ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 (มีการแก้ไข) เกร็ดสุขภาพกับประยูร จรรยาวงษ์ ถูกแก้ไข กรกฎาคม 28, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 ทำไมเปิดแอร์นอนในรถ ถึงตายได้ ? รู้ไว้ซะ จะได้ไม่ทำโดยเด็ดขาด..ไม่งั้นดับ http://www.toptenthailand.com/review/detail/20150724101616194 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลยะลา พร้อมใจกันแต่งกายชุดไทย มาร่วมกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์ความเป็นไทยไปด้วย ภาพ นครินทร์ ชินวรโกมล #Nationphoto #Nationtv อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน 15 hrs · #ละติจูดที่6 หนังดีที่ใครหลายคนตำหนิ หนังดีที่ใครหลายคนไม่สนใจ หนังดีที่คนทำเค้าทำด้วยใจ ที่อยากเห็นปลายด้ามขวานไทยกลับมางดงามดั่งเดิม ..... หนังเรื่องนี้ไม่ได้แต่งสีใส่ไข่ ดูเอามันส์ขำฮาเพื่อสร้างกำไร แต่หนังเรื่องนี้ใส่ใจในทุกแง่มุมความรู้สึกของคนในพื้นที่ชายแดนใต้ และต้องการเป็นสื่อกลางสร้างเสริมความเข้าใจอันดีของพี่น้องคนไทยที่นับถือศาสนาอื่นๆ และ/หรืออาศัยอยู่ที่อื่นๆ ต่อพี่น้องมุสลิมและพี่น้องที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนใต้ ...... ขอแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้นะค่ะ แอดมินเพิ่งไปดูหนังเรื่องนี้มาพร้อมกับทีมงานพลังใจฯ และทีมนักกีฬาจาก 3 จว. ชายแดนใต้ กว่า 40 คน ตั้งแต่ก่อนเริ่มเรื่องก็รู้สึกประทับใจ ที่ได้ยินน้องๆบางคนเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเมื่อเพลงจบเด็กทุกคนก้มโค้งคำนับก่อนนั่งชมภาพยนตร์ มันเป็นจุดเล็กๆ ที่แสดงให้เราเห็นว่าอย่างไรก็แล้วแต่ พวกเรา "คนไทย" มีพ่อคนเดียวกัน พ่อหลวงที่พวกเราทุกคนเทิดทูลไม่ต่างกัน ตั้งแต่ฉากแรกจนฉากสุดท้าย ..... ทุกคนตั้งใจชมและรู้สึกตามท้องเรื่อง ทั้งหัวเราะ กรี๊ดกราดและร้องไห้น้ำตาไหล ทำไมรู้ไหมค่ะ!!!! เพราะมันคือเรื่องจริงของพวกเขาไงค่ะ ที่ถูกฉายผ่านเลนส์ออกมา ..... เด็กนักกีฬาจากใต้สุดแดนสยามต้องนั่งรถไฟฟรีไปแข่งตามที่ต่างๆ กว่าพันกิโล ทั้งเหนื่อยทั้งล้า มีโค้ชบ้างไม่มีโค้ชบ้าง มีกินบ้างไม่มีกินบ้าง บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยก็ดูแลกันเอง เพราะพวกเขามีเงินจำกัดสำหรับการเดินทางไปแข่งขันในที่ต่างๆ แต่ทุกคนก็ยินดีเดินทางออกไปไขว่คว้าหาประสบการณ์และสร้างโอกาสที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ดีที่สุด พร้อมกับต้องพิสูจน์ตัวเองกับครอบครัวว่าการเล่นกีฬาที่ตนรักไม่ได้ทำให้ละเลยต่อการปฏิบัติตนตามวิถีทางและคำสอนของศาสนาอิสลาม พร้อมกับต้องไม่ละเลยการละเล่นวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับเด็กๆหลายคน ส่วนคนเมืองอย่างเพื่อนแอดมินบางคนไม่เคยไปเยือน 3 จว. ไม่เคยมีเพื่อนเป็นคน 3 จว. พอได้ดูหนังเรื่องนี้บางก็พูดว่า "ชายแดนใต้สวยจริงๆ ต้องหาโอกาสไปเที่ยว" "จริงแล้วคนมุสลิมน่ารักเนอะไม่เคยรู้เลย" "วัฒนธรรมเค้าเป็นแบบนี้เองเพิ่งจะรู้นะเนี่ย" "ขนาดอันตรายพวกเค้ายังอยู่ คงเป็นเพราะเค้ารักบ้านเกิดมาก" และอีกหลากหลายคำถาม หลากหลายความคิดเห็น แม้แต่ว่า "แล้วเราจะช่วยอะไรเค้าได้ไหม??" ซึ่งทำให้พี่น้องจาก 3 จว. ประทับใจไม่ใช่น้อย ...... ส่วนตัวแล้วแอดมินคิดว่าหนังเรื่องนี้ได้สื่อสิ่งดีๆ มากมาย เช่น 1. มิตรภาพระหว่างพี่น้องคนไทยต่างถิ่นต่างศาสนาว่า พวกเราทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้เสมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน 2. แม้ต้องอยู่อย่างเสี่ยงอันตราย แต่ด้วยศรัทธาและความตั้งใจที่ดีทำให้พี่น้องชายแดนใต้ไม่ละทิ้งบ้านเกิด และมุ่งหวังว่าบ้านของพวกเขาจะเกิดมาสงบสุขเหมือนเดิม 3. ทหารไม่ใช่ฮีโร่ ทหารไม่ใช่คำตอบ แต่คำตอบคือคนไทยทุกคนต้องยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน