ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

 

ขอบคุณค่ะ คุณ ginger ซึ้งอ่ะ :10 รู้จักฮาจิจากหนังสือการ์ตูน วันนี้รู้ประวัติละ รักฮาจิจัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โอกาสพิเศษ วันดีๆ วันที่่อยากให้ใครสักคนหรือหลายๆคนมีความสุข

 

เพื่อคนพิเศษ คนที่เราเคารพ คนที่แสนรัก

 

คริสมาส ปีใหม่ .... ....หรือวันที่นึกอยากให้...

 

 

 

 

 

ว้าว :30 แวะเข้ามาอ่านก่อนนอน วันนี้สงสัยหลับฝันดี แค่เห็นก็มีความสุขแล้วค่ะ ^ ^ อยากกด like ให้ 20 ครั้งไปเลย :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้ะ ginger หนังของ ฮาจิ เป็นวีดีโอย่าหยาดูแล้วดูอีก ทุกครั้งที่ดู ก็ต้องน้ำตาไหลทุกที สงสารในความภักดี

 

ความกตัญญู ความรักและความผูกพันของฮาจิ ดีใจนะที่ได้มาอ่านเรื่องของฮาจิอีก คงไม่ต้องบอกนะ รู้สึกยังงัย

 

แต่ชอบนะที่นำมาลงให้ได้อ่านอีก ขอบคุณมากๆนะ ginger :uu

 

 

 

1459775db.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชวนคิดชวนทำ : 19 ข้อคิด พิชิตความผิดหวัง blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2554 14:44 น.

 

Share6

blank.gif TabOver.gif คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 554000016027301.JPEG

554000016027302.JPEG

blank.gif blank.gif ใครบางคนเคยกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า “เราไม่มีทางจะเรียนรู้ในการฝึกความกล้าหาญและความอดทนได้เลย หากมีแต่ความสมหวังและสุขสบายบนโลกใบนี้”

 

ความผิดหวังทำให้ทุกข์ใจ และอาจส่งผลร้ายต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมา แต่หากรู้จักเรียนรู้ที่จะเอาชนะความผิดหวังให้ได้ ก็เหมือนมีเกราะป้องกันภัยให้กับใจและกายของตัวเอง

 

บางที 19 ข้อคิดสั้นๆต่อไปนี้ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันความผิดหวังให้คุณ

 

1. เพชรในตม : อย่ามองว่า สิ่งไม่ดีหรือเรื่องไร้ สาระทุกอย่าง จะต้องเลวร้ายเสมอไป เพราะมีคำกล่าวในพุทธศาสนาว่า “ดอกบัวจะเบ่งบานอย่างงดงามที่สุด ต้องหยั่งรากลึกถึงโคลนตม” หรือที่มักพูดกันว่า ดอกบัวเกิดจากโคลนตม

 

2. ทำสิ่งที่ดีเยี่ยม : จงปล่อยให้ความผิดหวัง เป็นแรงผลักดันให้คุณทำสิ่งที่ดีเยี่ยม ดังเช่นไข่มุกที่เกิดจากเม็ดทรายเล็กๆที่หลุดเข้าไปในเปลือกหอยนางรม ทำให้มันระคายเคือง จึงขับสารเคมีออกมาเคลือบจนกลายเป็นไข่มุกที่สวยสดงดงาม

 

3. ทำงานหนัก : ความสำเร็จเกิดจากพรสวรรค์ แค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซนต์คือการทำงานหนัก

4. วางรากฐานให้มั่นคง : เปรียบดั่งการปลูกต้นไผ่ ซึ่งเป็นพืชที่โตเร็วที่สุดโนโลก ตอนเริ่มต้น มันอาจดูไม่สวยงาม เพราะไร้กิ่งก้าน แต่มันมีรากที่อยู่ลึก และแตกแขนงไปทั่ว พร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เราจึงควรวางรากฐานชีวิตให้มั่นคง แข็งแรง เพื่อการเติบโตอย่างถาวร เช่นกัน

 

