ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ชื่นจายยยยย 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ฉ่ำจิงๆๆๆๆ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 (มีการแก้ไข) มะกันอันตรายสมคบระบอบทักษิณ เมื่อเลวกับชั่วสุมหัวกัน อย่างที่รู้กันอยู่ว่ามหาอำนาจสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้ท้ายหนุนหลังระบอบทักษิณซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เผด็จการทรราชย์ในคราบประชาธิปไตยที่ยอมทำตัวเป็นทาสรับใช้ที่ว่านอนสอนง่ายของมะกันอันตราย เพื่อแลกกับการหนุนหลังทางการเมืองหวังกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศก่อกรรมทำชั่วกับชาติบ้านเมืองต่อไปภายใต้ข้ออ้างประชิปไตยจอมปลอม การเดินทางมาเยือนไทยตามคำสั่ง ประธานาธิบดีโอบามา ของ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ทันทีหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ถอดถอนด้วยมติท่วมท้นทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี พร้อมกับการถูกสั่งฟ้องดำเนินคดีอาญาฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ส่อรู้เห็นเป็นใจให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าไม่ปกติและมีเป้าหมายซ่อนเร้น แม้มะกันอันตรายจะพยายามสร้างภาพว่าไม่ได้เข้าข้างระบอบทักษิณในการเยือนไทยอย่างมีเป้าหมายแอบแฝงของผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯครั้งนี้ ด้วยการจัดฉากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าพบ ขณะเดียวกัน นายแดเนียล ก็เดินทางไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างภาพให้ดูเป็นกลาง อีกด้านหนึ่งก็เข้าพบกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ข้อน่าสังเกตุคือ การเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ครั้งนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯส่งสัญญาณให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ยกเลิกกฏอัยการศึกและเร่งให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งเข้าทางแผนการของระบอบทักษิณ เพราะการยกเลิกกฏอัยการศึกจะทำให้เครือข่ายขบวนการระบอบทักษิณออกมาเคลื่อนไหวกดดันบ่อนทำลายคสช.และการปฏิรูปประเทศได้สะดวกมากขึ้น ขณะเดียวกันการเลือกตั้งทั่วไปดูเหมือนจะเป็นโอกาสเดียวที่ระบอบทักษิณจะกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะที่ นางเจน ซากี โฆษกกระทราวงการต่างประเทศสหรัฐ แสดงความเหิมเกริมและไร้มารยาททางการทูตด้วยการข่มขู่แทรกแซงกิจการภายในของไทยด้วยการพูดต่อหน้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯจะไม่กลับเป็นปกติจนกว่าไทยจะฟื้นฟูประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ซึ่งหมายถึงเร่งให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วรวมทั้งต้องไม่มีการเล่นงานคนของระบอบทักษิณ หากระบอบทักษิณคืนชีพกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศนั่นย่อมหมายถึงผลประโยชน์ของทางการมะกันอันตรายเพราะจะได้บริวารทาสรับใช้ที่พร้อมจะยอมขายชาติฟังคำสั่งจากทางการมะกันอันตรายในทุกเรื่องเพื่อแลกกับการหนุนหลังทางการเมืองอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะโดยเปิดเผยหรือโดยทางลับจากทางการมะกันอันตราย จึงไม่น่าแปลกใจในช่วงที่ผ่านมาทางการมะกันอันตรายรวมทั้งบรรดาสื่อค่ายตะวันตกทั้งหลาย หรือแม้แต่สื่อโสเภณีรวมทั้งนักวิชาการขายตัวกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ที่เป็นมาเฟียโลกจะตะแบงสนับสนุนปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งขบวนการระบอบทักษิณอย่างบิดเบือนจากความถูกต้องชอบธรรม โดยไม่สนใจว่าระบอบทักษิณจะชั่วร้ายเลวทรามทำลายชาติบ้านเมืองขนาดไหนทั้ง ทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโครงการรับจำนำข้าว การแทรกแซงหรือมุ่งบ่อนทำลายองค์กรอิสระซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล การสร้างความแตกแยกในชาติลึกซึ้งรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน และที่เลวร้ายที่สุดคือบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูง ขณะเดียวกันเครือข่ายภายใต้อิทธิพลมะกันอันตรายยังบิดเบือนโจมตีทำลายความชอบธรรมของมวลมหาประชาชนหรือฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ความชั่วร้ายของระบอบทักษิณยังรวมถึงการเป็นตัวแทนของระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์และเผด็จการทรราชย์ในคราบประชาธิปไตยที่ก่อกรรมชั่วร้ายมามากมาย อาทิ การก่ออาชญากรรมระดับโลกด้วยการฆาตกรรมหมู่ประชาชน 2,800 ศพในนโยบายทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดแบบเหวี่ยงแหหวังสร้างผลงานโดยไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อ หรือการอยู่เบื้องหลังการสร้างสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจนนำไปสู่การก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 การเข่นฆ่าชาวไทยมุสลิมกว่า 100 ศพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือมัสยืดกรือเซะ จ.ปัตตานี อย่างขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการอุ้มฆ่า นายสมชาย นิละไพจิตร ทนายนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวไทยมุสลิม จนเป็นชนวนนำไปสู่เหตุการณ์ก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาจนทุกวันนี้ หรือการปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมแสดงพลังต่อต้านระบอบทักษิณอย่างสงบสันติจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ทางการมะกันอันตรายก็ยังตะแบงสนับสนุนระบอบทักษิณซึ่งเป็นทรราชย์ในคราบประชาธิปไตย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามะกันอันตรายชั่วร้ายไม่ต่างกันจึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ซึ่งประวัติศาสตร์จากอดีตจนปัจจุบันพิสูจน์ให้เป็นชัดแจ้งว่า มะกันอันตรายพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเผด็จการทรราชย์ไม่ว่าจะชั่วช้าสามานย์แค่ไหนก็ตามเพื่อแลกกับการที่ผู้นำทรราชย์ประเทศที่ตัวเองสนับสนุนยอมขายชาติเป็นทาสรับใช้มหาอำนาจมาเฟียโลก ดังนั้นการที่มะกันอันตรายมักอ้างการรักษาประชาธิปไตยเพื่อเข้าไปแทรกแซงประเทศต่างๆจึงเป็นเพียงการโกหกโฆษณาชวนเชื่อปาหี่สร้างภาพ โดยแฝงไว้ด้วยเล่ห์ซ่อนเร้นนั่นคือสถาปนาผู้นำหุ่นเชิดที่ยอมเป็นทาสรับใช้ตัวเองขึ้นคุมอำนาจในประเทศเหล่านั้น สำหรับผลประโยชน์ที่มะกันอันตรายต้องการจากการสนับสนุนระบอบทักษิณอันชั่วร้ายก็คือการใช้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงเพื่อขยายอิทธิพลของมะกันอันตรายในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเพื่อคานดุลอำนาจของจีนที่นับวันจะแข็งแกร่งกลายเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งที่แซงหน้ามะกันอันตรายทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง โดยสิ่งที่ระบอบทักษิณได้รับจากทางการมะกันอันตรายก็คือการสนับสนุนทางการเมืองอย่างเต็มที่ ตัวอย่างความเป็นซาตานในคราบประชาธิปไตยของมะกันอันตรายพร้อมทำสิ่งชั่วร้ายได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลประโยชน์ของตัวเองโดยใช้ข้ออ้างสร้างภาพประชาธิปไตยบังหน้า อาทิ การสนับสนุนการก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในประเทศอียิปต์ โดย นายจอห์น แครี่ รมต.ต่างปรเทศสหรัฐฯ อ้างหน้าตาเฉยว่าเป็นการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย แต่ขณะเดียวกันการรัฐประหารโดยคสช.เพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณกลับถูกโจมตีว่าเป็นการทำลายประชาธิปไตย หรือกรณีมะกันอันตรายสนับสนุนกดดันให้มีการเลือกตั้งในยูเครน แล้วสนับสนุนกลุ่มการเมืองและกองกำลังติดอาวุธที่ตัวเองหนุนหลังปล้นอำนาจจาก ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างหน้าตาเฉย ในอดีตมะกันอันตรายโดยซีไอเอแอบหนุนหลังการรัฐประหาร หรือปลุกม็อบก่อจลาจลในหลายประเทศเพื่อสถาปนารัฐบาลทรราชย์หุ่นเชิดที่ตัวเองสนับสนุน หรือกรณีอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส จอมเผด็จการทรราชย์ของฟิลิปปินส์ ก็ได้รับการสนับสนุนจากมะกันอันตรายเพื่อแลกกับการตั้งฐานทัพคล๊ากและซูบิคในฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ถูกชาวฟิลิปปินส์ทั้งประเทศลุกฮือขับไล่จากการทุจริตมโหฬารในหมู่เครือญาติและใช้อำนาจเผด็จการในที่สุดอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสก็หอบทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสุขสบายในสหรัฐฯ ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ยากจนข้นแค้น แม้แต่รัฐบาลเผด็จการทหารของไทยที่มาจากการรัฐประหารหลายรัฐบาลในอดีตก็ได้รับการหนุนหลังจากทางการมะกันอันตรายอย่างเต็มที่เพื่อแลกกับการใช้ไทยเป็นฐานทัพรุกรานประเทศอื่นๆและขยายแสนยานุภาพทางทหารของมะกันอันตรายในภูมิภาคนี้ การเดินทางมาเยือนไทยของ นายแดเนียล รัสเซล ครั้งนี้จึงไม่ธรรมดาซึ่งความเคลื่อนไหวที่เปิดโปงธาตุแท้ของมะกันอันตรายก็คือ หลังจากที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายอภิสิทธิ์ และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ในช่วงเช้าแล้ว นายแดเนียล ไปปาฐกถา ที่จุฬาฯด้วยการแสดงจุดยืนแฝงเร้นที่เหมือนตั้งธงมาล่วงหน้าว่า “ ความยุติธรรมมีความสำคัญในการสร้างความปรองดอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไม่นานมีผู้นำของไทย(น.ส.ยิ่งลักษณ์)ที่มาจากการเลือกตั้งถูกถอดถอนและตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากกลุ่มผู้ทำรัฐประหาร และยังถูกฟ้องในคดีอาญาด้วยทำให้เชื่อว่าเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งประชาคมโลกย่อมมีความรู้สึกว่า การปรองดองย่อมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ สหรัฐจึงต้องการหลักประกันว่า การสร้างความปรองดองจะยังเดินหน้าไปได้และระบบตุลาการของไทยจะมีความยุติธรรมอย่างแท้จริง“ จากพูดของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเป็นการตอกย้ำสะท้อนธาตุแท้ความเป็นซาตานในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมของมะกันตรายเพราะไม่เคยพูดถึงความชั่วร้ายของระบอบทักษิณแม้แต่นิดเดียวโดยเฉพาะการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงหรือการเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยส่อเจตนาชัดเจนว่าต้องการปกป้องน.ส.ยิ่งลักษณ์และระบอบทักษิณ ขณะเดียวกันก็เหิมเกริมแสดงความเป็นมาเฟียซาตานในคราบประชาธิปไตยด้วยการส่อเจตนาข่มขู่แทรกแซงกิจการภายในของไทยถึงขั้นดูหมิ่นความน่าเชื่อถือของระบบตุลาการไทย http://www.naewna.co...umnonline/16695 ขอบคุณ ภาพfb & ข่าวแนวหน้า ขิง ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 2, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
