ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 ประโยชน์ 11ประการของการ"ดื่มกาแฟ" ที่ไม่ใส่น้ำตาลและไม่ใส่คอฟฟี่เมท หมายถึงดื่มแต่กาแฟล้วนๆ อย่างเดียว (1) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมี ประโยชน์ ในการป้องกันได้ (2) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหอบ โรคนี้คือ อาการภูมิแพ้ ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไป เมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูก กระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที คาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของ ประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ (3) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่ นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับได้อย่างมีนัยสำคัญ (4) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิ ภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะ ในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วย ป้องกันโรคต่างๆดังกล่าวได้ (5) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยขับไล่ความชรา อ็อกซิเจน เป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากไป ทำให้มี โอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกายได้ดี (6) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยลดอัตราคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลส เตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัวได้ (7) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยละลายไขมัน กาแฟที่ดื่มหลัง อิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทน จึงลดความอ้วนได้ด้วย (8) กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ บ่อยๆ จะมีไขมันชนิด HDLเพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือด แข็งตัวได้ (9) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยแก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสม ของคาเฟอีน ที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้ (10) การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับ เรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟ ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น (11) ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อย ในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังทาน อาหารเสร็จ คาเฟอีนในกาแฟจะมี ประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนจะเพิ่ม ขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญได้ดีมากขึ้น ข้อนี้สำคัญเลยเชียว ขอขอบคุณข้อมูลจากhttps://plus.google.com/11780569501398648…/posts/hKEV4k6ZT8z 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 "ชาตะไคร้ใบเตย" แก้โรคเก๊าต์ได้ดีจนเหลือเชื่อ!! คำบอกเล่าจากหมอพื้นบ้านที่เคารพท่านหนึ่งได้กรุณาให้สูตร "ชาตะไคร้ใบเตย แก้โรคเก๊าต์" ปรกติจะมียาสำหรับล้างพิษโลหิตแก้โรคเก๊าต์ให้คนไข้ซึ่งจะมีสมุนไพรทั้งคู่อยู่ในยาอยู่แล้ว แต่สูตรนี้เห็นว่ามีประโยชน์และทำได้เองง่ายๆที่บ้าน แนะนำว่าเป็นของสดๆจะได้ผลดีกว่าหลายเท่าครับ ส่วนประกอบ 1. ตะไคร้ 4-5 ต้น 2. ใบเตย 2-3 ใบ 3. น้ำสะอาด 2 ลิตร ต้มสมุนไพรจนเดือด พอเดือดลดไฟลง ต้มต่ออีก 15 นาที ห้ามเปิดฝาโดยเด็ดขาด ครบ 15 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ดื่มแทนน้ำเปล่าติดต่อกัน 1 สัปดาห์ จะล้างกรดยูริคในเลือด สาเหตุของอาการปวดเข่าจากโรคเก๊าต์ได้ดีมากๆแบบไม่ต้องใช้ยาเลยครับ สูตรนี้ได้รับการยืนยันจากคนไข้เองว่า ได้ผลดีเกินคาด!! (ผลข้างเคียงคือ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมงครับ) Share ต่อๆกันไปครับ ยาง่ายๆ ไม่อันตราย ได้ผลดี และประหยัดเงินเห็นๆ^^ ขอขอบคุณข้อมูลจาก แฟนเพจสมุนไพรหมอศุภ นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 มะกันอันตรายสมคบระบอบทักษิณ วางแผนยึดครองไทย? http://www.naewna.com/creative/142078 วันศุกร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558, 02.00 น. tags : มะกัน, ระบอบ, ทักษิณ, ยึดไทย [/url] การบุกมาแสดงความอหังการ์แทรกแซงกิจการภายในของไทยอย่างเหิมเกริมถึงถิ่นของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯตามคำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามาส่อมีเป้าหมายแฝงเร้นเพื่อปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกนหุ่นเชิดระบอบทักษิณที่ถูกถอดถอนและกำลังจะถูกฟ้องลงโทษทางอาญาจากพิษโครงการรับจำนำข้าว ขณะเดียวกันมะกันอันตรายทำทุกวิถีทางหนุนหลังระบอบทักษิณเพื่อให้กลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง จุดยืนท่าทีสหรัฐชัดเจนมาตลอดต้องการกดดันไทยให้ยกเลิกกฏหมายอัยการศึกและเร่งให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วเข้าทางระบอบทักษิณและสหรัฐฯ เพราะการเลือกตั้งเท่านั้นคือโอกาสที่จะฟื้นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศ มะกันอันตรายไม่สนใจว่าระบอบทักษิณจะชั่วร้ายโกงชาติปล้นแผ่นดินหรือสร้างความพินาศล่มจมให้ประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน เพราะมะกันอันตรายสนใจแค่ขอให้บรรลุเป้าหมายผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ พฤติกรรมมะกันอัตรายจากอดีตจนปัจจุบันตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยสิ้นเชิงเพราะซีไอเออยู่เบื้องหลังการรัฐประหารล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในหลายประเทศทั่วโลกแล้วสถาปนารัฐบาลเผด็จการทราชย์สุดชั่วร้ายซึ่งเป็นหุ่นเชิดมะกันอันตายขึ้นมาคุมอำนาจเป็นทาสรับใช้ มะกันอันตรายอ้างประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือข่มขู่กดดันให้รัฐบาลไทยเลิกกฏอัยการศึกและเร่งมีการเลือกตั้ง รวมทั้งปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยข้ออ้างที่บิดเบือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองทั้งๆที่ความผิดมัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ชัดเจน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถึงกับออกมาแสดงความไม่พอใจต่อพฤติการณ์ดุจอันธพาลโลกของมะกันอันตรายที่กล่าวหาว่าการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยย้ำว่าประชุมสนช.มีมติถอดถอนโดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงพร้อมกับย้อนว่าในอดีตมะกันอันตรายเองก็เคยถอดถอนอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันในคดีวอเตอร์เกตและถอดถอนอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในคดีอื้อฉาวทางเพศ ขณะที่ นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สนช. แถลงแสดงความผิดหวังต่อท่าทีของมะกันอันตรายที่แทรกแซงกิจการภายในของไทยซึ่งเป็นการละเมิดกฏบัตรขององค์การสหประชาชาติ การสมคบระหว่างมะกันอันตรายกับระรอบทักษิณก็ด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทนโดยะมกันอันตรายหนุนหลังระบอบทักษิณหวังเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดทาสรับใช้มะกันอันตรายในทุกเรื่องโดยเฉพาะใช้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการแผ่ขยายอิทธิพลด้านความมั่นคงของมะกันอันตรายในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค รวมทั้งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านพลังงาน ขณะที่ผลประโยชน์ที่ระบอบทักษิณต้องการคือการหนุนหลังทางการเมืองจากมะกันอันตรายซึ่งมหาอำนาจอันธพาลโลก โดยทั้งสองฝ่ายต่างสมคบกันวางแผนคิดยึดครองประเทศไทยอย่างถาวร แผนสมคบกันระหว่างมะกันอันตรายกับระบอบทักษิณอาจจะไม่ใช่เป้าหมายแค่ผลักดันระบบอบทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาล แต่อาจมีเป้าหมายไปถึงแผนเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ โดยมีข้อน่าสังเกตุคือมะกันอันตรายปล่อยให้ขบวนการล้มเจ้าใช้ดินแดนสหรัฐฯเป็นแหล่งเคลื่อนไหวบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยและยังเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ของประมวลกฏหมายอาญาว่าด้วยโทษการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นถือเป็นคราวเคราะห์ของประเทศไทยที่เจอกับ 2 ตัวซวยฝนตกขี้หมูไหล ซึ่งจากประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าทั้ง 2 แก๊งฝนตกขี้หมูไหลไปที่ไหนบรรลัยวายวอดที่นั่น ทีมข่าวการเมือง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
meng166 131 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 ขอขอบใจหลายๆ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 (มีการแก้ไข) นายกฯสั่ง ขรก.ระดับจังหวัดเกาะติด อุปทูตสหรัฐฯลงพื้นที่พบปะ "คนเสื้อแดง" จ้อสถานการณ์ไทย - กำชับส่องความคืบหน้า 2015-01-29 21:38:04 http://politic.tnews...content/126861/ === วันศุกร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558, 06.00 น. tags : สหรัฐ, แทรกแซง, ตบปาก, กิจการ, สนช., ไทย “บิ๊กตู่”จับตาอุปทูตมะกัน ลงพื้นที่แดง อ้างปชต.กดดันรบ.ไทย โพสต์ยันสหรัฐไม่เลือกข้าง สนช.