ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

10537874_696679663721153_383875483857751699_n.jpg?oh=a6c3aa7cd650a74cd114a20eeee8d4a7&oe=544E5BC2

วันใหม่ ใจร่าเริง

เมื่อไร ก็เป็นสุข

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอกไม้ กินได้

1044795_10152588271772028_105967896781946115_n.jpg

ดอกโสนบ้านนา แก้พิษร้อนถอนพิษไข้ บำรุงกระดูกและสมอง

สรรพคุณแก้พิษร้อน ถอนพิษไข้ ดอกโสนให้ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัสบำรุงกระดูกบำรุงสมอง มีเหล็กบำรุงเลือด

ให้วิตามินเอไว้ต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บอีก และมีวิตามินบี 1 บี 2 ไนอะซิน และวิตามินซี อีกพอสมควร

นับว่าเป็นดอกไม้พืชพื้นบ้านที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายอย่างมาก

http://bit.ly/1er5RDC

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10404422_10152591117887028_4069660971809028086_n.jpg?oh=67f6e1d18a5d3722a470effbe443ad39&oe=54585DD5&__gda__=1412684970_e6f998d8e1e897b204cf43a05435bf65

3 สมุนไพร พิชิต โรคเบาหวาน

สมุนไพร... ในโรคเบาหวาน เบาหวาน จัดเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

ผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากร่างกายมีกระบวนการเมตาบอลิซึม ที่ผิดปกติ

ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดที่ได้จากอาหารไปใช้ตามปกติได้

สาเหตุสำคัญเกิดจากความบกพร่องของการหลั่งอินซูลิน จากตับอ่อน หรือการทำงานของอินซูลินผิดปกติ

http://bit.ly/1jnGlmQ — with Wilawan Pintong and 17 others.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10456164_10152588284797028_6457004232295430903_n.jpg

ยำดอกขจร มากด้วยวิตามินและบีตาแคโรทีน

ขจรพืชผักพื้นบ้านของไทย บางที่ก็เรียกดอกสลิด บางที่ก็เรียกดอกขจร

ใบและดอกขจรมีคุณค่าทางอาหารสูงโดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินซี และเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียม เหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี

และเส้นใยอาหาร โดยวิตามินซีและบีตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระต่างๆ ออกจากร่างกาย

http://bit.ly/VJtdl8

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็ตัดมาตรงนี้

ไม่ใช่ภาพจาภาพยนต์ แต่เป็นเหตุการจริง ที่ฉนวนกาซา

LIVE Video feed of Gaza

(2views)Skyline as Day 3 of Israeli bombing raids continue.

Tanks seen gathering.

http://www.ustream.tv/occupiedair?utm_campaign=ustre.am&utm_source=ustre.am%2FG1Qt&utm_medium=social&utm_content=20140710001532

Death Toll in Gaza Rises to 75

 

On Wednesday alone, 24 Palestinians were killed in Gaza, including six women and nine children. Another 20 people, including seven women and children, were killed on Thursday morning. The ministry also reported that a total of 474 Palestinians have been wounded since Israel launched “Operation Protective Edge” late Monday night.

Images from earlier on Wednesday during heavy bombing

10489622_1443229939281163_2788607182292314318_n.jpg

10524602_1443229935947830_2551561696724128813_n.jpg

10414859_1443229929281164_1817969632725411004_n.jpg?oh=29b9754d15ce1becba36cddef253cebd&oe=5444CB8F&__gda__=1414414821_2ce173ac42c5336394b8164468054c15

10530955_1443229932614497_5241453814089666531_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 13 ก.ค.57 จอร์แดน ไม่ยอมมะกันขอใช้ดินแดน ฝึกกบฏไปสู้กับรัฐบาลซีเรีย

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามากกว่า 1 ปี สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ใช้แผ่นดินจอร์แดน เป็นสถานที่ฝึกการสู้รบให้กับฝายกบฏซีเรีย ตามที่เคยบอกตอนก่อนว่า โอบามา ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อติดอาวุธ และฝึกการสู้รบให้ฝ่ายกบฏซีเรียสาย กล๊าง กลาง..โดยใช้ดินแดนของจอร์แดน เป็นสถานที่รองรับการฝึกฝ่ายกบฏซีเรีย

 

แต่ประหลาดมาก เมื่อรัฐบาลโอบามา ไม่เคยร้องขอต่อรัฐบาลจอร์แดนอยางเป็นทางการ เพื่อขอใช้แผ่นดินจอร์แดนเป็นสถานที่รองรับการฝึกนักรบฝ่ายกบฏซีเรีย ขณะที่รัฐบาลจอร์แดนซึ่งจำใจยอมร่วมมือกับโอบามา ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนหลายครั้งว่า ไม่ต้องการให้ความรุนแรงจากสงครามในซีเรียไหลล้นเข้าสู่ดินแดนของตน เพราะหวั่นเกรงการตอบโต้ที่คาดไม่ถึงจากซีเรีย ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาซ้ำเติมจอร์แดน ที่ต้องรองรับคลื่นผู้อพยพจากซีเรีย จำนวนมากกว่า 600,000 คน

 

ขณะนี้รัฐบาลบารัค โอบามายังคง “มืดแปดด้าน” และไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้ประเทศใดเป็นฐานรองรับการฝึกนักรบฝ่ายกบฏซีเรีย แทนที่จอร์แดน โดยสหรัฐฯ อาจขอความร่วมมือจากซาอุดีอาระเบีย ตุรกี รวมถึงรัฐเศรษฐีอาหรับ แถบอ่าวเปอร์เซีย เพื่อขอเอากองกำลังติดอาวุธของตน เข้าไปฝึกอาวุธ ในดินแดนประเทศเหล่านั้น

 

แผนงบประมาณ กว่า 15,000 ล้านบาท ของโอบามาต่อสภาคองเกรสส์ ดังกล่าว คงต้องถูกชะลอออกไปอีกหลายเดือนจากนี้ ส่งผลให้โอบามาต้องเลี่ยงหัวหมอ ไปใช้วิธีการนำ “งบประมาณฉุกเฉิน” ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ “เพนตากอน” ไปใช้ในภารกิจนี้ก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องขอสภาคองเกรสส์...เออ เอากะมันดิ

 

แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (SNC) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันอย่างหลวมๆ ของกบฏซีเรีย ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด และมีอเมริกา และชาติตะวันตกคอยหนุนหลัง ได้เลือก ฮาดี อัล-บาห์รา หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพเจนีวา เป็นประธานคนใหม่แล้ว

 

ประธานแนวร่วม SNC ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมอุตสาหการ จากสถาบันในสหรัฐฯ เขามีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซาอุฯ และอาศัยอยู่ในอาณาจักรเศรษฐีน้ำมันแห่งซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯ และชาติมหาอำนาจอื่นๆ แต่งตั้งให้แนวร่วม SNC เป็นองค์กรหลักที่เป็นตัวแทนกบฏซีเรีย

 

แต่กบฏกลุ่มนี้ ก็แทบจะไม่มีอำนาจในซีเรีย เพราะกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของแนวร่วม SNC ต่างเป็นผู้แผ่อิทธิพลอิสระครอบงำหลายพื้นที่เอง นอกจากนี้การต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันภายในกลุ่มแนวร่วม SNC เอง ยังบ่อนทำลายความพยายามของกบฏกลุ่มนี้ ในการต่อกรกับกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีซีเรีย เพราะที่เป็นกลุ่มอิสลามแนวทางแข็งกร้าวยิ่งกว่า และมีนักรบติดอาวุธจากต่างชาติเข้าร่วมเป็นสมาชิก

 

ไอ้มาม่า เจือก ไปทั่ว แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น ถึงขั้นบ้าอำนาจแต่งตั้งแนวร่วม SNC เป็นองค์กรหลักที่เป็นตัวแทนกบฏซีเรีย ไปสู้กับรัฐบาลประเทศเขาอีกแล้ว..ไหนบอกอเมริกา และ EU เรียกร้องประชาธิปไตยไง ความเนื่อเชื่อถืออเมริกา ไม่เหลือหลอ ล้มละลายทางเครดิตในประชาคมโลกแล้ว

