ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

วันที่ 5 ส.ค.57 ริดสีดวงแตกแล้ว ผวาป่าไม้รื้อบ้าน ส่งคนงานไปทุบบ้าน 2 หลังจนราบ

 

ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 64/2557 มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุกยึดถือ ครอบครอง ทำลายทรัพยากรป่าไม้ สภาพป่า รวมทั้งผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกพื้นที่

 

และกำลังจะเข้าไปรื้อบ้านบ้านพักตากอากาศ 2 หลัง ที่ปลูกอยู่บนเนินเขา หลังบ้านพักตากอากาศศิริอุบล ของภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI ) บ้านเลขที่ 444 หมู่11 บ้านมอกระหาด ต.หนองน้ำแดง อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา

 

เพราะบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวนกว่า 6 ไร่ เพื่อปลูกสร้างอาคารและตัดถนนเข้าไปบริเวณพื้นที่ป่าสงวน โดยมีชื่อผู้ครอบครองคือนางวันทนา พิทักษ์ไชยศิริ ที่ปลูกบนเชิงเขา บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ มีกำหนดเข้าไปทำการรื้อถอนบ้าน 2 หลังดังกล่าว

 

ล่าสุด ริดสีดวง ปากกล้าขาสั่น กลัวจัด จ้างมีคนงานชายฉกรรจ์ ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้กว่า 10 คน เข้าไปทำการรื้อถอนใช้เครื่องมือทุบบ้าน 2 หลังดังกล่าว และมีรถขนไม้ที่ถูกรื้อออกไปจากพื้นที่แล้ว

 

โดยบ้าน 2 หลังดังกล่าว ถูกรื้อถอนจนเหลือแค่ฐานของตัวบ้านเท่านั้น สภาพเหลือเพียงเศษปูน เศษหินกองอยู่บริเวณดังกล่าว เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย ไม่ต้องถูกประจานฉาวโฉ่ทางสื่อมวลชนช่วงที่ป่าไม้จะมารื้อ

 

อ้าว..ริดสีดวงตกหลุมพรางอีกแล้ว แค่ออกข่าวว่าจะรื้อ ถึงกับหน้าตั้งรีบไปทุบรื้อเองจนพังราบถึง 2 หลัง..เบาแรงป่าไม้ไปเยอะเลย ไม่ต้องออกแรงทุบให้เมื่อย..แค่คดีไม่หยุดนะ ก็ต้องฟ้องไปตามกฎหมายรุกป่า ทำลายธรรมชาติต่อไป

 

แต่ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ จากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 นครราชสีมา (ปากช่อง) ขับรถตรวจการมาตรวจสอบพื้นที่อยู่ด้านนอกรั้วบ้านนี้..เล็งว่าจะทุบหลังไหนอีกดี..ฮา

 

@ เสธ น้ำเงิน2

https://www.facebook.com/thailandcoup

10570557_332683720232142_1861933151996365934_n.jpg?oh=1658caca7d0dd6dc76a4248d6abc4461&oe=543D630F&__gda__=1413610118_75328c389955c284a38399a6942630c510534518_332683716898809_2045086087382313473_n.jpg10551055_332683733565474_6661359673201492677_n.jpg?oh=8a50295ad09e43220fa429da674c499f&oe=54433A5D10561639_332683730232141_8573506051242952708_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1620911_764046523607832_1296372991_n.jpg

เรียน พี่น้องเพื่อนข้าราชการตำรวจทั้งในและนอกราชการ

ขณะนี้องค์กรตำรวจของเรา ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ถูกดูถูกเหยียดหยามและเป็นที่เกลียดชังของพี่น้องประชาชน สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากนักการเมืองมีส่วนสั่งการโดยมิชอบ อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้บังคับบัญชาบางส่วนนำองค์กรตำรวจไปยืนอยู่ในจุดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้องค์กรตำรวจเสียหายและหมดศรัทธาจากพี่น้องประชาชนดังภาพที่ปรากฏตามสื่อต่างๆนั้น เพื่อนพี่น้องตำรวจของเราถูกย่ำยี วิ่งหนี ไร้ศักดิ์ศรี และอีกส่วนต้องเผชิญหน้ากับประชาชน ซึ่งภาพในอดีตนั้น ตำรวจกับประชาชนเป็นมิตรต่อกันและเป็นที่พึ่งพาของประชาชน

 

ขณะนี้ตำรวจทั้งในและนอกราชการอยากรวมพลังกันเพื่อสะท้อนความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกนึกคิดของผู้ใต้บังคับบัญชา ไปยังผู้บังคับบัญชาและนักการเมือง ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความอึดอัดเพียงใดและไม่เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาและนักการเมืองซึ่งอ้างความถูกต้องมาเป็นตัวชี้นำ ทั้งๆที่ข้ออ้างนั้นเป็นการทำเพื่อปกป้องกลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มหนึ่งเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

เช่นนี้ขอให้พี่น้องข้าราชการตำรวจยึดหลักไว้ 3 ประการด้วยกัน ดังนี้

1. นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำรวจจะยืนเคียงข้างประชาชนทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่า โดยไม่เลือกสี พรรค และกลุ่มบุคคลใด

2. ตำรวจจะปกป้องสถาบัน ชาติ และพระมหากษัตริย์ ทั้งจะเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

3. ตำรวจจะปกป้องประเทศชาติและประชาชน

ดังนั้น หากเพื่อนพี่น้องตำรวจเห็นด้วยกับข้าพเจ้า ได้โปรดแสดงความคิดเห็น ผ่านทางช่องทางนี้ส่วนหนึ่ง เพื่อสะท้อนความเห็นของพวกท่านไปยังผู้บังคับบัญชาตลอดจนพี่น้องประชาชน

ขอบคุณครับ

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ

 

 

10527334_10202463244118444_6187561316745319010_n.jpg

สมชาย แสวงการ

 

มอย่างยิ่ง. เป็นภัยร้ายเเรงต่อสถาบันกษัตริย์และความมั่นคงของชาติ.

คสชเเละหน่วยข่าวกรองปล่อยไว้ให้หนักแผ่นดินได้อย่างไร ไม่อยากบอกว่าถ้าเกิดเช่นนี้เป็นภัยคุกคามกับประมุขประเทศเช่นสหรัฐที่พวกมันไปอาศัยแถลงการณ์นั้น ซีไอเอเค้าจัดการไปแล้ว ว่าแต่ของไทยนะ มีน้ำยาจัดการมันหรือเปล่า หรือจะปล่อยมันไว้เป็นเสี้ยนหนามเเผ่นดินต่อไปแบบทองไม่รู้ร้อน. ถามจริงๆ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเมือง : คุณภาพชีวิต

วันที่ 6 สิงหาคม 2557 09:30

 

พ่อแม่ออสซี่โต้แม่อุ้มบุญบิดเบือนความจริง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

 

 

 

 

 

news_img_597263_1.jpg

สามีภรรยาชาวออสเตรเลียออกโรงโต้ผ่านสื่อท้องถิ่น ระบุแม่อุ้มบุญน้องแกรมมี่บิดเบือนความจริง ทำให้โลกเข้าใจผิด

 

เพื่อนของสามี-ภรรยาชาวออสเตรเลีย ที่ถูกกล่าวหาว่าทอดทิ้งน้องแกรมมี่ ลูกชายวัย 7 เดือนที่มีอาการดาวน์ซินโดรม ให้อยู่กับแม่อุ้มบุญชาวไทย ตอบโต้ผ่านหนังสือพิมพ์ ท้องถิ่นบันบิวรี่ เมล ว่าแม่อุ้มบุญชาวไทยบิดเบือนความจริงที่เกิดขึ้นทำให้โลกเข้าใจผิด

เพื่อนของสามีภรรยาคู่นี้ บอกว่า แกรมมี่ป่วยมากตั้งแต่เกิด และพวกเขาได้รับแจ้งเพียงว่าแกรมมี่จะไม่รอดและมีเวลาอย่างดีที่สุด ก็คือการมีชีวิตอยู่เพื่อบอกลา แต่ไม่ได้บอกว่า ใครเป็นคนแจ้งเรื่องนี้