meng166 131 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ฟ้อง'วัดธรรมกาย-พระธัมมชโย' เรียกเงินบริจาคคืนเกือบ 900 ล้าน 6 ก.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวปไซด์ http://thaipublica.org/ เผยแพร่ข้อมูลกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ฝากเงินที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกว่า 200 ล้านบาท ใช้สิทธิเรียกร้องแทนสหกรณ์ฯ คลองจั่น ฟ้องวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) จำเลยที่ 1 และ 2 กรณีปรากฏหลักฐานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและเผยแพร่ทางสื่อมวลชนต่างๆ ว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นบริจาคเงินผ่านเช็คของสหกรณ์ฯ คลองจั่น หลายครั้ง ให้แก่วัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนีโดยตรงกว่า 900 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อปี 2552 ซึ่งขณะนั้นนายศุภชัยดำรงตำแหน่งประธานฯ ของสหกรณ์ฯ คลองจั่น โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีนัดไต่สวนคดี จำเลยที่ 1 และ 2 ให้การว่า จำเลยรับเงินบริจาคจากนายศุภชัยโดยสุจริต จำเลยไม่รู้จักกับนายศุภชัยเป็นการส่วนตัว อีกทั้งไม่ทราบที่มาของเงินว่า เป็นของสหกรณ์ฯ คลองจั่นที่นายศุภชัยบริหาร คิดว่า เป็นเงินส่วนตัว รู้เพียงนายศุภชัยเป็นผู้มีศรัทธา บริจาคทรัพย์สินเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป โดยวัดนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์สาธารณะ เช่น สร้างศาสนสถาน หรือจัดโครงการเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาโดยวัดพระธรรมกาย นอกจากนี้ยอมรับว่ารับเช็คจริงแต่มีเพียงแค่ 15 ใบจากที่โจทก์กล่าวหาว่ามี 16 ใบ รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของสหกรณ์ฯ คลองจั่นขอให้ศาลวินิจฉัยอนุญาตเป็นโจทก์ร่วม แต่ผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า หากสหกรณ์ฯ คลองจั่นต้องการเรียกเงินคืน สมควรฟ้องวัดพระธรรมกายเอง และศาลจึงเพิ่มให้สหกรณ์ฯคลองจั่นเป็นจำเลยร่วมกับวัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนีแทน(ทั้งนี้เพราะเงินที่บริจาคจ่ายโดยเช็คสหกรณ์ฯคลองจั่น) โดยศาลมีคำวินิจฉัยให้คู่กรณีเจรจาไกล่เกลี่ยก่อน นัดไกล่เกลี่ยครั้งแรกวันที่ 15 กรกฏาคม 2557 สำหรับนายศุภชัยนั้น เคยเป็นประธานกฐินวัดพระธรรมกายปี 2552 และร่วมเป็นไวยาวัจกร (ผู้ดูแลเงินของวัด) ต่อเนื่องหลายปี อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี มีทรัพย์สินมากกว่า 4,000 ล้านบาท นับเป็นสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนียนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น สำนักข่าวแนวหน้า THURSDAY, FEBRUARY 08, 2007 ยักยอกเงินบริจาควัด ปาราชิก แต่ ไม่ยอมสึก??? ศาลสั่งจำหน่ายคดีวัดพระธรรมกาย หลัง อสส.ยื่นคำร้อง ขอถอนฟ้อง“พระธัมมชโย” กับศิษย์ ฐานยักยอกเงินบริจาควัดกว่า 35 ล้าน ยกเหตุจำเลยคืนเงินวัดกว่า 950 ล้าน ทั้งยังเผยแผ่ศาสนาตามพระไตรปิฎก ตามพระลิขิตพระสังฆราชแล้ว ขณะที่คดีธรรมกายอีก 3 สำนวน อัยการพร้อมยุติคดีสั่งไม่ฟ้อง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศาลโดยนายสุนพ กีรติยุติ ผู้พิพากษาอาวุโส และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีดำหมายเลขที่11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือนายไชยบูลย์ สิทธิพล อายุ 62 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร อายุ 57 ปี ลูกศิษย์คนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2 ทั้งนี้ เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยร่วมกันยักยอกทรัพย์ และเงินบริจาคของวัดพระธรรมกาย จำนวน 6.8 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา ต.หนองพระ อ.วังทรายมูล จ.