สุดทนชักแถวถล่มยับ จวก“ไร้มารยาท-แทรกแซง” ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 29 มกราคม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาแถลงตอบโต้ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แสดงความเห็นทำนองตำหนิการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากความผิดกรณีโครงการรับจำนำข้าว และเสนอให้รัฐบาลไทยยกเลิกกฎอัยการศึก จวกมะกันไร้มารยาทการทูต โดย นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่ นายแดเนียล มาพบปะในเชิงที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบทางการทูต ซึ่งลักษณะแบบนี้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาทำเป็นประจำ แต่ก็ยังดีกว่าการที่ส่งสปายสายลับซีไอเองไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ซึ่งเราก็เห็นกันว่าการกระทำของนายแดเนียล เพราะสหรัฐฯถือว่าตัวเองเป็นประเทศมหาอำนาจ และเป็นการพูดโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างถ่องแท้ ฉะอย่ามองปชต.มีแค่เลือกตั้ง ทั้งนี้ สนช.ตั้งขึ้นมาภายหลังรัฐประหาร เพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบนิติรัฐที่ยึดกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เปลี่ยนถ่ายอำนาจเป็นระบบนิติรัฐเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนของประเทศไทย ดังนั้น การเดินหน้าประชาธิปไตยของประเทศไทยอาจมีมิติมุมมองที่ไม่เหมือนกันในบางเรื่อง โดยสหรัฐฯมองอย่างเดียวว่าการเลือกตั้งคือ ประชาธิปไตย หากมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พอใจแล้ว โดยไม่สนใจบริบทอย่างอื่นว่าประเทศชาติจะแบ่งเป็นกี่ฝ่าย เกิดจลาจลขึ้นในบ้านเมืองหรือไม่ ซึ่งคสช.จึงเข้ามาปัดกวาดบ้านเมือง และปูพื้นฐานไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในบริบทของไทย ซึ่งตนและสนช.จึงมีอุดมการณ์เดียวกันคือ ให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม สะท้อนให้เห็นเสียงของประชาชน และประชาธิปไตยที่ยั่งยืนนั้นก็ต้องเข้ากับขนบธรรมเนียม ประเพณีและสิ่งที่ยึดเหนี่ยวประชาชน คือมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยันสอยปูตามกม.-สหรัฐก็เคยทำ ประธาน สนช. ยังกล่าวถึงกรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ถ้าจะพูดเป็นเรื่องการเมืองก็คงใช่ แต่เป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และกระบวนการถอดถอนก็เป็นไปตามหลักนิติธรรมและหลักนิติรัฐ ยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนเป็นไปตามระบบรัฐสภา และไม่นานมานี้สหรัฐฯก็เคยถอดถอนนักการเมืองถึง 2 กรณี กรณีแรกคือ ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ที่ใช้อำนาจส่งเจ้าหน้าที่ไปสอดแนมพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ของสหรัฐฯ และกรณีประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่มีความสัมพันธ์กับเลขาฯส่วนตัว แต่ได้ถอดถอนในเรื่องขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและให้การเท็จ ซึ่งสหรัฐก็ดำเนินการถอดถอนในระบบรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญของตัวเอง เมินทำหนังสือชี้แจงสหรัฐ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายแดเนียล ระบุการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครั้งนี้เป็นการไล่ล่า นายพรเพชร ตอบว่า สนช. ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ไล่ล่าใคร อีกทั้งรัฐสภาไทยก็ไม่ต้องทำหนังสือแสดงจุดยืนไปยังสหรัฐฯในเรื่องนี้ เพราะไม่ได้ก้าวล่วงกัน แต่เราจะใช้เวทีรัฐสภาโลก (ไอพียู) ชี้แจง “ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกายังยืนอยู่ในความร่วมมือทุกมิติ นายแดเนียล เข้ามาก็มาพูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่กลับมาสรุปถึงเรื่องถอดถอนและกฎอัยการศึกปนกัน ยืนยันว่า หากนำไปเปรียบเทียบกับอเมริกามีความแตกต่างกันแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องกฎอัยการศึก”นายพรเพชรกล่าว กมธ.ตปท.อัดซ้ำแทรกแซงไทย วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ ของสนช. นำโดย นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธาน กมธ. ได้ออกมาแถลงเช่นกันว่า กมธ.ผิดหวังและกังวลกับท่าทีของนายแดเนียลที่แสดงออกหลายประเด็น ซึ่งกมธ.ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสหรัฐฯ จึงคาดหวังว่าสหรัฐฯจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และความจำเป็นในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะปฏิรูปประเทศไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตามโรดแมปที่ประกาศไว้ “กมธ.ไม่สบายใจ ผิดหวังและกังวลที่นายแดเนียลแสดงความเห็นที่ไม่เข้าใจในกระบวนการถอดถอนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งขอยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนนักการเมืองอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสนช.และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กำหนดไว้ โดยรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญต่อการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสอดคล้องกับหลักสากล สหรัฐฯก็ยึดถือ สำหรับโครงการรับจำนำข้าวมีหลักฐานที่ชัดเจนถึงความเสียหายหลายแสนล้านบาท ทุกรัฐบาลยอมรับว่าเป็นเรื่องถูกต้อง โดยกมธ.