ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

สำรวจโลก

นกแก้วคาคาโป นกแก้วที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก

 

นกแก้วคาคาโป เป็นนกแก้วที่บินไม่ได้ที่พบในนิวซีแลนด์เท่านั้น เป็นนกแก้วที่มีขนาดใหญ่มีความยาวถึง 59-64 เซนติเมตร และหนักถึง 4 กิโลกรัม ตัวเต็มวัยมีลำตัวเป็นสีเขียวแต้มด้วยสีน้ำตาลและเหลือง ช่วยให้มันสามารถพรางตัวได้ดีบนผืนป่า พวกมันสามารถมีชีวิตได้มากกว่า 90 ปี และถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์โดยในตอนนี้มีประชากรเหลือราว 125 ตัว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ที่ผ่านมามีการฟักไข่เพิ่ม 1 ฟอง ซึ่งเป็นฟักไข่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011

 

http://www.nextsteptv.com/?p=3275

 

 

 

1653269_10152206677797226_121403823_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

640_6akjhj5bjdjjgc5gh8igb.jpg

 

ผบ.ทบ.ตบปากคนตอแหล

http://www.naewna.com/politic/columnist/11372

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1662019_579010308860835_1154901746_n.jpg

ใต้ร่มพระบารมี

พ่อของเรา...บุกฝ่าดง พงไพร หรือแม้นกระทั่งตามแนวชายแดนถิ่นกันดาร ในพื้นที่แห่งนั้นมีการปะทะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ พระองค์ท่านก็จะเสด็จฯ เข้าไปถึงสนามชายแดน ทรงเยี่ยมเยียนให้ขวัญกำลังใจ แก่ ตำรวจตระเวนชายแดน และ ตำรวจพลร่ม ที่ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ตามแนวชายแดน ที่กำลังแพร่ขยายอิทธิพลในขณะนั้น

พ่ออยู่หัวได้ทรงโปรยปราย " สายฝน" สายหนึ่งเป็นสายฝนที่ยังความชื่นฉ่ำ ให้ชาวตำรวจตระเวนชายแดน ดับความร้อนรุ่ม ทั้งกายทั้งใจ ผ่อนคลายไปหมดอย่างเหลือเชื่อ...

ภาพแห่งประวัติศาสตร์ของ ตชด.

ใต้ร่มพระบารมี 60 ปีตำรวจตระเวนชายแดน

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..

กก.ตชด44

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ล่าสุด !!! ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่ง ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คืนตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี หลังจากที่รัฐบาลมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายมิชอบ โดยสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คืนตำแหน่งภายใน 45 วัน

 

สำหรับคดีนี้ นาย ถวิล ได้ใช้เวลา 2 ปี 6 เดือน ในการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม จนกระทั่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งดังกล่าว

cr สายตรงภาคสนาม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อันตราย!! อุบัติภัยชนิดใหม่ .คลื่นทะเลดูด Rip Current

จากเหตุนักศึกษาฉลองจบ การศึกษา "เสียชีวิตด้วยการลงเล่นน้ำทะเล"

http://www.oknation.net/blog/chanakan50/2014/03/06/entry-1

 

‪#‎OKnation‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1925161_629531430435183_1244943110_n.jpg

เย็นวันศุกร์ สบายๆ

603442_629489883772671_1811276628_n.jpg

ชมกล้วยไม้งามตา

1779671_629474850440841_1044622966_n.jpg

บางช่อก็คุ้นหน้า บางช่อก็ชวนฉงน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มือของแม่…

ภาพหญิงชรา ที่เดินหาบขนมขายอยู่ริมถนน

ทำให้ผมหยุดชะงักอยู่ชั่วขณะ

แม้ว่าแกจะเดินจากไปแล้ว

แต่ภาพหญิงแก่ที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ

เดินฝ่าเปลวแดดออกไปนั้น

ยังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของผม จนยากที่จะสลัดออก

มือหยาบกร้านที่มีแต่เส้นเอ็นปูดโปนของหญิงแก่

ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง….