 

รัฐบาลมะกันเอง ก็มีคนยิวครอบงำอีกต่อ..เป็นได้แค่ลูกสมุนของคนยิวเท่านั้น..ไร้ศักดิ์ศรีมหาอำนาจจริงๆ

 

@ เสธ น้ำเงิน2

https://www.facebook.com/thailandcoup

 

หมายเหตุ โปรดงดการโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด หรือ ข้อความ / ข่าวลือ / ภาพต้าน คสช.ในคอมเม้นท์เด็ดขาด ใครฝ่าฝืนจะถูกบล็อกเข้าเพจนี้

10494647_321519181348596_7628461547614616860_n.jpg

 

10474040_321519171348597_6334979364203461546_n.jpg

 

10492192_321519178015263_4150515036927557494_n.jpg

 

1969405_321519174681930_3097896670960985635_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไขปริศนา..ยิวกับปาเลสไตส์ ใยต้องรบพุ่งฆ่ากัน (ตอน 1 ปฐมเหตุ) (28 photos)

วันที่ 11 ก.ค.57 ไขปริศนา..ยิวกับปาเลสไตส์ ใยต้องรบพุ่งฆ่ากัน (ตอน 1 ปฐมเหตุ)

 

ตอนนี้สงคราม ในตะวันออกกลางที่ทำท่าจะหยุดไม่อยู่ นอกจากในซีเรีย และ อิรัก แล้ว อีกจุดที่ดุเดือด เลือดนอง คือ ยิวอิราเอล กับปาเลสไตน์ ที่อยู่ในฉนวนการ์ซา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจาก การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในเขตปาเลสไตน์ ตลอด 4 วัน ตายทะลุ 120 รายแล้ว เป็นเด็กกว่า 25 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน เด็ก ผู้หญิง และคนชรา ประชาชนเกือบ 900 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือนกว่า 150 หลัง พังพินาศ หรือได้รับความเสียหายร้ายแรง

 

สถานการณ์การสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีวี่แววจะยุติลงโดยง่าย เมื่อมีจรวดจากกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนยิงเข้ามาใส่ เขตของอิสราเอล ทำให้อิสราเอลประเมินว่า นักรบในเลบานอนอาจเข้าร่วมกับกลุ่มฮามาส ในปาเลสไตน์ จึงจะมีมาตรการตอบโต้ทางอากาศอย่างดุเดือด

 

กองทัพอิสราเอล เรียกกำลังสำรอง 40,000 นายรายงานตัวกับกองทัพ และจะส่ง 33,000 นายไปตรึงกำลังตามพรมแดนติดเขตของชาวปาเลสไตน์ พร้อมประกาศว่า จะปฏิบัติการขยายด้วยกองกำลังสำคัญทั้งหมด เคลื่อนกำลังภาคพื้นดินอาจมีขึ้นภายใน 2 วันนี้

 

อิสราเอลเริ่มยุทธการป้องกันสุดปลายขอบ หรือ "โปรเท็กทีฟ เอดจ์" ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 ก.ค. โดยยิงขีปนาวุธต่อต้านจรวด และปืนครก ของกลุ่มฮามาส ออกมาจากฉนวนกาซาเข้าสู่อิสราเอล ได้กว่า 121 ลูกจากราว 550 ลูก อิสราเอลก็ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากกว่า 500 เที่ยว การปะทะครั้งนี้ถือเป็นความรุนแรงที่สุด นับจากเมื่อปี 2555

 

แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วิงวอนยับยั้งเหตุความรุนแรงที่ลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ในฉนวนกาซา แต่ก็ไร้ผล เพราะนายกรัฐมตรียิวไม่ใส่ใจข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ยังสั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ โดยยืนกรานว่าพวกฮามาสเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กกว่า 3.5 ล้านคนทั่วรัฐยิว

 

กลุ่มฮามาส เองก็ข่มขวัญชาวอิสราเอล ด้วยการบอกให้ชาวยิว ทั้งหลาย รอดูการโจมตีด้วยการไล่แทงในทุกหนทุกแห่ง รอคอยการโจมตีแบบพลีชีพบนรถบัสโดยสารทุกคัน รวมถึงตามคาเฟ่และบนถนน...ดังนั้นสถานการณ์ในอิสราเอล และกาซา กำลังลุกลามเกินควบคุม

 

มาดูเป็นบทเรียนคนไทยว่า อาหรับกับยิว ทำไมจึงต้องมีการรบพุ่งกันมากว่า 2 พันปี และทำไมจึงไม่มีฝ่ายใดกำชัยชนะที่เด็ดขาดได้สักที และในยุคหลัง ใครอยู่เบื้องหลังการรบพุ่งของชนชาติ 2 กลุ่มนี้

 

หลังจากโรมเข้าถล่มเยรูซาเล็มจนพินาศแล้ว ชาวอิราเอลได้กระจัดกระจายไปสู่ในที่ต่างๆ แรกเริ่มเดิมทีนั้นดินแดนปาเลสไตน์นั้นหาใช่ดินแดนว่างเปล่า หากแต่มีผู้คนอาศัยและสร้างสังคม วัฒนธรรม อารยธรรมมาช้านาน โดยมีหลายชนชาติเข้ามาจับจองพื้นที่สร้างบ้านเมืองของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ชาวกันอาน เป็นชนชาติอาหรับ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวปาเลสไตน์ ชาวกิบบิโอน ชาวฟิลิสติน (ต่อมาแผลงมาเป็นชื่อ ปาเลสไตน์)

 

ต่อมาเมื่อชนชาติยิวซึ่งอพยพมาจากอียิปต์ เข้ามาบุกรุกดินแดนแถบนี้และเริ่มรบพุ่งแย่งชิงดินแดนจากชนพื้นเมืองที่อยู่มาแต่เดิม จนสร้างอาณาจักรอิสราเอลขึ้น แต่ต่อมาก็ได้ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน ตอนเหนือเรียกว่าอาณาจักรอิสราเอล ส่วนตอนใต้เรียกว่าอาณาจักรยูดาย

ถัดจากนั้นดินแดนแถบนี้ก็ถูกปกครองโดยกลุ่มชนหลายเผ่าพันธุ์ เช่น บาบิโลน อัสสิเรียน เปอร์เซีย กรีก โรมัน

 

ในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน ชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้ลุกขึ้นแข็งข้อต่ออำนาจของจักรพรรดิติตัส ของโรมัน จักรพรรดิติตัสจึงสั่งทำลายกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ทางตอนเหนือเสียจนราบคาบ จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 4 ปาเลสไตน์ก็ตกเป็นของชาวคริสต์ จักรพรรดิคอนสแตนติน ซึ่งเข้ารีตคริสต์ได้สร้างวิหารศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม

 

กลายเป็นสถานที่ดึงดูดให้คริสต์ศาสนิกชนเข้ามาจาริกแสวงบุญกันมากขึ้น จนกลายเป็นศูนย์กลางระบบสงฆ์และนักบวชในศาสนาคริสต์ จนเกิดการสร้างโบสถ์และวิหารต่างๆ ตามมาอีกมากมาย จนกระทั่งกลุ่มชาติอาหรับได้แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในดินแดนแถบนี้และก่อสงครามแย่งชิงพื้นที่

 

ปี ค.ศ. 637 ชาวอาหรับก็ยึดครองดินแดนได้โดยสมบูรณ์ ประชากรที่เคยนับถือคริสต์ก็เริ่มแปรเปลี่ยนมานับถืออิสลามมากขึ้น จนประชากรส่วนใหญ่ก็ลายเป็นชาวมุสลิมไปจนเกือบทั้งหมด ชาวคริสเตียนที่เหลืออยู่ พยายามอย่างยิ่งที่จะยึดครองดินแดนนี้กลับมาเป็นของชาวคริสต์อีกครั้ง โดยไม่เพียงแต่ชาวคริสต์ในดินแดนปาเลสไตน์เท่านั้น หากแต่ยังได้รับความร่วมมือจากชาวคริสต์จากต่างแดนมาร่วมรบในสงครามที่เรียกว่า “สงครามครูเสด”