5. มีความเพียร : จงมีความเพียรดั่งพระมหาชนก ที่เรือถูกพายุพัดล่มลงในมหาสมุทร ลูกเรือตายหมด เหลือเพียงพระมหาชนก ที่ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทร ด้วยความเพียร 7 วัน 7 คืน จนนางมณีเมขลาได้มาช่วยไว้

 

6. อย่าลัดขั้นตอน : เฉกเช่นวงจรชีวิตของผีเสื้อ ขณะที่มันดิ้นรนโผล่ออกจากรูเล็กๆของรังไหม ปีกก็จะค่อยๆงอกออกจากลำตัว แต่หากคุณหวังดี อยากช่วยผีเสื้อให้ออกมาโดยเร็ว จึงช่วยเปิดรูด้วยการทำลายรังไหม คุณรู้มั้ยว่า การทำเช่นนั้นเป็นการลัดวงจรการเจริญเติบโตของผีเสื้อ ทำให้ปีกจะไม่งอกออกมา หรือแม้ว่างอก ก็จะไม่สมบูรณ์สวยงาม

7. มีพลังเชื่อมั่น : จงเข้าใจว่า ปัญหาและอุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้น ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย ควรเผชิญหน้ากับมันและพูดว่า “ฉันจะมีพลังมากกว่าแก แกไม่อาจเอาชนะฉันได้หรอก” ยิ่งคุณมีพลังเหนือกว่ามากเท่าใดยิ่งดี

 

8. มีรอยร้าวบ้าง : รอยร้าวหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ อาชีพการงาน หรือแผนการในชีวิต มิได้หมายความว่า มันจะทำให้ชีวิตของคุณล่มสลายลง

 

เลนเนิร์ด โคเฮน ชาวแคนาดา อดีตพระสงฆ์ในพุทธศาสนาบอกว่า “รอยร้าวที่เกิดขึ้นในทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้แสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาได้”

 

9. เขียนไดอารี่ : มีงานวิจัยทางจิตวิทยาระบุว่า การเขียนบันทึกระบายความรู้สึกเป็นทุกข์ เจ็บปวดและเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ จะช่วยผ่อนคลายความเครียด และเยียวยารักษาใจให้ดีขึ้นได้

 

10. ถอยห่างสักก้าว : บางครั้งคุณไม่อาจมองเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดจนกว่าจะถอยห่างออกไป เพราะยามอยู่ใกล้ สิ่งที่เห็นก็คือจุดต่างๆ หลายรูปร่างและสีสัน แต่เมื่อคุณถอยออกไป มองจากระยะไกล คุณจะเห็นจุดต่างๆเหล่านั้นเป็นภาพที่ปรากฏเด่นชัดขึ้น เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมีปัญหา ถอยมาสักเล็กน้อย แล้วพินิจมัน คุณจะเห็นปัญหาชัดเจนขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่หนทางแก้ไขที่ถูกต้อง

 

11. ล้มแล้วต้องลุก : สุภาษิตญี่ปุ่นสอนว่า “ล้ม 7 ครั้ง ลุกขึ้นยืน 8 ครั้ง” โดยไม่ได้บอกให้นั่งลงเมื่อเหนื่อยล้า หรือล้มคลานยามหวาดกลัว ประเทศญี่ปุ่นจึงสามารถ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะประสบมหันตภัยสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011

 

12. ผิดเป็นครู : ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด ดังนั้น จึงมีคำกล่าวว่า “ผิดเป็นครู” เพื่อให้นำบทเรียนในอดีตที่ผิดพลาดมาศึกษาใคร่ครวญ ทบทวนเรื่องความผิดหวังและผิดพลาด เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

 

13. เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง : เมื่อเกิดปัญญา เห็นจุดบกพร่องแล้ว ถือเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งให้ดีกว่าเก่า

 

14. เดินหน้าไปเรื่อยๆ : เมื่อคุณเดินมาถึงทางแยกบนถนน จงเดินต่อไป เพราะนั่นหมายความว่า คุณจะเลือกเดินไปทางไหน ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ขอให้เดินต่อไป

 

15. เมตตาต่อตัวเอง : อย่าดุด่าว่ากล่าวตัวเอง แต่จงให้ความรักและเมตตาตัวเอง เหมือนที่คุณปลอบโยนผู้อื่นยามที่เขามีทุกข์

