับตัวลดลงเป็นรอบที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 374 ล้านหุ้น มูลค่า 3.26 ล้านล้านวอน (2.81 พันล้านบาท) โดยมีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตรา 499 ต่อ 317

 

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ สวนกระแสตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง หลังมีรายงานว่าราคาบ้านในสหรัฐได้ปรับตัวลดลง

ดัชนี VN บวก 2.86 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 350.66 จุด

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางการซื้อขายเบาบาง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและหลักทรัพย์ที่ดีดตัวขึ้น ช่วยพยุงให้ดัชนีปิดในแดนบวกได้ หลังจากที่อ่อนตัวลงในการซื้อขายช่วงเช้า

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับขึ้น 3.81 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 2,170 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นดีดขึ้น 28.18 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 8,739.73 จุด

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มธนาคารจีน เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองหุ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนสิ้นปี

ดัชนีฮั่งเส็งลบ 110.5 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 18,518.67 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 18,461.97-18,621.5 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 2.7895 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 3.588 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

In Focus: ย้อนรอยมูดี้ส์ลงดาบหั่นเครดิต 5 ประเทศใหญ่สะเทือนวงการ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2554 13:52:55 น.

เป็นที่รู้กันดีถึงฤทธิ์เดชของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คราวใดที่มูดี้ส์ประกาศหั่นเครดิต ก็มีอันต้องสะเทือนวงการตลาดการเงินไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของนักลงทุนที่รอดูทิศทางว่าจะเข้าลงทุนในประเทศนั้นๆหรือไม่ และในส่วนของประเทศที่ถูกหั่นเครดิต ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการออกพันธบัตรเพื่อดึงเงินจากนักลงทุนได้ยากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นภาพสะท้อนถึงอิทธิพลของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และในช่วงปี 2554 นี้ มีเหยื่อหลายรายที่ถูกมูดี้ส์เชือดด้วยการหั่นเครดิต

In Focus ขอนำท่านผู้อ่านย้อนรอยกลับไปดูเหตุปัจจัยที่ทำให้บางประเทศต้องสั่นสะท้าน โดยจะกล่าวถึงเฉพาะรายที่เด่นดัง (ในเชิงลบ) ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ก่อนที่จะผ่านพ้นปีนี้ไป

 

*กรีซ — ผู้บอบช้ำจากการถูกเชือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มูดี้ส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซในเดือนมี.ค.ลงสู่ B1 จาก Ba1 และให้แนวโน้มเชิงลบ โดยให้ความเห็นว่า กรีซยังต้องเจองานหินในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและปฏิรูปโครงสร้าง ในขณะที่มีความเสี่ยงมากมายในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ

ในขณะเดียวกัน การจัดเก็บรายได้ในประเทศก็ไม่ใช่ภารกิจที่ราบรื่น ประกอบกับมีความเสี่ยงว่า กรีซจะไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขจากแหล่งเงินทุนหลังปี 2556 และอาจต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้

ส่วนแนวโน้มเชิงลบต่ออันดับเครดิต B1 สะท้อนถึงภาระหนี้สินสูงของกรีซและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการปฏิบัติตามมาตรการปฏิรูปโครงสร้าง

หลังจากนั้น กรีซก็ถูกมูดี้ส์ลงดาบเชือดเรทติ้งอีกครั้ง พร้อมขู่ปรับลดอีก โดยอันดับเครดิตกรีซลงไปอยู่ในสถานะเก็งกำไร หรือ"ขยะ" โดยลดลงสู่ Caa2 จากระดับ B1 มูดี้ส์ให้เหตุผลว่า มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นที่รัฐบาลกรีซจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์หนี้สินโดยไม่ปรับโครงสร้างหนี้ได้

นอกจากนี้ สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังมีแนวโน้มที่จะกำหนดให้เจ้าหนี้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างหนี้ตามเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนที่จะให้การสนับสนุนด้านเงินทุน ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้มีโอกาสที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ได้

ด้านกระทรวงการคลังของกรีซได้โต้การลดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยระบุว่า มูดี้ส์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขภาวะการคลัง และได้รับอิทธิพลจากข่าวลือในสื่อ

ต่อมาในช่วงปลายเดือนก.ค. มูดี้ส์ก็ได้หั่นอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินในประเทศและต่างประเทศของกรีซลง 3 ขั้น สู่ Ca จาก Caa1 โดยแนวโน้มความน่าเชื่อถือจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ขณะที่กรีซยังมีความเสี่ยงในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้

มูดี้ส์เปิดเผยว่า การประกาศโครงการช่วยเหลือของอียู บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้เกือบ 100% ที่จะมีการแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลกรีซที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในขณะนั้นเกี่ยวกับมูลค่าตลาดที่แท้จริงของหลักทรัพย์ที่เจ้าหนี้จะได้รับในการแลกเปลี่ยน

มูดี้ส์ระบุว่า กรีซเผชิญความเสี่ยงในการชำระหนี้ระยะกลาง โดยปริมาณหนี้จะยังคงสูงกว่า 100% ของจีดีพีเป็นเวลาหลายปี