ผู้หญิงซึ่งทำทุกอย่างเพื่อลูกน้อยของตนได้โดยไม่หวังอะไร

นอกจากรอยยิ้มของลูก ….. ผู้หญิงคนนั้น…. คือ แม่ของผมเอง

แม่เป็นแม่ค้า ที่หาบขนมขายอยู่ข้างถนน

วันไหน ขายดี ก็มีเงิน พอจับจ่ายตามอัตภาพ

หากวันไหน ขายไม่ได้ ก็ต้องใช้เงินอย่างกระเบียดกระเสียร

แต่แม่ก็ไม่เคยยอมให้ผมรู้จักกับความหิวโหย

อะไรที่อยากกิน แม่มักหามาให้ผมเสมอ

ไม่ว่าของสิ่งนั้นมันจะทำให้แม่ต้องอดสักกี่มื้อก็ตาม

เวลาที่ผมนั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย แม่มักจะมองดูเงียบๆ

ริมฝีปากของแม่ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข

ตอนนั้น ผมไม่เคยสนใจเลยว่า

ขนมชิ้นเล็กราคาแพงที่แม่หามาให้นั้น

ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของแม่กี่หยด

ไม่เคยนึกสงสัยด้วยซ้ำว่า หลังจากที่ผมกินขนมจนอิ่ม

จะมีอะไรเหลือตกถึงท้องแม่ไหม ?

ผมรู้เพียงอย่างเดียวคือ แม่เป็นหญิงแก่ที่หาบขนมขาย……….

…….ยามใดที่มโนธรรมมาย้ำเตือนให้ผม

คิดถึงความเหน็ดเหนื่อยของแม่ สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด

ก็มักจะหลบเลี่ยงความรู้สึกผิดในใจด้วยการบอกว่า

ในเมื่อแม่เกิดผมมา

มันก็เป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องหาบขนมขายเพื่อหาเลี้ยงผม

ถ้าไม่มีอะไรกิน

ขนมที่เหลือจากการขายมันก็ช่วยให้แม่อิ่มได้นี่นา

ยามใด ที่มือนั้นยื่นมาจับต้องดึงผมไปกอดไว้แนบอก

ยามนั้น ผมก็มักจะเบี่ยงตัวหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยง

แม้ไม่เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นวาจา แต่แววตาที่ผมแสดงออก

มันก็บอกถึงความรู้สึกภายในอย่างโจ่งแจ้ง

แววตาที่ทำให้แม่ชะงัก แม่มองหน้าผมอย่างเข้าใจ

แล้วก็มีท่าทีงกๆ เงิ่นๆ อย่างคนรู้สึกผิด แม่ไม่พูดอะไรสักคำ

มือหยาบกร้านนั้นกำแน่นค่อยๆ ตกอยู่ข้างลำตัว ไหล่ของแม่ลู่ลง…

หลังจากวันนั้น มือของแม่ไม่กล้าที่จะเอื้อมมากอดผมอีกเลย

….ตอนนั้น ผมรู้สึกสบายใจนะ

ที่ไม่ต้องสัมผัสกับมือที่หยาบกระด้างที่น่ารังเกียจนั่น

…แต่เมื่อ เวลาผ่านไป ผมกลับเกิดความรู้สึกที่ต่างจากเดิม…

จริง ๆ แล้วสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ใช้มือหยาบกร้านของแม่หรอก