รายงานของ บันบิวรี่ ระบุว่า เชื่อว่า เด็กฝาแฝดทั้งสองคน คลอดที่โรงพยาบาลใหญ่ระดับอินเตอร์ในประเทศไทย แต่แม่อุ้มบุญได้ย้ายไปยังโรงพยาบาลอื่น ที่ทำให้ข้อตกลงเรื่องการอุ้มบุญกลายเป็นโมฆะ ทำให้พ่อแม่ชาวออสเตรเลีย ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการเอาตัวทารกทั้งคู่ไป แต่ในที่สุดแม่อุ้มบุญก็ยอมมอบเด็กผู้หญิงไป ส่วนพ่อแม่โดยสายเลือดได้แต่หัวใจสลายที่ไม่สามารถเอาลูกชายไปด้วยได้ และไม่ต้องการจะยกลูกให้ แต่การอยู่ต่อ ก็เสี่้ยงที่จะต้องสูญเสียลูกสาวด้วยเช่นกัน

เพื่อนของสามีภรรยาคู่นี้ ยังบอกด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า พวกเขาไม่สนใจแกรมมี่ ตอนที่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไม่เป็นความจริง เพราะพวกเขาซื้อของขวัญไปฝากเด็กทั้งคู่ และยังสวดอ้อนวอนให้แกรมมี่รอดชีวิต แต่แพทย์ได้แจ้งว่า เด็กชายแกรมมี่ป่วยหนัก ไม่ใช่เพราะโรคดาวน์ ซินโดรม แต่เป็นเพราะโรคหัวใจและติดเชื้อที่ปอด

ครอบครัวนี้ ถูกระบุว่า อยู่ในประเทศไทย 2 เดือน แต่พอดีเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่มีทางเลือก จึงต้องกลับไปโดยไม่ได้เอาแกรมมี่ไปด้วย

Tags : น้องแกรมมี่แม่อุ้มบุญพ่อแม่ชาวออสซี่ดาวน์ ซินโดรม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://youtu.be/2EhwG2fZinA

 

ดูผู้ใหญ่ ช่างกระไรไม่รู้กาละ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

132717_322290611260768_4839727190958261351_o.jpg

Заказать репродукцию:

Fridolf Weurlander

 

10443152_322773477879148_6307682563882971260_o.jpg

Заказать репродукцию:

Вечерний пейзаж. Артур Ванслебен (Arthur Wansleben)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10273154_322773244545838_2992868316847618599_o.jpg

Заказать репродукцию:

Ветрянные мельницы на закате Антон Ханш (Anton Hansch) (1813-1876)

 

1501102_322773117879184_7762842190263896144_o.jpg

Заказать репродукцию:

Весна пришла. Педер Морк Монстед (Peder Mork Monsted) (1859-1941)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วันที่ 4 ส.ค.57 เผย..จากปล้นทองคำ สู่สงครามสกุลเงิน นำมาหาความวินาสสันตะโร กลิ่นดินปืนสงครามมาแล้ว

 

รัฐบาลเยอรมนีในอดีต ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา มีนโยบายนำทองคำของตนไปฝากไว้ในต่างแดน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่ตึงเครียดในยุค “สงครามเย็น” เนื่องจากเกรงว่าทองคำของตนจะถูกสหภาพโซเวียตยึดครองเข้าสักวันหนึ่ง

 

เยอรมัน จึงฝากทองอเมริกา ปริมาณมหาศาลถึง 300 ตัน เพราะกลัวรัสเซียข้ามกำแพงเบอร์ลินมาปล้นทอง แต่พอกำแพงเบอร์ลินพังยุบรวมฝั่งตะวันตกกับตะวันออกแล้ว สิ้นสงครามโลกครั้งที่สองมา 70 ปีแล้ว อเมริกาก็ยังไม่ยอมส่งทองคำกลับเยอรมัน อ้างผัดผ่อนไปเรื่อยๆ ล่าสุดบอกจะคืนปี 2020 โน่นเลย..

 

เมื่อปี 2546 ซัดดัม ของอิรัก คิดจะขายน้ำมันแลกกับทอง และซื้อขายด้วยเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาห์ ส่งผลให้อเมริกาตาเหลือก รีบก่อสงครามโจมตีอิรักทันที จากนั้นได้ขโมยเอา "ทองคำ" ของอิรักไปด้วย ไม่มีใครตอบได้ว่าหลังจากอเมริกาชนะสงครามและยึดครอง ทองคำของอิรัก หายไปไหน ??

 

อเมริกาได้ขนทองจากอิรักไปมากมาย เพราะนอกจากน้ำมันแล้ว อเมริกายังต้องการทอง เพราะทองคำอเมริกาหมดไปมาก ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม ปี 2003 ทหารอเมริกา ได้ตรวจจับรถบรรทุกบริเวณทิศเหนือของอิรัก บริเวณชายแดนอิรักกับซีเรีย ตรวจพบทองคำมูลค่ารวมกันตอนนั้นประมาณ 18,000 ล้านบาท..แล้วเรื่องก็เงียบหายจ้อยไป

 

เช่นเดียวกับเงินที่ขายน้ำมัน แลกอาหาร 510,000 ล้านบาท ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ อเมริกา ก็ยังอ้ำอึ้งๆ งึกๆ งักๆ ไม่ยอมตอบมาจนถึงเดียวนี้

 

ตอนที่อิรักไปบุกคูเวตตอนปี 1990 ยังมีทองที่อิรัก เอามาจากธนาคารของคูเวต มากถึง 10,000 Metric Ton (1,000,000 กิโลกรัม) ที่อเมริกาก็พยายามจะเอาไปจากอิรัก อีกทอดหนึ่ง ตอนแรกอเมริกาอ้างว่าเป็นช่วงสงครามที่จะยึดเอาก็ได้ แต่สุดท้ายโดยกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้ต้องคืนไปให้คูเวต

 

นอกจากอิรักแล้ว ตอนเหตุการณ์ 9 กันยายน 2001 ตอนดึกคืนก่อนเกิดเหตุถึงเช้าตรู่ มีคนรู้เห็นการขนทองคำ ออกจากห้องนิรภัยจากตึก World Trade Center ที่มีอยู่จำนวน 170 MT ( 17,000 กิโลกรัม) โดยมีทหารอมเริกัน ติดอาวุธคอยคุ้มกันอย่างหนาแน่น เหมือนจะรู้ว่าจะมีเหตุกาณ์อะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ในสายวันต่อมาที่มีเครื่องบินพุ่งชนตกนี้

 

ล่าสุด ทองคำยูเครนอีก 33 ตัน (33,000 กิโลกรัม) อเมริกาก็เอาไปอีกแล้ว โดยอ้างเรื่องหนี้ที่ให้ยืมไป และกลัวรัสเซียจะแย่งไป เพื่อความปลอดภัยจึงต้องส่งไปอเมริกา..เวรกรรม

 

ธนาคารกลางเยอรมนี เป็นผู้ถือครองทองคำสำรองรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ โดยปริมาณทองคำในความครอบครองของเยอรมันนั้นมีมากกว่า 3,396.3 ตัน ก่อนหน้านี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1998-2001 มีข้อมูลว่า ธนาคารกลางของเยอรมนี ได้เคยถอนทองคำล็อตใหญ่ปริมาณกว่า 850 ตัน ที่ฝากไว้ในธนาคารกลางของอังกฤษ ในกรุงลอนดอนมาแล้ว

 

ท่ามกลางข่าวลือในขณะนั้นว่าวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียที่เริ่มต้นในประเทศไทยเมื่อปี 1997 อาจลุกลามมาถึงยุโรป

 

ไม่นานมานี้ เยอรมัน ออกมายอมรับว่าจำเป็นต้องถอนทองคำสำรองที่ฝากไว้ในต่างประเทศกลับคืนมาด้วยเหตุผลด้าน “ความมั่นคง” ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาว่าธนาคารกลางเยอรมนี เตรียมเดินหน้าแผนการถอนทองคำของตนชุดแรก ที่มีปริมาณมหาศาลถึง 674 ตัน จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก และธนาคารกลางฝรั่งเศส

 

โดยในจำนวนทองคำ 674 ตัน ที่จะถูกถอนกลับประเทศครั้งนี้ คิดเป็นทองคำที่ฝากไว้ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ 300 ตัน ส่วนอีก 374 ตัน เป็นทองคำที่ฝากไว้กับธนาคารกลางฝรั่งเศส ทองคำล็อตนี้ที่เยอรมนีจะดึงกลับประเทศนั้นมีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 1 ใน 5 ของทองคำสำรองทั้งหมดของเยอรมนี เพื่อนำทองคำจำนวนดังกล่าวกลับมาเก็บไว้ภายในที่ทำการของธนาคารเยอรมัน