 

สงครามครั้งนี้ยืดเยื้อยาวนานกว่า 150 ปี จนในที่สุดก็จบสิ้นลง โดยดินแดนปาเลสไตน์ตกเป็นของชาติอาหรับอย่างสมบูรณ์ มีประชากรส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังเป็นชาวคริสเตียน ดินแดนปาเลสไตน์ก็ยังถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันครอบครองจากสองชนชาติคือ อาหรับและคริสต์ มานานกว่า 800 ปี ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ชนชาติตุรกีเข้ายึดครองนานถึง 400 ปี แต่การยึดครองของชาวเติร์กนี้มิได้มีการเปลี่ยนแปลงทางศาสนา

 

สัดส่วนการนับถือศาสนาของประชาชนในดินแดนแถบนี้ มิได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแต่อย่างใด แม้แต่เชื้อชาติพลเมืองก็ยังคงเป็นชาวอาหรับเสียส่วนใหญ่ เหมือนก่อนหน้าที่พวกเติร์กจะเข้ามายึดครอง รวมถึงภาษา ประเพณี วัฒนธรรม ก็ยังคงเดิม เปลี่ยนแปลงเพียงกลุ่มชนชาติที่เข้ายึดครองเท่านั้น

 

ปี ค.ศ. 1897 ได้มีการก่อตั้งกลุ่มลัทธิไซออนนิสม์ โดยกลุ่มชาวยิวปัญญาชนและพ่อค้ายิวที่ทำมาหากินจนร่ำรวยจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะบนแผ่นดินอเมริกาและยุโรป มีจุดประสงค์เพื่อนำชาวยิวกลับมาตั้งถิ่นฐาน สร้างชาติยิวขึ้นมาใหม่บนแผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งกลุ่มไซออนนิสต์ยึดมั่นในพระคัมภีร์ที่ว่า “พระเจ้าได้ประทานดินแดนแห่งนี้ให้กับชาวยิว”

 

แต่ในขณะนั้นปาเลสไตน์ตกอยู่ใต้อาณัติของอังกฤษ กลุ่มไซออนนิสต์ใช้เวลานับสิบปีลงทุนกว้านซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินชาวอาหรับอย่างถูกกฎหมาย และจัดการพัฒนาพื้นที่ที่เคยแห้งแล้งให้สามารถเพาะปลูกได้ ท่ามกลางความไม่พอใจของบรรดาชาวอาหรับเจ้าของที่ดินเดิม แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะได้ทำการซื้อขายกันไปแล้วตามกฎหมายทุกประการ

 

ความขัดแย้งในการครอบครองดินแดนยังคงคุกรุ่นอยู่เรื่อยมา โดยมีกลุ่มไซออนนิสต์ดำเนินการอยู่ทั้งโดยเบื้องหน้าและเบื้องหลัง จนกระทั่งภาคพื้นยุโรปเกิดสงครามโลกขึ้นและได้ลุกลามขยายวงกว้างมายังดินแดนปาเลสไตน์

 

ปี ค.ศ. 1910 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นักเคมีชาวยิวสมาชิกกลุ่มไซออนนิสต์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด และได้เปลี่ยนสัญชาติจากลัตเวียมาเป็นอังกฤษ ได้ทำการคิดค้นดินระเบิดประสิทธิภาพสูงซึ่งสามารถผลิตเองได้โดยใช้วัตถุดิบ ที่หาได้ง่าย เนื่องจากก่อนหน้านั้นกองทัพอังกฤษใช้ดินระเบิดคอร์ไดท์ ซึ่งอังกฤษผลิตเองได้ แต่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบสำคัญคือ อาซีโทน

 

สารนี้จำเป็นต้องสั่งเข้าจากเยอรมันซึ่งเป็นคู่สงคราม เมื่อไม่มีวัตถุดิบ อังกฤษจึงประสบปัญหาใหญ่ในการทำสงคราม จนกระทั่งได้ นักเคมีชาวยิว มาช่วย อังกฤษจึงยังคงสามารถเข้าร่วมรบในสงครามโลกต่อไปได้

 

จากการช่วยเหลือของ นักเคมีชาวยิวผู้นี้ (ต่อมาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ กระทรวงทหารเรือของอังกฤษ) ทำให้อังกฤษซึ่งมีอิทธิพลเหนือดินแดนตะวันออกกลางในช่วงนั้น ตอบแทนโดยการมอบดินแดนปาเลสไตน์ ให้เป็นที่พักพิงถาวรของชาวยิว โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอังกฤษในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามใน “สนธิสัญญาบาลฟอร์”

 

ขณะเดียวกันก็เกิดสนธิสัญญาขึ้นซ้อนอีกหนึ่งฉบับ ที่ข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษในอียิปต์ ไปตกลงกับชาวอาหรับว่า หากชาวอาหรับช่วยอังกฤษทำสงครามกับเยอรมันแล้ว อังกฤษจะยกดินแดนบางส่วน รวมถึงปาเลสไตน์คืนให้แก่ชาวอาหรับ แต่เมื่อสิ้นสงคราม อังกฤษก็ยังคงยึดครองปาเลสไตน์โดยมิได้มอบให้แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เนื่องด้วยฝ่ายยิวและอาหรับต่างก็อ้างสนธิสัญญาที่ตนเองถือเป็นข้ออ้างในการครอบครองดินแดน

 

ปี ค.ศ. 1923 องค์การสันนิบาตชาติ มอบหมายให้อังกฤษเป็นผู้ดำเนินการส่งมอบดินแดนปาเลสไตน์ให้แก่ชาวยิว แต่อังกฤษก็ยังคงครอบครองดินแดนไว้เพื่อใช้ต่อรองกับกลุ่มชาติอาหรับ ในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าภายหลังสงคราม ดินแดนเจ้าปัญหานี้ก็ยังไม่ได้ถูกส่งมอบให้แก่ฝ่ายไหนอยู่ดี อีกทั้งปัญหาการอพยพเข้ามาของชาวยิวจำนวนมาก ก็ยังเพิ่มทวีความวุ่นวายเข้าไปทุกขณะ โดยมีกลุ่มชาติอาหรับแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

 

ปี ค.ศ. 1939 -1945 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิตเลอร์และพรรคนาซี ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวไปทั้งหมด ประมาณ 7 ล้านคน หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของประชากรยิวในยุโรป ที่เป็นผลจากความฝังใจของฮิตเลอร์ในสมัยวัยเด็ก ต่อการกดขี่ของยิว

 

** ดูความเดิมเรื่องนี้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.252241154965919.1073742035.187529244770444&type=1

 

ปี ค.ศ. 1947 พวกไซออนนิสม์ ใช้วิธีการหลายอย่างสำหรับการถ่ายเทประชากร เช่น การทำสงคราม การก่อการร้าย การขับไล่โดยใช้กำลัง และนโยบายให้ชาวยิวมาตั้งหลักแหล่งในเขตที่อิสราเอลยึดครองไว้ ผู้ก่อการร้ายชาวยิวได้ทำร้ายชาวอาหรับอย่างรุนแรง ทิ้งระเบิดลงในกลุ่มคน ทำลายหมู่บ้าน เพื่อไม่ให้ชาวอาหรับกลับมาอีก

 

สมัชชาสหประชาชาติลงมติแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ ให้กับชาวยิว โดยแบ่งเอาดินแดนบางส่วนของซีเรียและอียิปต์ไปด้วย โดยมติดังกล่าวไม่ได้ขอความเห็นชอบจากชาวปาเลสไตน์เลยแม้แต่น้อย การแบ่งดินแดนในครั้งนั้นทำให้ปาเลสไตน์ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นที่อาศัยของชาวยิว และอีกส่วนหนึ่งเป็นที่อาศัยของชาวอาหรับ

 