16. ไปให้ตรงเป้าหมาย : บางครั้งความล้มเหลวผิดหวังที่เกิดขึ้น เป็นเหมือนข้อสะกิดใจให้คุณฉุกคิดได้ว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้นอยู่หรือไม่

 

17. เวลาและวารี ไม่เคยคอยใคร : บางช่วงชีวิตที่ประสบอุปสรรค คุณต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไข และก้าวผ่านความทุกข์ยากนั้นไปให้ได้ เพราะชีวิตไม่อาจหยุดอยู่กับที่ ดั่งเวลาและสายน้ำที่ไหลผ่านไปไม่เคยหยุดนิ่ง

 

18. เชื่อมั่นในมหัศจรรย์ของชีวิต : ทุกเช้าที่ตื่นนอน จงบอกตัวเองเสมอว่า วันนี้คุณจะคิดดี พูดดี ทำดี แล้วคุณจะได้เห็นความมหัศจรรย์เกิดขึ้น เพราะคุณได้ดึงพลังบวกเข้ามาในชีวิต ทำให้เกิดสติปัญญา พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาที่เข้ามาในแต่ละวันให้ลุล่วงไปด้วยดี

 

19. อย่าสิ้นหวัง : มีเพียงสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหมดไปจากใจคน นั่นคือ ความหวัง ขอให้คุณหมั่นเติมพลังใจให้ตัวเองบ่อยๆ และพยายามมุ่งมั่นทำในสิ่งที่คุณต้องการให้สำเร็จ

 

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 132 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2554 โดย ประกายรุ้ง)

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ kungnang jojosung win win fung foo ย่าหยา ลูกน้ำเค็ม เด็กสยาม พวงชมพู primmark หัดเล่นgf mateene

 

และเพื่่่่่๋อนๆทุกคนที่เป็นกำลังใจ ^______^

 

ความสุขอยู่ใกล้ๆ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า

 

ยิ้มรับกับความสบายใจเล็กๆที่อยู่รอบๆตัว

 

ยื่นมือรับน้ำใจที่คนรอบข้างมีให้แม้จะเล็กน้อย....

 

พอใจที่จะเป็นผู้ให้แล้วเราจะได้รับรอยยิ้ม

 

ให้เพื่อคนที่อ่อนล้าจะมีแรงสู้ต่อ

 

ให้กำลังใจ ความช่วยเหลือที่จำเป็น

 

อย่ารอให้ความสุขมาเยือน เพราะ ความรู้สึกดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนี่ล่ะ

 

ขอให้ทุกคนมีความสุข อยู่ดีสบายใจ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“สืบชะตาสะพานสามช่วง-สืบชะตาน้ำ” ถวายในหลวง ความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของชาวดาราอั้ง blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2554 14:19 น.

 

Share79

blank.gif 554000016005002.JPEG

เดินข้ามผ่านสะพานสามช่วง

 

http://www.manager.c...D=9540000151314

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บมาฝากจริงๆ

 

มีความสุขเพราะใจสบาย มีวิธีคิดให้สบายใจ

 

ให้ รอ พอ ปลง

 

มองฟ้าก็เห็นความสบายใจ เห็นรู้แค่มันก็เป็นเช่นนี้เองล่ะนะ

 

อะไรก็แค่นี้เอง เถอะ

 

เป็นสุขสบายใจกับเรื่องง่ายๆ ก็ดีเอง

 

 

นิทานเซน :บูชาสิ่งใด? blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2554 08:13 น.