 

ขณะนี้ร้อยละ 45 ของทองคำเยอรมนี ถูกนำไปฝากไว้ในธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่อีก 13 เปอร์เซ็นต์ และ 11 เปอร์เซ็นต์ ถูกนำไปเก็บไว้ในธนาคารกลางของอังกฤษ และฝรั่งเศสตามลำดับ ส่งผลให้มีปริมาณทองคำเพียงแค่ 31 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกเก็บไว้ภายในสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางเยอรมัน

 

แต่ตอนนี้ธนาคารกลางเยอรมนี คงเหนื่อยทวงทอง เลยประกาศล้มเลิกแผนถอนคืน “ทองคำ” ล็อตใหญ่ มูลค่าราว 20.4 ล้านล้านบาท (แม่จ้าว) ที่ฝากไว้ในสหรัฐอเมริกากลับประเทศ ให้เหตุผลว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ลดทอนความจำเป็นเร่งด่วนของเยอรมนี ในการดึงทองคำสำรองกลับประเทศ เชื่อมั่นสหรัฐฯ จะช่วยดูแลทองคำให้เป็นอย่างดี...(อิอิ รู้ว่าทวงก็ไม่ได้)

 

และตามที่อเมริกา กับ EU คว่ำบาตรรัสเซีย ธนาคารกลางรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับที่ 6 ของโลก ทำการกว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่มาถือครองเพิ่มเติม ในเดือนมิถุนายน 57 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณทองคำสำรองในความครอบครองของรัสเซีย ในเดือนก่อนหน้าระดับ 34.656 ล้านออนซ์ ในเวลานี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 35.197 ล้านออนซ์ ( 1,095 ตัน หรือ เท่ากับสร้อยคอเส้นละ 1 บาททอง มากถึง 74 ล้านเส้น)...แม่จ้าวว

 

การกว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่ของรัสเซียในเดือนที่แล้ว มีขึ้นหลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย กับ สหรัฐอเมริกา เสื่อมทรามและเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จากผลพวงของวิกฤตในยูเครน ที่สหรัฐฯ และโลกตะวันตกรุมกล่าวหาว่ารัฐบาลรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คือผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน

 

แต่อเมริกา และโลกตะวันตก บอกว่า การที่อเมริกาหนุนกลุ่มติดอาวุธ IS , อัลนุสรา , อัลกออีดะห์ รวมถึงการปิดล้อมฆ่าล้างเผาพันธ์ชาวปาเลสไตน์ ของ อิสราเอล เป็นสิ่งที่มีสิทธิทำได้ และเหมาะสมแล้ว เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตย จากการเลือกตั้ง การฆ่าประชาชนจึงควรทำได้โดยเสรี แต่รัสเซียทำไม่ได้ เพราะปูติน มะกันเชิดไม่ได้..มันว่างั้น

 

สภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า ในขณะนี้รัสเซียมีสัดส่วนทองคำสำรองคิดเป็นร้อยละ 9.3 ของทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมดของแดนหมีขาว และรัสเซีย ถือเป็นผู้กว้านซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 

ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลก ที่เคยร่วงดิ่งเหวลงกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013 ที่ผ่านมา แต่ปีนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับเพิ่มขึ้นราว 8.8 เปอร์เซ็นต์ และราคาทองคำเพิ่มขึ้นมานานติดต่อกันถึง 12 ปี แล้ว..

 

ทำไมอเมริกาจึงงกทองคำหนักหนา ??..เพราะว่าการชิงเอาทองคำในโลกเก็บไว้ที่ประเทศตน เป็นการตัดกำลังคู่ต่อสู้อย่างหนึ่ง เพราะถ้าคู่ต่อสู้มีทองมาก ทองคำก็จะสะพัดในตลาดมาก มีความต้องการมาก ก็หมายถึงหายนะของเงินดอลล่าร์ เพราะดอลล่าร์ที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจอเมริกา ค่าเงินจะต่ำลงจนไร้ค่า ยิ่งกว่าแบ็งค์กงเต็กนั่นเอง

 

นั่นหมายความว่า ดอกเบี้ยที่อเมริกาเป็นหนี้ต่างชาติ ก็จะต้องงอกบานมากขึ้น เศรษฐกิจอเมริกาก็จะล้มสลายง่ายขึ้น ทุกอย่างในชาติก็จะหายนะตามมาในที่สุด ดังนั้นอีกเป้าหมายที่อเมริกาต้องทำคือ "ปล้นทองคำ" จากทั่วโลก ในรูปแบบรับฝากแล้วไม่คืน หรือชิงเอาดื้อๆ

 

เมื่อใดก็ตาม ชาติมหาอำนาจเริ่มกักตุนทองคำกัน ให้ประชาชนรู้ไว้เถอะว่า มันคือสัญญาณของสงคราม เพราะมันจะเกิดขึ้นก่อนการประกาศสงครามใหญ่ทุกครั้ง ที่ผ่านมา

 

ตอนนี้บริษัทขนาดใหญ่ของรัสเซียหลายแห่ง ได้ย้ายเงินทุนมายังธนาคารในเอเชีย เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทเมกาฟอน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถืออันดับสองของรัสเซีย แปลงเงินสดสำรองราวร้อยละ 40 เป็นเงินดอลลาร์ฮ่องกง และฝากไว้กับธนาคารจีน

 

ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60 อยู่ในรูปเงินรูเบิล ส่วนบริษัท โนริลสค์ นิกเกิล และโนวาเทค ผู้ประกอบการด้านก๊าซธรรมชาติอันดับสองของรัสเซีย ก็แปลงเงินเช่นกัน โดยธนาคารตะวันตกขนาดใหญ่ในกรุงมอสโก ของรัสเซีย ได้รับคำขอจากลูกค้าเป็นจำนวนมากให้แปลงเงินไปเป็นดอลลาร์ฮ่องกง โดยไม่ยอมให้แปลงไปเป็นเงินยูโร

 

การเลือกถือเงินดอลลาร์ฮ่องกง เพราะเงินฮ่องกง เป็นตัวแทนเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีประสิทธิภาพ แม้แต่ในยามที่ตลาดวุ่นวาย และทำให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาและธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐบาลรัสเซีย ประกาศห้ามขายหุ้น หรือ พันธบัตรใหม่ที่มีอายุไถ่ถอนนานกว่า 90 วันให้แก่บริษัท และ ประชาชนที่มีสัญชาติในอียู

 

นี่คือสัญญาณหายนะของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และเงินยูโร อีกอย่าง เพราะรัฐเซียไม่ใช่แค่มีเงินรูเบิ้ล แต่รัสเซียมีทองคำในสต็อคมหาศาล แต่สหรัฐที่อ้างว่ามีทองเยอะนั้น จริงๆ แล้วไม่มี และก็ไม่รู้อันตรธานหายไปไหนด้วย ไม่เคยมีใครตรวจพบเรื่องนี้เลย ประเทศเจ้าหนี้ขอดูก็ไม่ยอม

 

ช่วงแรกๆ ที่สหรัฐ และ EU คว่ำบาตรนี้ ธุรกิจบริษัททัวร์ในรัสเซีย คงมีอาการย่ำแย่ ลูกทัวร์คงเดือดร้อน และคนไทยที่ทำทัวร์กับรัสเซีย ก็อาจปั่นป่วนบ้างเพราะเขาคงขาดสภาพคล่อง ต้องเตรียมการรับตรงนี้

 

แต่ในภาพรวมมันจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐค่อยๆ เฟ้อในตลาดโลก เพราะความต้องการหายไปจากตลาดอย่างฉับพลัน มันเหมือนเงินดอลลาร์สหรัฐท่วมตลาดโลก แต่ไม่มีใครอยากได้ เพราะค่ามันต่ำ และไม่มีเสถียรภาพ คอยดูเถอะ นับแต่นี้ บริษัทใหญ่ๆ อีกหลายประเทศ รวมถึงรัฐบาลด้วย

 

จะทะยอยแปลงเงินสดสำรองของตนเองไปเป็นเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ และ ยูโร ยิ่งที่ทำให้เงิน 2 สกุลนี้ปั่นป่วนอย่างหนัก เราอาจได้เห็นบริษัทใหญ่ๆ ที่ถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และ ยูโร สำรองไว้มาก และดื้อดึงไม่ยอมแปลงค่าเงิน ต้องหายนะล้มละลายเป็นโดมิโน..