เพื่อสันติสุขที่แท้จริง 4. ชายแดนใต้งดงามกว่าที่ใครหลายคนคิด ทั้งสถานที่ ทั้งผู้คน ทั้งวัฒนธรรมเนียม สมกับเป็นดินแดนที่สวยงามด้วยพหุวัฒนธรรม ลองไปดูหนังเรื่องนี้ดูนะค่ะ แล้วเวลาเจอเพื่อนที่นับถือศาสนาอิสลามลองทักทายเค้าด้วยวิถีของเค้าร่วมกับวิถีของเราแบบว่า "สวัสดีครับ/ค่ะ" แล้วต่อด้วย "อัสลามูอาลัยกุม" เค้าอาจจะอมยิ้มกลับมาให้เราก็ได้นะค่ะ แม้พวกเราจะแตกต่าง แต่พวกเราไม่เคยแตกแยก ..... ไทยพุทธ ไทยมุลสิม นั้นไม่มี เพราะพวกเราทุกคน คือ คนไทย ที่มีความเชื่อทางศาสนาที่ต่างกัน มีวิถีชีวิตที่ต่างกัน บางคนเป็นคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ บางคนเป็นคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่พวกเรายอมรับและเปิดใจรับความแตกต่างของกันและกัน รับเป็นพี่รับเป็นน้องของกันและกัน พวกเราเป็นเสมือน คนในครอบครัวเดียวกัน ในบ้านหลังใหญ่ใบนี้ "ประเทศไทย" อยากให้ทุกคนไปดูหนังเรื่องนี้นะค่ะ เปิดใจชมเปิดใจรับฟังอย่าเพิ่งตัดสินจากความคิดอคติของคนบางคนบางกลุ่ม ..... ร่วมกันสนับสนุนหนังไทยหนังดี #ละติจูดที่6 ขอบคุณ #ละติจูดที่6 ค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 แฉ..ความลับ added 11 new photos. 50 mins · Edited · วันที่ 28 กรกฎาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร พระนามเดิมของพระองค์เดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร ซึ่งเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เมื่อเวลา 17.55 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขณะเมื่อทรงพระราชสมภพนั้น ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศที่เฝ้ารอคอยพระประสูติกาลต่างปลาบปลื้มปิติ ชื่นชมโสมนัส แซ่ซ้องในพระบุญญาธิการ บรรยากาศก่อนเวลาพระราชสมภพ ตราบจนถึงนาทีอันเป็นมงคลฤกษ์เสด็จพระราชสมภพ “...วันนี้ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่เช้า ฝนไม่ได้ตกมานาน นายแพทย์ผู้ถวายการประสูติเข้าประจำที่สักครู่ก็ประสูติพระราชกุมาร เวลา 17.45 น. ในนาทีเดียวกันนั้นเอง ฝนที่แล้งมาตลอดฤดูก็เริ่มโปรยปรายละอองลงมา ดูคล้ายๆ ฟ้าก็รู้เห็นเป็นใจกับการประสูติครั้งนี้ อารามดีใจสมประสงค์ของดวงใจทุกๆ ดวง นายแพทย์ที่ถวายการประสูติ ซึ่งพร้อมที่จะบอกแก่ที่ประชุม ณ พระที่นั่งอัมพรสถานว่า พระราชโอรส หรือ พระราชธิดา กล่าวออกมาด้วยเสียงอันตื่นเต้นกังวานว่า “ผู้ชาย” แทนที่จะกล่าวว่า “พระราชโอรส” ฝนโปรยอยู่ตลอดเวลา แตรสังข์ดุริยางค์เริ่มประโคม ทหารบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ทั้งบกและเรือยิงสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงไชโยโฮ่ร้องก็ดังอยู่สนั่นหวั่นไหว สมใจประชาชนแล้ว...ดวงใจทุกดวงมีความสุข นับแต่นั้นมา ประชาชนชาวไทยต่างเฝ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ด้วยความจงรักภักดี และต่างปลาบปลื้มปิติ ชื่นชมโสมนัสยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทรงเจริญวัย มีพระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เพียบพร้อมด้วยพระราชจริยวัตรและพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ตลอดมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงได้รับการศึกษาระดับอนุบาลศึกษาที่พระที่นั่งอุดร พระราชวังดุสิต และทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนจิตรลดา ระหว่าง พ.ศ. 2499 –2505 ทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ระหว่าง พ.ศ. 2509 – 2513 ได้ทรงศึกษาระดับเตรียมทหารที่โรงเรียนคิงส์ นครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย แล้วเข้ารับการศึกษาระดับอุดมศึกษา ทรงได้รับปริญญาอักษรศาสตร์บัณฑิต (การศึกษาด้านทหาร) คณะการศึกษาด้านทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาเวลล์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ พ.