ปี ค.ศ. 1948 เกิดสงครามระหว่างยิวกับประเทศอาหรับ 4 ประเทศ คือ ปาเลสไตน์ อียิปต์ ซีเรีย และเลบานอนขึ้น ชาวยิวเปลี่ยนองค์การใต้ดินฮากานาห์มาเป็นกองทัพแห่งชาติ ในระหว่างการต่อสู้นี้ ชาวปาเลสไตน์อาหรับต้องทิ้งถิ่นที่อยู่ลี้ภัยไปมากกว่าครึ่ง สงครามครั้งนี้ยุติลงในเวลาอันสั้น

 

คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ มีคำสั่งตั้งรัฐยิวขึ้นอย่างเป็นทางการ บนแผ่นดินปาเลสไตน์ โดยตั้งชื่อว่า รัฐอิสราเอล ส่งผลให้ชาวยิวที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ กลายเป็นชาวอิสราเอลไปโดยปริยาย ทำให้เกิดปัญหาผู้ลี้ภัยขึ้นถึง 9 แสนคน ส่วนใหญ่หนีไปทางประเทศจอร์แดนและฉนวนกาซา นอกนั้นก็ไปยังประเทศซีเรียและเลบานอน

 

ชาวปาเลสไตน์ต้องทิ้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งทรัพย์สินสมบัติของตนไปเป็นผู้ลี้ภัยซึ่งไม่มีทางทำมาหากินเกือบล้านคน นอกจากนั้นผู้นำของชาวอิสราเอลยังมีแผนการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ต้องออกจากดินแดนของพวกเขาไป เพื่อตนจะได้เข้าไปครอบครองแทนที่เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของลัทธิไซออนนิสม์ ซึ่งตั้งใจจะให้ประเทศนั้นกลายเป็นชาวยิวโดยเฉพาะเท่านั้น

 

ประธานาธิบดีชุดแรกของอิสราเอล มีจุดมุ่งหมายคือ ชาวยิวควรยึดประเทศปาเลสไตน์ให้ได้ การแก้ปัญหาให้ปาเลสไตน์ ก็คือต้องกำจัดชาวอาหรับออกไปจากมาตุภูมิของพวกเขาให้หมดสิ้น ดังนั้นจึงมีความคิดในเรื่อง “การถ่ายเทประชากร” ที่ฝังหัวอยู่ในสมองของพวกไซออนนิสม์เสมอ

 

ชาวยิว จะเป็นเชื่อเสมอว่าในประเทศนี้ไม่มีเหลือพอที่คนสองชาติจะอยู่ร่วมกันได้ เขาย่อมจะไม่บรรลุถึงเจตนาที่จะเป็นอิสระชนได้ ถ้ามีชาวอาหรับอยู่ด้วยในประเทศเล็ก ๆ นี้ วิธีแก้ปัญหาวิธีเดียวก็คือต้องไม่ให้มีคนอาหรับอยู่ด้วย ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำได้มากไปกว่าต้องย้ายชาวอาหรับจากที่นี่ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ย้ายไปให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่หมู่บ้านเดียวหรือเผ่าเดียว หลังจากการโยกย้ายนี้ ประเทศนี้จึงจะสามารถดูดซึมเอายิวนับล้าน ๆ คนได้

 

ปี ค.ศ. 1949 เยรูซาเลม ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิสราเอล เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ความขัดแย้งเกี่ยวพันกับ 3 ศาสนา คือ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่า พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ที่ภูเขามะกอกเทศ และการมาครั้งที่สองของพระองค์ก็จะเกิดที่เมืองนี้เช่นกัน

 

ส่วนชาวมุสลิมเชื่อว่าเป็นเมืองที่ นบีมุฮัมมัดถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ จึงการแย่งชิงเมืองนี้กันตลอดมา เพราะต่างมีความเชื่อว่าศาสดาของตน ขึ้นสวรรค์ที่เมืองนี้ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ 2 ศาสนา มีบันทึกตรงกัน แต่คนละศาสดา ??

 

ปี ค.ศ. 1953 หมู่บ้านชาวอาหรับถูกทำลายไป 161 แห่ง การกระทำที่โหดเหี้ยมที่สุดคือการฆ่าคนเกือบทั้งหมู่บ้านเดรยัสซีน ทำให้ชาวอาหรับต้องหนีออกจากประเทศไปอย่างมากมาย ปี 1956 ยิวบดขยี้ หมู่บ้านชาวอาหรับ ราบเรียบและขับไล่ผู้อยู่อาศัยออกไป จึงจะแน่ใจได้ว่าจะไม่มีหมู่บ้านเหลืออยู่ให้ชาวอาหรับหวนกลับมาได้

 

การตั้งหลักแหล่งของชาวยิว คือ นโยบายที่จะทำให้ชาวยิวมาตั้งบ้านเรือนล้อมที่อยู่ของชาวอาหรับไว้ เพื่อป้องกันมิให้ชาวอาหรับรวมตัวกันได้ และตั้งใจจะผนวกฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและฉนวนกาซา เข้าเป็นของอิสราเอล ชาวยิวมีวิธียึดครองที่ดินเช่นนี้มากมาย เช่น ออกกฎหมายยึดเอาที่ดิน เนรเทศเจ้าของเดิมออกไป ออกกฎหมายให้ที่ดินนั้นเป็นเขตต้องห้าม ทำลายบ้านเรือนชาวปาเลสไตน์

 

ใช้วิธีควบคุมบีบคั้นทางเศรษฐกิจ และการกดขี่ปราบปรามชาวปาเลสไตน์ ฯลฯ ในด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ทางการอิสราเอลก็ใช้วิธีสั่งห้าม และเข้าควบคุมการตัดสินใจทุกอย่างในด้านการศึกษาของชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งการขู่เข็ญมิให้นักศึกษาหนุ่มสาวของชาวปาเลสไตน์กล้าแข็งต่อต้านอิสราเอล

 

การเข้ายึดครองของอิสราเอล จึงทำให้ชาวปาเลสไตน์กลายเป็นคนต่ำต้อยถูกกดขี่ ชาวปาเลสไตน์อาหรับจะรู้สึกว่าพวกไซออนนิสม์เป็นศัตรูตัวร้าย พวกเขาพยายามรวมตัวกันทางการเมืองเพื่อต่อต้านชาวอิสราเอล แต่ก็เสียเปรียบในด้านการเงินและอาวุธ ดังนั้นขบวนการกู้ชาติของอาหรับในปาเลสไตน์ จึงเกิดขึ้นอย่างมากมายแต่ก็ถูกปราบปรามลงอย่างรวดเร็ว จำต้องใช้การต่อสู้แบบไม่เปิดเผย

 

ปี ค.ศ.1956 หลังจากอียิปต์ สู้รบแพ้อิสราเอลในวิกฤตการณ์คลองสุเอซ หรือสงครามสุเอซ-ซีนาย ประธานาธิบดีกา มาล อับเดล นัสเซอร์ ของอียิปต์ ก็ประกาศจะล้างแค้น และสนับสนุนขบวน การชาตินิยมของชาวปาเลสไตน์ พร้อมกับลงมือจัดตั้งพันธมิตรอาหรับที่ราย รอบประเทศอิสราเอล และระดมสรรพกำลังเตรียมทำสงคราม

 

แนวหน้ารวมกำลังแห่งชาติ อัล-ฟาตะฮ ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีความมุ่งหมาย ที่จะสร้างแนวร่วมของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดขึ้นมา โดยรวมเอาขบวนการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์เข้าด้วยกัน โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างของความคิดทางการเมืองของแต่ละกลุ่ม

 

ปี ค.ศ.1964 ได้มีการจัดตั้งองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) ขึ้น โดยประธานาธิบดี อียิปต์ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ เลือกประธานคนใหม่ที่มาพร้อมกับนโยบายที่แข็งกร้าวขึ้น นั่นคือ นายยัสเซอร์ อาราฟัต ที่เขาร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง มาตั้งแต่สมัยที่ยังศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งกษัตริย์ฟาฮัด ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์

 

และได้เข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพอียิปต์เมื่อครั้งสงครามคลองสุเอซ จากนั้นได้ไต่เต้าขึ้นมาสู่ตำแหน่งสำคัญๆ ในองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในที่สุด อาราฟัต พยายามอย่างยิ่งในการแสดงให้ชาวโลกยอมรับการมีตัวตนของชาวปาเลสไตน์ และ พยายามแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรม ในการกอบกู้ดินแดนของชาวปาเลสไตน์คืนจากอิสราเอล

