yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 หวัดดีคับคุณ ginger เพื่อนๆ วาทะขงเบ้ง 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 เผย..อเมริกาค้ามนุษย์ตัวพ่อ และทิศทางสกุลเงินโลกอนาคต (30 photos) วันที่ 28 มิ.ย.57 เผย..อเมริกาค้ามนุษย์ตัวพ่อ และทิศทางสกุลเงินโลกอนาคต ก่อสงคราม ปัจจุบันอเมริกามีหนี้สาธารณะ 158 ล้านๆ เหรียญ หรือราวงบประมาณรายจ่ายของไทย 2,198 ปี หรือมากกว่า GDP ของประเทศทั้งโลก 2 เท่า แถม EU มีสมาชิกแค่ 17 ประเทศ กรีซ เจ๊งทั้งประเทศไปนานแล้ว ตอนนี้สเปนกำลังจะเจ๊งไปอีกประเทศแล้ว อเมริกา กับ EU เศรษฐกิจจะดิ่งลงเหวแล้ว.. รายงานจากกรุงมอสโก ของรัสเซียยืนยันว่า บริษัท “กาโซวายา โปรมีชเลนนอสต์” หรือชื่อย่อที่รู้จักกันทั่วไปว่า “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งครองตำแหน่งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่า “ยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์อเมริกาฯ” ในทางบัญชีอย่างสิ้นเชิง โดยจะเริ่ม “นำร่อง” ใช้วิธีการนี้กับกรณีที่มีการติดต่อซื้อขายด้านพลังงานกับรัฐบาลจีน หรือบริษัทเอกชนของจีนก่อน โดยเตรียมหันมาใช้เงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน เป็นสื่อกลางในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว ประธานบริหารฝ่ายการเงินของกาซปรอม ระบุว่า การตัดสินใจเลิกใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่างเชื่อมั่นว่า “การยุติบทบาทของเงินดอลลาร์ในตลาดพลังงาน” จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อทั้งบริษัท รวมถึงรัฐบาลรัสเซียและจีน โดยคาดว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลและเงินหยวนแทนนั้น จะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 ปี ประธานใหญ่ของกาซปรอม ประกาศว่า การยกเลิกใช้เงินดอลลาร์อเมริกันในการซื้อขายด้านพลังงาน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1989 และคาดหวังว่า จะมีการหันไปใช้เงินตราสกุลอื่นๆ เป็นสื่อกลางในตลาดพลังงานโลกมากขึ้นในอนาคต “นี่คือข่าวที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมเปิดตัวสู่ตลาดพลังงานโลกเมื่อปี 1989 ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า การลดบทบาทของเงินดอลลาร์ ถือเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และในอนาคต บทบาทของเงินตราสกุลอื่นในตลาดพลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น” ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาบอกว่า เวลานี้สถานะและความน่าเชื่อถือของอเมริกาอเมริกาในเวทีโลกกำลัง “เสื่อมถอย” ลงอย่างมาก และการเสื่อมถอยที่ว่านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการที่รัฐบาลอเมริกัน “ทำตัวกร่าง” และมีพฤติกรรมแทรกแซงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียงเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง” พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจของกาซปรอม ในการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางทางบัญชีครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “บทเรียนล้ำค่า” อีกหลายบทเรียนที่อเมริกาฯกำลังจะได้รับ และเป็นสัญญาณเตือนว่า ทั่วโลกกำลัง “หันหลังให้อเมริกา” ก่อนหน้านี้ รัสเซียและจีนเพิ่งบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่มีการลงนามเมื่อ 21 พฤษภาคม ระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาลคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท” โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาว สู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม และกาซปรอมจะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ “38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี” วันก่อนจีนก็ไปเยือนกษัตรืย์ของอังกฤษ และอังกฤษตกลงจ้างจีนทำอภิมหาโปรเจคสารพัด และค่าเงินที่จ่ายกัน คือ เงิน หยวน โดยยกเลิกการจ่ายเงินดอลลาห์ ที่ผ่านมาอเมริกา ปิดล้อมจีนทางทหารอย่างเข้มข้นรวม วางไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐาน ในสงครามเย็นที่กำลังก่อตัวขึ้นมา สาเหตุหลักก็เพราะอเมริกาต้องการสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของจีน ผ่านนโยบายที่จะปล่อยลอยตัวเงินหยวนให้ผงาดเป็นเงินสกุลหลักของโลกในอนาคต เพื่อประชันกับดอลลาร์ ถ้าจีนสามารถผลักดันให้เงินหยวน เป็นเงินสกุลหลักสำหรับการค้าขายแลกเปลี่ยนเงินตรา จะส่งผลให้มหาอำนาจ และฐานะการเงินของอเมริกา จะถูกบั่นทอน และอ่อนแอ หมายถึงว่าความต้องการดอลลาร์ในโลกใบนี้จะน้อยลง จะมีผลทำให้อเมริกาต้องมีภาระเพิ่มขึ้นในการกู้หนี้ยืมสิน ในขณะที่เศรษฐกิจ และระบบการเงินกำลังอ่อนแออยู่แล้ว ภาวะกลัวเงินหยวนผงาด ดอลลาร์จะร่วง อเมริกาจึงพยายายามที่จะใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาในไทยเป็นฐานทางทหาร บังหน้าด้วยโครงการศึกษาสภาพภูมิอากาศของนาซาและศูนย์บรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติเพื่อมนุษยธรรม ในสมัยรัฐบาลเลือกตั้งที่แล้ว สาเหตุที่แท้จริงคืออเมริกาต้องการใช้ฐานทัพเรืออู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารในการปิดล้อม หรือทำสงครามกับจีนในอนาคตไม่นานจากนี้ โดยยุยงให้เกิดความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ระหว่างเวียดนามและจีน ที่รบกันบ่อยๆ ช่วงนี้แล้วมีความตึงเครียดมาก และระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ฐานทัพทางทหารที่สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคเอเชียนี้ นอกจากประเทศไทยแล้ว คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทำให้วานนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีของจีน จะเดินทางไปเยือนเกาหลีไต้ จู่ๆ เกาหลีเหนือก็ปล่อยขีปนาวุธพิสัยกลางระยะ 500 กม.จำนวน 2 ลูกไปตกตูมในทะเลญี่ปุ่นซะงั้น ครั้งก่อนก็เพิ่งยิงไปตก 3 ลูก จนขนหัวลุกตั้งกันทั้ง 2 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น มีหรือแผนนี้จีนจะไม่ไฟเขียว เพราะจีนกับเกาหลีเหนือ เป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันมานานแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอเมริกาให้ท้าย กำลังทะเลาะกับจีนอย่างรุนแรงเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้ โดยที่จีนยังนิ่ง ไม่ออกอาการสะทกสะท้าน ในเวลาเดียวกันทางอเมริกาอยากจะได้พม่ามาเป็นพันธมิตรอย่างมากผ่านกลุ่มการเมืองของอองซานซูจีน เพราะในกรณีที่จะต้องบุกเข้าจีนทางตอนใต้ หรือยูนนาน ทั้งไทย และพม่าเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ต้องดึงมาเป็นพวกให้ได้ อเมริกาจึงมีความพยายาม เร่งกดดันให้พม่าเปิดประเทศโดยเร็ว และรับเอาอิทธิพลทุนนิยมบ้าคลั่งของตะวันตกเพื่อถ่วงดุลจีนที่เป็นเศรษฐกิจแบบอนุรักษ์นิยม ใครรู้จักจีนดีก็จะรู้ว่าจีนทำธุรกิจแบบ “เงินสด” ประเทศเขามีระบบเครดิตทางการค้าน้อยมากๆ เงินจึงตะพัดในตลาดตลอดเวลา หนีเสียจากเครดิตต่ำมากๆ สิ่งที่อเมริกา อังกฤษและสหภาพยุโรปกลัวที่สุด คือ การที่จีนจะปล่อยให้ “เงินหยวนลอยตัว “ เพราะจีนจะมีกำลังซื้อมหาศาล เขาสามารถซื้อกิจการธุรกิจทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา จีนซื้อเงินสดได้สบายๆ แบบขนหน้าแข็งไม่กระเด็น ขณะนี้จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ เงินทุนสำรองจำนวนนี้สามารถทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม หรือกู้เพิ่ม 10 เท่าเป็น 30 ล้านล้านดอลลาร์ มากพอที่จะซื้อธุรกิจหรือกิจการทุกอย่างในยุโรปหรืออเมริกาได้เลยที่เดียว อีกหน่อยจีนผิวเหลืองจะกลายเป็นนาย และฝรั่งผิวเผือก และนิโกรจะกลับตาลปัดเป็นลูกน้องจีน ประวัติศาสตร์ของลัทธิล่าอาณานิคมจะพลิกกลับด้าน จีน อินเดีย รัสเซีย กำลังรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับระเบียบโลกปัจจุบัน ทำให้อเมริกา และยุโรป กำลังเพลี่ยงพล้ำ ถ้าจีนตอบโต้อเมริกาด้วยสงครามการเงิน ซึ่งจากที่เล่ามาก็มีการขู่กลับอยู่แล้วอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันใครจะรู้บ้างว่าจีนนี่แหละ เป็นผู้ถือพันธบัตรอเมริการายใหญ่สุดประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ตอนนี้ธนาคารกลางอเมริกาต้องเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในกรณีที่ขายออกไม่หมด เป็นอัฐยายซื้อขนมยาย และถ้าจีนเอาจริงไม่ต่ออายุพันธบัตรอเมริกา จะเกิดอะไรขึ้น ?? มันจะทำให้ความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของอเมริกาลดฮวบต่ำลงทันที ความน่าเชื่อถือเงินสกุลดอลลาห์คงจะอยู่ได้ไม่นาน และถ้าจีนยอมขาดทุนทิ้งพันธบัตรอเมริกาออกไปทั้งหมดรวดเดียว เจ๊งครับ...อเมริกาจะประสบกับความหายนะทางการเงินอย่างย่อยยับพินาศถึงหนีท่วมประเทศทันที พันธบัตรจะราคาตกทรุดเหลือ 50% ใครที่ถืออยู่จะพลอยขาดทุนเจ๊งหนักลงไปอีก แล้วไทยล่ะ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ถือดอลลาร์อยู่ส่วนมาก ไทยเองถือพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาประมาณ 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทีนี้จะผ่องถ่ายออกไปทางไหนล่ะนี่ ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแบ๊งค์กงเต้กได้ ถ้าจีนทิ้งพันธบัตรอเมริกาอย่างทันที..