ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณทุกๆท่านครับที่่วิเคราะห์กราฟและข่าวสาร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลวงพ่อ ปัญญานันทะภิขุ

 

 

คติธรรม ที่ ๑.

คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ดี

 

คติธรรม ที่ ๒.

งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข

ทำงานให้สนุกเป็นสุขขณะทำงาน

 

คติธรรม ที่ ๓.

ตื่นตัว ว่องไว ก้าวหน้า

ทำงานแข่งกับเวลา

พัฒนาตัวเองและสังคม

ทำให้ชีวิตมีคุณค่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
31-1-12-02.jpg เอาภาพอีกมุมมานำเสนอหากไม่ทำไฮแล้วหลุด1716ลงมาการนับคลื่นจะเป็นแบบนี้นะครับ :Wt

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
31-1-12-03.jpgอยากให้ดูลักษณะฟิชเชอร์บีบีในกรอบสีเหลืองอันซ้ายกับอันขวา จะเห็นว่าเป็นการเริ่มคลื่น1จากการย่อในช่วงต้นปีเหมือนกันคล้ายๆกันมะครับ มาดูกันว่าจะดื้อขึ้นได้อีกกี่วัน :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่นเผยอัตราว่างงานปี 54 ลดลงแตะ 4.5% บ่งชี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 09:56:25 น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นในปี 2554 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มีอัตราว่างงาน 5% เป็นการสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นในภาพรวม ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวไม่นับพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ

ขณะเดียวกัน ข้อมูลอีกชุดหนึ่งระบุว่า อัตราการจ้างงานในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น โดยมีอัตราเฉลี่ยระหว่างตำแหน่งงานที่ว่างและผู้หางานเพิ่มขึ้นจาก 0.52 ในปี 2553 เป็น 0.65 แสดงให้เห็นว่าหากมีผู้หางาน 100 คน จะมีตำแหน่งว่างที่สามารถรองรับได้ 65 อัตรา

เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ในเดือนธ.ค. มีอัตราว่างงานซึ่งปรับขึ้นตามฤดูการเป็น 4.6% จากเดือนพ.ย.ซึ่งมีอัตราว่างงาน 4.5% ถือเป็นการปรับสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ส่วนในในปี 2554 มีผู้ว่างงานในญี่ปุ่น 2.84 ล้านคน ลดลง 330,000 คนเมื่อเทียบกับปี 2553 และมีการจ้างงาน 59.77 ล้านคน ลดลง 30,000 คน

เมื่อเทียบตามภาคอุตสาหกรรม มีการจ้างงานในภาคการแพทย์และภาคสวัสดิการเพิ่มขึ้น 230,000 คน เป็น 6.48 ล้านคน และการจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างยังทรงตัวที่ระดับ 4.73 ล้านคน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.t

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 09:43:55 น.

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,731.00 ต่อออนซ์ ลดลง 1.20 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลง เมื่อค่าเงินยูโร ร่วงลงแรง หลังจากการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป

 

Key Points in Gold Market

- ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,731 — 1,735 USDต่อออนซ์ ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานอยู่ระหว่าง 1,715.70 — 1,739.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม โดยในช่วงบ่ายวานนี้ราคาลงไปทำ low ระหว่างวันบริเวณ 1,715.70 เมื่อมีข่าวว่าการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนยังไม่บรรลุข้อตกลงได้ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป ทำให้มีความกังวลว่าการเจรจาอาจมีความล่าช้าเป็นผลให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่บริเวณ 1.30 USDต่อยูโร มีผลทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาน้ำมันปรับลดลง แต่ในช่วงเช้าวันนี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานมาอยู่ที่ระดับ 1.316 USDต่อยูโร และราคาทองคำปรับขึ้นรับจากข่าวผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปมีการตกลงกันในเรื่องการใช้มาตรการรัดเข็มขัด โดยประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ยอมรับข้อเสนอของเยอรมันในการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้นในการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรป

- ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียเปิดบวกในช่วงเช้าวันนี้ และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับบวกขึ้น และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเป็นบวก รับข่าวผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป และข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซเมื่อนายกรัฐมนตรีของกรีซออกมากล่าวว่า จะเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนให้สำเร็จภายในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน ตามข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งมีข่าวดี และข่าวร้ายสลับกัน นอกจากนี้ราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับค่าเงิน USD และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศออกมาค่อนข้างมาก

- กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวรับ 1,710 / 1,700 และแนวต้านบริเวณ 1,750/1,760 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระหว่างวันคาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,720/1,710 และมีแนวต้านบริเวณ 1,740/1,745 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,710 — 1,745 นักลงทุนเปิดสถานะ Long บริเวณ 1,715 ปิดทำกำไรเมื่อถึงแนวต้านบริเวณ 1,745 แล้วรอราคาย่อตัวเข้าเปิด Long ใหม่บริเวณแนวรับ 1,720/1,710

- ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ การเจรจาระหว่างเจ้าหนี้ภาคเอกชนและรัฐบาลกรีซ การเข้าซื้อทองคำของ SPDR โดยเมื่อวันศุกร์ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจำนวน 9.98 ตัน การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ค่าเงิน USD และค่าเงินยูโร

- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2011 ราคาบ้านเดือนพ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขประมาณการขั้นต้นสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2011 วันศุกร์ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนธ.ค.

- ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.53 USDต่อออนซ์ ปิดลดลง 0.26 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.04 — 34.02 ishares silver trust ซื้อโลหะเงินเพิ่มขึ้น 98.25 ตันรวมถือจำนวน 9,608.95 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.7/31.6 แนวต้านบริเวณ 34.3/35.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.6 — 35.3

- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,271.09 ตัน

 

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,724/1,710 และแนวต้านที่ 1,740/1,750 กราฟราย 240 นาที ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นไปชนแนวต้านที่ 1,650 จากสัญญาณทางเทคนิค ที่ Stochastic ปรับตัวชี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านไปได้ มีโอกาสย่อตัว เนื่องจากราคาทองคำอยู่ในโซน overbought ในรายวัน ซึ่งมีแนวรับสำคัญที่ บริเวณ MA 9 วัน ที่ 1,700 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,710 — 1,750 นักลงทุนระยะสั้นปิดทำกำไร และรอเปิด Long เล่นรอบใหม่บริเวณแนวรับ

++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.7/31.6 แนวต้านบริเวณ 34.3/35.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.6 — 35.3

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อสกัดเงินเยนผันผวน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 10:30:33 น.

นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการ "ขั้นเด็ดขาด" หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนในตลาดปริวรรตเงินตรา

"จุดยืนของผมยังไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือหากพบว่าสกุลเงินเยนมีความผันผวนมากจนเกินไปหรือมีการเก็งกำไรในตลาดปริวรรตเงินตรา เราก็จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างจริงจัง และจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเมื่อจำเป็น" นายอาซูมิกล่าวกับผู้สื่อข่าว

นอกจากนี้ นายอาซูมิยังได้แสดงความคาดหวังว่า การบรรลุข้อตกลงในที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวานนี้ จะนำเสถียรภาพมาสู่ตลาดการเงิน

"สภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย แต่อย่างไรก็ตาม วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจและราคาหุ้นของญี่ปุ่น ซึ่งผมหวังว่าความมีเสถียรภาพของยุโรปจะนำเสถียรภาพมาสู่ราคาหุ้นโดยรวม" นายอาซูมิกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

31-1-12-03.jpgอยากให้ดูลักษณะฟิชเชอร์บีบีในกรอบสีเหลืองอันซ้ายกับอันขวา จะเห็นว่าเป็นการเริ่มคลื่น1จากการย่อในช่วงต้นปีเหมือนกันคล้ายๆกันมะครับ มาดูกันว่าจะดื้อขึ้นได้อีกกี่วัน :gd

 