 

อัล-ฟาตะฮ กลายเป็นหน่วยที่มีพลังมากที่สุดในองค์การพีแอลโอ ชาวปาเลสไตน์ได้ประกาศความมุ่งหมายของพวกเขาออกมา คือพวกเขาจะต่อสู้เพื่อกลับไปสู่ประเทศที่เป็นมาตุภูมิของตน และจะจัดตั้งปาเลสไตน์ซึ่งเป็นอิสระและเป็นประชาธิปไตยขึ้น

 

ความไม่พอใจให้ชนชาติอาหรับ จนกลุ่มชาติอาหรับจัดตั้งกองกำลังบุกเข้าอิสราเอล หวังที่จะกลาดล้างชาวยิวให้สิ้นซาก สงครามที่กินเวลายานาน 8 เดือน ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของชาติอาหรับ แต่ก็ก่อให้เกิดการรบพุ่งกันต่อเนื่องมาอีกหลายต่อหลายครั้ง

 

ปี ค.ศ. 1967 เกิด “สงคราม 6 วัน” โดยประธานาธิบดี อียิปต์ ส่งกองกำลังทหารกว่า 7 แสนนาย จากความร่วมมือของชาติอาหรับ 7 ชาติ เข้าถล่มอิสราเอลที่มีกองกำลังเพียง 2 แสนนายเท่านั้น เหตุการณ์กลับตาลปัตร กลายเป็นว่ายิวเป็นฝ่ายมีชัยในสงคราม ผลการรบ อียิปต์ จอร์แดน ซีเรีย อิรัก สูญเสียกองทัพอากาศไปทั้งหมด

 

โดยรวมแล้ว อียิปต์เสียทหาร 11,000 นาย จอร์แดนเสียประมาณ 6,000 นาย ซีเรียเสียราว 1,000 นาย และอิสราเอลเสีย 700 นาย ยิว ยังยึดดินแดนของฝ่ายชาติอาหรับมาเป็นของตน ขยายเขตแดนไป 3-4 เท่า เช่น เขตกาซ่าตะวันออก แหลมซีนายของอียิปต์ เขตเวสต์แบงก์ ที่ราบสูงโกรันของซีเรีย นครเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออก ซึ่งดินแดนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่ยังถูกอิสราเอลครอบครองมาจนถึงปัจจุบัน

 

นอกเหนือจากชัยชนะครั้งนี้แล้ว อิสราเอลยังฉวยโอกาสนี้ทำการขับไล่ชาวอาหรับออกจากจากดินแดนของตนเป็นจำนวนมาก จากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ทำให้กลุ่มชาติอาหรับลดความนับถือต่อประธานาธิบดี อียิปต์ เป็นอย่างมาก

 

..เรื่องราวกำลังเข้มข้น ให้ติดตามต่อตอนที่ 2 เพื่อไขปริศนาว่ากลุ่มไซออนนิสม์ สำคัญต่อสงครามอาหรับ - ยิว และต่อโลกอย่างไร อ่านต่อที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.252806108242757.1073742037.187529244770444&type=1

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/topsecretthai

10463071_252803308243037_9114703376304880778_n.jpg

10547529_252803384909696_2961678624036119896_n.jpg

10463923_252803358243032_7143733971225583521_n.jpg

10384211_252918461564855_7818783184024691447_n.jpg

10547626_252918358231532_1930200749724542574_n.jpg

10314511_252918471564854_1943599007626714832_n.jpg

10447029_252803488243019_8232974023896503775_n.jpg

10447153_252803548243013_1364455458468914992_n.jpg 10526146_252803494909685_4947333622828650002_n.jpg

10551099_252803264909708_7677487582942892372_n.png

10341602_252803581576343_2727396562848704466_n.jpg

10384338_252803448243023_7966257061331946401_n.jpg

10534599_252803271576374_6744518413445055333_n.jpg

10478358_252803268243041_4676890389285075790_n.jpg

10478172_252803441576357_4854960614764595995_n.jpg

10500367_252803491576352_3784066886767959051_n.jpg?oh=38775b56c61d3e5da0f8ff13ba83dbd1&oe=543BA3D7

10406646_252803531576348_1905686175236013800_n.jpg 10389079_252918314898203_6698326980544735327_n.jpg

10532867_252918318231536_5056032568512731743_n.jpg

10491066_252918361564865_7024052505886545536_n.jpg?oh=f6940ef50e9ea9be4d2ee62879718657&oe=544F4F8F

10314737_252918441564857_4561110479767857925_n.jpg

10517553_252803331576368_1010247195260784835_n.jpg

10494839_252918324898202_8649528304790426490_n.jpg

10463071_252803308243037_9114703376304880778_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไขปริศนา..ยิวกับปาเลสไตส์ ใยต้องรบพุ่งฆ่ากัน (ตอน 2 เผชิญหน้า) (24 photos)

วันที่ 12 ก.ค.57 ไขปริศนา..ยิวกับปาเลสไตส์ ใยต้องรบพุ่งฆ่ากัน (ตอน 2 เผชิญหน้า)

 

ตอนแรกได้เล่าให้ฟังถึงรากฐาน และความขัดแย้ง การเอารัดเอาเปรียบของยิว ต่อชนชาติปาเลสไตน์ และอาหรับ จนก่อสงครามต่อกันตายไปจำนวนมากมายแล้ว

 

** ความเดิมที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.252803251576376.1073742036.187529244770444&type=1

 

ปี ค.ศ. 1968 การโจมตีของชาวจอร์แดน ต่อค่ายผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ที่ตำบลฮุสเซ็นและอัชเราะฮ จนกระทั่งรัฐบาลจอร์แดนทำลายหน่วยต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ในจอร์แดน หน่วยปฏิบัติการใต้ดินพีแอลโอจึงต้องมารวมตัวกันใหม่ที่เทือกเขาเลบานอน ซึ่งถูกทหารอิสราเอลโจมตีอีก จนต้องย้ายที่ทำการไปอยู่ที่เมืองแอลเจียร์ ประเทศแอลจีเรีย

 

ปี ค.ศ. 1972 องค์การพีแอลโอ ใช้ทุกวิถีทางแม้ กระทั่งใช้ความรุนแรงทางทหาร รวมทั้งการก่อการร้ายเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำของชาวโลกมากที่สุดครั้งหนึ่ง คือ การจับนักกีฬาชาวอิสเราเอลเป็นตัวประกัน ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

 

โดยกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ที่เรียกตัวเองว่า “ขบวนการกันยาทมิฬ” บุกเข้าหอพักนักกีฬาโอลิมปิก พร้อมกับจับตัวนักกีฬาชาวอิสราเอลจำนวน 11 คนเป็นตัวประกัน โดยพวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ 234 คน และอีก 2 คนที่ถูกคุมขังอยู่ที่เยอรมัน พร้อมทั้งร้องขอเครื่องบินเพื่อเตรียมหลบหนีเข้าอียิปต์

 

นายกรัฐมนตรี อิสราเอล ในขณะนั้นซึ่งดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อปาเลสไตน์และไม่ยินยอมเจรจากับผู้ก่อการร้าย ปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ก่อการ และยังส่งหน่วยรบพิเศษที่เชี่ยวชาญในการชิงตัวประกันเข้ามาช่วยเหลือ แต่รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธ เนื่องจากต้องการจัดการสะสางปัญหาด้วยตนเอง เพื่อรักษาหน้าของเจ้าภาพ โอลิมปิก

 

หรืออีกประเด็นหนึ่งที่เป็นนัยยะแอบแฝง นั่นคือคือรัฐบาลเยอรมันต้องการแสดงความรับผิดชอบและลบล้างความผิดสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวนั่นเอง แต่พลแม่นปืนของเยอรมันทำพลาด จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อตัวประกันเสียชีวิตหมดทั้ง 11 คน ตำรวจเยอรมันเสียชีวิต 1 นาย ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 5 ราย ถูกจับเป็น 3 ราย