ศ. 2519 นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกหลักสูตรประจำชุดที่ 5-6 ระหว่าง พ.ศ. 2520 – 2521 และทรงได้รับปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ. 2530 ครั้งถึง พ.ศ.2533 ทรงได้รับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักรด้วย วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ปวงชนชาวไทยต่างมีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ขึ้นดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร มีพระนามาภิไธย ตามจารึกพระสุพรรณบัฎว่า “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒฯ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร” ในมงคลวาระนั้นพระองค์ได้ถวายสัตย์ปฎิญาณในการพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งแสดงถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมุ่งมั่นจะบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อชาติบ้านเมือง และประชาชนชาวไทย เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจพสกนิกรอย่างยิ่ง ดังความว่า “ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกระทำสัตย์ปฎิญาณสาบานต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเฉพาะพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ เฉพาะพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรท่ามกลางสันนิบาตรนี้ว่า ข้าพเจ้าผู้เป็น สยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะภัคดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ต่อประชาชน จะปฏิบัติภาระหน้าที่ทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ และโดยความเสียสละ เพื่อความเจริญสงบสุขและความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบเท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่" บัดนี้กาลเวลาผ่านไปได้เป็นที่ประจักษ์ว่า ตลอดระยะเวลานับแต่ยังทรงพระเยาว์ตราบจนปัจจุบัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงยึดมั่นในพระปฎิญญาทรงพระวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นปฎิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยมิได้ย่อท้อ ดังปรากฎว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ เมื่อยังทรงพระเยาว์ ได้โดยเสด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนี ไปในการเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศตลอดมา จึงทรงสามารถสั่งสมพระประสบการณ์เกี่ยวกับบ้านเมืองและราษฎร ดังนั้น จึงทรงปฏิบัติพระภารกิจได้เป็นผลสำเร็จลุล่วง นับตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เช่น เมื่อพระชนมายุ ๑๑ พรรษา ได้ทรงนำกองลูกเสือสำรองโรงเรียนจิตลดาเข้าร่วมพิธีสวนสนาม ลูกเสือไทย ณ สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อทรงพระเจริญวัยได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ นานัปการ ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติในส่วนพระองค์เอง พระราชกรณียกิจทั้งปวงล้วนมีการสร้างสรรค์ความผา สุขสงบแก่ประชาชน นำความเจริญไพบูลย์และความมั่นคงมาสู่ประเทศ เช่น ด้านการแพทย์และสาธารณสุข การศึกษา การศาล การสังคมสงเคราะห์ การพระศาสนา การต่างประเทศ และการศึกษา ฯลฯ ในด้านการแพทย์ และการสาธารณสุขนั้น ทรงตระหนักว่า สุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพไว้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ จึงทรงสนพระราชหฤทัยในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น เมื่อรัฐบาลได้น้อมเกล้าฯ ถวายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในพระราชพิธีอภิเษกสมรสจำนวน 21 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระองค์ก็ได้ทรงพระอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงพยาบาลสม่ำเสมอ พระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยเพื่อสามารถให้บริการที่ดีแก่ประชาชน และเมื่อ พ.