โดยปกติคลื่่น 1 rsi จะไม่ถึง 70 นะครับ ถ้าจะให้ถึง 70 จะมีคลื่น 3 กับ b ครับ แต่อย่างอื่่นความคิดเหมือนกันครับ คือน่าจะลงครับในไม่นานนี้

ถูกแก้ไข โดย mtts

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณย่าหยา คุณnews คุณginger คุณbmw 2770 และพี่ๆทุกท่าน ครับ เมื่อวานเกือบซื้อตามน้องทองไปแล้ว โชคดีนะครับ ขอถามนิดหนึ่งครับว่า doji มันคืออะไร แล้วดูอย่างไงครับ ขอบคุณครับ :17

 

หวัดดีคับ...เด็กอู่ทอง...เป็น อำเภออู่ทอง จ.สุพรรณหรือป่าวคับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger chez baskie30 bmw2770 ย่าหยา และทุกๆคน

ขอให้โชคดีกันทกุๆคนนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สื่อต่างประเทศเผยรัฐบาลไทยหนุนทวิตเตอร์เซ็นเซอร์ข้อความ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 11:32:34 น.

สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลไทยกลายเป็นรัฐบาลแรกที่ประกาศสนับสนุนมาตรการเซ็นเซอร์ข้อความบนทวิตเตอร์ หลังจากที่ทวิตเตอร์ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะอนุญาตให้มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่อาจจะละเมิดกฎหมายในบางประเทศ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดความเห็น

เว็บไซต์นสพ.เดอะ การ์เดียน รายงานว่า นางจีรวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวกับบางกอกโพสต์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวของทวิตเตอร์ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี พร้อมเผยว่า บริษัทอินเทอร์เน็ตต่างก็ให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกูเกิลหรือเฟซบุ๊ก

ปลัดไอซีทียังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยจะติดต่อกับทวิตเตอร์ในเร็วๆนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือ

ทั้งนี้ ตามกฎข้อบังคับนั้น ข้อความทวีตจากประเทศไทยอาจถูกลบและห้ามเผยแพร่ในประเทศหากได้รับการร้องเรียนจากบุคคล บริษัท หรือรัฐบาล อย่างไรก็ดี ผู้ใช้บริการทวิตเตอร์ในประเทศอื่นๆยังคงสามารถดูข้อความดังกล่าวได้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเศสเผยจำนวนบริษัทเปิดใหม่ปี 54 ลดฮวบ เหตุนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจซบเซา

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 11:08:38 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ Insee ฝรั่งเศสเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนบริษัทเปิดใหม่ในฝรั่งเศสปรับตัวลดลง 12% ในปี 2554 เนื่องจากนักลงทุนยังมีความลังเลในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา

รายงานของ Insee ระบุว่า จำนวนบริษัทจดทะเบียนในฝรั่งเศสปีที่แล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 549,800 บริษัท ลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 622,000 บริษัท โดยสาเหตุหลักมาจากยอดการลงทุนในภาคการบริการและอุตสาหกรรมที่ลดลง 20% และ 15% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงสดใส โดยมีบริษัทเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 6% ขณะที่จำนวนบริษัทใหม่ที่ดำเนินธุรกิจด้านประกันภัยลดลงราว 2% เมื่อเทียบรายปี

รายงานยังระบุด้วยว่า จำนวนบริษัทที่เจ้าของบริหารงานด้วยตนเองร่วงลงถึง 19% มาอยู่ที่ 550,000 บริษัท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนไม่เอื้ออำนวย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฝรั่งเศสตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 1% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 1.75% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินอัตราเติบโตไว้ที่เพียง 0.2%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มัณฑนา กิตติธรรมรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผอ.ไอเอ็มเอฟชี้เอเชียแกร่ง วางนโยบายยืดหยุ่นรับมือวิกฤตหนี้ยูโรโซนพร้อม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 11:21:11 น.