พิจิตร โดยโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร จำเลยที่ 2 และเงินจำนวน 29,877,000 บาท ไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 902 ไร่เศษ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ. เพชรบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2 คดีนี้เรืออากาศโทวิญญู วิญญกุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาล เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 สรุปว่า ตามที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2542 และวันที่ 16 ธันวาคม 2542 ตามลำดับ โดยกล่าวหาว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันกระทำผิด โจทก์ขอเรียนว่า การดำเนินคดีนี้สืบเนื่องจากจำเลยที่ 1 กับพวก ไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่มีว่า ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสั่งสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือนแตกแยกออกไปกลายเป็นสองฝ่าย มีความเข้าใจความเชื่อถือ พระพุทธศาสนาตรงกันข้าม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำให้สงฆ์แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการทำที่ถูกต้องคือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที ไม่ได้คิดให้มีโทษเพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ให้ว่า ในชั้นต้นหากมิใช่มีเจตนาถือเอาสมบัติของวัดเป็นของตนจริงๆ แต่ เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะที่เป็นพระคืนให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอม เป็นพระด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครองทำความเศร้าหมองเสื่อมเสียให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา บัดนี้ข้อเท็จจริงในการเผยแผ่คำสอน ปรากฏจาก อธิบดีกรมการศาสนา ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถรสมาคม และ เจ้าคณะภาค 1 ว่า ในปัจจุบันจำเลยที่ 1 กับพวก ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ตรงตามพระไตรปิฎก และนโยบายของคณะสงฆ์??? ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกิจการของศาสนา ทั้งของคณะสงฆ์ ภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก สำหรับในด้านทรัพย์สินนั้น ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 กับพวก ได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินจำนวน 959,300,000 บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย การกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 1 กับพวก จึง เป็นการปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครบถ้วนทุกประการแล้ว??? ขณะเดียวกัน ขณะนี้บ้านเมืองต้องร่วมกันสร้างความสามัคคีของคนในชาติทุกหมู่เหล่า เห็นว่าหากดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไป อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักร โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั้งในและต่างประเทศ ที่นับถือศาสนาพุทธ และไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้องคดีนี้ ดังนั้น โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ทุกข้อกล่าวหา ขอศาลโปรดอนุญาต เมื่อศาลได้สอบถามว่าจำเลยทั้งสองจะคัดค้านหรือไม่ ซึ่งจำเลยทั้งสองแถลงว่า ไม่คัดค้าน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง ก่อนศาลมีคำพิพากษา โดยอ้างเหตุดังข้างต้น เมื่อจำเลยทั้งสองไม่คัดค้านที่โจทก์ถอนฟ้อง จึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ศาลจึงอนุญาตให้ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองและจำหน่ายคดีของโจทก์ออกจากสารบบความของศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ได้มีการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย ซึ่งที่ผ่านมามีการสืบพยานไปแล้วเกือบ 100 ครั้ง เหลือการสืบพยานอีกเพียง 2 ครั้ง ในวันที่ 23-24 สิงหาคม นี้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อธิบดีอัยการคณะกรรมการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า การถอนฟ้องคดีก่อนศาลจะมีคำพิพากษา สามารถทำได้ ซึ่งในอดีตอัยการสูงสุด เคยยื่นคำร้องขอถอนฟ้องแล้วเช่น ความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ คดีกบฏ ผู้ก่อการร้าย สำหรับคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย ที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญามีเพียง 2 คดีเท่านั้น คงเหลือสำนวนคดียักยอกทรัพย์ที่รอการสั่งคดีในชั้นอัยการอีก 3 สำนวนได้แก่ - 1.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ นางกมลศิริ คลี่สุวรรณ และนายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค ลูกศิษย์คนสนิท เป็นผู้ต้องหา ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันเบียดบังนำเงินวัดจำนวน 95 ล้านบาทเศษไปซื้อที่ดิน - 2.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ นางสงบ ปัญญาตรง นายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค และนายชาญวิทย์ ชาวงษ์ ลูกศิษย์คนสนิท เป็นผู้ต้องหา เบียดบังเงินจำนวน 845 ล้านบาทเศษ และ -3.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ร่วมกับนายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ นายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค และนางอมรรัตน์ สุวิพัฒน์ หรือสีกาตุ้ย ลูกศิษย์คนสนิท ผู้ต้องหา ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเมื่ออัยการสูงสุดมีนโยบายให้ถอนฟ้อง การสั่งคดีของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ก็จะต้องมีความเห็นให้ยุติการสั่งคดีไว้ เนื่องจากการดำเนินคดีจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 78 และ 128 โดยเมื่อยุติการสั่งคดีก็ต้องถือว่าคดีนี้สิ้นสุดลงตามกระบวนการทางกฎหมายทันที ซึ่งจำเลยทั้งสองได้คืนที่ดินและเงินที่ก่อความเสียหายรวมมูลค่า 959,300,000 บาท ให้แก่วัดพระธรรมกายแล้ว http://dmc7.blogspot.com/2007/02/35-950.html posted by (=^.