นั่นหมายความว่าสงครามก็จะเกิดทันทีเช่นกัน ส่วนจีนจะย้ายเข้ามามีบทบาททันที ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ หรือไม่นั้น ตอนนี้ไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคอาเชียน ที่จีนและรัสเซียพยายามจะเข้ามามีบทบาท ถ้าเพียงไทยตัดสินใจเชิดใส่อเมริกา กองทัพไทยอาจจะได้เรียนรู้เทคโนโลยี่ระบบอาวุธจากจีน รัสเซีย เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเชีย กองทัพอาเชียน ส่งผลให้เงินหยวนจีน ได้รับความนิยมเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นอเมริกาและสหภาพยุโรปจะเครียด เพราะผลประโยชน์ทางการค้ามันมหาศาล ถ้าจีนและรัสเซีย เข้ามาเสียบแทนในภูมิภาคนี้ ประชาชนอาเซียนมี 630 ล้านคน หรือ เกือบ 10% ของประชากรโลก ดอลลาห์ซีดแน่ๆ ส่วนเครื่องบินรบ F-15 ที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกา ถ้าไทยอยากได้ไว้ประจำการ ต้องหงอเลียเอาอกเอาใจอเมริกาชนิดที่ว่าจากเลียจากลิ้นสากๆ เป็นลิ้นลื่นเลย และก้นด้านๆ สากๆ ของอเมริกากลายเป็นก้นเนียนๆ และถ้าเสน่ห์หาไทยเหมือนโอบามาเสน่ห์หาปูเน่า ถึงจะขายให้แต่ต้องผ่านสภาคองเกรสก่อนนะ ขายให้เสร็จจ่ายเงินกราบเท่ามันงามด้วย แต่ถ้าเป็นเครื่องบิน SU-30 ของรัสเซียล่ะ ในปัจจุบันเครื่องบินรบรุ่นนี้มีประจำการในภูมิภาคอาเชียนหลายประเทศ เงื่อนไขเหรอ..ไม่มีไรมาก จ่ายเงินไปขนเอาเครื่องบินมาส่งเลย ไม่มีเงื่อนไขใดอีก ถ้าเงินน้อย เอาไก่ไปแลก G2G รัสเซียเค้าก็เซเยส ยิ่งของจีนนอกจาก Sale แล้วเผลอๆ แถมอาวุธโปรโมชั่นให้อีก..เอาซิ มาดูเรื่องค้ามนุษย์บ้าง ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางแห่งอเมริกา (เอฟบีไอ) แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สามารถปฏิบัติการทลายกลุ่มผู้ค้ามนุษย์อย่างผิดกฎหมายกว่า 100 เมือง ทั่วทั้งประเทศอเมริกา ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เอฟบีไอ สามารถทลายเครือข่ายผู้เป็นธุระจัดหาบุคคลเพื่อทำการค้าประเวณีได้ทั้งสิ้น 281 ราย พร้อมทั้งช่วยเหลือเด็กจากการค้าประเวณีได้ถึง 168 ราย เอฟบีไอ ระบุว่าปฏิบัติการทลายแก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าวจะช่วยยุติวงจรเหยื่อที่เป็นเยาวชนในอเมริกา ความร่วมมือระหว่างเอฟบีไอ กระทรวงยุติธรรมอเมริกา และศูนย์ข้อมูลเด็กสูญหายและการแสวงหาประโยชน์จากเด็กแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2003 สามารถช่วยเหลือเด็กได้แล้วเกือบ 3,600 ราย เพื่อจัดการกับปัญหาค้าประเวณีเด็กที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวสามารถนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ถึง 1,450 ราย สถานการณ์การค้ามนุษย์และแรงงานทาสในอเมริกาด้วยว่า แม้อเมริกาจะอยู่ในเทียร์ 1 ซึ่งเป็นระดับดีสูงสุด ของรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทีไอพี) แต่กระทรวงต่างประเทศประเมินว่ามีการค้ามนุษย์ทั้งเด็ก ผู้ชาย และผู้หญิงในอเมริการาว 17,500 คน ต่อปี..แม่เจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าประเวณี และการหลอกลวงใช้แรงงานในภาคเกษตร รวมถึงคนรับใช้และแรงงานในภาคบริการที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ผ่านมาอเมริกาปล่อยปละละเลยไม่เข้ามาจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง อเมริกา ควรมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และแรงงานทาสในแผ่นดินตนเอง ให้เหมาะสมกับการรายงานการประเมิน อันดับเทียร์ 1 ที่ว่าดีเลิศประเสริฐศรี เพราะอเมริกาออกรายงานว่าไทยอยู่ อันดับเทียร์ 3 ซึ่งเมื่อเทียบกับอเมริกาแล้ว..อเมริกานั่นแหละโกหกคนทั้งโลก ออกรายงานประเมินประเทศตัวเองอันดับดีๆ ทั้งที่สถานการณ์จริงเลวร้ายแย่มากๆ และออกรายงานกลั่นแกล้งประเทศอื่นๆ เขาไปทั่ว โดยจ้างนักวิชากำกวมประเทศเป้าหมายนั้นๆ ให้เขียนรายงานใส่ร้ายประเทศตนเอง แถมมีโรงงานผลิตอาวุธ กระสุนปืน ที่ใช้แรงงานเด็ก ผู้หญิง และคนผิวสียังกับทาส ไม่ได้มาตรฐานอะไรทั้งสิ้น..