 

และแล้วกลิ่นเลือดก็คาวคลุ้ง เมื่อไม่มีปีมีขลุ่ย รัสเซียได้แถลงซ้อมรบทางทหารใกล้ชายแดนยูเครน เพื่อแสดงแสนยานุภาพ ท่ามกลางกองทัพการสู้รบอย่างหนัก ระหว่างกองทัพยูเครน เพื่อยึดคืนพื้นที่จากกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ทางภาคตะวันออกของประเทศ

 

กองทัพอากาศรัสเซีย ระบุมีเครื่องบินมากกว่า 100 ลำ รวมถึงเครื่องบินรบ และ เครื่องบินทิ้งระเบิด การซ้อมรบครั้งนี้รวมถึงทดสอบยิงขีปนาวุธ และจะสนับสนุนการประสานงานกัน ระหว่างการบินพลเรือนและระบบป้องกันขีปนาวุธ พร้อมเผยว่าปฏิบัติการนี้มีเครื่องบินทิ้งระเบิดใหม่ล่าสุดของรัสเซีย Su-24 เช่นเดียวกับเครื่องบินรบ Su-27 และ MiG-31 เข้าร่วมด้วย

 

รัสเซียยังคงมีกำลังพลมากกว่า 12,000 นาย และอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากอยู่ในแนวหน้า จะเข้าร่วมการซ้อมรบในเขตทหารทางภาคกลาง และภาคตะวันตก ของประเทศในสัปดาห์นี้ ความเคลื่อนไหวนี้เป็นสัญญาณเตือน ถึงเหล่าชาติตะวันตกที่กล่าวหามอสโก เสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนติดกับยูเครน และสนับสนุนอาวุธแก่กลุ่มติดอาวุธตะวันออกของยูเครน

 

ตอนนี้การสู้รบกันแบบสงครามเต็มขั้น ระหว่างกองทัพยูเครน กับ กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ส่งผลให้พลเรือนอย่างน้อย 285,000 คนที่ต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่อหลบหนีการสู้รบในแถบตะวันออกของยูเครน การปะทะกันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะนำไปสู่การอพยพครั้งมโหฬาร

 

ตอนนี้มีผู้ชายยูเครนจำนวนมาก ที่กลัวว่าจะถูกเรียกตัวไปเป็นทหารในกองทัพยูเครน และต้องถูกส่งไปยังเขตสู้รบ และยังมีชาวยูเครนอีกประมาณ 168,000 คน ที่ได้ไปยื่นเรื่องกับทางการรัสเซีย เพื่อขอความคุ้มครอง ขอลี้ภัย รวมถึงเหตุผลอื่นๆ เช่น ขอใบอนุญาตเป็นพลเมืองชั่วคราวของรัสเซีย

 

ข้อมูลของทางการรัสเซีย ระบุว่า ชาวยูเครนมากกว่า 730,000 คน ได้พากันเดินทางข้ามแดนเข้าไปในรัสเซียแล้ว โดยรัสเซียอนุญาตให้ชาวยูเครนเหล่านี้เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

ร้อยละ 87 ของผู้พลัดถิ่นเหล่านั้น หนีออกมาจากเมืองโดเน็ตสก์และลูฮันสก์ ของยูเครน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ส่วนที่เหลือหนีออกจากไครเมีย ดินแดนที่ถูกผนวกเข้ากับรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

เพียงแค่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีคนพากันเดินทางออกจากโดเน็ตสก์และลูฮันสก์ เพื่อไปสู่เขตอื่นๆ ของยูเครนในแต่ละวันมากถึง 1,200 คน พวกเขาพากันออกไปพร้อมกับข้าวของเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น บางคนก็มีแค่ถุงพลาสติกไม่กี่ใบ แถมส่วนใหญ่ก็ดูอนาถาหมดที่พึ่งพิง บางกลุ่มถึงที่หมายโดยที่เกือบจะไม่มีอะไรติดตัว หรือโดนยึดไปตอนผ่านจุดตรวจ

 

การสู้รบที่รุนแรงในเขตเมือง นำไปสู่ความวินาศสันตะโร และการอพยพครั้งมโหฬาร ปัญหาการขาดแคลนน้ำในเมืองลูฮันสก์ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้คนย้ายหนีมากยิ่งขึ้น ถนนสายสำคัญๆ ที่ปกคลุมด้วยเงาไม้ร่วมรื่นในใจกลางเมืองโดเน็ตสก์ ที่เคยคึกคักจอแจไปด้วยผู้คนมากมาย ตอนนี้กลับกลายเป็นที่รกร้าง เงียบเหงาน่าวังเวง ทั้งๆ ที่มีอากาศอบอุ่น

 

ในขณะที่เสียงกระสุนปืน ค.ตกกระทบ บริเวณเมืองศูนย์กลางกิจการเหมืองแร่ ซึ่งเคยเป็นจุดศูนย์รวมของคนนับล้านในแต่ละวัน การต่อสู้เริ่มกระชับวงล้อมเข้ามาเรื่อยๆ เหลือเพียงแค่สถานีรถไฟอันหรูหราจากยุคสตาลิน เท่านั้น ที่ยังมีผู้คนให้เห็น

 

บ้านทุกหลังโดนไฟไหม้จนหมด ถนนทั้งสายก็โดนระเบิด ร้านค้าและอาคารที่พักอาศัยจำนวนมาก พากันติดเทปกาวเป็นรูปตัว X ที่บริเวณหน้าต่าง เพื่อป้องกันไม่ให้กระจกแตกกระจายในกรณีที่มีการระเบิด บรรดาศูนย์การค้า ร้านรวงและห้องสมุด ต่างก็พากันปิดเกือบหมด โรงงานปิด ไม่มีงานให้ทำ

 

ผู้หญิงต่างวิ่งหนีออกมาพร้อมกับเด็กๆ ท่ามกลางห่ากระสุน ผู้หญิงจำนวนมากสวมเพียงแค่ชุดผ้าฝ้ายสำหรับใส่อยู่บ้านและรองเท้าแตะ เพราะวิ่งหนีตรงดิ่งออกมาจากสวนผัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนชุด มีทหารกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย วัย 17 ปี มาช่วยดูแลผู้ลี้ภัย รวมถึงต้องสู้รบด้วย

 

ยูเครน ที่เคยอุดมสมบูรณ์ และสงบ วันนี้คนในชาติเขาเพียงกลุ่มหนึ่ง เชื่อคำยุยงของอเมริกา และ EU จนเกิดสงครามกลางเมืองยืดเยื้อ มาบัดนี้พวกเขาได้หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว หากเขาหนีข้ามแดนไปรัสเซีย เขาจะรอดตาย แต่หากเลือกเดินหน้าผิดทิศทาง หนีลึกเข้าไปในดินแดนยูเครน

 

พวกเขาหารู้ไม่ ว่ากำลังจะเจอพี่หมีโกรธ และอาละวาด ทุกอย่างจะราบคาบเป็นหน้ากลอง ลงได้สู้รบกันเต็มรูปแบบแล้ว ความวินาสสันตะโร จากภัยสงครามมันจะลุกจะยาวติดต่อไปถึงยุโรป..บทเรียนนี้เยอรมัน รู้ซึ้งดีจากสงครามโลกครั้งที่ 2

 

เพราะกองทัพผู้ดับฝันฮิตเลอร์ ก็คือโซเวียต ที่มีคำสังจากเครมลินของรัสเซีย นั่นเอง...อนิจจา มหกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รอบใหม่..ใกล้จะเริ่มหนึ่งแล้ว คนไทยอยู่แถวนั้นเตรียมกลับประเทศได้เลย

 

ไปดูการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของจีน หลายปีมานี้ รัฐบาลจีน เพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นตัวเลข 2 หลัก ทุกปีเพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพให้มีความทันสมัย ซึ่งเวลานี้กองทัพจีน ถือว่ามีแสนยานุภาพยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ

 

เมื่อเดือน มกราคม 57 จีนทดสอบยานลำเลียงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง กระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ได้ออกมายืนยันว่าการทดสอบทางทหารของจีน ไม่มีจุดประสงค์เพื่อข่มขู่ชาติใดเป็นการเฉพาะ เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวเตือนว่าการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในทุกรูปแบบ “จะเป็นหายนะสำหรับทั้งสองฝ่าย รวมถึงประชาคมโลก”