 

Share109

blank.gif blank.gif 554000017266601.JPEG ภาพจาก art668.com.cn blank.gif 《求人不如求己》

 

มีนิทานเซนที่น่าสนใจหลายเรื่อง เกี่ยวกับ "ซูตงโพ(苏东坡)" ยอดนักกวีและนักปกครองในสมัยซ่งใต้ กับอาจารย์เซนฝออิ้น ณ วัดจินซาน

 

ครั้งหนึ่งอาจารย์เซนฝออิ้นและซูตงโพเดินทางไปกราบพระยังวัดหลิงอิ่น ณ เมืองหางโจว เมื่อเข้าไปในอุโบสถ อาจารย์เซนฝออิ้นจึงกราบลงที่เบื้องหน้ารูปสลักไม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ภายใน

 

เห็นดังนั้น ซูตงโพก็เอ่ยถามขึ้นว่า "ผู้คนพากันกราบไหว้ สวดมนต์บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม แต่ไฉนในพระกรของพระองค์ก็มีประคำสำหรับสวดมนต์คล้องไว้เช่นเดียวกับคนธรรมดา อย่างนั้นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงสวดมนต์บูชาต่อผู้ใด?"

 

อาจารย์เซนฝออิ้นตอบว่า "บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมเช่นกัน"

 

ซูตงโพจึงแย้งว่า "บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม? นั่นใยมิใช่พระโพธิสัตว์กวนอิมสวดมนต์บูชาตนเองหรือ?"

 

อาจารย์เซนฝออิ้นจึงตอบว่า "นั่นเพราะพระองค์ทรงกระจ่างในใจมากกว่าเหล่าเวไนยสัตว์ ว่าที่แท้แล้ว ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่างไรเล่า"

 

ปัญญาเซน : ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทุกข์จักดับได้ด้วยปัญญาแห่งตน

 

ที่มา http://www.360doc.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15-10.gif

 

ใจ เอ๋ย ใจ

 

รู้ทันใจ ไม่ตกหลุมมาร

 

ชนะใจ ชนะมาร

 

ชนะใจได้ก็แจ๋ว

 

หากใจใหลไปกับสิ่งเร้า ทั้งทางดี-ร้าย

 

ที่ทำให้ ใจร้อนรุม โลดไป

 

เดี๋ยวพองโต เดี๋ยวยุบแบน แฟบเหี่ยวเฉา

 

เดี๋ยวเต้นตื่น แบบใจจะ y ใจจะวีนสุดๆ

 

คงเหนื่อย......นะ

 

รู้ทันใจ รักษา ถนุถนอมหัวใจ

 

ให้ได้เต้นแบบพอดี พอดี

 

ในจังหวะที่นุ่ม นุ่ม สงบ สงบ

 

สบาย สบาย ดีกว่าเป็นไหนๆนะ

 

ใจดวงเดียว ใจคุณภาพดี ดี

 

ไม่มีขายจ้า...

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณ ginger สำหรับบทความดีๆ อ่านแล้วสุขใจ

 

และขอบคุณ สำหรับ ชื่อกระทู้ ที่ไพเราะอ่อนหวานดังบทกวี

 

สวัสดีปีใหม่ คุณ ginger และเพื่อนๆทุกคนค่ะ

 

2DUO1.JPG

 

ภาพนี้ เป็นภาพหยินหยาง บ่งบอกถึงความสมดุลค่ะ ขอให้เพื่อนๆมีความสุขในวันปีใหม่ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณ ginger

สำหรับบทความที่อ่านแล้วให้ความปิติสุข เข้าใจในธรรมมากขึ้น ปีใหม่นี้และปีต่อๆไปอีกทุกๆปี ขอให้คุณ ginger และพี่ๆ ทุกคนมีแต่ความสุขความเจริญ สมหวังในสิ่งที่ปราถนานะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปีใหม่นี้ ขออวยพรให้คุณ ginger มีความสุข คิดสิ่งใดสมปรารถนา ทุกประการ และขอขอบคุณมุมมองและแนวคิดต่างๆ ที่มันลึกซึ้งเกินบรรยายครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว้าว :30 แวะเข้ามาอ่านก่อนนอน วันนี้สงสัยหลับฝันดี แค่เห็นก็มีความสุขแล้วค่ะ ^ ^ อยากกด like ให้ 20 ครั้งไปเลย :01

 

ขอบคุณจ้า

 

น่ารักจัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณ ginger

สำหรับบทความที่อ่านแล้วให้ความปิติสุข เข้าใจในธรรมมากขึ้น ปีใหม่นี้และปีต่อๆไปอีกทุกๆปี ขอให้คุณ ginger และพี่ๆ ทุกคนมีแต่ความสุขความเจริญ สมหวังในสิ่งที่ปราถนานะครับ

