โอกาส "เงิน" (จริงๆ) : ระยะประชิด

[darefas 27]

พี่หมอนี่มีความรู้รอบด้านจริงๆ อิอิ ^^

[siamsilver 15]

ไช่ครับ PSLV คือ sprott physical trust fund. มีโลหะเงินสำรองจริงๆ แต่เขาคิดค่า premium ที่ 20%...แต่ออกมาก็ขายหมดอะครับ....ซื้อขายโลหะเงินแท่งจริงๆ ^^

[ส้มโอมือ 4,910]

อ้องี้นี่เองครับ ขอบคุณครับพี่หมอ...จะรีบค้นหาเพิ่มเติมในส่วนของข้อความแรกครับ......เฮ่ยrujs,v(O_o)

 

ข้อความแรก ค้นได้ความคืบหน้าแจ้งผมด้วยนะ ถ้ามีUsername พร้อม pass word ด้วยยิ่งดีครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

หวัดดีคับ ทุกๆคน ^^ ยินดีที่่ได้รู้จักนะครับ ติดตามเราได้ใน facebook...แต่ผมจะแวะเข้ามาในนี้บ่อยๆนะ ครับ เวลามีคนร่วมอุดมการณ์อยู่ด้วยแล้วมันสบายใจ 555

แล้วเรื่อง eric sproutt เห็นเขายื่นขอจะเพิ่มทุน อีก 1.5 billion dollar ใน 25 เดิอน .. หวังว่ามันคงผ่านนะครับ ครั้งที่แล้วที่เขาเปิด pslv เงินขึ้นไปมากมาย ถ้าเพิ่มได้อีกทีนี้

ไม่ต้องกลัวเลยครับ พุ่งกระฉูดแน่ ^^

 

เดี๋ยวผมจะลองซื้อเหรียญสักนิดหน่อย นำทางให้เพื่อนๆก่อนก็แล้วกัน ไม่มีใครลองสั่งนำทางก่อน เดี๋ยวทุกคนอดเหรียญสวยๆกันพอดี เดี๋ยวเลิกงานเย็นนี้จะติดต่อไปครับ ถ้าเหรียญที่ผมสั่งได้ก่อนวันสัมมนา ผมจะเอาไปให้เพื่อนๆดูนะ(คนที่ไม่ได้สัมมนาจะแวะมาดูเหรียญด้วยก็ได้

 

Crash JP Morgan ,Buy Silver

ถูกแก้ไข มกราคม 14, 2012 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

http://www.youtube.com/watch?v=PqFpl31UwPI

 

อัปโหลดโดย HiredGunz98 เมื่อ 30 ก.ค. 2009

 

China has introduced its first-ever investment opportunity for silver bullion. The bars are available in 500 grams, 1 kilogram, 2 kilograms and 5 kilograms with a purity of 99.9 percent.

 

เรื่องรัฐบาลจีนกระตุ้นให้ประชาชนซื้อทองคำ ผมรู้มาหลายปีแล้ว แต่เรื่องกระตุ้นให้ซื้อโลหะเงินผมรู้มาประมาณปีเดียว(เพิ่งสนใจโลหะเงินมาประมาณ1ปีเอง)

แต่ดูจากวันที่โพสใน youtube 30 ก.ค. 2009

 

ผมเอาข้อมูลมาจาก

http://www.facebook.com/SiamSilver

ถูกแก้ไข มกราคม 14, 2012 โดย ส้มโอมือ

[mdaddy 2,443]

ดีใจที่ยังมีรัฐบาลที่ไม่สับขาหลอกประชาชนเหลืออยู่ในโลกนี้

ใครลงทุนเมื่อ 30 ก.ค. 2009 แม้จะเป็นตอนนี้ก็คงยิ้มไม่หุบ

เพราะราคา spot แค่ $13.6 เองงงง..

 

http://www.youtube.com/watch?v=PqFpl31UwPI

 

อัปโหลดโดย HiredGunz98 เมื่อ 30 ก.ค. 2009

 

China has introduced its first-ever investment opportunity for silver bullion. The bars are available in 500 grams, 1 kilogram, 2 kilograms and 5 kilograms with a purity of 99.9 percent.