จะเชิญอุปทูตสหรัฐฯเข้ามาพูดคุยและชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” นางพิไลพรรณกล่าว และว่าการใช้กฎอัยการศึก เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เป็นกิจการภายใน ซึ่งตามกฎบัตรสหประชาชาติยอมรับไว้ชัดเจนว่าประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติไม่อาจแทรกแซงเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศ สอนมวยหัดเคารพมิตรประเทศ เช่นเดียวกับ นายกิตติ วะสีนนท์ สนช.กล่าวถึงกรณีการแสดงความเห็นของนายแดเนียลถือเป็นการทำผิดมารยาทหรือไม่ว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เรื่องพิธีทางการทูตอาจมีความแตกต่างระหว่างประเทศตะวันตกกับประเทศไทย แต่บางเรื่องเป็นเรื่องของมิตรที่ควรให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ในทางปฏิบัติมิตรประเทศต้องอาศัยความเข้าใจกัน อยากเห็นสหรัฐฯเข้าใจและพูดคุยกันตรงไปตรงมา ไม่นำประเด็นอื่นมาเป็นปัญหาเชิงการเมือง อุปทูตแถโต้-จี้ไทยสร้างปชต. ส่วนท่าทีของสหรัฐ หลังกระทรวงการต่างประเทศของไทยเรียกอุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยเข้าพบแสดงความไม่สบายใจต่อการแสดงความเห็นของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศสหรัฐ วันเดียวกัน นายแพทริค เมอร์ฟี่ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @W.PatrickMurphy ถึงการเข้าพบนายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่า ได้หารือถึงการเยือนไทยของ นายแดเนียล ที่แสดงความห่วงกังวลถึงเสรีภาพพลเมือง และความยุติธรรม ในฐานะที่สหรัฐฯเป็นมิตรประเทศและต้องการเห็นความสำเร็จดังกล่าว อีกทั้งจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่องให้ไทยกลับสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง ยืนยันว่าสหรัฐฯไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แฉไม่กล้าโผล่ร่วมประชุมน้ำโขง มีรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะทำงานระดับภูมิภาค ข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative: LMI) ครั้งที่ 7 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเป็นจ้าภาพจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 29 - 30 มกราคม ที่โรงแรม Royal Orchid Sheraton กรุงเทพฯ ตามกำหนดเดิมระบุว่าอุปทูตสหรัฐฯ จะต้องเป็นตัวแทนสหรัฐฯมาร่วมประชุมและกล่าวเปิดงานดังกล่าว แต่ปรากฏว่า ได้มอบหมายให้ นายแมททิว พาลเมอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานการพหุพาคี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ร่วมประชุมแทน กต.สหรัฐไม่ติดใจเฉ่งอุปทูต ขณะที่ นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันในเรื่องเดียวกันว่า ระหว่างการหารือระหว่างอุปทูตสหรัฐฯกับกระทรวงต่างประเทศไทยนั้น นอกจากพูดคุยถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของไทยได้อธิบายจุดยืนของรัฐบาลไทยต่อความเห็นของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเรื่องความสำคัญของเสรีภาพการแสดงความเห็น การยกเลิกกฎอัยการศึกและมุมมองเกี่ยวกับความยุติธรรมทางการเมือง และอุปทูต สหรัฐฯไม่ติดใจ แต่ย้ำจุดยืนของสหรัฐฯที่ต้องการเห็นไทยเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยในเร็ววัน และหวังว่าจะยังคงมีการเจรจากันต่อไป ยันมีฝึกคอบบราโกลด์แต่ลดระดับ ในตอนท้ายของการแถลง นางซากียังกล่าวถึงการฝึกคอบบรา โกลด์ด้วยว่า จะยังคงดำเนินต่อไปตามแผนที่เคยแถลงไปก่อนหน้านี้ ที่สหรัฐฯจะปรับเปลี่ยนเป้าหมายและลดระดับการฝึกซ้อม โดยจะเน้นเรื่องความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติมากขึ้น มั่ว!กองทัพยันฝึกเบาตามแผนเดิม ด้าน พล.ท.วัลลภ รักเสนาะ เจ้ากรมยุทธการทหาร ในฐานะผู้อำนวยการฝึกคอบร้าโกลด์ 2015 กล่าวยืนยันว่าการฝึกคอบบร้าโกลยังมีขึ้นเหมือนเดิมระหว่างวันที่ 9-20 กุมภาพันธ์ โดยวันที่ 2 กุมภาพันธ์กองทัพจะแถลงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวที่กองทัพไทย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับรูปแบบการฝึกเป็นไลท์เยียร์กับเฮฟวี่เยียร์ ซึ่งในปี 2558 ตรงกับไลท์เยียร์จึงดูเบาลง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลดระดับลงไปแต่อย่างใด โดยประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลัก 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และ มาเลเซีย ส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชน ประกอบด้วย จีน และ อินเดีย “วิษณุ”ย้ำอัยการศึกไม่เป็นปัญหา สำหรับท่าทีของรัฐบาลไทย ในเรื่องดังกล่าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีดูแลฝ่ายกฎหมายกล่าวยืนยันว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับประเทศไทย เราอยู่กับการใช้กฎอัยการศึกมานานจนลืม โดยเฉพาะในภาคใต้ ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะมีอำนาจเหนือพลเรือนแต่จะใช้ทั้งหมดหรือไม่อยู่ที่การประกาศ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ประกาศใช้เต็มอัตราศึก เลยทำให้รัฐบาลคิดว่าการประกาศกฎอัยการศึกไม่น่าจะมีผลอะไร และไม่กระทบการดำเนินชีวิตของประชาชน อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ ปฎิเสธที่ออกความเห็นกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐกำลังคุกคามทางการทูตของไทย เพราะฝ่ายที่เกี่ยวข้องแสดงความคิดเห็นไปแล้ว แต่ตนเห็นด้วยกับการพูดของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ซึ่งสหรัฐฯก็ให้ความเห็นตามอุดมการณ์ของเขา ไทยก็ไม่ต้องไปเขว ตอกพวกคิดว่าไล่ล่าเป็นอนิฏฐารมณ์ เมื่อถามถึงการวิจารณ์ว่ารัฐบาลกวาดล้างตระกูลชินวัตร นายวิษณุปฎิเสธ พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ไม่สมหวังได้รับผลกระทบ ย่อมเกิดสิ่งที่เรียกว่า อนิฏฐารมณ์ การเกิดอารมณ์ที่ไม่เอ็นจอย หรืออารมณ์บ่จอย ถ้าเริ่มต้นด้วยความเข้าใจ มีคนทำและการกระทำนั้นผิดก็ต้องเข้ากระบวนการ แน่นอนว่าคนที่ไม่เข้าใจก็จะเข้าใจว่ากระบวนการนั้นคือการไล่ล่า ทั้งที่เป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำ “บิ๊กตู่”สั่งจับตาอุปทูตสหรัฐพบเสื้อแดง วันเดียวกัน มีรายงานข่าวจากที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุมว่า นายกฯได้กำชับสั่งการให้ข้าราชการประสานระดับจังหวัด เพื่อให้จับตาเรื่องของการลงพื้นที่ของอุปทูตสหรัฐฯที่จะลงพบปะคนเสื้อแดง เพื่อรับทราบสถานการณ์ในพื้นที่ของไทย และผลที่เกิดขึ้นตามมา ชี้อำนาจเก่าหนุนมะกันเผาประเทศ มีความเห็นจาก นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงกรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯวิพากษณ์วิจารณ์การเมืองไทยว่า เป็นเรื่องคาบเกี่ยวระหว่างความพยายามรักษาจุดยืนความเป็นประเทศผู้นำประชาธิปไตย กับการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นและยากจะแยกออกจากกัน ที่ผ่านมาสหรัฐฯแสดงบทบาทดังกล่าวมานานเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศตัวเอง ผ่านกลไกหลายรูปแบบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะไทยใกล้ชิดกับจีนมากขึ้นหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นข้อสังเกตของนักวิชาการและประชาชน เนื่องจากทั้งสหรัฐฯและจีนแข่งขันกันแผ่อิทธิพล แต่การจะเลือกไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่งชัดเจนเป็นเรื่องยาก เพราะไทยเป็นคู่ค้า และเป็นมิตรประเทศกับทั้งจีนและสหรัฐ ถามต่อว่า กรณีนี้กลุ่มอำนาจเก่าทางการเมืองอาศัยสหรัฐเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า เป็นไปได้ในระดับหนึ่งที่มีกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มในประเทศอาจมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์ของบางกลุ่มในสหรัฐ พูดง่ายๆคือถ้าสานประโยชน์กันได้ก็อาจเป็นพันธมิตรกันไปโดยปริยาย http://www.naewna.com/politic/142097 ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 (มีการแก้ไข) == 15.30"29/1/58พล.อ.ประยุทธ์ระบุจากนี้ไปจะใช้กฎอัยการศึกเข้มข้นขึ้นถ้ายังไม่หยุดเคลื่อนไหวจะห้ามออกนอกประเทศ ตรวจสอบทางการเงิน และห้ามดำเนินการทางการเงินด้วย►http://goo.gl/72yqtP พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำ เชิญตัว “สุรพงษ์” มาปรับทัศนคติ เหตุแสดงความคิดไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เตรียมเชิญตัว “พิชัย นริพทะพันธ์” มาเป็นรายต่อไป ระบุ จากนี้ไปจะใช้กฎอัยการศึกให้เข้มข้นขึ้น ถ้ายังไม่หยุดเคลื่อนไหว จะห้ามออกนอกประเทศ ตรวจสอบ-ระงับการเงิน งจากนี้จะเชิญนายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มารายงานตัว เพื่อทำความเข้าใจ หลังจากที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายพลังงานของรัฐบาล ทั้งที่ขณะเป็นรัฐมนตรีไม่เคยทำอะไรเลย ถ้าคนที่เคลื่อนไหวยังไม่หยุด จะห้ามออกนอกประเทศ ตรวจสอบทางการเงิน และห้ามดำเนินการทางการเงินด้วย ที่ผ่านมา มีการผ่อนผันการใช้กฎอัยการศึกษามาตลอด แต่ต่อไปจะเข้มข้นขึ้นตามสถานการณ์ของบ้านเมือง” นายกรัฐมนตรี กล่าว \ ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 แฉ..ความลับ added 8 new photos. Yesterday at 11:36am · Edited · วันที่ 28 ม.ค.58 เผย..