ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

[ginger 11,058]

 

สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ… สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ครั้งที่ ๖

 

 

 

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเครื่องดนตรีกู่เจิง ในการแสดงดนตรีและวัฒนธรรม “สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน” ครั้งที่ 6 (เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. 56 ตามเวลาสาธารณรัฐประชาชนจีน) ร่วมกับวงดุริยางค์ของจีน สลับการแสดงอันยิ่งใหญ่ จากคณะนาฏศิลป์จากประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์ที่แนบแน่น

 

 

โดยการแสดงครั้งนี้รัฐบาลจีนเป็นเจ้าภาพ และมีชาวจีนสนใจเข้าชมเต็มความจุ 15,000 คน ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยชิงหัว กรุงปักกิ่ง

ทั้งนี้ ภายหลังการแสดงจบลง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะสื่อมวลชนไทยที่ตามเสด็จครั้งนี้

และทรงมีรับสั่งถึงพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า “ทั้งสองพระองค์ทรงพระสำราญขึ้น เพราะว่าตอนนี้ได้ทรงแปรพระราชฐานไปอยู่ที่วังไกลกังวล หัวหิน ซึ่งอากาศก็ดี บรรยากาศก็ดี ท่านก็แจ่มใสขึ้นมาก

เพราะว่าต้องยอมรับว่าถึงแม้จะอยู่ในโรงพยาบาล ดูเหมือนปลอดภัย แต่มันก็มีความหดหู่นิดๆ เพราะว่าที่โรงพยาบาลศิริราช เราถวายท่านดีที่สุดก็จริง แต่ว่าก็มีอยู่แค่นั้นไม่กี่ห้อง และท่านก็อยู่ตรงนั้น 4 ปีแล้ว

แน่นอนว่าท่านจะหดหู่พระทัยบ้างที่อยู่แต่ในโรงพยาบาล พอได้ไปวังไกลกังวลก็รู้สึกว่าท่านสดชื่นขึ้นมาก”

นอกจากนี้ทรงมีรับสั่งถึงพระอาการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า “ท่านยังมีพระโรคปวดข้อบ้าง แพทย์เลยไม่แนะนำให้ทรงงาน จึงมิได้เสด็จฯออกมหาสมาคมให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี ในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา”

 

 

ทั้งนี้จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงมีความห่วงใยและมีรับสั่งถึงประชาชนคนไทยว่า

“ข้าพเจ้าขอให้คนไทยรักประเทศของเราให้มากๆ และขอให้เป็นความรักที่ถูกต้องคือต้องซื่อสัตย์ ภักดีกับประเทศเรา อย่าหวังผลประโยชน์ส่วนตัวจนมากเกินไป หรือโกงกินก็รับไม่ได้ ขอให้ทุกคนช่วยกันดำรงความเป็นธรรมให้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ และขอให้ทุกคนทำอะไรให้นึกถึงความเป็นไทยให้มากๆ ขอแค่นี้”

 

 

 

งานแสดงดนตรีและวัฒนธรรมสายสัมพันธ์สองแผ่นดิน เริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ.2544 เป็นต้นมา ที่ผ่านมา 5 ครั้ง ได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากทั้งในราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

เครื่องดนตรีกู่เจิงที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงบรรเลงนั้น ไม่เพียงแต่จะกลายเป็นเครื่องดนตรีที่รู้จักกันแพร่หลาย หากยังกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์อันดีถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศอีกด้วย

เมื่อครั้งมีการทูลถามคำถามว่า “การหัดเล่นกู่เจิงของพระองค์ทรงมีความหมายอย่างไรต่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน”

ทรงมีรับสั่งตอบว่า “ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่าคนไทยรู้จักกู่เจิงและหันมาเรียนกู่เจิงมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ข้าพเจ้าก็ได้เป็นครูสมัครเล่นในการสอนกู่เจิงด้วยเช่นกัน”