ศ. 2537 ทรงรับเป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดสร้างอาคารศูนย์โรคหัวใจ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นต้น ในด้านการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทราบดีว่าเยาวชนในถิ่นทุรกันดารยังด้อยโอกาสในการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร 6 โรงเรียนได้แก่โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา จังหวัดนครพนม กำแพงเพชร สุราษฎร์ธานี โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี จังหวัดอุดรธานี สงขลา และ ฉะเชิงเทรา ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์เอง ทรงรับโรงเรียนไว้ในพระราชูปถัมภ์ พระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาอันทันสมัย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ วิดีทัศน์ พระราชทานคำแนะนำ และทรงส่งเสริมให้โรงเรียนดำเนินโครงการอันเป็นประโยชน์แก่นักเรียน เช่น โครงการอาชีพอิสระ เพื่อให้เยาวชนใช้ความรู้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัวได้เมื่อจบการศึกษา ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน ทรงติดตามผลการศึกษา และโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และหม่อมเจ้าสิริวัณวรี พระราชธิดาทั้งสองพระองค์ทรงร่วมกิจกรรมของโรงเรียนต่างๆ เสมอ ทั้งนี้ด้วยน้ำพระหฤทัยที่ทรงพระเมตตาห่วงใยเยาวชนผู้ด้อยโอกาส และในด้านอุดมศึกษา พระองค์ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ปีละเป็นจำนวนมากทุกปี ในด้านสังคมสงเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาห่วงใยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลน ได้ทรงพระอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมชุมชนแออัดในกรุงเทพฯหลายแห่ง เช่น ชุมชนแออัดเขตพระโขนง เขตคลองเตย เขตยานนาวา เป็นต้น ทรงพระกรุณาพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องกีฬา เครื่องดับเพลิง โปรดเกล้าฯให้กรมทหารในบังคับบัญชาของพระองค์ ร่วมกับประชาชนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนโครงการของชุมชน เช่น โครงการพัฒนาเด็กเล็กที่ขาดแคลน โครงการปราบปรามยาเสพติดในหมู่เยาวชนชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้นเติบโตเป็นพลเมืองดีและเป็นทรัพยากรบุคคลทีมีคุณค่าในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ในด้านการต่างประเทศนั้น การมีสัมพันธไมตรีอันดีกับมิตรประเทศ เป็นรากฐานสำคัญของความสงบสุขและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ สมเด็จพระบรมโอรสาธราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญๆ ในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ เสมอมา ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปีๆ ละหลายครั้ง เช่น - วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2525 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนประเทศอิตาลี และทรงพบพระสันตะปาปา - ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 8 มีนาคม พ.ศ. 2530 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ทรงพบนายเติ้ง เสี่ยวผิง ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง - วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2530 เสด็จพระราชดำเนินทรงเยือนประเทศญี่ปุ่น ทรงพบสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี วันที่ 2-4 กรกฏาคม พ.