^=) | <a href="http://dmc7.blogspot.com/2007/02/35-950.html" style="color: rgb(113, 110, 108);" title="permanent link">1:22 AM 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ต้องดูนะ ฮามาก @@ น้องแมวกับตลาดหุ้นฉบับเพิ่มเติม @@ http://pantip.com/topic/33185831 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 สวัสดี milo Google meng อยากเล่นด้วยคน พี่ปุณณ์ เพื่อนๆ Gen. Prayuth Chan-ocha 16 hrs · "กองทัพจีน" จะร่วมฝึก "คอบร้าโกลด์"กับ"กองทัพไทย"เป็นปีแรก กองทัพจีนขอร่วมฝึกร่วม "คอบร้าโกลด์" กับกองทัพไทย โดยทหารไทยและจีนจะมีการฝึกร่วมกัน เช่น การฝึกระหว่างทหารรบพิเศษไทยและรบพิเศษจีน และการฝึกระหว่างทหารนาวิกโยธินไทยและนาวิกโยธินจีน และการฝึกของทหารของกองทัพอากาศไทยและทหารของกองทัพอากาศจีน โดยวันที่ 6 ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558 รมว.กลาโหมจีน จะมาเยือนไทย โดยพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมของไทย และจะหารือเรื่องความร่วมมือทางการทหารทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยกระทรวงกลาโหมได้การวิจัยพัฒนาจรวดหลายลำกล้องกับกองทัพจีนและการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพไทยในราคาถูกรวมทั้งการเพิ่มการฝึกร่วมทางทหาร อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 Gen. Prayuth Chan-ocha Yesterday at 11:43am · Edited · ขายไข่ปิ้ง ก็สุขได้ .. ถ้าจิตใจดี ตำแหน่ง ใหญ่เป็นถึงรัฐมนตรี จะสุขไหม ถ้าใจ "โกง" ............................................................. เพื่อนแย่ๆก็เปรียบเหมือนเงา เมื่อเรา อยู่ในที่มีแสงสว่าง…เค้าจะอยู่กับเรา แต่จะหายไป เมื่อความมืด…คืบคลานมา .................................................. ประสบการณ์ที่ผ่านมา จะเป็นครูที่ดี สอนให้เราได้รู้ว่า อะไรดี ไม่ดี แล้วเราจะไม่ทำมันอีก ................................................. โกรธเขา เราก็รู้ อยู่ว่าร้อน จะนั่งนอน ก็เป็นทุกข์ ไม่สุขใส แล้วยังดื้อ ด้านโกรธ จะโทษใคร ต้องหักใจ ไม่ให้โกรธ โปรดทำดู ................................................... คุณจะเดินไปสู่จุดหมายได้อย่างไร ถ้ามัวแต่ปาก้อนหินใส่หมาที่เห่าตลอดทาง .......................................................... ความจงรักภักดีหายไป พร้อมกับอำนาจวาสนา ความจริงใจไม่มี ในหมู่ข้าราชการคอรัปชั่น และบริษัทห้างร้านที่ติดสินบน ....................................................... การขอที่ไม่ต้องละอาย คือ ขอโทษ การให้ที่ไม่ต้องออกอะไรเลย คือ การให้อภัย .............................................................. ไม่มีอะไรน่าเสียใจ ถ้าเราต้องเริ่มต้นใหม่อยู่เสมอ เพราะถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกดิน เราก็จะไม่ได้เห็นรุ่งอรุณที่สวยงาม ........................................................ ค่าของคน อยู่ที่ผลของใจ ค่าของใคร อยู่ที่ใจของเขา ขายไข่ปิ้ง ก็สุขได้ถ้าจิตใจดี ตำแหน่งใหญ่เป็นรัฐมนตรี จะสุขไหมถ้าใจโกง ................................................ คนเรามีสองหู แต่มีปากเดียว เพื่อที่จะให้ฟังมากหน่อย และพูดให้น้อยหน่อย ............................................ อย่ากลัวการต่อต้าน จงจำไว้ว่า ว่าวจะลอยสูงได้ เมื่อทวนลม มิใช่ตามลม ........................................... แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝน ต่อให้ฝนกระหน่ำทั้งคืน ก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีกับนักปราชญ์ ทั้งวันทั้งคืน ก็ยังโง่เท่าเดิม ......................................... ว่าวจะลอยขึ้นสูงได้ เพราะเหตุที่ต้านลม ถ้าหมดลมว่าวก็ตก มนุษย์เราจะขึ้นสูงอยู่ได้ ก็เพราะต้องต่อสู้อุปสรรค ชีวิตที่ไม่เคยพบอุปสรรค จะหาทางก้าวหน้าไม่ได้เลย ......................................... มีเม็ดทรายนับไม่ถ้วนจำนวนทราย คนทั้งหลายนับไม่ถ้วนในคุณค่า ทรายจะแกร่งก็เพราะผ่านกาลเวลา คนจะกล้าก็เพราะผ่านความอดทน ........................................................ น้ำทีละหยดสะสมเป็นมหาสมุทรฉันใด ความสำเร็จทีละเล็กทีละน้อย ก็สะสม เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ฉันนั้น ..................................................... มีคนงาม งามจิตใจ ใช่รูปสวย คนรวย รวยน้ำใจ ใช่เงินหนา คนเก่ง เก่งมาได้ ด้วยวิชา คนดัง ดังไม่ว่า อย่าลืมตัว ............................................... อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้ จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ........................................... ถ้าเราได้ทุกอย่างดั่งที่คิด สิ้นชีวิตจะเอาของกองตรงไหน จะได้บ้างเสียบ้างช่างปะไร เราตั้งใจทำงานเท่านั้นพอ .......................................... เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา ......................................... ผู้ใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่เกิดก่อน ผู้ดีไม่ใช่ อยู่ที่เรียนสูง มารยาทจรรยาของการ เป็นผู้ใหญ่ ก็คือต้องสุขุมรอบคอบ และไม่ยึดติดเสียงเป็นหลัก คือ ต้อง ไม่หวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ .................................................. ไม่ได้รวยจนล้นฟ้า เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ก็หาความสุขได้ ความสุขไม่จําเป็นต้องมาจาก วัตถุหรือสังคมหรูหรา แต่มาจากคําว่า "พอ" ........................................................ เกิดในที่ ที่ดี นั้นดีแน่ เกิดในที่ ที่แย่ ก็ดีได้ เกิดที่ดี แล้วแย่ มีถมไป เกิดที่ไหน ก็ดีได้ ถ้าใฝ่ดี .......................................... อันสตรี ไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วย ไม่มีศีลก็สิ้นศรี เป็นสมณะ ไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการ ศีลไม่มีก็หยาบคาย อันสตรี ขาดธรรมก็ทรามชั่ว บุรุษ ทั่วขาดธรรมต่ำศักดิ์ศรี เป็นสมณะ ขาดธรรมะอลัชชี ข้าราชการ ธรรมะไม่มีก็เลวทราม ............................................... 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 สตีรอยด์... อันตรายจริงๆ ทางการแพทย์ใช้สตีรอยด์ในการเป็นยารักษาหรือบรรเทาอาการของหลายโรคหรืออาการผิดปกติ เช่น ทดแทนภาวะการขาดฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ใช้รักษาโรคบางโรคที่ใช้ยาตามมาตรฐานไม่ได้ผล หรือโรคนั้นไม่อาจควบคุมด้วยยาอื่น กดภูมิคุ้มกัน รวมทั้งใช้ในการต้านการอักเสบ รายละเอียด :>> http://bit.ly/1r4COeM อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 12 new photos. 12 mins · Edited · วันที่ 2 ก.พ.58 เมื่อประชาธิปไตย คุกคามประชาชน อนุรักษ์นิยมจึงต้องปกป้อง จากกรณีเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น 2 ครั้ง บริเวณใกล้ลานน้ำพุ สยามพารากอน EOD ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องจำนวน 2 ลูก วางไว้หลังหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นระเบิดแรงดันต่ำ ใส่ตะปูไม่งอลงไป เป็นการหวังผลแค่สร้างสถานการณ์ให้สังคมกังวลเท่านั้น ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล เป็นแค่การก่อกวน เนื่องจาก คสช.เร่งจัดระเบียบสังคม จึงมีผู้เสียประโยชน์ โดย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ผบ.ทบ. ทหาร ตำรวจ หน่วยข่าวกรอง สามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประมวลหลักฐาน และการข่าวมาขมวดปมรวมกัน ไม่เกินความสามารถของ คสช.ที่จะเอาตัวผู้กระทำ และผู้สั่งการ มาลงโทษอย่างเฉียบขาดรุนแรงที่สุด ภายใต้กฎอัยการศึก " กลุ่มใดทรยศต่อชาติ กลุ่มนั้นทรยศประชาชน" ข้าราชการของพ่อ จึงมีหน้าที่สำคัญปกป้องประชาชน และมีมวลหมู่ประชาชนเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก และให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และ คสช. นี่คือหลักฐานสำคัญอันตรายของระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้ระเบิดแสวงเครื่องเป็นเครื่องมือ ระบอบนี้มันแพ้ทางระบอบอนุรักษ์นิยม ที่มีประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน เพราะเบื่อ เอือมระอา เหลือเกิน กับ นักการเมืองเลือกตั้ง ที่เห็นแก่ตัว แต่ไม่เห็นแก่ประชาชน !! @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/thailandcoup "กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามบทความยาวคลิ๊กที่ http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 (มีการแก้ไข) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวถึงวัดพระธรรมกาย "..ทำไมถึงแบกกิเลส ต้องการลาภ ต้องการยศกัน.." หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวถึงวัดพระธรรมกาย เมื่อครั้งท่านได้รับนิมนต์ไปในฐานะวางศิลาฤกษ์ วัดพระธรรมกาย "....ท่านเจริญพระกรรมฐานกันยังไง ทำไมถึงแบกกิเลส ต้องการลาภ ต้องการยศกัน.." และยังกล่าวถึงคุณวรณี สุนทรเวช ผู้บริจาคที่ให้วัดพระธรรมกายว่า "...พระถมเถไป กรรมอะไรของท่านหนอ ที่ไปเจอะเอาพระจันไร แบบนี้เข้า .." ผมจำเดือนไม่ได้ เพราะไม่ได้บันทึก ดูเหมือนว่าจะเป็นระยะตอนต้น ๆ ปี เมื่อปี พ.