ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 26 มีนาคม 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ (พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี) เสด็จทรงเปิดทางรถไฟหลวงสายแรก จากสถานีกรุงเทพ ปลายทางสถานีกรุงเก่า ณ อาคารสถานีกรุงเทพหลังเดิม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 รัชกาลที่ 7 คราวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หยุดขบวนรถไฟพระที่นั่งระหว่างทางก่อนถึงนครลำปาง เพื่อทรงถ่ายภาพยนตร์รูปลำธาร น้ำตก และ ช้างกำลังลากซุง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 (มีการแก้ไข) เดือนมกราคม 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินประพาสมณฑลพายัพ ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 รัชกาลที่ ๗ เสด็จทอดพระเนตรเหมืองนาลึก มณฑลภูเก็ต อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 (มีการแก้ไข) พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 (มีการแก้ไข) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีในกาลที่ ๗ (ฉายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก) ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 พุทธทาส ศึกษา - พูดคุย-ถามตอบ ธรรมะ (ทั่วไป-ชั้นลึกๆ) เชิญครับบshared วัดป่าสุญญตา's photo. “ ...คำพูดที่ว่า สุดแล้วแต่โชคชะตา อันนี้เป็นคำพูดของคนหลงผิด แล้วมักปล่อยชีวิตไปตามเรื่องตามราว ถ้าเป็นเรือก็เรียกว่า ไม่ถ่อไม้พาย ไม่เดินเครื่องแล้ว สุดแล้วแต่เรื่อง เรือมันก็ไปชนหินโสกโครกเท่านั้นเอง แล้วเรือนั้นก็ไปไม่ได้ ชีวิตของคนเรานั้นก็เหมือนกัน คนใดที่ชอบพูดว่า สุดแล้วแต่โชคชะตา คนนั้นไม่ใช่คนต่อสู้ในการดำรงชีวิต แต่เป็นคนที่ไม่ค่อยจะเอาเรื่อง มักจะเป็นไปตามเหตุการณ์ เป็นไปตามสิ่งแวดล้อม ผลที่สุดก็ไม่ค่อยได้สาระ...” ปัญญานันทภิกขุ (จากหนังสือชนะทุกข์ หน้า 407) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo shared Wanlop Sutthi's photo. ไม่รักอย่าเลี้ยง ................. เจอภาพที่ตรงกับเรื่องราวที่พบเจอมาด้วยตนเองและเคยเล่าที่เฟสนี้แล้ว ขออนุญาตินำมาเล่าอีกครั้งเผื่อเพื่อนใหม่ที่ยังไม่เคยอ่านครับ ................. .......สองเดือนก่อนผมผ่านไปทำธุระในซอยแถวลาดพร้าวตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากเสร็จธุระก็แวะกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งที่คุ้นเคยเป็นขาประจำกัน ....ระหว่างที่นั่งรออาหารอยู่นั้นมีรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งแล่นมาจอดข้างฟุตบาธริมถนนฝั่งตรงข้ามสักครู่หนึ่งรถก็วิ่งออกไป บนฟุตบาธนั้นมีหมาตัวหนึ่งยืนอยู่ มันถูกปล่อยลงมาจากรถคันนั้น เป็นหมาสีขาว ลายด่างสีน้ำตาล ขนยาวขาวสะอาด และดููอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี เป็นหมามีสกุลรุนชาติ สวมปลอกคอหนังสีแดงสดใส มันยืนอยู่สักครู่ก็นั่งลงมองตามรถที่วิ่งจากไป ผมหันกลับมากินข้าวที่เด็กยกมาส่งให้ จนอิ่มคุยกับแม่ค้าสักพักก็เตรียมจะกลับบ้าน แม่ค้าพูดขึ้นว่า "คุณดูหมาตัวนั้นสิ นั่งนิ่งเหมือนหุ่นอยู่ตั้งนาน พี่ว่าเค้าเอามันมาปล่อยแน่เลย"ผมหันไปดูแล้วก็พยักหน้าให้แม่ค้า ก่อนจะเดินกลับไปที่รถไม่ได้สนใจอะไร .......หนึ่งเดือนต่อมาผมกลับไปทำธุระที่เดิมอีก คราวนี้รู้สึกทึ่งที่พบว่าหมาตัวดังกล่าวนั่งอยู่ที่เดิม ในท่าเดิมที่เห็นเมื่อเดือนก่อน ต่างไปหน่อยตรงที่มันผอมลงมากๆ ไม่ขาวสะอาดเหมือนก่อน และดูเศร้าหมอง "มันนั่งอยู่อย่างนั้นตั้งแต่วันที่คุณเห็นนั่นแหละ พี่ว่ามันรอเจ้าของมันนะ เค้าคงเอามาปล่อย มันคงไม่รู้ตัวก็เลยรออยู่ที่เดิม มีคนสงสารพยายามจะเอามันไปเลี้ยงที่บ้าน มันก็ไม่ยอมไป เอาไปได้ไม่กี่ชั่วโมงมันก็หนีกลับมาอยู่ที่เดิม ฝนตกมันก็นั่งตากฝนอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมไปไหน พวกเราเอาอาหารไปวางให้กินมันก็กินนิดหน่อย ไม่ค่อยกิน ผอมจนน่ากลัว เจ้าของมันคงไม่รู้ว่ามันคอยอยู่อย่างนี้มาเป็นเดือนแล้ว เวลามีรถสีขาวที่เหมือนคันที่พามันมาวิ่งผ่านมา มันจะลุกขึ้นยืนโบกหางไปมา พอรถผ่านไปมันก็จะนั่งลงเหมือนเดิม" .....