 

 

*สเปน — หนี้สินล้นหลาม, ระดมทุนยาก, เศรษฐกิจง่อนแง่น

ในเดือนมี.ค.2554 มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลสเปนลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa2 โดยเตือนว่า อาจปรับลดอันดับลงอีก ซึ่งสาเหตุสำคัญอยู่ที่ปัญหาหนี้สินในภาคธนาคารที่จะมีค่าใช้จ่ายในการสะสางหนี้มากกว่าที่รัฐบาลคาดไว้ และจะทำให้หนี้สินของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ในขณะที่มูดี้ส์มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการปฏิรูปโครงสร้างการคลัง

แนวโน้มในเชิงลบสะท้อนถึงความหวั่นวิตกที่ว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลสเปนอาจจะย่ำแย่ลงต่อไป

หลังจากนั้นในเดือนต.ค. มูดี้ส์ก็ได้ประกาศลดอันดับเครดิตสเปนลง 2 ขั้น จาก Aa2 สู่ A1

มูดี้ส์ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้มูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตสเปนมาจากหนี้สาธารณะในระดับสูง ประกอบกับภาคเอกชนที่ยังเผชิญความยากลำบากในการระดมทุนในตลาดการเงิน รวมทั้งเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอีก

หนี้ในภาคสาธารณะของสเปนเพิ่มขึ้น 16.51% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ สู่ 702,806 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับในไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว ที่ระดับ 682,854 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 65.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) เทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ระดับ 57.2% ของ GNP

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสเปนขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 ปีนี้ ชะลอลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.3%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับลดอันดับเครดิตครั้งนี้แสดงถึงความรุนแรงของวิกฤติหนี้ยุโรป ซึ่งมูดี้ส์เตือนว่า สเปนอาจะถูกปรับลดอันดับเครดิตอีก ถ้าวิกฤติหนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นางเจสสิกา โฮเวอร์เซน นักวิเคราะห์สกุลเงินและตราสารหนี้ของบริษัทเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า “ถ้าหากยูโรโซนไม่สามารถหาทางควบคุมสถานการณ์ได้ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสเปนก็จะพุ่งขึ้น และสเปนจะประสบปัญหาในการระดมทุน"

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า สเปนยังมีความน่าเชื่อถือสูงกว่าอิตาลี อันเป็นผลมาจากประวัติที่ดีของสเปนในการปฏิรูปตลาดแรงงาน, ระบบบำเหน็จบำนาญ และภาคการเงิน

 

 

*ญี่ปุ่น — ยอดขาดดุลงบประมาณสูง, รัฐบาลไม่มั่นคง, แก้ปัญหาหนี้สินยาก

มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นลง 1 ขั้น จากเดิมที่ Aa2 สู่ Aa3 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ขณะที่ยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ในระดับสูงและการที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยทำให้การแก้ปัญหาหนี้เป็นไปโดยยาก โดยญี่ปุ่นมีนายกรัฐมนตรี 6 คนในระยะเวลาเพียง 5 ปี

มูดี้ส์ระบุว่า การที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถดำเนินกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องในระยะยาว ขณะที่หนี้สาธารณะก็เพิ่มขึ้นสูงเป็น 2 เท่าของจีดีพี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์ยังคงให้แนวโน้มอันดับเครดิต"มีเสถียรภาพ"แก่ญี่ปุ่น เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นที่จะถือครองพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณได้

รัฐบาลต้องหันไปพึ่งรายได้จากการจำหน่ายพันธบัตร เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในงบประมาณ จากการที่รายได้ด้านภาษีของรัฐบาลได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เผชิญภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่องและการเติบโตที่ซบเซา

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า การขาดการปฏิรูปทางการเงินอาจจะเป็นสาเหตุของการลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยมูดี้ส์อาจจะมองว่าฐานะการเงินของญี่ปุ่นอาจจะย่ำแย่ลงต่อไป

การที่มูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตญี่ปุ่นครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 โดยในครั้งนั้นมูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตญี่ปุ่นลงสู่ A2 ซึ่งอยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 6 และหลังจากนั้น มูดี้ส์ได้ปรับเพิ่มอันดับ 3 ครั้ง โดยการปรับเพิ่มครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค. 2552

 

 

*อิตาลี — ซวนเซจากปัญหาความเชื่อมั่น, ความเสี่ยงระดมทุน, แนวโน้มเศรษฐกิจอ่อนแอ

มูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรอิตาลีลง 3 ขั้นสู่ A2 จาก Aa2 ขณะคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือใน"เชิงลบ" ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า มูดี้ส์อาจปรับลดอันดับเครดิตอิตาลีอีกภายใน 2 ปี โดยมูดี้ส์ระบุถึงภาระหนี้สาธารณะในระดับสูง และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการระดมทุนระยะยาว นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเงินและการที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น จะทำให้อิตาลีประสบปัญหาการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้

นอกจากนี้ อิตาลียังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญกับช่วงขาลง อันเนื่องมาจากความอ่อนแอของโครงสร้างเศรษฐกิจมหภาคและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