มือที่เนียนสวยราวกับลูกผู้ดี ของผมต่างหากที่น่าขยะแขยง

ขณะที่มือแม่กร้านเพราะ กรำงานหนักเพื่อเลี้ยงผม

แต่มือที่อ่อนนุ่มของผมไม่เคยทำประโยชน์เพื่อใครเลยนอกจากตัวเอง

น่าขันนะ เมื่อผมเติบใหญ่ และประสบความสำเร็จในชีวิต

หลายครั้งหลายคราที่มีโอกาสจับต้องมือของผู้หญิงมากหน้า

มือที่ นิ่ม หอมกรุ่นกับเล็บเคลือบสีสด

และเรียวปากนุ่มสวยช่างฉอเลาะนั้นไม่ได้ทำให้ผมโหยหาเลยสักนิด

สิ่งที่ผมร่ำร้อง กลับเป็น

มือที่หยาบกระด้างของผู้หญิงเพียงคนเดียว…

ผู้หญิงที่หาบคอนกระจาด

เดินเร่ขายขนมอยู่ข้างถนนเพื่อเลี้ยงลูกชาย

ผู้หญิงไม่ค่อยพูด ที่มักใช้สายตาเฝ้ามองผมอยู่เงียบๆ

สายตาที่สื่อความรู้สึกของแม่คนนึงซึ่งมีต่อลูก

สายตาอ่อนโยนคู่นั้นเหมือนกับจะบอกผมเสมอว่า

ผมคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของแม่…

อาจจะเป็นเพราะพ่อจากไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นตั้งแต่ผมยังเล็กก็ได้

ทำให้แม่พยามทำทุกอย่างเพื่อชดเชยความเป็นลูกไม่มีพ่อให้ผม

เท่าที่แม่ค้าหาบขนมขายอย่างแม่จะทำได้

แม่คงกลัวว่าผมจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาเพราะขาดพ่อล่ะมั้ง

แต่แม่ไม่เคยรู้หรอกว่า ในสายตาของผม….ผู้ชายที่ทำให้ผมเกิดมา

ไม่ได้มีความสำคัญกับผมเลยสักนิด….. ผมเกลียดผู้ชายคนนั้น …..

ตาแก่ที่กินเหล้าจนเมา เอะอะ โวยวาย ทำร้ายแม่ผม

หลายครั้งที่ผมเห็นพ่อใช้คำพูดถากถาง ระราน อาละวาดใส่แม่

แม่ผู้น่าสมเพชของผมก็ไม่เคยลุกขึ้นมาต่อต้านเลยสักนิด

แม่มักยอมพ่อเสมอ….. ยอมถูกซ้อมเป็นกระสอบทราย

แล้วก็แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ

ยอมทำงานหนักเดินขายของวันละหลายๆ กิโล

เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงครอบครัว …….ส่วนเงินเดือนของพ่อน่ะหรือ?

มันจมลงในขวดเหล้าหมดแล้ว

สภาพของแม่ที่ผมเห็น ทำให้ผมได้แต่นึกในใจว่า

ถ้าผมแต่งงาน ผมจะหา เมีย อย่างแม่

แต่ถ้าผมเป็นผู้หญิง

ผมจะไม่ยอมมีชีวิตที่น่าเวทนาแบบแม่ เด็ดขาด!

ผู้หญิงที่ยอมเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ของผู้ชาย

ผู้หญิงที่ยอมให้สามีโขกสับอย่างกับทาสในเรือนเบี้ย

ยอมทำงานบ้านจนดึกจนดื่น

ยอมตื่นแต่เช้ามาทำขนมขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

ยอมแม้กระทั่งให้ผู้หญิงอื่นมาแย่งผัวตัวเองไปต่อหน้าต่อตา

แม่ยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น

โดยไม่เคยคิดจะต่อสู้เรียกร้องสิทธิอะไรเลย

แม่มีปากเสียงกับพ่อเพียงครั้งเดียว ตอนที่พ่อจะเอาผมไปอยู่ด้วย

ตอนนั้นผมเห็นแม่สู้ยิบตาราวกับหมาจนตรอกเลยทีเดียว

พ่อยอมให้ผมอยู่กับแม่อย่างไม่คิดจะเยื้อแย่ง

“น้ำหน้าอย่างเธอ จะเลี้ยงลูกได้สักแค่ไหนกันเชียว

อีกหน่อยลูกมันคงต้องหาบขนมขายทั้งชาติ เหมือนเธอนั่นแหล่ะ”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่แม่และผมได้ยินจากปากของพ่อ

มันเป็นคำพูดที่ทำให้แม่ฮึดสู้

แม่ทำงานหนักตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินส่งผมเรียนสูงๆ

ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำให้แม่ผิดหวังเลย

การเรียนของผมอยู่ในขั้นดีเยี่ยมจนได้รางวัลจากทางโรงเรียนเสมอ

เปล่าหรอกนะ ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนเพื่อแม่หรอก

ตลอดเวลาผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเพื่อแม่เลยสักครั้ง

แต่ที่ผมตั้งใจเรียน ก็เพราะรู้ว่า….การศึกษาเป็นหนทางเดียว

ที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากบ้านในสลัมโทรมๆ แห่งนี้ต่างหาก

ความทะเยอทะยานในอดีตเป็นแรงผลักดัน

ที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในชีวิต

โดยมีโอกาสดี ๆ ที่โชคชะตาหยิบยื่นให้เป็นตัวช่วยสนับสนุน

สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมหลงระเริงอยู่นานทีเดียว

มันทำให้ผมหยิ่งผยอง คิดว่าตัวเองนั้นเก่งกล้า

สามารถก้าวจากจุดศูนย์ขึ้นมายืนผงาดอยู่ได้ด้วยขาตัวเอง

ทั้ง ๆ ที่ ความจริงแล้ว ความสำเร็จของปริญญาระดับด๊อกเตอร์

ที่แปะข้างฝาบ้านของผมนั้นมีแม่อยู่เบื้องหลังเสมอ

แม่ผู้จบ ป. 4 แต่ไม่มีเงินซื้อใบสุทธิ

ขาของผมยืนผงาดออยู่ได้ ด้วยการเหยีบบ่าของแม่โดยแท้

และผมก็ไม่เคยสนใจเลยสักนิดว่า

บ่าที่เหยียบเป็นฐานนั้นจะชอกช้ำเพียงใด

เพราะเจ้าของบ่า ไม่เคยปริปากบอกผมเลย

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร แม่ก็ยังคงเป็นคนพูดน้อยทำมากเสมอ

แม่เป็นผู้ฟังที่ดีมาตั้งแต่ผมยังเด็กแล้ว

ทุกครั้งที่ผมมีความกังวล แม่จะคอยรับฟังเสมอ

เวลาที่ผมระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ

หลายครั้งที่แม่ฟัง จำนวนเงินที่เด็กชายเอ่ยขอ

ยามต้องการจะซื้อของต่างๆ เพื่อให้มีเหมือนลูกคนอื่น

แม่ไม่เคย แย้ง นิ่ง…ฟัง…

หลังจากวันนั้น แม่ขายของจนค่ำมืดกว่าปกติอยู่หลายวัน

และวันหนึ่งแม่ก็ยื่นเงินให้ผมเพื่อไปซื้อของที่อยากได้

ยามที่ผมรับเงินจากมือของแม่ ผมรู้สึกว่า

มือของแม่หยาบกร้านกว่าเคย….

แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก เพราะถึงมือ

มือนี้จะต้องหยาบกร้านเพิ่มขึ้นสักแค่ไหน

มันก็ยังคงหยิบยื่นมความสะดวกสบายให้ผมได้เหมือนเดิม

และมันก็เป็นเช่นนี้เสมอมา ไม่ว่ายามที่ผม สุข หรือ ทุกข์

มือของแม่จะอยู่เคียงข้าง คอยช่วยประคับประคองผมเสมอ

ตราบชั่วชีวิตของแม่

จนกระทั่ง วันนี้…

หลายสิ่งในชีวิตของผมเปลี่ยนไป…..

ผมมีชื่อเสียง มีเกียรติยศ มีคนนับหน้าถือตา

มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันงาม มีเงินทอง

มีมือนุ่มนิ่มของผู้หญิงสวยๆ คอยคลอเคลีย

ทุกสิ่งที่ผมเคยต้องการล้วนมากองอยู่แทบเท้าของผม

แต่สิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดกลับขาดหายไป ณ วันนี้

ข้างกายของผม

ไม่มีมือของแม่…..