 

แม้กระทำลับๆ ตลอดมา แต่จีนไม่เคยมีการยอมรับ หรือเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง แต่มีสัญญาณแปลกๆ จากทางการจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ยอมรับแล้วว่า ที่มณฑลฉ่านซี บ้านเกิดของประธานาธิบดีจีน

 

ศูนย์การทหารของมณฑลแห่งนี้กำลังพัฒนาขีปนาวุธ "ตงเฟิง-41" หรือ DF-41 ซึ่งมีพิสัยทำการ 12,000 กิโลเมตร ถึงอเมริกาพอดี นับเป็นขีปนาวุธที่มีรัศมีทำการไกลที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยในรายงานต่อทำเนียบขาว เมื่อเดือน มิถุนายน 57 ว่า ขีปนาวุธรุ่นดังกล่าวสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายชนิด

 

ไปดูที่ลิเบีย การรบกันสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบไม่กี่สัปดาห์ มันสามารถสร้างหายนะภัยที่ร้ายแรงขยายไปทั่วประเทศ จน คสช.ต้องอนุมัติงบประมาณ 224 ล้านบาท เพื่อเช่าเครื่องบินด่วน นำแรงงานไทยกว่า 800 คน กลับประเทศอย่างฉุกเฉินทันที

 

คอยดูมันจะลามไปเลบานอนอีก คนไทยทำงานอยู่ที่นั่น เตรียมได้เลย เพราะทางกองทัพซีเรีย ได้เข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นกาลามุน ที่อยู่อีกฟากของชายแดนกับเขตอาร์ซาลของเลบานอน ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมากกว่า 1 ล้านราย ทะลักข้ามชายแดนซีเรียไปอาศัยอยู่ และมีพวกนักรบปนไปด้วย

 

กองทัพซีเรีย ยังโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่เข้าใส่เขตอาร์ซาล โดยระบุว่า มุ่งเป้าการโจมตีไปที่กลุ่มกบฏ อัสนุสรา ทำให้บรรดานักรบเสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย ความรุนแรงก็กำลังกระจายตัวไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างเลบานอน ที่ตอนนี้ต้องคอยรับมือกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย

 

ตอนนี้พวกนักรบที่ข้ามแดนมา ก็เกิดการปะทะเดือดกับกองทัพเลบานอน บริเวณแนวชายแดนในเขตอาร์ซาล ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเลบานอน โดยกลุ่มมือปืนเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารเลบานอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

การสู้รบครั้งนี้ยังดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงในช่วงเช้าวันอาทิตย์ หน่วยทหารของกองทัพยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่อาร์ซาล ตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า เพื่อตามค้นหาและปราบปรามกลุ่มติดอาวุธเหล่านั้น ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ มีทหารของกองทัพเสียชีวิตไป 8 ราย พร้อมกับมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

 

กองทัพเลบานอนระบุว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทหารได้สู้รบกับกลุ่มติดอาวุธที่ยิงกระสุนปืนครก โจมตีเข้าไปในเขตอาร์ซาลและพื้นที่โดยรอบ ทางตะวันออกของเลบานอน มีรายงาน พลเรือนเสียชีวิตหลายราย จากการบุกโจมตีเข้าใส่สถานี บรรดากลุ่มติดอาวุธได้จับตำรวจจำนวนหนึ่งไว้เป็นตัวประกันอีกด้วย

 

กองทัพเลบานอน ได้จัดสรรกำลังทหาร ซึ่งรวมถึงเฮลิคอปเตอร์อีก 2 ลำเพิ่มเข้าไปยังพื้นที่เขตอาร์ซาล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์รุนแรง พร้อมได้ประกาศเตือนว่า สถานการณ์กำลังตึงเครียด พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะดำเนินการกับเหตุคราวนี้อย่างหนักแน่นและเด็ดขาด

 

โดยจะไม่ยอมให้กองกำลังของกลุ่มใดนำเอาความรุนแรงจากซีเรียเข้ามาในเลบานอน และจะไม่ยอมนิ่งเฉยปล่อยให้กองกำลังต่างชาติเปลี่ยนเลบานอน ให้กลายเป็นดินแดนอาชญากรรมและการก่อการร้าย รวมถึงการฆาตกรรมและการลักพาตัว

 

ความรุนแรงที่ทำท่าขยายตัวเข้าสู่เลบานอนคราวนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐอเมริการับปากว่า จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่เลบานอน...เวรแล้ว หาเรื่องแท้ๆ

 

นี่เอาเฉพาะสถานการณ์ช่วงนี้ ยังไม่นับเกาหลีเหนือที่กำลังพัฒนาแท่นยิงขีปนาวุธพิสัยไกล การสู้รับในฉนวนกาซ่า ฯลฯ เมื่อนำเหตุการณ์หลายจุดมาต่อจิ๊กซอ..พอจะบอกได้ว่าระดับอุณหภูมิสงครามใหญ่ ตอนนี้ปรอทแตกแล้ว

 

ปัจจัย การปล้นทองไปกุมไว้ – การช่วงชิงสัดส่วนสกุลเงินตราหลัก – การพัฒนาอาวุธร้ายแรงและเปิดเผยออกมาแบบจงใจ - การฝึกซ้อมรบขนานใหญ่ๆ โดยฉับพลัน – การเพิ่มดีกรีการใช้อาวุธร้ายแรง เช่น เครื่องบินรบ จรวด ขีปนาวุธ

 

ปัจจัยเหล่านี้ มันกำลังบอกเราว่า ใครที่อยู่ในพื้นที่ยุโรป..เตรียมไปหาที่เหมาะๆ ข้างบ้าน แล้วเริ่มเอาจอบมาขุดหลุมหลบภัยลึกๆ เตรียมไว้กันเถอะ !!

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/thailandcoup

 

หมายเหตุ โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /คำหยาบ / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / นำข่าวลือได้ยินมาโพส / ภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช. ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้

 

 

10537127_258475417675826_5139948426446946320_n.jpg

10553453_258475151009186_7783032776851202023_n.jpg

10417668_258475647675803_7838945591531256316_n.jpg

10411151_258475197675848_992237932348569153_n.jpg?oh=23e9ffd78e2b99aea14082c2ff6e3a6d&oe=5438F7FB&__gda__=1413747605_515758d3b3c042cab3bfea4dac036819

 

10537127_258475417675826_5139948426446946320_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วันที่ 5 ส.ค.57 เปิดปูม..จุดกำเนิดสงครามโลกครั้งที่ 2 สู่วัฎจักรชนวนสงครามครั้งที่ 3

 

ช่วงนีกองทัพจีนจู่ๆ ก็ฟิตบ้างเพิ่งจัดการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริง ช่วงปลายเดือน ก.ค. ถึง ต้นเดือน ส.ค.57 ที่ผ่านมา กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ในทะเล ใกล้ไต้หวัน เกาะโอกินาวา และ ญี่ปุ่น สร้างความหวาดเสียวกับ ดินแดนย่านนั้นมาก

 

มะกันกำลังเล็งมาเลเซีย และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของไทย จะปั้นสถานการณ์ให้คล้ายยูเครน โดยอาศัยความโลภของแก็งค์ค้าน้ำมันเถื่อนไทย และความไร้เดียงสาอ่อนต่อการเมืองโลก ของกลุ่มติดอาวุธจังหวัดชายแดนใต้ ที่เป็นศัตรูคนมุสลิม

 

มหาอำนาจชาติใด ยึดช่องแคบมะลากาได้ ก็จะเป็นฝ่ายกำชัยในการสู้รบสงครามรอบใหม่นี้ ที่จะย้ายจุดจากยุโรปตะวันตก มาเอเซียไต้ และเมื่อนั่นกลุ่มติดอาวุธใต้ก็จะโดนมะกันหลอกใช้เป็นสงครามตัวแทน เหมือนคนยูเครน และกลุ่มติดอาวุธสุหนี่ เช่น IS ,เคิร์ด , อัลนุสรา ในตะวันออกกลาง

 

ตอนนี้จะเล่าบทเรียน สงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อจากคราวที่แล้วที่เล่าจุดสู้รบสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะระยะเวลาสงครามโลกครั้งล่าสุดยังไม่ห่างจากปัจจุบันนัก แค่ 70 ปีเท่านั้น สมัยนั้นมีคนตายมากประมาณกว่า 70 ล้านคน นั้นหมายถึงถ้าคิดคร่าว คือ เท่าประชากรไทยทั้งประเทศหายไปเกลี้ยงเลย นี่ไม่นับคนบาดเจ็บ พิการ อีกมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว

 

สงครามโลกครั้งที่สอง (มักย่อเป็น WWII หรือ WW2) เป็นความขัดแย้งทางทหารระดับโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1939 ถึง 1945 ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเทศส่วนใหญ่ในโลก รวมทั้งรัฐมหาอำนาจทั้งหมด ประเทศผู้ร่วมสงคราม รวมตัวกันเป็นพันธมิตรทางทหารคู่สงคราม 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายสัมพันธมิตร และ ฝ่ายอักษะ ระหว่างสงครามมีการระดมทหารกว่า 100 ล้านนาย ด้วยลักษณะของ "สงครามเบ็ดเสร็จ"

 

สงครามโลกครั้งที่ 1 มีการเปลี่ยนแปลงดินแดนอย่างใหญ่หลวงในยุโรป ด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายมหาอำนาจกลาง รวมทั้งการล่มสลายของรัฐจักรวรรดิที่สำคัญ ได้แก่ จักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมัน จักรวรรดิรัสเซีย เกิดความสำเร็จของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี เซอร์เบียและโรมาเนีย

 

หลังสงครามนี้ ชาตินิยมอุดมการณ์เรียกร้องดินแดน และลัทธิแก้แค้น มีความสำคัญในหลายประเทศยุโรป และแรงกล้ามากในเยอรมนี เพราะเยอรมนีถูกกบังคับตามสนธิสัญญาแวร์ซาย เป็นผลให้เยอรมนีเสียดินแดนของประเทศไปร้อยละ 13 รวมทั้งอาณานิคมโพ้นทะเลทั้งหมด การรวมเยอรมนีเข้ากับประเทศอื่นถูกห้าม

 

ซ้ำต้องแบกภาระชำระค่าปฏิกรรมสงครามมหาศาล และถูกจำกัดขนาด และขีดความสามารถของกองทัพอย่างมาก ขณะเดียวกัน สงครามกลางเมืองรัสเซียได้นำไปสู่การก่อตั้งสหภาพโซเวียต นำโดยพรรคบอลเชวิค ภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์

 

จักรวรรดิเยอรมันสิ้นสภาพไปจากการปฏิวัติใน ค.ศ. 1918-19 และรัฐบาลประชาธิปไตยถูกตั้งขึ้น ซึ่งภายหลังรู้จักกันว่า สาธารณรัฐไวมาร์ ในเยอรมนีระหว่างสงครามโลกได้เกิดความขัดแย้งภายในขึ้นระหว่างผู้สนับสนุนสาธารณรัฐใหม่ และผู้คัดค้านที่ยึดมั่นทางฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย

 

พรรคนาซี นำโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เจริญรอยตามการจัดตั้งรัฐบาลฟาสซิสต์ ตามอย่างอิตาลีในเยอรมนี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ทำให้การสนับสนุนพรรคนาซีภายในประเทศเพิ่มขึ้น และใน ค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้สภาไรช์สทัก ฮิตเลอร์สถาปนารัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จพรรคการเมืองเดียวนำโดยพรรคนาซี

 

สถานการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในอิตาลี แม้ว่าอิตาลีจะเป็นพันธมิตรและได้รับดินแดนอยู่บ้างจากสงครามครั้ง 1 แต่พวกชาตินิยมอิตาลีรู้สึกโกรธแค้น ที่คำมั่นสัญญาของอังกฤษ และฝรั่งเศสให้ไว้ เพื่อให้อิตาลีเข้าสู่สงคราม ไม่เป็นไปตามการตกลงสันติภาพ

 

ค.ศ. 1922 - 1925 ขบวนการฟาสซิสต์ นำโดยเบนิโต มุสโสลินี ยึดอำนาจในอิตาลีด้วยวาระชาตินิยม เผด็จการเบ็ดเสร็จและความร่วมมือระหว่างชนชั้น ซึ่งยกเลิกระบอบประชาธิปไตยและใช้สังคมนิยมแทน ฝ่ายซ้ายและเสรีนิยม ดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบก้าวร้าวโดยมีเป้าหมายเพื่อสถาปนาอิตาลี เป็นมหาอำนาจของโลก คือ "จักรวรรดิโรมันใหม่"

 

ค.ศ. 1920 ประเทศจีน รัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งได้เริ่มการทัพรวมชาติขึ้น ต่อต้านเหล่าขุนศึกอิสระ จนนำไปสู่การรวมชาติราวกลางคริสต์ทศวรรษ แต่หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนต้องเข้าไปพัวพันในสงครามกลางเมืองกับ พรรคคอมมิวนิสต์จีน

 

ค.ศ.1931 จักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งมีความต้องการจะมีอิทธิพลเหนือประเทศจีนมาเป็นเวลานานแล้ว เพิ่มกำลังทหารในจีนอย่างขนานใหญ่ เพื่อเป็นแผนการขั้นแรกในการเข้าปกครองทั้งทวีปเอเชีย โดยใช้ข้ออ้างในการบุกครองแมนจูเรีย และจัดตั้งรัฐหุ่นเชิด แมนจูกัว จีนได้ขอความช่วยเหลือจากสันนิบาตชาติ

 

ปี ค.ศ.1933 หลังมีการประณามการบุกครองดังกล่าว ญี่ปุ่นจึงลาออกจากองค์การ หลังจากนั้น ทั้งสองชาติได้เกิดการปะทะกันประปรายขึ้นอีกหลายครั้ง จนกระทั่งนำไปสู่การพักรบ แต่กองกำลังอาสาจีน ก็ยังคงต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นต่อไปในอีกหลายพื้นที่ ทั้งในแมนจูเรียและมองโกเลียใน

 

ค.ศ. 1935 ฮิตเลอร์ สนับสนุนนโยบายการจัดระเบียบโลกใหม่ โดยอาศัยปัจจัยทางด้านเชื้อชาติ และเริ่มเสริมสร้างกำลังทหารครั้งใหญ่ เพื่อรักษาพันธมิตรของตน ฝรั่งเศสจึงยินยอมให้อิตาลี ยึดครองเอธิโอเปีย ซึ่งอิตาลีต้องการยึดเป็นอาณานิคมอยู่แล้ว เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายยิ่งขึ้น

 

ค.ศ. 1935 ซาร์ลันด์ได้รวมเข้ากับเยอรมนีตามกฎหมาย และฮิตเลอร์ได้ฉีกสนธิสัญญาแวร์ซาย พร้อมกับเร่งการฟื้นฟูกองทัพและเริ่มให้มีการเกณฑ์ทหารอย่างรวดเร็ว มีความพยายามที่จะจำกัดวงเยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และอิตาลี จึงก่อตั้งแนวสเตรซาขึ้น

 

ด้านสหภาพโซเวียตเองก็กังวลต่อเป้าหมายยึดครองดินแดนยุโรปตะวันออก อันกว้างใหญ่ของเยอรมนีเช่นกัน จึงได้ทำสนธิสัญญาฝรั่งเศส-โซเวียต แต่ไม่ขั้นตอนของสันนิบาตชาติเสียก่อน ทำให้สนธิสัญญาดังกล่าวไม่มีผล

 

ค.ศ. 1935 สหราชอาณาจักร ได้ทำสนธิสัญญาการเดินเรือแยกต่างหากกับเยอรมนี โดยผ่อนปรนต่อข้อบังคับต่าง ๆ ที่เคยกำหนดมาก่อนหน้านี้ ส่วนสหรัฐอเมริกา ก็กังวลต่อสถานการณ์ซึ่งอุบัติขึ้นในทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย จึงได้ผ่านกฎหมายความเป็นกลางขึ้น ต่อมา อิตาลีบุกครองเอธิโอเปีย โดยมีเพียงเยอรมนี ที่สนับสนุนการบุกดังกล่าว อิตาลีจึงไม่คัดค้านการผนวกออสเตรียของเยอรมนี

 

ค.ศ. 1936 ฮิตเลอร์ ส่งกองทัพเข้ายึดครองไรน์แลนด์ แต่ก็ได้รับการตอบสนองน้อยมากจากชาติยุโรปอื่น ๆ ครั้นเมื่อสงครามกลางเมืองสเปนปะทุขึ้น ทั้งฮิตเลอร์ และ มุสโสลินี ได้ให้ความสนับสนุนแก่จอมทัพฟาสซิสต์ ฟรันซิสโก ฟรังโก และฝ่ายชาตินิยมสเปน เพื่อต่อต้านรัฐบาลสาธารณรัฐสเปนที่สอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต

 

ค.ศ. 1936 เยอรมนีได้ร่วมมือกับอิตาลีก่อตั้งแกนโรม-เบอร์ลินขึ้น และทำสัญญา กับญี่ปุ่น ซึ่งอิตาลีก็ได้เข้าร่วมด้วย ส่วนในประเทศจีน กองทัพพรรคก๊กมินตั๋ง และกองทัพคอมมิวนิสต์ได้ตกลงหยุดยิง เพื่อร่วมกันสร้างแนวร่วมต่อต้านจักรวรรดิญี่ปุ่น

 

ค.ศ. 1937 ญี่ปุ่น เริ่มการบุกครองจีนอย่างเต็มตัว มีเป้าหมายจะบุกครองจีนทั้งหมด สหภาพโซเวียต ลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานกันกับจีน และให้ความช่วยเหลือด้านวัตถุดิบแก่จีน เป็นการยุติความร่วมมือของจีน-เยอรมัน ที่มีอยู่ก่อนหน้า จอมทัพเจียง ไคเช็คได้ เสียเมืองไปให้กองทัพญี่ปุ่น และสามารถยึดนานกิงได้และการสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยม

 

ค.ศ. 1938 กองทัพจีน สามารถหยุดการรุกคืบของกองทัพญี่ปุ่นได้ โดยเหตุอุทกภัยแม่น้ำหวง ในช่วงนี้ จีนได้เตรียมการป้องกันที่เมืองอู่ฮั่น แต่ก็ยังถูกตีแตก แม้ว่าฝ่ายญี่ปุ่นจะได้รับชัยชนะทางทหาร แต่กลับไม่สามารถทำลายการต้านทานของจีนลงได้อย่างที่หวัง โดยรัฐบาลจีนย้ายลึกเข้าไปในแผ่นดินถึงฉงชิ่งแล้วทำสงครามต่อ

 

ค.ศ. 1938 กองทัพญี่ปุ่น และกองทัพโซเวียตปะทะกัน อย่างประปราย ที่ทะเลสาบคาซาน แม้ว่าโซเวียตจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ญี่ปุ่นกลับมองว่าเป็นการเสมอที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ

 

ค.ศ. 1939 ญี่ปุ่นตัดสินใจขยายพรมแดนญี่ปุ่น-มองโกเลีย ขึ้นไปด้วยกำลัง แม้ว่าญี่ปุ่นจะประสบความสำเร็จในระยะแรก แต่กองทัพในมองโกเลียได้ถูกขัดขวางอีกครั้ง และสงครามยุติลงด้วยสัญญาหยุดยิง โดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงดินแดนใด ๆ

 

นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญครั้งแรกกองทัพ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่น มุ่งปรองดองกับรัฐบาลโซเวียต เพื่อมิให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสงครามในจีน และหันเหความสนใจทางทหารไปทางใต้ ไปยังดินแดนในครอบครองของสหรัฐอเมริกา และยุโรปในแปซิฟิกแทน

 

ค.ศ. 1939 ฝ่ายชาตินิยมสเปน และรัฐบาลสาธารณรัฐสเปนที่สอง ต่างใช้สงครามครั้งนี้ เป็นสนามทดสอบอาวุธและยุทธวิธีในการทำสงครามที่คิดค้นขึ้นใหม่ด้วย จนกระทั่งฝ่ายชาตินิยมสเปนได้รับชัยชนะ จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ได้นำไปสู่ความพยายามเสริมสร้างความแข็งแกร่ง หรือการรวมกลุ่มระหว่างประเทศขึ้น

 

บทบาทของเยอรมนี และอิตาลี เริ่มก้าวร้าวมากขึ้น เยอรมนีผนวกออสเตรีย โดยมีปฏิกิริยาจากชาติตะวันตกอื่น ๆ เพียงเล็กน้อย ด้วยความฮึกเหิม ฮิตเลอร์จึงอ้างสิทธิครอบครองซูเดเตนแลนด์ ดินแดนของเชโกสโลวาเกีย ซึ่งมีพลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวเยอรมัน

 

ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ยินยอมให้เยอรมนียึดครองซูเดนเตแลนด์ เพื่อแลกกับการหยุดแสวงหาดินแดนเพิ่มเติม แต่หลังจากนั้น เยอรมนี แล ะอิตาลี ได้บังคับให้เชโกสโลวาเกีย ยกดินแดนให้กับฮังการีและโปแลนด์อีก และเยอรมนี บุกครองเชโกสโลวาเกียส่วนที่เหลือ และแบ่งประเทศออกเป็นรัฐในอารักขาโบฮีเมีย และโมราเวียของเยอรมนี และรัฐหุ่นเชิดอิสระ สาธารณรัฐสโลวัก

 

ด้วยความตื่นตัวจากเหตุที่ฮิตเลอร์ต้องการดินแดนเพิ่มเติม ฝรั่งเศสและอังกฤษจึงรับประกันว่าจะให้การสนับสนุนเอกราชของโปแลนด์ และเมื่ออิตาลียึดครองแอลเบเนีย ฝรั่งเศสและอังกฤษก็ให้คำมั่นเช่นเดียวกันนี้แก่โรมาเนียและกรีซ ด้านเยอรมนีและอิตาลีก็ร่วมมือกันและลงนามเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ

 

สหภาพโซเวียต พยายามเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับอังกฤษ และ ฝรั่งเศส เพื่อพยายามจำกัดวงเยอรมนี แต่ทั้งสองชาติปฏิเสธ ด้วยแคลงใจในเจตนา และความสามารถของสหภาพโซเวียตสหภาพโซเวียต วิตกว่าอาจเกิดสงคราม ระหว่างเยอรมนีกับสหภาพโซเวียต โดยฝ่ายสัมพันธมิตรอาจเอนเอียงเข้ากับฮิตเลอร์

 

ทำให้สหภาพโซเวียตลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างนาซี-โซเวียต ซึ่งมีข้อตกลงลับระหว่างทั้งสองที่จะแบ่งกันครอบครองยุโรปตะวันออก โดยยกโปแลนด์ตะวันตกและลิทัวเนียให้อยู่ในเขตอิทธิพลของเยอรมนี และยกโปแลนด์ตะวันออก ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย และแคว้นเบสซาราเบีย ของโรมาเนีย ให้อยู่ในเขตอิทธิพลของสหภาพโซเวียต

 

ค.ศ. 1939 เยอรมนีและรัฐบริวารสโลวาเกีย บุกครองโปแลนด์ ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรประกาศสงครามกับเยอรมนี ตามมาด้วยบรรดาประเทศในเครือจักรภพแห่งชาติ แต่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่โปแลนด์เพียงเล็กน้อย อีกทางหนึ่ง อังกฤษกับฝรั่งเศสจะเริ่มต้นการปิดล้อมทางทะเลต่อเยอรมนี มีเป้าหมายที่จะทำลายเศรษฐกิจและความพยายามสงครามของเยอรมนี

 

หลังจากสงบศึกชั่วคราวกับญี่ปุ่นแล้ว สหภาพโซเวียตก็ได้เริ่มการบุกครองโปแลนด์ และโปแลนด์ได้ถูกแบ่งออกระหว่างเยอรมนี กับ สหภาพโซเวียต ส่วนลิทัวเนีย กับ สโลวาเกีย ได้รับส่วนแบ่งบ้าง กองทัพป้องกันประเทศใต้ดินโปแลนด์ ยังสู้โดยอิงกับฝ่ายสัมพันธมิตรในทุกแนวรบนอกประเทศ และกองทัพญี่ปุ่นก็เปิดฉากโจมตีเมืองฉางซา ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ของจีน แต่ก็ถูกขับไล่กลับไปในที่สุด

 

ภายหลังการบุกครองโปแลนด์ และลิทัวเนีย สหภาพโซเวียต ได้บีบบังคับรัฐบอลติกเพื่อยินยอมให้ส่งกองทัพเข้าไปประจำการ ฟินแลนด์ปฏิเสธจึงถูกสหภาพโซเวียตบุก และจบลงด้วยการยินยอมยกดินแดนบางส่วนให้กับสหภาพโซเวียต ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร มองว่าสหภาพโซเวียตพยายามจะเข้าสู่สงครามโดยอยู่ข้างเยอรมนี จึงขับสหภาพโซเวียตออกจากสันนิบาตชาติ