นายอเล็กซานเดอร์ คอคเคอร์เบค นักวิเคราะห์อิตาลีของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เปราะบาง และคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจจะยังคงค่อนข้างอ่อนแอในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เป็นเหตุผลให้มูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตพันธบัตรอิตาลีลง 3 ขั้น

นายคอคเคอร์เบคกล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่ย่ำแย่ในตลาด, แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจอิตาลีและทั่วโลกที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่สำคัญเบื้องหลังการตัดสินใจของมูดี้ส์ มีความเกี่ยวพันกันอย่างมาก “ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเสี่ยงสำหรับรัฐบาลที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการสร้างความแข็งแกร่งทางการคลัง และความพยายามในการพลิกฟื้นจากแนวโน้มแง่ลบในด้านหนี้สาธารณะอาจจะเกิดความซับซ้อนจากภาวะดังกล่าว"

นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2536 ที่มูดี้ส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี และอันดับความน่าเชื่อถือที่ A2 ซึ่งอิตาลีถูกปรับลดลงมาล่าสุดนั้น อยู่เหนือระดับขยะเพียง 5 ขั้นเท่านั้น

 

 

*เบลเยียม — ปัญหาระดมทุน, ความเสี่ยงเศรษฐกิจ-ภาคธนาคารถาโถม

เบลเยียมถือเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งจะถูกมูดี้ส์หั่นเครดิตในเดือนนี้ โดยมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเบลเยียมลง 2 ขั้น โดยระบุถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระดมทุน, การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และงบดุลบัญชีของประเทศ

มูดี้ส์ลดเครดิตเบลเยียมสู่ Aa3 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสูงสุด 3 ขั้น โดยการปรับลดนี้เป็นการสรุปผลการประเมินโดยมีแนวโน้มเชิงลบที่มูดี้ส์ได้ประกาศไว้ในเดือนต.ค.

มูดี้ส์ระบุถึงภาวะการระดมทุนที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องสำหรับประเทศต่างๆในยูโรโซนที่มีหนี้สาธารณะในระดับค่อนข้างสูง อาทิ เบลเยียม โดยมูดี้ส์เปิดเผยว่า ภาวะย่ำแย่ลงดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงให้กับเบลเยียม ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความแข็งแกร่งทางการคลังของรัฐบาลและความพยายามในการลดหนี้สิน

นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่มีขนาดเล็กและเปิดเสรีอย่างมากของเบลเยียมเผชิญกับความเสี่ยงต่อการขยายตัวในระยะกลางเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากความจำเป็นอย่างต่อเนื่องสำหรับการลดหนี้สินและมาตรการรัดเข็มขัดในยูโรโซน

มูดี้ส์เปิดเผยว่า งบดุลบัญชีของรัฐบาลมีความไม่แน่นอนมากขึ้น และเผชิญกับความเสี่ยงใหม่ที่เกิดจากภาคการธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเด็นหนี้สินที่เกี่ยวกับเด็กเซีย เครดิต โลคัล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเด็กเซีย

 

5 ประเทศหลักดังกล่าวนับว่ามีบทบาทต่อวงการตลาดการเงินอย่างมากและการที่สถาบันเก่าแก่ที่ก่อตั้งมานับร้อยปีอย่างมูดี้ส์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และปรับลดอันดับเครดิตประเทศเหล่านั้น ย่อมมีผลกระทบในวงกว้างอย่างแน่นอน ในส่วนของไทยเองนั้น ก็เผชิญวิกฤติจากภัยธรรมชาติจากภาวะน้ำท่วม แม้จะต่างจากวิกฤติหนี้หรือวิกฤติการคลังดังที่กล่าวมาแล้วนั้น แต่วิกฤติน้ำท่วมก็ได้ฉุดเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยลงเช่นกัน จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า มูดี้ส์จะหันมาหั่นเครดิตไทยหรือไม่ แต่คาดว่ามูดี้ส์คงจะมีเหตุผลพอที่จะไม่ถือเอาภัยธรรมชาติเป็นสาเหตุในการลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยน่าจะมองที่การบริหาร, ฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติน้ำท่วมมากกว่า เนื่องจากแม้ว่าวิกฤติน้ำท่วมจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่หากมีการฟื้นฟูประเทศอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง ก็จะทำให้ประเทศฟื้นตัวได้ไม่ยาก

ในช่วงสิ้นปีนี้ In Focus ขอเป็นกำลังใจให้ไทยฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง ไม่ต้องถูกคมดาบของมูดี้ส์หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออื่นใดมาบั่นทอนซ้ำเติมความน่าเชื่อถือให้ตกต่ำลงไปอีก รวมทั้งขอให้ผู้อ่านทุกท่านมี"พลังบวก"ที่จะก้าวไปสู่ปีมังกร(ดุ)คะนองน้ำ อย่างไม่หวาดหวั่น พร้อมกับความหวังที่ว่า ปีหน้าฟ้าใหม่จะสดใสและดีกว่าปีที่เป็นอยู่นี้ In Focus ขอส่งความสุขและความปรารถนาดีแด่ท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ

--อินโฟเควสท์ โดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.t

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...