สำหรับเครื่องดนตรีกู่เจิง เป็นเครื่องดนตรีประเภทสายที่เก่าแก่แห่งราชสำนักจีน เริ่มขึ้นในรัชสมัยราชวงศ์ฉินประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว และแพร่หลายไปในแถบมณฑลซานซี มีอีกชื่อหนึ่งว่า ฉินเจิ้ง หรือพิณของฉิน

ลักษณะคล้ายเครื่องสายของไทยชนิดหนึ่ง คือ จะเข้ รูปร่างของกู่เจิง เป็นสี่เหลี่ยมรูปยาวเกือบ 2 เมตร มีขาตั้งโปร่งยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 60 เซนติเมตร เพื่อให้เสียงกังวาน สายเสียงพัฒนาเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน มี 21 สาย กู่เจิงแต่ละเครื่องจะมีการแกะสลักลวดลายงดงามที่ไม่ซ้ำแบบกัน กล่าวกันว่าเสียงดนตรีของกู่เจิงนั้นสดใสบริสุทธิ์ ไพเราะหวานละมุน และมากด้วยสีสัน สามารถสร้างจินตนาการให้พลิ้วไหวราวล่องลอยอยู่ในหมู่เมฆและสายน้ำ หรือให้เสียงกึกก้องราวคลื่นถล่มภูเขาทลาย ได้รับการขนานนามว่า “เปียโนตะวันออก”

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 3, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

มะขวิด พยักหน้ารับเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์

[ginger 11,058]

ค่อยหายร้อนน

 

งามแบบมีคุณค่าจร้า โพสแบบนางงาม

มะขวืด

[ginger 11,058]

 

 

 

 

 

Great Barrier Reef (Australia)

Australia's Great Barrier Reef attracts scuba divers from around the globe

who want dive among the largest coral reef system in the world.

1,000,000 pic

[ginger 11,058]

วันที่ 3 ก.ค.57 เด้ง พงศพัศ – อธิบดีกรมคุก ไปนั่งตบยุง

 

คสช.มีคำสั่งเด้ง สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมคุก เข้ากรุไปเป็นผู้ตรวจฯ และ พงศพัศ พงศพัศ พงษ์เจริญ จากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไปนั่งตบยุงที่สำนักงานตำรวจฯ โดยยังไม่มีงานให้

 

อธิบดีกรมคุก เพิ่งโดนตำหนิที่นักโทษในคุกดันมีชื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร ฟอกเงินยาเสพติดได้ และทหารยังมีการบุกค้นคุกหลายแห่ง พบสิ่งผิดกฎหมายเพียบ ส่วน พงศพัศ เป็นจอม PR เขาเคยเป็นประธานกำหนดเสป็ค โรงพักฉาว จนบริษัทสร้างไม่เสร็จ แต่กลับโยนขี้ให้กำนัน จนเสื้อแดง และตำรวจ เข้าใจผิดกันจนบัดนี้

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/thailandcoup

 

 

 

 

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

 

กกโฮ โกห้า ทำว่าตนดีทั้งที่... ...

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 4, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

วันนี้...คุณ"นิชา" โพสต์ภาพชื่อ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ถูกจารึกที่กำแพงแก้วอนุสรณ์สถานแห่งชาติแผ่นเดียวกับ

พล.อ.ตะวัน เรืองศรี-พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่เสียชีวิตในวันที่10 เมษา เหล่าผู้กล้าที่สละชีพในภาคใต้ และเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอคตก !!!