แล้วมาตรฐานวัดแบบนี้ มันน่าเชื่อถือตรงไหน จะเอาฮากันอย่างเดียว โดยไม่มีแก่นสารความจริงเลยหรือ และในท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยทรุดตัว หนี้สาธารณมหาศาลท่วมประเทศ คนตกงานใช้คูปองกันจะครึ่งประเทศ สิ่งที่ทำเอาชาวอเมริกันพากันหงุดหงิด คือ ดันมีภาพว่อนโซเชียลเน็ตเวอร์คไปทั่วโลกว่า ผู้นำโอบามา จอมฉาวโฉ่เสพยา มั่วเซ็กซ์ของเขา ว่างจัดหรือไง ถึงได้มานั่งดูบอลโลก การแข่งขันบอลโลกคู่อเมริกากับเยอรมนีบนแอร์ฟอร์ซวัน ทั้งที่มีภารกิจอีกมากมาย ยามความซวยมาเยือน มันก็มาเป็นชุดๆ เมื่อคณะตุลาการศาลฎีกา รัฐบาลกลางอเมริกา มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง วินิจฉัยให้คำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำอเมริกา ในการใช้อำนาจแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเฉพาะทดแทนตำแหน่งคณะที่ปรึกษาแห่งชาติด้านแรงงาน (NLRB) เมื่อปี 2555 มีผลเป็นโมฆะ เนื่องจาก แม้เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้ได้รับการเสนอชื่อยังไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากวุฒิสภา เพราะในเวลานั้นวุฒิสภาใช้วิธีจัดประชุมย่อยเป็นเวลาสั้นๆ ทุก 3 วัน (โพร ฟอร์มา) เพื่อต้องการควบคุมอำนาจบริหารของประธานาธิบดี แต่โอบามา อ้างว่าเป็นช่วงที่วุฒิสมาชิกอยู่ในช่วงหยุดพักผ่อนจากการประชุม จึงไม่สามารถพิจารณาอนุมัติผู้ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งดังกล่าวได้ทันเวลา ศาลฯ พิจารณาอย่างละเอียดแล้วไม่เป็นความจริงตามที่โอบามาอ้างโกหกต่อศาล ผลการวินิจฉัยของศาลนี้ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เอ็นแอลอาร์บีที่ได้รับการแต่งตั้งในเวลานั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง และคำตัดสินยังเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคเดโมแครต กับ พรรครีพับลิกัน ขัดแย้งทางการเมืองกันอย่างหนัก โอบามา กล่าวหลายครั้งว่า การตัดสินใจอย่างเร่งด่วนหรือในเรื่องสำคัญไม่จำเป็นต้องรอความเห็นชอบจากวุฒิสภา สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับพรรครีพับลิกัน ไปติดนิสัยชอบลักไก่ ลักเป็ด ลักปู จากใครมาเนี่ย ศาลตัดสินว่าผิด 9 ต่อ 0 เท่ากับคดีปูเน่า เป๊ะขนาดนี้..ประเทศประชาธิปไตยต้นแบบต้องลาออกนะ หรือว่าจะอ้างไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลเหมือนบริษัทเผาไทยอีก..แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ?? หรือทำอย่างไรโอบาม่า ก็ไม่ลาออก อ้างว่าจะตายคาประชาธิปไตย และ ศาลอเมริกาตัดสินสองมาตรฐาน..เฮ่ย คำนี้มีมีลิขสิทธิ์แล้ว ถ้าจะ Copy คำ Original นี้จากไทย จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาก่อน !! มองข้ามช็อต..สหรัฐ และ EU ก็แค่คนเคยรวย และอนาคตเศรษฐกิจพวกนี้เละตุ้มเป๊ะแน่ เพราะผู้นำเขาบริหารมั่วซั่ว ใช้เงินมือเติบ และเกินตัว ใช้นอกประเทศมากกว่าพัฒนาภายในประเทศตนเอง นี่โอบามาเพิ่งขออนุมัติใช้เงินฉุกเฉินงบลับราว 1.6 หมื่นล้านบาท เอาไปสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรียอีกแล้ว เดิมทีอเมริกาสนับสนุนกลุ่มไอซีส เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย เงินก้อนใหม่นี้โอบามาบอกจะเอาไปสร้าง “กลุ่มติดอาวุธซีเรียสายกลาง” เอาไว้สู้กับไอซีส และรัฐบาลซีเรีย..เอา พ่อมหาจำเริญ หนุนให้รบซ้อนรบ อีกหน่อยก็มีกลุ่มติดอาวุธสาย กล๊าง กลาง ในซาอุ การ์ตา ที่เป็นพันธมิตรมิตรอเมริกา คอยดูซิ..พอค้าอาวุธกระเป๋าแห้ง ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง !! @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/topsecretthai 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 ผู้ว่าฯสงขลา ขึ้น เป็น รักษาราชการแทน >รองปลัดกระทรวงมหาดไทย< มีผล 7 กรฎาคม 57นี้ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 หมื่นทิวา พันราตรี รวมบทความ"รูปนามแห่งกลลวง" ..เราต้องเป็นผู้เล่น..ไม่ใช่หมากในกระดาน ตอนที่ ๑๐ “ หากหัวใจยังใฝ่ฝัน...พันธนา (๒) ” ( หมื่นทิวา พันราตรี ; เบาๆ ค่ำวันอาทิตย์ ที่ ๒๙ มิ.ย.๕๗ ) ... ต่อจากบทความตอนเมื่อวาน ( ๒๘/๖/๕๗) ซึ่งกล่าวถึง... พันธนาการ (๑) หรือ “ศึกนอก” วันนี้ ขอต่อด้วย บ่วงพันธนาการ (๒) หรือ “ศึกใน” .... นั่นเพราะ.... “ ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง! !!” ..จำได้ว่า เคยกล่าวไว้ใน บทความชุด... “ทักษิณ...ยังไงก็แพ้ ” ..ตอนที่ ๗ ซึ่งเป็นตอนอวสาน…โดยเฉลยไปแล้วว่า ใครคือ ศัตรู หรือ คู่ชกที่แท้จริง ของ ระบอบทักษิณ (Thaksinomic System) ซึ่งไม่ใช่กองทัพ ไม่ใช่มวลมหาประชาชน และไม่ใช่มนุษย์ที่ไหนทั้งสิ้น หากแต่ “หนึ่ง” ในศัตรู หรือ “คู่ชก” ทั้งสามของ “ระบอบทักษิณ” ก็คือ... “ความสามัคคี”... ของพี่น้อง “หัวใจไทย” ทุกคน...นั่นเอง ...วันนี้ ดูเหมือนว่า ประเทศไทยของเรากำลัง ถูก “รุมกินโต๊ะ” ... ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งบทความตอนนี้ขอเน้นว่า ในช่วงเวลานี้ “ศัตรูในประเทศ”...ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ “ระบบคอร์รัปชั่น” และ “ ความแตกแยก” ของคนในชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “บ่วงพันธนาการ” พวกเราทุกๆคน โดยเป็นผลพวงและ พิษร้าย ของ ระบอบทักษิณฯ(Thaksinomic System) ... ….แล้วพวกเราจะปลด บ่วงพันธนาการ นี้ออกได้อย่างไร..... ...ในส่วนของการกำจัดภัย.. “คอร์รัปชั่น” ...โดยเฉพาะในระบบราชการนั้น.. ลุงๆ อาๆ ใน “คสช.” ท่านก็กำลังทำอยู่ โดยจะเห็นว่า ได้มีการปรับย้าย ล้างบาง (ชุดแรก) กันไปแล้ว ดังนั้น หน้าที่ของพวกเราในการปลดบ่วงนี้ ก็คือ ช่วยแจ้งเบาะแส ( E mail(คสช): ncpo.2014@gmail.com ) และ ส่งกำลังใจให้ ลุงๆ อาๆ ใน “คสช.” ให้เท่านั้นพอ... ... ส่วนบ่วงพันธนาการอีกบ่วงหนึ่ง ก็คือเรื่อง “ การแตกแยกความสามัคคี” ของคนในชาติ ประเด็นนี้แหละ ที่ “ลุงตู่” และ ลุงๆ อาๆใน คสช. ต้องขอความร่วมแรงร่วมใจจากพี่น้อง “หัวใจไทย" ทุกท่าน ... ...ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ระบอบทักษิณฯ ยังไม่ถึงกับ “สิ้นซาก” ไปจากประเทศไทย ยังคงมีความพยายามที่จะ ฟื้นคืนชีพกลับมาให้ได้ ไม่ว่าจะโดยวิธี... (๑) อาศัยต่างชาติมากดดันประเทศไทย .. และ (๒) กระตุ้นให้ พี่น้อง “หัวใจไทย” เกิดความแตกแยกกันเอง โดยเฉพาะ หันมาต่อต้าน คสช. ด้วยการ...“สร้างกระแสข่าว”...สารพัด ขึ้นมา เพื่อให้ เกิดข้อพิพาท และข้อสงสัย ต่างๆนานา กับ คสช. และเมื่อเกิดความแตกแยกแล้ว....สุดท้าย..ถามว่า...ใครได้ประโยชน์ .. นั่นเพราะ ระบอบทักษิณฯ เป็นระบบที่ “เก่ง” ในเรื่องการบริหาร และรักษา..... “ผลประโยชน์ บน ความแตกแยก”..ของคนในชาติ .. ตอนนี้ ได้ข่าว แว่วๆ ว่า มีความพยายามสร้างกระแส เรื่อง “พลังงาน” .. ให้ พี่น้อง “หัวใจไทย” เกิดความ สับสน และ เข้าใจผิด “คสช.” หากปล่อยเช่นนี้ ต่อไปเรื่อยๆ ความแตกแยกก็จะกลับมาอีกครั้ง .... เรียบร้อย โรงเรียน แม้ว !!! .. ไอ้คนสร้าง กระแส เนี่ยนะ “ปัญญาอ่อน” ได้ใจ อุบายตื่นๆ ใช้อุบายหมา (ขีเรื้อน) แก่ๆ มาสร้างกระแส ให้เกิดความแตกแยก ... โดยเฉพาะ นำประเด็นการแต่งตั้ง “นายปิยสวัสดิ์ ฯ” ให้กลับเข้ามา ในบอร์ด ปตท...(หัดคิดกลศึกใหม่ๆที่มันซับซ้อนกว่านี้หน่อย .. เอ็งกับพี่ มือมันคนละชั้นไอ้น้อง !!) ...พี่น้องประชาชน “หัวใจไทย” ทั้งหลาย ใจเย็นๆ ตั้งสติ ค่อยๆอ่านช้าๆ แล้วพิจารณา ดังนี้ครับ ... (๑) อันว่า รัฐวิสาหกิจทั้งหมด รวมทั้งบริษัทเอกชน ที่ภาครัฐเข้าไปถือหุ้น (ผ่านกระทรวงการคลังหรือหน่วงงานอื่นๆ) แม้ว่าจะมีบอร์ด หรือ คณะกรรมการบริหารของแต่ละที่อยู่.... แต่สุดท้าย...การพิจารณาอนุมัติ เรื่อง หรือ โครงการต่างๆ ต้องผ่านความเห็นชอบ ของ “ซุปเปอร์ บอร์ด” ซึ่งแต่งตั้ง ตามคำสั่ง คสช.ที่ ๗๕ /๒๕๕๗... ดังนั้น ลำพังบอร์ดของแต่ละแห่ง จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ หากไม่ได้รับอนุมัติ จาก ซุปเปอร์บอร์ด ที่แต่งตั้งมา ...(๒) ซุปเปอร์บอร์ด นี้ หากดูรายชื่อแล้ว...แต่ละท่านนั้น ทั้งมันสมองและประสบการณ์ "ไม่ธรรมดา" ... โดยเฉพาะ คนนั่งเป็นประธาน ก็ “ลุงตู่” ของพวกเรานั่นแหละ... เพราะฉะนั้น การที่ใครจะทำอะไร เรื่องสำคัญๆทุกเรื่อง... “จะต้อง”...ได้รับความเห็นชอบจาก... ซุปเปอร์บอร์ด”... นี้ก่อน...ทุกครั้ง ...(๓) ระดับ “สมองและประสบการณ์” อย่าง “ลุงตู่”... มีหรือจะไม่รู้ว่าใครเป็นอย่างไร ... เชือดข้าราชการ ขี้ฉ้อ ให้พวกเราได้เห็นกันมาเยอะแล้ว ... กะอีแค่ “นายปิยสวัสดิ์ ฯ”… มีหรือจะรอดสายตาด้านการข่าว !!! ก็เพราะ เหตุที่ ยังปล่อยมือไม่ได้ (หรือใครจะบอกว่ายัง "ไม่ไว้ใจ" ก็ไม่ผิด) ...ถึงได้มีคำสั่งแต่งตั้ง ซุปเปอร์บอร์ด มาคุมอีกทีนั่นเอง …(๔) “นายปิยะสวัสดิ์ฯ” จะเป็นคนดีหรือไม่... หมื่นทิวาฯไม่อาจทราบเรื่องจริงเรื่องเท็จได้ เพราะอยู่ไกลข้อเท็จจริง ... แต่ที่พอทราบก็คือ การปฏิรูปพลังงานนั้น มีเงื่อนไข ปัจจัย และโครงสร้างที่วุ่นวาย ซับซ้อน การที่จะสั่ง ตูมเดียวให้ลดราคาหรือปรับโครงสร้างเลย ไอ้แบบนั้น เด็กๆในระบอบทักษิณฯ เค้าทำกันเพื่อเป็นประชานิยม...เรียกเสียงเฮ เรียกคะแนนนิยมไว้ก่อน..แต่กับ คสช. นั้น “ลุงตู่” เคยบอกหลายครั้งแล้วว่า “ไม่เอา”ประชานิยม...แต่ขอเดินตามแนวทาง พระราชดำรัส “เศรษฐกิจพอเพียง” และที่สำคัฐที่สุดต้องมีความ “ยั่งยืน”... ..และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง หรือเพราะยังไม่ไว้ใจ"นายปิยะสวัสดิ์ฯ" จึงจำเป็นต้องมี ซุปเปอร์บอร์ดมาคุมอีกชั้นหนึ่ง (ซึ่งก็รวมทุกรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่เฉพาะ ปตท. อย่างเดียว) …แม้นาทีนี้ “ทหาร” จะต้องทำได้ทุกอย่าง ... แต่ก็ใช่ว่าจะเก่งทุกอย่าง .... บางครั้ง อาจจะต้องให้ “โจร” มาช่วยสอน “วิธีคิด” แบบโจร... หรือให้ช่วยพาไปดูหน่อยซิว่า..เอาสมบัติที่ปล้นมา ไปไว้ที่ไหน!!!! ... ไว้รอเจอ ทรัพย์ของกลางก่อน หรือ เมื่อโจรตายหมดแล้ว ...