 

ขอบคุณ jojosung Hamsin kungnang put42 ย่าหยา ลูกน้ำเค็ม เด็กสยาม win win fung foo primmark พี่น้องเพื่อนและทุกคน

 

T21-12-54_03P.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิทานก่อนนอนเรื่อง ชี้หิน

 

 

เขียนโดย meesubandmeesuk

 

 

 

ชี้หิน

 

DTOON09_thumb1.jpg?imgmax=800

 

 

 

มีเทวดาอยู่องค์หนึ่ง ได้เหาะลงมายังเมืองมนุษย์ เพื่อมาค้นหาบุคคลผู้ไม่มีความโลภ และสละแล้วซึ่งกิเลสความอยากได้ใคร่มีในสิ่งต่าง ๆ เมื่อถึงมนุษย์โลกแล้ว เทวดาก็แปลงกายเป็นชายชรา เดินตรงเข้าไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่คนเดียว ชายชราจึงตรงเข้าไปหา พอถึงก็วางก้อนหินขนาดก้อนเท่ากับหัวแม่มือลงตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมชี้นิ้วชี้ของท่านชี้หินก้อนนั้น และแล้วหินก็กลายเป็นทองคำเหลืองอร่ามในทันที“เอ้าข้าให้เจ้ารับไว้ซิ เดี๋ยวข้าจะรีบไปธุระ”

เทวดาปลอมพูดแล้วก็หยิบทองคำยื่นส่งให้แก่ชายหนุ่ม แล้วก็เดินจากไปเทวดาเดินลับหลังมาได้สักครู่ ก็เห็นชายหนุ่มคนเดิมวิ่งตามมา พร้อมกับพูดอย่างระล่ำระลักเชิงขอร้องว่า“คุณตาครับกรุณาช่วยชี้หินก้อนนี้ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” พูดแล้วก็วางก้อนหินขนาดใหญ่ลงตรงหน้าชายชราปลอม “ข้าไม่ชี้ให้เอ็งหรอก เพระเอ็งมันคนโลภมาก” พูดแล้วชายชราปลอมก็เดินหนีไป ต่อจากนั้นชายชราก็เดินเข้าไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ แล้วก็ทำเหมือนเดิม คือวางก้อนหินขนาดเท่าหัวแม่มือไว้ตรงหน้า ชี้หินให้กลายเป็นทองคำแล้วส่งให้ ต่อจากนั้นก็เดินจากไป ทุกครั้งที่ส่งหินทองคำให้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หนุ่มสาว ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย ทุกคนจะต้องตามมาขอร้องให้ชายชราชี้ก้อนหินโตกว่าเดิมให้ เทวดา ที่ปลอมเป็นชายชราเห็นแล้วรู้สึกหมดกำลังใจ และคิดว่าคงจะหาใครสักคนหนึ่งที่เป็นผู้ไม่โลภโมโทสันในโลกมนุษย์นี้ไม่ได้เป็นแน่แท้ คิดจะกลับสู่สวรรค์แต่เพื่อให้มั่นใจจึงน่าลองดูอีกสักหน เผอิญเหลือบไปเห็นพระฤาษีตนหนึ่งกำลังนั่งบำเพ็ญตบะอยู่ใต้ต้นไม้ จึงเดินตรงเข้าไปหา พลางเอาก้อนหินวางไว้ตรงหน้า แล้วใช้นิ้วชี้ก้อนหินนั้นให้เป็นทองคำ แล้วพูดกับพระฤาษีว่า“ข้าแต่ท่านผู้ทรงศีลข้าขอถวายหินทองคำก้อนนี้แด่ท่าน”

“อาตมารับไว้ไม่ได้หรอก จงเอาคืนไปเถิด” พระฤาษีตอบพร้อมส่ายหน้าแสดงอาการปฏิเสธ ชายชราปลอมจึงเอาก้อนหินขนาดเขื่องกว่าเดิมมาชี้ให้เป็นทองคำ แล้วถวายแด่พระฤาษี คำตอบที่ได้รับก็ยังคงเหมือนเดิมคือ “อาตมารับไม่ได้หรอก จงเอาคืนไปเถิด”