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 4, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

เกี่ยวกันได้งัย

[ginger 11,058]

 

แพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เผย มีผู้ป่วยจากอาหารปวดท้อง 2 ราย มารับการรักษา พบต้นเหตุจากการกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไป เตือนมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ถึงขั้นเสียชีวิตได้จากภาวะโลหิตเป็นพิษ เพราะการติดเชื้อในช่องท้อง #nationtv #ข่าวข้นคนเนชั่น

[ginger 11,058]

สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน

เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีนายบารัค โอบามาเป็นผู้นำได้มีนโยบายต่างประเทศต่อภูมิภาคเอเซียที่ชัดเจน นั่นคือ"ปิดล้อมจีน" จึงทำให้ไทยตกอยู่ในเป้าหมายอันดับแรกของนโยบายนี้ เพราะถ้าสหรัฐอเมริกาจะปิดล้อมจีนได้ สหรัฐอเมริกาต้องยึดครองแล้วครอบงำไทยให้ได้เสียก่อน ในยุคสมัยใหม่การยึดครองครอบงำประเทศอื่นจะใช้การแทรกแซง และครอบงำตัวผู้นำของประเทศนั้นๆมากกว่าการใช้"ปืน"ไปจี้บังคับเหมือนในอดีต เมื่อเราพิจารณาสถานการณ์โลกโดยรวม เราจะเห็นว่า วันนี้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาลดน้อยถอดลงไปอย่างมากกว่าเมื่อก่อน ในยุคสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองและยุคสงครามเย็น อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาแผ่กระจายไปทั่วโลก ยึดครองครอบงำไปเกือบทุกประเทศ วันนี้สหรัฐอเมริกาแทบไม่มีที่จะยืน เช่น

-ในย่านอเมริกาใต้ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาชอบพูดเปรียบเปรยว่าเป็น"สวนหลังบ้าน"ของตนเอง เมื่อก่อนสหรัฐอเมริกามีอิทธิพลครอบงำเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ อาร์เจนติน่า บราซิล เปรู ชิลี โบลิเวีย ปารากวัย อุรุกวัย เวเนซูเอลลา โคลัมเบีย ตอนนี้ประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ถอยห่างจากสหรัฐอเมริกามายืนอยู่บนขาของตัวเองอย่างเข้มแข็งและบางประเทศยังแสดงท่าทีทางการเมืองระหว่างประเทศขัดแย้งกับความต้องการของสหรัฐอเมริกาเสียอีก จะมีก็เพียงโคลัมเบียประเทศเดียวเท่านั้นที่ยังพร้อมเดินตามก้นสหรัฐอเมริกา

-ในย่านอเมริกากลาง หลายๆประเทศที่เป็นประเทศเล็กประเทศน้อยพยายามสลัดตัวเองออกจากการครอบงำของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะพี่เบิ้มในย่านนั้นคือ เม็กซิโก ซึ่งประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเม็กซิโกก็มีทัศนะคติทางการเมืองที่ไม่ยอมตามก้นสหรัฐอเมริกา และพรรคการเมืองที่เขาสังกัด "พรรคสถาบันปฏิวัติ" ยังเต็มไปด้วยผู้นำพรรคที่ต้องการให้"แยงกี้โกโฮม"เป็นส่วนใหญ่

-ในยุโรป สหรัฐอเมริกาต้องผนึกกำลังกับเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ถึงจะสามารถรับมือกับการขยายอิทธิพลของรัสเซียได้ และสถานการณ์ในยูเครนก็บ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฝั่งสหภาพยุโรปที่ร่วมมือเป็นหุ้นส่วนกับสหรัฐอเมริกากำลังเสียเปรียบในกรณียูเครน

-ย่านตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกาต้องถอยออกมาอย่างบอบช้ำ เพราะการบุกเข้าไปยึดอัฟกานิสถาน และอิรัก ไม่ได้ทำให้ชาวอาหรับเป็นปลื้มรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเลย กลับกลายเป็นว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและชาวอเมริกันถูกมองว่าเป็นศัตรูของชาวมุสลิมไปเสียด้วยซ้ำ ประเทศที่ยังคงพร้อมเดินตามสหรัฐอเมริกาในย่านนี้เหลือน้อยเต็มที ซาอุดิอารเบีย การ์ตา คูเวต จอร์แดน เยนเมน และอิสราเอล เท่านั้นที่ยังคงเดินตามนโยบายทางการเมืองของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งในแต่ละประเทศก็กำลังเผชิญวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศตัวเองจากการเดินตามก้นสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น