ศ. 2542 ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระราชธิดาทั้งสองพระองค์ ไป ทรงเยือนประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ประเทศต่างๆ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจริญสัมพันธไมตรี ในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วนของพระองค์เอง มีอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ประเทศอิหร่าน ประเทศเนปาล สาธารณรัฐสังคมนิยมศรีลังกา สหพันธ์เอกวาดอร์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก(กรีซ) ประเทศออสเตรเลีย ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทุกครั้ง ต้องทรงเตรียมพระองค์ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศที่จะทรงเสด็จไปทรงเยือน และระหว่างประทับอยู่ในประเทศนั้นๆ นอกจากทรงมุ่งมั่นที่จะทรงเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว ยังทรงสนพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรและศึกษากิจกรรมต่าง ๆ ที่จะทรงนำมาเป็นประโยชน์ในการนำมาพัฒนาบ้านเมืองไทยด้วย เช่น เสด็จไปทรงเยี่ยมชมกิจการทหาร การจราจรทางอากาศ เมื่อทรงเยือนประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ทอดพระเนตรสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมด้านอุตสาหกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อทรงเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมศรีลังกา ทอดพระเนตรการดำเนินงานด้านการป้องกันสาธารณภัยที่ประเทศเกาหลี เป็นต้น ในด้านการเกษตรกรรม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมด้านการเกษตรกรรมอันเป็นอาชีพหลักของปวงชนชาวไทยตลอดมา เช่น เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นประจำ วันที่ 23 มีนาคม 2529 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำปุ๋ยหมักเป็นปฐมฤกษ์จากผักตบชวาและพืชอื่น ๆ ณ บ้านแหลมสะแก ตำบลเดิมบาง อำเภอ บางนางบวช และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในการทำนาสาธิตโดยใช้ปุ๋ยหมัก ณ ตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมือง จังหวัด สุพรรณบุรี วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2529 ได้ทรงปฏิบัติการสาธิตการทำนาด้วยพระองค์เอง เมื่อพระราชทานอุปกรณ์ การทำนา พันธ์ข้าวปลูก และปุ๋ยหมักให้ข้าราชการ ผู้ใหญ่ไปดำเนินการสาธิตแล้ว ได้ทรงถอดฉลองพระบาท ถลกพระสนับเพลา ทรงพระดำเนินลุยโคลน หว่านพันธ์ข้าวปลูกและปุ๋ยหมักในแปลงนาสาธิต โดยมิได้มีกำหนดการไว้ก่อน ยังความชื่นชมโสมนัสปลาบปลื้มปิติและซาบซึ้งในพระราชจริยวัตรแก่บรรดาข้าราชการและประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทในพิธีการวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง ในด้านการพระศาสนา เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และมีพระราชศรัทธาทรงออกผนวชในพระบวรพระพุทธศาสนา วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 ระหว่างทรงผนวช ทรงศึกษา และปฎิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปปฏิบัติพระราชกิจทางศาสนาเป็นประจำเสมอ เช่น ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เป็นต้น ในด้านการศึกษา ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วนของพระองค์เองนานัปการ เช่น การพระราชทานไฟพระฤกษ์ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำความสำเร็จนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับพระราชทานพร และทรงแสดงความชื่นชมยินดี ซึ่งนักกีฬาของไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีความปลาบปลื้มในสิริมงคลและมีขวัญกำลังใจที่จะนำความสำเร็จและนำเกียรติยศมาสู่ตนเอง สู่วงศ์ตระกูล และประเทศชาติต่อไป เดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงประกอบพิธีเปิดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ทำให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจในการแข่งขัน