 

ในยุโรปตะวันตก อังกฤษได้วางกำลังบนยุโรปภาคพื้นทวีป สหภาพโซเวียต และ เยอรมนี ได้บรรลุสนธิสัญญาการค้าระหว่างกัน สหภาพโซเวียตได้รับอุปกรณ์ทางทหารและทางอุตสาหกรรมของเยอรมนี แลกกับการส่งวัตถุดิบให้กับเยอรมนี ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากการถูกปิดล้อมเมืองท่า โดยสหราชอาณาจักร

 

ค.ศ. 1940 เยอรมนี บุกครองเดนมาร์ก และ นอร์เวย์ เพื่อควบคุมการขนส่งแร่เหล็กจากสวีเดน ซึ่งฝ่ายสัมพันธมิตรกำลังจะช่วย แต่เดนมาร์กได้ยอมจำนนอย่างรวดเร็ว แต่นอร์เวย์จะได้รับความช่วยเหลือทัน เยอรมนี จึงไปพิชิตนอร์เวย์ ต่อ ชาวอังกฤษความไม่พอใจ นำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร เป็นวินสตัน เชอร์ชิลล์

 

เยอรมนี บุกครองฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และ ลักเซมเบิร์ก ต่อ โดยฝ่ายเยอรมนีใช้อุบายการตีผ่านแนวเทือกเขาอาร์เดนเนส ซึ่งมีป่าปกคลุมหนาแน่น เพื่อโอบล้อมแนวป้องกันของฝรั่งเศส เพราะนักวางแผนชาวฝรั่งเศสคาดการณ์ผิดว่าเทือกเขานี้เป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติ เชื่อว่ายานยนต์หุ้มเกราะไม่อาจโจมตีผ่านได้

 

ทหารอังกฤษ ถูกบีบให้ล่าถอยจากแผ่นดินใหญ่ยุโรป ทิ้งยุทโธปกรณ์หนักไว้เป็นจำนวนมาก อิตาลีเริ่มการบุกครองฝรั่งเศส และประกาศสงคราม ต่อสหราชอาณาจักร และ ฝรั่งเศส และฝรั่งเศสยอมจำนน ถูกแบ่งเป็นเขตยึดครองของเยอรมนี และ อิตาลีในเวลาต่อมา กองทัพเรืออังกฤษก็ทำลายกองทัพเรือฝรั่งเศสในแอลจีเรีย เพื่อป้องกันมิให้กองทัพเยอรมนีนำไปใช้

 

สหภาพโซเวียต ผนวกดินแดนรัฐบอลติก ตามด้วย แคว้นเบสซาราเบียในโรมาเนีย อาจกล่าวได้ว่าสหภาพโซเวียต เป็นพันธมิตรโดยพฤตินัยของเยอรมนี แต่การยึดครองรัฐต่างๆ สร้างความวิตกกังวลให้แก่เยอรมนี สร้างความตึงเครียดเพิ่มมาก ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองเสื่อมทรามลง เหลือแต่รอเวลาทำสงคราม

 

ต่อมา ฝ่ายอักษะก็มีกำลังยิ่งขึ้น กองทัพอากาศเยอรมันโจมตีอังกฤษ ครองเหนือน่านฟ้าและเตรียมการรบภาคพื้นดิน แต่ประสบความล้มเหลว และได้ถูกยกเลิกภาคพื้นดิน และ กองทัพเรือเยอรมันประสบความสำเร็จ ในการจมเรือรบอังกฤษ ในมหาสมุทรแอตแลนติก ฝ่ายอิตาลีก็เริ่มการปฏิบัติการทางทะเลของตนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยการปิดล้อมมอลตา

 

ครอบครองบริติชโซมาลิแลนด์ และส่งกองทัพเข้าสู่อียิปต์ของสหราช ส่วนทางด้านญี่ปุ่นก็เพิ่มการปิดล้อมจีนด้วยการโจมตีฐานทัพหลายแห่ง ทางตอนเหนือของอินโดจีน ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกลาง ได้ช่วยเหลือทั้งจีน และ สัมพันธมิตรตะวันตก เปิดโอกาสให้ฝ่ายสัมพันธมิตรซื้อสินค้าแบบ "จ่ายเป็นเงินสด" ได้

 

ค.ศ. 1940 เยอรมนียึดกรุงปารีส และสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขนาดกองทัพเรือของตนขนานใหญ่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รุกล้ำเข้าไปยังอินโดจีน สหรัฐอเมริกาก็สนับสนุนการห้ามขนส่งเหล็ก เหล็กกล้า และชิ้นส่วนเครื่องจักรแก่ญี่ปุ่น ตกลงแลกเปลี่ยนเรือประจัญบานอเมริกัน กับฐานทัพอังกฤษ แต่ประชาชนชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต่อต้านการเข้าแทรกแซงความขัดแย้งทางทหารโดยตรง

 

** รออ่านตอนต่อไปว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายกำชัย ในสงครามใหญ่ครั้งนี้ และไทยไปเกี่ยวข้องตอนไหน ??

 

@ เสธ น้ำเงิน3

https://www.facebook.com/thailandcoup

 

หมายเหตุ โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /คำหยาบ / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / นำข่าวลือได้ยินมาโพส / ภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช. ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ (7 photos)

 

10590443_258479387675429_4128131115678253954_n.jpg?oh=2fd4f55ead8b6df7fbe17314d71b669d&oe=543B88DE&__gda__=1413327417_99c2297ef155586caf88f0bb268d79d0

10353707_258479334342101_7077736863304808342_n.jpg?oh=7b8fef554ca3218e70401198dfdeb622&oe=543989E1

10565256_258479324342102_8526767327340885144_n.jpg?oh=17cbf64655dbb2b0f1caf14ccc70f1ca&oe=5452E7B3

10384063_258479354342099_5754260703517417001_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

#ให้คือให้

 

สำหรับเรื่องการให้ ก็คงจะไม่มีข้อสงสัยว่า ให้โดยที่ไม่หวังผล ถ้าให้แล้วหวังจะเกิดในสวรรค์บ่อยๆ บางคนก็หวังว่าให้แล้วจะถูกล็อตเตอรี คือ มีแต่ความหวัง เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของโลภะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของการให้จริงๆ เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นคนตรงต่อตัวเอง และตรงต่อธรรม ถ้าให้ก็คือให้ ให้

 

แล้วไม่ต้องไปหวังอะไรที่เป็นการตอบแทนทั้งหมด นั่นจึงจะเป็นการให้จริงๆ แล้วเราก็สบายใจด้วย

 

ถ้าเราให้ แต่เราหวัง แล้วไม่ได้อย่างที่หวัง เราก็ไม่สบายใจแล้วใช่ไหม

ให้--ให้เขากลัวเกรงเรา ให้เขารักเรา ให้เขาปรนนิบัติเรา แต่ถ้าเขาไม่ปรนนิบัติเรา ไม่กลัวเกรงเรา เราก็โกรธขึ้นมาอีก

 

เพราะฉะนั้นขณะนั้นก็ไม่ใช่บุญ ขณะนั้นใดที่เป็นอกุศล ขณะนั้นไม่ใช่บุญ ถ้าเป็นจิตที่ผ่องใส ผลของกุศลก็มีมาก

 

มีคนที่ฟังธรรมแล้วก็ปนกัน คือ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องเหตุและผลว่า

ขณะ ใดที่จิตใจผ่องใส แม้แต่การให้ ให้ด้วยความนอบน้อม ไม่ใช่ให้แบบรังเกียจ

หรือให้แบบ เป็นผู้ให้ เพราะว่าบางคนเวลาให้มีความสำคัญตนว่า

เราเป็นผู้ให้ เพราะฉะนั้น คนนั้นจะต้องถือว่า เราเป็นผู้ให้เขา เหมือนกับมีบุญคุณต่อกัน ขณะนั้นก็ไม่ใช่การให้ที่ถูกต้อง

 

เพราะฉะนั้น ถ้าจิตผ่องใสปราศจากอกุศล มีผลมาก มีผลมากตั้งแต่เริ่มให้เพราะว่า เป็นจิตที่ผ่องใส

 

.....

 

http://www.dhammahome.com/

10489879_670529123022349_4048989453270437287_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...