แม้ชายชราปลอมจะนำเอาก้อนหินขนาดใหญ่สักเท่าใดก็ตาม มาชี้แล้วส่งให้ก็รับคำปฏิเสธจากพระฤาษีทำให้ชายชราปลอมมีกำลังใจขึ้นมากคิดในใจว่า “พระฤาษีตนนี้แหละ คือผู้ไม่โลภเป็นแน่แท้” ก่อนที่ชายชราปลอมจะจาไป ด้วยความสงสัยจึงถามพระฤาษีว่า “เหตุใดท่านจึงไม่รับหินทองคำเหล่านี้ไว้ ท่านไม่อยากได้หรือ”

“ใช่อาตมาไม่อยากได้ทองคำเหล่านั้นหรอก แต่อาตมาอยากได้นิ้วชี้ที่ชี้มากกว่า” พระฤาษีอธิบาย ชายชราปลอมได้ยินพระฤาษีพูดดังนั้นถึงกับนิ่งอึ้งแล้วก็เดินหนีไป

 

 

ความโลภของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด คือมนุษย์ไม่มีความพอ

 

 

อยากได้โน่นได้นี่อยู่ร่ำไป ได้อย่างโน้นก็อยากจะได้อย่างนี้อีกจึงมีคำกล่าว

 

“แม้นว่าฝนจะตกลงมาเป็นเงินเป็นทอง มนุษย์ก็ยังไม่พอใจอยู่นั่นเอง

 

ขอบคุณ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

01.jpg

 

ตัดต่อเวร

 

dungtrin.pngเวรที่ยืดเยื้อ เริ่มต้นจากเวรที่อภัยได้แล้วไม่อภัย!

 

ถ้ามีประสบการณ์ทำนองนี้นะครับ

ประมาณว่ามีเรื่องนิดเดียว

แต่รู้สึกผูกใจเจ็บเหลือเกิน อภัยกันไม่ได้

มองหน้ากันไม่ติดถาวร

กรณีแบบนี้สันนิษฐานได้ว่ามีเหตุอยู่สองแบบ

 

แบบแรกคือรู้จักกันไม่เท่าไหร่แต่คาดหวังมากไปหน่อย

พอผิดหวังแบบทำให้เสียความรู้สึก

ความรู้สึกที่เสียไปเลยถอนความคาดหวังไปทั้งยวง

เกิดอาการสวิงจากคาดหวังมากเป็นผิดหวังมาก

แปรความรู้สึกบวกเป็นอารมณ์ลบอย่างแรงต่อกันไปเลย

 

แบบที่สองมีเบื้องหลังที่ลึกลับ

อธิบายด้วยเหตุผลธรรมดาไม่ได้ด้วยวิธีใดๆ

แค่สบตากันเหมือนมีไฟนรกประทุ

ทำให้นึกถึงคำว่าแค้นข้ามชาติขึ้นมาได้

หลังจากนั้น ไม่ว่าฝ่ายไหนจะทำอะไร

อีกฝ่ายเป็นต้องรู้สึกขัดหูขัดตา ไม่ชอบใจไปหมด

 

ถ้าเจอประสบการณ์แบบที่สองนะครับ

คุณอาจเจอ "เวรที่ยืดเยื้อ" ของจริงเข้าให้แล้ว

ประเภทสบตาปุ๊บเป็นศัตรูกันปั๊บนี่

ยากเหมือนกันครับที่จะหาเหตุดีๆมาทำให้รู้สึกเป็นมิตรกันได้

ต่างฝ่ายต่างลืมไปแล้วว่าเคยผูกใจเจ็บแค้นเรื่องใดกันมา

จึงไม่ทราบจะย้อนกลับไปอภัยกันให้ถูกเรื่อง ถูกประเด็น

เห็นแต่ว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆในชาตินี้ก็เป็นชนวนให้อยากตีกันแล้ว

 

เมื่อเกิดเวร รีบตัดเวรเสียแต่เนิ่นๆแหละดี

เพราะเวรเป็นของสั่งสมกำลังให้พอกพูนได้

เริ่มจากเรื่องขี้หมา พัฒนาเป็นศึกชนช้างได้ทันในช่วงชีวิตเดียว

 