อิทธิพลอิหร่านต่อตะวันออกกลาง ทิศทางค่าของเงินตรา และทองคำ วันนี้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง จากความผิดหวังในผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ไม่ดี ราคาน้ำมันดิบโลก อยู่ที่ 45.78 US บาร์เรล , ส่วนคณะรัฐมนตรีอิรัก แก้ไขร่างงบประมาณปี 2558 และปรับลดประมาณการณ์ราคาน้ำมันลงจาก 60 ดอลลาร์ เหลือ 55 US ต่อบาร์เรล โดยตั้งงบประมาณเหลือราว 3.44 ล้านล้านบาท สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะอิหร่าน ส่งนายพล กอซิม ที่มีกองกำลัง IRGC สายชีอะห์ (อัฟกัน และ เลบานอน) ที่มีศักยภาพถึงขนาดหยุดนักรบ IS ได้ ในขณะที่การทิ้งระเบิดของชาติตะวันตก แทบไม่ระคายผิวกลุ่ม IS เลย ทำให้อิหร่าน เคิร์ด กับ อิรัก ตอนนี้มีความแนบแน่นกันมาก เพราะกลุ่ม IS เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา นายพลกอซิม จาก IRGC ของอิหร่าน นี่แหละคือผู้มีอิทธิพลตัวจริงในการตั้งรัฐบาลอิรักในปัจจุบัน ทุกพรรคต้องฟังเขาทุบโต๊ะ เคิร์ดก็อาศัยอิหร่าน ในการขนส่งน้ำมันของตนไปขายต่างแดนโดยอาศัยเมืองท่าของอิหร่าน โดยอเมริกา และอิสราเอล ทำตาปริบๆ เพราะทำแบบนี้ไม่ได้ อิหร่าน ยังสามารถควบคุมการเมืองเหนือเยเมนได้เรียบร้อยแล้ว และอิหร่าน ยังหนุนรัฐบาลอัสซาด ของเซียเรีย โดยไล่ต้อนกลุ่ม IS จนตอนนี้ขยับตัวแทบไม่ได้ นายพลกอซิม จาก IRGC คนนี้ เขาอาจก้าวหน้าเป็นผู้แข่งขันประธานาธิบดีอิหร่านได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า และอิหร่าน ยังมีสายสัมพันธ์อันดี กับรัสเซีย และจีน ประเทศนี้จึงยกเลิกการค้าขายด้วย US อเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว อิทธิพลของอิหร่านยามนี้ ผ่องเรืองรองแซงเบียดซาอุฯ คู่แข่งขึ้นมาแบบสูสี ส่วนซาอุฯ เองตอนนี้มีแนวโน้มจะหนีจากอเมริกา เพราะได้มีการส่ง รมต.พลังงานไปเจรจาหารืออร่วม กับรัสเซีย จีน และนอร์เวย เกี่ยวกับเสถียรภาพของตลาดน้ำมันทั่วโลก เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน เนื่องจากซาอุฯ ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม BRICS เหมือนอิหร่าน สร้างความมึนงง ให้กับอเมริกาอย่างมาก เพราะซาอุฯ เป็นเด็กดีเรื่องพลังงานมาตลอด และถือครองพันธบัตรอเมริกาเยอะมากๆ ที่ผ่านมา อิสราเอล ได้สั่งกองทัพเข้าโจมตีไปตามแนวชายแดน เลบานอน-ซีเรีย อยู่หลายครั้ง เพื่อทำลายการคุ้มกันในการลำเลียงยุทโธปกรณ์ทั้งขาไปและกลับของฝ่ายเฮซบอลลาห์ ชีอะห์ ที่อิหร่านหนุนหลัง เมื่อ 10 วันก่อน อิสราเอลได้ใช้เครื่องบิน โจมตีทหารอิหร่านระดับสูง และ กลุ่มเฮซบอลลาห์ ส่งผลให้ทหารอิหร่าน และกลุ่มนักรบนี้เสียชีวิต 6 คน สร้างความโกรธแค้นให้กับอิหร่านอย่างมาก จนเห็นภาพอิสราเอล ขนรถถังออกมาเตรียมรับการโจมตีเพียบ พร้อมกับระดมยิงปืนใหญ่ใส่ซีเรีย และเลบานอน เมื่อวานนี้กลุ่มเฮซบอลลาห์ ได้ถล่มจรวดใส่ขบวนทหารอิสราเอล ในบริเวณทุ่งนาเชบาอะ ใกล้หมู่บ้านกาฮ์จาร์ แนวชายแดนอิสราเอล-ตอนใต้ของเลบานอน ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 2 นาย สเปน 1 นาย บาดเจ็บอีก 7 คน ปฏิบัติการเปิดแนวรบ 2 จุด คือ ล้อมตีอิสราเอล และ ปะทะเจาะทะลุยูเครน เป็นไปตามแผน ค่อยๆ ขยายสงครามออกไปเรื่อยๆ ให้สุกงอม จึงค่อยๆ งัดอาวุธที่หนักขึ้นมาประเคนใส่กัน อิหร่านเริ่มส่งกองกำลังของตนเอง เข้าปิดล้อมอิสราเอล ในด้านพื้นที่ๆ ตนเองมีเปรียบ ส่งผลให้อิสราเอล ต้องเปิดศึกกับอีก 2 ประเทศ คือ ซีเรีย และเลบานอน สงครามศาสนารอบใหม่ ใครจะอยู่ใครจะไป ในปี 2558 นี้จะได้เห็นบทบาทของอิหร่าน ที่จะเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อชะตาของคนอะวันออกกลางโดดเด่นขึ้น สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในระบบอัตราแลกเปลี่ยน US ยูโร ฟรังสวิส ที่ผันผวนมาก จากนโยบายธนาคารกลางประเทศต่างๆ จึงหันมาลงทุนใน "ทองคำ" แทน ทำให้ตอนนี้ทองคำได้รับสถานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven ) ที่สุด ในอนาคตจะทำให้ราคาทองคำเข้าสู่ช่วง "ขาขึ้น" เร็วกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ ใครจะซื้อคำต้องรีบตัดสินใจ เพราะ US ดอลลาร์ และ ยูโร เป็นสกุลเงินที่สิ้นอนาคตแล้ว @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai "กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามข่าวสั้นคลิ๊กที่ http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 อาจารย์ ทวี รัชนีกร Hard To Fly อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 โคเลสเตอรอล ในปัจจุบันโรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุของการตายอันดับต้นๆ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันเลือดสูง และการสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ โคเลสเตอรอล เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายใช้สร้างเป็นเยื่อบุเซลล์ สร้างเป็นฉนวนหุ้มเส้นประสาท สร้างฮอร์โมนต่างๆ ที่สำคัญคือฮอร์โมนเพศ นอกจากนี้ยังใช้สร้างเกลือน้ำดี รายละเอียด :>> http://bit.ly/1ihCGdG อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 welcome k.ginger ภาพไม่ขึ้นเลยครับ มุขเหรอ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 (มีการแก้ไข) Wednesday, 28 January, 2015 ทำไมสหรัฐฯ บีบ 'เลิกกฎอัยการศึก' "นายกฯ ประยุทธ์" ของเรา ไม่ใช่นักการทูต และท่านก็บอก ตัวท่านไม่ใช่นักการเมือง แต่ลีลา-ชั้นเชิงผู้ดีในฐานะ "เจ้าบ้าน" พูดจาให้เกียรติ "ตอบสนอง" ท่าทีการวางก้ามเป็นผู้ตรวจการโลกของแขกผู้มาเยือน "นายแดเนียล รัสเซล" ระดับผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่าง ๒๕-๒๖ ม.