 

เรื่องรัฐบาลจีนกระตุ้นให้ประชาชนซื้อทองคำ ผมรู้มาหลายปีแล้ว แต่เรื่องกระตุ้นให้ซื้อโลหะเงินผมรู้มาประมาณปีเดียว(เพิ่งสนใจโลหะเงินมาประมาณ1ปีเอง)

แต่ดูจากวันที่โพสใน youtube 30 ก.ค. 2009

 

ผมเอาข้อมูลมาจาก

http://www.facebook.com/SiamSilver

[ส้มโอมือ 4,910]

ดีใจที่ยังมีรัฐบาลที่ไม่สับขาหลอกประชาชนเหลืออยู่ในโลกนี้

ใครลงทุนเมื่อ 30 ก.ค. 2009 แม้จะเป็นตอนนี้ก็คงยิ้มไม่หุบ

เพราะราคา spot แค่ $13.6 เองงงง..

 

ถ้าเป็นรัฐบาลไทยบอกให้ซื้อ ประชาชนจะกล้าซื้อกันมั้ยนะ

[mdaddy 2,443]

ถ้าเป็นรัฐบาลไทยบอกให้ซื้อ ประชาชนจะกล้าซื้อกันมั้ยนะ

 

ความเห็นส่วนตัว ..

 

ถ้าบอกอย่างเดียว คงฟังผ่านๆ

แต่ถ้าบอกด้วย พิมพ์เงินแท่งเองด้วย ช่วยมีส่วนในการกำหนดราคากลาง และการซื้อคืนด้วย

 

คงจะหันมาศึกษาต่อว่าทำไม เพราะอะไร อย่างไร ฯลฯ

[ส้มโอมือ 4,910]

ความเห็นส่วนตัว ..

 

ถ้าบอกอย่างเดียว คงฟังผ่านๆ

แต่ถ้าบอกด้วย พิมพ์เงินแท่งเองด้วย ช่วยมีส่วนในการกำหนดราคากลาง และการซื้อคืนด้วย

 

คงจะหันมาศึกษาต่อว่าทำไม เพราะอะไร อย่างไร ฯลฯ

 

รัฐบาลจีนเขาทำตามข้างบนเลย แต่รัฐบาลของเราเราคงให้ไปซื้อทองและเงินกระดาษแทน ใครซื้อกองทุนทองคำวันทำการสุดท้ายของปีที่แล้วได้แต่ทำใจจริงๆ

[mdaddy 2,443]

เอิ๊กๆ

 

รัฐบาลของเรา ขออนุญาตไม่พาดพิงดีกว่าครับ

 

จำได้ที่เคยแปลข่าวเกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุนการซื้อทองคำในประเทศจีนแล้ว

เหมือนกับที่เขาสนับสนุนการซื้อแร่เิงินเมื่อปี 2009 เลย

 

ถ้าการสนับสนุน มีการออกแรงทำอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

ก็น่าที่จะหันมามอง และพินิจพิจารณา

 

แต่ถ้าสนับสนุนแบบปากเปล่า, ตั้งงบประมาณ, และตั้งคณะกรรมมาธิการศึกษาความเป็นไปได้ ฯลฯ

ก็ขอดูผ่านๆไปก่อนก็แล้วกัน

 

ที่ผมพยายามแปลบทความ / ข่าว ให้มากที่สุดเท่าที่จะมีปัญญา

ส่วนหนึ่งก็เพราะ ไม่อยากให้คนที่ไม่ใช่ "มืออาชีพ"

ไปหลงซื้อเงินกระดาษ ทองกระดาษ

โดยที่ไม่เข้าใจความเสี่ยงที่แท้จริงของมันครับ

 

รัฐบาลจีนเขาทำตามข้างบนเลย แต่รัฐบาลของเราเราคงให้ไปซื้อทองและเงินกระดาษแทน ใครซื้อกองทุนทองคำวันทำการสุดท้ายของปีที่แล้วได้แต่ทำใจจริงๆ

ถูกแก้ไข มกราคม 14, 2012 โดย wcg

[leo_attack 579]

นั่นสิครับของเราคงไม่พ้นต้องไปซื้อกับธนาคารอีกเช่นเคยน่าห่วงมากมาย

 

แล้วตอนนี้ก็มี RMF Gold ลดภาษีมาล่อแล้วด้วย ไม่รู้ต่อไปจะมี กอง Silver ด้วยมั้ย ......แล้วกว่า RMF จะเอาออกมาใช้ได้มันต้องอายุ 55 up =_="

 

แถมตอนนี้ที่เจอมีกองเดียวเองของธนชาติที่ไม่เอาไปลงกับกอง spdr สิงค์โปร์ซึ่งคงไม่ต้องบอกสรรพคุณว่าปั่นกันแค่ไหน

 

ยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว กลับมาซื้อของเหมือนเดิมดีกว่า