 

โศกนาฏกรรมครั้งนี้สร้างความเคืองแค้นให้อิสราเอลอย่างมาก เพราะนอกจากตัวประกันจะเสียชีวิตหมด บรรดาชาติต่างๆ ก็ดูเหมือนจะลืมเลือนเรื่องนี้กันอย่างรวดเร็ว โดยหันสนใจการแข่งขันโอลิมปิกแทน ทั้งที่เกิดเรื่องราวอันเลวร้ายเช่นนี้แต่นานาชาติกลับยังคงดำเนินการแข่งขันต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

อิสราเอลไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขาลงมือปฏิบัติการตอบโต้อย่างทันควัน ส่งฝูงบินอิสราเอลไปถล่มฐานปฏิบัติการขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ในซีเรีย และเลบานอน รวมถึงการส่งหน่วยจารชนเข้าไปจัดการกับกลุ่ม PLO ทั้งในปาเลสไตน์ กลุ่มชาติอาหรับ และหลายพื้นที่ในยุโรปอย่างลับๆ

 

ซึ่งปฏิบัติการหลายครั้งสร้างความเสียหายขั้นรุนแรง แต่อิสราเอลก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบอีกทั้งปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า พวกเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังการล้างแค้นดังกล่าว แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญหลายครั้งเกิดขึ้นจากฝีมือของ หน่วยสืบราชการลับอิสราเอล ที่เรียกตัวเองว่าพวก มอสสาด

 

ปี ค.ศ. 1972 หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติการด้วยความรุนแรงทั้งอย่างลับๆ และอย่างโจ่งแจ้งมาช่วงระยะหนึ่ง ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็พบว่าการใช้ความุรนแรงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ผู้นำของ PLO และอิสราเอล ยอมหันหน้าเข้าหากัน โดยเจรจาผ่านทางสหประชาชาติ ก่อให้เกิดการลงนามในข้อ ตกลงสันติภาพออสโล ประกาศว่าโลกยอมรับให้มีดินแดนปกครองตนเองที่ชื่อปาเลสไตน์ ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซ่า

 

ปี ค.ศ. 1973 สหรัฐอเมริกาได้แสดงตัวให้เห็นว่าเข้าข้างอิสราเอล และเกลียดชังพีแอลโออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งสั่งปิดสำนักงานของพีแอลโอ ในนครนิวยอร์คและอายัติบัญชีเงินฝากของพีแอลโอด้วย

 

ปี ค.ศ. 1979 ประธานาธิบดีอียิปต์ ได้เดินทางไปพบปะกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาสันติภาพกัน โดยมิได้ปรึกษาหารือกับโลกอาหรับ ทั้งสามได้ลงนามในเอกสารฉบับเมื่อวันที่ 17 กันยายน คือโครงการสันติภาพในตะวันตะวันออกกลางและ สนธิสัญญาสันติภาพระหว่างอียิปต์กับอิสราเอล

 

การที่อียิปต์ทำลงไปโดยพละการเช่นนี้ ทำให้โลกอาหรับไม่พอใจ เพราะจะทำให้โลกอาหรับแตกแยกกัน ชาวปาเลสไตน์ก็เกรงว่าอียิปต์จะทอดทิ้งพวกเขา เพราะไปรับรองอิสราเอล พีแอลโอได้ปฏิเสธข้อตกลงนี้อย่างแข็งขัน โดยถือว่าเป็นการปฏิเสธสิทธิตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ ประเทศมุสลิมและประเทศเป็นกลางก็ปฏิเสธ แม้กระทั่งสหประชาชาติก็ยังปฏิเสธ

 

ปี ค.ศ. 1981 จุดหมายที่สำคัญของอิสราเอล คือ ใช้สนธิสัญญานี้เป็นเครื่องกีดกันมิให้มีการจัดตั้งรัฐบาลปาเลสไตน์อิสระขึ้นได้ หลังจากนั้นไม่นาน อิสราเอลได้เข้าโจมตีเลบานอนใต้ ที่อยู่ของพีแอลโออย่างหนัก และได้ผนวกกรุงเยรูซาเล็มเข้าเป็นของยิวอีกด้วย

 

สงครามที่ใหญ่ที่สุด และยาวนานที่สุดระหว่างอิสราเอล กับชาวปาเลสไตน์ก็เกิดขึ้นในเลบานอน ครั้งนี้ยิงมีจุดประสงค์คือ ทำลายกำลังทางการเมืองและการทหารของพีแอลโอ จัดตั้งรัฐบาลเลบานอนที่เข้มแข็งเพื่อช่วยเหลืออิสราเอล สร้างอิสราเอลขึ้นเป็นมหาอำนาจเพื่อควบคุมการพัฒนาทุกอย่างด้านการเมืองและเศรษฐกิจได้ในกำมือตน

 

ฝ่ายอเมริกามีความยินดีในการกระทำของอิสราเอล แต่แสร้งเสนอตัวเข้าไกล่เกลี่ย และรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ยอมเดินทางไปประท้วงการรุกรานที่กรุงเยรูซาเล็มด้วย แต่ชาวโลกกลับให้ความสนใจ แค่คำเรียกร้องของชาวปาเลสไตน์มากกว่าแต่ก่อน การสร้างสงครามครั้งนี้ปรากฏว่ามีคนตายถึง 15,000 คนซึ่งแน่ละส่วนใหญ่ต้องเป็นชาวปาเลสไตน์

 

ปี ค.ศ. 1982 พีแอลโอได้ไปตั้งสำนักงานใหญ่ขึ้นใหม่ในเมืองตูนิซ ประเทศตูนิเซีย ต้องทำงานอย่าง-รีบเร่ง เพื่อสร้างโครงสร้างสำคัญ ๆ ด้านการเมืองและสังคมขึ้นมาใหม่หลังจากถูกทำลายไปแล้ว หน่วยต่อสู้ของพีแอลโอก็ต้องกระจายไปอยู่ตามประเทศอาหรับต่าง ทำให้รวมตัวกันได้ลำบาก

 

ได้มีการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศอาหรับ ครั้งที่ 12 ในเมืองเฟซ ประเทศโมร็อกโก ที่ประชุมได้ออก “กฎบัตรเฟซ” ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ จัดตั้งรัฐบาลปาเลสไตน์ โดยมีเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง ถอนกำลังทหารของอิสราเอลออกจากเขตยึดครองทั้งหมด ซึ่งเดิมเป็นของอาหรับก่อนสงครามปี 1967 รื้อถอนถิ่นฐานที่อิสราเอลสร้างขึ้น

 

ยืนยันสิทธิ์ของชาวปาเลสไตน์ ในการจะตัดสินใจด้วยตนเองและสามารถใช้สิทธิ์ในประเทศปาเลสไตน์ภายใต้การนำของพีแอลโอ ให้ฉนวนกาซาและดินแดนฝั่งตะวันตก (ของแม่น้ำจอร์แดน) อยู่ในความดูแลของสหประชาชาติไปก่อน และให้สภาความมั่นคงรับประกันต่อสันติภาพในระหว่างชนชาติต่างๆ ในแถวนั้น แต่รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธ ไม่ยอมรับข้อเสนอนี้โดยสิ้นเชิง

 

กลุ่มประเทศอาหรับได้ยื่นข้อเสนอนี้ไปยังรัฐบาลอเมริกา ประธานาธิบดีมะกัน แต่เขาก็ยังปฏิเสธเรื่องการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อิสระ และมิได้กล่าวเลยว่าจะเกลี้ยกล่อมให้ถอนทหารอิสราเอล จากเขตยึดครองได้อย่างไร และยังบอกปัดข้อเสนอของชาวอาหรับ ที่จะเอากรุงเยรูซาเล็มคืนด้วย

 

ประธานาธิบดีรัสเซีย จึงได้เสนอแผนสันติภาพให้แก่อเมริกา ให้อิสราเอลคืนดินแดนยึดครองทั้งหมดให้แก่ชาวปาเลสไตน์ ชาวปาเลสไตน์มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐอิสระของพวกเขาเองขึ้นในเขตแดนอิสราเอล และอิสราเอลต้องคืนกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกให้ชาวปาเลสไตน์ด้วย แต่ในระหว่างนั้นอิสราเอลกลับท้าทายด้วยการสร้างชุมชนชาวยิวขึ้นใหม่อีก 5 แห่งที่แถบตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน

 

ปี ค.ศ. 1993 อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ได้ตกลงกันเซ็นสนธิสัญญาออสโล อนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์มีอำนาจในการปกครองตัวเอง (อย่างจำกัด) ในเขตฉนวนกาซา สถานการณ์ในตะวันออกกลางก็มีท่าทีที่สงบลง แต่เพียงหนึ่งปีให้หลังก็เกิดการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายเหมือนเช่นเดิม เพราะอเมริกาคอยเป็นพี่เลี้ยงชั้นดี ที่คอยหนุนหลังยิว ทั้งทางลับๆ และแบบเปิดเผย

 

ปี ค.ศ. 1995 กลุ่มชาวยิวหัวรุนแรงในอิสราเอล ไม่พอใจท่าทีที่ยอมอ่อนข้อของนายกฯ จึงเกิดการลอบสังหารขึ้น ตามด้วยการลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ ความขัดแย้งทวีเพิ่มขึ้น แม้นายอาราฟัตจะได้เป็นประธานาธิบดีปาเลสไตน์ในปีถัดมา แต่ความนิยมในตัวเขาก็ลดลงเนื่องจากผู้คนเห็นว่าเขาอ่อนข้อให้อิสราเอลจนเกินไป

 

สันติภาพที่ได้มาทำให้ชาวปาเลสไตน์ปิติยินดี ออกมาฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ มีการยิงปืนขึ้นฟ้าและลุกลามไปถึงขั้นจุดไฟเผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็น สัญลักษณ์ของชาวยิว จากนั้นก็ชักธงชาติปาเลสไตน์ขึ้นยอดเสา แต่ขณะเดียวกันชาวยิวบางส่วนที่ยังอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ก็เกิดความไม่พอใจ ออกมาก่อความวุ่นวายตามท้องถนนจนเกิดเป็นจลาจลไปทั่วเมือง

 

ปี ค.ศ. 2004 นายอาราฟัต ถูกปิดล้อมอยู่ที่เมืองรอมัลเลาะห์ เขาถูกลอบสังหารจนเสียชีวิตเพราะเขามีนโยบายที่แข็งกร้าว ไม่ยอมอ่อนข้อให้ฝ่ายอิสราเอล ฝ่ายอเมริกาจึงต้องกำจัดเขาเพราะเขาขัดประโยชน์มหาศาลที่อเมริกาจ้องจะกอบโกย ผู้นำคนใหม่ของ PLO คือนายมะห์มูด อับบาส

 

ปี ค.ศ. 2005 อิสราเอลยอมถอนกำลังออกจากฉนวนกาซ่า หลังจากครอบครองอย่างไม่เป็นธรรมมานานถึง 38 ปี เปิดทางให้ปาเลสไตน์จัดการเลือกตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2006 อิสราเอลและอเมริกา เอาใจช่วยให้พรรคฟาตาห์ ของนายอับบาส ขึ้นครองอำนาจเบ็ดเสร็จให้จงได้

 

แต่แล้วความฝันของอิสราเอลและอเมริกาก็ดับวูบลง เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคฮามาส กลับได้ครองเสียงข้างมาก ผิดจากการคาดเดาของหลายๆ ฝ่าย แต่พรรคฮามาสก็ยังไม่สามารถจังตั้งรัฐบาลในระบบพรรคเดียวได้ ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมา

 

พรรคฮามาส เป็นพรรคการเมืองสำคัญพรรคหนึ่งของปาเลสไตน์ มีแนวคิดที่ค่อนข้างรุนแรง มีกองกำลังเป็นของตนเอง คือ กลุ่มติดอาวุธฮามาส กลุ่มนี้มีบทบาทมากขึ้น ภายหลังที่ชาวปาเลสไตน์เริ่มเบื่อหน่ายกับกลุ่ม PLO การสูญเสียผู้นำอย่างนายอาราฟัต ทำให้กลุ่มฮามาสก้าวเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณฉนวนกาซ่า

 

ในที่สุด กลุ่มฮามาสก็ทำการยึดดินแดนเขตฉนวนกาซ่าไว้ในครอบครอง และเตรียมที่จะจัดตั้งรัฐฮามาสขึ้นเป็นรับอิสระด้วย ขณะที่ฉนวนกาซ่าตกเป็นของกลุ่มฮามาส ทางฝั่งเวสต์แบงค์ก็ตกเป็นของกลุ่มฟาตาห์ของนายอับบาส กลายเป็นว่าชาวปาเลสไตน์ กำลังแย่งชิงความเป็นใหญ่ในดินแดนของตนเอง

 

ฉนวนกาซา ดินแดนของปาเลสไตน์ เป็นหนึ่งในดินแดนที่อียิปต์เสียให้อิสราเอล มีอาณาบริเวณแคบๆ แค่ขนาด 360 ตร.กม. เท่านั้น ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีอาณาเขตทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นความยาวประมาณ 11 กิโลเมตรติดกับประเทศอียิปต์ ทางเหนือและตะวันออกติดกับประเทศอิสราเอล เป็นระยะทางราว 51 กิโลเมตร ทางตะวันตกติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นระยะทางชายฝั่งประมาณ 41 กิโลเมตร

 

มีเมืองกาซาเป็นเมืองหลักในอาณาเขตนี้ มีประชากรชาวปาเลสไตน์ อาศัยอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพลี้ภัย ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ฉนวนกาซา และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ซึ่งอพยพมาในปี ค.ศ. 1948 ซึ่งเป็นผลหลังจากสงครามอาหรับ-อิสราเอล

 

ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายซุนนีย์ มีอัตราการเติบโตของประชากรราวร้อยละ 3.2 ต่อปี หรือคิดเป็นอันดับที่ 7 ของประเทศที่มีอัตราการเติบโตประชากรสูงที่สุดในโลกแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก (ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด) และไม่นานนี้ได้มีการขุดพบก๊าซธรรมชาติด้วย

 

ท้ายที่สุดเมื่อกลุ่มฮามาสสามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ ก็เท่ากับปาเลสไตน์ตกเป็นของกลุ่มฮามาสไปโดยปริยาย แม้ว่านายอับบาสยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ก็ตาม การขึ้นครองอำนาจของกลุ่มฮามาส ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของอิสราเอลและอเมริกา และ รวมไปถึงประเทศต่างๆ ใน EU ที่ไม่ยอมรับกลุ่มหัวรุนแรงนี้

 

เมื่อกลุ่มฮามาสขึ้นมาครองอำนาจ อเมริกา จึงประกาศสั่งระงับการช่วยเหลือเงินจำนวนกว่า 600 ล้านเหรียญ ที่เคยสัญญาว่าจะมอบให้กับปาเลสไตน์ทันที ทางฝั่งนายอับบาส ซึ่งยึดดินแดนเขตเวสต์แบงค์ไว้ เห็นช่องทางเหมาะ จึงประกาศจัดตั้งรัฐบาลขึ้นแข่งกับกลุ่มฮามาสทันที

 

กลายเป็นว่าปาเลสไตน์ มีการแบ่งแยกออกเป็นสองพวก ซึ่งบรรดาประเทศต่างๆ ที่มีอเมริกาเป็นหัวโจก ล้วนแต่มีทีท่าสนับสนุนรัฐบาล ของนายอับบาส มากกว่ารัฐบาลของกลุ่มฮามาส และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อมีการปะทะกันระหว่างกองกำลังของกลุ่มฮามาสกับกองกำลังของอิสราเอล บริเวณฉนวนกาซ่า ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ระบุว่าเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากโจมตีก่อน

 