People Magazing

 

1653879_724738640890697_1587442005_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ครบรอบสิบปี

ในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งมีกระดิ่งเล็กๆ แขวนไว้ที่ประตูร้าน

ทุกครั้งที่มีแขกเข้าร้านก็จะทำให้กระดิ่งนั้นส่งเสียงดัง “Ding Ding”

วันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่าปี เข้ามาในร้านกาแฟนี้

เจ้าของร้านสาวสวยก็รีบออกมาต้อนรับให้เขานั่งด้านใน

“กาแฟแก้วนึงครับ”

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”

เจ้าของร้านสาวพูดพลางยิ้มให้อย่างมีมารยาท

แล้วก็ไปบดเม็ดกาแฟและตั้งกาต้มกาแฟ

ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวอยู่ตลอด

ไม่นานนัก เจ้าของร้านสาวก็นำกาแฟมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะชายหนุ่ม

“ขอบคุณครับ”

“คุณเพิ่งมาเป็นครั้งแรกใช่ไหม? รู้สึกว่าที่นี่เป็นอย่างไรบ้างคะ?”

เจ้าของร้านสาวถาม

“ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าที่นี่บรรยากาศดีมากๆ เลยครับ”

“ฉันก็ชอบบรรยากาศของร้านนี้มากเหมือนกันถึงแม้ว่ากิจการร้านนี้ไม่ค่อยดีนัก

ฉันกับสามีก็เสียดายไม่อยากจะปิดร้านทิ้ง”

ทั้งคู่เงียบไปสักพัก

“ผมขอถามอะไรคุณบางอย่างได้ไหมครับ?

เอ่อ… ก่อนที่จะถามคุณผมอยากจะเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้คุณฟังก่อน”

ชายหนุ่มพูดถามขึ้นมา

“ได้ค่ะ คุณพูดมาได้เลย” เจ้าของร้านสาวก็สนใจที่จะฟัง

ชายหนุ่มก็เล่าเรื่องเรื่องหนึ่งซึ่งผ่านมานานมากแล้ว

“เมื่อก่อนผมมีแฟนคนหนึ่ง

เราสองคนก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในอนาคตแล้ว

ความรักของเราสองคนนั้นถึงแม้จะธรรมดา แต่แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว

เพราะผมรักเธอมากเพียงแค่มีเธออยู่ข้างๆ ผมก็มีความสุขมากแล้ว

แต่ทว่า ความสุขอันนี้มันช่างสั้นนักหลังจากนั้นก็มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

ก่อนหน้าพิธีหมั้นของเราสองคนหนึ่งเดือน

คืนนั้นผมมีธุระต้องทำจึงไม่สามารถไปส่งเธอกลับบ้านได้

ในคืนนั้น เธอโดนคนร้ายรุมข่มขืน…”

“แล้วหลังจากนั้นเป็นอย่างไรคะ? ความรู้สึกของคุณที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปหรือ?”

เจ้าของร้านสาวถามด้วยความสงสาร

“ถึงแม้จะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น

ความรักของผมที่มีให้เธอก็คงยังมั่นคงมิได้แปรเปลี่ยนเลยสักนิด

ผมก็ตั้งใจจะจัดพิธีหมั้นขึ้นตามเดิม

แต่… เธอคิดไม่ตก เธอเชื่อว่าเธอไม่ได้เป็นเธอคนเดิมแล้ว

ในวันหมั้นของเราสองคนวันนั้น เธอผูกคอตาย

โชคยังดีที่ว่าพวกเราพบเธอได้เร็ว ช่วยชีวิตเธอไว้ได้

แต่เพราะว่าสมองขาดอ็อกซิเจ็นนานเกินไป

ทำให้เธออยู่ในสภาพไม่มีความรู้สึกตัว และอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลยก็ได้…

สุดท้าย เธอก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อผมรู้ว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วก็รีบไปหาเธอ