ประสบชัยชนะนำเหรียญรางวัลมาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก พระราชกรณียกิจทางด้านการทหาร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสนพระราชหฤทัยในวิทยาการด้านการทหาร มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นอกจากทรงรับการศึกษาทางด้านการทหารจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังทรงพระวิริยะอุตสาหะในการเพิ่มพูนความรู้และพระประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในด้านวิทยาการการบิน ระหว่างเดือน มกราคม ถึง ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทรงเข้ารับการฝึกเพิ่มเติม และทรงศึกษางานทางการทหารในประเทศออสเตรเลีย โดยทุนกระทรวงกลาโหม ทรงประจำการ ณ กองปฎิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ หลักสูตรต้นหนชั้นสูง หลักสูตรการลาดตระเวนและต้นหนชั้นสูง หลักสูตรส่งทางอากาศ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2522 – มกราคม พ.ศ. 2523 ทรงเข้ารับการศึกษาหลักสูตรการบินเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ ยู เอช – 1 เอช และหลักสูตรการฝึกบิน เฮลิคอปเตอร์โจมตี แบบ เอ เอช – 1 เอส คอบรา ของบริษัทเบบล์ นอกจากนั้นยังทรงเข้าการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ทางด้านการบินอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทรงเห็นได้ว่า พระองค์ท่านมีพระประสบการณ์และทรงเชี่ยวชาญการบินในระดับสูงมาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงรับราชการทหารมาโดยตลอด นับแต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2518 ทรงเข้าเป็นนายทหารประจำกรมข่าว ทหารบก กระทรวงกลาโหม วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ , วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการ กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ , วันที่ 30 กรกฏาคม พ.ศ. 2531 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2535 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเนื่องด้วยพระองค์ทรงพระปรีชาชาญในวิทยาการด้านการบิน ทรงรอบรู้เทคนิคสมัยใหม่ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เคยทรงเข้าร่วมการแข่งขันการใช้อาวุธทางอากาศ ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และทรงชนะเลิศการแข่งขัน เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2530 พระองค์ทรงมีชั่วโมงฝึกบินอย่างต่อเนื่องสูงมาก และถือว่าเป็นสิ่งที่ยากสำหรับนักบินทั่วโลกจะทำได้ พระองค์ทรงพระกรุณาปฎิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่ แบบ เอฟ – 5 อี/เอฟ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2537 เป็นต้นมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกองทัพไทย และปวงชนชาวไทย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ @ เสธ น้ำเงิน3 ** แจ้งข่าวในกรุงเทพ และปริมณฑล มีจำหน่ายหนังสือรวมเล่ม แฉ ความลับ ที่ร้านหนังสือ B2S ทุกสาขาแล้ว ส่วนในต่างจังหวัดเริ่มวันที่ 1 ส.ค.58 เป็นต้นไป , ทางเว็ปไซต์แจ้งความประสงค์ "ส่งทั่วประเทศ" คลิ๊กไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO “กติกา" คอมเม็นท์โปรดงดคำหยาบ , ป่วน , ภาพ สามารถติดตามข่าว สอบถามรวมเล่มหนังสือ แฉ ความลับ คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/topsecretthaibook อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 5 new photos. 15 mins · กำนันสุเทพลาสิกขาแล้ว ออกมาผลักดันปฏิรูปประเทศไทย กำนัน สุเทพ ได้ทำพิธีลาสิกขาที่วัดไตรธรรมาราม อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางพรรคพวกเพื่อนฝูง และญาติสนิทไปร่วมพิธีจำนวนมากโดยมีพระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 เป็นพระอุปัชฌาย์ทำพิธีลาสิกขาให้ หลังลาสิกขาแล้วกำนันได้สวมเสื้อเชิร์ทแขนยาวลายจุดสีฟ้าปักธงชาติด้านซ้ายสัญลักษณ์ กปปส.