ผมรู้สึกตื้นตันกินข้าวไม่ลง ก่อนกลับได้เดินข้ามไปทักทายมัน มันเงยหน้ามองผม แววตาของมันเศร้าหมองมาก และติดตาผมอยู่หลายวัน สองอาทิตย์ต่อมาผมพอมีเวลาว่างจึงตั้งใจขับรถไปเพื่อจะไปเยี่ยมเจ้าหมาที่รอเจ้าของตัวนั้น เมื่อไปถึงไม่เห็นมันอยู่ที่เดิมแล้ว ....."มันตายแล้วเมื่อสองวันก่อน มันไม่กินอะไรเลย เอาแต่นั่งชะเง้อมอง ตอนหลังมันสู้ไม่ไหวต้องนอนลงเพราะไม่มีแรง พวกเราพามันไปหาหมอ มันร้องดิ้นรนไม่ยอมไป มันคงกลัวเจ้าของกลับมารับแล้วไม่เจอ หมอบอกว่ามันขาดน้ำอย่างรุนแรง และตรอมใจ ร่างกายมันเลยไม่ไหว พี่อยากฝังมันไว้ตรงฟุตบาธ แต่คิดไปอีกที อย่าให้มันรอเค้าอีกเลย คนใจร้ายอย่างนั้น สู้ใจหมายังไม่ได้เลย ขอให้มันสิ้นสุดการรอคอยแค่นี้แล้วกัน" ...........นี่คือเรื่องจริงที่พบเจอมาและอยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า หมาก็มีหัวใจ อย่าทำร้ายมันด้วยการทอดทิ้ง ถ้าไม่คิดว่าจะรัก ดูแลกันได้ตลอดไป อย่าเอามาเลี้ยงเลยครับ สงสารเขาเถิด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo ความสุขอันประณีตนั้นไม่ต้องอาศัยการเสพหรือมีวัตถุ แต่เกิดจากการมีจิตใจที่สงบเย็น จากการทำความดี จากการเห็นรอยยิ้มแห่งความสุขของผู้คนอันเป็นผลจากความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลของเรา รวมทั้งจากความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เราทุกคนย่อมโหยหาความสุข และการที่เราพากันไปแสวงหาความสุขจากวัตถุ ก็เพราะเราไม่รู้จักหรือไม่สามารถเข้าถึงความสุขอันประณีต แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเข้าถึงความสุขอันประณีตได้ ความสุขจากวัตถุจะมีเสน่ห์น้อยลง พระไพศาล วิสาโล อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 (มีการแก้ไข) ชมรมคนรักในหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับขวัญเหลน (หลานย่าท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม) ขณะประทับที่ศิริราช เครดิตภาพ Aum Sky Exits เครดิดคำบรรยายภาพ Son Loyalist ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 22, 2013 สมีคำ ดิ้นไม่หลุด ผลตรวจ DNA เด็ก 11 ขวบ ชี้ชัดสัมพันธ์พ่อลูก 2013-08-22 09:08:35 นิติวิทย์ฯ เผย ผลตรวจดีเอ็นเอเด็ก 11 ขวบ พบว่า ตรงกับดีเอ็นเอ สมีคำ ยืนยันความสัมพันธ์ว่า เป็นพ่อลูกกัน ด้าน DSI เตรียมแถลง เมื่อวานนี้ (21 สิงหาคม 2556) นพ.เอนก ยมจินดา ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยผลตรวจดีเอ็นเอเด็กชายวัย 11 ขวบ ที่เกิดจากหญิงวัย 26 ปี ที่อ้างว่ามีสัมพันธ์กับ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระวิรพล ฉัตติโก (สมีคำ) โดยยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอเด็กว่า ตรงกับดีเอ็นเอของสมีคำจริง ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รายงานผลตรวจวัตถุพยานทั้งเส้นผม และชานหมากวัตถุมงคลปลุกเสกของสมีคำที่ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่งมาให้ดีเอสไอตรวจสอบดีเอ็นเอ ทั้งนี้ พบว่า ดีเอ็นเอในวัตถุพยานตรงกับดีเอ็นเอของเด็กชายวัย 11 ขวบจริง จึงค่อนข้างชัดเจนว่า สมีคํามีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกับเด็กชายคนดังกล่าว โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยในการแถลงข่าววันนี้ (22 สิงหาคม 2556) เวลา 15.00 น. อย่างไรก็ตาม หากนายสุริ สุขผล น้องชายสมีคำที่เคยอ้างเป็นผู้มีสัมพันธ์กับหญิงคนดังกล่าวต้องการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อความเป็นธรรม และแสดงความบริสุทธิ์ใจทั้งสองฝ่าย ก็สามารถเข้าขอตรวจได้ TOPTEN THAILAND แหล่งที่มา : http://www.dailynews.co.th/ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น