การรบพุ่งกันก็เกิดขึ้นจนได้ ฝ่ายอิสราเอลที่ไม่ค่อยพอใจกลุ่มฮามาสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงฉวยโอกาส ใช้เป็นเหตุผลเข้าโจมตีฉนวนกาซ่าอย่างเต็มรูปแบบ แถมยังประกาศอีกว่าการรบจะยุติลงก็ต่อเมื่อสามารถ ล้มล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากไปได้เท่านั้น เพราะมีแบ็คอัพชั้นดีคืออเมริกาคอยหนุนหลัง และประเทศใน EU

 

การจู่โจมปาเลสไตน์ครั้งนี้ของยิว ก็สร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในฉนวนกาซ่า ล้วนแต่เป็นชาวมุสลิมแทบทั้งสิ้น มีการประท้วงของชาวมุสลิมต่อการกระทำของอิสราเอล แม้แต่ในเขตเวสต์แบงค์เองที่เป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มฮามาสก็ยังออกมาประณามการโจมตีของอิสราเอลเช่นกัน

 

ที่อเมริกาและประเทศใน EU ต่างเห็นดีเห็นงามที่จะกำจัด กลุ่มฮามาส ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มก่อการร้ายอัล กออิดะห์ และหากพวกเขาสามารถผลักดันให้กลุ่มฟาตาห์ของปาเลสไตน์ กลับมาครอบอำนาจเช่นเดิม ก็จะสามารถต่อรองผลประโยชน์ได้ง่ายกว่านั่นเอง

 

เฮนรี คิสซินเจอร์ อดีต ที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา (NSA) ปี พ.ศ. 2516 ที่กล่าวว่า…“ผู้ควบคุมการผลิตอาหารก็ควบคุมประชาชนได้..ผู้ควบคุมพลังงานก็สามารถควบคุมทวีปต่างๆได้ทั้งหมด..ผู้ควบคุมกระแสเงินตราได้สามารถควบคุมโลกได้”

 

แนวคิดการบริหารการจัดการและควบคุมโลก เพื่อความมั่นคงของอเมริกา จึงกระทำโดย “ผู้นำกลุ่มทุน” ซึ่งเป็นเหล่านายธนาคารในกลุ่มไซออนนิสม์ ชาวยิวมีการผนึกกำลังทางการเมืองเข้มแข็งกว่าฝ่ายอาหรับ ฐานะทางการเงินก็ดีกว่า เพราะได้รับการสนับสนุนจากชนชาติยิวจากแหล่งต่าง ๆ และจากอเมริกาด้วย ด้านการทหารก็เหนือกว่า และมีอาวุธที่ดีกว่าด้วย

 

แผ่นดินแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า ยังคงคุกรุ่นไปด้วยความเกลียดชังและความขัดแย้ง ด้วยเหตุข้างต้นนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างชาวอาหรับ กับ ชาวยิว และมันก็จะคงอยู่ต่อไป

 

จะได้เห็นว่าสงครามรอบใหม่นี้ กลุ่มไซออนนิสม์ ที่ปกครองของยิว คือ สาเหตุแห่งความขัดแย้ง และการแตกความสามัคคีของปาเลสไตน์เอง ก็เป็นจุดอ่อนให้อเมริกา และยิว แทรกแซง แม้แต่ผู้นำของตนเองยังไม่มีโอกาสเลือกได้เองอย่างแท้จริง

 

คนไทยควรได้ศึกษาการแตกความสมัคคีของปาเลสไตน์ เป็นตัวอย่าง เพราะอเมริกา จะเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในประเทศเราทันที และอเมริกาไม่ได้เลือกเข้าข้างประชาธิปไตย แบบเลือกตั้ง อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เขาเลือกข้างฝ่ายที่อวยประโยชน์ทรัพยากร ให้กับประเทศของเขามากที่สุด..โดยเขาไม่เคยจริงใจกับประเทศใด !!

 

ปัจจุบันในอเมริกา มีประชากร 318 ล้านคน คนจนในประเทศมีถืง 55 ล้านคน (17%) , มีผู้ติดยา 22 ล้านคน ( 7% ) โดยนำเข้าทางเรือจากเมกซิโกแทบทั้งหมด มีกองทัพ กองกำลังของตนเอง , ตนอเมริกันมีอาวุธปืนถืง 310 ล้านกระบอก คนอเมริกัน 47% มีปืนยิงกันทุกวัน มีผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศกว่า 2 ล้านคน

 

มีแก๊งค์อาชญากรรมติดอาวุธ ถืง 33,000 แก๊ง กำลังพล ราว 1.5 -2.0 ล้านคน พกปืนเดินกันว่อน กระจายอยู่ในรัฐต่างๆ แทบทั่วทุกรัฐ ที่พร้อมจะยิงทุกคนที่เดินผ่านย่านอิทธิพล ที่แม้แต่ตำรวจยังไม่กล้าแหยม..แก๊งพวกนี้ ค้ายา ค้าปืนสั้น ปืนกล ปืนไรเฟิล ปืนยิงช้าง เครื่องยิงลูกระเบิด อาวุธต่อสู้รถถัง

 

มีการค้ามนุษย์อย่างโจ่งครึ่ม ข่มขืน ปล้น ข่มขู่ ชิงทรัพย์ ฆ่าคน ล้วงกระเป๋า , ในทุกๆ วัน มีการใช้ปืนก่ออาชญากรรม 3,000 ครั้ง คนมะกัน 80 คนถูกฆ่า บาดเจ็บอีก 300 คน บางส่วนก็เป็นแก๊งค์ในสังกัดพรรคการเมือง ลูกสมุนวุฒิสมาชิก เป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่คนมะกันไปลงคะแนนเสียง คุมการขนส่ง การก่อสร้าง

 

อเมริกา เจอทั้งศึกใน และศึกนอกบ้างแล้ว..ไอ้มาม่า ควรติดต่อกลุ่มติดอาวุธแดง นปช.ที่ทูตพริตตี้ บอกว่าเป็นเพื่อนสนิท ให้ส่งกองกำลังติดอาวุธหนัก RPG , M79 , M16 , ระเบิด RGD-5 ไปช่วยพี่ใหญ่ต่อการกับสารพัดแก๊งค์ในอเมริกาด่วน..

 

อพยพแดง นปช.ช่วยราชการในดินแดนมะกันสัก 3 ปี น่าจะเห็นเนื้อเห็นน้ำ..เผาไปเลยครับพี่น้อง !!

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/topsecretthai

10410093_252806131576088_8873416663410824726_n.jpg?oh=a50084fde4d66aa94d2f5cf0ae39bd8c&oe=5439E71E&__gda__=1413433766_f1f5935e18e2a532ea5125c8ebd01fc0

10484775_252806208242747_7247024075441375177_n.jpg?oh=37d61e8ea277dc725f5178a80a1d5053&oe=543B7A8F

10547709_252919294898105_3221034850162208890_n.jpg

10514739_252806328242735_3220973868492706033_n.jpg

10516764_252919328231435_1926157998972548691_n.jpg

10345726_252919291564772_1632510079035921413_n.jpg

10492259_252919321564769_701068981601840197_n.jpg

10501667_252810194909015_3157731972426078317_n.jpg

10489703_252806134909421_995206455234382991_n.jpg

10547674_252806258242742_7867514796180550288_n.jpg

10443492_252806434909391_7119694329826388429_n.jpg10489701_252806254909409_925122627743052333_n.jpg

10547644_252806211576080_3143293352285153435_n.jpg?oh=a75f54fdb4a59b9c5ddd962be15c3c2f&oe=54466D74&__gda__=1413723340_ea781a3c4dd9fb297dc09d5e40946cfd

10404512_252806288242739_8655774673942823513_n.jpg10489737_252806374909397_1491408119106537901_n.jpg?oh=01cb3da13165f01318e56c21b18472d9&oe=544F6106&__gda__=1415062124_6c36dae74b11e382ff6ad66a2bffeaf6

10547502_252806321576069_8256833673069258466_n.jpg

10463977_252806324909402_9189641633872451109_n.jpg10502014_252806384909396_8293267675313451372_n.jpg10473428_252806424909392_52971117569239138_n.png 10468094_252806128242755_8968727686355074821_n.jpg10424344_252806388242729_2750583682260730303_n.jpg 10475605_252806438242724_7279916007793064874_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...