จะเอายังไงต่อก็ค่อยว่ากัน !! ...ซึ่งเป็นที่รู้ กันว่า ระบอบทักษิณฯ นั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับ พลังงาน มหาศาล .. เพราะฉะนั้น ก็ต้องทำทุกอย่างที่จะปัดแข้งปัดขา “ลุงตู่” ให้ได้ ... และวิธีการที่ว่านี้ มันก็ใช้อุบาย กลศึกเดิมๆ คือ “ยืมดาบฆ่าคน” ... โดยอาศัยการปลุกระดมพี่น้องมวลชน ให้เกิดความระแวงสังสัย..ในตัว ลุงตู่ และ ผู้นำ คสช. ... และหากมีคนต่อต้าน คสช. ก็เท่ากับว่า การปฏิรูปพลังงานช้าลง หรือล้มเหลวได้ยิ่งดี... ระบอบ ทักษิณฯ ก็จะรักษา ผลประโยชน์ กล่องดวงใจ ด้านพลังงานต่อไป...เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว.. ...งานนี้ต้องดูกันยาวๆ นานๆครับ ... ใจเย็นๆ ให้ลุงๆอาๆ ทำงานไปก่อน นะครับ ...ที่กล่าวมาทั้งหมด ก็แค่จะเสนออีกมุมมองหนึ่ง เพื่อไม่ให้หลงกลศึก ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ... ที่พยายามสร้างภาพให้ พวกเราเกิดความแตกแยก .... เหมือนในอดตี ที่ อดีตผู้นำรัฐบาลทรราช สร้างภาพความสัมพันธ์ ที่ดีกับกองทัพ ... มีภาพข่าวไปไหนมาไหนด้วยกันกับผู้นำเหล่าทัพ… จนพวกเรา หลงกล... จัดเต็ม ต่อว่าต่อขาน “ลุงตู่” และผู้นำเหล่าทัพ กันยกใหญ่....จะหลงกลแบบนั้นอีกครั้งหรือ??? ...เพราะฉะนั้น...อย่าลืมว่า...เราต้องเป็นผู้เล่น...ไม่ใช่หมากในกระดาน ... อย่าแตกความสามัคคีเด็ดขาด ... อย่านำบ่วงพันธนาการ จากระบอบทักษิณ กลับมาใส่คอเราอีกครั้ง ...... จำไว้ว่า ยิ่งพวกเรา ..มีความสามัคคีกันมากเท่าไหร่ .... ศัตรูของเรา ยิ่งอ่อนแอ ลงมากเท่านั้น....นี่คือคาถา ที่ต้องท่องไว้ จำให้ขึ้นใจครับ ..ส่วนใครที่เคยพลาดด่าลุงตู่มาแล้ว ลองทบทวนกับบทความนี้ดูครับ https://www.facebook.com/765270463517191/photos/a.767405559970348.1073741831.765270463517191/767468206630750/?type=1&theater … เอาเป็นว่า นับจากนี้ หากแฟนเพจท่านใด มีข้อสงสัย ประเด็นไหน ที่จะให้หมื่นทิวาฯ เขียนบทความอธิบายฯ ก็ฝากข้อความไว้ใน Inbox ที่หน้าเพจ หมื่นทิวา พันราตรี รวมบทความ"รูปนามแห่งกลลวง" แล้วดี๋ยวจะมาอธิบาย ให้ฟัง(อ่าน) ... เอาแบบชนิดที่เรียกว่า ฝ่ายตรงข้ามเปิดตำราพิชัยสงครามไม่ทันเลยที่เดียว ...อ่านแล้วอย่าลืมกดLike ที่หน้าเพจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ @หมื่นทิวา พันราตรี อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 ....ปฐมบท เริ่มต้นของ กลเกมและกลศึก ในสงครามจิตวิทยามวลชน และสงครามการข่าว เพื่อไม่ให้มวลมหาประชาชน เกิดความเข้าใจผิด หรือเสียขวัญไปกับการสร้างข่าวลวง และการสร้างภาพต่างๆของฝ่ายตรงข้าม ...ในช่วงเวลานั้น มีสองเหตุการณ์สำคัญคือ การจากไปของ“ส.อ.วสันต์ คำวง” การ์ด คปท.ที่ถูกลอบทำร้าย และอีกเหตุการณ์ ในช่วงต้นเดือน เมษายน ๕๗ เป็นช่วงเวลาที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ ครั้งแรกของ นปช.ที่ถนนอักษะ...มวลมหาประชาชนขวัญเสีย โกรธแค้น และเริ่มวิตกว่า จะเกิดสงครามกลางเมือง โดยการนำมวลชนมาปะทะกัน...ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏภาพข่าวของ "ลุงตู่" ไปไหนมาไหนกับอดีตนายก...ทำให้กองทัพ และลุงตู่ถูกต่อว่าอย่างหนักอีกตามเคย ...จึงต้องมี บทความ " เราต้องเป็นผู้เล่น ไม่ใช่หมากในกระดาน" ในการทำหน้าที่ เสนอแนวคิด และมุมมองอีกด้านหนึ่ง และคอยเตือนมวลมหาประชาชน โดยเฉพาะนักรบไซเบอร์ทั้งหลาย ไม่ให้หลงไปกับ "กลเกม"ของฝ่ายตรงข้าม และที่สำคัญ ... "อย่าผลักมิตร ไปเป็นศัตรู".... ------------------------------------------------------------- ...เราต้องเป็นผู้เล่น...ไม่ใช่..“หมากในกระดานมวลมหาประชาชน......(ตอนที่ ๑ จับคู่ชกให้ถูก) /หมื่นทิวา พันราตรี ;๒ / ๔ / ๕๗ …ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของวีระชนผู้กล้า “ส.อ.วสันต์ คำวง” ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่อย่างดียิ่งและสมภาคภูมิของนักสู้เพื่อประชาธิปไตยแล้ว...ขอให้ดวงวิญญาณของท่าน ไปสู่สุขคติ และภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป …มวลมหาประชาชนก็ต้องต่อสู้ขับไล่เหล่าทรราชต่อไป...ส่วนเรื่องการระมัดระวัง และการป้องกันตัวขั้นสูงสุดนั้น เห็นด้วยและเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย ...สำหรับเรื่องที่จะสู้แบบไหนอย่าไรนั้น....ถ้าจะชกก็ต้องชกให้ถูกคน ใครคือ “ศัตรู” หรือ “คู่ชก”ของเรา ซึ่ง “ศัตรูที่แท้จริง” ของมวลมหาประชาชน..ก็คือ.... รัฐบาลทรราชภายใต้คำบัญชาของทักษิณ .....