-ในแอฟริกา ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่โลกยังไม่ให้ความสนใจมากนัก เพราะการเปลี่ยนแปลงในประเทศแถบนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อดุลอำนาจของโลก แต่กลับเป็นว่า ชาวอเมริกันถูกไล่ล่าและตกอยู่ในอันตรายหากไปเดินเพ่นพ่านในย่านนั้น

-เอเซีย ที่สหรัฐอเมริกาจ้องตาเป็นมัน และต้องการกลับเข้ามามีอำนาจและอิทธิพลครอบงำอีกครั้ง หลังจากต้องถอยไม่เป็นท่าหลังพ่ายแพ้สงครามเวียตนาม ประตูที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาพยายามที่จะเปิดเข้ามาครอบงำเอเซียก็มีไม่กี่ประตู

1.เกาหลีใต้

2.ญี่ปุ่น

3.ฟิลิปปินส์

4.ไทย

5.ปากีสถาน

เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ถึงแม้จะเดินตามนโยบายทางการเมืองของสหรัฐอเมริกามานาน แต่ทั้งสองประเทศก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และประชาชนในชาติก็มีวินัยสูง มีจริยธรรมสูง ทำให้นักการเมืองที่ปกครองประเทศทั้งสองไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะจะถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนในประเทศ ดังนั้นการที่สหรัฐอเมริกาจะมาสั่งให้เขาซ้ายหันขาวหันคงเป็นเรื่องยากมาก

ส่วนฟิลิปปินส์นั้นถึงแม้จะยอมให้สหรัฐอเมริกาชี้นำ แต่สถานะทางการเมืองระหว่างประเทศแล้วฟิลิปปินส์ไม่มีอิทธิพลและน้ำหนักเพียงพอที่ใครจะฟัง

ส่วนปากีสถานวันนี้ถือว่าคนปากีสถานเองหรือแม้แต่นักการเมืองปากีสถานก็ไม่มีใครไว้วางใจรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพราะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของปากีสถานมีบทเรียนอันเจ็บปวดจากการที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาแอบให้การสนับสนุนลับๆกับศัตรูทางการเมืองของเขา

"ไทย"คือประตูสำคัญที่สหรัฐอเมริกาต้องการเปิดเข้ามายึดครองครอบงำให้ได้ เพราะไทยตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์หลักของการปิดล้อมจีนของสหรัฐอเมริกา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะครอบครองและชี้นำรัฐบาลของไทยให้ได้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาพยายามสอดส่อง และเสาะหานักการเมือง พรรคการเมืองที่พร้อมจะขายจิตวิญญาณของตนเองเพื่อรับใช้ชาติอื่น และทรยศชาติตนเอง เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาพบบุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น พวกเขาก็พร้อมจะทุ่มเทสนับสนุนให้นักการเมืองที่ขายจิตวิญญาณและพร้อมที่จะทรยศต่อชาติตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนเหล่านี้ขึ้นมามีอำนาจในการปกครองประเทศ และนำประเทศไทย นำคนไทยไปรับใช้สหรัฐอเมริกา ทำตามที่สหรัฐอเมริกาต้องการ

จะไปด่าไปว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ เพราะเขาทำโดยยึดหลักผลประโยชน์ของชาติเขา แต่ที่เราควรด่าควรประณามก็คือคนไทยด้วยกันที่ประพฤติตนเป็นคนที่พร้อมขายชาติ ขายจิตวิญญาณของตนเองเพื่อรับใช้ชาติอื่น ทรยศชาติตนเอง ทำลายชาติตนเอง เพราะคนเหล่านี้คือพวก"หนักแผ่นดิน"ที่แท้จริง

อย่าลืมว่า"สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน" คนไทยต้องรีบเร่งจัดการสนิมพวกนี้โดยเร็ว ก่อนที่สนิมเหล่านี้จะกัดกร่อนโครงสร้างอันแข็งแรงของประเทศไทยของเรา

ไทกร พลสุวรรณ