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

ปี2009ยอดขายเหรียญเงินของอเมริกา 28,766,500เหรียญ เดือนที่ขายมากที่สุด มีนาคม 3,132,000เหรียญ

http://www.usmint.go...sales&year=2009

 

ปี2010ยอดขายเหรียญเงินของอเมริกา 34,662,500 เหรียญ เดือนที่ขายมากที่สุดพฤษจิกายน 4,260,000เหรียญ

http://www.usmint.go...sales&year=2010

 

ปี2011ยอดขายเหรียญเงินของอเมริกา 39,868,500 เหรียญ เดือนที่ขายมากที่สุดมกราคม 6,422,000เหรียญ

http://www.usmint.go...sales&year=2011

 

ปี2012 ถึงตอนนี้ยอดขาย4,597,000

http://www.usmint.go...sales&year=2012

 

ข้อมูลนี้ผมเห็นจากโฟสของ http://www.facebook.com/SiamSilver ในหน้าเดียวกันมีข้อมูลการขายเหรียญทองคำด้วยนะ แต่ตัวเลขของทองคำมีตัวเลขบางอย่างที่ต่างจากเหรียญเงิน ดูแล้วงงนิดๆผมเลยไม่ได้สรุปให้นะ

ถูกแก้ไข มกราคม 16, 2012 โดย ส้มโอมือ

[Waiyakon 4]

รบกวนขอสอบถามหน่อยครับ

 

1.อยากทราบวิธีคำนวนครับ เงิน 1 Oz เท่ากับเงินกี่บาทครับ หากเงิน 1 กิโลเท่ากับ 65.6 บาท หาในเนตแล้วไม่เจอ เจอแต่ของทองคำ

 

2.ถ้าเราซื้อแร่เงินมาที่ 30.00 อยากทราบว่ามันต้องขึ้นไปที่เท่าไรถึงจะเริ่มมีกำไรครับ คิดแต่ตอนซื้ออย่างเดียวไม่เคยคิดถึงตอนขายคืนเลย ^ ^

 

ขอบคุณครับ

ถูกแก้ไข มกราคม 17, 2012 โดย Waiyakon

[ส้มโอมือ 4,910]

เงิน เงิน เงิน ตอนที่ 3: มูลค่าที่สูงกว่าราคา Price vs. Value (บทความโดย OPAC)

 

 

โดย Siam Silver เมื่อ 17 มกราคม 2012 เวลา 16:28 น.

“I can promise you that you will always receive your social security paycheck in the future, but the questions is, what is it going to buy?”

“ผม สามารถสัญญาว่าคุณจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อไปเรื่อยๆในอนาคตอย่าง แน่นอน แต่คำถามก็คือ คุณจะสามารถใช้เงินที่ได้รับนี้ได้ซื้ออะไรได้บ้าง”

– Ron Paul

 

คำ ถามหลักที่อยู่ในใจของนักลงทุนทุกวันนี้คือ “ถ้าลงทุนแล้วผมจะได้กำไรเท่าไหร่?” ซึ่งในการที่จะพิจารณาหาผลกำไรนี้ นักลงทุนร้อยทั้งร้อยอาศัยตัวบ่งบอกสิ่งเดียวที่นำมาใช้วัดผลงาน นั่นก็คือตัวเลขจำนวนเงินตรา... สมมุติว่าวันนี้คุณลงทุนไป 1000 บาท หนึ่งปีให้หลังคุณได้เงินกลับคืนมาทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 1300 บาท ฉะนั้นแสดงว่าคุณได้กำไร 300 บาท ภายใยระยะเวลา 1 ปีของการลงทุน...

 

แต่ ท่านทราบหรือไม่ว่าวิธีคำนวณแบบนี้ใช้ได้แต่เฉพาะในอดีตก่อนปี 1971 เท่านั้น.. เพราะทุกวันนี้การกำหนดของสินค้าแทบทุกชนิดเกิดขึ้นจากการซื้อขายในตลาดหุ้น เป็นหลัก และมันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามกลไกลของธรรมชาติ รวมทั้งการทุจริตปั่นและปรับแปลงราคาเกิดขึ้นในตลาดหุ้นนั้น หลังจากที่ money ได้กลับกลายเป็นเพียง currency ...