เป็นบันไดขั้นแรกและศัตรูร่วมกัน ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปในเรื่องต่างๆ ตามเจตนารมย์ของแต่ละกลุ่มพลังมวลชน ดังนั้น“ศัตรู” หรือ “คู่ชก”ของ มวลมหาประชาชนในเวลานี้จึงไม่ใช่ นปช.,ไม่ใช่พี่น้องมวลชนเสื้อแดง ,ไม่ใช่แม้แต่ไอ้เต้น ไอ้ตู่ หรือกองโจรทั้งหลาย.... เวลานี้ มวลมหาประชนชนทุกท่านเป็น “คู่ชก” โดยตรงกับ “ทักษิณ” พวกเราขึ้นมาชกในรุ่น เฮฟวี่เวท แล้ว อย่าลงไปชกในรุ่น สตรอว์เวท(รุ่นจิ๋ว)อีกเลย … สังเกตุให้ดี แม้แต่ลุงกำนัน ยังไม่เคยเห็น “พี่น้องมวลชนเสื้อแดง” เป็นศัตรูแม้แต่คนเดียวแต่ลุงกำนันจะเจาะจงลงไปที่แกนนำเป็น “ตัวๆ” เลยว่าใคร ...ในเวลานี้ แกนนำกองโจร แม้กระทั่ง ทักษิณ เอง ก็ชกสะเปะสะปะ ไปหมด....“แย่งบอลจากคนที่ไม่มี”.....ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลูกบอลอยู่ที่ใคร...คู่ชกของตัวเองที่แท้จริงเป็นใครยังไม่รู้เลย!! มีแต่วาระกรรมอำมาตย์ มุขเดิมๆที่จับต้องไม่ได้ ชวนทะเลาะเรื่อย สุดท้าย ทะลาะแม้กระทั่งพวกเดียวกัน(5555) การต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามจึงขาดเอกภาพ ขาดพลัง เพราะโฟกัสไม่ถูก ชกผิดฝาผิดตัวอยู่เรื่อย เลยกลายเป็นสร้างศัตรูรอบตัวไปหมด ที่พลาดอย่างยิ่ง….คือ “ผลักมิตรไปเป็นศัตรู”ไม่ว่าจะเป็น ศาล ปปช. กองทัพ ล่าสุดแม้แต่กับพระภิกษุ มันกัดมั่วไปหมด ...การผลักมิตรไปเป็นศัตรู นิ่เองที่พวกเราต้องระมัดระวัง อย่าหลงกลศึก “โจรชั่ว” ที่พยายามให้มวลมหาประชาชนแตกแยกจากกองทัพ ซึ่งในอดีตหลายยุคหลายสมัย กองทัพพยายามทำตัวเป็น “พระเอก” ใน“สนามการเมือง”แต่มาถึงปัจจุบันกองทัพได้เรียนรู้แล้วว่า สนามการเมืองไม่ใช่สนามรบที่กองทัพจะเป็นพระเอก แต่ทำได้แค่เพียงเป็น....“ผู้ช่วยพระเอก”..เท่านั้น ...สิ่งหนึ่งที่ชี้ว่า ผบ.เหล่าทัพ ไม่ได้ตกอยู่ในอำนาจทักษิณ โดยเฉพาะ “ทัพบก” ก็คือ... การย้าย“ผู้การแดง” เข้ามาเป็น ผบ.หน่วย พล.๑ รอ. ซึ่ง“ผู้การแดง” ท่านนี้เคยพิสูจน์ตนเองมาแล้วว่า ชื่อของท่านเป็น...“ของแสลง”...สำหรับ “กองโจรทักษิณ” ที่มุ่งจะทำร้ายประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์... เพราะ”ผู้การแดง”เคยทำให้โจรเผาเมืองหวาดผวามาแล้วในปี ๕๓ และการย้าย “ผู้การแดง”มาพล.๑ รอ.ครั้งนี้ เป็นการกดดันและ “ส่งสัญญาณ”...ไปยัง.. “ทักษิณและกองโจร”...ว่า หากพวกมึง ก่อสงครามประชาชนหรือสงครามกลางเมือง พวกมึงได้เจอกับ “คู่ชก” ที่เหนือกว่าทุกกรณี แน่นอน ...มองต่ออีกนิดแม้จะพูดตรงๆไม่ได้ว่าทำเพื่อใครหรืออยู่ข้างใคร แต่ “กรรมชี้เจตนา”...ไล่เรียงดูตั้งแต่ตั้งแต่ ....(๑) เหตุปะทะที่หลักสี่ จนกระทั่ง เหตุสลายการชุมนุมที่ราชดำเนินครั้งล่าสุดที่ทำให้...“กองทัพตำรวจ”...ขวัญกระเจิงหนีตายไม่เป็นท่า...เพราะถูกตีโต้กลับจากกองกำลังลึกลับที่ใช้...“ยุทธวิธีที่เหนือก กว่า” ...จน “ไอ้เหลิม” ออกปากเรียกว่าเป็น “กองกำลังมือที่สาม” ….ซึ่ง “กองกำลังมือที่สาม” นี้ ย่อมไม่ใช่... “ลูกเสือสำรอง”แน่นอน.... ...(๒)บังเกอร์ทหาร ที่อยู่มาตราบจนทุกวันนี้ แม้จะมีแรงกดดัน รอบด้าน ให้รื้อถอนจากการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน แต่ก็มึนๆอยู่ต่อ ใครกันที่กล้าดื่อแพ่ง คงบังเกอร์ทหารไว้ ซึ่งการตั้งบังเกอร์ทหารเป็นการแสดงออกถึงการ “ปราม” ในลักษณะแสดงตนให้เห็น...ไม่ใช่การ “ปราบ”.... ...(๓) “เจ้าที่”...ที่ เวทีแจ้งวัฒนะ แม้ว่าหลวงปูจะอยู่ถิ่นโจร แต่ก็เลือกชัยภูมิได้ถูกต้องแล้ว ข้างๆ เป็น ปตอ. ถัดมาอีกหน่อย เป็น ร.๑ พัน ๒ รอ. ถัดมาไม่ใกล้ไม่ไกลเป็น ร.๑๑ รอ. ขึ้นมาทางดอนเมือง เป็นกองทัพอากาศ เห็นมั๊ยล่ะ...“เจ้าที่เยอะไปหมด"... …. เพราะฉะนั้น ทำใจให้สบาย มวลชนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมในวันที่ ๕ เมย. ไม่ใช่คู่ชกของท่านแล้ว จะมามากหรือน้อย ก็ไม่เกี่ยวกับมวลมหาประชาชน ....เพราะแกนนำเสื้อแดง เขากำลังทำพิธีเรียกขวัญให้ทักษิณ จากผลพวงเมื่อวันที่ ๒๙ มีค.และข่มขวัญ “ผู้การแดง” เท่านั้น ขอเพียงท่านทั้งหลายอย่าหลงกลศึก “ยืมดาบ ฆ่าคน”...ผลักมิตรไปเป็นศัตรู....ระลึกไว้เสมอว่า....เราต้องเป็นผู้เล่น...ไม่ใช่..“หมากในกระดาน”....