นายอานูป ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกประจำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆในเอเชีย รวมทั้งจีนด้วยนั้น มีมาตรการที่เพียงพอในการรับมือกับผลกระทบอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ในยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายซิงห์มองว่า แม้ว่าจะเกิดวิกฤตหนี้ในยูโรโซน ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเสี่ยงต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก แต่โดยทั่วไปแล้วเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในเอเชียสามารถปรับตัวรองรับกับความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลกได้ ทั้งยังช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้อีกด้วย

นายซิงห์เผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคและในประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอลงจนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของการส่งออก

อย่างไรก็ตาม นายซิงห์ระบุว่า จีนจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอยอย่างแน่นอน แม้ว่าจีนและประเทศอื่นๆในเอเชียจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่ลุกลามมาจากวิกฤตหนี้ในยูโรโซนก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนารายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการดำเนินนโยบายที่จะสามารถยืดหยุ่นรับมือกับสภาพความไม่แน่นอนได้

นายซิงห์ระบุว่า ประเทศในเอเชียเหล่านั้นมีหนี้สาธารณะในระดับต่ำ และยังสามารถออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อที่จะส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจและโครงข่ายความปลอดภัยในสังคมได้ในกรณีที่ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถลำเข้าสู่ภาวะถดถอยกลายเป็นจริงขึ้นมา

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เอเชียจะยังคงเติบโตได้อย่างสดใส ท่ามกลางแนวโน้มการขยายตัวทั่วโลกที่ซบเซาอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.2% ในปี 2555 และ 8.8% ในปี 2556

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.t

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ประชุม EU ไฟเขียวจัดตั้งกองทุนถาวร ESM, 25 ชาติลงนามสนธิสัญญาการคลัง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 31 มกราคม 2555 10:29:25 น.

การประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมลงมติให้มีการใช้สนธิสัญญาการคลังฉบับใหม่ เพื่อคุมเข้มวินัยด้านการคลัง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในกลุ่มเยาวชนในยูโรโซน โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะ

ข้อสรุปที่มีขึ้นภายหลังการประชุมในครั้งนี้ระบุว่า ผู้นำอียูได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการผลักดันให้เกิดความสมดุลระหว่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและรัดเข็มขัด เนื่องจากที่ประชุมตระหนักว่า การใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพียงอย่างเดียวยังไม่สามารถแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะที่กำลังลุกลามอยู่ในขณะนี้ และอาจจะส่งกระทบต่อการขยายตัวในระยะยาวของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้

นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปกล่าวภายหลังการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทยว่า ประเทศสมาชิกอียูที่จะเข้าร่วมและลงนามในสนธิสัญญาด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังและหนี้สินนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 25 ประเทศด้วยกัน ขณะที่อังกฤษและสาธารณรัฐเชค ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว

นายฟาน รอมปุย และนายโฮเซ มานุเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า 17 ประเทศยูโรโซนจะลงนามในสนธิสัญญาการคลังในเดือนมี.ค.นี้ และสนธิสัญญาดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ จากการให้สัตยาบันของ 12-17 ประเทศสมาชิกยูโรโซน

ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำอียูมุ่งเน้นในเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจและการจ้างงานให้เติบโต พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนใช้มาตรการที่จะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน เพราะการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพียงอย่างเดียวอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตในระยะยาวของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ และอาจจะผลักดันให้ประเทศเหล่านี้ตกอยู่ในวงจรของเศรษฐกิจขาลง

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้นำอียูยังมีมติรับรองข้อตกลงที่จัดทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.

"เราจะขอให้รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวในที่ประชุมยูโรกรุ๊ปครั้งหน้า เพื่อที่ ESM จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้เป็นต้นไป" นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปกล่าวภายหลังการประชุมอียูเสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ ESM จะเริ่มดำเนินการเร็วกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ในช่วงแรกราวหนึ่งปี และจะทำหน้าที่แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราวที่เคยให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ไอร์แลนด์และโปรตุเกส

"การผลักดันให้ ESM มีผลบังคับใช้เร็วขึ้น จะช่วยป้องกันการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน และจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดการเงินด้วย" นายฟาน รอมปุยกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...