ศ. 2517 ปีนั้นเราก็เริ่มจะทำพระอุโบสถ อ้อใช่แล้วครับต้นปี เพราะว่าอากาศยังหนาว ๆ นิด ๆ เห็นจะเป็นเดือนกุมภา หรืออะไร มกรา จำไม่ได้ อาจารย์วรณี สุนทรเวช กับคณะของท่านมาที่วัดนี้บ่อย ๆ ในการมาวัดนี้ของท่านก็ถูกคณาจารย์เดิมโกรธ เช่นเดียวกับสาวกของ เอ้อ อีตาปริพาชก ตาพราหมณ์คนนั้นแหละ เป็นอันว่าเรื่องนี้ผมก็ขอยกไว้ที่อาจารย์โกรธ ผมไม่เห็น เป็นแต่เพียงท่านเล่ากันให้ฟัง ที่นี้เรื่องมาชนกับผมเองบ้าง คือว่าอาจารย์วรณี นี่ถวายที่ไว้แก่พระชุดหนึ่งที่คลองสามรังสิต จะเป็นเนื้อที่กี่ไร่นี่ผมจำไม่ได้ เนื้อที่มาก และก็กำลังจะสร้างพระอุโบสถ เอาช่างเขียนแปลนเสร็จ เอาช่างไปแล้ววางผังขุดหลุมจะเทรากฐานกำลังจะตอกเข็มแล้วก็มีความประสงค์จะวางศิลาฤกษ์ สำหรับวัดนี้นอกจากอาจารย์วรณีจะให้ที่แล้ว ยังออกเงินให้ในการก่อสร้างทั้งหมด ทะนุบำรุงวัดนั้นทั้งหมด ที่หมดไปแล้วจำไม่ได้เนื้อที่ เพราะว่าคิดว่าจะเกินกว่าร้อยไร่แล้วก็ยังจะให้ เมื่อก่อสร้างแล้วก็ยังไม่พอ ยังจะให้เงินเป็นมูลนิธิสำหรับวัดนั้นอีกซัก ประมาณ สิบล้านหรือสิบล้านเศษผมจำไม่ได้ ก็สิบล้านน่ะสิบล้านแน่ แต่ว่าจะเศษเท่าไรนี่ผมจำไม่ได้ ทีนี้การจะวางศิลาฤกษ์ของท่าน ไม่ทราบว่าท่านมีความรู้สึกยังไง จะนิมนต์ผมไปในฐานะเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ ทีนี้ความจริงพระที่วัดนั้นก็เคยมาหาผม ท่านทำท่าเหมือนว่าจะเป็นบัณฑิต ตามที่ทราบมาว่าเป็นนิสิตเกษตร สำเร็จปริญญาจากเกษตรฯ เวลาท่านมาหาท่านบอกว่าท่านต้องการอภิญญา แต่ผมเองเรื่องอภิญญาสมาบัตินี่ ใครอย่ามายุ่งกับผม ผมไม่เอาด้วย ผมไม่ได้เห็นชอบด้วย ผมก็คุยให้ท่านฟังว่า ท่านต้องการอภิญญาก็ปฏิบัติตามนั้น ตามแบบฉบับ หรือว่าแบบปกติ ท่านทำท่าเหมือนว่าจะเลื่อมใส แต่คนอย่างผมนี่ใครจะเลื่อมใสหรือไม่เลื่อมใสผมก็ไม่สนใจ ถามมาผมก็บอกไปเป็นอันว่าเมื่อถึงเวลาที่จะวางศิลาฤกษ์ ผมก็ไม่ทราบเหตุมาก่อน แต่ไปได้ทราบทีหลัง เขาบอกว่ามีข่าวไปที่นั่นว่า ผมกับเจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศคือเวลานั้นได้แก่ พลอากาศตรีหม่อมราชวงศ์เสริม สุขสวัสดิ์ เวลานี้ท่านเป็นพลอากาศโทเป็นเจ้ากรมสื่อสารทหาร จะยกกำลังไปยึดวัดเอามาเป็นวัดของตน นี่ต้องคิด ข่าวนี้ต้องคิด ทำเหมือนกะว่ามันทำง่าย ๆ เจ้าของเขาก็มี ไอ้ที่ดินเขาก็มีโฉนด พระก็มีปกครอง ผมจะย่องไปยึดวัดของเขานี่ข่าวล่วงหน้าไปก่อน ก็ไม่ทราบว่าข่าวไปจากไหน แต่เนื้อแท้จริง ๆ ท่านเจ้าภาพนิมนต์ผมไปวางศิลาฤกษ์ไอ้เรื่องนี้สนุกคุณ พวกคุณฟังกันแล้วก็ ทำกำลังใจให้ดีนะ ลองคิดว่า ถ้าถูกเขาแบบนั้นบ้างคุณจะวางใจแบบไหน นี่ไม่ใช่พราหมณ์หวงลูกศิษย์เฉย ๆ แ ต่ เ ป็ น พ ร า ห ม ณ์ ห ว ง ส ม บั ติ ด้วย เมื่อเวลาไปถึงตอนเช้า ผมก็แปลกใจที่มีนิสิตนักศึกษาของเกษตรเป็นกลุ่มใหญ่ยืนอยู่หน้าทาง มีวิทยุติดต่อกัน ผมน่ะอยู่ไกลฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็เดินเรื่อยเข้าไปตามเรื่อง มีคนนำ แต่ทีนี้คนที่อยู่ใกล้ ๆ กับพวกนิสิตนักศึกษาเกษตรเขามาเล่าให้ฟังว่า ผมกับเจ้ากรมสื่อสารทหาร กับคณะเดินลงไปเข้าเขต เขาวิทยุถามกันไปว่า เวลานี้พระมหาวีระมาแล้ว จะอนุญาต.. ยอมให้เข้าหรือไม่ยอมให้เข้า ไอ้ความจริงผมไม่รู้เรื่องกับเขาเลย เขายอมหรือไม่ยอมก็ไม่รู้ มันเรื่องอะไร ผมก็ไม่รู้ แต่ว่า(เขา)คงได้รับคำตอบมาจากทางโน้นบอกว่า ยอมให้เข้า เมื่อยอมให้เข้าไปแล้ว ยอมหรือไม่ยอมก็ไม่มีใครเข้ามาห้ามผม ผมก็เดินไปตามคนเขานำ เมื่อเข้าไปถึงข้างในแล้วก็มีอาการแปลก แต่ผมก็มองดูเฉย ๆ เหมือนกับว่าไม่มีใครเขาสนใจ เจ้าภาพเองเนี่ยให้เงินตั้งสิบล้านเป็นมูลนิธิแล้วบริจาคที่อีกนับราคาหลายล้าน และให้เงินอีกหลายล้านในการก่อสร้าง กำลังจะตอกเข็ม ทั้งพระ ทั้งเจ้าหน้าที่ในนั้นก็ไม่ได้สนใจ นี่ผมก็แปลก ไปเกือบจะหาที่นั่งจะไม่ได้ เวลานั้นเจ้าคุณวัดปากน้ำภาษีเจริญปัจจุบัน (ปัจจุบัน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ช่วง วรปุญฺโญ ) เจ้าคุณเจ้าอาวาส และพระที่นั่นก็มาจากวัดปากน้ำภาษีเจริญ แล้วท่านเป็นเจ้าอาวาสด้วย กำลังเป็นเจ้าคณะตรวจการภาควัดภาษีเจริญด้วย เป็นเจ้าคณะตรวจการภาคสาม แล้วก็ตอนที่ผมไป ย้ายไปอยู่ภาคสิบห้าแล้ว ท่านมานั่งสวดมนต์อันดับแรก ที่พวกเราเข้าไปกันเกือบจะหาที่นั่งไม่ได้เป็นอันดับแรก ในระยะต่อมา ท่านเจ้าคุณ ท่านก็บอก “นิมนต์ ท่านมหานิมนต์นั่งที่นี่สิขอรับ มาสวดมนต์ด้วยกัน” ท่านก็ขยับที่ให้ในฐานะที่ผมอาวุโสมากกว่าท่าน ผมก็เรียนกะท่านว่า “ เขาไม่ได้นิมนต์ผมมาสวดมนต์ ก็ไม่จำเป็นหรอกครับ ” ผมก็นั่งตามที่ที่เขาจัดให้ ต่อจากนั้นไปเรื่องมันก็เกิด โอละพ่อกันขึ้น เป็นอันว่าพระที่ ที่เจ้าภาพยกที่ให้ ตั้งท่า ตั้งท่าพิเศษ บอกว่าขอให้มาทำเงื่อนไขกันก่อน อันดับแรก เขาเชิญพวกเดียวกันมาประชุมต่อหน้าเจ้าคุณ แล้วก็เธอเชิญท่านเจ้าภาพ ท่านเจ้าของที่ผู้ให้เงินในการก่อสร้างนับล้าน และก็จะให้เงินเป็นมูลนิธิอีกสิบล้าน คืออาจารย์วรณี สุนทรเวช เข้าไปร่วมประชุมกันต่อหน้าแขกทั้งหมด อันดับแรกเขาก็ยื่นเงื่อนไขว่า “ ขอให้พระองค์นี้ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ ” พูดกับท่านเจ้าคุณใหญ่ หรือว่าอาจารย์วรณี สุนทรเวช ผมก็แปลกใจว่า เอ๊ะ สำนักนี้เขาสอนพระกรรมฐานกันนี่ ทำไมอยากเป็นเจ้าอาวาส เป็นหรือไม่เป็นมันก็เป็นอยู่แล้ว อาจารย์วรณี สุนทรเวช ก็บอกไม่เป็นไร “ ถ้าท่านต้องการเป็นเจ้าอาวาสก็สุดแล้วแต่ท่านเจ้าคุณใหญ่ ” อีกองค์หนึ่งบอกว่า “ ถ้าอย่างนั้นเมื่อตกลงแล้วก็ต้องให้อาตมาเป็นรองเจ้าอาวาส ” นี่ยื่นเงือนไขกันแปลก ๆ ความจริงอาการอย่างนี้ พระในพระพุทธศาสนาเขาไม่ทำกัน ผมก็นั่งดู อาจารย์วรณี สุนทรเวช ท่านก็ไม่คัดค้าน บอกว่า “ ตามใจ วัดนี้ฉันถวายพระพุทธศาสนา ก็สุดแล้วแต่ท่านเจ้าคุณใหญ่” ถ้าหากว่าผมฟังไม่ผิดนะ นั่งไกล แล้วต่อไปก็มีการวางเงื่อนไขอีกว่า การวางศิลาฤกษ์วันนี้ ต้องไม่ใช่มหาวีระวาง ขอให้ท่านเจ้าคุณใหญ่เป็นคนวางศิลาฤกษ์ ตอนนี้รู้สึกว่าคณะของท่านเจ้าภาพ จะหน้าไม่ดี แต่ผมก็บอกไปว่า การวางศิลาฤกษ์ไม่สำคัญ มาวันนี้ ท่านเจ้าภาพนิมนต์มา แต่ถ้าว่า ถ้าไม่ให้วางก็ไม่เป็นไรหรอก ผมก็ไม่อยากวาง ไอ้วางศิลาฤกษ์ เอาหินไปวาง ๆ ผมไม่เห็นมันมีประโยชน์ ไม่เห็นมันมีอะไร แต่ขณะนั้น คนที่ฟัง ๆ กัน เขารู้สึกว่า เขาสงสารผม แต่ผมไม่เคยสงสารตัวผมเองเลย เพราะว่าไอ้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ผมโดนมาหนักกว่านั้น แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ท่านเจริญพระกรรมฐานกันยังไงทำไมถึงแบกกิเลสต้องการลาภต้องการยศกัน นี่ผมนั่งปลงธรรมสังเวชของผมคนเดียว แต่ว่าคนอื่นนั่นน่ะเขาสงสารผม เขาคงจะสงสารในฐานะที่ผมนี่ถูกนิมนต์ไปให้วางศิลาฤกษ์ แต่ว่าทางวัดนั้น ไม่ต้องการให้ผมวางศิลาฤกษ์ ไอ้คนอื่นเขาสงสารผม ผมกลับไปสงสารพระที่วัดนั้น และท่านเจ้าคุณวัด.. เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพราะว่าท่านในฐานะเป็นผู้ใหญ่ท่านคงจะอายมาก (เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ) แล้วผมก็ไปสงสารเจ้าภาพว่า เจ้าภาพทุ่มเทเนื้อที่ไป ผมเข้าใจว่าถึงร้อยไร่น่ะครับ ผมจำไม่ได้ เนื้อที่มากจริง ๆ แล้วก็ทุ่มเทงานก่อสร้างเข้าไปเป็นล้านแล้ว แต่ทว่าพระที่ให้ไปอยู่ที่นั่น กลับเป็นฝ่ายยื่นโนติ๊ส จะเอาอย่างนั้น จะเอาอย่างนี้ พอท่านบอกว่าต้องยอมให้องค์นั้นเป็นเจ้าอาวาส และต้องยอมให้องค์นี้เป็นรองเจ้าอาวาส อันนี้ผมอายชาวบ้านเขาเกือบตาย เพราะว่าชาวบ้านที่นั่งอยู่ที่นั้นนับร้อย ผมรู้สึกอายจริง ๆ ขอรับ ไม่ได้อายชาวบ้านเขาในฐานะที่ผมไม่ได้วางศิลาฤกษ์ อันนี้ไม่เกี่ยว ผมไม่มีความรู้สึก อายเขา ไม่คิดเลยว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจะเป็นอย่างนั้น และก็อายแทนท่านเจ้าคุณใหญ่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ลูกศิษย์ของท่าน สามารถยื่นโนติ๊สกับท่านแบบนั้น และก็อายแทนท่านเจ้าภาพผู้บริจาคทรัพย์ ว่าท่านบริจาคทรัพย์เนื้อที่มาก ราคานับล้าน และก็บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างไปแล้วนับล้าน กำลังจะสร้างพระอุโบสถอีกราคานับล้าน นายช่างก็วางผังแล้ว กำลังจะตอกเข็ม มาเกิดยุ่งกันตอนนี้ แม้แต่ข้าวพวกเราก็เกือบจะไม่มีกินกัน นี่สมมติว่าเป็นกำลังใจของท่าน ถ้าไปโดนเข้าแบบนี้ ท่านจะนึกโกรธใครสักคนมั๊ย http://pantip.com/topic/30921998 ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 2, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 ยุคนี้คงไม่น่าห่วง ขนาดเกษมยังออกมาฆ่าตัวเอง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 หวัดดีคับคุณ ginger อยากเล่นด้วยคน เพื่อน ๆ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชที่ ตอนอายุได้ 74 ปี เขียน "ชรากถา" น่าคิด --------------- กฏของการใช้ชีวิตในวัยทองอย่างมีความสุข 1.อาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นส่วนตัวและเป็นอิสระ 2.ถือครองเงินฝากธนาคารและทรัพย์ไว้กับตัวเอง 3.อย่าไปคาดหวังว่าลูกเต้าจะดูแลตอนแก่ 4.หาเพื่อนเพิ่มคบทุกวัย 5.อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น 6.อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตลูก 7.อย่าเอาความชรามาเป็นข้ออ้าง เพื่อเรียกร้องความเคารพนับถือและความสนใจ 8.ให้ฟังเสียงผู้อื่นแต่ให้วิเคราะห์และปฏิบัติตามที่คิดอย่างอิสระ 9.ให้สวดมนต์แต่อย่าร้องขอจากพระ 10.ข้อสุดท้าย "อย่าเพิ่งตาย" "Secret of old age" ๓๐ ข้อ สำหรับผู้เข้าสู่วัยชรา ๑)อย่ากลัวความแก่ ๒)อย่าเสียใจที่แก่ ๓)รีบหาความสุขเมื่อยังมีความสามารถ ๔)อย่ารอหาความสุขก่อนจะเสียดายภายหลัง ๕)รีบไปเที่ยวตามสถานที่ๆ อยากไป ๖)หาเวลาเจอเพื่อนเก่า ๗)สังสรรค์กับเขาเพราะเวลาเหลือน้อย ๘)เงินที่เก็บไว้ในธนาคาร ตายแล้วเอาไปไม่ได้ ๙)ใช้เงินหาความสุขเมื่อยังมีชีวิต ๑๐)อยากกินอะไรที่ชอบก็กิน ๑๑)หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ๑๒)กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ๑๓)การเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ๑๔)อย่าวิตกกลัวกับความเจ็บป่วย ๑๕)ทุกคนต้องผ่านการเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา ๑๖)ถ้าวิตกเรื่องแก่เจ็บตายแล้วมีความสุขก็ให้วิตกไปเถิด ๑๗)รีบจัดการปัญหาเสียก่อนตาย ๑๘)ปล่อยให้หมอดูแลสุขภาพ พระเจ้าดูแลชีวิต และตนเองดู แลอารมณ์ ๑๙)อย่ากังวลกับลูกหลาน พวกเขาช่วยตัวเองได้ ๒๐)สนใจดูแลสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น ๒๑)สนใจดูแลคู่ชีวิตที่ชราด้วยกันให้มากขึ้น ๒๒)เก็บเงินเกษียณไว้กับตัวเอง ๒๓)พบเพื่อนเก่าให้บ่อยมากขึ้น เพราะเวลาเหลือน้อยลง ๒๔)ยิ้มให้ตนเองและคนอื่นทุกวัน ๒๕)ทำชีวิตให้มีความสุข ๒๖)ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องให้ดังๆ ไปเลย ๒๗)ความหวังสิ้นสุด ถ้าหยุดความเชื่อ ๒๘)ความรักจะสิ้นสุด ถ้าหยุดใส่ใจ ๒๙)ชีวิตจะสิ้นสุข ถ้าหยุดยิ้ม ๓๐)มิตรภาพจะสิ้นสุด ถ้าหยุดแบ่งปัน... ขอให้โชคดี มีอายุยั่งยืน 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2015 Chartchawarn Ruksa 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น