ท่องไว้ครับ .... ท่องไว้ ... อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 ผมหาแหล่งที่มาของคลิปนี้ไม่ได้ แต่บอกได้เลยว่าสิบห้านาทีที่ดูคุ้มค่าทุกนาที ดูแล้วจะรักสถาบันกษัตริย์มากยิ่งนัก เราเป็นเราในทุกวันนี้และมีความเป็นไทยในทุกทิศทาง มีพื้นฐานมาจากสถาบันกษัตริย์ทั้งอดีตและปัจจุบันทั้งนั้น อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2014 ดูจันทร์ ฝันดี อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 Bonedigger And Milo Are Lion And Dog Best Friends Five years ago this magnificent lion pictured below was born with a metabolic bone disease that left him mildly disabled. A young dachshund named Milo sensed that the lion cub was different and took him under his wing. He even introduced him to his pack of other dachshunds at the Oklahoma exotic animal park. Now five years later, the two have become inseparable best friends (they don’t seem to notice the 500 pound difference between them). The unlikely pair are often seen playing together, cuddling, and even enjoying meal time side by side. Lion and dog best friends, Bonedigger the crippled lion forms an inseparable bond with Milo the miniature sausage dog… who even helps him cleans his teeth!. 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 การเสนอแนวคิดการทำงานอาจขัดหูขัดใจใครอยู่บ้าง แต่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่การคอรัปชั่นเงิน โอกาสหรือเวลา ตรงกันข้ามเป็นข้าราชการต้องศรัทธางานที่ทำ ไม่แสวงประโยชน์ใส่ตัว สังคมประชาธิปไตยจะมีรากฐานแข็งแรงได้ สังคมต้องมีความยุติธรรม ต้นสายธารกระบวนการยุติธรรมคือตำรวจ กระทรวงที่รับผิดชอบหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมคือกระทรวงยุติธรรม ข้อเสนอการสร้างระบบคุณภาพของงานนิติวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม งานทุกอย่างมีองค์ประกอบสำคัญคือคน เครื่องมือ และระบบ นิติวิทยาศาสตร์มีสองส่วนคือ ทีมเก็บหลักฐานและทีมตรวจพิสูจน์ การตรวจพิสูจน์เป็นวิทยาศาสตร์ต้องมีความอิสระ ต้องมีการประกันคุณภาพจึงถูกต้องแล้วที่ต้องแยกจากอำนาจการจับกุม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 วันนี้ที่รอคอย ทีมอาจารย์จากเนคเทคได้สร้างโปรแกรมการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ และงานข่าวเพื่อการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ โปรแกรมถูกเสนอมาสี่ปีแต่ถูกแทรกแซงมาโดยตลอด วันนี้ฟ้าเปิดได้มีโอกาสชี้แจงให้เห็นประโยชน์ จะช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมาก ขอบคุณทีมด้อกเตอร์และผู้บริหารเนคเทคที่สร้างโปรแกรมที่มีค่าระดับโลก Cr คุณหญิงหมอพรทิพย์ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 ยังมีคนจำนวนมากที่เชื่อในสิ่งที่ไม่ได้ยิน ได้เห็นด้วยตัวเอง เชื่อในข้อมูลที่ถูกใส่อารมณ์หรือถูกบิดเบือน ธรรมะเท่านั้นที่จะช่วยให้เกิดความสว่างแห่งปัญญาเข้าถึงความจริงไม่ว่าจะเป็นคดีคุณห้างทอง คดีน้องโบว์ คดีหกศพวัดปทุมหรือแม้แต่เรื่องจีที200 เมื่อใจมันไม่ชอบ ใจไม่เชื่อและใจยังเกลียดก็คงเลือกยึดสิ่งที่ตรงกับใจ บ้านเมืองของเราต้องการดวงตาที่เห็นธรรมเพื่อเปิดปัญญา อะไรที่ไม่ได้รู้ได้เห็นด้วยปัญญา อาจพาให้ใจมัวหมองด้วยความเกลียด นมุษย์เกิดแต่กรรมของเรา มัวแต่ปล่อยความเกลียดใส่คนอื่นอาจเสียโอกาสของตัวเองได้ คนทุกคนมีส่วนดีแน่นอนมากบ้างน้อยบ้าง เลือกมองสิ่งที่ดีใจเราจะไม่หล่นตำ่ลง. สนิมในใจแบบนี้ต้องเอาออกด้วยตัวเองใครก็คงช่วยไม่ได้. สำหรับหมอแล้วมีสติรู้ตัวตลอดเวลาว่าทำอะไร ใจแน่วแน่ในนิพพาน การสะสมบุญบารมีย่อมต้องผ่านบทเรียนแห่งมาร มาช่วยกันทำความดีเพื่อแผ่นดินกัน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 ขายเมืองยกให้เลยทั้งเมือง 12 ล้านบาทเท่านั้น แลนซ์ เบนสัน เป็นเจ้าของเมืองสเวตต์ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากเบนเน็ตต์เคาน์ตี้ ในรัฐเซาธ์ ดาโกตา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 2 ชั่วโมง กำลังต้องการขายหมู่บ้านของเขาด้วยสนนราคา 400,000 ดอลลาร์ (12,832,000 บาท) เบนสันได้ซื้อเมืองสเวตต์แห่งนี้มาเมื่อปี 2541 เพื่อมอบให้กับอดีตภรรยาในการหย่าร้างกัน และได้ยึดกลับคืนมาในปี 2555 และได้นำเมืองออกขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อปี 2483 ที่นี่มีประชากร 40 คน มีไปรษณีย์ 1 แห่ง ร้านขายของชำ 1 แห่ง และบ้าน ในช่วงหลายปีที่เบนสันเป็นเจ้าของเมืองแต่เพียงผู้เดียวชั่วระยะเวลาประมาณ 16 ปี ได้มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งโรงปฏิบัติงาน , รถพ่วง 3 คันและบ้านที่เบนสันและภรรยาคนปัจจุบันได้อาศัยอยู่ นอกจากนี้บาร์ของเมืองก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ เป็นแหล่งน้ำแห่งเดียวในรัศมี 10 ไมล์ โรงแรมสเวตต์ก็ยังคงเป็นแหล่งรวมตัวของคาวบอยท้องถิ่นและเกษตรกรปลูกข้าวสาลี เบนสันบอกว่า ถ้าขายไม่ได้ภายในอีก 1 ปี ก็อาจจะยังคงครองอาณาจักรเล็ก ๆ นี้ของเขาต่อไป #nationtv #ข่าวข้นรับอรุณ #ข่าวข้นต่างประเทศ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