 

ก่อนที่จะอธิบายถึงรายละเอียด ผู้เขียนอยากจะให้ทำความเข้าใจกับคำว่า “มูลค่า” (value) และ “ราคา” (price) เสียก่อน... เราคงจำกันได้คราวที่แล้วว่า “ราคา” กำหนดขึ้นได้จากความสัมพันธ์ของ ปริมาณของความต้องการ (demand) และปริมาณสินค้า (supply) ซึ่งตามกฎของธรรมชาติแล้ว ถ้าความต้องการสูงแต่ปริมาณสินค้าน้อย ก็จะส่งผลให้ราคามีมูลค่าสูงขึ้น โดยปัจจุบัน ตลาดหุ้นทำหน้าที่เป็นตัวกลางการซื้อขาย และมีเงินตราสกุล USD เป็นเครื่องมือสำหรับการวัดราคา

 

ส่วนในเรื่องของ “มูลค่า” ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักแล้ว จริงๆมูลค่าก็คือสิ่งเดียวกับราคา เพียงแต่ว่าจะต้องใช้ money ไม่ใช่ใช้ currency ในการกำหนดของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสถานะเงินตราในปี 1971 จึงส่งผลให้ในปัจจุบันนี้ มูลค่าได้บิดเบือนออกไปจากราคาเป็น อย่างมาก ดังนั้นการหามูลค่าสิ่งของในปัจจุบันจึงทำได้อีกวิธีโดยการนำสิ่งของสองสิ่ง มาเปรียบเทียบกัน ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสาร 1 กิโลกรัมมีมูลค่าเท่ากับ น้ำมัน 2 ลิตร หรือ ปลา 1 ตัวมีมูลค่าเท่ากับ ไข่ 10 ฟอง เพราะกลไกลของตลาดตามธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนแปลง สังเกตุได้จาก 50 ปีที่แล้ว ปลา 1 หนึ่งตัวแลกไข่ได้ 10 ฟอง ต่อให้อีก 100 ปีข้างหน้าผู้เขียนยังเชื่อว่าปลา 1 ตัวก็ยังแลกไข่ได้ 10 ฟองเหมือนเดิม

 

ถาม ว่าทำไมต้องคำนวณด้วยวิธีนี้ ผู้เขียนขอหยิบตัวอย่างข้างต้นมาอีกครั้งหนึ่ง สมมุติวันนี้คุณลงทุนไป 1000 บาท และได้กำไรมา 300 บาทภายใน 1 ปี... แต่เจ้าตัว 1000 บาทในปีแรกนี้นั้นเทียบเท่าได้กับข้าวสาร 50 กิโลกรัม แต่แล้วพอเวลาผ่านไป 1 ปีให้หลัง คุณได้เงินรวมต้นทุนเป็น 1300 แต่ดันเทียบเท่ากับข้าวสารได้เพียง 50 กิโลกรัมเหมือนเดิม นั่นเท่ากับว่าคุณไม่ได้กำไรอะไรเลยในการลงทุนนี้เมื่อเทียบคำนวณด้วยมูลค่า ข้าว เพราะราคาข้าวนั้นได้ปรับตัวสูงขึ้นตาม ซึ่งหลายท่านคงคิดว่าการสมมุติในตัวอย่างแบบนี้ดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อไป หน่อย ดังนั้นผู้เขียนจะขอนำข้อมูลจริงมาเปรียบเทียบก็แล้วกัน

 

ใน ปี 1998 จนถึงปี 2008 การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของดัชนี Dow Jones พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการจากราวๆ 7000 เหรียญ มาจบลงที่ราวๆ 13,000 เหรียญ ผู้คนต่างฮือฮาและภูมิใจกับการลงทุนนี้ด้วยผลกำไรเกือบเท่าตัวสำหรับรอบ10ปี แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าจริงๆแล้วดัชนี Dow นั้นได้พุ่งดิ่งลงในช่วงระยะเวลานี้เมื่อเทียบมูลค่ากับ น้ำมันดิบ พืชผลเกษตร โภคภัณฑ์ และ ทองคำ

 

ซึ่งตามสถิติแล้ว น้ำมันดิบ 800 บารเรลเทียบเท่าได้กับดัชนี Dow 1 ตัวเมื่อปี 1998 แต่พอมาปี 2008 ท่านจะสามารถนำดัชนี Dow 1 ตัวไปแลกน้ำมันดิบได้เพียง 150 บารเรลเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับทองคำ ดัชนี Dow 1 ตัวเมื่อปี 1998 แลกทองคำได้ 45 ทรอยเอานซ์ แต่พอมาปี 2008 แลกได้เพียง12 ทรอยเอานซ์... ดังนั้นดัชนี Dow จึงถือว่าขาดทุนเมื่อเทียบเป็นมูลค่าสินค้าที่จับต้องได้ การคำนวณเช่นนี้จะทำให้เราทราบมูลค่าที่แท้จริงของการลงทุนแทนที่จะทราบ เพียงผลกำไรของราคาที่วัดด้วยสกุลเงิน