ค.๕๘ นั้น พูดได้คำเดียวว่า..........."เหนือชั้น"! ยิ่งคนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งมา หยาบกร้าน-ไร้มรรยาทขนาดไหน นายกฯ ประยุทธ์กลับละเอียดอ่อน ให้เกียรติมากขนาดนั้น นายรัสเซล ไปปาฐกถาที่จุฬาฯ วานซืน ออกตัวว่า "ไม่เข้าข้างฝ่ายใด"!? แต่เหมือนเป็นเอเยนต์รับจ้างระบอบทักษิณมาทำงาน มากกว่าเป็นตัวแทนสหรัฐฯ มาทำงานสมานประเทศต่อประเทศ ก็ฟังที่เขาพูดซี...... "ผมขอกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งถูกปลดออกจากตำแหน่ง ถูกถอดถอนโดยผู้มีอำนาจที่ก่อรัฐประหาร และตกเป็นเป้าด้วยข้อหาอาญาในขณะที่กระบวนการและสถาบันพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักลง ประชาคมโลกจึงเกิดความรู้สึกว่า ขั้นตอนเหล่านี้อาจเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง" อย่างนี้ "ไม่เข้าข้างฝ่ายใด" งั้นหรือ? ก็ทำให้ต้องร้อง...อ๋อ! ไอ้ลีลาวาทะ "คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะถอดถอนคนที่มาจากการเลือกตั้งได้อย่างไร" ที่โพสต์ตามโซเชียลมีเดีย และที่พวกยิ่งลักษณ์ใช้เป็นวาทะเก๋นั้น... ถ้านายรัสเซลไม่รับมาจากพวกยิ่งลักษณ์ตอนพูดคุย ก่อนไปปาฐกถา ก็แสดงว่านายรัสเซล "ประดิษฐ์คำ" ให้แก๊งยิ่งลักษณ์ใช้ ตั้งแต่แรกแล้ว? ยิ่งไปดูหัวข้อสนทนาระหว่างแก๊งยิ่งลักษณ์กับนายรัสเซลที่สถานทูตสหรัฐฯ ไม่มีคำไหนพ้นคำว่า "แทรกแซงกิจการภายใน" ของไทย ชนิดไร้มรรยาท น่าละอาย น่ารังเกียจไปได้เลย! ผมไม่ได้อยู่ในวงสนทนา แต่นาย "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" ร่วมสนทนา เขาเล่าให้นักข่าวฟังด้วยความภูมิใจ ดังนี้ ".............สหรัฐฯ ได้พูดคุยสอบถามถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่ สนช.ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งความจริงสหรัฐฯ ติดตามข่าวคราวตลอด ทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เพียงแต่อยากฟังจากปาก จึงเล่าให้ฟังว่ามันมีที่มา-ที่ไป และมีขบวนการอย่างไร ยังหาตัวคนผิดไม่ได้ แต่ลงโทษคนกำกับนโยบายไปแล้ว และคาดหมายว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คงมีชะตากรรมไม่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซ้ำเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเหมือนลอกแบบกันมา ต่อไปก็จะมีเหตุการณ์ทำนองว่า...น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบ ชดใช้อันนั้นอันนี้ตามมา" ".............สหรัฐฯ ได้แสดงความเป็นห่วงสิ่งที่เกิดขึ้น อดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งต้องโดนถอดถอนจากคนที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย เรื่องนี้จะส่งผลกระทบแน่นอน......" ".............นายแดเนียลยังสอบถามว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงบอกไปว่าคงต้องรอให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ ถึงมีการเลือกตั้ง............" ครับ...ฟังแล้วเกิดความรู้สึก เป็นการมาสอบถามเรื่องราวแบบ "ไม่เข้าข้างฝ่ายใด" หรือมาร่วมวางแผนสู้กับรัฐบาล คสช.กันแน่? ก็ทำให้นึกย้อนตั้งแต่ตอน "นางคริสตี เคนนีย์" ยังอยู่เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทย คณะสถานทูตสหรัฐฯ ยกไปเยี่ยมสำนักงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" ถึงที่อีสาน และนึกย้อน วันชาติสหรัฐฯ ปีที่แล้ว...........! นางคริสตี เคนนีย์ เชิญอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เชิญพรรคเพื่อไทย เชิญคนขบวนการ นปช.และเชิญใครต่อใครไปร่วมงานมากมาย ยกเว้นนายกฯ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา"!? ขณะนี้ สหรัฐฯ คบหาไทยแค่ระดับอุปทูต ร่วม ๘ เดือน ที่ทหารเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ สหรัฐฯ โกรธ งดการไปมา-หาสู่ ก็เพิ่งครั้งนี้ครั้งแรกที่ นายโอบามาส่งนายแดเนียล รัสเซล ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นตัวแทนมาเป็น "ผู้ตรวจการโลก" เรียกเพื่อไทยพบ ไปพบประชาธิปัตย์ ไปพบ รมว.การต่างประเทศของไทย "พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร" "นายเสข วรรณเมธี" อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังจากนายรัสเซลพบกับพลเอกธนะศักดิ์ ว่า "สหรัฐฯ ได้ย้ำท่าทีเดิม คือการขอให้ไทย 'ยกเลิกกฎอัยการศึก' และไม่ได้พูดคุยถึงตัวบุคคลนักการเมืองใดๆ รวมทั้งไม่ได้พูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" "นางเจน ซากี" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ แหวมาทันทีว่า..... "ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะไม่อาจกลับเป็นปกติได้ จนกว่าจะมีการฟื้นฟูประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่" พูดยังกะว่า ไทยตายแน่...