แต่พ่อแม่เธอขวางกั้นผมไว้ไม่ให้ไปพบเธอ

พวกเขาคุกเข่าลงมาขอร้องผม กลายเป็นว่าความทรงจำบางส่วนได้หายไป

หมอบอกว่าเมื่อคนโดนกระตุ้นจิคใจอย่างแรง

ก็อาจจะเลือกที่จะหลบหลีกความทางจำอันนั้นโดยการฝังลึกไว้ในใจตัวเอง

ไม่ต้องการที่จะจำเรื่องเลวร้ายนั้นอีก

เธอลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาด้วย

พ่อแม่เธอขอร้องให้ผมอย่าเพิ่งไปพบเธอสักพัก

เขาไม่ต้องการให้เธอนึกถึงเรื่องน่าเศร้านั้นอีก

เพราะกลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตายอีก

ถ้าบังเอิญเจอกันในที่อื่น ก็จะทำเป็นไม่รู้จักไม่ทักทายกันเด็ดขาด

ช่วงเวลานั้นมันช่างทรมานยิ่งนัก อยากรักเธอ แต่ไม่อาจทำได้

อยากจะพบหน้าเธอ แต่ก็ไปพบไม่ได้ วันนี้ เป็นวันครบสิบปีนั้นแล้ว”

“ขอแสดงความยินดีให้ด้วยค่ะ คุณรอคอยมาสิบปีแล้ว

ในที่สุดวันนี้ก็สามารถไปพบเธอได้แล้ว”

“ใช่ครับ แต่… ยิ่งใกล้ถึงเวลานี้ ผมก็ยิ่งกลัว

สิบปีที่ผ่านมานี้ความรักผมนั้นยังไม่เปลี่ยน แต่ตัวเธอล่ะ?

ถ้าผมเล่าเรื่องในอดีตให้เธอฟัง เธอก็ยังจำผมไม่ได้

แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ? หรือว่าเธอได้แต่งงานไปแล้ว

ผมควรจะทำเช่นไรดี? เพราะเช่นนี้ ผมอยากจะถามคุณว่า

คุณคิดอย่างไร? ถ้าแฟนผมคนนี้แต่งงานไปแล้ว

ผมควรจะบอกให้เธอได้รับรู้เรื่องนี้มั้ย?”

เจ้าของร้านสาวก็พูดอย่างจริงใจว่า “ถ้าสมมุติว่าเธอมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร

เพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แต่งงานกัน คุณยังมีโอกาส

แต่ถ้าเธอคนนั้นได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วคุณก็ไม่ควรไปทำลายครอบครัวเขา”

ชายหนุ่มได้รับฟังแล้ว ก็แค่ตอบสั้นๆ ด้วยความผิดหวัง… “นั่นสินะ…”

“Ding Ding”

พอดีเวลานี้ก็มีแขกคนอื่นเข้ามาในร้าน

เจ้าของร้านสาวก็พูดกับชายหนุ่มว่า

“ฉันต้องไปต้อนรับแขกแล้ว เชิญตามสบายนะคะ”

เธอเดินออกไปได้สองก้าว ก็หันกลับมาถามเขาว่า

“จริงสิคุณเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไม่ค่อยสนิทกับฉันมากนัก

ทำไมถึงเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังล่ะคะ?”

“เพราะว่า เธอคนนั้นเคยพูดเอาไว้ว่า หลังแต่งงานแล้ว

เธออยากจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ อย่างนี้เหมือนกัน”

ชายหนุ่มคิดสักครู่ถึงตอบออกมา

“อ๋อ อย่างนี้เองหรือคะ”

พูดจบเธอก็หันหลังกลับเดินไปต้อนรับแขกที่เข้ามาใหม่

ชายหนุ่มมองตามร่างของเจ้าของร้านสาวนั้น

น้ำตาเขาค่อย ๆหยาดไหลออกมา

เขาตัดสินใจไม่บอกเธอว่าแท้จริงแล้วเขามาที่ร้านนี้เพื่ออะไร

แฟนของเขาคนนั้น อยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอนั้นมันช่างไกลยิ่งนัก

กาแฟในแก้วนั้น ก็ไม่รู้เย็นลงตั้งแต่เมื่อไหร่…

แล้วถ้าคุณเป็นชายหนุ่มคนนั้นคุณจะทำอย่างไร????

cr People Magazing

 

1897996_724777017553526_927301038_n.jpg

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...