หลายคนมักบ่นว่าให้อภัยแล้ว

แต่ช่วยไม่ได้ที่ใจมันอาฆาตไม่เลิก

อันนี้ก็อาจเอาปัญญาทางพุทธเข้ามาช่วย

เห็นให้ได้ว่าโดยความรู้สึกแล้ว

เราอาจเหมือนมีสองใจสู้กันเอง

ใจหนึ่งพยายามคิดอภัย

แต่อีกใจกลับอยากผูกอาฆาตไม่เลิก

 

ตรงนี้ให้บอกตัวเองว่า "จิตไม่ใช่ตัวตนของเรา"

ถ้าเป็นตัวตนของเรา เราคงบังคับได้

เมื่อมองอย่างนี้บ่อยเข้า ผ่านเดือนผ่านปีจนรู้สึกเห็นจริงเห็นจัง

ก็จะเลิกโทษตัวเอง

เห็นเป็นเรื่องของจิตที่ต้องเป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง

ตามธรรมดาของอนัตตา

 

จากนั้น เพียรเพิ่มเหตุให้จิตใส และลดละเหตุให้จิตขุ่น

การอภัยไม่ใช่เหตุเดียวที่ทำให้จิตใส

ตรงข้าม การกัดฟันฝืนอภัยดื้อๆในหลายครั้งอาจเป็นเหตุให้ขุ่นขึ้น

เพราะฝืนใจแล้วไม่รู้สึกว่าเหลือใจให้ฝืน

 

ตอนโกรธจัดๆอาจต้องหาเครื่องช่วยบ้าง

ก่อนออกจากบ้านเอาทุนไว้ก่อนด้วยการท่องอิติปิโส

ทำให้ใจผูกอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ออกนอกบ้านแล้วก็เลี้ยงความสุขไว้ด้วยการท่องพุทโธ

ซึ่งเข้ากันได้กับใจอันเป็นไปในอิติปิโส

โกรธเมื่อไหร่ก็พุทโธๆๆแบบนึกถึงความสุขเข้าไว้

ให้เกิดสุขแทนที่ความทุกข์ความร้อนอันเกิดแต่โทสะ

นี่แหละกำลังหนุนให้มีแก่ใจอยากอภัย

 

เมื่ออภัยให้ใครได้ จะเหมือนม่านหมอกบางอย่างหายไป

และรู้สึกเป็นจริงเป็นจังว่าถ้าผูกใจเจ็บ

ก็เท่ากับผูกตัวไว้กับโรคอะไรโรคนหนึ่งจริงๆ

จิตเดิมผ่องใสอยู่ดีๆ

พอมีอาการผูกใจเจ็บเข้ามาครอบงำ

ก็กลายเป็นโรคเศร้า โรคหม่น

โรคหมองเปล่าๆปลี้ๆเสียอย่างนั้น

 

การ "ก่อเวร" เกิดจากเจตนาเบียดเบียนก่อน

การ "ต่อเวร" เกิดจากเจตนาไม่เลิกรา

การ "ตัดเวร" เกิดจากเจตนาไม่เอาเรื่อง

สรุปคือเวรจะก่อตัว จะต่อติด หรือจะตัดขาด

ก็เริ่มต้นจากกรรมทางใจ

ผลของกรรมทางใจทอดยาวไปแค่ไหนไม่มีใครรู้

 

อนึ่ง การอภัยไม่ได้เป็นประกันว่าเรื่องราวทุกอย่างจะยุติ

แต่เป็นประกันว่าใจเราจะเบาลง และไม่ต้องก่อกรรมเพิ่ม

พูดง่ายๆคือถึงเรื่องฝั่งเขาไม่ยุติ ขอให้กรรมฝั่งเรายุติก็แล้วกัน

ชาติหน้าถ้าต้องเจออีก ไฟแห่งเวรจะได้ไหม้เขาคนเดียว

ไม่ต้องมาพลอยไหม้เราด้วยครับ

 

ดังตฤณ

ธันวาคม ๕๔

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...