ไทยกลัว ถ้าสหรัฐฯ ตัดสัมพันธ์ หัดตักน้ำใส่กะโหลกก่อนพูดบ้าง จะเป็นกุศลแก่ชาติตัวเอง นี่น่ะเรอะทัศนคติ "มหามิตร" ยาวนานร่วม ๒๐๐ ปี? ยุคสฤษดิ์ปฏิวัติ ถนอมปฏิวัติ ยุค ๑๔ ตุลา ๖ ตุลา จอว์ปฏิวัติ สุจินดาปฏิวัติ สหรัฐฯ ก็ใช้กฎหมายฉบับเดียวกับที่ใช้อยู่วันนี้ กฎหมายสหรัฐฯ ห้ามคบประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย........ แต่ไทยปฏิวัติทีไร สหรัฐฯ หลิ่วตาบ้าง เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่บ้าง ขยิบตาให้ปฏิวัติเองบ้าง สหรัฐฯ ไม่เสียประโยชน์ มีแต่สมประโยชน์และประโยชน์เพิ่ม จึงไม่เคยเล่นบทปิศาจคาบคัมภีร์ประชาธิปไตย ถึงขนาดพูดจาหยาบหยาม-หมิ่นศักดิ์ศรีกันเหมือนครั้งนี้ เพราะอะไร? เพราะตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์เรื่อยมาถึงยุคทักษิณ ไทยไม่ใช่เมืองขึ้นสหรัฐฯ ตามกฎหมาย แต่พฤตินัยไทยเป็นประเทศ "ตามใบสั่ง" สหรัฐฯ มาตลอด จักรวรรดิอำนาจทุนตะวันตก ภายใต้แผน "รัฐบาลโลก" เข้าแทรกและปรุงเสร็จผ่านแผน "พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชาติ" ของไทย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ เรื่อยมา ไทยเมืองคุณธรรมสังคมเกษตร ถูกระบบทุนสหรัฐฯ ครอบและเปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ตัวเองไม่เป็นและเป็นไม่ได้ สหรัฐฯ คล้องคอไว้ โดยหลอกให้เป็นหนี้ ให้กู้เงินเปลี่ยนเมืองไทยคุณธรรมสังคมเกษตร ......... ไปเป็นเมืองอุตสาหกรรมเครื่องจักร สังคมทาสทุน! ไทยตกเป็นประเทศ "ทาสทุนวัตถุ" ติดหล่มลึก และยิ่งลึกถึงสังคมรากหญ้า เมื่อตอกย้ำด้วย "ประชานิยม" ตั้งแต่สมัยทักษิณเรื่อยมา "อำนาจโลก" คืออำนาจสหรัฐฯ และด้วยสหรัฐฯ หลอกให้ไทยกลัวคอมมิวนิสต์ถึงขั้น "เกลียดจีน" ตั้งองค์กรปลุกปั่น โหมประชาสัมพันธ์ จนไทยกับจีน "ปิดโลก-ปิดประเทศ" กันไปเลย ไทยจึงเป็นเบี้ยในกระดานการเมืองโลก เดินตามนิ้วสหรัฐฯ ชี้มากว่าค่อนศตวรรษ! ถ้าระบอบทักษิณใต้อาณัติสหรัฐฯ ยังครองไทย อำนาจชี้นิ้ว-ชักใย ก็จะยังเป็นของสหรัฐฯ เหมือนเดิม กับสถาบันชาติ...ตอนนี้ชัดแล้ว ต่อหน้า สหรัฐฯ พูดอย่าง แต่ลับหลัง ทำกับสถาบันชาติไปอีกอย่าง! เมื่อมวลมหาประชาชน กปปส.ซึ่งชัดเจน พิทักษ์ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ออกต้านแดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งมีเป้าหมายล้มสถาบัน เปลี่ยนระบอบ นั่นแหละ...สหรัฐฯ ที่ "กระดิกตีน" มาตลอด เพราะไต๋ คือระบอบทักษิณอยู่ในมือ ผนึกแผน-ผนึกประโยชน์ ไม่มีพลิก กลับพลิกขึ้นมาทันที! ยึดอำนาจไม่ทำให้พลิก แต่ถ้ายึดโดยพลเอกประยุทธ์ ผู้ไม่ยอมเป็นแตงโมให้ระบอบทักษิณ ...พลิกแน่ สหรัฐฯ จึงส่งนายแดเนียล รัสเซล มาไทยครั้งหนึ่ง ตอนก่อนพลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ มาส่งสัญญาณเป็นความปรารถนาดีต่อประชาธิปไตยไทย ทำในลักษณะห้ามมวยแบบ ปล่อยรัฐบาลระบอบทักษิณ แต่ล็อกคอฝ่ายที่จะมากำจัดรัฐบาลโกงบ้าน-กินเมือง ลงท้าย...ทหารที่ไม่สนับสนุนการโกงชาติและล้มชาติ ก็นำคณะทหารเข้ายึดอำนาจปกครองประเทศ เป็นไปตามที่สหรัฐฯ หวั่นจนได้ นั่นคือ เหตุผลแรก โกรธ....หมูเขากำลังจะหาม กองทัพดันเอาคานเข้ามาสอด เพราะถ้า "แดงทั้งแผ่นดิน" สำเร็จ สหรัฐฯ ก็สำเร็จ! และเหตุผลที่สอง สหรัฐฯ วิเคราะห์ขาดอยู่แล้ว ถ้ากองทัพปฏิวัติ โดยพลเอกประยุทธ์นำ "ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์" คือเป้าหมายต้องพิทักษ์ ไม่ใช่ "ระบอบทักษิณ"! ถ้าระบอบทักษิณตาย อำนาจสหรัฐฯ ชี้นิ้วประเทศไทย ก็ตายด้วย! ก็ดูซี...แค่ ๗ เดือน ในหัวใจคนไทย มีแต่จีน ไม่มีสหรัฐฯ ถึงยังเหลือก็เจือจาง เพราะจีนจริงใจกับสถาบันกษัตริย์ไทย! รัฐบาลจีน-รัฐบาลไทย จึงสัมพันธ์ด้วยน้ำใสใจจริง การที่มหาอำนาจลดสัมพันธ์ จึงไม่มีผลกระทบกระเทือนไทยมากนัก สภาพนี้ การกลับเข้ามาครองอำนาจในเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ตีบตัน และยากมากขึ้น! นี่กระมัง โอบามาจึงส่งนายแดเนียล รัสเซล เข้ามาเล่นบท "กุ๊ยตะวันตก" ทุบโต๊ะสั่ง...........รัฐบาล คสช. "ต้องยกเลิกกฎอัยการศึก"! สหรัฐฯ เดือดร้อนอะไรกับการที่ไทยยังใช้กฎอัยการศึก? เดือดร้อนซี...เดือดร้อนมากด้วย! จำเป็นต้อง "สร้างเงื่อนไข" เป็นการกรุยทางให้ขบวนการระบอบทักษิณออกมาเคลื่อนไหว "บีบ-กดดัน" ให้มีเลือกตั้งหลังตุลา ๕๘ ให้ได้ หรือไม่ก็ ให้พลเอกประยุทธ์ "ถอดใจ" ออกไป! เพราะขืนให้พลเอกประยุทธ์อยู่ ระบอบทักษิณติดคุก-ตาย และการกลับเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานของสหรัฐฯ.....ยากแล้ว. ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 30, 2015 (มีการแก้ไข) welcome k.ginger มุขเหรอ ขอบคุณฮัป milo ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น