นุ่งกางเกงขายาวสีครีม แล้วเดินทางไปที่ไปยังสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมทำบุญตักบาตรพระบวชใหม่รุ่นที่ 9 กำนันระบุว่า มีภารกิจที่ต้องดำเนินการต่อในกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนให้มีการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง ช่วงบวชเป็นพระ ทุยแดงกล่าวหาว่ากำนันบวชหนีคดีความ แต่ทุกครั้งที่ศาลนัด กำนันมาศาลตรงเวลาทุกครั้งไม่เคยขาดเลยสักครั้ง และล่าสุดศาลได้ยกฟ้องเขากับหล่อใหญ่ สมัยขอคืนพื้นที่จากม็อบกลุ่มก่อการร้ายแดง นปช.ปี 53 ว่าทำไปตามหน้าที่ อำนาจตามกฎหมายโดยชอบแล้ว แต่คนดีของทุยแดง คือ ปูข้าวเน่า กลับไม่เคยไปตามที่ ปปช.นัดเลยในคดีทุจริตจำนำข้าว 7 แสนล้านล้านบาท และคนแดนไกล ก็หนีคดีที่คาศาลอยู่อีกเป็นสิบคดี...ถ้าคิดว่าตนเองไม่ผิด ไม่ได้โกงประชาชน จะหนีทำไม ?? @ เสธ น้ำเงิน2 ** แจ้งข่าวในกรุงเทพ และปริมณฑล มีจำหน่ายหนังสือรวมเล่ม แฉ ความลับ ที่ร้านหนังสือ B2S ทุกสาขาแล้ว ส่วนในต่างจังหวัดเริ่มวันที่ 1 ส.ค.58 เป็นต้นไป , ทางเว็ปไซต์แจ้งความประสงค์ "ส่งทั่วประเทศ" คลิ๊กไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO “กติกา" คอมเม็นท์โปรดงดคำหยาบ , ป่วน , ภาพ สามารถติดตามข่าว สอบถามรวมเล่มหนังสือ แฉ ความลับ คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/topsecretthaibook อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 'ไพศาล'หยัน'อังกฤษ'ไม่มาไทยก็ดีแล้ว ยันจุดยืนไม่ร่วมวงขัดแย้ง'ไอเอส' 28 ก.ค.58 นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Paisal Puechmongkol"... NAEWNA.COM วันอังคาร ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 12.16 น. tags : อังกฤษ, ไทยมวงขัดแย้งไอเอส, ไพศาล 28 ก.ค.58 นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Paisal Puechmongkol" โดยกล่าวถึงการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศอาเซียน ของผู้นำอังกฤษ และคณะ เพื่อทำสัญญาการค้าชักชวน และให้ต่อต้านกลุ่มไอเอส โดยการเดินทางมาอาเซียนในครั้งนี้ ไม่รวมถึงประเทศไทยนั้น นายไพศาล มองว่า เป็นผลดีกับประเทศไทย เพราะไทยเอง จะไม่ถูกดึงไปเข้าเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ทั้งนี้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำหนดเดินทางเยือนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเวลา 4 วัน (27 - 30 ก.ค.58 ) โดยเตรียมเจรจาสัญญาการค้าเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) รวมถึงการสร้างความร่วมมือในการรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส โดยจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย ตามลำดับ ไม่มาก็ดีแล้ว ประเทศไทยจะได้ไม่ซวยตามไปด้วย นายกอังกฤษจะเดินทางมาเยือนอาเซียน 4 ประเทศแล้ว แขวะว่าไม่รวมประเทศไทย 1 เขาต้องการหยามประเทศไทย เพราะ อาเซียนมีอีก 5ประเทศก็ไม่ได้ไป ทำไมต้องมาเจาะจงว่า ไม่รวมประเทศไทย นี่แหละวิธีการแบ่งแยกแล้วปกครอง ที่นักล่าอาณานิคมถนัดนัก 2 นายกอังกฤษจะไปมาเลเซียและอินโดนีเซีย เพื่อชักชวนให้ต่อต้าน isis ในฐานะที่เป็นศัตรูร่วมกัน นี่คือการมาชวนให้ประเทศอาเซียนเป็นศัตรูกับ isis ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครเลย อังกฤษจะเป็นศัตรูกับใครก็เป็นไป เหตุใดตัองมาชวนประเทศอาเซียนไปเป็นศัตรูร่วมด้วย 3 พวก isis เป็นมุสลิม นิกายวาฮาบี ซึ่งอินโดนีเซียและมาเลเซียประกาศต่อต้าน เพราะไม่ต้องการให้เข้ามาครอบงำมุสลิมในประเทศตัวเอง ซึ่งนับถือนิกายซุนหนี่ จึงถูกขบวนการก่อการร้าย ประกาศที่จะก่อการร้ายในอินโดฯและมาเลฯ 4 ไทยไม่เป็นศัตรูกับใคร