 

เหตุผลหลักที่เราต้อง เทียบหามูลค่าก็เพราะว่าเราไม่สามารถไว้ใจความคงค่าของเจ้า currency นี้ได้... ท่านทราบหรือไม่ว่าเงินตราทุกสกุลบนโลกตั้งแต่ปี 1971 เป็นต้นมาได้สูญมูลค่าไปเฉลี่ย 80% จากมูลค่าเดิมที่มันเคยมีอยู่ ซึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญค่าก็คือ inflation หรือที่เรียกว่าเงินเฟ้อ ที่เกิดขึ้นจากการปล่อยปริมาณเงินตราเข้ามาในระบบอย่างมหาศาลของธนาคารกลาง ที่มีอำนาจควบคุมเงินตรา ผ่านระบบหนี้สินของรัฐและการออกสินเชื่อต่างๆ

 

ซึ่ง ถึงแม้ว่าพวกธนาคารกลางทั่วโลกจะประกาศอัตตราเงินเฟ้อออกมาตลอดเวลาให้ ประชาชนไม่แตกตื่นก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วการคำนวณอัตราเงินเฟ้อของธนาคารเหล่านี้เป็นไปอย่าง แยบคายในการปกปิดความเป็นจริง หนึ่งในวิธีนั้นก็คือการไม่รวมหมวดพลังงานเข้าไปสูตรคำนวณอัตราเงินเฟ้อ ทำให้อัตตราเงินเฟ้อที่คำนวณออกมานั้นดูต่ำกว่าความเป็นจริง

 

ทั้ง หมดนี้ทำให้เราเข้าใจถึงคำถามยอดฮิตที่ผู้เขียนได้พบเสมอที่ว่า “แล้วทองคำกับโลหะเงินล่ะ มันจะขึ้นไปอีกเยอะมั๊ย” ซึ่งคำตอบที่แท้จริงแล้วก็คือมันไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มขี้นไปไหนเลย ทุกๆอย่างรอบกายเรายังคงมีอยู่เหมือนเดิม แต่เจ้าตัวเงินตราต่างหากที่สูญมูลค่าลงไปทุกๆวัน เมื่อปริมาณจำนวนเงินตราใหม่หลั่งไหลเข้ามาในระบบมหาศาล เงินตราที่มีอยู่จึงมีค่าลดลงและทำให้สิ่งของทุกๆอย่างดูแพงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากจะพูดถึงเรื่องของราคาทองคำและโลหะเงินที่แท้จริงโดย เทียบกับมูลค่าเงินตราในปัุจจุบันแล้ว จากที่ผู้เขียนค้นคว้าข้อมูลมาจากหลายๆแห่ง มูลค่าทองคำเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ทุกวันนี้ ควรจะต้องอยู่ที่อย่างน้อย 5,000-10,000 USD/oz. ส่วนมูลค่าโลหะเงินเมื่อเทียบกับดอลล่าร์แล้ว ควรที่จะต้องอยู่ที่อย่างน้อย 225 USD/oz.

 

จะเห็นได้ ว่าราคาทุกวันนี้มันเป็นเรื่องที่หลอกลวงตาอยู่ นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาก่อนการลงทุนใดๆก็ตาม เราจะต้องตัดการคิดคำนวณออกมาเป็นสกุลบาทหรือดอลล่าร์ออกไป ถ้าลองคิดดูเล่นๆท่านอาจจะแปลกใจที่พบว่า 2 ปีก่อนท่านทำงานได้เท่ากับทองคำหนัก 1 บาทต่อเดือน... แต่ทั้งๆที่ได้โบนัสและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นกลับมาพบว่าปีนี้เงินเดือนของ ท่านนั้นเทียบเท่าได้เพียงทองคำหนัก 3 สลึงต่อเดือนเท่านั้นเอง... ซึ่งเช่นนี้ท่านต้องไปร้องเรียนเจ้านายแล้วบอกว่า "มาตัดเงินเดือนผมทำไม??"

 

http://www.facebook.com/notes/siam-silver/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-3-%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2-price-vs-value-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2-opac/323241514382093

ถูกแก้ไข มกราคม 17, 2012 โดย ส้มโอมือ