และส่งเสริมเสรีภาพ ในการนับถือหรือการสอนศาสนา ไม่ต่อต้านห้ามปราม ไทยจึงไม่ตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย นายกอังกฤษไม่มาไทยก็ดีแล้ว เพราะถ้ามา ก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะไทยจะไม่ยอมต่อต้านหรือเป็นศัตรูกับใคร อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี ซักซ้อมปั่นจักรยานในกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ณ บริเวณโดยรอบตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล /ภาพ #วรวิทย์พุ่มพวง #NationPhoto === \ "อาชีวะ รักลุงตู่"...เด็กอาชีวะ วาดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น "อัศวินขี่ม้าขาว" มอบให้ระหว่างเดินตลาดอาชีวะ ริมคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งกระทรวงศึกษาฯ Cr Jirawat Kornpiban อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 QUIZ พลังที่กำลังขับเคลื่อนโลกทั้งการเมือง เศรษฐกิจและการเงินอยู่ข้างหน้าเราระดับโลกาภิวัฒน์ คือลัทธิสังคมนิยม และ/หรือเผด็จการคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่ประชาธิปไตย เสรีภาพ ภราดรภาพหรือสิทธิมนุษยชน เสียใจด้วยสำหรับคนโลกสวย เพราะว่าโดยเนื้อแท้แล้วระบบโลกคือระบบเผด็จการสังคมนิยมและ/หรือเผด็จการคอมมิวนิสต์ที่กำลังเปิดหน้ากากออกมา ลาก่อนประชาธิปไตยผักชีโรยหน้า และเตรียมตัวไปฌาปนกิจกลไกตลาดเสรีของการโฆษณาชวนเชื่อได้แล้ว คำถาม 1. ยกตัวอย่างลัทธิสังคมนิยม และ/หรือเผด็จการคอมมิวนิสต์ที่กำลังมาปรากฎให้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นทางการเมืองระดับโลก 2. ยกตัวอย่างลัทธิสังคมนิยมในนโยบายเศรษฐกิจที่เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นที่เป็นรูปธรรมในประเทศที่โฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยและปกป้องกลไกตลาดเสรี 3. ยกตัวอย่างลัทธิสังคมนิยมในนโยบายเงินที่เป็นรูปธรรมในประเทศที่โฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยและปกป้องกลไกตลาดเสรี ใครตอบQUIZนี้ได้ จะเห็นแจ้งแทงทะลุระบบโลกในปัจจุบัน ที่กำลังเข้าสู่การปฏิวัติสังคมนิยมโลก thanong 28/7/2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2015 วัฎจักรเศรษฐกิจที่ 3 เริ่มถดถอย เริ่มต้นของวัฎจักรนึ้ต้องเริ่มมีการลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ แต่การเกิดเหตุการณ์นี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะเกิดความโลภ กู้เงินมาลงทุนเพิ่ม ไม่อยากขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยจุดเริ่มต้นนี้คือ เศรษฐกิจขึ้นสูงสุดแล้วเริมปรับลง ขณะที่เงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยยังปรับขึ้นอยู่ (พูดง่ายๆ คือ รายได้กำลังลดลง แต่ค่าใช้จ่ายกำลังปรับขึ้น) สิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือโยกมาฝากเงิน/ถือเงินสด/ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น คล้ายๆ กับการพักเงินนั้นเอง หมายเหตุ : วัฏจักรนี้คือการเริ่มต้นของการเกิดฟองสบู่ ซึ่งปัจจุบันน่าจะไม่ใช่วัฎจักรเศรษฐกิจในปัจจุบัน Cr ประเดิมภพ สงเตราะห์ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 29, 2015 พระบรมมหาราชวัง ... เช้า สาย บ่าย ค่ำ เมืองกับความงดงามของศิลปะ Grand Palace at night Watercolor on paper, 36 x 51 cm, 2015. Aj Adisorn Pornsirikarn อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 29, 2015 Ratanattaya Vandana นนัสการพระรัตนตรัย Watercolor on paper, 27 x 35 cm., 2015. Aj Adisorn Pornsirikarn อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 29, 2015 ระบายสีน้ำเร็วๆ Demo, Waterfall, 2015. Aj Adisorn Pornsirikarn อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
